ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    avenge with love แค้นนักเลยรักเธอ [fic Hey Say JUMP]

    ลำดับตอนที่ #6 : ปิดเทอมหน้าร้อน

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 53


     ทันทีที่กลับถึงบ้าน

                เรียวสึเกะพรุ่งนี้บริษัทที่พ่อทำงานอยู่จัดงานเลี้ยง พ่อพูดขึ้น

                ครับ แล้วเกี่ยวอะไรกับผมเล่า

                ก็แกต้องไปกับฉันไงเล่า

                หา ผมเถียงกับพ่ออยู่นานแต่สุดท้าย ก็ต้องไปอยู่ดี

     

    เย็นวันต่อมา

                ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงแรมสุดหรูซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงบริษัท ผมมาเดินมากับพ่อสักพัก

                ลูกชายเจ้าของบริษัทพ่ออายุเท่าๆกับแกเลย พ่อผมพูดขึ้น

                แล้วไงฮะ

                แกก็ลองๆไปตีสนิทกับเค้าหน่อยสิ เผื่อพ่อจะได้ขึ้นเงินเดือน ว่าแล้วเชียว

                นั่นไงมานั่นแล้ว พ่อผมชี้ไปทางเจ้าของบริษัทที่ผมเคยได้เจอแล้วตอนเด็กๆ แต่ลูกเค้าเนี้ยสิที่ยังไม่เคยเจอเลย ผมเลยมองไปที่คนข้างๆ เออ...

                ไอ้เสาไฟฟ้า ผมตะโกนพลางชี้หน้ามัน

                นึกว่าใครที่แท้ก็อ้วนนี่เอง

                ฉันไม่ได้ชื่ออ้วนเฟ้ย

                อ้าว นี่รู้จักกันแล้วเหรอ พ่อผมหันมาถาม

                ใช่แล้วล่ะครับ ไอ้สูงตอบแทนผมทันที

                ถ้างั้นฝากดูแลลูกชายฉันด้วยล่ะ เรียวสึเกะคุง คุณเจ้าของบริษัทพูด

                อะ ครับ แล้วเค้าก็ไปเลย ส่วนพ่อผมก็หันมาส่งซิกให้ผม ผมก็เลยพยักหน้าส่งๆไป แล้วหลังจากนั้นพ่อผมก็ไปบ้าง เออแล้วผมล่ะ

                สงสัยวันนี้คงต้องรบกวนนายหน่อยแล้วล่ะ เรียวสึเกะคุง ไอ้สูงพูดด้วยน้ำเสียงไม่น่าไว้ใจ วันนี้จะโดนอะไรอีกฟ่ะเนี้ย

     

    [Ryu talk]

                วันนี้ผมต้องมางานเลี้ยงของบริษัทพ่อพี่ยูโตะล่ะ ผมแอบเห็นพี่ยูโตะแกล้งพี่ยามาดะด้วยล่ะ ใช้ให้หยิบนู้นบ้างหยิบนี่บ้าง ทำอย่างกับพี่ยามาดะเป็นคนใช้เลยแหละ พี่ยามาดะน่าสงสารอ่ะ

                ริวไม่ไปกินอะไรหน่อยเหรอ อยู่ดีๆพี่เคโตะก็มาทัก

                ไม่ฮะ ผมไม่หิว ผมส่ายหน้า

                จริงสิริว อยู่ดีๆพี่เม่นก็ทำหน้าจริงจังขึ้นมา

                มีอะไรเหรอครับ

                ความจริงแล้วเราก็รู้จักกันมานานแล้วเนอะ

                ฮะ ตั้งแต่พี่เคโตะยังไม่ไปเรียนที่อังกฤษ

                ริวยังจำครั้งแรกที่เราเจอกันได้ด้วยเหรอ

                ก็ นิดหน่อยฮะ

                ริว

                ครับ

                ... เป็นแฟนกันมั้ย

                เอ๋ ผมตกใจมาก รู้สึกหน้าร้อนไปหมดเลย แย่แล้ว

                นะ คบกับฉันเถอะนะริว พี่เม่นพูดอย่างจริงจัง

                ครับ ทันทีที่ผมผู้จบก็ได้แต่ก้มหน้าด้วยความเขินอาย ตอนนี้หน้าผมคงจะแดงมากแน่ๆเลย

     

    [Daiki talk]

