คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Quarter 4 คิเสะมาแล้ววววว (ขอตั้งชื่อตอนหน่อย!!!)
“เราคือเจ้าหญิง สโนว์ไวท์ ซึ่งถูกแม่เลี้ยงใจร้ายตามล่า และ……และ…………….และ………เออ……ฉันลืมบทไปแล้วล่ะ……..”
“โถ้เว้ย คัตๆๆๆๆๆๆ”ริโกะปากระดาษลงพื้นอย่างหัวเสีย เมื่อไหร่ยัยนาโอมิจะจำบทได้ซักที นี้ซ้อมาห้ารอบก็จำไม่ได้ห้ารอบ มันจะยากอะไร ก็แค่พูดว่า เราคือเจ้าหญิงสโนว์ไทว์ ซึ่งถูกแม่เลี้ยงใจร้ายตามล่าและเราไร้ที่พักพิง แค่เนี่ย?
“ทำไมต้องอารมณ์เสียใส่ฉันด้วยล่ะคะ!!!”นาโอมิทิ้งตัวนั่งอย่างหงุดหงิด “ก็คนมันจำไม่ได้นิ”
“เธอก็พยายามสิ การแสดงของชมรมฉันมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ!!”
“ไม่รู้ ฉันจำไม่ได้ ก็จำไม่ได้ ได้ยินไหม”หญิงสาวกระแทกเสียง “ฉันเหนื่อย ใครก็ได้เอาน้ำมาให้ที”
“นี้ น้ำ”คุโรโกะถือถาดน้ำมาให้หญิงสาวแต่เพราะความรีบร้อนทำให้เด็กหนุ่มสะดุด แก้มน้ำเจ้ากรรมจึงหกรดเสื้อสีขาวตัวบางของนาโอมิจนเห็นผิวกายที่อยู่ด้านใน
“กรี๊ดดดดดด ซุ่มซ่าม นี้แกรู้ไหม่ว่าเสื้อฉันมีแพงแค่ไหน!!!”(นี้มันนายร้ายชัดๆ - -“)
“ผมขอโทษ”ร่างเล็กรีบโค้งขอโทษทันที
“แล้วมันหายไหมยะ!!!!”หญิงสาวฉวยแก้วน้ำข้างตัวก่อนลาดลงบนผมสีฟ้าคนเปียกชุ่มท่ามกลางความตกใจของทุกคนในชมรม
“เธอทำบ้าอะไรเนี่ย!!!!”ริโกะดึงคุโรโกะให้ออกห่างจากหญิงสาว ก่อนผลักคนตัวเล็กไปหาฮิวกะ “ฮิวกะ พาคุโรโกะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”
“อย่ามายุ่ง นี้เป็นเรื่องของฉันกับเจ้านั้น”
“ทำไมต้องทำอย่างนี้ เธอคิดว่าเธอใหญ่มาจากไหน!!!”
“แน่นอน”นาโอมิยิ้มเย้ยแต่เธอต้องหุบยิ้มเมื่อมือของเด็กสาวผมสั้นจิกเข้าที่ต้นแขนของเธออย่างแรง
“อย่าทำร้ายคุโรโกะอีก”ริโกะกระซิบ
“โอ้ยยยยย เจ็บนะคะ”นาโอมิร้อง
“มันก็สาสมกับเธอแล้วล่ะ นาโอมิ”
“หยุด!!! ริโกะ”เสียงทุ้มเอ่ย ร่างคนผมแดงยืนอยู่ด้านหลังของนาโอมอก่อนแกะมือริโกะออก
“นี้นาย……………………เข้าข้างผู้หญิงคนนี้หรอ นายไม่เห็นรึไงว่า ยัยนี้ทำอะไรกับคุโรโกะ”
“เห็น”คางามิตอบเสียงแผ่ว
“แล้วนี้นายไม่คิดจะทำอะไรเลยหรอ!!!”
“แล้วจะให้ฉันทำอะไรเล่า นั้นก็เพื่อน นี้ก็แฟน”
“เจ้าบ้า!!!ไร้เหตุผลที่สุด”เด็กสาวตะคอก“ไอ้โง่เอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย ลิงยังฉลาดกว่าแกอีก!!!”
