คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ทัศนศึกษาสุดวุ่น [100%]
เย้~ วันนี้มีทัศนศึกษาล่ะ ได้ไปพักที่อื่นที่ไม่ใช่โรงเรียนตั้ง 3วันกะอีก2 คืน ดีใจชะมัดในที่สุดก็ได้เปิดโลกกว้างซะที
“ยามะจังถึงที่พักแล้วไปกัน” ชี่หันมาบอกผม ถึงแล้วเหรอเนี้ยเร็วจัง
“อืม” พอเราลงจากรถปุ๊บ
“ยามะชี่ พวกเราแย่แล้วล่ะ” เสียงฮิกตะโกนมาแต่ไกล
“อะไรเหรอที่ว่าแย่อ่ะ” ชี่ยิงคำถามทันที
“ก็เรื่องห้องพักน่ะสิ” ไดจังพูดขึ้น
“พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันล่ะ แถมยังต้องอยู่กับไอ้เจ้าพวกนั้นอีก” ฮิกเสริมขึ้นทันที
“จริงอ่ะ แล้วนี่ฉันต้องอยู่กับใครล่ะเนี้ย” หวังว่าคงไม่ใช่ไอ้เสาไฟฟ้าหรอกนะ
“ยามะจังต้องอยู่กับนาคาจิม่า” เห~ ไม่น๊า~
“แล้วฉันอ่ะ” ชี่เริ่มถามบ้าง
“ชี่เจอกะทาคาคิไง” เฮ้ย นี่มันอะไรกันเนี้ย จับคู่กัดมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ 2 คืนนี้จะได้นอนหลับสนิทไหมเนี้ย
“ได้ไงอ่ะ ทำไมต้องอยู่กับเจ้ารองเท้านั่นด้วย” รองประธานไม่ใช่รองเท้านะชี่ เรียกซะ
“โห ฉันก็เจอกะเจ้าประธานนั่นเหมือนกัน” ฮิกเริ่มพูดอย่างไม่พอใจบ้าง
“ฉันก็ต้องเจอกับอิโนะโอะ เคย์สุดเพี้ยนนั่นเหมือนกัน” ไดจังทำน่าไม่พอใจ
{ณ เวลานี้ขอให้นักเรียนทุกคน ไปเก็บของที่ห้องพักก่อนค่ะ แล้วอีก 1 ชั่วโมงหลังจากนี้ขอให้ทุกคนมารวมกันที่ลานชั้นล่างนะค่ะ}
พอเสียงประกาศจบ พวกเราเลยต้องแยกย้ายไปตามห้องพัก มาพูดถึงทัศนศึกษาของโรงเรียนเรากันเหอะ ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมมากันครบทุกชั้นเลย จริงๆแล้วเรื่องนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันฮะ คงจะประหยัดงบมั้ง เล่นมาเที่ยวป่ากันทั้งโรงเรียนเลย ส่วนเรื่องที่พักเนี้ยก็เป็นเรียวคังกลางป่าล่ะ ทั้งเรียวคังเงี้ยมีแต่นักเรียนโรงเรียนเราเต็มไปหมด ส่วนเรื่องห้องพักพอไปดูที่บอร์ดก็จะรู้ว่าต้องพักห้องไหนแล้วก็พักกับใคร
แย่ชะมัดทำไมผมต้องมาพักกับเสาไฟฟ้าด้วยเนี้ย ในที่สุดก็ถึงห้องแล้วล่ะ แต่ว่าทำไมประตูมันเปิดไม่ออกฟ่ะ
“เฮ้ เปิดประตูให้หน่อยสิ” ผมตะโกนเรียกคนข้างในทันที แล้วประตูก็เปิดออก จะแกล้งอะไรรึเปล่า ผมเลยมองซ้ายมองขวา ไม่มีอะไรนี่นา
“จะระแวงอะไรนักหนา ฉันไม่ใช่นายนะ ฉันไม่ชอบเล่นลับหลัง” โอ๊ย ตกใจหมดอยู่ๆก็โผล่มาได้
“นี่นายว่าใครชอบเล่นลับหลังห๊ะ” ผมเริ่มฉุน
“ห้องนี้เป็นเตียงคู่นายจะนอนฝั่งซ้ายหรือขวาล่ะ” มันไม่สนผมอ่ะ ถูกเรื่องเตียงเฉยเลย เห~ เมื่อกี้ว่าไงนะ
