ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hunter X Hunter (Y) : Wild Hearts Can\'t Be Broken

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 2 : He Wakes : Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 49


    “แผนในใจ” รึ อ๋อ แน่ล่ะ

    ปาคูโนด้าไม่เคยตั้งคำถามเรื่องสุขภาพจิตของหัวหน้ามาก่อน แน่นอน ไอเดียและแผนการหลายๆ อย่างของเขาฟังดูโง่เง่าและเหมือนกับการฆ่าตัวตายในสายตามนุษย์ปุถุชนคนปกติทั่วไป แต่ อย่างว่า ไม่มีใครในกลุ่มเงามายาซักคนที่ปกติ แถมส่วนใหญ่ค่อนข้างจะออกไปทางวิกลจริตซะด้วยซ้ำ พร้อมด้วยทักษะและความสามารถอย่างที่คนธรรมดาทั่วไปได้แต่ฝันถึง แผนการของหัวหน้าลงตัวสำหรับพวกเขา และบรรดาสมาชิกก็พร้อมปฏิบัติตามแผนต่างๆ ที่วางไว้ด้วยความเบิกบานใจราวกับมันเป็นแผนการที่ดีที่สุดในโลกก็ไม่ปาน ความเชี่ยวชาญเชิงกลยุทธ กับความเป็นผู้นำของเขาไม่เคยทำให้ลูกน้องต้องผิดหวัง ดูจากสถิติที่ผ่านมาในแต่ละภารกิจ จนกระทั่งบัดนี้ อัตราความสำเร็จก็ยังคงเป็น 100% เช่นเดิม หมายความว่าพวกเขาไม่เคยแพ้

    ดังนั้น ในตอนนี้ เธอจึงสงสัยว่าชิ้นส่วนอันใดในตัวหัวหน้าถูกน็อคจนหลุดหายไประหว่างการดวลสั้นๆ กับเจ้าคนใช้โซ่ นั่นรึเปล่า?

    มองจากภายนอกเขาก็ดูปรกติดี ไม่มีบาดแผล หรือแม้แต่รอยขีดข่วนใดๆ ที่บ่งบอกว่าเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเขาเพิ่งถูกจับไปเป็นตัวประกันอยู่หมาดๆ ระบบการทำงานของสมองเขามากกว่าที่น่าเป็นห่วง

    เขาเพิ่งมาถึงเมื่อห้านาทีที่แล้ว ท่ามกลางความโล่งใจของหลายๆ คน และความยินดีจากสมาชิกที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกมากกว่า ซึ่งยาวนานจนกระทั่งเมื่อเขาวางสัมภาระที่ดูน่าสงสัยลงจากไหล่ซ้าย

    พวกเขามองเห็นไม่ค่อยถนัด นั่นก็เป็นเพราะเวลาที่ล่วงเลยมาจนดึกดื่นแล้ว และพวกเขามีเทียนไขแค่ไม่กี่เล่มกับหลอดไฟชราภาพไม่กี่ดวงสำหรับให้แสงสว่าง เมื่อแสงสลัวช่วยเผยโฉมใบหน้าของร่างที่ไม่ได้สติ โนบุนากะก็เกิดอาการเครื่องรวนทันที

    “เจ้าคนใช้โซ่!!”

    “อะไรนะ?”

    นี่มันเจ้าคนใช้โซ่ไม่ใช่เหรอ!?”

    “หัวหน้า เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!?”

    “เราน่าจะฆ่า – ”

    “ปล่อยฉัน!! ฉันจะจัดการมัน - ”

    “พวกนายทุกคน!!!”

    เสียงคำรามราวกับฟ้าผ่าลงท่ามกลางคำถามมากมายที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และแม้แต่โนบุนากะซึ่งกำลังฉุดกระชากกับแฟรงคลินที่พยายามห้ามไว้ ยังต้องหยุดแล้วหันมามอง

    ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยได้ยินหัวหน้าแผดเสียงตะโกนมาก่อน แม้เขาจะเป็นหัวหน้าที่เข้มแข็งเพียงใด เขาก็ยังเป็นมนุษย์ ย่อมต้องมีอารมณ์และความรู้สึกกันบ้าง แต่จำนวนครั้งที่เขาบันดาลโทสะก็น้อยมาก และหาได้ยากยิ่งกว่ายากเสียอีก ปาคูโนด้าสามารถเสี่ยงทายได้เลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ชิซึคุ สมาชิกคนล่าสุดของกลุ่มเงามายา ได้ยินคุโรโร่ขึ้นเสียงสูงกว่าเสียงทุ้มต่ำแบบปกติที่เขาเคยใช้

    “สงบสติอารมณ์กันหน่อย” หัวหน้ากลุ่มพูดด้วยเสียงที่สูงยิ่งกว่าเดิม “คนใช้โซ่จะยังไม่ตื่นภายในหนึ่งชั่วโมงหรอก ฉันแน่ใจในเรื่องนั้น”

