ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วุ่นจริง ศึกชิงเจ้าชายปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #12 : ธีโอดอร์ ตอนที่ 1.

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 50





        "โค้งต่ำกว่านั้นอีกหน่อยสิ" เสียงหวานใสที่ไม่ได้เข้ากันเลยกับแรงกดที่ศีรษะจนเขาแทบคะมำทำให้ธีโอดอร์กลอกตา นี่ขนาดเขาก้มจนหัวแทบจะติดพื้นด้วยท่าทีเรียบร้อยและตอแหลที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วนะ แต่คุณพี่สาวที่แสนเจ้าระเบียบก็ยังไม่พอใจ



        "รู้ไหมว่าความประทับใจครั้งแรกน่ะ มันมีแค่ครั้งเดียว ถ้าประหม่าจนทำพลาดละก็ คนที่ซวยก็คือตัวน้องเองนะ"



        ธีโอดอร์แอบอมยิ้ม เขารู้ตัวว่าตัวเองไม่เคยประหม่าจนทำอะไรพลาดมาก่อน ท่าทางคนที่กำลังเครียดจนจะประสาทก็คือพี่สาวของเขาเองต่างหาก



        แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่พี่จะเครียด เพราะในอีกไม่นานเขาจะได้แนะนำตัวกับเหล่าเชื้อพระวงศ์และได้เข้าวังเป็นครั้งแรก...อย่างเป็นทางการ



        ทั้งๆที่ยังมีอายุไม่ถึงสิบห้าปีเต็ม



        ตอนแรกที่หมายเรียกมาถึงบ้าน พี่สาวที่เป็นนางสนองพระโอษฐ์องค์ราชินีก็แทบลมจับแล้ว เธอพยายามคิดหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาเป็นข้ออ้างรั้งตัวธีโอดอร์น้อยไว้ จนถึงขนาดว่าจะไปทูลขอองค์ราชินีด้วยตัวเอง



        แต่ไม่รู้ว่าองค์ราชินีทรงปั่นหัวพี่มายังไง สุดท้ายหล่อนเลยได้ลาพักร้อน2เดือนเต็ม แล้วก็เริ่มกลับมาฝึกกิริยามารยาทให้กับน้องชายที่บ้าน

        รู้อย่างนี้ยอมๆเขาไปตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องมาเผชิญกับการฝึกโค้งคำนับวันละเกือบสี่ชั่วโมง



        “เอาลองทำใหม่ซิ” พี่ฟีโอพูดประโยคเดิมเป็นครั้งที่ห้าสิบของชั่วโมงนี้แล้วก็ยืนกอดอก หญิงสาวรู้ดีว่าน้องชายเหนื่อยมากแล้ว การฝึกของนางกำนัลอาจจะไม่เหมาะกับเด็กอายุสิบสาม แต่เธอก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะช่วยเหลือน้องได้ดีไปกว่านี้ซึ่งนั่นทำให้เธอประสาทกินหน่อยๆ



        ก็น่าประสาทอยู่ ในเมื่อเขาจะเข้าวังไปในฐานะ เพื่อนเล่นของบรรดาองค์ชายและในอนาคตก็จะทำหน้าที่เป็นทั้งหมอหลวงประจำพระองค์และองครักษ์ข้างกายขององค์ชายซักพระองค์พ่วงไปด้วย นับเป็นตำแหน่งที่สำคัญและอันตรายจนหญิงสาวไม่ค่อยแน่ใจว่าน้องสุดท้องคนนี้จะรับไหว



        เพราะองค์ราชินีในปัจจุบันยังไม่ทรงพระครรภ์ซะที พระโอรสฝาแฝดที่เกิดจากพระสนมจึงยังครองตำแหน่งรัชทายาทอันดับหนึ่งอยู่และดูเหมือนว่าจะเป็นที่รักของคนทั้งวัง ความรักนั่นย่อมนำมาซึ่งภัยอันตราย เธอเองก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายๆอะไรขึ้นกับพระโอรส โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมันจะเกิดจากน้องชายของตัวเอง



        ธีโอดอร์แม้จะเฉลียวฉลาดเกินวัยและมีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว แต่เขาก็ยังเป็นแค่เด็ก ซึ่งอาจจะถูกใช้เป็นหมากของใครได้ง่ายๆ



