คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Quarter 8
เมื่อม่านสีแดงถูกเปิดขึ้น บทละครที่เป็นเหมือนดังชีวิตจริงก็ได้เริ่มบรรเลงไปช้าๆตามบทที่ทุกคนได้รับ “เจ้าหญิงจันทรา” เรื่องราวของเจ้าหญิงซึ่งเป็นเหตุของสงครามระหว่างสองประเทศ แม้จะเป็นเพียงเจ้าหญิงจากประเทศเล็กๆถึงทั้งอ่อนแอและตาบอก แต่เธอก็เป็นสาเหตุแห่งมหาสงครามซึ่งสุดท้าย สิ่งที่เหลืออยู่คือการสูญเสีย
และฉากสุดท้ายของเรื่องนี้ คือ……………………………………..
“ท่านราชาแอลแซต ปล่อยมือจากข้าเสียเถอะ”เสียงหวานเอ่ย ลมหายใจเริ่มแผ่วลงไปทุกขณะอย่างหน้าใจหายพร้อมๆกับผิวเนียนที่เย็นยืดลงเหมือนดังหิมะที่กำลังร่วงหล่นลงมา แอลแซตหาได้สนใจความเยือกเย็นรอบกายไม่ สิ่งที่เขาสนคือร่างเล็กๆในอ้อมแขนกำลังจะจากไปต่อหน้าต่อตาเท่านั้น ร่างสูงตระกองกอดคนรักแน่นหวังเพียงให้ไออุ่นจากกายช่วยเพิ่มพูนลมหายใจให้กับเจ้าหญิง
“ไม่ เจ้าต้องไม่เป็นไร!!!”แอลแซตก้มกระซิบข้างหูคนในอ้อมกอด กระแสเสียงสั่นเทาพร้อมๆกับหยดน้ำตาที่ไหลรินรดอาบหน้าผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าจิตใจแข็งแกร่งดั่งภูผา ยามนี้เขากลับต้องมาเสียงน้ำตาให้เจ้าหญิงน้อยผู้อ่อนแอ“สัญญากับข้าสิ ว่าเจ้าต้องไม่เป็นอะไร”
“อ………..แอลแซต เรา………….”เจ้าหญิงน้อยพยายามเปล่งวาจาที่เหมือนจะกลืนหายพร้อมๆกับลมหายใจหอบถี่ “เรา…………ขอ………โทษ..”
“อย่าพูดยามนี้………………….”ราชาละล่ำละลัก
“ไม่ได้หรอ แอลแซต……………..เจ้าก็รู้ว่าเรา…ผืนชะตากรรมไม่ได้…..”
“ไม่!!!! ชะตากรรมอะไรนั้น ข้าไม่สน”เสียงทุ้มกระกาศกร้าว “ที่ข้าสนคือเจ้า……………………….”
“เรา………………ขอโทษ…………..ที่รักเจ้า………ฮึก……..ไม่ได้…..”คนตัวเล็กเอื้อนเอ่ยอย่างยากลำบาก มือเล็กๆลูบไล้ใบหน้าคร้าม เอลแซตเกลียด เกลียดสัมผัสอันเย็นชืดอย่างนี้จากร่างเล็ก
“ชะตากรรม”
“ได้โปรด เอาแสงสว่างของข้าคือมา”
“ได้โปรด เอาชีวิตของข้าคืนมา”
“ได้โปรด เอาหัวใจข้าคืนมา”
“เจ้าไม่รักข้าก็ไม่ป็นไร แต่เจ้าห้ามตายนะ!!!”
“เราดีใจนะ ที่ได้พบเจ้า………………………………”รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าสวย “ขอบคุณ สำหรับทุกอย่าง”
ร่างสูงก้มลงมองจุมพิตลงบนริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีอีกแล้วริมฝีปากอุ่นละมุนที่เขามักได้สัมผัส ไม่มีอีกแล้วพวกแก้มขาวซึ่งมักขั้นสีแดงเมื่อยามเขิน ไม่มีอีกแล้วเสียงหวานเชื่อมเสนาะหูซึ่งมักเรียกขานชื่อเขา ไม่มีอีกแล้วหญิงที่รักสุดหัวใจ เหลือไว้เพียงความว่างเปล่าและเศษซากจากสงคราม
“แคโล!!!!!!”
