ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOST Name เมืองนี้ไม่มีชื่อ

    ลำดับตอนที่ #5 : The world of odd dog#5

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 53


    5

                    “เมืองที่เราอยู่ตอนนี้เป็นเมืองเล็กๆทางเหนือ ทำการเลี้ยงสัตว์และการเกษตร และส่งผลผลิตให้เมืองหลวงกับประเทศต่างๆตั้งแต่เหนือจรดใต้”มูสบอกอย่างผู้รู้

    “แล้วชื่อเมือง??”ผมถามอย่างสงสัย

    “ไม่มีหรอก ชื่อเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับทุกเมืองเจ้าไม่เห็นรึไงแม้แต่ร้านค้ายังไม่มีชื่อ นี่ยังดีนะที่เจ้าชั่วนั่นไม่ห้ามมีชื่อของตัวเอง ไม่งั้นตอนนี้เจ้าอาจต้องเรียกข้าว่าพี่สุดหล่อ”มูสพูดอย่างหงุดหงิด

    เรียก เจ้าหมาตะกละ สิไม่ว่า”ทำไมถึงห้ามมีชื่อละ”ผมถามคำถามที่สงสัย

    มูสมองผมด้วยสายตาดูแคลน เหมือนจะบอกว่าไม่รู้เหรอ ผมอยากจะต่อยหน้ามันตอนนี้จริงๆ

    “ที่นี่ไม่มีพระราชาปกครองเป็นประเทศที่ไม่มีแบบแผนเลยใช่ไม๊ล่ะ ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ดีๆก็ลุกขึ้นปกครองประเทศนี้ขึ้นด้วยอำนาจมนต์ดำอะไรสักอย่าง แล้วเขาคนนั้นก็ไม่มีชื่อซะด้วยสิตั้งแต่นั้นมาทุกๆแห่งที่มีชื่อก็จะโดนทำให้หายไปโดยไม่มีสาเหตุ ตอนที่หมอนั่นปกครองช่วงแรกๆคนที่มีชื่อก็จะโดนฆ่าทั้งที่ยังไม่ทำอะไรผิด ส่วนเด็กที่เกิดใหม่ๆก็ไม่มีสิทธิ์ตั้งชื่อ ผู้คนจะเรียกเด็กเหล่านั้นด้วยจุดเด่น และเมืองที่เคยมีชื่อก็ค่อยๆลืมเลือนชื่อไปผู้คนไม่กล่าวถึงชื่อเมืองของตน และเริ่มตั้งชื่อให้กับชายหนุ่มว่าผู้ปกครองมืด หลังจากนั้นไม่นานประเทศนี้ก็ไม่มีชื่อ ตำราทุกอย่างที่เก็บเรืองราวขอประเทศนี้ไว้ถูกทำลายจนหมด เห้อ..แต่ก็ดีหน่อยที่เจ้านั่นยอมให้ตั้งชื่อลูกได้แล้วนะน่ะ”มูสเพิ่งพูดยาวขนาดนี้เป็นครั้งแรกนั่นทำให้ผมตกใจ ไม่คิดว่ามูสพูดยาวๆก็เป็น  แต่เรื่องของผู้ปกครองมืดนั่นทำให้ผมชักสงสารเมืองนี้ขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

    “เจ้าก็อย่าเศร้าให้มากนักเลย ประเทศนี้มีอะไรหลายอย่างที่เจ้าไม่รู้อันนี้แค่เรื่องเล็กๆ ไม่สิเศษเสี้ยวตะหาก”มูสพูดพร้อมทำท่าทางราวกับเป็นเรื่องของคนอื่น

    “เห้อ มูสนายเคยห่วงเรื่องอะไรบ้างเนี่ย เดินทางต่อกันเถอะ”ผมเดินนำหน้ามูสออกไปทางออกจากหมู่บ้าน ส่วนมูสก็มัวแต่ทำปากขมุบขมิบเรื่องที่ชั้นห่วงก็ไก่ทอดไง

