ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (แฟนฟิค บลีช) Baby Pill (อิจิโกะ- ลูเคีย)

    ลำดับตอนที่ #9 : ในฝัน และอีก 10 ปีข้างหน้า (จบภาค 1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.29K
      40
      20 พ.ค. 52

    ต่อๆๆ

     

    ขอแค่ในฝัน...ก็ยังดี...

     

    ………………………….

     

    หม่าม้า...

     

    หม่าม้า...

     

    เสียงเล็กๆที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นมา

     

    “อือ...” เด็กสาวขยับตัวเล็กน้อย ยังไม่ลืมตาตื่นดีนักด้วยใจยังนึกอยู่ว่า โฮตารุ ยังอยู่ “เดี๋ยวนะ โฮตารุ ขอนอนอีกแป๊บนึง”

     

    “หม่าม้าๆ ^^” เสียงยังคงดังต่อไป พร้อมกับแรงเขย่าของมือเล็กที่เขย่าร่างของเธออยู่

     

    “โอย~ ตื่นแล้วๆ ขยันปลุกจริงเลย” ลูเคียบ่นเบาๆพลางลืมตาตื่นขึ้นมา

     

    เอ๋?...

     

    ลูเคียขยี้ตาแรงๆ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วมองไปรอบตัว เธอกำลังนอนอยู่บนทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม ป่าที่มีแมกไม้ขึ้นครึ้มร่มรื่น เมื่อมองลงไปยังเนินข้างล่าง เธอก็เห็นบ้านหลังหนึ่ง บริเวณลานหน้าบ้าน มีท่อนไม้ที่เกลาอย่างดีมีร่องรอยการฝึกซ้อมอยู่เต็มไปหมด อาภรณ์สีขาวที่เคยสวมใส่กลับกลายเป็นชุดยมทูตสีดำ

     

    “ที่นี่มัน...ไม่ผิดแน่”

     

    อดีตบ้านพักของตระกูลชิบะ...บ้านของท่านไคเอ็น....สถานที่ที่เธอกับไคเอ็นใช้เป็นที่ฝึกซ้อมฝีมือกัน

     

    ลูเคียลองหยิกแก้มตัวเองดูแรงๆ....

     

    ไม่เจ็บ...

     

    “แสดงว่า ข้ากำลังฝันอยู่สินะ”

     

    “อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ คุจิกิ”

     

    ลูเคียหันควับไปที่ข้างตัว นัยน์ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจระคนกับดีใจไปพร้อมๆกัน

     

    “ท่าน...ท่านไคเอ็น”

     

    ร่างสูงโปร่ง ผมดำสีดำสั้น ใบหน้าเรียวได้รูปคล้ายกับอิจิโกะจนแทบจะเป็นคนเดียวกันกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่เคียงข้างลูเคีย ในอ้อมแขนมีร่างเล็กที่แสนคุ้นเคยกำลังจ้องมาที่เธอตาแป๋ว

     

    “โฮตารุ”

     

    โฮตารุรีบมุดออกจากช่องแขนของไคเอ็นเข้าไปกอดลูเคียแน่นอย่างคิดถึง เด็กสาวกอดตอบร่างนั้นแน่น

     

    “ซนน่าดูเลย เจ้าหนูนี่นะ” ไคเอ็นเกาหัวแกร่กๆ อย่างเหนื่อยหน่าย “แต่ก็น่ารักดีนะ ลูกเจ้าเหรอ?”

     

    “ม..ไม่ใช่นะคะ” ลูเคียเถียง

     

    “ข้าแค่ล้อเล่นน่ะ แค่นี้ทำเป็นร้อนตัวไปได้ ถ้าเป็นลูกเจ้าจริงๆก็ดีน่ะสิ”

     

    “แล้วทำไมโฮตารุถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ?”

