ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hunter X Hunter (Y) : Wild Hearts Can\'t Be Broken

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 2 : He Wakes : Part 3

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 49



    “กอร์น ทำอะไรของนายน่ะ!?” เพื่อนของเขาส่งเสียงเตือน เด็กชายอีกคนหนึ่ง คนที่ดูรอบคอบระมัดระวังกว่า เห็นได้ชัดว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับคำพูดโพล่งเมื่อครู่ เป็นไปได้ที่เขาคิดว่าการขัดบทสนทนาของเหล่าแมงมุมไม่ใช้การกระทำที่ชาญฉลาดนักหากยังนึกรักตัวกลัวตาย

    กอร์นไม่สนใจคำทัดทานของเพื่อน หรือแม้แต่สายตาเย็นเยียบของเฟย์ตันที่จ้องเขม็งมาที่เขา เขาพูดต่อด้วยความกล้าบ้าบิ่นตามแบบฉบับของผู้ใช้เน็นสายเสริมพลัง

    “คุราปิก้าเป็นผู้เหลือรอดคนสุดท้ายของเผ่าเขานะ”

    เด็กนี่... กำลังร้องขอชีวิตให้คนใช้โซ่ เรียกร้องทุกความเห็นใจที่อาจยังคงหลงเหลืออยู่ของผู้จับกุมให้ไว้ชีวิตสมาชิกคนสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ที่สาปสูญ ปาคูโนด้าเห็นได้ถึงความมุ่งมั่นในแววตาของเขา เขาจะยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแลกกับชีวิตของเพื่อนพ้อง – แม้จะต้องก้มหัววิงวอนศัตรูก็ตาม

    เด็กผมขาวต้องเข้าใจสิ่งที่กอร์นกำลังพยายามทำอยู่แน่ เมื่ออยู่ๆ เขาก็ยืดตัวตรงหลังจากจ้องมองเพื่อนอีกคนอยู่นานสองนาน เขาเผชิญหน้ากับพวกเงามายาด้วยสีหน้าแน่วแน่มั่นคงอย่างเดียวกัน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ เด็กคนนี้จ้องตอบเฟย์ตันด้วยสายตาที่เหี้ยมไม่แพ้กัน แถมยังพาลไปถึงสมาชิกคนอื่นทุกคนด้วย ราวกับว่าแค่ลำพังการจ้องตา เขาก็สามารถสั่งการให้เงามายาปล่อยตัวพวกเขาไปได้

    มันคงเป็นเรื่องที่ตลกน่าดู ถ้าไม่ใช่ความจริงที่ว่า สิ่งที่เด็กสองคนนี้กำลังทำเป็นเรื่องโง่เง่าแบบสุดๆ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และพวกเขาเองก็รู้ตัวดีด้วยว่าเขาอาจหมดลมหายใจเพราะการก้าวล้ำเส้นครั้งนี้

    เสียงทุ้มเย็นของหัวหน้าปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ความคิดเมื่อนึกถึงอนาคตอันไม่นำพาของสองตัวประกัน

    “ปาคู? ความทรงจำของเด็กสองคนนี่ ช่วยหน่อยนะ”

    อ๋อ ใช่ ทั้งสามคนนี้เคยรู้จักกันมาก่อน เรื่องที่เธอไม่สามารถเรียกความทรงจำเกี่ยวกับเด็กผมทองออกมาได้มากนักเมื่อการสำรวจครั้งแรก เป็นแค่เพราะติดขัดตรงเงื่อนไขและสถานการณ์เท่านั้น ตอนนี้ แม้ขณะที่พวกเขากำลังระดมความคิดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนอยู่นั้น เธอก็คาดว่าคงสามารถดึงเอาความทรงจำทั้งหมดที่พวกเธอต้องการออกมาได้อย่างง่ายดาย

    เธอเริ่มจากเด็กชายที่ชื่อกอร์น เขาไม่แม้แต่จะผงะหนีเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้และเอามือวางบนไหล้ซ้ายของเขา นัยน์ตากลมโตสีช็อคโกแลตเงยหน้าจ้องเธออย่างท้าทาย ทำให้เธอประสาทเสียด้วยความเปิดเผยเถรตรงของมัน

    ปาคูโนด้าหลอมรวมความหนักแน่นที่กระจัดกระจาย และเตือนใจตนเองว่า พวกเงามายา ไม่ควรจะถูกเรื่องไร้สาระอย่างเช่น การถูกแวมตากลมโตจากพวกเด็กเมื่อวานซืนจ้องเขม็ง มาทำให้สติสตังค์ไขว้เขว เธอแถลงถ้อยคำถามที่จะเป็นตัวลั่นไก กระตุ้นให้ความทรงจำของเด็กชายไหลบ่าออกมาราวกับทำนบน้ำพังทลาย

    “เธอรู้จักเจ้าคนใช้โซ่ดีแค่ไหน?”