“เออ ฉันมันโง่”
“คางามิ ฉันไม่อยากแสดงแล้วล่ะ น่าเบื่ออออออออออออ”นาโอมิเอ่ยก่อนสะบัดตัวเก็บของ
“จะไปไหนก็ไป ฉันก็ไม่อยากได้เธอแล้วเหมือนกัน!!!”
“ยะ”สิ้นคำ นาโอมิก็เก็บของก่อนเดินออกประตูไปทันทีพร้อมกับคางามิที่วิ่งตามไปติดๆ
“แล้วเราจะทำยังกันต่อเนี่ย ดูเหมือนยัยนั้นจะไม่ยอมแสดงแล้วนะ”โคงาเนะเอ่ยอย่างเซ็งๆ “เราจะเอาใครมาแทนดี”
“ไม่รู้เว้ย!!!!”
“เอางี้ดีไหม เราขอยืมตัวพวกชมรมการแสดงมาแทนก่อนได้ไหม”อิสุกิเสนอ
“ไม่ดีอ่ะ พวกนั้นมันหยิ่ง ฉันไม่อยากไปคุย”
“แล้วเธอจะเอาใครมาแสดง ห๊า เวลามันมีจำกัดนะ”โคงาเนะบ่น
“อืม มีอีกทางนึ่ง”ริโกะพึมพำ “ แต่เราต้องพึ่งพวกนั้น”
“ใคร ?”
“คิเสะ”
“ห๊า!!!! จะบ้าหรอ”
“ฉันจะเอาโรงเรียนเราไปแสดงร่วมกับเจ้าคิเสะ เพราะเห็นว่าทางนั้นก็ค่อนข้างมีปัญหากับจำนวนคนเหมือนกัน ใครเห็นด้วยกับฉันบ้าง”
“ไม่รู้สิ แต่มันก็ไม่มีทางอื่นแล้วนี้เนอะ”
“คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ”
“เอาเป็นว่าทุกคนเห็นด้วยใช่ไหม”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“นี้คิเสะ ”
[ว่าไง…………………] น้ำเสียงเอื่อยๆจากปลายสายทำให้ริโกะรู้ดีว่าไอ้คนหัวทองเพิ่งตื่นแน่นอนทั้งที่ตอนนี้ก็เที่ยงกว่าแล้ว ดาราเขาทำกันอย่างนี้หรอ?
“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย”
[ทำไมอ่า…………………….]
“ได้ข่าวว่าโรงเรียนนายคนแสดงละครไม่ครบหรอ”
[อืม…………เธอจะมาร่วมกับโรงเรียนฉันรึไง……..]
“ก็ใช่สิยะ โรงเรียนของฉันเกิดปัญหานิดหน่อย คนแสดงเลยไม่พอเหมือนกัน”
[ก็เอาดิ…………………..แค่นี้นะ ฉันจะนอน]
“เดี๋ยวสิยะ ฉันยังพูดไม่จบ”
[อะไรอีกเล่า]
“ฉันมีอีกเรื่องที่อยากจะปรึกษานาย”
[อะไร]
“เรื่องของคุโรโกะ”
[คุโรโกะจิ เป็นอะไร] ทันทีที่ได้ยินชื่อของคนตัวเล็ก ปลายสายก็ดูร้อนรนขึ้นมาทันที
“คือ ยัยนายเอกของฉันที่ออกไปลาดน้ำใส่หัวคุโรโกะน่ะสิ”
[ยัยนั้นมันเป็นใคร!!!!]
