ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hunter X Hunter (Y) : Wild Hearts Can\'t Be Broken

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : Impression : Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 49




    Chapter 1 : Impression





    “ปาคู?”



    ภาพมากมายไหลหลากเข้ามาด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ แต่เธอเห็นมันทั้งหมด เริ่มเข้าใจสถานการณ์ด้วยความจริงอันน่าปวดหัว เธอไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนๆ แต่กลับเพ่งสมาธิไปที่ความทรงจำของบุคคลซึ่งทิ้งเศษกระดาษที่ดูไร้พิษสงแต่กลับพันอยู่รอบมีดสั้นอันเป็นลางร้าย



    ร่างร่างหนึ่งกระโจนออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ของพนักงานต้อนรับ มือพุ่งไปข้างหน้า ปาโซ่เน็นล้อมจับเป้าหมาย ตาสีแดง โซ่รึ? คนใช้โซ่นั่น... ใบหน้าบอกถึงความมุ่งมั่นและชัยชนะ ใบหน้าเจ้าของฉายา “คนใช้โซ่” ที่พวกเขาตั้งให้ ...เครื่องแบบนั่น...? ศัตรูแต่งตัวเป็นพนักงานต้อนรับหญิง! ช่างคิดเหลือเกินนะ เหตุการณ์นี้ไม่ได้ถูกคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า เป็นการจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว



    และหัวหน้าของพวกเขาก็ต้องถูกสังเวยให้กับความโง่เขลาครั้งนี้



    ข้อความหวัดๆ ที่ถูกเขียนอย่างเร่งรีบบนเศษกระดาษนั้น ง่าย สั้น และตรงไปตรงมา



    “ถ้าบอกเรื่องที่เห็นจะฆ่าทิ้งซะ”



    และปาคูโนด้าไม่สงสัยเลยว่ามันทำจริงแน่ ถ้าเธอกล้าเปิดเผยความทรงจำของสองนักโทษให้กับสมาชิกกลุ่มที่เหลือ ภาพที่ปรากฏออกมาของคนใช้โซ่นั้นรุนแรง และน่ากลัว พูดให้ง่ายคือ มันเป็นศัตรูที่ร้ายกาจ คล่องแคล่ว เด็ดเดี่ยว เจ้าเล่ห์ และช่างคิด มันได้ทำในสิ่งที่น่าจะเป็นไปไม่ได้ คือการจับตัวหัวหน้าที่แข็งแกร่งของกลุ่มโจรเงามายาในเวลาชั่วพริบตาเดียว แต่ถึงกระนั้น เวลาแค่นั้นก็น่าจะเกินพอสำหรับหัวหน้าที่จะหลบการโจมตี แล้วทำไมถึง...?



    แน่ล่ะ เหตุการณ์ไฟดับกะทันหัน ช่วงเวลาแห่งความลังเลสับสนท่ามกลางความมืดมิด ทำให้สมาธิของหัวหน้าเสียไปชั่วอึดใจ ไม่ถึงวินาที ช่วงเวลาที่เล็กน้อยจนไม่อาจวัดค่าได้ แต่มันก็เพียงพอแล้ว เวลาแค่เสี้ยววินาทีก็ยังสำคัญเมื่อชีวิตแขวนอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ไม่มีคำปลอบใจให้กับความผิดพลาดครั้งนี้ ความคิดล่าสุดที่เธอดึงออกมาจากเด็กพวกนั้นได้คือ “ตัดไฟ” กับ “ลงมือตอนทุ่มตรง” ไม่มากพอจะระบุได้ว่าเป้าหมายคราวนี้คือหัวหน้า ตอนนี้ก็เห็นชัดๆ แล้วว่า ผู้ชายที่ตะโกนโวยวายใส่มือถือคนนั้นเกี่ยวข้องกับเจ้าคนใช้โซ่ เป็นคนแจ้งข่าวเวลาลงมือให้กับนักโทษ และเจ้าเด็กพวกนี้ก็ปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างน่ารักน่าประทับใจ โดยการเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาได้อย่างสิ้นเชิง จนลืมสังเกตว่าหัวหน้าถูกลักพาตัวไปแล้ว กระทั่งเมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง แขนเธอหักแล้วฟันก็หลุดไปหลายซี่ ส่วนมาจิน่าจะซี่โครงหักมากกว่าหนึ่งหรือสองตำแหน่ง บาดแผลพวกนี้อาจสาหัสถึงตายถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นนักสู้ซึ่งเชี่ยวชาญการใช้เน็น แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็ช่วยยับยั้งพวกเงามายาไม่ให้ไล่ตามคนใช้โซ่ไปในตอนนี้



