คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กรี๊ดๆ มันสตอเบอรี่ค่ะ
วันรุ่งขึ้น
“หวัดดีจ้า พรีมคนสวย เมื่อวานนี้เธอทำอาไรไว้ ฉันจำได้นะจ๊ะ” น้ำทักขึ้นแต่เช้าระหว่างที่กำลังเดินทางมาโรงเรียน
“แกช่วยลืมๆมันไปซะเถอะนะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ฉันละอ๊ายอาย”
“ลืมไม่ได้หรอก พรีม แล้วนี่เมื่อวานนี้น้องซอลเขาฝากบอกแกด้วยว่า พี่สาวน่ารักมากเลยครับ”ยัยน้ำพูดพลางทำเสียงเหมือนผู้ชายในประโยคสุดท้าย
“อ๋อหรอ ดีใจจัง”
“แล้วเมื่อวานนี้อ่ะ พวกเราทุกคนรวมทั้งใอแก๊บก็ตกลงกันว่า จะทำให้แกเป็นแฟนกับน้องคนนั้นให้ได้ ดีมั้ยล่ะ”
“หา...”
อะไรกันอ่ะ พวกแกทำไรกัน ทำไมทำกับฉันอย่าง แกไม่รู้หรอกว่าฉันกำลังโกหกพวกแก ฮือๆ นี่คือกรรมของฉันใช่มั้ย พอโกหกแล้วต้องมาเจอแบบนี้เนี่ย
“เอ่อ...ดีดีมากเลยจ้า ขอบใจนะ ฉันจะได้สมหวังสักที เหอๆ” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ
“ พี่สาวครับ พี่คนนั้นอ่ะครับ ชื่ออะไรหรอ?” เสียงหนึ่งดังมาจากข้างๆฉันระหว่างที่ฉันกำลังเดินเข้าโรงเรียน
“ เอ่อ...ก็ ชื่อพรีมจ๊ะ อรุณสวัสดิ์นะ” ปกติฉันด่าไปแล้วละค่ะ แต่เพราะคนตรงหน้าฉันคือน้องซอลคนเมื่อวานนี้น่ะเซ่ ทำไมต้องเจอแต่เช้าด้วยล่ะ ซวยจริงๆเลย ฉันต้องริบผิดชอบน่ะ เพราะว่าฉันดันไปแสดงว่าชอบน้องเขาก่อน แล้วดูท่าน้องเขาจะเอาจริงแหะ
“อยู่คณะไหนหรอครับไม่เคยเห็นหน้าเลย แล้วเมื่อวานรีบกลับไปทำไมอ่ะ ผมยังไม่ได้คุยกับพี่สาวเลย” เขาเปลี่ยนท่าทีจากตอนแรกยืนอยู่ข้างฉันตอนนี้มายืนตรงหน้าฉัน ทำให้ฉันต้องหยุดเดิน
“ เอ่อ...อยู่คณะวิศวะ จ๊ะ ปี4 พอดีเมื่อวานนึกได้ว่ามีธุระเลยกลับ เฮอๆ” ฉันสตอเบอรี่หน้าตายตอบไปงั้นๆ
“ หรอครับ แล้ววันนี้มีธุระอีกรึป่าว ไปเที่ยวกับผมได้ปะ” หมอนั่นพูดพลางยิ้มแย้มและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนฉันต้องถอยออก
“ ไม่...อุบส์”