    ภาพมากมายผ่านมาและผ่านไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายเดือนถูกบีบอัดลงให้สั้น เหลือเพียงแค่ไม่กี่วินาที - ไม่ค่อยยุติธรรมกับชีวิตมนุษย์สักเท่าไหร่ เธอคิดเป็นบางครั้ง แต่นั่นแหละเป็นกระบวนการที่เน็นของเธอทำงาน เธออ่านความทรงจำเหมือนกับพลิกหน้าหนังสือ สามารถบังคับให้เพิ่มความเร็วหรือช้าลงได้ตามใจสั่ง แต่เวลาจริงของโลกภายนอกนั้นไม่เคยยาวนานเกินกว่าหนึ่งนาทีเลย ไม่ว่าเธอจะบุกรุกเข้าไปในจิตใจคนอื่นสักกี่ครั้งกี่หนก็ตาม

    เธอมองเห็นช่วงเวลาที่คนใช้โซ่กับเด็กชายพบกันครั้งแรก บนเรือที่มุ่งหน้าไปยังเกาะสถานที่ลงสมัครสอบฮันเตอร์ ที่ที่เขาพิสูจน์ความเฉลียวฉลาดของตนโดยการอธิบายอย่างซับซ้อนและยืดยาวเรื่องแสงไฟเซนต์เอลโม่ เธอรู้สึกได้ถึงความเกรงขามจากกอร์นเมื่อเขาเห็นคุราปิก้าใช้ความแข็งแกร่งสยบชายนัยน์ตาปูดโปนและร่างใหญ่โตกว่าเขาถึงสี่เท่า โทษฐานอ้างตัวเป็นสมาชิกกลุ่มโจรเงามายา เธอเห็นถึงความเป็นผู้นำของเป้าหมายรายนี้ เมื่อเขาแสดงมันออกมาตอนที่เหล่าผู้สมัครสอบฮันเตอร์ถูกสถานการณ์บังคับให้ช่วยกันควบคุมเรือไม่ให้อับปาง เพื่อจะรอดชีวิตจากพายุร้าย เธอยังสังเกตได้ถึงความแข็งแกร่งในฐานะนักสู้เมื่อเขาเผชิญหน้ากับคนที่เธอคุ้นหน้าที่สุดคนหนึ่งในรอบสุดท้ายของการสอบฮันเตอร์

    เธอฝ่าไปถึงภาพความทรงจำระลอกใหม่ ลากสายตาผ่านๆ รายละเอียดปลีกย่อยของการเดินทาง และไปจดจ่อกับส่วนที่เด็กหนุ่มผมทองมีส่วนร่วมมากที่สุดแทน หลังจากนั้น มีช่วงเวลา 6 เดือนที่กอร์นกับเด็กชายอีกคนแยกจากเพื่อนๆ และเธอไม่พบเจอความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเด็กหนุ่มเลยระหว่างช่องว่างของเวลาที่ว่างเปล่า

    เธอสันนิษฐานว่ามันน่าจะเป็นเวลาที่คนใช้โซ่ฝึกเน็นแยกจากบรรดาเพื่อนๆ เธอคงต้องตรวจสอบความทรงจำของเด็กหนุ่มเผ่าคูลท์อีกทีเพื่อยืนยันในเรื่องนี้ แต่ความจริงทั้งหมดที่เปิดเผยมายิ่งย้ำถึงเรื่องที่ว่า หนุ่มผมทองคนนี้ ปิดบังความสามารถของตัวเองไม่ยอมบอกเพื่อนจริง

    ภาพนั้นลากผ่านเส้นด้ายแห่งความคิด มุ่งตรงไปสู่ความทรงจำที่เธอดึงขึ้นมาเมื่อครั้งที่โรงแรมไฟดับ ปาคูโนด้าก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าเธอปะทะเข้ากับบางสิ่งที่ดักทางเธอไว้ มันเหมือนกับกำแพงหนา ขัดขวางเธอไม่ให้บุกรุกเข้าไปไกลกว่านั้น พยายามป้องกันไม่ให้เธอเห็นงั้นรึ...?

    ไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็แค่ความคิดโง่ๆ น่ะ เด็กชายตัวเปี๊ยกแค่นี้จะสร้างกำแพงจิตใจมากั้นขวางพลังของเธอได้อย่างไรกัน น่าหัวเราะ

    ... เด็กคนนี้รู้ตัวเรื่องกำแพงนี่รึเปล่านะ?