        ฟีโอหลับตา แม้ว่าจริงๆแล้วสำหรับเธอจะเป็นแค่การควบคุมหนังตาให้ปิดลงเท่านั้น



        พี่เริ่มจะเครียดอีกแล้ว ธีโอคิดแล้วก็ทำหน้านิ่ว สงสัยจะคิดบทเรียนอะไรประหลาดๆขึ้นมาอีกรึไง ทุกครั้งที่พี่กังวลเธอมักจะหลับตาเสมอแม้ว่ามันจะให้ผลที่ไม่แตกต่างกันนัก... สีหน้าของเด็กหนุ่มหมองลงทันทีเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมองพี่สาวของตนแล้วก็รู้สึกตัวว่าตนเองสูงขึ้นขนาดไหนแล้ว เหมือนปีที่แล้วเขาจะสูงแค่ไหล่ของพี่เท่านั้น แต่ปีนี้ธีโอดอร์กลับสามารถประสานสายตากับนัยน์ตาคู่นั้นได้ตรงๆ



        นัยน์ตาสีขาวขุ่นที่ไม่สามารถสะท้อนภาพใดๆออกมาได้



        แต่อารมณ์เศร้าที่เขาสร้างขึ้นมาเองทั้งเพก็สะดุด เมื่อเสียงหวานๆพลันเปลี่ยนเป็นโทนแหลมกระแทกประสาท “อยู่นิ่งๆซิ ทำไมตราตระกูลมันเบี้ยวแบบนั้น ธีโอ! นี่คิดจะบอกคนทั้งวังรึไงว่าคนตระกูลเราแค่ติดตราตระกูลยังติดไม่ได้น่ะ อายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ธีโอ ถ้าเป็นคนธรรมดาป่านนี้ได้เตรียมหมั้นเตรียมแต่งงานแต่งการไปแล้วนะ”



        ...แล้วอย่างนี้ใครจะเชื่อว่าพี่ของเขาตาบอด เมื่อเธอมีประสาทสัมผัสดีเป็นยอด และปากก็คมเป็นเยี่ยม



        “พี่ฟีโอก็...เดี๋ยวคืนนี้ผมก็ต้องถอดชุด พรุ่งนี้ก็ต้องใส่ใหม่ ตอนนี้จะเบี้ยวนิดนึงมันก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ”



        แล้วนิ้วของคนที่เห็นอยู่ตำตาว่าตาบอดก็ดีดเพียะเข้าที่หน้าผากของธีโอทันที
        


        “หน้าที่และความรับผิดชอบน่ะ มันไม่ใช่เดี๋ยวถอดเดี๋ยวใส่ได้หรอกนะ” พี่ผู้แสนดีของเขาดุ “จะเล็กหรือว่าใหญ่หน้าที่ก็คือหน้าที่ สิ่งที่เราทำได้คือทำมันให้ดีที่สุด คนอื่นที่เขามองเราเขาไม่รู้หรอกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ จะพักอยู่หรือว่าจะไม่สบายอยู่ ถ้ามีตราตระกูลอยู่บนหน้าอก” เธอเอานิ้วจิ้มที่เข็มกลัดเงินบนอกของน้องชายแรงๆอย่างจงใจ “เธอก็คือคนของตระกูลและกำลังแบกรับชื่อเสียงเกียรติยศทั้งหมดเอาไว้ จำคำพี่ให้ดีธีโอ หลังจากพรุ่งนี้ น้องจะเป็นหน้าเป็นตาและเป็นความหวังของตระกูลสเวียร์นะ...”
        


        “แล้วเธอจะได้รู้ว่าสิ่งที่จะต้องแบกรับหนักหนากว่าเข็มกลัดเงินเล็กๆนี่นัก”



        ****************



        ยอดไปเลย...ไม่เจอกันนานแต่ฝีปากของพี่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเสมอ ขนาดเขาที่เตรียมตัวไว้พร้อมยังถึงกับตื่นเต้นขึ้นมาได้ ธีโอขยับเข็มกลัดตราตระกูลเป็นรอบที่ร้อย ตอนนี้เขากำลังอยู่ในห้องรอเฝ้าที่อยู่ข้างๆท้องพระโรง มันตกแต่งไว้อย่างสวยงามและอลังการชนิดที่ว่าหากไม่แอบเข้ามาดูก่อนเขาคงสติแตกเพราะความตื่นเต้นไปแล้วแน่ๆ เด็กหนุ่มถอนหายใจ นิสัยรอบคอบของเขาสร้างบุคลิกที่ดูดีและฉลาดเฉลียวในสายตาผู้อื่นได้ แต่เมื่อถึงขีดจำกัดที่เกินความสามารถของเขาไปแล้ว ธีโอดอร์ก็เป็นเพียงแค่เด็กธรรมดาๆเท่านั้นเอง...