“มิโนระ นาโอมิ”
[ออ ยัยนั้นเองหรอ แฟนเก่าฉันเองแหละ…………………………หึกล้าดียังไงมาทำร้ายคุโรโกจิของฉัน]
“นายเคยคบกัน”
[ใช่…….ฉันรู้จักดีเลยล่ะ ยัยนั้นน่ะใช้เส้นสายเข้าเป็นนางเอกและเซ็นสัญญาให้กับค่ายที่ฉันกำลังทำงานอยู่]
“ฉันล่ะ สงสารคุโรโกะ”
[งั้นเธอก็ให้คุโรโกะจิลาออกมาอยู่กับฉันสิ]
“จะบ้าหร๊ออออออออ เจ้านี้เป็นไม้ตายของฉันเฟ้ย”
[ฮ่า ฮ่า ล้อเล่น]
“เอาล่ะ นายตกลงแล้วใชไหมว่าจะร่วมกับทีมฉัน”
[อืม แต่มีข้อแม้นะ]
“อะไรยะ”
[หนึ่งคือ ต้องใช้บทละครของทีมฉัน และสองต้องให้คุโรโกจิ เป็นางเอก]
“เจ้าบ้า!!! เรื่องบทอ่ะ ได้ให้เจ้าคุโรโกะเป็นนางเอก นายสมองกลับรึไง”
[ถ้าเธอไม่ยอม ฉันก็ต้องขอบาย]
“นายมั่นใจได้ยังไงว่าเจ้านั้นจะไม่ทำละครล่ม”
[บ๊ะ!!! เอาหัวเป็นประกันเลย]
“ไม่รู้สิ ฉันไม่มั่นใจ”
[แล้ว เธอจะตกลงป่ะล่ะ]
“เออ ก็ได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันไม่รู้ด้วยน้า”
[ตกลง พรุ่งนี้เจอกัน]
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นี้คือเรื่องระหว่างสามอาณาจักรที่ต้องมาแตกแยกเพียงเพราะความรัก เกิดสงคราม การลองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์
เจ้าหญิงแคโล องค์หญิงน้อยจากอาณาจักเล็กๆ ผู้อ่อนโยนแต่ตาสองข้างมืดบอด หลงรักราชาดาร์ทเนตตั้งแต่ยังเล็กแต่นางไม่กล้าพอที่จะบอกเขา
ราชาแอลแซคผู้รักสงบและเยือกเย็น เป็นเหมือนพี่ชายที่แสนดีขององค์หญิง ค่อยดูแลแคโลเป็นอย่างดีเพราะเขาหลงรักเจ้าหญิงน้อยแต่แรกเห็น
ราชาดาร์ทเนตผู้เอาแต่ใจและอารมณ์ร้อน ฉายาราชาไร้หัวใจ โหดเหี้ยม เขาเกลียดแอลแซคเข้าไส้เพราะเคยสังหารพ่อของตัวเองและสาบานว่าจะแก้แค้นจนกระทั้งได้พบจุดอ่อนของราชาผู้อ่อนโยนว่าคือเจ้าหญิงน้อย
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อดาร์ทเนตลักพาตัวองค์หญิงน้อยเพื่อสร้างความเจ็บปวดแก่แอลแซตแต่เพราะความใกล้ชิดระหว่างเขากับองค์หญิงทำให้จิตใจที่ด้านชาละลายลงแต่เขายังไม่วางฐิทิที่มีต่อองค์หญิง แต่เหตุการณ์กลับเลวร้ายลงเมื่อราชาแอลแซตนำทัพมาโจมตีอาณาจักรของเขา บทสรุปสุดท้ายคือการนองเลือดครั้งใหญ่ นั้นทำให้องค์หญิงเสียใจที่เป็นฉนวนเหตุแห่งการนองเลือด สุดท้ายเธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย
“ซึ่งโฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”คางามินั่งมองผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าอกสามศอกปาดน้ำตาเหยาะๆไม่สมกับตัว ร่างสูงไม่เข้าใจว่ามันน่าร้องไห้ตรงไหน ก็แค่บทละครน้ำเน่าธรรมดา