     

    “หืม?...ที่ข้าเคยพูดกับเจ้าไว้ลืมแล้วรึไง “ ณ ที่ที่หัวใจสถิตอยู่  หัวใจของผู้ล่วงลับจะไปสถิตอยู่กับเพื่อนพ้องหรือผู้เป็นที่รัก”

     

    “ตราบใดที่เจ้ายังนึกถึงข้า ข้าก็ยังอยู่กับเจ้าเสมอ ลูกชายของเจ้าคนนี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน”

     

     

    “......” ลูเคียย่นคิ้วลงด้วยความสงสัย และแอบเถียงในใจ

     

    //ไม่ใช่ลูกชายซักหน่อย//

     

    “ เอ้าๆ คิ้วขมวดอีกแล้ว ไม่ว่าผ่านไปกี่ปี เจ้าก็ยังทำหน้าเหมือนสงสัยตลอดเวลาไม่เปลี่ยนเลยนะ”

     

    มือใหญ่อันอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยวางลงบนศีรษะ เรียวนิ้วที่สอดสัมผัสเส้นผมดำละเอียด ส่งผ่านความรู้สึกมากมายเอ่อท้นขึ้นมาโดยมิอาจหักห้าม

     

    ความอบอุ่น...ที่เธอกลับเป็นคนทำลายด้วยน้ำมือของตัวเอง

     

    “ขอโทษค่ะ ท่านไคเอ็น” เสียงงึมงำๆเหมือนเด็กสำนึกผิดดังออกมาจากปากลูเคีย

     

    “ขอโทษอะไรล่ะ?...เรื่องที่ข้าตายน่ะเหรอ?” ไคเอ็นเลิกคิ้ว ราวกับเรื่องที่พูดมาไม่ใช่เรื่องทุกข์ร้อนสักนิด

     

    “......”

     

    “ เด็กโง่...ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ หรือวิญญาณ ไม่ช้าไม่นานย่อมหนีไม่พ้นการดับสูญ ถึงเจ้าจะไม่ได้เป็นคนที่ฆ่าข้า ข้าก็ต้องตายด้วยน้ำมือของคู่ต่อสู้หรือไม่ก็กาลเวลาที่นำพาสังขารให้ร่วงโรยอยู่ดี”

     

    “จำไว้นะ ไม่มีใครที่โทษเจ้าเรื่องที่ข้าตายแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าอุคิทาเกะ หรือแม้แต้ครอบครัวของข้าก็ตาม”

     

    “อึ๊ก...ฮึก...ข้า...ขอโทษ...ข้าขอโทษ”ลูเคียจับชายแขนเสื้อของไคเอ็นแน่น ก้มหน้าลง เสียงสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆ

     

    “ข้ามันขี้ขลาด...เอาแต่หนีหน้าไม่กล้า...เผชิญความเป็นจริง การที่น้องๆของท่านจะยกโทษให้ข้า...มันเป็นไปไม่ได้เลย”

     

    “ไม่ร้องไห้น่ะ โตแล้วยังร้องไห้ขี้มูกโป่ง อายเด็กบ้างเถอะ”ไคเอ็นลูบหัวนางเบาๆ สีหน้านั้นอ่อนโยน โฮตารุที่อยู่ข้างๆใช้มือเล็กๆเช็ดน้ำตาให้เด็กสาวป้อยๆ

     

    “ เอาล่ะ รีบกลับไปเถอะ ทำใจให้เข้มแข็งกลับไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ข้ารู้ดีว่า คูคาคุต้องการให้เจ้าทำอะไร เขาต้องการแค่คำๆเดียวจากปากของเจ้าเท่านั้น”

     

    “เอ๋?....” ลูเคียเลิกคิ้ว

     

    “คำที่เจ้าชอบพูดกับข้าบ่อยๆไง”

     

    “อี๋...เหรอคะ?” ลูเคียถามอย่างพาซื่อ เพราะทุกครั้งที่เธอเจอหน้าไคเอ็นทีไร เธอต้องร้องคำนี้ออกมาทุกครั้ง

     

    โป๊ก!

     

    “......” ร่างเล็กสั่นเทา คลำหัวที่ถูกไคเอ็นโขกเต็มแรงป้อยๆ น้ำตาคลอหน่วย

     

    “บ้าสิ “ขอโทษ” ต่างหากล่ะ!!!!” ชายหนุ่มเดือด “แล้วก็อย่าร้องคำนั้นออกมาได้มั้ย มันแสลงใจนะเฟ้ย”

     

    “อ้อ...แล้วอย่าไปขอโทษซ้ำๆจนน่ารำคาญล่ะ แทนที่จะสบายใจ จะโดนยัยนั่นชกหน้าเอา”

     

    “ฮะ...ฮะๆ แย่ล่ะสิ...ข้าเป็นพวกขอโทษเขาไม่หยุดซะด้วย” ลูเคียเผลอหลุดหัวเราะออกมา แต่น้ำตามันกลับไม่หยุดไหล

     

    ไม่ว่าจะร้องไห้ด้วยความเสียใจหรือว่าดีใจ ดูไม่ค่อยออกเลยนะ

     

    .............................

