คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : The world of odd dog#11
11
สถานการณ์กลับตาลปัตร มูสลุกขึ้นยืนเขามองมาทางปอลจิ จากนั้นหันมามองคาร์ล เขาละสายตาจากคาร์ลจ้องไปทางชายชรา แต่ชายชราก็จ้องตอบกลับมา ความกดดันตกอยู่ที่มูสที่ต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจ เขาควรจะช่วยคาร์ลแต่คนพวกนี้ก็ต้องกำจัดทิ้งไม่อย่างนั้นอาจจะมาทำร้ายพวกเขาที่หลัง แล้วคราวนี้แม้แต่มูสหรือปอลจิก็คงไม่รอด วันนี้พวกเขาใช้แรงไปหมดแล้ว มูสหันไปมองคาร์ลอีกครั้ง ดูเหมือนคาร์ลแทบจะไม่แยแสกับดาบที่จ่อคอตนอยู่ เขาเพียงแต่มองมาที่มูส มั่นใจและเชื่อมั่นในตัวมูส เหมือนกับแววตาของรูปปั้นเด็กน้อยที่อยู่บนหลังสุนัข ที่หมู่บ้านก่อนหน้านี้ เป็นแววตาที่ควรจะดีใจหากได้รับแต่ในสถานการณ์อย่างนี้ มูสอยากให้คาร์ลพูดเหลือเกิน หรือปอลจิก็ได้บอกเขาทีว่าควรจะจัดการยังไงหรือไม่ก็อย่าส่งสายตาเหมือนเขาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดอย่างนั้น เพราะมันยิ่งทำให้มูสรู้สึกแย่ ชายชราต้องการทำให้
มูสกดดันมากขึ้นเขาเอาดาบเข้าใกล้คอคาร์ลอีกหน่อย นั่นทำให้ปอลจิตกใจเขาหันมาเร่งมูส แต่พยายามถามอย่างใจเย็นที่สุด
“อ่า พี่มูสจะให้ผมทำยังไงครับ” ปอลจิถามมูส หน้าตาสับสน มูสมองไปบริเวณรอบๆมีคนสลบอยู่ตั้งสามคน อีกสองคนก็ขยับไม่ได้ หนึ่งในนั้นก็โดนปอลจิเอากรงเล็บรอฟันอยู่ จะแพ้ก็ให้มันรู้กันไป ลองกันสักตั้ง มูสหันไปมองชายชราเขาอยากให้มันหวั่นไหวสักนิด ลูกน้องของมันนอนสลบอยู่ตั้งสามคนไม่กลัวพวกมันเป็นอะไรไปบ้างหรือไง แต่คนผ่านศึกมาเยอะอย่างชายชราคงไม่มีทางหวั่นไหว มูสลองเริ่มต้นการเจรจา
“อืมม นั่นสิ นี่คุณหน้าโหด คิดไปคิดมาทั้งสองฝ่ายก็มีตัวประกันเหมือนกัน เพียงแต่ฝ่ายคุณโหดมีแค่คนเดียว แต่ผมมีตั้งห้า คิดว่าฝ่ายไหนจะชนะเหรอ หือ??” มูสพูดอย่างมีชั้นเชิง เขาพยายามทำให้ฝ่ายตรงข้ามสับสน แต่ชายชราผู้มีประสบการณ์ไม่มีแววสะทกสะท้าน ตาของเขายังคงมั่นคงไม่มีแววลังเล หัวเราะกับคำพูดของมูส
“ฮ่าฮ่า ใจกล้าไม่เบา พวกนายเป็นลูกน้องที่แปลกจริงๆ กล้าเอาเจ้านายมาต่อรองเชียว ธรรมดาจะต้องยอมปล่อยลูกน้องฉันแล้ว” ตาสีทองของชายชรามองไปทางมูส
“ก็คนมันมืออาชีพ เอาเป็นว่าถ้าคุณหน้าโหดฆ่าหมอนั่น..เอ้ย ยัยนั่น ผมก็จะฆ่าลูกน้องคุณทิ้งไปคน แต่มันคงไม่สะใจ ผมคงต้องเอาลูกน้องคนอื่นๆของคุณมาตัดแขนตัดขาทีละชิ้นๆ คงน่าสนุกกว่าเป็นไหนๆ”มูสแสยะยิ้ม
“ผมก็อยากลองหั่นดูบ้างนะครับ” ปอลจิสนับสนุนชูกรงเล็บข่มศัตรูอีกหน่อย เหล่าลูกน้องของชายชราที่ยังคงมีสติทั้งสองคนพากันหน้าซีดเผือก ได้แต่ภาวนาว่าพวกเขาจะเป็นผู้โชคดีที่ได้ตายอย่างสบาย