“เป็นไงมั่ง บทของทีมฉันเจ๋งใช่ไหม ?”คิเสะยิ้มร่ากับปฏิกิริยาของทุกคน สมกับที่เขาให้นักเขียนมือดีแต่งบทละครให้ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ
“โคตรซึ้งอ่ะ คิเสะ”ริโกะปาดน้ำตา “สมกับเป็นคิเสะ”
“ไร้สาร”เสียงทุ้มจากคนผมแดงเอ่ยขัด เรียกสายตาค้อนขวับจากโค้ดแห่งเซย์ริน
“เจ้าคนไร้ความโรแมนติกกกกกก”
“แล้วไงเล่า”คางามิบ่นอุบอิบก่อนหันไปยกน้ำขึ้นดื่ม เดิมเขาก็ไม่ค่อยพอใจที่ต้องมารวมทีมกับพวกโคโจว ตอนนี้ก็ต้องมาแสดงละครงี่เง่าไร้สาระ แถมยังทะเลาะกับนาโอมิเพราะเรื่องนี้อีก
“เอาล่ะ ฉันว่าพวกเรามาช่วยกันเลือกตัวแสดงดีกว่านะ”คนผมทองกล่าวก่อนไร้มองแผ่นกระดาษในมือ “เอาบทขุนนาง กับแม่ทัพของเอลแซตก่อนแล้วกัน”
“นี้ๆๆๆ เอาเจ้าฮิวกะไหม มันเหมาะกับพวกขุนนางบุ๋น ว่าไหม?”ริโกะตบไหล่คนข้างๆอย่างแรง สายตาดุถูกส่งมาให้เธอ “ก็ฉันพูดความจริงนิ”
“ใครเห็นด้วยกับริโกะมั่ง”
“ฉันๆๆๆ”ทุกคนนั้นที่นั้นต่างยกมือ พวกเขาก็คิดเหมือนกับหญิงสาว
“งั้นก็เอาฮิวกะนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”คิเสะมองหน้าคนถูกเสนอที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจพลางหัวเราะร่า “ต่อไป แม่ทัพ ฉันของเลือกยูกิโอะนะ”
“อ่ะไรว่ะ เจ้าบ้า ฉันไม่อยากแสดงเว้ยยยยยยยยยยยยยยย”
“น้านะ เพื่อทีม เพื่อทีม ท่องเอาไว้”
“ไม่เอา”
“น้า”
“ไม่”
“น้าครับบบบบบบบบบบ”คิเสะอ้อน “ทุกคนต้องมีหน้าทีนะ ไม่งั้นผมจะให้รุ่นพี่ไปทำฉากจริงๆด้วย”
“ไม่เว้ย ฉันไม่อยากทำ!!! ชิ๊”ยูกิโอะกัดฟัน ก่อนแตะคนผมสองสองสามที “ก็ได้ว่ะๆๆๆๆๆๆๆ”
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ”
“เออออออออออออออ”
“เอาล่ะ ต่อไปๆ เอาเป็นบทราชาเอลแซต”คิเสะเงยหน้าจากกระดาษมองทุกคน เข้าต้องตกใจที่เพื่อนร่วมทีมตรงหน้าร่วมใจกันชี้มาทางเขาอย่างไม่ได้นัดหมายกัน“ฮะ เฮ้ยยยยยย ผมไม่เล่นนะ”
“แต่พวกเราคิดว่านายเหมาะสมที่สุดแล้ว”หนึ่งในทีมเซย์รินเอ่ย
“ผมเนี่ยนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ไม่ต้องมาหัวเราะกลบเกลื่อน แกนั้นแหละ”ยูกิโอะกอดคอคนผมทองก่อนยิ้มด้วยความสะใจ “อย่าขัดๆๆ”
“ไรว๊าวววววววว”คนผมทองได้แต่ถอนหายใจด้วยอย่างยอมรับ “เออ ก็ได้ครับ”
“ต่อไป บทขององค์ราชาดาร์ทเนต”ริโกะเอ่ย
“อืม ไม่รู้สิไม่มีใครดูดาร์ทๆเหมือนอาโอมิเนะมั่งเลยอิสึกิกวาดตามองทุกคนก่อนไปสะดุดตาอยู่ที่คนผมแดงซึ่งนั่งหน้าเซ็งตรงประตู “เอาเจ้านั้นดีไหม”
“ไหนๆๆๆๆ”