ระหว่างที่ฉันกำลังจะปฏิเสธ ใอแป้งมาจากไหนก็ไม่รู้เอามือมาปิดปากฉันไว้
“โอเคค่ะ ตกลง ตอนเย็นเจอกันหน้าโรงเรียน” แป้งตอบแทนฉัน โดยไม่คิดถึงความรู้สึกฉันเลย นังเพื่อนทรยศ
“ คร๊าบผม เจอกันตอนเย็นนะครับ บายครับพี่พรีม”
พอซอลเดินไปใอแป้งก็เอามือออก ทำไมฉันต้องไปด้วยละ อีตานั่นก็ใจง่ายชะมัด มันชอบฉันแล้วหรอ วันเดียวเนี่ยนะ ฉันมีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยหรอ อะไรวะ
“นี่พรีม แกจะปฏิเสธทำไม มันความฝันแกไม่ใช่หรอ ดีนะที่ฉันมาไม่แกก็แห้ว” ใอแป้งพูดเอาความดีเข้าตัว ฉันล่ะซึ้งพระคุณมันจริงๆ
“เออๆ ขอบใจม๊ากมาก” ฉันพูดแบบขอไปที
แล้วตอนเย็นฉันจะไปเผชิญหน้ากับหมอนั่นงัยดีละ อีตาผู้ชายหน้าหม้อนั่น ไม่น่าไวใจเลย ถึงตอนนี้เขาจะเหมือนเทพบุตรก็เหอะ แต่ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะซ้อนตัวตนไว้ข้างในก็ได้ ฉันละเศร้า
< ------- เย็นแล้วจ้า - - - - - - >
“เอาละ สวยแล้ว เธอสวยแล้วพรีม เดทแรกต้องสวยหน่อย” ยัยแป้งพูดพร้อมกับส่งกระจกให้ฉัน หลังจากที่มันบังอาจบังคับฉันเพื่อทาลิปสติกให้
“ไปเดทแค่นี้ไม่เห็นต้องสวยขนาดนั้นก็ได้ อีกอย่างก็แค่ทำความรู้จัก” ฉันพูดแบบเซ็งๆ
“ แหม...พรีม ไม่ได้หรอก เธอจะต้องสร้างความประทับใจรู้มั้ย เขาจะได้ชอบเธอรู้ไว้ซะด้วย แล้วไปเนี่ยก็ทำตัวให้น่ารัก อ่อนหวาน อย่าไปด่าเขานะ ที่สำคัญยิ้มเข้าไว้ เอ้าไปได้แล้ว” ยัยน้ำพูดแสดงความคิดเห็นแกมสั่งๆ
“แล้วพวกเธอไม่ไปกับฉันหรอ?”
“ไม่เอาอ่ะไม่อยากเป็น ก้างขวางคอ ไปตามสบายเถอะ” แป้งพูด
“ง่า...งั้นฉันไปละนะ”
ฉันเดินออกมาจากห้อง เพื่อที่จะไปหาคนที่หน้าโรงเรียน ฉันทำเป็นดีใจเพื่อตบตาทุกคนว่าฉันอยากไป๊อยากไปมาก ฉันทำไงได้ละ ก็ฉันโกหกไว้แล้ว อีกอย่างเพื่อนๆก็ดูคาดหวังกับฉันมาก เอาวะเป็นงัยเป็นกัน ลองดูก็ได้ ตานั่นคงไม่ได้เลวร้ายเท่าไรหรอก
ระหว่างที่ฉันยืนรออยู่
เอี๊ยด !!!....