    หลักแหลมมาก วางแผนมาได้อย่างยอดเยี่ยมหมดจดสำหรับแผนการณ์ที่นัดกันล่วงหน้าในช่วงเวลาสั้นๆ น่าจะตั้งแต่ตอนที่หัวหน้าเอ่ยถึงชื่อโรงแรมหลังจากจับเด็กสองคนได้บนถนนเมื่อ 15 นาทีที่แล้ว ซึ่งช่วยอธิบายเรื่องที่สองตัวประกันไม่ค่อยรู้รายระเอียดของแผนมากนัก



    แต่ทำไมเธอถึงดึงความทรงจำเกี่ยวกับคนใช้โซ่จากเจ้าเด็กพวกนี้ไม่ได้เลยตอนที่จับตัวพวกมันได้ครั้งแรก พวกนี้รู้จักเจ้าคนใช้โซ่มาก่อนแน่ๆ หรือเพราะมันปิดบังความสามารถของตัวเองเป็นความลับ?



    ถ้าเป็นอย่างนั้นก็บอกนิสัยของคนใช้โซ่ได้อย่างหนึ่ง มันไม่ยอมเปิดเผยเรื่องของตัวเองให้คนอื่นเห็นง่ายๆ แม้จะเป็นพวกพ้องกันก็ตาม แสดงถึงความเป็นนักวางแผนที่เยือกเย็น ช่างคิดคำนวณ



    ซึ่งหมายความว่าโน้ตที่ทิ้งไว้ให้ไม่ใช่แค่การขู่ มันยอมเสียเวลาอันมีค่าเพื่อขว้างมีดมาทางพวกเขา ยอมเสี่ยงกระทั่งต่อการถูกเปิดเผยตัวและถูกตามล่า มันมีเพื่อนชื่อเซ็นริทสึ เป็นผู้มีความสามารถเน็นในการได้ยินที่เฉียบคมขนาดฟังเสียงหัวใจเต้นของคนที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร และอ่านอารมณ์ที่เปลี่ยนไปได้ตามจังหวะการเต้นของหัวใจแม้เพียงบางเบา



    /ถ้าฉันพูดออกไป เซ็นริทสึก็จะจับเสียงหัวใจที่เปลี่ยนไปของฉันได้ หากรู้ว่าฉันไม่ทำตามที่สั่ง... มันคงฆ่าหัวหน้าแน่ แม้จะต้องทำให้เพื่อนของตนตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงก็ตาม.../



    แต่... มันต้องเห็นความสำคัญของเพื่อนพ้องอยู่แล้ว ไม่มีใครจะเลือดเย็นได้ถึงขนาดนั้นหรอก... เด็กสองคนยังมีประโยชน์ในฐานะตัวประกัน พวกมันจะเป็นใบเบิกทางสู่การช่วยชีวิตหัวหน้า เพียงแต่ว่าพวกเขาต้องเดินเกมให้ถูกเท่านั้น



    แต่ จะทำยังไงล่ะ? พระเจ้า เธอควรจะทำอย่างไรดี?



    “ปาคู”



    จะบอกดีมั๊ย? เธอควรจะ – สามารถจะ - เสี่ยงชีวิตของหัวหน้า เพื่อบอกเรื่องนี้ดีมั๊ย?



    “ปาคู!!”



    “หือ?”



    “จากนี้ไปไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เข้าใจมั๊ย? ถ้าพูดไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูด” โนบุนากะพูดเสียงแหบต่ำ



    ปาคูโนด้าพยักหน้า คนอื่นๆ สังเกตเห็นอาการหวั่นวิตกของเธอและเข้าใจในทันที แต่เธอก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะทำอะไรต่อไป...



    “เพ่งสมาธิหน่อย มาจิ อย่าปล่อยให้พวกเด็กนั่นหนีไปได้ เราจะไม่เสี่ยงให้พวกมันหลุดไปอีกเป็นหนที่สอง” โนบุนากะสั่งการ โดยหันไปหาสมาชิกที่บาดเจ็บอีกคนในกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ยังคงพันแขนไว้แน่นรอบคอเด็กผมขาวชื่อคิรัวร์ เด็กคนนี้เป็นตัวอันตรายที่สุดในสองตัวประกัน... เป็นคนที่สลัดหลุดจากด้ายเน็นของมาจิ และทำแขนของปาคูโนด้ากับซี่โครงของมาจิหักได้อย่างไม่ยากเย็น