“เจ้าคางามิน่ะ”
“จะดีหร๊ออออออ มันยิ่งอารมณ์ขึ้นๆลงๆ”ยูกิโอะมองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“ฉันว่าก็โอเคนะ เจ้านั้นหน้าต่ก็พอๆกับเจ้าคิเสะนั้นแหละ”ริโกะเอ่ย
“ไม่จริง ผมหล่อกว่าตั้งเยอะ”คิเสะโพล่งขึ้น
“หร๊ออออ”
“ช่ายยยยยยยยยยยย เนอะคุโรโกะจิ”คนผมทองว่าพลางกอดคนคุโรโกะซึ่งยืนเหม่อจนเกือบล้ม
“อะ….อืม…………”
“เห็นไหมๆ คุโรโกะจิยังบอกเลยว่าผมหล่อ”
“หลงตัวเองชะมัด”ฮิวกะพึมพำ
“เข้าเรื่องๆๆๆซักทีได้ไหม”หญิงสาวตัดบทเสียงเข้ม “ตกลงเอาเจ้าคางามิใช่ไหม”
“อืม ตามนั้นแหละ”คิเสะตอบเอื่อยๆ
“เฮ้ย คางามิ แกเป็นราชาดาร์ทเนต นะเว้ย”
“ไม่ ขี้เกลียด ไม่มีอารมณ์”คนผมแดงตอบโดยคิดพร้อมแผ่รังสีอำมหิตออกมา
“เพื่อทีม นายทำไม่ได้รึไง ห๊า คางามิ”เด็กสาวตบไหล่คนผมแดงแรงๆ
“ไม่!!! ฉันไม่อยากทำ เข้าใจไหม!!!”คางามิตอบเสียงดังทำให้หลายคนสะดุ้งเฮือก มันบ่งบอกว่าเขากำลังโกรธ ดวงตาสีแดงตวัดมองเพื่อนร่วมทีมก่อนไปหยุดอยู่ที่คนตัวเล็ก
“งั้นหรอผ่านบทนี้ไปก่อนก็ได้นะ”อิสึกิเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบอกบัดเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น
“กะ…………….ก็ดีนะ”โคงาเนะตอบก่อนยิ้มแห้งๆให้คิเสะ
“อืม งั้นเอาบทเจ้าหญิงแล้วกันเนอะ”ยูกิโอะเอ่ย
“เจ้าหญิง ไม่ต้องเลือกหรอก”คิเสะกล่าวพลางยิ้มกว้างกับริโกะ “ใช่ไหม ริโกะ”
“นี้ นายจะเอาจริงหรอ?”เด็กสาวผมน้ำตาลถามอย่างไม่แน่ใจกับคนความคิดของคนตรงหน้า
“แน่ใจดิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“แล้วใครล่ะ ที่เป็นเจ้าหญิงของนาย คิเสะ”ยูกิโอะบ่น เขารู้ดีความคิดของคิเสะมักจะไม่เข้าท่าเสมอ
“นี้ไง!!!”คำตอบทำให้หลายคนตกใจ พวกเข้าไม่อยากเชื่อว่าเจ้าคิเสะจะคิดสั้นเอาคนๆนั้นเป็นนางเอกละคร ปกติเจ้านี้มักทำตัวจืดจางจนไม่มีคนสนใจ ถ้าขึ้นเวทีไป ใครมันจะสนว่ะ
“คุโรโกะ!!!”
“เจ้าบ้า!!! แกคิดอะไรอยู่ว่ะ”ยูกิโอะอยากตบหัวทองๆของเจ้าหน้าหล่อนคนนี้ซะจริง
“ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ถ้าทุกคนไม่ให้คุโรโกะจิเล่น ฉันก็ไม่เล่น”คิเสพูดอย่างเอาแต่ใจแล้วกอดคนตัวเล็กแน่นอย่างห่วงแหน “เอาไหม”
“อย่าเอาแต่ใจน่า คิเสะ เจ้าคุโรโกะอ่ะนะ จะแสดงได้”
“แน่ใจ เรื่องนี้คุโรโกะจิก็แค่นั่งอยู่เฉยๆ บทพูดก็น้อย แถมตาบอดอีกต่างหาก สบายจะตาย”
“แล้วนายถามคุโรโกะรึยังว่าอยากเล่นไหม”ฮิวกะถาม ดวงตาใต้กรอบแว่นมองคนผมฟ้าในอ้อมแขนคิเสะอย่างเคืองๆ เจ้าคิเสะมันยุ่งกับคุโรโกะมากเกินไปแล้วนะเฟ้ย!!!