มีรถเก่งสีดำแล่นมาจอดหน้าฉัน แล้วคนที่เปิดกระจกออกมาก็คือ ซอล หมอนี่มีรถด้วยหรอ ตัวแค่นี้ขับรถเป็นด้วย เหอะ(พูดเหมือนฉันตัวใหญ่อ่ะนะ)
“พี่สาวครับ ขึ้นรถครับ ผมจะพาไปเที่ยว”
“เรานั่งรถเมล์ไม่ได้หรอ”
“ขึ้นมาเถอะครับ ผมไม่พาไปทำไรหรอก”
“อ่ะจ๊ะ”
ฉันจำใจขึ้นรถมากับเขา ตอนแรกก็ว่าจะไม่ขึ้นมาหรอก แต่หันไปมองข้างหลังเพื่อนมันแอบตามมาเป็นพรวนเลยขึ้นรถมาตบตาเพื่อนอีกนั่นแหละ เฮ้อ เวรกรรมอาไรของฉันเนี่ย
ซอล ขับรถมาเรื่อยจนมาหยุดที่สะพานริมน้ำแห่งหนึ่ง เขาลงจากรถอย่างรวดเร็วแล้วมาเปิดประตูให้ฉัน ฉันก็ลงตามมา
“พาฉันมานี่ทำไมอ่ะ?” ฉันถาม
“พามาชมวิวงัยล่ะ เราจะดูพระอาทิตย์ตกกันฮะ”
“ อื้ม...ก็ดีนะ”
เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อยสักพัก
“ แล้วเคยพาใครมานี่รึป่าว” ฉันถามไปเรื่อยเปื่อยเพราะรู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มเงียบ
“ ไม่เคยครับ พรีมเป็นคนแรกเลย” เขาพูดพลางเยิบเข้ามาใกล้ฉันที่ยืนเท้าราวสะพานอยู่
เหอะ หมอนี่มันหม้อชะมัดเลยอ่าแต่ฉันก็ยิ้มตอบกลับไป ดูมันเด่ะ พึ่งจะคุยกันได้แค่ไม่กี่คำมันก็พาฉันขึ้นรถมากับมัน ใอฉันก็ใจง่ายมากับมันอีก อะไรวะเนี่ย บานปลายไปใหญ่แล้ว
“กรี๊ด!!! กรี๊ด!!!”
เสียงดังสิบแปดหลอดดังแทรกบรรยากาศขึ้นมา
“นี่ซอล แม่นี่ใครอ่ะ ไหนบอกว่าไม่เคยพาใครมาที่นี่งัย โกหกกันนี่นา” สาวผมยาวท่าทางเปรี้ยววิ่งเข้ามาหาอีตาซอลพร้อมโวยวาย และร้องเสียงหลง
“เอ่อ...อะไรครับเราไม่รู้จักกันนะครับ ทักคนผิดแล้วมั้ง” หมอนั่นตีหน้าตายพร้อมพูดออกไป ต-อ-แ-ห-ล- ชะมัดเลย
“ กรี๊ด!!! กรี๊ด!!!”
มาอีกแล้วกรี๊ดเหมือนกันเลย ใครนักหนาวะรำคาญเว้ย ฉันทำหน้าเซ็งๆแล้วหันไปมองหน้า อีตาซอล เขาหันมาสบตาฉันนิดนึงแล้วขยิบตาให้พร้อมกับหันไป
“ นี่ ทูนหัว ที่รักไม่ยอมนะค่ะ นังที่กรี๊ดก่อนที่รักนี่ใครอ่ะ เชอะ” นังผู้หญิงที่กรี๊ดทีหลังแล้วเรียกตัวเองว่าที่รักพูดขึ้น
“เอ่อ...คุณสองคนนี่อาไรกันอ่ะ เราไม่เค้ยไม่เคยรู้จักกันเลยนะ” หมอนั่นตีหน้าตายต่อไปมันโคตรสตอเบอร์รี่เลย
“ กรี๊ด!!! ฉันไม่ยอมนะค่ะจะมาลืมกันง่ายๆ.” ผู้หญิงที่กรี๊ดก่อนพูด
“ ฉันก็เหมือนกัน เชอะ” นังคนที่เรียกตัวเองว่าที่รักพูด
มันจะเชอะอาไรกันนักกันหนา
“นี่ นังร่านทั้ง2คนอ่ะ ฉันมาที่นี่ก่อนพวกเธอทุกคนนะ ฉันอ่ะตัวจริงพวกเธอไปเลย”นังคนที่กรี๊ดก่อนมันพูดค่ะ แล้วมันก็ไล่ฉัน
“ กรี๊ด !!! ไม่จริงอ่ะ ไหนทูนหัวบอกพาฉันมาที่นี่ก่อนงัย” มันกรี๊ดอีกแล้วยัยคนที่มาทีหลังเนี่ย
หลังจากนั้นมันทั้งสองคนก็ทะเลาะกันโดยที่อีตาซอลไม่พูดอาไรเลย ฉันโคตรรำคาญเลย จะกรี๊ดอาไรกันนักกันหนา อีตาซอลเริ่มถอยมายืนข้างฉัน เขาหันมายิ้มให้ฉันอย่างเจื่อนๆ ฉันมองเขาแล้วค้อนให้หนึ่งขวับพร้อมหันหน้าหนี
“กรี๊ด!!!”