    การพูดประโยคที่สองนับว่าจับจุดได้ดี เขาบอกเป็นนัยว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม และสามารถสลายความโกลาหลชั่วครู่ลงไปได้ แฟรงคลินเอามือใหญ่ยักษ์ออกจากการเกาะกุมไหล่ของโนบุนากะซึ่งบ่นพึมพำคำสบถไม่ได้ศัพท์ เขาจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่และส่งสายตาจ้องเขม็งไปที่ชายร่างยักษ์ สมาชิกคนอื่นๆ ดูผ่อนคลายลงอย่างสังเกตเห็นได้

    คุโรโร่ทำเสียงถอนหายใจอย่างขุ่นเคืองเมื่อเขาเห็นว่าทุกๆ คนต่างก็สงบลง ไม่มากก็น้อย เขาเดินห่างออกไปสองสามฟุต แต่ยังคงอยู่ในระยะโจมตีจากร่างทีหลับใหลของคนใช้โซ่ ปาคูโนด้าสังเกตเห็น เธอนั่งลงอย่างโกรธเคือง มาจิเดินไปอยู่ข้างๆ คุโรโร่ทันทีแล้วเริ่มหาร่องรอยของบาดแผล

    “ฉันสบายดี” เขาพูดให้เธอมั่นใจ แต่ก็ไม่ทำอะไรเพื่อยับยั้งสาวน้อยสีหน้าไร้อารมณ์คนนี้ขณะที่เธอกำลังหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ “จริงๆแล้วพวกเราไม่ได้ต่อสู้กันหรอก เด็กผู้ชายคนนี้เสียสมาธิเอง ฉันเลยพาตัวเขากลับมา จบข่าว”

    “ไม่ได้สู้กันหรอกเรอะ?” ฟิงคส์ถามเสียงก้อง ท่าทางเขาดูผิดหวังด้วยเหตุผลบางอย่าง “แย่จัง ฉันนึกว่าหัวหน้าสู้กับเขาจนชนะ – เดี๋ยวก่อนนะ! เมื่อกี๊หัวหน้าพูดว่า ‘เด็กผู้ชาย’ งั้นเหรอ!?” เขาหมุนตัวกลับไป แล้วก้มลงตรงหน้าเด็กผมทองซึ่งหมดสติ หรี่ตาพินิจมองใบหน้าขาว หลังผ่านไปหนึ่งนาทีที่เขาเพ่งมองและขยี้ตาด้วยความไม่แน่ใจ เขาก็เอียงคอกลับหันไปจ้องหน้าหัวหน้า ปาคูโนด้าสาบานว่าเห็นฟิงคส์ทำสีหน้าเก้อเขินแบบเจื่อนๆ เหมือนตัวเองถูกหลอก

    “อะไรกันเนี่ย? หมายความว่านายไม่รู้ว่าคนใช้โซ่เป็นผู้ชายงั้นเรอะ?” หัวหน้าถามด้วยความขบขัน

    “ก็แหงสิ ไอ้หมอนี่มันเหมือนผู้หญิงจะตายไป…”

    หัวหน้าหัวเราะเบาๆ “งั้นฉันก็ไม่น่าถอดวิกกับเช็ดลิปสติกของเขาออกเลยนะ”

    ตาของฟิงคส์เบิกกว้างขึ้นให้กับประโยคทิ้งท้าย แต่มันก็กลับคืนสู่ขนาดปกติได้อย่างรวดเร็ว และอารมณ์ประหลาดใจก็ถูกแทนที่ด้วยคิ้วที่ขมวดอย่างใช้ความคิด

    “มีอะไรอีกงั้นรึ?”

    “ไม่รู้สิ หัวหน้า... ไอ้เด็กคนนี้... ดูไม่แข็งแรงพอจะชนะอุโบกินได้”

    “เขามีฝีมือนะ เชื่อฉันสิ ฉันยังต้องค้นหาอีกว่าความสามารถเน็นของเขาคืออะไร แต่ฉันบอกได้อย่างนึง เน็นของเด็กคนนี้ มันเหมือนกับจะป้องกันไม่ให้ชั้นใช้เน็น... ด้วยวิธีการบางอย่าง พูดง่ายๆ คือบังคับให้ฉันอยู่ในสภาพเซ็ทสึ ฉันทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากต้องใช้พละกำลังของตัวเองสลัดโซ่ให้หลุด”

    “งั้นเขาก็ใช้วิธีนั้นเอาชนะอุโบกินงั้นสิ? แต่ว่าทำไม ทั้งที่อุโบกินมีพละกำลังมหาศาลขนาดนั้น อุโบน่าจะดึงโซ่ให้หลุดได้ไม่ใช่เหรอ” ชาร์นาร์คครุ่นคิด

    “ไอ้เวรนี่มันต้องใช้วิธีสกปรกกับอุโบกินแน่ๆ” โนบุนากะคำราม

    “ไม่หรอก…” แฟรงคลินพูดขึ้นมา
    “โซ่ของมันต้องแข็งแรงมากจนแม้แต่อุโบกินก็ยังดึงไม่ขาด ก็เท่านั้นแหละ”

    “แฟลงคลิน!”

