ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kuroko no basket] เพราะผม..........คือเงา [KagaxKuro]

    ลำดับตอนที่ #6 : Quarter 4 คิเสะมาแล้ววววว (ขอตั้งชื่อตอนหน่อย!!!)

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 56


    “เราคือเจ้าหญิง สโนว์ไวท์ ซึ่งถูกแม่เลี้ยงใจร้ายตามล่า และ……และ…………….และ………เออ……ฉันลืมบทไปแล้วล่ะ……..

    “โถ้เว้ย คัตๆๆๆๆๆๆ”ริโกะปากระดาษลงพื้นอย่างหัวเสีย เมื่อไหร่ยัยนาโอมิจะจำบทได้ซักที นี้ซ้อมาห้ารอบก็จำไม่ได้ห้ารอบ มันจะยากอะไร ก็แค่พูดว่า เราคือเจ้าหญิงสโนว์ไทว์ ซึ่งถูกแม่เลี้ยงใจร้ายตามล่าและเราไร้ที่พักพิง แค่เนี่ย?

    “ทำไมต้องอารมณ์เสียใส่ฉันด้วยล่ะคะ!!!”นาโอมิทิ้งตัวนั่งอย่างหงุดหงิด “ก็คนมันจำไม่ได้นิ”

    “เธอก็พยายามสิ การแสดงของชมรมฉันมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ!!

    “ไม่รู้ ฉันจำไม่ได้ ก็จำไม่ได้ ได้ยินไหม”หญิงสาวกระแทกเสียง “ฉันเหนื่อย ใครก็ได้เอาน้ำมาให้ที”

     “นี้ น้ำ”คุโรโกะถือถาดน้ำมาให้หญิงสาวแต่เพราะความรีบร้อนทำให้เด็กหนุ่มสะดุด แก้มน้ำเจ้ากรรมจึงหกรดเสื้อสีขาวตัวบางของนาโอมิจนเห็นผิวกายที่อยู่ด้านใน

    “กรี๊ดดดดดด ซุ่มซ่าม นี้แกรู้ไหม่ว่าเสื้อฉันมีแพงแค่ไหน!!!”(นี้มันนายร้ายชัดๆ - -“)

    “ผมขอโทษ”ร่างเล็กรีบโค้งขอโทษทันที

    “แล้วมันหายไหมยะ!!!!”หญิงสาวฉวยแก้วน้ำข้างตัวก่อนลาดลงบนผมสีฟ้าคนเปียกชุ่มท่ามกลางความตกใจของทุกคนในชมรม

    “เธอทำบ้าอะไรเนี่ย!!!!”ริโกะดึงคุโรโกะให้ออกห่างจากหญิงสาว ก่อนผลักคนตัวเล็กไปหาฮิวกะ “ฮิวกะ พาคุโรโกะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”

    “อย่ามายุ่ง นี้เป็นเรื่องของฉันกับเจ้านั้น”

    “ทำไมต้องทำอย่างนี้ เธอคิดว่าเธอใหญ่มาจากไหน!!!

    “แน่นอน”นาโอมิยิ้มเย้ยแต่เธอต้องหุบยิ้มเมื่อมือของเด็กสาวผมสั้นจิกเข้าที่ต้นแขนของเธออย่างแรง

    “อย่าทำร้ายคุโรโกะอีก”ริโกะกระซิบ

    “โอ้ยยยยย เจ็บนะคะ”นาโอมิร้อง

    “มันก็สาสมกับเธอแล้วล่ะ นาโอมิ”

    “หยุด!!! ริโกะ”เสียงทุ้มเอ่ย ร่างคนผมแดงยืนอยู่ด้านหลังของนาโอมอก่อนแกะมือริโกะออก

    “นี้นาย……………………เข้าข้างผู้หญิงคนนี้หรอ นายไม่เห็นรึไงว่า ยัยนี้ทำอะไรกับคุโรโกะ”

    “เห็น”คางามิตอบเสียงแผ่ว

    “แล้วนี้นายไม่คิดจะทำอะไรเลยหรอ!!!

    “แล้วจะให้ฉันทำอะไรเล่า นั้นก็เพื่อน นี้ก็แฟน”

    “เจ้าบ้า!!!ไร้เหตุผลที่สุด”เด็กสาวตะคอก“ไอ้โง่เอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย ลิงยังฉลาดกว่าแกอีก!!!