        เด็กหนุ่มเดินไปตรงหน้าต่างและเริ่มจินตนาการถึงแผนเบี้ยวงานแนะนำตัวขึ้นมาเล่นๆ หน้าต่างห้องนี้อยู่สูงจากพื้นไม่เท่าไหร่ถ้าจะกระโดดลงไปก็คงแค่เจ็บข้อเท้าไปไม่กี่วินาที...



        “แต่ถ้านายโดดออกจากอาณาเขตจริงๆ พวกยามคงแห่กันมาก่อนเท้าจะได้ทันแตะพื้นซะอีกนะ” จู่ๆเสียงกลั้วหัวเราะของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มแทบหัวใจหยุดเต้น ธีโอดอร์หันหลังกลับและพบว่ามีเด็กหนุ่มอีกคนที่ประตูห้อง



        เขาเหมือนจะอายุมากกว่าธีโอ มีผิวขาวละเอียดที่บ่งบอกว่าเป็นคนชั้นสูง ผมสีเงินยาวถึงกลางหลังมัดไว้อย่างเรียบร้อย นัยน์ตาสีน้ำตาลและชุดสีขาวสะอาดที่ประดับไปด้วยลายไหมสีน้ำเงินยั้งธีโอไว้ไม่ให้ก้มลงคำนับ  เพราะจากข้อมูลที่พี่เขายัดใส่หัวมา หากไม่มีตราราชวงศ์ปักบนเสื้อแล้วเชื้อพระวงศ์ทุกคนจะมีไหมทองประดับเครื่องแต่งตัวอยู่ด้วยเสมอและยิ่งถ้าเป็นเชื้อพระวงศ์ที่มีสายเลือดใกล้ชิดก็จะมีดวงตาสีทอง



        ดูท่า...เด็กหนุ่มคนนี้คงจะเป็นแค่ผู้ช่วยนักบวช
        


        “หวัดดี” เขาทักอย่างเป็นมิตร “ฉันมารบกวนเวลาวางแผนอะไรของนายอยู่รึเปล่า?”



        สีชมพูปรากฏบนใบหน้าของธีโอจางๆ “ไม่นี่ ผมก็แค่...อยากสูดอากาศซักหน่อย”



        “งั้นเหรอ” อาคันตุกะในชุดขาวยิ้ม “ฉันนึกว่านายอยากกระโดดลงไปซะอีก”



        คนถูกรู้ทันยิ้มนิดๆ ความสามารถในการอ่านจิตใจ...แม้ว่าในหนังสือจะบอกว่าเป็นความสามารถที่หายาก แต่พี่ก็เตือนไว้แล้วว่าเป็นเรื่องปกติของคนในวัง



        “อ้าว? เปล่าหรอกเหรอ” นายผมเงินเอียงคออย่างแปลกใจ “โธ่เอ๊ย นึกว่าจะมีเพื่อนร่วมขบวนการซะอีก” เขาหันไปสำรวจประตูราวกับจะดูว่ามันปิดสนิทดีรึยัง ก่อนจะหันกลับมาถอนหายใจเฮ้อใหญ่  “รู้ไหม ตอนนี้ฉันตื่นเต้นจนอยากหนีไอ้งานแนะนำตัวนี่จะตายอยู่แล้ว” เด็กหนุ่มพูดพลางเดินมาที่หน้าต่างและชะโงกหัวลงไปมองข้างล่าง “นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเขากางอาณาเขตป้องกันแถบนี้เอาไว้นะ ฉันคงโดดหนีไปไหนต่อไหนแล้ว”
        


        “นายก็?”