ดวงตาสีแดงฉาบประกายด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้ชายที่นั่งกอดร่างไร้วิญญาณของคนรัก เจ้าหญิงน้อยจากไปเสียแล้วด้วนน้ำมือของเขาเอง!!! ดาร์ทเนตได้ตามองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจปวดร้าวยากเกินบรรยาย ทั้งๆที่แคโลรักเขาแต่เขากับไม่สนใจ ได้แต่ทำร้ายจิตใจคนตัวเล็กจนบอบช้ำ
“………………..แต่เมื่อเสียนางไป เขากับเจ็บปวดจนแทบบ้า…………………”
“ถ้าข้ารักเจ้า ทุกอย่างคงไม่เกิด สงครามคงไม่เกิด และเจ้าจะไม่ตายแคโล”เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเอง “ข้าขอโทษ”
แต่แม้จะเอ่ยขอโทษซักเพียงใด ชะตากรรมก็ไม่เคยหวนกลับมา
“มีคำหนึ่งที่ข้าคิดว่าเจ้าคงอย่าจะได้ยิน แคโล”
“ข้า รัก เจ้า”
ม่านถูกปิดลงช้าๆพร้อมกับโศกนาฏกรรมแห่งความรักที่สิ้นสุดลง แต่สิ่งที่กำลังจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้คือ ช่วงเวลาที่เลวร้ายกว่าการพลักพราก หนึ่ง ราชาแห่งแดงสว่าง และ อีกหนึ่ง ราชาแห่งความมืด ต้องทุกข์ทนอยู่กับความทรมานที่เรียกได้ว่าตายทั้งเป็นกับการที่ต้องอยู่กับความเดียวดาย
“เท็ตสึยะ นายกำลังจะไปไหน?”คำถามทำให้คุโรโกะสะดุ้งเฮือก ร่างเล็กหันมองต้นเสียงในทันทีคนที่เขาพบคือร่างสูงของอดีตคู่หูคนสำคัญนั้นเอง
“อาโอมิเนะคุง”
“นายกำลังจะไปไหน”อาโอมิเนะถามซ้ำ
“……….…ไป……..…..”คุโรโกะเอ่ยเสียงแผ่วเบา ก่อนหลบสายตาสีน้ำเงินนั้น “เดินเล่นรับลมครับ”คุโรโกะหลบตาคนตรงหน้า เพราะเรื่องครั้งตอนอยู่ทีมคิเซกิยังคงฝั่งใจ ทำให้เขาไม่อยากจบหน้าอาโอมิเนะอีก“ผมขอตัว”
“เดี๋ยว”อาโอมิเนะจับใบหน้าติดหวานให้เงยสบตากับตัวเอง “จะรีบไปไหน”
“ปล่อยผมนะครับ”
“ทำไมล่ะ นายลืมฉันไปแล้วหรอ”
“ผมไม่มีทางลืมอาโอมิเนะคุงได้หรอก”
“แล้วทำไมล่ะ ทำไมต้องหลบหน้าฉัน”ร่างสูงยังคงซักไซ้ “เพราะเจ้าคางามิใช่ไหม นายรักมัน?”