    “เออ ฉันมันโง่”

    “คางามิ ฉันไม่อยากแสดงแล้วล่ะ น่าเบื่ออออออออออออ”นาโอมิเอ่ยก่อนสะบัดตัวเก็บของ

    “จะไปไหนก็ไป ฉันก็ไม่อยากได้เธอแล้วเหมือนกัน!!!

    “ยะ”สิ้นคำ นาโอมิก็เก็บของก่อนเดินออกประตูไปทันทีพร้อมกับคางามิที่วิ่งตามไปติดๆ

    “แล้วเราจะทำยังกันต่อเนี่ย ดูเหมือนยัยนั้นจะไม่ยอมแสดงแล้วนะ”โคงาเนะเอ่ยอย่างเซ็งๆ “เราจะเอาใครมาแทนดี”

    “ไม่รู้เว้ย!!!!

    “เอางี้ดีไหม เราขอยืมตัวพวกชมรมการแสดงมาแทนก่อนได้ไหม”อิสุกิเสนอ

    “ไม่ดีอ่ะ พวกนั้นมันหยิ่ง ฉันไม่อยากไปคุย”

    “แล้วเธอจะเอาใครมาแสดง ห๊า เวลามันมีจำกัดนะ”โคงาเนะบ่น

    “อืม มีอีกทางนึ่ง”ริโกะพึมพำ “ แต่เราต้องพึ่งพวกนั้น”

    “ใคร ?”

    “คิเสะ”

    “ห๊า!!!! จะบ้าหรอ”

     “ฉันจะเอาโรงเรียนเราไปแสดงร่วมกับเจ้าคิเสะ เพราะเห็นว่าทางนั้นก็ค่อนข้างมีปัญหากับจำนวนคนเหมือนกัน ใครเห็นด้วยกับฉันบ้าง”

    “ไม่รู้สิ แต่มันก็ไม่มีทางอื่นแล้วนี้เนอะ”

    “คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ”

    “เอาเป็นว่าทุกคนเห็นด้วยใช่ไหม”

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                    “นี้คิเสะ ”

                    [ว่าไง…………………] น้ำเสียงเอื่อยๆจากปลายสายทำให้ริโกะรู้ดีว่าไอ้คนหัวทองเพิ่งตื่นแน่นอนทั้งที่ตอนนี้ก็เที่ยงกว่าแล้ว ดาราเขาทำกันอย่างนี้หรอ?

                    “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย”

    [ทำไมอ่า…………………….]

    “ได้ข่าวว่าโรงเรียนนายคนแสดงละครไม่ครบหรอ”

                    [อืม…………เธอจะมาร่วมกับโรงเรียนฉันรึไง……..]

                    “ก็ใช่สิยะ โรงเรียนของฉันเกิดปัญหานิดหน่อย คนแสดงเลยไม่พอเหมือนกัน”

    [ก็เอาดิ…………………..แค่นี้นะ ฉันจะนอน]

                    “เดี๋ยวสิยะ ฉันยังพูดไม่จบ”

    [อะไรอีกเล่า]

    “ฉันมีอีกเรื่องที่อยากจะปรึกษานาย”

                    [อะไร]

                    “เรื่องของคุโรโกะ”

    [คุโรโกะจิ เป็นอะไร] ทันทีที่ได้ยินชื่อของคนตัวเล็ก ปลายสายก็ดูร้อนรนขึ้นมาทันที

                    “คือ ยัยนายเอกของฉันที่ออกไปลาดน้ำใส่หัวคุโรโกะน่ะสิ”

                    [ยัยนั้นมันเป็นใคร!!!!]

    “มิโนระ นาโอมิ”

                    [ออ ยัยนั้นเองหรอ แฟนเก่าฉันเองแหละ…………………………หึกล้าดียังไงมาทำร้ายคุโรโกจิของฉัน]

    “นายเคยคบกัน”

    [ใช่…….ฉันรู้จักดีเลยล่ะ ยัยนั้นน่ะใช้เส้นสายเข้าเป็นนางเอกและเซ็นสัญญาให้กับค่ายที่ฉันกำลังทำงานอยู่]

                    “ฉันล่ะ สงสารคุโรโกะ”

    [งั้นเธอก็ให้คุโรโกะจิลาออกมาอยู่กับฉันสิ]

    “จะบ้าหร๊ออออออออ เจ้านี้เป็นไม้ตายของฉันเฟ้ย”