                ปิดเทอมแล้ว ผมก็ยังคงต้องไปเรียนพิเศษ แล้วก็เหมือนเดิมที่ผมจะต้องเจอกับ

                สวัสดีครับ ไดจัง อีกแล้ว อิโนะโอะ เคย์

                หวัดดี ผมตอบห้วนๆไปอย่างรำคาญ

                ไดจังนี่ขยันจังเลยเนอะ มีแต่ประโยคเดิมๆรึไงเนี้ย

                อืม

                เออ นี่ไดจัง

                อะไรอีกล่ะ ผมเริ่มรำคาญแล้วนะ

                ไดจังเกลียดผมงั้น

                เปล่า แค่รำคาญ

                เหรอครับ จ๋อยไปเลย ก็มันรำคาญจริงนี่นา

                มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม งั้นฉันไปล่ะ ผมรีบเดินตรงไปยังห้องเรียนทันที แต่ว่าหมอนั่นดันจับมือผมไว้ก่อน แล้วจู่เค้าก็คุกเข่าลง ทำท่าเหมือนกับจะขอแต่งงาน

    เฮ้ยจะบ้าเหรอ นี่นายกำลังจะทำอะไรเนี้ย ผมรีบดุเค้าทันที

    ไดจังเป็นแฟนกับฉันเหอะ จะบ้าเหรอพูดตรงๆแบบนี้เค้าก็อายเป็นเหมือนกันนะ

    ลุกขึ้นก่อนไม่ได้เหรอ

    ไม่อ่ะ จนกว่าไดจังจะยอมตกลงคบกับผม

    ก็ได้ เป็นแฟนกันก็ได้ นายลุกขึ้นซะทีสิ คนมองเค้ามองกันใหญ่แล้ว ชอบทำอะไรบ้าอยู่หมอนี่ น่าอายชะมัดเลย

     

    [Hikaru talk]

                ปิดเทอมแล้ว พ่อกับแม่ก็ดันไปทำงานที่ต่างจังหวัดทิ้งผมไว้คนเดียวงี้ได้ไงอ่ะใจร้ายที่สุด ตอนนี้ก็ดึกแล้วด้วย อยู่คนเดียวอย่างนี้นอนไม่หลับอ่ะ ผมก็เลยออกมานั่งที่ระเบียง สายตามองไปที่บ้านข้างๆ ก็พบกับประธานสุดเก๊ก ที่นั่งมองไปอีกทางหนึ่ง ก็เลยเกิดความคิดดีๆขึ้นมา ผมจึงไปเอาก็กระดาษที่ใช้แล้วมาเขียน

     

    ‘ทำไมนายถึงชอบแกล้งฉันนักล่ะ’

     

    พอเขียนเสร็จผมก็พับเป็นจรวดแล้วโยนไปหาเค้า หลังจากที่เค้าเปิดอ่านเค้าก็หันมาทางผมแล้วทำน่าเหมือนสงสัย หลังจากนั้นเค้าก็กลับเข้าไปในห้องเพื่อไปเอากระดาษมาเขียนบ้าง เขียนเสร็จพับเป็นจรวดส่งมา

     

    ‘กลัวนายจะเหงาไง’

     

    และแล้วเราก็เริ่มสนทนาผ่านจรวดกระดาษ

     

    หมายความว่าไง กลัวฉันเหงา

     

    แล้วทำไม นายถึงอยากรู้นักล่ะ

     

    ก็ เออ...

     

    ‘ฉันชอบนะเวลาเห็นนายโมโห มันน่ารักดี’ เขินเลยอ่ะ จะส่งต่อไปว่าไงดีเนี้ย

     

    ‘ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ’

     

    ฉันชอบนายนะบ้า ตอนนี้ผมคงอายม้วนน่าดู

     

    คบกันมั้ยล่ะ’ ผมลองเขียนส่งไปดู พอเค้าได้อ่าน ก็ยิ้มให้ผม บ้า ผมเขินใหญ่แล้วนะ

     

    แน่นอน ตกลงอยู่แล้ว

     

    [Chii talk]

                ปิดเทอมแล้ว ผมเลยกลับมาอยู่ที่คอนโด และที่ห้องข้างๆผมก็คือห้องของ ไอ้รองเท้า ตั้งแต่ผมกลับมาที่ห้องไอ้รองเท้ามันก็มีเสียงเพลงดังอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่นั้นตอนที่ผมจะเข้าห้องผมเห็นรองเท้าผู้หญิงเต็มเลยล่ะ ไอ้รองเท้า ไอ้หื่นเอ๊ย