        “เปล่า ฉันไม่ได้มาแนะนำตัว แต่ต้องมายืนขาแข็งตลอดพิธีเลย” เขาทำปากเบะ “นั่งก็ไม่ได้ กินน้ำก็ไม่ได้ อยากเข้าห้องน้ำยังต้องอั้นไว้เลย”



        ธีโอยิ้ม คนตรงหน้าชักจะเริ่มเผยนิสัยที่ละลายความตื่นเต้นของเขาไปได้มาก หัวใจที่เต้นตุบๆอยู่เมื่อกี้เริ่มผ่อนกำลังลง เด็กชายเริ่มกลับมาหายใจทั่วท้องอีกครั้ง



        “เอ้อ ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ?” คนตรงหน้าหันมาถามอย่างเป็นมิตรและยื่นมือมาให้



        “ธีโอดอร์ สเวียร์” ธีโอยื่นมือออกไปจับแล้วก็พลันรู้สึกว่ามือของคนตรงหน้าไม่ได้นุ่มนิ่มอย่างที่เขาคิด หากแต่ค่อนข้างหยาบกร้านเลยทีเดียว



        งั้นคงไม่ใช่เจ้าชาย
     


        “โห” คนตรงหน้าอุทาน “งั้นนายก็คือทายาทตระกูลสเวียร์คนนั้นน่ะสิ”



        ธีโอยิ้มและเริ่มรู้สึกว่าตราที่หน้าอกตัวเองเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น น่าอับอายจริงๆที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าทายาทของตระกูลเป็นพวกขี้ขลาดขนาดวางแผนจะหลบหนีการแนะนำตัว



        ยังไม่ทันเริ่มผมก็จะทำพังแล้วนะ พี่ฟีโอ...



        “งั้นนายก็รู้จักฟีโอโดร่าใช่ไหม? คนที่เป็นนางสนองพระโอษฐ์พระราชินีน่ะ คนที่เฮี้ยบๆหน่อยน่ะ”



        “เขาเป็นพี่สาวผมเอง”



        “หา?” เด็กหนุ่มตกใจ “งั้นนายเคยโดนเขาดีดหน้าผากเอาป่ะ? โคตรเจ็บเลยอ่ะ แม่นมากๆด้วย ฉันเคยโดนเข้าไปทีตอนโดนจับได้ว่าแอบหนีเรียน” เขาทำหน้าหวาดผวา “แถมด้วยบทเทศนายาวเหยียดว่าด้วยปัญญาเปรียบดังอาวุธต่อด้วย”



        “บทนั้นผมก็เคยโดน...แถมเมื่อคืนก็พึ่งโดนดีดไปทีด้วย” ธีโอเผลอคล้อยตามแล้วก็ต้องสะดุ้งกับคำพูดของตัวเอง เมื่อเด็กหนุ่มตรงหน้าหัวเราะร่วน



        เยี่ยม...พลาดก๊อกที่สองแล้ว



        “เอ้อ ฉันพล่ามอะไรไปตั้งเยอะแยะ ยังไม่ทันได้แนะนำตัวเลย” เขาพูดเหมือนพึ่งนึกออก แต่ว่าคำพูดประโยคต่อมาก็ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงเหี้ยมๆ ที่ตวาดขึ้นมาดังลั่น



        “ไม่ต้องแนะนำตัวอะไรกันทั้งนั้นแหล่ะ”



        คราวนี้เหมือนหัวใจของธีโอจะหยุดเต้นไปจริงๆเมื่อเห็นชายคนหนึ่งที่ประตู คนนี้ไม่ต้องค้นสมองให้เปลืองแรงเลย เพราะชุดเครื่องแบบสีแดงประดับด้วยดิ้นทองนั่นก็แทบจะทิ่มตาอยู่แล้ว ตราราชวงศ์รูปมังกรกับสิงโตยังเด่นหราอยู่บนอกข้างซ้ายเลยด้วยซ้ำ



        นัยน์ตาสีเขียวเข้มและผมยาวสีทอง โครงหน้าค่อนข้างเข้มเข้ากับวัยยี่สิบปลายๆ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ไวส์เคานท์นูช่าห์ มาเลน คนที่พี่บอกไว้ว่าให้หลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้



        พระอนุชาขององค์พระราชินี!