    [ฮ่า ฮ่า ล้อเล่น]

    “เอาล่ะ นายตกลงแล้วใชไหมว่าจะร่วมกับทีมฉัน”

    [อืม แต่มีข้อแม้นะ]

    “อะไรยะ”

    [หนึ่งคือ ต้องใช้บทละครของทีมฉัน และสองต้องให้คุโรโกจิ เป็นางเอก]

    “เจ้าบ้า!!! เรื่องบทอ่ะ ได้ให้เจ้าคุโรโกะเป็นนางเอก นายสมองกลับรึไง”

    [ถ้าเธอไม่ยอม ฉันก็ต้องขอบาย]

    “นายมั่นใจได้ยังไงว่าเจ้านั้นจะไม่ทำละครล่ม”

    [บ๊ะ!!! เอาหัวเป็นประกันเลย]

    “ไม่รู้สิ ฉันไม่มั่นใจ”

    [แล้ว เธอจะตกลงป่ะล่ะ]

    “เออ ก็ได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้ด้วยน้า”

    [ตกลง พรุ่งนี้เจอกัน]

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                    นี้คือเรื่องระหว่างสามอาณาจักรที่ต้องมาแตกแยกเพียงเพราะความรัก เกิดสงคราม การลองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์

    เจ้าหญิงแคโล องค์หญิงน้อยจากอาณาจักเล็กๆ ผู้อ่อนโยนแต่ตาสองข้างมืดบอด หลงรักราชาดาร์ทเนตตั้งแต่ยังเล็กแต่นางไม่กล้าพอที่จะบอกเขา

                    ราชาแอลแซคผู้รักสงบและเยือกเย็น เป็นเหมือนพี่ชายที่แสนดีขององค์หญิง ค่อยดูแลแคโลเป็นอย่างดีเพราะเขาหลงรักเจ้าหญิงน้อยแต่แรกเห็น

    ราชาดาร์ทเนตผู้เอาแต่ใจและอารมณ์ร้อน ฉายาราชาไร้หัวใจ โหดเหี้ยม เขาเกลียดแอลแซคเข้าไส้เพราะเคยสังหารพ่อของตัวเองและสาบานว่าจะแก้แค้นจนกระทั้งได้พบจุดอ่อนของราชาผู้อ่อนโยนว่าคือเจ้าหญิงน้อย

    เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อดาร์ทเนตลักพาตัวองค์หญิงน้อยเพื่อสร้างความเจ็บปวดแก่แอลแซตแต่เพราะความใกล้ชิดระหว่างเขากับองค์หญิงทำให้จิตใจที่ด้านชาละลายลงแต่เขายังไม่วางฐิทิที่มีต่อองค์หญิง แต่เหตุการณ์กลับเลวร้ายลงเมื่อราชาแอลแซตนำทัพมาโจมตีอาณาจักรของเขา บทสรุปสุดท้ายคือการนองเลือดครั้งใหญ่ นั้นทำให้องค์หญิงเสียใจที่เป็นฉนวนเหตุแห่งการนองเลือด สุดท้ายเธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย

     

     

    “ซึ่งโฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”คางามินั่งมองผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าอกสามศอกปาดน้ำตาเหยาะๆไม่สมกับตัว ร่างสูงไม่เข้าใจว่ามันน่าร้องไห้ตรงไหน ก็แค่บทละครน้ำเน่าธรรมดา

    “เป็นไงมั่ง บทของทีมฉันเจ๋งใช่ไหม ?”คิเสะยิ้มร่ากับปฏิกิริยาของทุกคน สมกับที่เขาให้นักเขียนมือดีแต่งบทละครให้ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ

    “โคตรซึ้งอ่ะ คิเสะ”ริโกะปาดน้ำตา “สมกับเป็นคิเสะ”

    “ไร้สาร”เสียงทุ้มจากคนผมแดงเอ่ยขัด เรียกสายตาค้อนขวับจากโค้ดแห่งเซย์ริน

    “เจ้าคนไร้ความโรแมนติกกกกกก”

    “แล้วไงเล่า”คางามิบ่นอุบอิบก่อนหันไปยกน้ำขึ้นดื่ม เดิมเขาก็ไม่ค่อยพอใจที่ต้องมารวมทีมกับพวกโคโจว ตอนนี้ก็ต้องมาแสดงละครงี่เง่าไร้สาระ แถมยังทะเลาะกับนาโอมิเพราะเรื่องนี้อีก  