    “เห้ คาร์ล จะไปไหนนะนั่นมันทางเข้าฟาร์มเลี้ยงสัตว์นะ!! ประตูขวาตะหาก หรือเจ้าอยากกินนมวัว??”มูสตะโกนเสียงดัง พร้อมกับรีบวิ่งมาหาผมมันดึงมือและลากผมไปอีกประตูหนึ่ง แต่ผมจะขอบคุณมากกว่านี้ถ้ามูสไม่ยื่นหน้ามาใกล้ผมแล้วถามคำถามงี่เง่านั่น     “ฉัน-ไม่-ใช่-นาย”   คาร์ลพูดเด็ดขาดสะบัดมือมูสทิ้งและเดินนำไปประตูขวาทันที  “ข้าเกลียดนมวัวจะตาย ไม่อยากกินก็บอกดีๆก็ได้น่า”มูสบ่นกับตัวเองแล้วก็เดินตามคาร์ลไป

     

     

    “ข้าชักเริ่มสงสัยแล้วเจ้าเป็นคนประเทศนี้รึเปล่า ทำไมเดินนำหน้าเป็นคนนำทาง แถมยังเดินยังกับรู้ทางดี”มูสอดไม่ได้ที่จะถามคาร์ล ขณะนี้พวกเรากำลังเดินในป่ามันไม่ใช่ป่าดิบชื้นน่ากลัว แต่เป็นป่าที่มีแสงแดดส่องถึง ข้างทางมีดอกไม้ต้นไม้ พืชหญ้าขนาดเล็กมากมายเป็นป่าที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ และในป่าปูทางเดินให้กับนักเดินทางได้เป็นอย่างดี และหากถามทางจากนักล่าสัตว์พวกเขาจะบอกว่าเดินตามทางเดินนี้ก็จะถึงจุดหมายที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง

    “บางทีสมองนายอาจจะเล็กเกินไปที่จะบรรจุความรู้นะมูส ทางเดินมันเด่นขนาดนี้ถ้ายังหลงฉันก็คงไม่ต้องโตมาจนอายุ16หรอกนะ!!!”ผมตะโกนอย่างเหลืออด ผมรีบเดินต่อขณะที่กำลังก้าวขานั้น  ”เฮ้ย!! อุ๊บส์”  ไอ้บ้ามูสนายกล้าดึงขาฉันเหรอ ผมรีบหันกลับไปมองมูส แต่เจ้านั่นเดินห่างจากผมมาก มันจะรีบวิ่งมาดึงขาผมได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ

    “คาร์ลทำอะไรนะ อยากสัมผัสดินเล่นเหรอฮ่าฮ่า”ถึงมูสจะพูดจากวนประสาทแต่มันก็เข้ามาช่วยพยุงผมถ้ามูสไม่ใช่คนทำแล้วใครทำ?

    “หือหาอะไรอยู่”

    “ที่นี่มีอะไรจำพวก...เอ่อ..ผี วิญญาณอยู่รึป่าว”ผมถามเสียงเบา

    “ผี วิญญาณ ไม่มีหรอก แต่ถ้าเจ้าอยากเจอข้าพอรู้จักที่หนึ่งเจ้าอยากลองไปไม๊ละ”มูสรีบตอบประจบคาร์ลหลังจากโดนคาร์ลโมโหใส่หลายรอบ แต่กลับโดนถลึงตาใส่มันจึงต้องเงียบเหมือนเดิม

    “มีใครสักคนมาดึงขาชั้น ทำให้ชั้นล้ม”ผมพูดเสียงเบา

    “หืออ ที่นี่ไม่ปลอบภัยแล้วคาร์ลมาเร็ว!!”มูสกำลังงุนงงแต่แล้วก็เข้าใจ ตาสีฟ้าใสของเขาเบิกกว้างขึ้น ร่างที่เคยยืนสองขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสี่ขามันเริ่มวิ่งนำหน้าให้คาร์ลตามมันไป

    “มีอะไรนะ มูส!!