        แต่ไม่ทันที่ธีโอจะทันก้มลงคำนับ เขาก็ปราดเข้ามาคว้าแขนเด็กหนุ่มชุดขาว



        “นายมาทำเบื๊อกอะไรอยู่นี่? พิธีมันจะเริ่มอยู่แล้วนะ”



        “ผมแค่มาให้กำลังใจเด็กใหม่ไม่ให้เขาตื่นเต้นเอง”



        พระอนุชาหันมามองธีโอและนัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่นั้นก็หรี่ลงเล็กน้อย ประกายตาสีเขียวนั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์ “สเวียร์ใช่ไหม?”



        “กระหม่อม” ธีโอก้มลงคำนับ



        “ฉันจะแนะนำอะไรดีๆให้นะ สเวียร์” พระอนุชาเอ่ยเสียงเข้ม “คราวหน้าคราวหลังอย่าไปเชื่อคนแปลกหน้า โดยเฉพาะไอ้พวกที่โผล่ผลุบเข้าผลุบออกตามห้องต่างๆ ไว้ใจไม่ได้ซักคน” ว่าแล้วเขาก็ลากเอาเด็กหนุ่มชุดขาวที่ยังหันมาโบกมือให้ออกไป



        “โชคดีนะ ธีโอดอร์”



        เมื่อประตูห้องปิดลงอีกครั้ง คราวนี้ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ทิ้งให้ธีโอดอร์น้อยนั่งสับสนอยู่เพียงคนเดียว



        ไว้ใจไม่ได้อะไรกัน?




        ***********************



        ใช่แล้ว...ไว้ใจไม่ได้...



        ธีโอดอร์ที่บัดนี้รู้สึกเหมือนมีใครเอาน้ำเย็นๆมาราดหัวอยากจะโวยวายออกมาดังๆ แต่เขาก็ต้องยืนนิ่งสงบเสงี่ยม รักษามาดและกริยาไว้อย่างดี ซ่อนความตื่นเต้นสุดขีดไว้ภายใน



        มาเยี่ยมเด็กใหม่ไม่ให้ตื่นเต้นงั้นเหรอ



        ...แสบนักนะ...



        แสบนักนะ พระโอรส!



        ธีโอดอร์แทบอ้าปากค้างเมื่อเขาถูกเรียกชื่อเข้าไปคำนับองค์กษัตริย์แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับหนึ่งในพระโอรสพอดี



        เขายังสวมชุดคลุมสีขาวตัวเดิม แต่ต่างออกไปตรงที่ตอนนี้มันมีไหมสีทองประดับปะปนกับไหมสีน้ำเงิน ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลบัดนี้เปลี่ยนเป็นสีทอง และที่สำคัญเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่ “ใครก็ไม่รู้ที่เที่ยวผลุบๆโผล่ๆไปตามห้องต่างๆ” อีกต่อไป



        แต่เป็นพระโอรสของสนมเอก...เป็นเจ้าชาย...



        เจ้าชายเอเลียต บรีอา อังเดร อลาม นอสแตรม



        หนึ่งในว่าที่เจ้าชายรัชทายาท คนที่อาจจะมาเป็นนายเหนือหัวของเขาในอนาคต



        นี่สินะสิ่งที่จะต้องแบกรับอันหนักหนากว่าเข็มกลัดเงินเล็กๆ



        ความเครียดและความกดดันอันน่าหวาดผวาจากการเล่นสนุกของผู้มีอำนาจ!



        ธีโอดอร์ถึงกับต้องกัดริมฝีปากของตัวเองไว้ก่อนที่จะเอ่ยชื่อยศและตำแหน่งของตัวเองออกมา เดชะบุญที่เขาไม่เผลอตื่นเต้นจนแสดงท่าทีตกใจออกไป ใบหน้าของเด็กหนุ่มยังเรียบ นิ่ง เฉยและแฝงไว้ด้วยความสง่าตามอย่างที่พี่สาวซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของบังลังก์องค์ราชินีต้องการ



        “ฝ่าบาท กระหม่อม ลอร์ด ธีโอดอร์ ฟีโอโดร่า สเวียร์ ผู้ใช้ตุ๊กตา ถวายพระพร ขอจงทรงพระเจริญ”  



        *******************
    วะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ธีโอดอร์ลูกแม่ แย่งซีนทั้งยูเกลและลอเรลได้ทั้งตอน! (มันน่าปลื้มตรงไหนวะ?)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×