    “เอาล่ะ ฉันว่าพวกเรามาช่วยกันเลือกตัวแสดงดีกว่านะ”คนผมทองกล่าวก่อนไร้มองแผ่นกระดาษในมือ “เอาบทขุนนาง กับแม่ทัพของเอลแซตก่อนแล้วกัน”

    “นี้ๆๆๆ เอาเจ้าฮิวกะไหม มันเหมาะกับพวกขุนนางบุ๋น ว่าไหม?”ริโกะตบไหล่คนข้างๆอย่างแรง สายตาดุถูกส่งมาให้เธอ “ก็ฉันพูดความจริงนิ”

    “ใครเห็นด้วยกับริโกะมั่ง”

    “ฉันๆๆๆ”ทุกคนนั้นที่นั้นต่างยกมือ พวกเขาก็คิดเหมือนกับหญิงสาว

    “งั้นก็เอาฮิวกะนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”คิเสะมองหน้าคนถูกเสนอที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจพลางหัวเราะร่า “ต่อไป แม่ทัพ ฉันของเลือกยูกิโอะนะ”

    “อ่ะไรว่ะ เจ้าบ้า ฉันไม่อยากแสดงเว้ยยยยยยยยยยยยยยย”

    “น้านะ เพื่อทีม เพื่อทีม ท่องเอาไว้”

    “ไม่เอา”

    “น้า”

    “ไม่”

    “น้าครับบบบบบบบบบบ”คิเสะอ้อน “ทุกคนต้องมีหน้าทีนะ ไม่งั้นผมจะให้รุ่นพี่ไปทำฉากจริงๆด้วย”

    “ไม่เว้ย ฉันไม่อยากทำ!!! ชิ๊”ยูกิโอะกัดฟัน ก่อนแตะคนผมสองสองสามที “ก็ได้ว่ะๆๆๆๆๆๆๆ”

    “ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ”

    “เออออออออออออออ”

    “เอาล่ะ ต่อไปๆ เอาเป็นบทราชาเอลแซต”คิเสะเงยหน้าจากกระดาษมองทุกคน เข้าต้องตกใจที่เพื่อนร่วมทีมตรงหน้าร่วมใจกันชี้มาทางเขาอย่างไม่ได้นัดหมายกัน“ฮะ เฮ้ยยยยยย ผมไม่เล่นนะ”

    “แต่พวกเราคิดว่านายเหมาะสมที่สุดแล้ว”หนึ่งในทีมเซย์รินเอ่ย

    “ผมเนี่ยนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

    “ไม่ต้องมาหัวเราะกลบเกลื่อน แกนั้นแหละ”ยูกิโอะกอดคอคนผมทองก่อนยิ้มด้วยความสะใจ “อย่าขัดๆๆ”

    “ไรว๊าวววววววว”คนผมทองได้แต่ถอนหายใจด้วยอย่างยอมรับ “เออ ก็ได้ครับ”

    “ต่อไป บทขององค์ราชาดาร์ทเนต”ริโกะเอ่ย

    “อืม ไม่รู้สิไม่มีใครดูดาร์ทๆเหมือนอาโอมิเนะมั่งเลยอิสึกิกวาดตามองทุกคนก่อนไปสะดุดตาอยู่ที่คนผมแดงซึ่งนั่งหน้าเซ็งตรงประตู “เอาเจ้านั้นดีไหม”

    “ไหนๆๆๆๆ”

    “เจ้าคางามิน่ะ”

    “จะดีหร๊ออออออ มันยิ่งอารมณ์ขึ้นๆลงๆ”ยูกิโอะมองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

    “ฉันว่าก็โอเคนะ เจ้านั้นหน้าต่ก็พอๆกับเจ้าคิเสะนั้นแหละ”ริโกะเอ่ย

    “ไม่จริง ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ”คิเสะโพล่งขึ้น

    “หร๊ออออ”

    “ช่ายยยยยยยยยยยย เนอะคุโรโกะจิ”คนผมทองว่าพลางกอดคนคุโรโกะซึ่งยืนเหม่อจนเกือบล้ม

    “อะ….อืม…………

    “เห็นไหมๆ คุโรโกะจิยังบอกเลยว่าผมหล่อ”