“อาโอมิเนะคุง…………………………..รู้ได้ยังไง”
“สายตาของนาย มันฟ้อง”มือใหญ่ลูบใบหน้าติดหวานเบาๆ ตัวอาโอมิเนะเองก็พอจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของคุโรโกะและอาโอมิเนะจากปากของยัยริโกะและนั้นทำให้เขาเจ็บพอๆกับการที่คุโรโกะหนีมาเซย์ริน
“อือ”ร่างบางรับคำสั้นๆแต่ดวงตาคู่สวยกับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอยากจะทนรับไหว “ผมรักเขา รักมาก………………….แต่เขาไม่รักผม”
“งั้นนายมาอยู่กับฉันสิเท็ตสึยะ”อาโอมิเนะก้มจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ “ถึงเจ้านั้นจะไม่รักนาย แต่ฉันรักนายนะ”
“อย่าทำอย่างนี้สิครับ”แม้เสียงหวานจะร้องประท้วงแต่ร่างสูงก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดการกระทำ เขาถือโอกาสที่ร่างเล็กเผลอโอบเอวบางก่อนดึงมาชินแนบกาย ริมฝีปากประทับลงบนเรียวปากนุ่มของคนตัวเล็ก
คางามิซึ่งกำลังเดินออกมานองงานเพื่อรับลมเย็นๆ หลังจากที่ลงมาจากเวทีเขาก็โดนสาวน้อยสาวใหญ่ล้อมเต็มไปหมดจนแทบหายใจไม่ออก พอมารู้ตัวอีกที คุโรโกะก็หายตัวไปเสียแล้ว ไม่รู้เพราะอะไรแต่สมองของเขามันสั่งให้ออกเดินตามหาคนตัวเล็กไปทั่วงาน ดวงตาสีแดงสอดส่องไปรอบๆจนไปสะดุดอยู่ที่ร่างสองร่างซึ่งถูกต้นปิดบังเอาไว้ แต่เขาก็จำได้ทันทีว่าคนที่อยู่ตรงนั้นคือคุโรโกะ เร็วเท่าความคิดคางามิก็ตรงไปที่นั้นแต่ต้องหยุดนิ่งเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
คุโรโกะ กับ อาโอมิเนะ กำลังจูบกัน!!!!
สวบ!!!
คนผมแดงแหวกต้นไม้เข้าไปก่อนดึงร่างเล็กให้ออกห่างคนผมดำ ดวงตาแดงฉานฉายแววเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างสูงตรงเข้าไปประเคนหมัดลงบนหน้าคมคายของอาโอมิเนะอย่างไม่ยั่งมือจนคุโรโกะต้องเขามาห้าม
“หยุดนะ!!!!”คุโรโกะตวาด
“ทำไม!!!”คางามิตวัดตามอง “รักมันมากรึไง!!!!”
“หุปปากไป ไอ้คนไร้สมองอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาด่าฉัน”อาโอมิเนะดึงคุโรโกะไปด้านหลังก่อนปาดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก
“คุโรโกะ มานี้!!!”คางามิตวาด เขาไม่ต้องการให้คุโรโกะอยู่ใกล้ตัวอันตราอย่างอาโอมิเนะ
“ลิงอย่างแก”คนผมดำยิ้มเย้ย “มันโง่ คิดไม่เป็นรึไงว่านายเอาชนะฉันไม่ได้!!!”
“ลิงแล้วไงว่ะ!!!”คางามิทำท่าจะเข้าไปซ้ำแต่ถูกคนตัวเล็กขวางไว้
คุโรโกะผลักคางามิจนล้มไปลงกองกับพื้นผิดกับดวงตาสีฟ้าจะฉายแววเจ็บปวด คนผมแดงได้แต่มองการกระทำเมื่อครู่อย่างอึ้งๆ นี้คุโรโกะยอมทำร้ายเขาเพื่อเจ้าอาโอมิเนะ……………………………
“อย่ามายุ่งกับผมอีก!!!!”
“คุโรโกะ………………..”
“ผมเกลียดนาย!!!!”