“งั้นมาลองดูไหมละ ว่าใครหั่นได้ละเอียดกว่ากัน”ชายชรากล่าว
“จะลองไหมละไอ้แก่”มูสตอบกลับ การเจรจาของทั้งสองคนจบลงกลายเป็นการด่าสาปแช่ง พวกเขาเถียงกันจนเหนื่อย สุดท้ายได้แต่จ้องตากันไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายก็เริ่มแหกปากเถียงอีกรอบ คาร์ลที่เงียบมานานเองก็ทนไม่ไหว ชายชราผู้นี้ยังคงถือดาบจ่อไว้ที่คอของคาร์ลอยู่ ถึงระยะห่างจะห่างออกไปจากคอเยอะมากแล้วแต่มันก็ยังชวนเสียวอยู่ เขาพยายามใจเย็นไม่ระเบิดความโกรธออกไป สถานการณ์ตอนนี้เขาควรจะอยู่เงียบๆ แต่ชายชราที่ท่าทางหยิ่งเมื่อก่อนหน้านี้ตอนนี้กำลังเถียงกับมูสเหมือนเด็กทะเลาะกัน ไม่มีแววดุดันเหมือนตอนเริ่มต่อสู้ ทั้งสองคนไม่มีใครยอมใครพออีกฝ่ายพูดจบ อีกฝั่งก็ตอบกลับทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เด็กกระจอกทำเป็นแต่ให้คนสลบ”
“ทำไมทีปู่ละไม่สิ ไอ้ปู่ทวด แก่จนสู้ไม่ไหวเลยได้แต่นั่งมอง มีเหลนกี่คนแล้วละ”
“ถึงมีก็ไม่อันธพาลเหมือนแกหรอก เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”
“โห ใครจะเหมือนปู่ละแก่ปูนนี้แล้วยังติดภรรยาอยู่ มีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงนี่ เอ๊ะไม่สิ แอบไปหาสาวใช่ไหมละ ไอ้ปู่โรคจิต”
“หึ อิจฉาละสิ หน้าอย่างเจ้าสงสัยแม้แต่จับมือสาวยังไม่เคยได้จับละสิ”
“ตลกละปู่ อย่างฉันนะเดินผ่านก็เข้ามาขอกอดแล้ว”
“สงสัยคงจะเมาไม่ก็จำคนผิดละมั้ง”
“จะหาเรื่องใช่ปะปู่!!”
“จะลองไหมล่ะ!”
“รำคาญแล้วนะโว้ย ถ้าไม่สู้กันก็ปล่อยฉันไป ถึงเวลานอนแล้วง่วงโว้ย”คาร์ลตะโกนความโกรธของเขามากเกินกว่าจะระงับความกลัว เขาคงไม่เห็นดาบที่จ่อคออยู่ในสายตาแล้ว ทุกคนหันมาจ้องคาร์ลเป็นตาเดียว มูสกับชายชราหันมามองหน้ากันเหมือนกำลังคิดว่าพวกเขาควรจะทำยังไงดี สุดท้ายแล้วทุกคนก็หลุดขำออกมาหมด ชายชราหัวเราะเสียงดังไม่หยุดเขาถูกใจคาร์ลมากเป็นพิเศษ โยนดาบที่อยู่ใกล้คอคาร์ลทิ้ง โค้งตัวให้คาร์ลอย่างมีมารยาท
“เป็นท่านหญิงที่พูดจาสุภาพจริงๆ ขอโทษที่ถือดาบใกล้ท่านนาน ทำเกินไปจริงๆ ขอโทษที่มารบกวนเวลานอนของท่าน เพื่อเป็นการไถ่โทษ..พวกเรากลับกันได้แล้วละ”ชายชราแดกดันคาร์ล ก่อนหันมาพูดกับมูสและปอลจิ เขาหยุดการต่อสู้หน้าตาเฉยเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ท่าทางอารมณ์ดีมาก ลูกน้องที่สู้จะเป็นจะตายก่อนหน้านี้กับพวกมูสอีกสองคนก็ไม่มีแววโกรธแค้นรับคำสั่งได้หน้าตาเฉยเช่นกัน ชายชราโบกมือลาพร้อมกับช่วยแบกลูกน้องขึ้นรถที่มารอรับหน้าโรงแรมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบชายฉกรรจ์อีกหลายคนลงมาจากรถ ช่วยพยุงคนที่สลบและบาดเจ็บออกไปท่ามกลางสายตามึนงงของพวกคาร์ล