“นายจะเล่นไหม คุโรโกจิ”
“ไม่อ่ะ”
“ทำไมอ้า น้า เล่นเถอะน้า”
“คือว่า………………..ผมคิดว่ามีคนที่เล่นได้ดีกว่าผม”คุโรโกะก้มหน้านิ่ง “ริโกะก็เล่นได้นี้”
“ไม่เอาอ่ะ ฉันจะให้คุโรโกะเล่น”คิเสะรวบมือเล็กไว้ก่อนพยายามสบตาคนตัวเล็ก “น้า”
“จะดีหรอครับ”
“ดีสิ”ริโกะตอบแทน
“ผม………………………………………ผมอายนิ”พวกแก้มสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานด้วยความอาย ภาพนั้นช่างน่ารักในสายตาของใครหลายคนรวมทั้งคางามิเองด้วย
“คุโรโกะจิหน้าแดงด้วยยยยยยยยยยยย”มือใหญ่เชยคางคุโรโกะให้เงยขึ้นก่อนก้มหน้าลงจมูกแทบชิดกัน “น่ารัก”
“คิเสะ อย่าทำอย่างนี้สิครับ”ดวงตาสีฟ้าฮุบต่ำลง
“ไม่เห็นต้องอายเลย”
“แต่ฉันอายแทนว่ะ”คางามิซึ่งเดินเข้ามาในวงสนทนาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ดึงคอเสื้อคิเสะให้ถอยห่าง “พวกนายมันน่าอายชะมัด”
“แล้วไงอ่ะ มันเรื่องของฉัน”
“คางามิ อย่าทำอะไรคิเสะนะครับ”คุโรโกะสั่งเสียงเข้มเรียกอารมณ์ไม่พอในจากร่างสูง ดวงตาสีแดงตวัดมองร่างบางก่อนกระตุกยิ้มเหี้ยม ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นบนหัวแดงๆ
“เออ ไม่ทำอะไรหรอก”คางามิตอบ “ไอ้ผมทอง ฉันจะแสดงละครกับแกด้วย”
“หะ……………….เห้…………………พูดอะไรของนาย”
“ก็อย่างที่บอก ฉันจะเป็นไอ้เจ้าชายนั้นเอง”สิ้นคำร่างสูงก็นั้นไปกดโทรศัพท์และเดินออกนอกประตูพร้อมๆกับคุยโทรศัพท์ด้านนอก
“อะไรของเขาว่ะ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ”อิสึกิเกาหัวด้วยความสงสัย
“ช่างมันเถอะหมอนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละ”
“ก็ดีแล้ว เราจะได้มีคนแสดงครบ”คิเสะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ใช่ม่า คุโรโกะจิ”
“ครับ”แม้ปากคนตอบคนผมทองแต่ดวงตากลมโตนั้นยังคนมองตามร่างสูงซึ่งคุยโทรศัพท์ด้วยในหน้าเปี่ยมสุข
“นี้ๆ ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำหน้าอย่างนั้น”ฮิวกะจิ้มหน้าผากคุโรโกะเบาๆ กิริยานั้นทำให้คิเสะไม่พอใจ เขาดึงคนตัวเล็กก่อนมาให้ห่างจากฮิวกะ
“นาย….”ฮิวกะทำท่าจะพูดต่อแต่ต้องกลืนมันลงคอ
“ผมว่าพวกเราควรจะกลับได้แล้วนะครับ”คุโรโกะดันตัวคิเสะออก “นี้ก็ห้าโมงเย็นแล้ว”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ เดี๋ยวต้องไปวางแผนการแข่งต่อด้วย”ริโกะพูดพลางเก็บกระเป๋า
“ฉันก็ต้องไปช่วยพ่อทำงานด้วย”อิสึกิทำหน้าหน่ายๆ “ขี้เกลียดจัง”
“อืม งั้นก็ได้”คิเสะรู้สึกเสียดายนิดๆที่ไม่ได้อยู่กับคุโรโกะนานๆ “นี้ๆๆคุโรโกะจิ มานอนบ้านฉันไหม เราจะได้คุยเรื่องบทกัน เนอะ”
“ผม………………….”