สิ้นคำร่างเพรียวก็วิ่งออกจากที่นั้นทันทีโดยมีอาโอมิเนะวิ่งตามไม่ห่าง ดวงตาสีแดงเพลิงมองตามแผ่นหลังเล็กที่กำลังห่างออกไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันทั้งเจ็บ ทั้งเศร้าปะปนกันไปจนแยกไม่ออกแต่ที่แน่ๆคือหัวใจของเขาตอนนี้ไม่ต่างจากมีเข็มนับพันทิ่มแทง น้ำเสียงสั่นสะอื้นที่บอกว่าเกลียดชัง ดวงตาสีฟ้าเปื้อนน้ำตา และการกระทำเมื่อครู่มันกำลังฆ่าเขาโดยไม่รู้ตัว
“คุโรโกะ”
เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ภายในสายตาสองสีที่ยืนนิ่งตรงพุ่มไม้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างมีชัยก่อนจะเดินหายไปในความมืด
“เรื่องนี้น่าสนุกแล้วสิ”
เม็ดฝนโปรยปรายลงมาท่ามกลางงานเทศกาลทำให้หลายคนต่างวิ่งหลบฝนกันชุลมุนพลางบ่นให้ฝนเจ้ากรรมที่ทำให้พวกเขาหมดสนุกแต่แม้ไม่มีเม็ดฝนมาขัดจังหวะ บางคนก็ไม่สนุกกับงานวันนี้เอาซะเลยเพราะมันน่าเบื่อ น่าเบื่อมากกกกกกกกกกก ร่างสูงของคนผมสีเขียวดินเอื่อยๆตากฝนไปยังที่ลับตาคน นี้ถ้าอาโอมิเนะไม่ลากเขามา เขาก็คงไม่มากให้หรอก แต่มันขัดไม่ได้จริงๆ
มิโดริมะมาหยุดอยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ซึ่งจำได้ว่าตอนเดิมผ่านมันมีศาลาม้านั่งที่พอจะหลบฝนได้อยู่ เขาคงนั่งเล่นอยู่ตรงนี้รออาโอมิเนะจนกว่าจะเลิกงานแล้วกัน คิดพรางหยิบหนังสือออกมาแต่เขาต้องชะมักเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นจากอีกฟากของศาลา………เฮ้ยยยยยยย……….ผี หรอ? ถึงจะนั่งจินตนาการไปก็หลอกตัวเองเปล่าๆสู้เดินไปดูให้เห็นกับตาเลยดีว่า
“คุโรโกะ”ภาพที่เห็นคือคนตัวเล็กกำลังนั่งร่างไห้สะอึกสะอื้นอยู่ มิโดริมะได้แต่ถอนหายใจหน่ายๆก่อนทิ้งตัวนั่งข้างๆคนผมฟ้า “เป็นอะไร”
“เปล่าครับ”คนตัวเล็กหลบสายตา ก่อนรีบปาดหยดน้ำใสๆออก “แล้วมิโดริมะคุงมาทำอะไร”
“ออกมาเดินเล่น”เสียงทุ้มตอบเรียบๆพลางอ่านนิตยสารในมือ โดยไม่สนใจคุโรโกะ “บอกฉันได้รึยังว่าร้องไห้ทำไม”
“คือ……………………………..”คุโรโกะอ้ำอึ้ง
“เรื่อง อาโอมิเนะล่ะสิ”ไม่ต้องบอกเขาก็พอจะรู้ว่าการที่คุโรโกะร้องไห้คงไม่พ้นเรื่องอาโอมิเนะแน่นอน เจ้าคนหัวรั้นนั้นชอบทำให้คุโรโกะร้องไห้ ถึงตัวเขาจะไม่ค่อยถูกกับคนตัวเล็กเท่าไหร่แต่พอมาเห็นสภาพนี้ก็อดสงสารไม่ได้
มือใหญ่ลูบหัวร่างบางเบาๆอย่างเก้งๆกังๆ เขาไม่ค่อยปลอบใครจึงไม่รู้ว่าควรทำยังไงในสถานการแบบนี้
“อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงไปหน่อยสิ………………………”มิโดริมะพยายามคิดหาคำพูดที่พอจะทำให้คุโรโกะหายเศร้าแต่สิ่งที่ออกจากปากมันไม่ตรงกับใจเล๊ยยยยย ให้ตายสิ
“มิโดริมะคุง……………..”ดวงตากลมโตมองคนผมเขียวด้วยความแปลกใจ “ขอบคุณครับ”พูดไปแขนเรียวก็กอดคนตรงหน้าแน่นพลางซุกศีรษะเล็กลงบนอกก่อนหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน“ขอกอดหน่อยได้ไหมครับ”
“อะ…………….เอาสิ……………”ร่างสูงประหม่าไม่น้อยที่จู่ๆคนตัวเล็กก็เข้ามากอดแต่พอให้เห็นใบหน้ายามสงบอย่างนั้นแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้ เขาได้แต่รอบยิ้มบางๆกับตัวเองแล้วยกมือขึ้นลูบไล้เรือนผมสีฟ้าเพื่อปลอบโยน “มีอะไรก็ปรึกษาฉันนะ…………ยังไงซะ เราก็เป็นเพื่อนกัน”
“ครับ มิโดริมะคุง……….”คุโรโกะตอบทั้งๆที่ตายังหลับ “ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”
“ไม่เป็นไร”
เพียงแค่นั้นบทสนทนาของทั้งครู่ก็ขาดช่วง คุโรโกะได้แต่นอนหลับตาอยู่บนอกของมิโดริมะส่วนเจ้าตัวก็เอาแต่อ่านนิตยสารในมือนิ่งๆแต่ตอนนี้ในใจเขาว้าวุ่นไม่น้อย ไม่ใช่เพราะไม่อยากให้คุโรโกะนอนซบอกหรอกนะ แต่เขาทำตัวไม่ถูกต่างหากล่ะ ยิ่งเห็นใบหน้าน่ารักๆอย่างนั้นแล้วยิ่งอยากกอด อ๊ากกกกก………………………….