                ผมอดทนกับเสียงเพลงอันดังสนั่นนี่ไม่ไหวแล้วนะ ดังนั้นผมจึงรีบไปกดกริ่งหน้าห้องไอ้รองเท้าทันที ทันทีที่ประตูเปิดออก

                ว้าย น่ารักจังเลย เฮ้ย ผู้หญิงในห้องที่เดินมาเปิดประตูก็พูดขึ้น

                เพื่อนของยูยะสินะ เข้ามาก่อนสิ แล้วเจ้แกก็ลากผมเข้าไปในห้อง พอเค้ามาในห้องก็พบกับสาวๆมากมาย

                ว้าย น่ารักจังเลย คนเนี้ยเพื่อนของยูยะคุงเหรอ พวกผู้หญิงพูดขึ้นพร้อมเดินเข้ามาหาผม แล้วก็ถามนู้นถามนี่มากมาย ส่วนไอ้รองเท้าก็มองผมแบบงงๆ

                นายมาห้องฉันทำไม ทันทีที่เค้าถาม ผมก็รีบตอบทันที

                ก็นายน่ะเปิดเพลงเสียงดัง รู้รึเปล่าว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว หัดเกรงใจคนอื่นเค้าซะบ้างสิ แล้วจริงๆฉันก็ไม่ได้อยากเหยียบห้องนายนักหรอกนะ แต่ยัยผู้หญิงของนายตะหากล่ะที่เป็นคนลากฉันเข้ามา ผมพูดรัวแบบไม่ให้ทันตั้งตัว และแล้วเสียงยัยผู้หญิงพวกนั้นก็เงียบลง รวมทั้งเพลงด้วย

                เออ จริงๆแล้วฉันเป็นพี่สาวของยูยะคุงน่ะจ๊ะ แล้วผู้หญิงคนที่ลากผมเข้ามาก็ตอบพลางทำหน้าสำนึกผิด ส่วนผมก็หน้าแตกเลยได้แต่เงียบ

                พอดีวันนี้พี่นัดเพื่อนมาปาร์ตี้ที่คอนโด ขอโทษด้วยนะจ๊ะที่เสียงดัง เธอพูดแบบสำนึกผิด

                งั้นเหรอครับ เข้าใจผิดเลยเรา

                งั้นพี่ฝากยูยะไปอยู่กับเธอคืนหนึ่งได้มั้ย คืนนี้คงอีกยาวแน่เลย เธอขอร้องผม เออ เอาไงดีล่ะ

                ไม่เป็นไรหรอกพี่เดี๋ยวผมไปค้างบ้านเพื่อนก็ได้ ไอ้รองเท้าพูด

                แต่นี่มันก็ดึกแล้วนะ แล้วนี่ก็เพื่อนเธอเพื่อนกันไม่เหรอ เออ ความจริงมันก็ไม่หรอกครับ แต่ว่านี่มันก็ดึกแล้วจริงๆ ผมยังมีความเป็นคนดีอยู่บ้าง

                ก็ได้ครับ ผมตอบรับพี่สาวของไอ้รองเท้า

                และแล้วผมกับไอ้รองเท้าเลยต้องมาอยู่ด้วยกันเลยคืนนี้

                นายนอนโซฟานั่นล่ะกัน ผมชี้ไปที่โซฟาห้องนั่งเล่น

                อือ ทันทีที่พูดจบมันก็ไปนอนที่โซฟา

                อ้าว หลับแล้วเหรอ มันไปอดนอนมาจากไหนฟ่ะ ผมจึงไปหาผ้าห่มมาให้ และขณะที่ผมกำลังห่มผ้าห่มให้อยู่

                จิเน็น ฉันชอบนาย ไอ้รองเท้ามันละเมอบ้าอะไรฟ่ะ

                อย่ามาตลก ผมรีบพูดขึ้นทันที แต่จู่ๆหมอนั้นก็ลืมตาขึ้นแล้วดึงผมลงไปกอด พร้อมกับกระซิบข้างหู

                จริงๆนะ ฉันไม่ได้ล้อเล่น นายจะเชื่อฉันบ้างไม่ได้เหรอ ความจริงผมก็ไม่ได้รังเกียจเค้านักหรอกนะ

                แล้วไงล่ะ จะขอฉันเป็นแฟนเหรอ ผมหันไปพูดตอบ ตอนนี้หน้าของเราอยู่ใกล้กันมากจนได้ยินเสียงหายใจของอีกฝ่าย

