คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : --LET's BE CLEAR!! 03--
--- LET’S BE CLEAR!! 03 ---
“ตกลง... จะให้ไปที่ไหนดีครับคุณ....”
โชว์เฟอร์ รถแท็กซี่ ถามขึ้นมาอีกครั้งอย่าง งงๆ เพราะตั้งแต่ชายหนุ่มหน้าสวยคนนี้ขึ้นรถมา ก็บอกให้ขับไปเรื่อยๆ ยังไม่มีทีท่าจะบอกจุดหมายปลายทางซักที
“...............”
คิม ฮีชอล ทำหน้าเซ็งอย่างเป็นที่สุด ตอนนี้เขาไม่มีที่ไป จะให้กลับคอนโดเขาเหรอ... เป็นความคิดที่แย่ เขาไม่อยากอยู่คนเดียว จะไปหาอีทึกที่บ้าน เพื่อนซี้ก็เพิ่งเก็บกระเป๋าไปเที่ยวทะเลกับคนรักกว่าจะกับก็คงอีกหลายวัน จะให้กลับบ้าน เรื่องอะไรหละ!! เขาอุตส่าห์หลบออกมาได้เป็นเดือน กลับไปเจอหน้าพ่อตอนนี้ คงได้ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆอีกแน่
คิดแล้วก็นึกพาลคนที่เพิ่งไล่เขาออกมาจากห้อง ที่พักพิงสุดท้ายของเค้า
‘อีโธ่.. แฟนกลับมาก็ไล่กันอย่างกับหมูกับหมา มันไม่ใช่ คิม ฮีชอลคนนี้รึไงวะ ที่ยอมให้นอนกด นอนกอดอยู่ทุกคืนหน่ะ!!’ ยิ่งนึกยิ่งหงุดหงิด ยิ่งคิดยิ่งหมั่นไส้ ป่านนี้คงได้รับขวัญกันถึงไหนต่อไหนแล้ว ไอบ้านั่นคงลืมไปแล้วละมั้งว่าเมื่อคืนนอนกอดใครอยู่ หน้าสวยๆซึ่งตอนนี้หงิกเต็มที่ เบะปากอย่างไม่สบอารมณ์
‘เหอะ! แฟนหนีอีกที อย่าได้โทรตามเขาเชียวนะ พ่อจะเล่นตัวให้น่าดูเลย!~’
แต่ เอ๊ะ!..... แล้วทำไมคนอย่างคิม ฮีชอล ต้องมานั่งคิดเล็กคิดน้อย ทำเป็นงอนเหมือนพวกผู้หญิงด้วยฟระ.. ไม่ได้ๆ ให้ไอหมอนั่นรู้ไม่ได้ เสียศักดิ์ศรีหมด
นี่ไม่ได้ผิดสัญญานะ ไม่ได้หึง ไม่ได้หวงมันเลยซักนิด... แค่หมั่นไส้เท่านั้นเอง
RrrRrr RrrRrr~
“เอ...” เมื่อเห็นชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอ ฮีชอลชะงักเล็กน้อย ชั่งใจว่าจะกดรับดีรึเปล่า ในเมื่อ ‘คุณอินแจ’ ผู้ช่วยส่วนตัวพ่อโทรมาแบบนี้ ‘โทรตามกลับบ้านรึเปล่าวะนี่’
RrrRrr RrrRrr~
ฮีชอลถอนหายใจเฮือกใหญ่ รับก็รับซิ ในเมื่อไม่กลับซะอย่างจะมาทำอะไรได้
“ฮีชอลพูดครับ...”
“(คุณฮีซอล! ผมอินแจนะครับ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ!)”
“เอ๋? คุณอินแจ ใจเย็นซิครับ.. นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ร่างบางหน้าเหวอไปในทันที เมื่อคุณอินแจที่แสนจะสุขุม โทรมาหาเค้าด้วยน้ำเสียงร้อนรนขนาดนี้
“(เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ! คุณฮีชอลต้องรีบมาที่โรงพยาบาลชันซงเดี๋ยวนี้เลยนะครับ!)”
“ทำไมครับ! ใครเป็นอะไร” ฮีชอลเริ่มใจเสีย เกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือว่า....