    “หลงตัวเองชะมัด”ฮิวกะพึมพำ

    “เข้าเรื่องๆๆๆซักทีได้ไหม”หญิงสาวตัดบทเสียงเข้ม “ตกลงเอาเจ้าคางามิใช่ไหม”

    “อืม ตามนั้นแหละ”คิเสะตอบเอื่อยๆ

    “เฮ้ย คางามิ แกเป็นราชาดาร์ทเนต นะเว้ย”

    “ไม่ ขี้เกลียด ไม่มีอารมณ์”คนผมแดงตอบโดยคิดพร้อมแผ่รังสีอำมหิตออกมา

    “เพื่อทีม นายทำไม่ได้รึไง ห๊า คางามิ”เด็กสาวตบไหล่คนผมแดงแรงๆ

    “ไม่!!! ฉันไม่อยากทำ เข้าใจไหม!!!”คางามิตอบเสียงดังทำให้หลายคนสะดุ้งเฮือก มันบ่งบอกว่าเขากำลังโกรธ ดวงตาสีแดงตวัดมองเพื่อนร่วมทีมก่อนไปหยุดอยู่ที่คนตัวเล็ก

    “งั้นหรอผ่านบทนี้ไปก่อนก็ได้นะ”อิสึกิเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบอกบัดเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น

    “กะ…………….ก็ดีนะ”โคงาเนะตอบก่อนยิ้มแห้งๆให้คิเสะ

    “อืม งั้นเอาบทเจ้าหญิงแล้วกันเนอะ”ยูกิโอะเอ่ย

    “เจ้าหญิง ไม่ต้องเลือกหรอก”คิเสะกล่าวพลางยิ้มกว้างกับริโกะ “ใช่ไหม ริโกะ”

    “นี้ นายจะเอาจริงหรอ?”เด็กสาวผมน้ำตาลถามอย่างไม่แน่ใจกับคนความคิดของคนตรงหน้า

    “แน่ใจดิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

    “แล้วใครล่ะ ที่เป็นเจ้าหญิงของนาย คิเสะ”ยูกิโอะบ่น เขารู้ดีความคิดของคิเสะมักจะไม่เข้าท่าเสมอ

    “นี้ไง!!!”คำตอบทำให้หลายคนตกใจ  พวกเข้าไม่อยากเชื่อว่าเจ้าคิเสะจะคิดสั้นเอาคนๆนั้นเป็นนางเอกละคร ปกติเจ้านี้มักทำตัวจืดจางจนไม่มีคนสนใจ ถ้าขึ้นเวทีไป ใครมันจะสนว่ะ

     

    “คุโรโกะ!!!

    “เจ้าบ้า!!! แกคิดอะไรอยู่ว่ะ”ยูกิโอะอยากตบหัวทองๆของเจ้าหน้าหล่อนคนนี้ซะจริง

    “ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ถ้าทุกคนไม่ให้คุโรโกะจิเล่น ฉันก็ไม่เล่น”คิเสพูดอย่างเอาแต่ใจแล้วกอดคนตัวเล็กแน่นอย่างห่วงแหน “เอาไหม”

    “อย่าเอาแต่ใจน่า คิเสะ เจ้าคุโรโกะอ่ะนะ จะแสดงได้”

    “แน่ใจ เรื่องนี้คุโรโกะจิก็แค่นั่งอยู่เฉยๆ บทพูดก็น้อย แถมตาบอดอีกต่างหาก สบายจะตาย”

    “แล้วนายถามคุโรโกะรึยังว่าอยากเล่นไหม”ฮิวกะถาม ดวงตาใต้กรอบแว่นมองคนผมฟ้าในอ้อมแขนคิเสะอย่างเคืองๆ เจ้าคิเสะมันยุ่งกับคุโรโกะมากเกินไปแล้วนะเฟ้ย!!!