คุโรโกะเหมือนจะเห็นท่าทางผิดสังเกตจึงเงยหน้ามองร่างสูงช้าๆ
“ผมทำให้อึดอัดหรอ?”
“เปล่าหรอก”คุโรโกะทำท่าจะลุกเพราะกลัวร่างสูงอึดอัดแต่ถูกมือใหญ่กดหัวไว้ “ไม่เป็น นอนไปเถอะถ้ามันทำให้นายสบายใจ”
“แต่มิโดริมะคุง อึดอัด”ใบหน้าหวาเศร้าลง
“ให้ตายสิ!! นายจะทำหน้าอย่างนั้นทำไม”มิโดริมะประคองใบหน้าติดหวานขึ้นให้สบตากับตัวเองพลางยิ้มกว้างๆให้ร่างเล็กที่กำลังอยู่ในอาการเศร้า “ถ้านายยิ้ม นางฟ้าแห่งโชคชะตาจะอวยพรนายนะ”
“ครับ”คุโรโกะยิ้มฝืนๆให้คนผมเขียวแต่ร่างสูงก็ยังไม่พอใจ เขาขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยพอใจก่อนดีดหน้าผากมนเบาๆ “ยิ้มไม่เป็นรึไง”เสียงทุ้มบ่นแล้วยกนิ้วดันแก้มขาวๆข้างหนึ่งขึ้นก่อนใช้มือข้างที่เหลือดันอีกข้าง “นี้เขาเรียกว่ายิ้มเข้าใจไหม”ใบหน้าที่มักเคร่งขรึมหลุดขำกับท่าทางตลกๆของคนผมฟ้า
“อย่าแกล้งผมสิ”คุโรโกะแก้มป่อง
“ไม่ได้แกล้งซักหน่อย”
“แต่นายทำอย่างนี้มันเจ็บนิ”เสียงหวานอิดออด
“ขอโทษแล้วกัน”มิโดริมะถอดหายใจ “ว่าแต่ตอนนี้นายอยู่กับใคร เจ้าคางามิหรอ?”
“ไม่ใช่ ผมอยู่กับคิเสะ”เสียงหวานตอบแผ่ว
“ทำไมอ่ะ”
“คือ…………………………..”ร่างบางอ้ำอึ้ง
“ไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร”คนผมเขียวพูดพลางยิ้มก่อนพูดเฉไฉไปเรื่องอื่น“ว่าแต่ วันนี้ฝนตกหนักแฮะ ไม่เห็นพยากรอากาศบอกเลยว่าจะมีฝนตก”
“ครับ”คุโรโกะตอบพลางหายใจแผ่วๆ ร่างสูงเห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของคนตัวเล็กแล้วก็สงสารแต่สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็เพียงลูบหัวคุโรโกะเพื่อปลอบใจเท่านั้น
คุโรโกะพิงหัวลงบนอกคนมิโดริมะอีกครั้งพลางหลับตาลง…………………………………
“หลับซะคุโรโกะ เดี๋ยวฉันพานายไปส่งให้เจ้าคิเสะเอง”
“ขอบคุณครับ มิโดริมะ”
สุดท้ายมิโดริมะก็ต้องมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องตัวเองพลางปากก็บ่นคนหัวทองที่มีถ่ายแบบกะทันหันทำให้เจ้าตัวกุลีกุจอขึ้นรถแต่ไม่วายหันมาสั่งให้เขาดูแลคุโรโกะแทนเพราะไม่กล้าฝากคนตัวเล็กไว้กับใครแม้กระทั้งคนในเซย์ริน ดวงตาสีเขียวมองร่างคนตัวเล็กในอ้อมแขนมีซึ่งหลับสนิทจนเขาไม่กล้าปลุก ทั้งผมสีฟ้าและตัวเล็กๆยังเปียกฝนอีกถ้าไม่รีบเปลี่ยนเสื้ออาจจะป่วยได้