“น้า คุโรโกะจิ ผมคิดถึงคุโรโกะจิด้วยนิ”
“ไม่!!! เจ้านี้มธุระกับฉัน”จู่ๆคางามิก็เดินเข้ามาฉุดตัวคุโรโกะออกจากคิเสะเสียดื้อๆ ดวงตาสีแดงตวัดมองคนตัวเล็กด้วยความไม่พอใจ ทำไมคุโรโกะถึงไม่ปฏิเสธ รึเจ้านี้อยากไปนอนบ้านคิเสะ
“ผม……..มะ…………ไม่ได้……มี..”ยังไม่ทันพูดจบมือใหญ่ก็ดึงคอเสื้อเขาให้ออกจากโรงยิมโคโจวท่ามกลางความงุนงงของทุกคน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“นี้……….คางามิ”เสียงหวานไล่เรียกคนตัวสูงซึ่งเดินอยู่ข้างหน้าแต่เรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่หันซักทีคุโรโกะจึงดึงชายเสื้อบาสเบอร์ 6 ให้คางามิสนใจ
“ทำไม”
“นายมีธุระอะไรกับผม”
“ก็เปล่านิ………..”ร่างสูงกล่าวโดยไม่แยแสกับสีหน้าไม่พอใจของคนตัวเล็ก
“งั้นผมขอไปนอนบ้านคิเสะนะครับ”คุโรโกะตัดบทก่อนเดินหันหลังไปทางโรงเรียนโคโจว
“ไม่ได้!!!”คางามิเอ่ยเสียงเข้ม
“ก็ในเมื่อคางามิไม่มีธุระอะไรกับผม แล้วจะห้ามผมไว้ทำไมเล่า!!!”
“ฉันบอกไม่ก็ไม่สิวะ!!!”มือใหญ่ฉุดกระชากข้อมือบางให้เดินตามตัวเองไป ทำไมเวลาคุโรโกะเรียกชื่อคนอื่น เขาต้องโกรธขนาดนี้ด้วย
“ปล่อยผมนะ!!!”
“อย่าดื้อ แล้วเดินตามฉันมาดีๆ”
“ไม่ คางามิไม่มีเหตุผล”มือเล็กทุบต้นแขนแกร่งแรงๆ “ปล่อยผม”
“คุโรโกะ!!”
“ผมจะไปหาคิเสะ!!!”
“ฮึ ไม่มีทาง”สิ้นคำคางามิก็จัดการรวบตัวคนตัวเล็กขึ้นแล้วช้อนอุ้มคุโรโกะไว้ในอ้อมแขน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกคนมาให้คนผมฟ้าซึ่งหน้าแดงแจ๋ด้วยความเขินอาย สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เข้าทั้งสองคน คุโรโกะอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีเสียจริง เจ้าโปโตซัวหัวแดงไร้สมองทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง เอาแต่ใจที่สุด!!! “ทีนี้นายจะขัดฉันไหม”
“เอาแต่ใจ”เสียงหวานบ่นอุบอิบ
“หยุดบ่นเป็นผู้หญิงไปได้”
“มันเรื่องของผม”ร่างบางบ่นอุบอิบ “ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ปล่อยผมสิ”
“อะ……………ธุระ…….” ที่จริงเขาก็ไม่มีได้ธุระอะไรกับคุโรโกะตอนนี้หรอกแต่ถ้าปล่อยไป คนตัวเล็กก็ต้องไปหา คิเสะแน่ๆคางามิเริ่มคิดหนัก เขาจะอ้างเรื่องอะไรได้มั่งเนี่ย “เออ!! ฉันอยากซื้อดอกไม้”
“นี้หรอธุระของคุณ?”
“ชะ………ใช้สิ”ร่างสูงสบสายตาที่พยายามจับผิดจากคนในอ้มแขน
“ก็ได้”
ทั้งสองมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายดอกไม้ใจกลางเมือง ทั้งร้านถูกประดับประดาไปด้วยเหล่าดอกไม้หลากสีหลายพันธุ์ซึ่งจัดไว้อย่างสวยงามเพื่อเอาไว้ขายกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ผสมกับทำให้คุโรโกะรู้สึกคลื่นไส้ไม่น้อย เขาอยากไปให้พ้นๆจากที่นี้แต่เพราะมือใหญ่ที่กำข้อมือเขาไว้ทำให้ไปไหนไมได้