    คงไม่หรอก เด็กชายยังคงจ้องตอบเธอโดยไม่แสดงสัญญาณอะไรออกมาให้เห็น ไม่มีสิ่งใดบ่งชี้ว่าเขารู้เห็นเรื่องสิ่งกีดขวางที่กีดกันเธอออกจากความทรงจำของเขา และยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเธออ้อมผ่านสิ่งกีดขวางนั้นไปได้อย่าง่ายดายหลังจากแค่เพ่งสมาธิลงไปอีกนิดหน่อย คงทำไปโดยไม่รู้ตัวล่ะนะ การดิ้นรนอย่างสิ้นหวังเพราะความอยากช่วยเพื่อนที่เอ่อล้น กำแพงจิตใจนั้นอ่อนแอ และไร้ความหมายต่อหน้าคนเช่นเธอ ผู้ซึ่งชีวิตและความตายฝากไว้กับพลังเน็นอย่างแท้จริง

    อย่างไรก็ดี มันเป็นเรื่องที่หัวหน้าคงอยากรู้ เธอต้องบอกเขาทีหลัง

    เธอทะลุผ่านเข้าไปยังความทรงจำนั้น ภาพเหตุการณ์ที่เธอเห็นเป็นครั้งที่สอง ย้อนกลับไปยังที่โรงแรม ครั้งนั้นภาพที่ถูกตีแผ่มันไหลหลากเข้ามาอย่างรวดเร็วเกินไป รวดเร็วฉาบฉวยเกินกว่าที่เธอจะซึมซาบข้อมูลต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง แต่ตอนนี้เธอมีเวลาของโลกทั้งใบในการพิจารณาทุกอย่างด้วยสายตาถี่ถ้วน เธอเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เด็กชายผมทอง (ในความทรงจำ) พูดเกี่ยวกับความสามารถเน็นของเขา

    จุดอ่อนของเขา... เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง นี่เองที่ทำให้ความสามารถนั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่ง แต่ก็อาจนำเจ้าของจมดิ่งลงสู่ความพินาศเช่นกัน ถ้าพวกเขาเลือกเดินหมากให้ถูก โนบุนากะคงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้ข้อจำกัดราวดาบสองคมของคนใช้โซ่ในการแก้แค้นโดยไม่รอให้ผ่านการรับรองจากหัวหน้า ถ้าเธอเปิดเผยความลับออกมา เธอจึงตัดสินใจจะปรึกษาเรื่องนี้กับคุโรโร่ก่อน

    เธอถอนตัวออกมาจากห้วงความคิดของเด็กชาย และใช้เวลาสองสามวินาทีในการเรียบเรียงสติให้กลับเข้าที่ ขอบเขตความทรงจำยิ่งกว้างขวางยิ่งมักทำให้เธอรู้สึกสับสน แถมคราวนี้ยังเป็นหนึ่งในความทรงจำที่มีอาณาเขตกว้างที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา

    และความสับสนก็มักนำมาซึ่งอารมณ์ที่ยุ่งเหยิง

    ความจริงมันก็ไม่ได้เข้มข้นขนาดนั้นเมื่อเทียบกับหลายความทรงจำที่เธอเคยผ่านมือ อาจเป็นเพราะว่าเป้าหมายคราวนี้เป็นเด็กก็ได้ เด็กที่ไร้เดียงสาและมารยา อารมณ์ความรู้สึกของเขานั้นบริสุทธิ์ ตรงไปตรงไป ไม่มีแอบซ่อนปิดบัง การทำลายร่องรอยทุกอย่างของอารมณ์คนที่เธออ่านใจนั้นเพื่อป้องกันการผสมปนเประหว่างความรู้สึกส่วนตัวของเธอเอง ซึ่งในตอนนั้นมันกลับเหลือน้อยเต็มที

    เธอเสียใจรึเปล่านะ? ไม่หรอก อุโบกินเป็นหนึ่งในสมาชิกรุ่นแรก และพวกเขาผ่านอะไรหลายๆ อย่างมาร่วมกัน รู้จักกันมามากเกินกว่าจะอภัยให้นักฆ่าคนนี้ได้ง่ายๆ เหตุผลจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ แถมเรื่องนี้ยังเลวร้ายที่สุดสำหรับโนบุนากะ คนที่รู้จักอุโบมาตั้งแต่ก่อนเข้ากลุ่มแมงมุม

    แต่ว่า... ปาคูโนด้าก็รู้ด้วยว่า... เด็กพวกนี้เป็นเพื่อนสนิท สนิทกันอย่างเหนียวแน่น เหมือนกับกลุ่มแมงมุมของเธอ บางทีเธอคงแบ่งปันความเห็นใจเพียงเล็กน้อยเพื่อพวกเขาได้ จากความเป็นมนุษย์ในใจที่ยังหลงเหลืออยู่

    เธอเงยหน้า เพิ่งสังเกตว่าเสียงกดแป้นคีย์บอร์ดคองชาร์นาร์คหายไปแล้ว ตอนนี้เขากำลังกวาดสายตาทั่วจอมอนิเตอร์อย่างตั้งอกตั้งใจ และจากตรงที่เธอยืนอยู่ เธอสังเกตเห็นว่าคิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×