    “พวกต้นไม้ที่ได้รับมนต์ดำจากผู้ปกครองมืด มันจะกินเจ้านะสิ”

    ต้นไม้ด้านหลังภาพที่เคยสวยงามของร่มไม้กำลังกลายเป็นสิ่งแปลกประหลาดมันขยายขนาดใหญ่ขึ้นๆแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมเริ่มบังเงาไม้รอบด้าน เถาวัลย์เริ่มเลื้อยเป็นทางยาว ดอกไม้เริ่มเหี่ยวเฉา ส่งไอสีม่วงประหลาดออกมา ในป่าเริ่มมืดครึ้มเหมือนป่าดิบชื้น ต้นหญ้าขึ้นปกคลุมบังทางเดินจนมองไม่เห็นเส้นทางที่แน่ชัด กิ่งไม้แหลมคมหลายกิ่งพุ่งตรงมาเข้าทำร้ายคาร์ลอย่างรวดเร็ว พวกเขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต คาร์ลดึงมีดสั้นที่มูสให้ตัดกิ่งบางส่วนที่เกือบถึงเขาแต่มันก็จะงอกใหม่อย่างรวดเร็ว ส่วนมูสก็วิ่งนำหน้าเพื่อนำทางให้ มันใช้ขาตะปบกิ่งที่พุ่งมาอย่างรวดเร็ว

    “เร็วเข้า!! คาร์ลใกล้ถึงหมู่บ้านแล้ว”มูสตะโกนมันกำลังแปลงร่างเป็นคนอีกครั้ง พวกเขาเริ่มเห็นแสงสว่างที่ส่องลอดออกมาจากด้านนอกป่า ทั้งสองรีบพุ่งตรงไปทางแสงออกมาจากป่าได้สำเร็จ แต่กิ่งไม้เหล่านั้นดูเหมือนจะไม่ยอมเลิกรามันพยายามที่จะพุ่งตรงเข้าหาคาร์ล มูสรีบเปิดกระเป๋าหยิบขวดสีแดงออกมาราดลงบนพื้น ปากก็ท่องอะไรบางอย่างที่ฟังไม่รู้เรื่องออกมา ของเหลวที่อยู่บนพื้นดินกลายเป็นของเหลวขึ้นมาจากดินอีกครั้งมันกระจายไปโดนกิ่งไม้ที่พยายามจะทำร้ายคาร์ล พวกมันสงบลงอีกครั้งค่อยๆกลับคืนสู่ป่าที่สงบดังเดิม..

    ทั้งสองคนเหนื่อยจากการวิ่งพักเอาแรงอยู่ตรงทุ่งหญ้าใกล้ๆหมู่บ้าน

    “คาร์ลข้าหิวแล้ว เจ้าไปหาอะไรให้ข้ากินเป็นการตอบแทนที่ข้าช่วยเจ้าละกัน”มูสพูดอย่างผู้เหนือกว่า

    “หุปปาก!! ถ้าทำได้ขนาดนั้นไม่ทำแต่แรกเล่า ไม่รอผมตายไปเลยละ”คาร์ลพูดอย่างเหลืออด

    “เจ้ารู้ไหม ว่ายาต้านมนต์ดำมันแพงขนาดไหน ใช้เล่นๆได้เรอะ!!”มูสก็รีบเถียงกลับเช่นกัน

    “แล้วนี่ยังไม่เกือบตายอีกเรอะ”คาร์ลเถียงอย่างไม่ยอมแพ้

    “ก็ธรรมดาถ้าเป้าหมายหลุดจากเขตของมัน มันจะหยุดนี่นา”มูสพูดแต่ก็ดูสงสัยเต็มทน

    “พวกพี่ชายนี่โง่พอๆกับหน้าตาเลยนะ”เสียงเล็กๆดังขึ้น

    สองคู่หูอันธพาลหันไปมองอย่างหงุดหงิด พร้อมกับพูดพร้อมกันเป็นครั้งแรก

    “ไอ้เด็กนี่มันเป็นใครวะ”

    *********************************************
    มาอัพช้าตามนิสัยคนขี้เกียจ

    ฮ่าๆร้างดีจริงๆคนไม่มีเลยTT^TT

    เอาเถอะขอให้สนุกในการอ่านนะเน้ออ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×