    ....................................

     

    “ฮะ...”เสียงของลูเคียดังลอดออกมาจากริมฝีปากเบาๆ อิจิโกะที่จับเสียงได้จึงชะโงกหน้าออกมาดู

     

    “ยิ้มแฮะ ท่าทางจะฝันดี”

     

    “ดีแล้วที่เธอยิ้มได้น่ะ”

     

    “อืม...” ร่างบางพลิกตัวมากอดชายหนุ่มไว้พอดี

     

    “เฮ้ยๆๆๆ จะแก้เผ็ดเรื่องเมื่อวานซืนรึไงฟะ” อิจิโกะหน้าแดงก่ำ มีแต่ผู้ชายกอดผู้หญิงนะเฟ้ย

     

    “อื๋อ?”

     

    เมื่ออิจิโกะพยายามจะแกะลูเคียออกจากตัว แต่เมื่อมือไปสัมผัสโดนแก้มเล็กนั้น

     

    น้ำตา....

     

    ยัยนี่....ร้องไห้

     

    “อุ....” เด็กหนุ่มเสมองไปทางอื่น พร้อมกับเอามือปิดจมูกอย่างเสียไม่ได้

     

    เพิ่งรู้ว่า...ผู้หญิงที่กำลังอ่อนแอ....น่ารักขนาดนี้เชียวรึฟะ?

     

    ก่อนที่ความคิดจะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้....

     

    “ล..ลูเคีย ตื่นได้แล้ว” สุดท้ายจึงตัดสินใจเขย่าตัวร่างเล็กเบาๆ ปากก็เรียกปลุกไปด้วย

     

    “อืม....” รายนั้นไม่มีทีท่าจะตื่นแถมยัง....

     

    “ว๊ากกกกกกกกกกก!!!!!!!”

     

    อิจิโกะร้องลั่นทุ่ง เมื่อลูเคียพลิกตัวมานอนบนตัวของเขา ใบหน้าซบเข้ากับแผ่นอกของเขาเต็มรัก

     

    ถึง...คนที่คิดดีก็อดคิดลึกตามท่าทางของคนทั้งคู่ในขณะนี้ไม่ได้....

     

    “อิจิโกะ!!! จู่ๆก็ร้องซะลั่นทุ่งมีอะไรเนี่ย คนจะหลับจะนอน” เร็นจิที่นอนอยู่ห้องข้างๆได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของเรียวกะหนุ่มจึงเปิดประตูเข้ามาดู

     

    .......แล้วก็ช๊อกค้างกับภาพที่เห็น..........

     

    “ด...เดี๋ยวก่อน เร็นจิ มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ” อิจิโกะละล่ำละลั่ก พร้อมกับยันตัวขึ้น

     

    “อืม...อิจิ...โกะ...อีก...” ลูเคียที่ยังตื่นไม่เต็มตาก็พูดงึมงำๆไม่ได้ศัพท์ชวนให้เข้าใจผิดอีก

     

    เร็นจิโกรธ!!!!!!!!!!!!

     

    “แก...ทำ...อะไร...ลูเคีย!!!!!!!!!!!!”

     

    “เฮ้ย!!!!!!!!!!!! เดี๋ยวก๊อนนนนนนนนน!!!!~ ฟังกันบ้างสิฟะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

    อิจิโกะว้ากลั่น เมื่ออีกฝ่ายคว้าคอเสื้อเตรียมหมายจะต่อยหน้าคนที่ทำมิดีมิร้ายเพื่อนสาวของตนให้หนำใจ โดยที่อีกฝ่ายเมื่อสลัดหลุดก็อุ้มเด็กสาวที่หลับไม่รู้เรื่องโดดหลบไปตามที่ต่างๆเสียหัวปั่น

     

    กว่าจะเข้าใจกันได้ หน่วย 4 ก็ต้องซ่อมห้องพยาบาลใหม่อีกครั้ง...ทั้งหมด....

