ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOST Name เมืองนี้ไม่มีชื่อ

    ลำดับตอนที่ #3 : The world of odd dog#3

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 53


    3

                    ข้าเชื่อแล้วว่ามนุษย์ต้องนอนแต่เจ้าจะต้องนอนนานขนาดนี้เลยเหรอ!?  นี่เป็นสิ่งที่ข้ากำลังสงสัย คาร์ลเด็กหนุ่มประหลาดที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ เอาใจยากเหมือนคนแก่ที่ย่างเข้าสู้วัยเอาแต่ใจตัวเอง เห้อแต่เห็นแก่ไก่ทอดข้าจะยอมช่วยเจ้า เห็นทีคงต้องรีบปลุก

     

                    “แค่กๆ เจ้ามูสบ้าเอ้ยยย” โถ่เอ้ยผมแค่นอนเพลินไปจนเกือบเที่ยงแค่นี้มันจะต้องลงมือกันขนาดนี้เลยเหรอ มันเอาน้ำมาสาดใส่ผมสองถังแถมยังตะโกนว่าไฟไหม้ เจ้าหมาโรคจิต! แล้วยังมาแก้ตัวบอกว่ากลัวไม่ได้เจอคนที่ชื่อ บูลเล็ท นั่นต้องรีบไปหาแล้วก็พาผมกลับบ้านไวๆเพราะเดี๋ยวคนที่บ้านจะเป็นห่วง จริงๆแล้วเอ็งก็แค่อยากกินไก่ทอดใช่ไหมละมันน่าหงุดหงิดจริงๆเสียงประตูเปิดดังลั่น มูสรีบวิ่งเข้ามาพลางให้ชุดกับผม แถมยังหอบหายใจไม่หยุด สงสัยว่ามันจะรีบไปไหนนักหนาแต่ก็ไม่อยากเถียงกับมันตอนนี้ ผมมองลงไปที่ชุด

    มันเป็นชุดที่ดูทะมัดทะแมง สายตามันบ่งบอกว่าเปลี่ยนเร็วๆ ผมรับชุดมาและรีบเปลี่ยน เมื่อตรวจดูว่าเรียบร้อยหมดแล้ว ผมจึงลงมาชั้นล่างดูเหมือนมูสจะวุ่นวายอยู่กับการเตรียมกระเป๋าของตัวเอง

    “อ่ะ เอาไป”มูสโยนมีดสั้นที่ดูธรรมดา(ถ้าไม่สนใจความคมของมัน) ให้ผม

    “ทำไมต้องพกมีด เมืองนี้ก็ไม่ได้ดูอันตรายสักหน่อย?”ผมถามอย่างไม่เข้าใจ

    “ที่นี่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่นายคิดหรอก ก็แค่เปลือกนอก ไม่เคยได้ยินเรอะ!! ข้างนอกสวยหรูแต่ข้างในกลวง หรือบางทีอาจจะเน่าเหม็นเลยก็ได้” มูสพูอย่างแดกดันใส่ผมราวกับแค้นกันมาร้อยปีได้  "มีปัญหาก็อย่ามาลงที่ผมดิวะ"    นี่เป็นแค่สิ่งที่ผมคิดเท่านั้น


    ผมเดินตามมูสไปตลอดทาง ยิ่งนานเข้าผมก็ยิ่งสงสัยนี่เราเดินมาจะเกือบชม.แล้วนะเฟ้ย แถมทางที่เดินก็..บนหลังคาบ้างละ ในหลืบบ้างละ เข้าซอยมืด ทางเข้าห้องน้ำหลังร้านกาแฟ ทำไมถนนหนทางเมืองนี้มันมั่วอย่างงี้  แถมเจ้าบ้านี่มันจะเดินเร็วไปไหน กลัวคนมาทวงหนี้รึไง??  ขณะที่ผมครุ่นคิด มูสก็หยุดเดินอยู่หน้าบ้านเก่าๆแห่งหนึ่งเป็นบ้านที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่เป็นต้นไม้ที่มีแต่กิ่ง ไม่มีใบซักใบเดียว ขัดกับความงามรอบด้านจริงๆ เห้อ  สมแล้วที่เป็นคนรู้จักมูส