    “นายจะเล่นไหม คุโรโกจิ”

    “ไม่อ่ะ”

    “ทำไมอ้า น้า เล่นเถอะน้า”

    “คือว่า………………..ผมคิดว่ามีคนที่เล่นได้ดีกว่าผม”คุโรโกะก้มหน้านิ่ง “ริโกะก็เล่นได้นี้”

    “ไม่เอาอ่ะ ฉันจะให้คุโรโกะเล่น”คิเสะรวบมือเล็กไว้ก่อนพยายามสบตาคนตัวเล็ก “น้า”

    “จะดีหรอครับ”

    “ดีสิ”ริโกะตอบแทน

    “ผม………………………………………ผมอายนิ”พวกแก้มสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานด้วยความอาย ภาพนั้นช่างน่ารักในสายตาของใครหลายคนรวมทั้งคางามิเองด้วย

    “คุโรโกะจิหน้าแดงด้วยยยยยยยยยยยย”มือใหญ่เชยคางคุโรโกะให้เงยขึ้นก่อนก้มหน้าลงจมูกแทบชิดกัน “น่ารัก”

    “คิเสะ อย่าทำอย่างนี้สิครับ”ดวงตาสีฟ้าฮุบต่ำลง

    “ไม่เห็นต้องอายเลย”

    “แต่ฉันอายแทนว่ะ”คางามิซึ่งเดินเข้ามาในวงสนทนาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ดึงคอเสื้อคิเสะให้ถอยห่าง “พวกนายมันน่าอายชะมัด”

    “แล้วไงอ่ะ มันเรื่องของฉัน”

    “คางามิ อย่าทำอะไรคิเสะนะครับ”คุโรโกะสั่งเสียงเข้มเรียกอารมณ์ไม่พอในจากร่างสูง ดวงตาสีแดงตวัดมองร่างบางก่อนกระตุกยิ้มเหี้ยม ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นบนหัวแดงๆ

    “เออ ไม่ทำอะไรหรอก”คางามิตอบ “ไอ้ผมทอง ฉันจะแสดงละครกับแกด้วย”

    “หะ……………….เห้…………………พูดอะไรของนาย”

    “ก็อย่างที่บอก ฉันจะเป็นไอ้เจ้าชายนั้นเอง”สิ้นคำร่างสูงก็นั้นไปกดโทรศัพท์และเดินออกนอกประตูพร้อมๆกับคุยโทรศัพท์ด้านนอก

    “อะไรของเขาว่ะ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ”อิสึกิเกาหัวด้วยความสงสัย

    “ช่างมันเถอะหมอนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ”

    “ก็ดีแล้ว เราจะได้มีคนแสดงครบ”คิเสะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ใช่ม่า คุโรโกะจิ”

    “ครับ”แม้ปากคนตอบคนผมทองแต่ดวงตากลมโตนั้นยังคนมองตามร่างสูงซึ่งคุยโทรศัพท์ด้วยในหน้าเปี่ยมสุข

    “นี้ๆ ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำหน้าอย่างนั้น”ฮิวกะจิ้มหน้าผากคุโรโกะเบาๆ กิริยานั้นทำให้คิเสะไม่พอใจ เขาดึงคนตัวเล็กก่อนมาให้ห่างจากฮิวกะ

     “นาย….”ฮิวกะทำท่าจะพูดต่อแต่ต้องกลืนมันลงคอ

    “ผมว่าพวกเราควรจะกลับได้แล้วนะครับ”คุโรโกะดันตัวคิเสะออก “นี้ก็ห้าโมงเย็นแล้ว”

    “ฉันก็ว่างั้นแหละ เดี๋ยวต้องไปวางแผนการแข่งต่อด้วย”ริโกะพูดพลางเก็บกระเป๋า

    “ฉันก็ต้องไปช่วยพ่อทำงานด้วย”อิสึกิทำหน้าหน่ายๆ “ขี้เกลียดจัง”

    “อืม งั้นก็ได้”คิเสะรู้สึกเสียดายนิดๆที่ไม่ได้อยู่กับคุโรโกะนานๆ “นี้ๆๆคุโรโกะจิ มานอนบ้านฉันไหม เราจะได้คุยเรื่องบทกัน เนอะ”

    “ผม………………….

    “น้า คุโรโกะจิ ผมคิดถึงคุโรโกะจิด้วยนิ”

    “ไม่!!! เจ้านี้มธุระกับฉัน”จู่ๆคางามิก็เดินเข้ามาฉุดตัวคุโรโกะออกจากคิเสะเสียดื้อๆ ดวงตาสีแดงตวัดมองคนตัวเล็กด้วยความไม่พอใจ ทำไมคุโรโกะถึงไม่ปฏิเสธ รึเจ้านี้อยากไปนอนบ้านคิเสะ

    “ผม……..มะ…………ไม่ได้……มี..”ยังไม่ทันพูดจบมือใหญ่ก็ดึงคอเสื้อเขาให้ออกจากโรงยิมโคโจวท่ามกลางความงุนงงของทุกคน