“ลุงเดี๋ยวก่อน ลุงมาสู้กับพวกเราเพื่ออะไรเนี่ย แถมไปกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ” มูสถามชายชรา
“พวกเราเป็นคนค้าทาสนะ ท่านหญิงของพวกนายท่าทางไม่เลว เลยว่าจะเอาไปขายแต่พอสู้กับพวกนายแล้วสนุกเป็นบ้า น่าสนใจมากจริงๆ ฉันจะยอมปล่อยไปเป็นกรณียกเว้น แต่ว่ายังมีอีกหลายกลุ่มที่อยากได้ตัวท่านหญิงของพวกนายนะดูแลดีๆละ ว่างๆมาเล่นกันใหม่” ชายชรากล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ปู่ชื่ออะไร”มูสตะโกน
“ฉันเหรอ พลูตัน เรียกว่าปู่พลูตก็ได้”พลูตันตะโกนกลับ
มูสหัวเราะเขาไปคุยอะไรกับพลูตันนิดหน่อย กระซิบอะไรบางอย่างใส่กัน ส่วนปอลจิก็โดนชมจากคุณลุงเลือดอาบที่ปอลจิฟันใส่ ดูเหมือนคุณลุงจะชื่นชมความสามารถของปอลจิไม่หยุดพวกเขาหยอกล้อกัน ถ้าไม่รู้ว่าพวกเขาเคยสู้กันก่อนหน้านี้คงนึกว่าเป็นเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันนานเพราะจากภาพที่เห็นทั้งสองคนเล่นหัวกันราวกับอยู่รุ่นเดียวกันซะอย่างนั้น หลังจากล่ำลากันพักใหญ่ในที่สุดพวกพลูตก็กลับไป ความเงียบกลับมาสู่โรงแรมอีกครั้ง พร้อมกับโต๊ะรับแขกที่เละไม่เป็นท่า และคาร์ลที่ยังคงถูกมัดทิ้งไว้ที่เก้าอี้ที่ไม่มีใครคิดจะสนใจ
“ปล่อยฉันได้หรือยัง”คาร์ลถาม
“ทำไมนายไม่ถามว่าฉันคุยอะไรกับปู่พลูต นายน่าจะสงสัยบ้างว่าทำไมการต่อสู้มันจบง่ายดายอย่างนี้”มูสตอบคำถามด้วยคำถาม สายตาเขาบังคับว่าคาร์ลจะต้องถามคำถามนี้กับเขา ไม่อย่างนั้นคืนนี้ก็ถูกมัดไว้อย่างนี้แหละ
“ไม่อยากรู้”
“ถามฉันหน่อยนะ นะๆๆๆๆๆ”
“เออๆ ทำไม” คาร์ลกัดฟันถามอย่างอดทน
“ปู่พลูตบอกว่า ทุกคนในกลุ่มชื่นชอบการต่อสู้มากๆ และพวกเราก็ทำให้พวกเขาผ่อนคลายจากความเครียดที่ต้องอยู่ในเมืองหลวงที่กดดันด้านการใช้ชีวิต แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเราไปช่วยพวกนั้นยังไงหรือตอนไหน แต่พวกนั้นบอกว่าว่างๆจะมานั่งเล่นด้วย อย่ารีบออกจากเมืองหลวงไป”มูสตอบตามนิสัย นั่นคือตอบแบบไม่มีสาระและหาเหตุผลไม่ได้ แต่คาร์ลก็พยักหน้าเข้าใจ เพื่อที่เขาจะได้ไปนอนเสียที
“เข้าใจแล้ว ปล่อยฉันได้ยัง!!”คาร์ลกระแทกเสียง
“ปอลจี้ นายว่าเวลาคนขอร้องเขาพูดกันแบบนี้เหรอ”มูสทำท่าทางรับไม่ได้หันไปขอความเห็นจากปอลจิ
“คิดว่าแบบนี้ไม่ใช่นะครับ”ปอลจิเองก็ทำท่าทางรับไม่ได้เช่นกัน
“พวกนายจะไม่ช่วยฉันใช่ไหม”คาร์ลจ้องมูสกับปอลจิ
“ง่วงแล้วละปอลจี้ ไปนอนกันเถอะ”มูสไม่สนใจคาร์ล หันมาชวนปอลจิ เขาเดินห่างออกจากคาร์ลขึ้นเรื่อยๆ คาร์ลเองก็เครียดเขารู้สึกเสียศักดิ์ศรีที่ต้องขอร้องใครสักคน