“กรี๊ด!!!”
มันทั้งคู่สลับกันกรี๊ดอย่าเอาเป็นเอาตาย
“กรี๊ด!!!” ฉันกรี๊ดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน
0_0 อึ้งค่ะ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอึ้งหมดเลยเพราะเสียงฉันนะยิ่งกว่าสิบแปดหลอดซะอีก
“พวกเธอนี่อาไรกันหะ ตะโกนแว๊ดๆ อยุ่ได้น่ารำคาญชะมัดเลย หุบปากได้มั้ย ปากยิ่งเน่าอยุ่ตอนนี้เน่าไปใหญ่แล้ว รำคาญเว้ย รำคาญ ได้ยินมั้ย เธอคิดว่าพวกเธอมาเถียงกันอย่างนี้ อีตานี่มันจะรู้จักเธอหรอ เธอเห็นมั้ยว่าอีตาซอลมันสตอเบอรรี่ เพราะฉะนั้นก็ไสหัวไปเลย เขาเลือกฉันแล้ว พวกเธอเลิกกับเขาไปซะ” ฉันพูดอย่าหัวเสียใส่หน้าผู้หญิงสองคนนั้นพร้อมกับเดินไปเกาะแขนซอลแล้วลากเขาขึ้นรถ
ตาซอลเดินตามฉันมาขึ้นรถก่อนออกรถเขาก็เปิดกระจกออกไปพูดกับพวกนั้นว่า
“ลาก่อนนะ สาวๆ เราเลิกกันเถอะ คนนี้ตัวจริงคร๊าบ” มันชะโงกหน้าไปพูดกับสาวพร้อมกับเอามือมาตบที่หลัง ฉันแล้วขับรถออกมาปล่อยให้สองสาวที่ยืนอยู่บนสะพานกรี๊ดตามและทะเลาะกันต่อไป
“นี่นาย นายนี่มันนายตัวร้ายจริงเลย โกหกหน้าตายจริง พูดออกไปได้ยังงัยว่าไม่รู้จักยัยสองคนนั้น แล้วโกหกฉันอีกนะว่าพาฉันมาที่นี่คนแรก สตอเบอรรี่จริงเลย” ฉันเริ่มเปิดศึกซักความเขา
“แหมพี่สาวครับ มันก็ต้องมีกะล่อนกันบ้าง” หมอนั่นตอบหน้าตาเฉย
“ตอบได้ดีนี่ย่ะนายสตอเบอรี่”
“อะไรกัน คำก็สตอเบอรรี่ สองคำก็สตอเบอรรี่ ฉันฟังตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ เออ ฉันมันสตอเบอรี่”
“รู้ตัวก็ดี เชอะ...”