“ที่นี้ ?”คนตัวเล็กหันมองร่างสูงอย่าแปลกใจ คางามิยิ้มกวนๆแทนคำตอบก่อนฉุดมือคุโรโกะให้เข้าไปด้านใน
“ช่วยฉันหน่อยนะ”
“นายจะซื้อดอกไม้ไปให้ใครล่ะ”
“นายก็น่าจะรู้นิ ก็นาโอมิไง”คางามิตอบพลางเดินดูดอกไม้รอบๆร้าน เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าดอกกุหลาบสีแดงสดเหมือนโลหิตดอกใหญ่ และเด่นสะดุดตาที่สุดในร้าน“ถ้าฉันซื้อของนี้ให้นาโอมิ เธอจะดีใจไหมนะ”
“ไม่รู้สิ”เสียงหวานตอบเบาๆ “ฉันไม่รู้นิว่านาโอมิชอบอะไร”
“หึ ยัยนั้นชอบสีแดง ชอบดอกไม้และกลิ่นของน้ำหอมที่เธอใช้ประจำก็คือกลิ่นกุหลาบนั้นแหละ”ร่างสูงกล่าวด้วยท่าทีเพ้อฝัน
“รู้ดีจัง”คุโรโกะเอ่ยแกมประชด
“เมื่อเราสนใจใครซักคน เราจะให้ความสำคัญกับคนๆนั้นโดยที่ไม่รู้ตัว”
“นายคงรักนาโอมิมากสินะ”ดวงตาสีฟ้าฮุบต่ำลง “นายถึงได้รู้เรื่องของเธอดีขนาดนี้”
“ไม่รู้สิ อาจจะเป็นอย่างนั้น”คุโรโกะได้มองใบหน้าหล่อเหล่าซึ่งเต็มไปด้วยความสุขยามพูดถึงผู้หญิงคนนี้ คางามิคงจะมีความสุข และถ้าคางามิมีความสุข เขาก็พร้อมจะสุขไปด้วย
“นั้นสินะ”ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนยกยิ้มกว้างให้คางามิ แม้จะยิ้มแต่มันกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้า “ผมจะช่วยนาย คางามิ”
……………………เมื่อใดที่แสงมีความสุข………………….
……………………เงาย่อมสุขด้วยเสมอ……………………..
“ให้ได้อย่างนี้สิว่ะ คู่หู”คนผมแดงกอดคอร่างบางแน่น
“ผมหายใจไม่ออก”คุโรโกะร้องประท้วงทำให้คางามิต้องคลายอ้อมแขนออก ใบหน้าสวยมองคนตัวสูงอย่างงอนๆก่อนหันไปหยิบดอกกุหลาบบนแจกันออกมาดู “สวยดีนะ ผมว่าคางามิน่าจะซื้อให้นาโอมิ”
“ใช่ม้าๆๆ”
“ใช่ มันทั้งสวย เย้อหยิ่งและงามสง่าเหมือนนาโอมิ แม้ในความสวยงามนั้นกลับเต็มไปด้วยความอันตราของหนามก็ไม่ทำให้ความงามของมันลดลง ตรงข้าม มันกลับช่วยสร้างเสน่ห์ให้กุหลาบอีกด้วย”
“คิดไม่ผิดจริงๆที่ฉันให้นายช่วย”ร่างสูงพึมพำ
“ไม่หรอก”คนตัวเล็กเอ่ยตอบก่อนส่งดอกกุหลาบให้ร่างสูง “บอกร้านให้จัดช่อสวยๆด้วยล่ะ”
“ขอบใจ คุโรโกะ นายเป็นคู่หูที่ดีที่สุดของฉัน”
“ผมก็ดีใจ ที่มีนาย คู่หู”วลีสุดท้ายดูแผ่วลงจนหน้าใจหาย คางามิมองเสี้ยวหน้าวานซึ่งเริ่มขึ้นสีแดงเหมือนจะร้องไห้ เขาอดห่วงคนตัวเล็ดไม่ได้
“นายเป็นอะไรไหม ไม่สบายรึเปล่า ดูท่าทางนายไม่ค่อยดีเลยนะ”
“ไม่หรอก แต่เหนื่อยๆ”คุโรโกะบ่างเบี่ยง
“อืมๆ อย่าฝืนตัวเองมากไปล่ะ”
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ”
“เอาเถอะ ฉันว่าเอาดอกไม้นี้ไปจัดช่อแล้วเราจะได้กลับหอกัน นายจะได้พักผ่อน”
“ผมไม่ได้ป่วย แค่เจ็บ เจ็บตรงหัวใจก็เท่านั้น”ดวงตาสีฟ้ามองตามแผ่นหลังกว้างของร่างสูงซึ่งกำลังเดินห่างออกไปช้าๆ
“ใช่ ก็แค่เจ็บเท่านั้นเอง”
ความคิดเห็น