    “ฉันไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้เป็นประเภทที่ชอบใช้อุบายสกปรกหรอก เรื่องฆาตกรรมเลือดเย็นยิ่งแล้วใหญ่  เขายังเด็กเกินไป ยังอ่อนหัดไร้ประสบการณ์” แฟรงคลินสรุปเรียบง่าย

    เขาไม่พูดอะไรต่ออีก แค่มองร่างกายใหญ่โตของเขาที่ทำให้ร่างบอบบางของคนใช้โซ่ดูแคระแกร็นไปถนัดตา ก็ยิ่งทำให้คำพูดของเขาฟังดูน่าเชื่อถือมากขึ้น และปาคูโนด้าพบว่าเธอเห็นด้วยกับเขา

    ความทรงจำที่เธอได้มาจากบอดี้การ์ดแก๊งค์นอสทราดนั้นไม่ค่อยน่าโสภาเท่าไหร่นัก ซึคุวาร่า – เธอจำชื่อที่ทุกคนเรียกเขาได้ – คิดว่าสมาชิกคนล่าสุดของกำลังพลคุ้มกันแก็งค์นอสทราดเป็นคนค่อนข้างประหลาด และต่างจากเขาอย่างสุดขั้ว นายทหารหน้าใหม่นายนี้ ตอนที่เจอกันครั้งแรกที่แมนชั่นนอสทราด ก็ได้แสดงความเฉลียวฉลาด และปฏิภาณไหวพริบของเขาโดยการชี้ตัวสมาชิกเก่าที่แอบแฝงเข้ามาปะปนในบรรดาผู้สมัครได้อย่างน่าทึ่ง หนุ่มผมทองผ่านฉลุยเข้ารอบโดยใช้เวลาปิดฉากการทดสอบแค่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น การพบปะกันครั้งนั้นทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูเป็นคนเย็นชา ค่อนข้างจะสันโดษ และมีแนวโน้มเป็นคนที่แสดงความเห็นตรงไปตรงมา พูดง่ายๆ ก็คือขวานผ่าซาก

    ปาคูโนด้ายังเห็นอีกเรื่องหนึ่งผ่านทางความทรงจำของซึคุวาร่าอีกด้วย ครั้งแรกที่ความสามารถของเจ้าคนใช้โซ่ – หรือคุราปิก้าน่ะแหละ – เป็นที่ประจักษ์เต็มตา ย้อนกลับไปตอนนั้น ณ สถานที่เกิดเหตุการณ์บอลลูนตกและอุโบกินถูกจับตัวไปครั้งแรก เด็กหนุ่มผมทองจ้องมองอุโบกินอาละวาดยำใหญ่ผ่านกล้องส่องทางไกล ทันใดนั้นออร่าของเด็กชายก็แปรเปลี่ยนเป็นรังสีอำมหิตน่าเกรงกลัว คุราปิก้าต้องเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้อารมณ์เขาเดือดพล่านแน่ เพราะเขาดูโกรธจัดมาก เน็นโหมกระพือรอบตัวเขาอย่างบ้าคลั่งเกรี้ยวกราด ทำให้ไม่มีใครในกลุ่มกล้าเข้าไปห้ามเมื่อเขาประกาศความตั้งใจของตนที่จะเข้าไปหยุดยั้งการต่อสู้ ต่อเมื่อคนที่ชื่อเซ็นริทสึช่วยระงับคุราปิก้าเอาไว้ให้เขาสงบลง แต่แม้กระนั้น เขาก็ยังคงแน่ใจว่าเขาจะสามารถกระทำในสิ่งที่แม้แต่นักฆ่าติดอาวุธหลายร้อยคนยังต้องพบกับความล้มเหลว : จับกุมตัวและสังหารอุโบกิน – ซึ่งเขาก็ทำได้ซะด้วย เรื่องนี้ทำให้เขาได้ความนับถือจากซึคุวาร่าไปเต็มๆ

    ข่าวเรื่องที่คุราปิก้าทำสำเร็จในสิ่งที่แม้แต่กลุ่มเงาสมิงอันเลื่องชื่อลือชาก็ยังทำไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับชายฝึกสุนัขคนนี้อย่างมาก เขาคิดว่า เด็กหนุ่มผมทองคนนี้เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง หลังจากเหตุการณ์นั้น เด็กหนุ่มยังถูกเชิญให้เป็นหนึ่งในกลุ่มนักฆ่าที่สิบผู้เฒ่าให้มาร่วมมือกันกำจัดกลุ่มโจรเงามายาอีกต่างหาก! ทุกอย่างที่เธอสกัดได้มาจากบอดี้การ์ดที่ตายไปแล้วนั้น ทั้งหมดคือคำยกย่องสรรเสริญ และความเคารพยำเกรง ความรู้สึกของชายคนนี้มีผลกับความคิดของเธอ บังคับให้เธอย้อนกลับมามองสถานการณ์ปัจจุบันของเงามายาในมุมกลับของด้านที่เลวร้ายที่สุด ด้วยสิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับคนใช้โซ่จากความทรงจำที่แย่งชิงมา

    เด็กที่นอนสลบไสลอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ ไม่มีอะไรคล้ายคลึงกับนักฆ่าเลือดเย็นที่ปรากฏในความทรงจำเหล่านั้นเลย


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×