“งั้นฉันก็จะไม่สตอเบอรรี่แล้วนะ ยัยอึ๋ม นี่งัยเรื่องจริง ฮ่าๆ” หมอนั่นพูดพลางหัวเราะอย่างสะใจ
“อย่ามายุ่งกับของบนตัวฉันนะนายสตอเบอรี่ อีกอย่างเธอก็เป็นรุ่นน้อง เกิดมายังเคยเจอผู้ชายคนไหนโกหกหน้าตายอย่างเธอเลย” ฉันตอกกลับ
“ฉันก็ไม่เคยเจอผู้หญิงอย่างเธอเหมือนกัน ปากร้ายชะมัดเลย เดี๋ยวก็จูบซะนี่”
“หา...0_0”
ฉันเงียบไปเลยหมอนั่นเลยหัวเราะขึ้นมา
“ฮ่าๆๆ สงสัยจะไม่เคยล่ะซิฉันสอนให้เอามั้ยล่ะ” เขาเบรกรถแล้วยื่นหน้ามาใกล้ฉัน
“ขยับออกไปนะ ตาหื่น” หน้าของเราอยุ่ห่างกันแค่คืบเดียว ทำไมหมอนี่มันหื่นอย่างนี้วะ เราฉันใจเต้นทำไมกันเนี่ย
“เหอะ คิดว่าฉันพิศวาสเธอนักหรืองัย ยัยปากจัด” เขาพูดแล้วพละออกจากฉัน
“เออ งั้นขอบใจมากที่วันนี้พาฉันไปหาเรื่องซวยๆ ประทับใจจริงๆเลย ให้ตายซิ ฉันจะไม่มีวันขึ้นรถไปไหนกับนายอีกต่อไป ฉันไปละ” ฉันพูดและเปิดประตูเพื่อจะลงจากรถ
“เดี๋ยว!” เขาเรียกและคว้าแขนฉันไว้
“อะไรอีกละ” ฉันพูดอย่งารำคาญและสะบัดแขนออก
“ฉันหิวอ่ะ ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยดิ”
“เมื่อกี้เธอเพิ่งด่าฉัน ตอนนี้มาชวนฉันกินข้าว อะไรวะ เจริญเลย ไม่ไปเว้ย”
“นะคร๊าบ นะ ผมรู้นะว่าพี่สาวหิวอ่ะ” เขาพูดพร้อมกับทำหน้าอ้อน
“ไม่ ฉันไม่หะ...จ๊อกๆ” ฉันกำลังจะปฏิเสธแต่ใอท้องมันดันร้องมาก่อน เพราะวันนี้ฉันไม่ได้กินข้าวกลางวันแท้เลย แล้วก็เพราะตะโกนด่ายัยพวกนั้นด้วย
“ขึ้นรถซิคร๊าบ นะคร๊าบ เอาเป็นว่าเมื่อกี้อ่ะ ผมขอโทษละกัน” เขาเป็นไม่รู้เมื่อเห็นกับใอการกระทำของเขาเมื่อกี้ พร้อมกับออดอ้อนให้ฉันขึ้นรถ
“เออๆ ไปก็ได้” แล้วทำไมฉันต้องมาแพ้หน้าตาหมอนั่น ดูที่เขาพูดเมื่อกี้ทำเอาฉันแทบละลาย ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นายสตอเบอรี่เอ้ย น่ารักชะมัด
“กินอะไรกันดีล่ะ” เขาหลังจากที่ขับรถออกมาได้ไม่ไกลนัก
“อะไรก็ได้ ฉันกินได้ทั้งนั้นแหละ”
“งั้นเธอก็กินฉัน แล้วฉันก็กินเธอเป็นงัย ฮ่าๆๆ”
“ตาบ้า ลามกชะมัดเลยอ่า” ฉันทำกระฟัดกระเฟียดแก้เขิน
เขาขับรถมาจอดแถวย่านร้านอาหารแห่งหนึ่งไม่ไกลเท่าไรนัก
“เอาล่ะ งั้นก็กินร้านนี้ละกัน”
ร้านที่เขาพาฉันมาเป็นร้านที่ค่อนข้างหรู ดูมีระดับทีเดียว ฉันไม่ชินกับการมากินอาหารหรูๆเท่าไร ไม่ใช่ว่าฉันบ้านจนนะ แต่ฉันชอบตำติดดินมากกว่า(จริงอ่ะ)
“ที่นี่หรอ ไปอยากเข้าเลยฉันไม่ชินอ่ะ”
“โธ่ บ้านนอกจังเลย งั้นเธอจะกินร้านไหนล่ะ”