“พวกนาย!! นี่ พวกนายยยยยยยย”คาร์ลตะโกนก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินขึ้นบันได
“...ช่วย...ฉันหน่อยได้ไหม”คาร์ลพูดเหมือนกับจะพูดให้มดฟัง
“อะไรนะ” มูสเดินเข้ามาเอนหัวเข้าไปใกล้ๆคาร์ลเพื่อจะฟังชัดๆ เขาถามย้ำ
“ฉัน-บอก-ว่า-ช่วย-ด้วย”คาร์ลเน้นทีละคำน้ำเสียงแสดงความไม่พอใจ
“ปอลจี้ ตรงนี้มีคนไร้มารยาทอยู่เราไปกันดีกว่า”มูสสะบัดหน้าหนีอีกครั้ง
“ช่วยฉันเถอะนะขอร้องละ”คาร์ลพูดอีกครั้ง มูสกับปอลจิสบตาหัวเราะให้กัน
“อะไรนะไม่ค่อยได้ยิน”มูสกวนประสาท
“ช่วยฉันเถอะนะขอร้องละ ได้โปรด!!!” คาร์ลตะโกนสุดเสียง มูสท่าทางจะพอใจแล้วเขาแกะเชือกให้คาร์ล หลังจากคาร์ลหลุดออกมาจากเชือกได้ มูสก็แอ่นอกเตรียมรับคำขอบคุณทันที คาร์ลคงเข้าใจว่ามูสต้องการคำขอบคุณเขาจึงยิ้มหวานให้มูสไป ยิ่งทำให้มูสได้ใจคิดว่าจะได้รับรางวัลเพิ่ม และสิ่งที่มูสได้รับก็ทำให้เขาแทบกรีดร้อง คาร์ลต่อยเข้าที่หน้าของมูสอย่างแรง ไม่สนใจเสียงมูสที่ร้องโอดครวญหรือปอลจิที่หน้าเหวอหาที่หลบภัยไม่ให้คาร์ลต่อยตนอีกคน เขาขึ้นบันไดไม่สนใจใครทั้งสิ้น ปิดประตูเสียงดังสนั่น พร้อมกับทิ้งจดหมายไว้ที่ใต้ช่องประตู ‘ไปหาที่นอนกันเอาเอง’
“หมอนั่น อารมณ์รุนแรงเป็นบ้า เจ็บชะมัดถ้าต่อยแรงขนาดนี้ไมไม่สู้เองวะ”มูสได้แต่บ่น เพราะเขาไม่มีแรงจะไปสู้กับคาร์ลแล้ว ปอลจิเองก็เหนื่อยไม่แพ้กัน ทั้งสองคนกำลังจองห้องพักเพิ่มอีกห้องหนึ่งโชคดีที่โรงแรมนี้มีเหลือหลายห้อง ไม่งั้นพวกเขาคงต้องนอนกันหน้าห้อง พวกเขาเดินมาจนถึงห้องนอน ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของตัวเอง ขณะที่มูสกำลังจะหลับ ปอลจิก็พูดขึ้น
“พี่มูสน่าจะจำซะทีนะครับ เวลาพี่คาร์ลโกรธนะไม่ควรจะไปแกล้งเขานะครับ โดยเฉพาะเรื่องนอน”ปอลจิเริ่มสั่งสอนก่อนนอน
“ทีตอนนี้ทำสั่งสอนนะเจ้าปอลจี้ ตอนทำนี่สนับสนุน แต่คาร์ลก็เหมือนกันหมอนั่นเป็นคนใจคับแคบชะมัดเป็นเรื่องนอนทีไร ไม่ฟังใครเลย”มูสบ่น
“....”
“ปอลจี้ ทำไมเงียบไปละ นี่......”มูสเห็นปอลจิเงียบไป หันไปมองปอลจิด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเพิ่งสู้เสร็จมันอาจจะมีแผลที่ทำให้ถึงตาย เข้าไปดูใกล้ๆถึงรู้ว่าปอลจิหลับไปแล้ว มูสโล่งใจ เขาเกาหัวงงๆ อะไรของมันชวนคนอื่นคุยแล้วก็มาหลับซะเอง
“ให้ตายนอนก็ไม่บอก ให้ฉันพูดอยู่คนเดียว สงสัยจะจริงชีวิตการเดินทางของพวกเราเรื่องใหญ่คงมีแค่กินกับนอน” มูสพูดคนเดียวเขานอนคิดเรื่องต่างๆจนหลับไป
*****************************
เอาตอนใหม่มาลงฉลองอัพธีมใหม่ว้ายสวยเริ่ด>0<
แต่งได้ชุ่ยมาก ขอโทษจริงๆ จะพยายามให้มากกว่านี้T^T
ความคิดเห็น