    เธอมองมาจิมัดแขนของเด็กชายไพล่หลังโดยมีโนบุนากะช่วยอีกแรง เด็กนี่จะไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก เมื่อมีพวกเงามายาทั้งหมดคอยเฝ้าระวังเอาไว้ แม้แต่กับสัญญาณที่เล็กน้อยที่สุดอย่างอาการดิ้นรนหรือขัดขืน อีกอย่าง เขาไม่มีวันทิ้งเพื่อนอีกคนไว้ที่นี่แน่ ถ้าเขากล้าพอที่จะทิ้ง เขาคงหนีรอดไปได้นานแล้วตั้งแต่เมื่อไฟโรงแรมดับ เขามีโอกาส แต่ไม่ยอมใช้มัน คงเพราะรู้ว่าเด็กชายอีกคนไม่สามารถแก้ปมเชือกที่มัดไว้ได้อย่างเขา



    “คนใช้โซ่นั่นคงติดต่อกลับมาอีกที ฉันมั่นใจ พวกเราควรเฝ้าตัวประกันไว้ให้ดี พวกนี้อาจเป็นตั๋วเบิกทางในการช่วยชีวิตหัวหน้าก็ได้....”



    คำพูดของโนบุนากะกระทบใจเธอเข้าอย่างจัง นั่นสินะ ตอนนี้เรื่องหัวหน้าต้องมาก่อน เธอไม่ควรคิดอะไรให้มากเรื่อง



    “ฉันอยากไล่ตามไอ้เวรนั่นไปใจจะขาด แต่เราก็ปล่อยให้เจ้าพวกนี้หนีไปอีกไม่ได้เหมือนกัน รอให้คนอื่นตามมาสมทบก่อนแล้วค่อนคิดกันว่าจะทำยังไงต่อ ฉันว่าเจ้าคนใช้โซ่น่าจะใช้รถหนี พวกเรายังมีโอกาสตามทันอยู่ – หมอนั่นอาจกำลังขับรถติดไฟแดงก็ได้”



    เมื่อเอ่ยถึงสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มแล้ว ความไม่มั่นใจของปาคูโนด้าก็กลับมาอีกครั้ง เธอนึกถึงที่หัวหน้าเคยบอกไว้เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่กลุ่มเงามายาเพิ่งก่อตั้งใหม่ๆ แม้จะผ่านมาหลายปี เธอก็ยังจำคำพูดเหล่านั้นได้อย่างขึ้นใจ



    “กลุ่มของเราเปรียบเสมือนแมงมุม - ฉันเป็นหัวส่วนพวกนายเป็นแขนขา แขนขาต้องเชื่อฟังหัวด้วยความจงรักภักดี ซึ่งนี่ถือเป็นกฏหลัก แต่ว่ากฏนี่เป็นแค่ระเบียบทั่วๆ ไป ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าฉันตายไป พวกนายคนใดคนหนึ่งก็ขึ้นมาแทนที่ฉัน ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในบางเวลาหัวอาจไม่สำคัญเท่าแขนขาก็ได้ แต่ยังไงฉันก็ขอพูดให้ชัดเจน ว่า คำสั่งของชั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมาก่อนเรื่องอื่น แต่นั่นไม่ได้หมายความรวมไปถึงชีวิตของฉัน ฉันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแมงมุม และกลุ่มแมงมุมทั้งกลุ่ม ย่อมต้องมีสำคัญกว่าชีวิตของคนเพียงคนเดียว อย่าลืมเรื่องนี้ซะล่ะ”



    จะเผยจุดอ่อนของคนใช้โซ่ เพิ่มความได้เปรียบเหนือศัตรูให้ฝ่ายเงามายาอย่างมหาศาล แลกกับการต้องสูญเสียหัวหน้า หรือเลือกที่จะเงียบและทำตามคำสั่งของเจ้าคนใช้โซ่ แลกกับการทรยศต่อกฏของแมงมุมดี?



    เธอ รวมทั้งเพื่อนๆ ย่อมต้องสูญเสียไม่ว่าจะเลือกทางใดก็ตาม เจ้าคนใช้โซ่สารเลวนั่น... เธอไม่สามารถทรยศกลุ่มโดยการยอมจำนนต่อคำสั่งของศัตรูได้ - และเธอก็รู้สึกว่าถ้าแผนของเจ้าคนใช้โซ่ประสบความสำเร็จ มันคงจะไล่ล่าสมาชิกกลุ่มโจรเงามายาทุกคน – แต่เธอเองก็ไม่ต้องการให้ชีวิตของหัวหน้าอยู่ในอันตราย



    /แต่เดี๋ยวก่อน... แล้วคำนายของหัวหน้าล่ะ? หัวหน้าเคยได้รับคำนาย ก่อนจะขโมยเน็นมาจากลูกสาวหัวหน้าแก็งค์นอสทราดนี่นา?/