ระหว่างที่เขาพูดฉันบังเอิญหันไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวฝั่งตรงข้าม
“กินอะไรที่บ้านนอกเค้ากินกันอ่ะ”
แล้วฉันก็พาเขามากินที่ร้านก๋วยเตี๋ยวฝั่งตรงข้าม
“โห บ้านนอกจริงนั่นแหละ”
“จะกินมั้ยล่ะ ถ้าไม่กินร้านนี้ฉันก็จะกลับ”
“ครับ กิน ครับกิน”
หลังจากนั้นฉันก็สั่งเล็กน้ำสองชาม มาวางบนโต๊ะ ฉันเริ่มลงมือโซ้ยเพราะหิวมากเลย แต่เขาดันนั่งมองฉันไม่ยอมกินสักคำ
“อ้าว ไม่กินล่ะ อร่อยนะ”
“เอ่อ... ฉันลืมไป”
“
”
“ฉันกินไม่เป็น ไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวอ่ะ”
“นี่ละบ้านนอกของจริง ฮ่าๆๆ นายนี่มันตลกชะมัดเลย ไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยว”
“โธ่ อย่าขำดิ” เขาพุด หน้าเขาแดงนิดๆด้วยความเขิน
“นี่ดูฉันกินซิ เห็นมะใช้ตะเกียบคีบเส้นขึ้นมาแล้วก็ยัดใส่ปากแบบนี้....ง่ำๆ แล้วซดน้ำตาม...ซูด” ฉันพูดพร้อมทำท่าทำทางให้เขาดู
“หรอ แบบนี้อ่ะนะ ใช้ตะเกียบคีบเส้นน ยัดใส่ปาก...อ่ะ” เขาทำตามฉัน ติ๊งต๊องดีแหะ
“แล้วซดน้ำตามด้วยอย่างนั้นล่ะ”
เขาทำตามที่ฉันพูดทุกอย่าง ดูไปดูมาเขาก็น่ารักดีนะ ตอนกินเนี่ยเหมือนเด็กเลย กินไม่ค่อยเป็นสงสัยจะคุรหนูล่ะซิ และก๋วยเตี๋ยวของเขาและฉันก็หมดชาม เราสองคนเดินกลับมาที่รถอย่างอิ่มแปล้
“เป็นงัยล่ะ อร่อยมั้ยก๋วยเตี๋ยวอ่ะ บอกแล้วอะไรที่บ้านนอกเค้ากินกันเนี่ยแหละ อร่อยที่สุด แถมยังถูก ไม่ต้องไปกินอาหารหรู ทำตัวลำบากจะตาย”
“อืมๆ ก็อร่อยดีอ่ะ แปลกดี”
บรรยากาศเงียบไปสักพัก...
“ฉันกลับบ้านก่อนละกัน เย็นมากแล้ว ไปนะ” ฉันพูดทำลายความเงียบ พร้อมบอกลาเขากลับบ้าน
“เดี๋ยวฉันไปส่งละกัน”
“ไม่เอาอ่ะเย็นแล้ว เกิดระหว่างทางกลับบ้านนายฉุดฉันเข้าข้างทางฉันทำงัยอ่ะ”
“บ้าหรอ ถึงฉันจะเป็นแบบนี้อ่ะนะ ฉันก็ไม่หื่นขนาดตาบอดไปเอาเธอหรอก ”
“เออ ดีล่ะคิดยังงั้นก็ดี งั้นฉันไปละ”
“อ่ะๆ ล้อเล่นน่า ขึ้นรดดิฉันไปส่งยังงัยวันนี้ฉันก็พาเธอไปเผชิญชะตากรรมมาเยอะ ถือว่าไถ่โทษละกันนะ”
“อื้มๆ ไปก็ได้”
ฉันขึ้นรัถมากับเขา เราคุยกันตลอดทางไม่ยอมหยุด ฉันแกล้งให้เขาเลี้ยวรถผิดทางหลายต่อหลายครั้ง แล้วเราก็ทะเลาะจนรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งก่อนที่จะถึงหน้าบ้านฉัน 2 หลัง
“ขอบใจนะที่มาส่ง” ฉันเปิดประตูลงจากรถและหันไปพูดกับเขา
“เดี๋ยว ลืมอาไรป่าว”
“
”
“จูบลา” เขาพูดแล้วห็กำปากจู๋ๆใส่ฉัน
“เอาเท้าฉันไปจูบก่อนมะล่ะ”
“เชอะ หมดอารามณ์เลย ล้อเล่นน่า ”
“...”