     

    เรื่องวุ่นๆของ 2 สามีภรรยาจำเป็นก็น่าจะจบลงแค่นั้นนะ

     

    แต่ว่า......

     

    มันยังไม่จบแค่นั้นน่ะสิ ^^

     

     

    *..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*

     

    10 ปีต่อมา

     

    ภายในห้องพักพิเศษของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หญิงสาวผมดำนางหนึ่งกำลังอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง สายตาดำขลับจ้องไปยังประตูห้องด้วยใบหน้าเรียบเฉย

     

    ก่อนที่ประตูบานนั้นจะถูกเปิดออกอย่างแรง

     

    “โทษที มาช้าไปหน่อย” ชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้อง ก่อนจะเอ่ยขอโทษเจ้าของเหมือนกับปล่อยทิ้งให้รอมานาน สีผมยังเป็นเอกลักษณ์ไม่เปลี่ยนแปลง หากแต่การแต่งกายกลับไม่เหมือนเดิม จากเดิมที่เคยเป็นชุดนักเรียนมัธยมปลายกลับกลายเป็นชุดสีขาวสะอาดตาที่บรรดาหมอส่วนใหญ่สวมใส่กันนั่นเอง

     

    “ช่างเถอะ เจ้าเองก็ไปช่วยชีวิตคนนี่นา” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ “แค่ลูกตัวเองจะคลอดไม่ต้องมาสนใจหรอก”

     

    “อะไรๆ ลูเคีย นี่โกรธจริงเหรอเนี่ย?” ตอนแรกก็โล่งใจอยู่หรอกที่ศรีภริยาไม่โมโห แต่ฟังประโยคหลังแล้วมันแทงใจ~

     

    ไปเอานิสัยพี่ชายตัวเองมารึไงเนี่ย?

     

    “ไหนขอดูหน่อยสิ หน้าตาเจ้าตัวเล็กน่ะ” ชายหนุ่มหันความสนใจไปทางเตียงเด็กที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะเลื่อนเข้ามาใกล้

     

    ผมสั้นสีส้มเป็นมัน สองแก้มแดงระเรื่อ กำลังดิ้นขลุกขลักพร้อมกับอ้าปากเล็กๆหาวชวนเอ็นดู....

     

    “หน้าตาแบบนี้ อย่าบอกว่าเหมือนคนข้างบ้านนะ อิจิโกะ” ลูเคียยิ้ม

     

    “อืม...เหมือนจริงๆด้วยและ” อิจิโกะยื่นนิ้วเข้าไปใกล้ ร่างเล็กที่ยังไม่ลืมตาควานมือในอากาศเปะปะ จนจับหมับเข้าที่นิ้วที่ยื่นเข้ามา

     

    รู้สึกได้ถึงนิ้วเล็กที่บีบนิ้วเขาเท่าที่แรงของกล้ามเนื้อน้อยๆนั้นจะมีแรงมากแค่ไหน

     

    “คิดชื่อไว้รึยังล่ะ?” อิจิโกะเอ่ยถาม

     

    “คิดไว้แล้ว แต่รอให้เจ้ามาก่อนค่อยบอก”

     

    “งั้นรึ ท่าทางชื่อของเธอกับชั้นที่คิดไว้มันก็คงเหมือนกันน่ะแหละ” อิจิโกะยื่นกระดาษที่เขียนตัวอักษรบางอย่างนั้นให้ลูเคียดู

     

    “.......ใช่...ชื่อนี้แหละ” ลูเคียมองตัวอักษรที่เขียนไว้บนกระดาษที่อิจิโกะส่งให้ แล้วพยักหน้า ก่อนจะหันไปมองร่างเล็กๆที่นอนหลับพริ้มอย่างไร้เดียงสา

     

    เพราะสัญญากันแล้วว่าจะกลับมาพบกันอีก.....

     

    “เด็กคนนี้ชื่อ....”

     

    “______”

     

    -จบ-

    คุยกัยตอนท้าย

    ที่จริงเรื่องนี้มีภาคสองด้วยค่ะ ถ้าใครอยากอ่านข้าน้อยจะลงให้นะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×