“(คุณคิม ท่านหัวใจวายเฉียบพลัน เพิ่งนำส่งโรงพยาบาลเมื่อซักครู่นี่เองครับ!)”
“........พ่อ!!!!”
ตุ๊บ! มือถือเครื่องสวยตกลงพื้นทันที ฮีชอลมือเย็นเฉียบ ค้างนิ่งเป็นหุ่นอยู่อย่างนั้นเหมือนสมองตายไปชั่วขณะ
“คุณ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!” โชว์เฟอร์แท็กซี่ตกใจที่จู่ๆลูกค้าก็ตะโกนออกมาเสียงดังแถมยังอาการเหมือนคนช็อคนั่นอีก
“...ไป ไปโรงบาลชันซง...” ร่างบางพึมพำออกมา
“หา?”
“ไปโรงบาลชันซง เร็วๆซิวะ!!!!!!!”
.............................................................
“แฮ่ก.. คุณ คุณอินแจ.. พ่อ..” ฮีชอลวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลไม่คิดชีวิต ก่อนจะมาหยุดหน้าห้องพักของ ‘คิม ฮีซุก’ ที่สอบถามจากประชาสัมพันธ์ โดยที่มีอินแจยืนรออยู่หน้าห้อง
ร่างที่เอามือกุมซี่โครง ยืนหอบแถมยังพูดไปด้วยทำท่าจะหายใจไม่ทัน ร้อนถึงผู้ช่วยส่วนตัวต้องบอกให้ใจเย็นๆ เพราะไม่อย่างนั้น ได้นอนโรงบาลทั้งพ่อทั้งลูกแน่ๆ
“คุณฮีซุก ปลอดภัยแล้วครับ
เพียงแค่นั้น รอยยิ้มสว่างก็ปรากฏบนหน้าสวยทันที พึมพำขอบคุณพระเจ้า ที่ยังไม่พรากคนที่เขารักที่สุดไปอีกคน
“แล้วตอนนี้ ผมเข้าไปเยี่ยมพ่อได้รึยัง?”
“ครับ เชิญเลย”
ประตูห้องพักผู้ป่วย vip ถูกเปิดขึ้น มือบางยังคงสั่นน้อยๆ ความรู้สึกโหวงยังคงลอยวนอยู่ในอก เหตุการ์ณเมื่อตอนที่อินแจโทรมาบอก ยังทำให้ใจเต้นแรงไม่หาย
กลิ่นยาจากห้องชวนให้เวียนหัว แต่กระนั้นชายวัยกลางคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ทำให้ตากลมมีน้ำรื่นขึ้นมาอีกครั้ง หน้าที่เคยยิ้มแย้ม ดูใจดี บัดนี้กลับซีดเซียว
คิม ฮีซุก แม้จะเป็น นักธุรกิจใหญ่ เป็นเจ้าของกิจการโรงแรมห้าดาวหลายแห่งในเกาหลี แต่สำหรับเค้า ครอบครัว ทั้งภรรยา และลูกชาย สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เค้าไม่เคยเห็นงานสำคัญกว่า ครอบครัว ในวงการธุรกิจ ฮีซุก เป็นผู้บริหารที่เฉียบขาด แต่ในบ้าน เค้าเป็น สามีที่น่ารักและคุณพ่อแสนดี
ไม่แปลกที่ฮีชอลจะกลัวการสูญเสียขนาดนี้ เมื่อ คิม ยอนอา แม่ของเค้าเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว และในครอบครัวก็เหลือเพียง พ่ออยู่แค่คนเดียว
“พ่อ.. พ่อครับ”
“ฮีชอล.. กลับมาแล้วเหรอลูก”
เพียงเท่านี้น้ำตาที่รื่นอยู่บนขอบตา ก็ไหลลงมาราวทำนบแตก ร้องไห้สะอึก สะอื้นเป็นเด็กจนคนป่วยต้องปลอบเป็นการใหญ่
“อ่าว.. ร้องไห้เป็นเด็กซะแล้ว พ่อแกยังไม่ตายนะเว้ย..”