“ฉันจะเอาเบอร์เธอ ยัยเอ่อเอ้ย”
“ว่าฉันเอ๋อหรอ”
“ก็เอออ่ะดิ”
“งั้นไม่ต้องเอาและเบอร์โทรเนี่ย”
“คร๊าบๆ ขอโทษคร๊าบ”
“เชอะ
”
“อ่ะ มือถือฉัน เมมลงไปซิ” เขาพูดพร้อมกับส่งมือถือให้ฉัน
ฉันจัดการเมมเบอร์ของฉันลงไปในมือถือเขา ส่งคืนเขาไปแล้วเดินเข้าบ้าน
“ฉันไปละ”
“งั้นก็บายนะ คิดถึงฉันด้วยล่ะ”
“ฝันไปเถอะ” ฉันพูดเชิ่ดๆ
ฉันเดินเข้าได้ยินเสียงรถของเขาขับออกไปและเงียบไปเรื่อยๆ
‘เฮ้อ เหนื่อยเหมือนกันนะวันนี้อีตานั่นก็น่ารักดีอ่ะ ต-อ-แ-ห-ล- ดี แต่ปากก็จัดใช่ย่อย เอาเอบร์ฉันไปแล้วแล้วเขาจะโทรมารึป่าวเนี่ย โธ่ คิดไปได้งัยวะ ไปสนใจเขาทำไมผู้ชายเพลย์บอยแบบนั้นอ่ะ เชอะๆ อีกอย่างก็เพิ่งรู้จัก ไว้ใจไม่ได้ ไว้ใจไม่ได้’ ฉันคิดไปเรื่อยเปื่อยขณะที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียง
ตี่ดี้ดตี้ ตี่ดิ๊ดตี้ ( โทรศัพท์ดัง)
“ฮาโหล...” ฉันกดรับโทรศัพท์โดยที่ไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใคร
“สวัสดีสาวน้อย ตอนนี้กำลังแก้ผ้าอยู่รึป่าว”
“กรี๊ดๆ ใอโรคจิต”
“โห แสบแก้วหูชะมัด ฉันเอง ซอล”
“ใครให้นายเล่นอะไรทะลึ่งแบบนี้ล่ะ ”
“โทษคร๊าบบบ”
“มีไรอ่ะ โทรมาทำไม”
“พรุ่งนี้ว่างปะ ”
“ไม่ว่าง จะอยุ่บ้าน รักบ้าน”
“โห อย่ากวนดิ วันเสาร์ทั้งทีไปเที่ยวหน่อยนะ”
“ไปไหนล่ะ”
“เหอะน่า ออกมาเถอะ หน้าเซ็นนะ 10 โมง”
“อืมๆ”
“งั้นก็ราตรีสวัสดิ์ครับ เจอกันนะ”
“อื้ม...ราตรีสวัสดิ์”
“ฝันดีนะครับ...คนสวย”
“อืม...”
ฉันกดวางสาย ทำไมฉันต้องดีใจที่เขาโทรมาล่ะ ฉันไม่ได้ชอบเขาตั้งแต่แรกนี่น่า หรือว่าตอนนี้ฉันชอบเขา ไม่จริ๊งไม่จริง ฉันไม่ชอบนายสตอเบอรรี่นี่หรอก เชอะ
ความคิดเห็น