    ปัง!!!  ไม่พูดอะไรซักคำมูสถีบประตูอย่างแรงเข้าไปข้างในบ้าน ทำท่ากร่างราวกับตัวเองเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย
                    “เฮ้ บูลเล็ท อยู่ใช่ไม๊”มูสถามเสียงดัง

    .......เงียบกริบ ผมคิดว่าบางทีมูสอาจจะมาผิดที่ หรือบางทีเค้าอาจจะย้ายบ้านไปแล้วดูจากฝุ่นที่เกาะและสภาพในบ้าน  บอกได้คำเดียวว่า เน่า!!  มีแต่ฝุ่น ขยะ และใยแมงมุม

     

    “เอ่อ..มูสบางทีคนนั้นอาจจะย้ายบ้า...”ผมพยายามจะบอกมูส  แต่ก็ถูกเสียงมูสขัดขึ้น

    “ถ้าไม่ออกมา ข้าจะเผาบ้านแล้วนะเว้ย”มูสพูดด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย

    นั่นทำให้ผมแน่ใจว่ามูสเป็นหมาชั่วร้ายจริงด้วย ผมสงสารคนชื่อบูลเล็ทนั่นจริงๆ

    “หือใครจะเอานมผงมาให้หรอ”เสียงเฉยชา ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

    “อ้าวมูสมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพ่อหนุ่มข้างหลังนั่นใครเหรอ”ให้ตายเจ้าบ้านี่อาการหนักกว่ามูสอีก อย่าบอกนะว่าหมอนี่คิดว่ามูสเพิ่งมาถึง ทั้งๆที่มันตะโกนมาสักพักแล้ว

    “นี่พ่อครัวของข้าชื่อคาร์ล เขาาอยากจะกลับโลกมนุษย์เจ้ามีวิธีไหม บูลซี่”

    “ใครเป็นพ่อครัวของนาย!!

    “เอ๋? โลกมนุษย์เหรอ มีชื่อนี้ด้วยเหรอ แล้วบูลซี่นี่ใครกันชื่อแปลกดีนะ อ่าโลกมนุษย์เหมือนจะมีนะ เดี๋ยวหาให้” บูลเล็ทตอบมูส ทั้งสองไม่สนใจเสียงบ่นและความหงุดหงิดของคาร์ลที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่เลย จนกระทั่งบูลเล็ทไปหาตำราในห้อง มูสจึงหันมาสนใจคาร์ล

    “เจ้าเป็นอะไร พื้นที่นี่ก็ไม่ร้อนจนลวกเท้าจะกระโดดไปอีกนานเท่าไหร่” มันยังคงยั่วโมโหผมได้อยู่!!

    “เออ แล้วบูลเล็ทนั่นจะช่วยเราได้แน่เรอะท่าทางสะลึมสะลือแบบนั้น ฉันจะกลับถึงบ้านไหมเนี่ย” ผมไม่อยากจะเถียงกับหมาที่ออกลูกในปากของตัวเองอีกแล้ว เลยถามเรื่องบูลเล็ทแทน

    “อ่อ เจ้านั่นเป็นอย่างนั้นมานานแล้วละ ฉลาดมากไปก็เงี้ยแหละ ขนาดข้าบอกจะฆ่ามัน หมอนั่นยังนึกว่าข้าจะจับหนูทดลองให้มันทดลองเลย”

    “อืม”

    เฮ้ออ หวังว่าผมจะกลับบ้านครบทุกส่วน แขนขาคงไม่หายไปตอนถึงบ้านนะ
    ******
    ขอบคุณท่านยาที่ตอกย้ำความสั้นของบทความTT

    ขอบคุณอะตอม

    เห็นบอกให้อัพเลยมาอัพให้ฮ่าๆ
    เขิลอะสั้นได้อีก รับไม่ได้จริงๆ= = มีไรบ่นไว้แล้วกันเดี๋ยวจะมาตอบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×