“เตียงคู่ ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่นอนกับนานเด็ดขาด” ผมโวยขึ้นทันที ในขณะที่เจ้านั่นเดินไปปิดประตู
“อย่าบ่นเลยน่า ยังกับฉันอยากจะนอนกับนายงั้นแหละ” พูดจบหมอนั่นก็ไปจัดตู้ผ้าทันที
“งั้นชั้นเอาฝั่งขวาล่ะกัน” ผมเลือกขวาเพราะผมถนัดขวาจริงๆมันไม่เกี่ยวหรอก จะเลือกฝั่งไหนก็ต้องร่วมเตียงกับเจ้านี่อยู่ดี ผมเลยเอาหมอนข้างไปคั่นกลางเอาไว้
“แบ่งให้ตัวเองมากๆหน่อยก็ได้นะเดี๋ยวที่นอนไม่พอยิ่งๆอ้วนๆอยู่”
“เฮ้ย นี่นาย
“หัดยอมรับความจริงบ้างเหอะ” ผมเริ่มทนมันไม่ไหวแล้วนะ ผมเลยคว้างหมอนไปใส่หน้ามันทันที
“เล่นงี้ใช่ไหมได้” แล้วมันก็ปาคืนใส่ผมบ้าง และแล้วก็เกิดศึกปาหมอนและข้าวของทุกอย่าง นี่ตกลงเรามาเก็บห้องให้สะอาดหรือมาทำให้ยิ่งเลอะกันแน่ล่ะเนี้ย
[Chii talk]
ผมหันไปทางไอ้รองเท้าพร้อมกับยื่นกระเป๋าของผมไปให้ หมอนั่นทำหน้างงแล้วจู่ๆก็รับไปถือ
“คุณนายจริงๆเลยนะ” พร้อมพูดแขวะทันที แต่ผมก็ไม่สนหรอก เลยเดินเชิดนำหน้าไปเลย
“ถึงแล้วเปิดประตูดิ” พอถึงห้องผมก็หันไปสั่งทันที
“ครับๆ คุณนาย” ขณะ ที่เปิดประตูอยู่นั่นเอง ผมมหมั่นไส้เลยถีบมันล้มเข้าไปในห้องทันที
“โอ๊ย อะไรอีกล่ะเนี้ย” มันหันมาโวย แต่ผมก็ยังคงเชิดใส่
“มานี่เลย” หลังจากที่มันเอาของเข้าห้อง มันก็หันมาลากผมบ้าง
“ปล่อยมือฉันนะ ฉันเข้าเองได้” ผมพยายามแกะมือออกแต่ไม่มีผล ผมถูกหมอนั่นดึงเข้าไปในห้อง
“ล็อกประตูทำไม” ผมหันไปโวยทันทีที่เห็นว่ามันล็อกประตูด้วย
“ก็จะทำโทษนายไงไอ้ตัวเล็ก” หมอนั่นทำหน้าหื่นๆ เอาแล้วไงไอ้หื่น
“ช่วยด้วยครับๆ ไอ้รองประธานงี่เง่ามันจะขืนใจผม ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย” มันเลยรีบตรงเข้ามาปิดปากผมทันที แต่ว่าผมไวกว่า กัดมือมันซะเลย
“โอ๊ย”
“แบร่” ผมแลบลิ้นใส่มัน พร้อมวิ่งไปที่ประตูทันที แต่ทว่าหมอนั่นกลับลุกขึ้นมาซะก่อน สภาพตอนนี้คืนผมอยู่ในอ้อมแขนของไอ้รองเท้า
“เฮ้ย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ใครก็ได้ช่วยที” ผมแหกปากสุดฤทธิ์
“โอ๊ยแสบหู อยู่เฉยๆเหอะน่า” อยู่เฉยๆให้โง่เหรอ ผมรีบกระทุ้งศอกใส่มันทันที
“ปึก โอ๊ย” มันล้มลงไปทันที ผมเลยรีบเปิดประตูหนีอย่างรวดเร็ว พร้อมตะโกนไปด้วยว่า
“ช่วยด้วย รองประธานจะปล้ำผม”
[Daiki talk]
“มาเดี๋ยวฉันช่วยถือให้” เคย์หันมายิ้มให้ผม
“ไม่เป็นไรฉันถือเองได้” ผมพูดขึ้น แต่หมอนั่นกลับมาดึงกระเป๋าของผมไปซะงั้น
“ไม่เป็นไรฉันอยากช่วย” แล้วก็ถือไปให้เฉยเลย พอถึงห้องผมเลยเปิดประตูให้เข้าไปก่อน พอมองไปรอบๆก็พบว่า เฮ้ย เตียงคู่เหรอ