                อืม แล้วยอมมั้ยล่ะ

                ก็ได้ แต่ว่าถ้านอกใจนายตายแน่

                ครับผมสัญญา แล้วยูยะก็ดึงผมลงไปจูบ ไอ้บ้าเร็วไปมั้ยเนี้ย

     

    [Yamachan talk]

                ให้ตายเหอะในงานเลี้ยงนั่นผมถูกใช้อย่างกับคนใช้เลย ฝากไว้ก่อนเหอะไอ้สูง แต่ตอนนี้ผมกำลังทำงานพิเศษอยู่ครับ ปิดเทอมทั้งทีต้องหากินหาใช้กันหน่อย ผมทำงานในร้านมินิมาร์ทแถวบ้านผมเองครับ ขณะที่ผมกำลังจัดของอยู่นั่นเองก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา เบอร์ใครหว่า พอกดรับปุ๊บ

                เพิ่งรู้ว่านายก็ทำงานพิเศษด้วย เก็บเงินซื้อขนมเหรอ เสียงนี่มัน

                ยูโตะ นายอยู่แถวนี้เหรอ

                ก็ข้างหลังนายนี่ไง ผมรีบกดวางแล้วหันไปทันที ทันทีที่หันไปจมูกของผมก็สัมผัสกับจมูกของเค้าาทันที ผมจึงรีบผลักเค้าออกทันที

                จะเขินทำไมกันเล่า จูบกันยังเคยแล้วเลย หมอนั่นพูดแขวะทันทีในขณะที่กำลังลุกขึ้นยืน

                ไอ้บ้า ใครจะไปด้านเหมือนนายกันเล่า ว่าแต่นายมานี่ได้ไง แล้วไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหน

                มาให้นายเอาคืนไง ส่วนเบอร์พ่อนายเป็นคนให้มา พ่อนะพ่อให้มันไปทำไม

                นี่มันเวลางานของฉัน นายอย่ามายุ่งได้มั้ย กลับไปเลยไป ผมพูดพลางไล่มัน

                ไม่อ่ะ ฉันเบื่อที่จะต้องเข้าสังคมจอมปลอมนั่น

                เอ๋...

                มาเดี๋ยวฉันช่วยนายจัดของดีกว่า แล้วเค้าก็ช่วยผมจัดของซะงั้น เพี้ยนไปแล้วรึเปล่าเนี้ย

                นายดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ แต่ก่อนไม่เห็นจะพูด ผมถามขึ้น

                งั้นเหรอ อยากรู้มั้ยล่ะว่าทำไมฉันถึงเปลี่ยนไป เค้าหันมาตอบผม

                คงไม่ได้ตอบว่าเพราะฉันหรอกนะ

                ก็ใช่สิ เพราะนายนั่นแหละ เฮ้ย ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆเองนะ

                นายเป็นไข้รึเปล่าเนี้ย ผมรีบเอามือแตะหน้าผากเค้าทันที แล้วจู่ๆเค้าก็จับมือผมลงมากุม

                ฉันไม่ชอบคนที่หน้าซื่อใจคด นายเป็นคนตรงๆฉันชอบ เค้าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

                555 พูดอะไรแปลกๆ สงสัยวันนี้นายคงจะกินยาผิด ผมแกล้งขำกลบเกลื่อน

                ฉันพูดจริงๆนะ ไม่อยากลองคบกันดูหน่อยเหรอ เอาจริงเหรอเนี้ย

                นายจะเอาจริงอ่ะ

                อืม เค้าพยักหน้า

                ถ้างั้นต่อจากนี้นายต้องตามทำใจฉันทุกอย่าง โอเคป่ะล่ะ

                ตามใจอยู่แล้วล่ะน่า หมู

                นี่นายอย่ามาเรียกฉันว่าหมูนะ แล้วผมก็วิ่งไล่เตะยูโตะ จนโดนเจ้าของร้านว่า แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงก็สนุกดีเหมือนกันนะตั้งแต่ที่ได้เจอยูโตะครั้งแรกก็มีแต่ทะเลาะ ต่อจากนี้ไปก็คงจะทะเลาะกันเหมือนเดิม แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็คือตอนนี้ผมไม่ได้เกลียดเค้าแล้วล่ะแต่กลับชอบเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งทำให้ยิ่งรักกันมากขึ้นไปอีก ความรักเนี้ยมันเป็นสิ่งที่เข้าใจยากจังเลยเนอะ

                                        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×