    “ในวันอันมืดหม่นกับแสงสว่างเพียงน้อยนิด



    ภายในห้องที่ปิดสนิทมีตัวเลือกสองทางอยู่ตรงหน้า



    ตราบเมื่อยมทูตยังคงยืนหยัดอยู่ข้างกายา



    วิสัชชนานั้นคือเกียรติหรือทรยศ จงเลือกเอา”




    คำทำนายที่หัวหน้าเขียนให้... ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ตอนนี้มันชักจะกระจ่างขึ้นทุกที



    /ยมทูตที่ว่าคือเด็กสองคนนี้? หรือจะเป็นเจ้าคนใช้โซ่กันแน่? ถ้าฉันบอกจะเป็นการทรยศหัวหน้าหรือเปล่า? ควรจะเงียบเอาไว้ หรือจะทรยศต่อกลุ่มดี? แล้ว ห้องเล็กๆ นั่น... หมายถึง ภายในใจของฉันเหรอ? ไม่ใช่! คิดมากเกินไปแล้วเรา! วันนี้วันเสาร์นะ คำทำนายท่อนนั้นเป็นของอาทิตย์หน้า อย่างน้อยก็ยังไม่จำเป็นต้องตัดสินใจในวันนี้.../



    จะบอกพวกนั้นดีมั๊ย? ... หัวหน้าจะทำยังไงนะ ถ้าเขามาเป็นเธอ...?



    /หัวหน้า.../



    “ปาคู!” มาจิเรียก “เธออย่าคิดอะไรที่มันไร้สาระให้มากเรื่องดีกว่า แค่เงียบๆ ก็พอแล้ว โอเคมั๊ย?”



    ปาคูโนด้ายืนนิ่ง มือข้างที่กำกระดาษข้อความจากคนใช้โซ่เลื่อนลงมาอยู่ข้างๆตัวอย่างเหนื่อยอ่อน วินาทีต่อมาไฟของโรงแรมก็สว่างขึ้นอีกครั้ง หลังทิ้งช่วงเวลาหลายนาทีจากตอนที่มันดับไป สิ่งของรอบๆ ตัวกระจ่างชัดด้วยแสงไฟที่จ้าจนแสบตา ซึ่งเป็นเรื่องปกติเมื่อคนเราเจอเข้ากับแสงสว่างหลังจากตาปรับตัวจนชินกับความมืดแล้ว



    “ฟิงคส์ มาที่โรงแรมด่วนเลย หัวหน้าโดนจับตัวไปแล้ว” โนบุนากะพูดผ่านโทรศัพท์มือถือ บอกเพื่อนสมาชิกคนอื่นให้มาหา



    /พวกเรายังคงต้องการคุณนะ.... หัวหน้า ฉันต้องการคุณ/



    แสงไฟของโรงแรมช่วยขับไล่ความมืดมิดให้หายไป และมันดูเหมือนช่วยขับไล่ความคลางแคลงใจของเธอออกไปด้วย เธอมีเหตุผลที่เห็นแก่ตัว เหตุผลที่ห้ามเธอไม่ให้ตัดสินใจสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อแมงมุมมากกว่า ปาคูโนด้าชอบหัวหน้า เธอรักเขา แม้ว่ามันจะเป็นรักข้างเดียวก็ตาม



    /ฉันไม่แคร์หรอก ฉันขอโทษ หัวหน้า แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันปล่อยให้คุณตายไม่ได้ เรื่องกฏอะไรนั่นช่างมันเหอะ/



    เธอยิ้ม เมื่อนึกถึงเวลาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา เอาเถอะ ถึงแม้ว่าเรื่องที่ทำด้วยกันจะไม่ถูกกฏหมาย แต่นั่นก็เป็นวิถีทางของกลุ่มแมงมุม ศีลธรรมหรือความดีงามไม่ได้อยู่ในสมการความคิดของพวกเขา มันก็แค่คำไร้ความหมายสำหรับเหล่ามนุษย์ที่ถูกทอดทิ้งให้ตายในดินแดนแห้งแล้งทุรกันดารซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขากองขยะและของเสียเท่านั้น ชีวิตของเธอ เช่นเดียวกันกับชีวิตของเพื่อนพ้องของเธอ เพิ่งจะเริ่มต้นตอนที่เข้ากลุ่มแมงมุม และเธอยอมตายหรือตกนรกขุมไหนๆ ก็ตามเพียงเพื่อให้มั่นใจว่าแมงมุมจะอยู่รอดต่อไป



    /ขอฉันเป็นคนทรยศคนนั้นเถอะ หัวหน้า เลือกทางนี้ อย่างน้อยก็ไม่มีใครคนอื่นต้องตาย.../



    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×