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    “นี้……….คางามิ”เสียงหวานไล่เรียกคนตัวสูงซึ่งเดินอยู่ข้างหน้าแต่เรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่หันซักทีคุโรโกะจึงดึงชายเสื้อบาสเบอร์ 6 ให้คางามิสนใจ

    “ทำไม”

    “นายมีธุระอะไรกับผม”

    “ก็เปล่านิ………..”ร่างสูงกล่าวโดยไม่แยแสกับสีหน้าไม่พอใจของคนตัวเล็ก

    “งั้นผมขอไปนอนบ้านคิเสะนะครับ”คุโรโกะตัดบทก่อนเดินหันหลังไปทางโรงเรียนโคโจว

    “ไม่ได้!!!”คางามิเอ่ยเสียงเข้ม

    “ก็ในเมื่อคางามิไม่มีธุระอะไรกับผม แล้วจะห้ามผมไว้ทำไมเล่า!!!

    “ฉันบอกไม่ก็ไม่สิวะ!!!”มือใหญ่ฉุดกระชากข้อมือบางให้เดินตามตัวเองไป ทำไมเวลาคุโรโกะเรียกชื่อคนอื่น เขาต้องโกรธขนาดนี้ด้วย  

    “ปล่อยผมนะ!!!

    “อย่าดื้อ แล้วเดินตามฉันมาดีๆ”

    “ไม่ คางามิไม่มีเหตุผล”มือเล็กทุบต้นแขนแกร่งแรงๆ “ปล่อยผม”

    “คุโรโกะ!!

    “ผมจะไปหาคิเสะ!!!

    “ฮึ ไม่มีทาง”สิ้นคำคางามิก็จัดการรวบตัวคนตัวเล็กขึ้นแล้วช้อนอุ้มคุโรโกะไว้ในอ้อมแขน  รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกคนมาให้คนผมฟ้าซึ่งหน้าแดงแจ๋ด้วยความเขินอาย สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เข้าทั้งสองคน คุโรโกะอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีเสียจริง เจ้าโปโตซัวหัวแดงไร้สมองทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง เอาแต่ใจที่สุด!!! “ทีนี้นายจะขัดฉันไหม”

    “เอาแต่ใจ”เสียงหวานบ่นอุบอิบ

    “หยุดบ่นเป็นผู้หญิงไปได้”

    “มันเรื่องของผม”ร่างบางบ่นอุบอิบ “ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ปล่อยผมสิ”

    “อะ……………ธุระ…….” ที่จริงเขาก็ไม่มีได้ธุระอะไรกับคุโรโกะตอนนี้หรอกแต่ถ้าปล่อยไป คนตัวเล็กก็ต้องไปหา คิเสะแน่ๆคางามิเริ่มคิดหนัก เขาจะอ้างเรื่องอะไรได้มั่งเนี่ย “เออ!! ฉันอยากซื้อดอกไม้”

    “นี้หรอธุระของคุณ?”

    “ชะ………ใช้สิ”ร่างสูงสบสายตาที่พยายามจับผิดจากคนในอ้มแขน

    “ก็ได้”

     

     

     

     

     

     

                    ทั้งสองมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายดอกไม้ใจกลางเมือง ทั้งร้านถูกประดับประดาไปด้วยเหล่าดอกไม้หลากสีหลายพันธุ์ซึ่งจัดไว้อย่างสวยงามเพื่อเอาไว้ขายกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ผสมกับทำให้คุโรโกะรู้สึกคลื่นไส้ไม่น้อย เขาอยากไปให้พ้นๆจากที่นี้แต่เพราะมือใหญ่ที่กำข้อมือเขาไว้ทำให้ไปไหนไมได้

    “ที่นี้ ?”คนตัวเล็กหันมองร่างสูงอย่าแปลกใจ คางามิยิ้มกวนๆแทนคำตอบก่อนฉุดมือคุโรโกะให้เข้าไปด้านใน

    “ช่วยฉันหน่อยนะ”

     “นายจะซื้อดอกไม้ไปให้ใครล่ะ”

    “นายก็น่าจะรู้นิ  ก็นาโอมิไง”คางามิตอบพลางเดินดูดอกไม้รอบๆร้าน เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าดอกกุหลาบสีแดงสดเหมือนโลหิตดอกใหญ่ และเด่นสะดุดตาที่สุดในร้าน“ถ้าฉันซื้อของนี้ให้นาโอมิ เธอจะดีใจไหมนะ”