“ให้ตายสิ ได้บ้าคิเสะเอ๊ยยยยยยย”
มิโดริมะว่างคุโรโกะลงบนเตียงอย่างเบามือ ควงตาใต้กรอบแว่นยืนคิดว่าเขาจะปลุกคุโรโกะมาอาบน้ำดีไหม เครื่องสำอางก็ยังไม่ได้ล้างเลย มือใหญ่สะกิดให้คนตัวเล็กตื่นแต่ท่าทางคุโรโกะจะไม่ยอมตื่นง่ายๆ…………
“คุโรโกะ ตื่น”
“อืมๆ………………….”คุโรโกะร้องในคอเนื่องๆก่อนจะพลิกตัวหนี
“เฮ้!! ตื่นไปอาบน้ำสิ หน้านายยังไม่ได้ล้างเครื่องสำอางเลยนะ”
“งืมๆๆ…………”
“นี้ ตื่นได้แล้ว ไม่งั้นฉันอุ้มนายเข้าห้องน้ำจริงๆนะ”มิโดริมะก้มกระซิบข้างหูคนตื่นยาก “ฉันพูดจริงๆนะคุโรโกะ”เขาเขี่ยแก้มใสๆเพื่อกวนให้ตื่นและดูเหมือนจะได้ผลด้วยเมื่อคุโรโกะขยับตัวหนีก่อนลืมตาขึ้นช้าๆ
“เช้าแล้วหรอครับ?”คนผมฟ้าถามอย่างงัวเงีย
“ยังไม่เช้าหรอก นี้เพิ่งเที่ยงคืนน่ะ”ดวงตาสีเขียวมองนาฬิกาบนผนังห้อง “แต่นายต้องไปอาบน้ำ”
“ไม่อ่าววววววว ผมง่วงนี้”
“เครื่องสำอางยังล้างไม่หมดเลย เดี๋ยวแพ้หรอก”
“นั้นสิ”คุโรโกะแตะที่หน้าตัวเองเบาๆ “รู้สึกคันๆแล้วแฮะ”
“งั้นก็ไปอาบน้ำ สบู่กับยาสระผมอยู่ในห้องน้ำนั้นแหละ ผ้าขนหนูอยู่ในตู้เสื้อผ้า”
“ครับ”ร่างบางเดินตรงไปยังห้องน้ำเอื่อยๆ เพราะเรื่องวันนี้ทำให้เขารู้สึกเพลียมากจริงๆ
ขณะที่กำลังนั่งรอคุโรโกะอาบน้ำ สายตาของมิโดริมะก็ไปหยุดอยู่ตรงโทรศัพท์มือถือของคนตัวเล็กซึ่งวางอยู่ข้างกระเป๋าบนโต๊ะ เขาหยิบมันขึ้นมาก่อนกดเปิดเครื่อง สายที่ไม่ได้รับก็เด้งขึ้นมาทันที่ที่เครื่องบู๊ทการทำงานเสร็จ หน้าจอขึ้นชื่อของ คางามิ เกือบๆสามสิบสาย
“เจ้าคางามิมันเป็นไก่รึไง?”มิโดริมะมองชื่อสายที่ไม่ได้รับ “สามสิบสาม สายที่ไม่ได้รับ”ยังไม่ทันสิ้นคำโทรศัพท์ของคุโรโกะก็ดังขึ้นอีกครั้งและก็ไม่พ้นเจ้าของสามสิบสามสายแต่มิโดริมะก็กดตัดสายไปแล้วแต่สุดท้ายสิ่งที่ส่งมาคือข้อความฉบับหนึ่งจากคนผมแดง
“คุโรโกะ ฉันขอโทษ”
ดวงตาสีเขียวอ่านข้าความในโทรศัพท์พลางขมวดคิ้ว คนที่ทำให้คุโรโกะร้องไห้ไม่ใช่อาโอมิเนะ แต่เป็นคางามิ ถึงว่าเจ้าคุโรโกะไม่ยอมรับสายไอ้หัวแดงนั้นแถมยังปิดเครื่องหนี