“ก็พ่อทำผมตกใจ.. นึกว่าจะได้เป็นท่านประธานคิมกรุ๊ปซะแล้ว”
“ไอลูกคนนี้....” ผู้เป็นพ่อได้แต่หัวเราะ หึๆ ในความกวนของลูกชาย
“เรื่องอะไรชั้นจะตายง่ายๆ.... ยังไม่ทันได้อุ้มหลานเลย”
“พ่อ~” ฮีชอลครางออกมา เมื่อพ่อของเค้าทำท่าจะพูดเรื่องเดิม
“แกเห็นรึยัง ฮีชอล พ่ออยู่ค้ำฟ้าไม่ได้หรอกนะ ถ้าแกยังทำตัวแบบนี้ เมื่อไหร่พ่อจะสบายใจ.. พ่ออยากให้แกมีคนคอยดูแล รีบมีเมีย แล้วก็มีหลานมาให้ชั้นอุ้มซักที”
“...แต่” ถ้าเป็นเมื่อก่อน ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางยอมโดนบังคับแบบนี้แน่นอน แต่ตอนนี้ พ่อเค้ากำลังไม่สบาย ฮีชอลก็เลยได้แต่เกิดอาการน้ำท่วมปาก เถียงไม่ออกอยู่แบบนี้
“จะแต่อะไรนักหนา ตามใจพ่อแกหน่อยไม่ได้รึไง หนูซูจินเค้าก็น่ารัก เรียบร้อย ตระกูลดี มีการศึกษา...”
“แต่ผม.. ยังไม่เคยเห็นหน้า นิสัยเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ แล้วจะไปกันรอดได้ไง” ชายหนุ่มอดเถียงออกมาไม่ได้ ในใจว้าวุ่น ไปหมด ให้ตายเหอะ คิม ฮีชอลผู้รักอิสรภาพ จะโดนจับคลุมถุงชน นี่มันนรกชัดๆ!
“เฮ้ออ.. แกก็มีข้ออ้างจนได้นะ!~” ฮีซุกได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ในความดื้อของลูกชาย นิสัยแบบนี้เหมือนใครวะ!
“งั้น แค่ไปดูตัว แล้วก็หมั้นไว้ก่อน.... ถ้าเค้าไม่ดีจริง ค่อยยกเลิกก็ยังไม่สาย”
“..................”
“รึว่าแกจะให้ชั้นตายก่อ...”
“ก็ได้ๆครับ!! ผมดูตัวก็ได้ เลิกพูดเรื่องตายซักทีเหอะน่า!”
พูดเสร็จเจ้าตัวก็เดินก็สะบัดหน้าเดินออกไปจากห้องทันที เลยไม่ได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และอาการร่าเริงไม่เหมือนคนป่วยของผู้เป็นพ่อ ‘ ในเมื่อใช้ไม้อ่อนก็แล้ว ไม้แข็งก็แล้วยังบังคับแกไม่ได้ ชั้นก็ต้องทำแบบนี้แหละ ฮ่าๆ’
...........................................................
ฮีชอล เดินหน้างอหงิก อยู่ในโรงพยาบาล อยากระบายเรื่องนี้กับใครซักคน นึกถึงเพื่อนรักอีทึกทันที เหอะ จะไปเที่ยวก็ไม่สนแล้วเว้ย ชั้นกลุ้มใจ แกก็ต้องกลุ้มใจด้วยกัน!! มือเรียว ควานหามือถือในกระเป๋ากางเกงเร็วเท่าใจคิด แต่ยิ่งหายิ่งหงุดหงิด.. ล้วงเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนในที่สุด......
“มือถือ... บนแท็กซี่!”
TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
คุณ zonk เรื่องลงทะเบียนเรียบร้อยหายห่วงค่า แต่ดันมีปัญหาเรื่องโปรเจคที่เพิ่งส่งไป เลยต้องแก้ใหม่ T^T ส่งวันจันทร์! แก้เสร็จก็คงโล่งซะที
คุณ HEENIM✖SIMBA ไปวิปัสนาเหรอคะ อนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะ
แล้วก็ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ เพราะพวกคุณไรเตอร์ถึงมีกำลังใจมาปั่นต่อนะนี่ ขอบคุณมากค่ะ
ความคิดเห็น