    “ไม่รู้สิ”เสียงหวานตอบเบาๆ “ฉันไม่รู้นิว่านาโอมิชอบอะไร”

    “หึ ยัยนั้นชอบสีแดง ชอบดอกไม้และกลิ่นของน้ำหอมที่เธอใช้ประจำก็คือกลิ่นกุหลาบนั้นแหละ”ร่างสูงกล่าวด้วยท่าทีเพ้อฝัน

    “รู้ดีจัง”คุโรโกะเอ่ยแกมประชด

    “เมื่อเราสนใจใครซักคน เราจะให้ความสำคัญกับคนๆนั้นโดยที่ไม่รู้ตัว”

    “นายคงรักนาโอมิมากสินะ”ดวงตาสีฟ้าฮุบต่ำลง “นายถึงได้รู้เรื่องของเธอดีขนาดนี้”

    “ไม่รู้สิ อาจจะเป็นอย่างนั้น”คุโรโกะได้มองใบหน้าหล่อเหล่าซึ่งเต็มไปด้วยความสุขยามพูดถึงผู้หญิงคนนี้ คางามิคงจะมีความสุข และถ้าคางามิมีความสุข เขาก็พร้อมจะสุขไปด้วย

    “นั้นสินะ”ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนยกยิ้มกว้างให้คางามิ แม้จะยิ้มแต่มันกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้า “ผมจะช่วยนาย คางามิ”

     

     

    ……………………เมื่อใดที่แสงมีความสุข………………….

     

    ……………………เงาย่อมสุขด้วยเสมอ……………………..

     

                    “ให้ได้อย่างนี้สิว่ะ คู่หู”คนผมแดงกอดคอร่างบางแน่น

                    “ผมหายใจไม่ออก”คุโรโกะร้องประท้วงทำให้คางามิต้องคลายอ้อมแขนออก ใบหน้าสวยมองคนตัวสูงอย่างงอนๆก่อนหันไปหยิบดอกกุหลาบบนแจกันออกมาดู “สวยดีนะ ผมว่าคางามิน่าจะซื้อให้นาโอมิ”

    “ใช่ม้าๆๆ”

    “ใช่ มันทั้งสวย เย้อหยิ่งและงามสง่าเหมือนนาโอมิ แม้ในความสวยงามนั้นกลับเต็มไปด้วยความอันตราของหนามก็ไม่ทำให้ความงามของมันลดลง ตรงข้าม มันกลับช่วยสร้างเสน่ห์ให้กุหลาบอีกด้วย”

    “คิดไม่ผิดจริงๆที่ฉันให้นายช่วย”ร่างสูงพึมพำ

    “ไม่หรอก”คนตัวเล็กเอ่ยตอบก่อนส่งดอกกุหลาบให้ร่างสูง “บอกร้านให้จัดช่อสวยๆด้วยล่ะ”

    “ขอบใจ คุโรโกะ นายเป็นคู่หูที่ดีที่สุดของฉัน”

    “ผมก็ดีใจ ที่มีนาย คู่หู”วลีสุดท้ายดูแผ่วลงจนหน้าใจหาย คางามิมองเสี้ยวหน้าวานซึ่งเริ่มขึ้นสีแดงเหมือนจะร้องไห้ เขาอดห่วงคนตัวเล็ดไม่ได้

    “นายเป็นอะไรไหม ไม่สบายรึเปล่า  ดูท่าทางนายไม่ค่อยดีเลยนะ”

    “ไม่หรอก แต่เหนื่อยๆ”คุโรโกะบ่างเบี่ยง

    “อืมๆ อย่าฝืนตัวเองมากไปล่ะ”

    “ผมไม่เป็นไรหรอกครับ”

    “เอาเถอะ ฉันว่าเอาดอกไม้นี้ไปจัดช่อแล้วเราจะได้กลับหอกัน นายจะได้พักผ่อน”

    “ผมไม่ได้ป่วย แค่เจ็บ เจ็บตรงหัวใจก็เท่านั้น”ดวงตาสีฟ้ามองตามแผ่นหลังกว้างของร่างสูงซึ่งกำลังเดินห่างออกไปช้าๆ

    “ใช่ ก็แค่เจ็บเท่านั้นเอง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×