“คางามิ แกเองสินะที่ทำให้คุโรโกะร้องไห้”เสียงทุ้มพึมพำก่อนกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์มือกดลบข้อความทิ้งอย่างไม่ใยดี ก่อนกดปิดเครื่องอีกครั้ง“สะใจชะมัด”
“นี้คุเสะคุง จะกลับวันไหนหรอ”
[ขอโทษน้า คุโรโกะจิ พอดีมีงานด่วนอาจจะอีกสองสามวันเลยล่ะ]
“จริงหรอ”คุโรโกะถามเสียงเศร้า
[อืม…….คุโรโกะจิจะเข้าห้องไหม เดี๋ยวฉันให้คนเอากุญแจมาส่งให้ก่อน]
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่กับมิโดริมะ คิเสะคุงไม่ต้องลำบากหรอก”
[ไม่ลำบากน้า เพื่อคุโรโกะจิลำบากกว่านี้ฉันก็ยอม ฮ่า ฮ่า ฮ่า]
“………..อะ……………อืม……รีบกลับนะ…….”
[คิดถึงฉันหรอ?]
“เปล่าๆ คือการบ้านผมอยู่ในห้องคิเสะน่ะ”
[คร้าบบบบบ เดี๋ยวจะรีบกลับไปหาคุโรโกะจิน้า]
“ดูแลสุขภาพด้วยนะ”
[คร้าบบบบ อ่ะ!! ผู้จักการเรียกแล้วฉันไปก่อนนะ บ๊ายบาย]
คุโรโกะวางสายจากคิเสะก่อนถอนหายใจเบาๆเพราะคิเสะไม่อยู่เลยทำให้เขาไม่มีชุดเปลี่ยน ของมิโดริมะก็ตัวใหญ่เกินไป จะซื้อใหม่ก็เสียดายตังค์ค่าขนมที่แม่ให้มามีทางเดียวคือต้องกลับไปเอาที่ห้องคางามิแต่ว่าถ้ากลับไปตอนนี้ก็ต้องเห็นหน้าคนๆนั้นอีก…………………………..
“เป็นอะไร คุโรโกะ”มิโดริมะซึ่งนั่งอ่านนิตยสารข้างๆเห็นความผิดปกติของคนตัวเล็กถามขึ้น
“ไม่มีอะไรครับ”
“โกหก หน้าอย่างนี้ไม่บอกก็รู้ว่ามีเรื่องไม่สบายใจ”
“คะ………………………..คือเรื่องชุดนักเรียนผม ไม่มีเปลี่ยนแล้ว”
“หืม? ฉันซื้อให้ก็ได้นิ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย”ร่างสูงเอ่ยเรียบๆ
“ไม่เอาครับ ผมรบกวนมิโดริมะคุงมากแล้ว อย่าลำบากเพราะเลย”คุโรโกะรีบปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรหรอก”
“เดี๋ยวผมกลับไปเอาที่ห้องก็ได้ครับ”
“นายแน่ใจหรอ? ว่าจะกลับไปที่นั้น”คำถามทำให้คุโรโกะมองหน้าร่างสูงอย่างสงสัย เขาไม่ได้บอกมิโดริมะว่าทะเลาะกับคางามินี้
“ครับ แค่แปปเดี๋ยวคงไม่เป็นไรหรอก”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีคร้าบบบบบ หลังจากที่หายหน้าหายตาไปน๊านนาน ผมคนเดิมก็กลับมาแล้ว >/////< คิดถึงนักอ่านทุกคนนะครับ
หลังจากนั่งแต่งตอนนี้แล้อยากให้มิโดริมะคุงเป็นพี่ชายผู้แสนดี แต่งไปก็แอบอยากมีพี่ชายแบบนี้มั่ง 555+
ปล.มีความสุขกับการอ่านนะครับทุกคน ^^
ความคิดเห็น