“เดี๋ยวนี้ฉันนอนพื้นล่ะกัน” หา ทำไมมันยอมง่ายจัง
“เอางั้นก็ได้ แต่คืนที่2 ฉันนอนพื้นนะจะได้เสมอภาคกันไง” ผมเสนอขึ้น
“ครับผม” แล้วหมอนั่นก็เริ่มจัดของ
“นั่นมันของฉัน มานี่เดี๋ยวฉันจัดเอง” ผมรีบพุ่งเข้าไปห้ามทันทีที่มันเริ่มมายุ่งกับของๆผม
“ไดจังไม่ได้เอาแปรงฟันมานี่ ใช้กับฉันก็ได้นะ” มองแวบเดียวก็รู้เลยเหรอว่าไม่ได้เอามาอ่ะ
“ไม่เป็นไรฉันไปใช้กับฮิกดีกว่า”
“โอ๊ะ แชมพูกับสบู่ก็ไม่ได้เอามา ใช้กับฉันไหม” อีกล่ะ
“บอกว่าไม่เป็นไรไง จะใช้กับฮิก” ผมตอบปัดแบบรำคาญ ว่าแต่ทำไมเราขี้ลืมจังฟ่ะ ส่วนนี่ก็ยุ่งอยู่ได้
“ถ้างั้นมีอะไรให้ช่วยบอกได้นะ วันเรามาสงบศึกแล้วเป็นเพื่อนที่ดีกันเหอะ” ยิ้มให้ผมพร้อมกับยื่นมือมาให้จับ ผมเลยจับมือเค้าตอบ
“ตกลง” หวังว่าวันนี้คงจะไม่วุ่นเหมือนอย่างเคยนะ
[Hikaru talk]
ผมหันไปมองเจ้าประธานนั่นแวบหนึ่ง จากนั้นเราก็วิ่งแข่งกัน จนถึงห้อง
“ฉันถึงก่อน” ผมรีบพูดขึ้น
“ฉันตะหาก” หมอนั่นเถียงทันที จริงๆแล้วเราก็มาถึงพร้อมกันนั่นแหละ แต่ไม่อยากจบแค่เสมอ
“ขี้เกียจเถียงแล้ว” ว่าแล้วเจ้าประธานก็เปิดประตูเข้าไปทันที
“เตียงคู่เหรอ คืนนี้นายนอนพื้นนะ” ผมรีบหันไปบอกหมอนั่นทันที
“นอนด้วยกันไม่ได้รึไงเราก็ผู้ชายด้วยกัน หรือว่านายไม่ใช่” เจ้านั่นหันมาพูดกวนๆใส่ผม
“ไม่ใช่ซะหน่อย” ผมตอบกลับ
“งั้นเราก็นอนด้วยกันนี่แหละ” พูดจบก็รีบไปเก็บของทันที ผมเลยรีบไปเก็บของบ้าง
“นายเอาอะไรมาเยอะแยะเนี้ย” หมอนั่นหันมาถามทันทีที่จัดของเสร็จ เฮ้ยเสร็จแล้วเหรอ
“นายเหอะเอาอะไรมาบ้างเนี้ยทำไมเก็บเร็วจัง” ผมหันไปถาม
“ก็เอามาแต่ของที่จำเป็นไง อะไรของนายเนี้ยน้ำหอมก็เอามาตั้ง3ขวด บ้าป่ะ เอามาใช้วันละกลิ่นรึไง”
“เรื่องของฉันนายไม่ต้องยุ่ง” แต่หมอนั่นกลับไม่ฟัง แล้วก็เข้ามาช่วยซะงั้น
“โอเค ก็ได้งั้นฉันไปล่ะ” ไหงเปลี่ยนไวเงี้ย
“จะไปไหนอ่ะ” ผมรีบถามขึ้นทันที
“ไปกินข้าวน่ะสิ หิวจะตายอยู่แล้ว” แล้วหมอนั่นก็ทำท่าจะเดินออกไปทันที
“เฮ้ยเดี๋ยวก่อนดิ อย่าทิ้งฉันไว้คนเดี๋ยวสิ นายก็รู้นี่ว่าฉันอยู่คนเดียวไม่ได้”ผมรีบตะโกนทันที แล้วหมอนั่นก็เดินเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“แล้วอย่างนี้จะให้ช่วยรึยังล่ะ”
“ก็ได้ นายช่วยฉันเก็บของหน่อยนะ”
“อือ”
[Ryu talk]
“มาฉันช่วย” ขณะที่ผมกำลังจัดของอยู่ อยู่ดีๆพี่เม่นก็เข้ามาช่วยซะงั้น ปกติเห็นพี่แกมีแต่อู้นี่นา
“อ่ะเสร็จ” เร็วมาก แน่ล่ะ นี่มันเล่นยัดเลยนี่นา
“ไปหาอะไรกินกันเหอะ” โธ่เอ๊ยที่แท้ก็รีบไปหาอะไรกินนั่นเอง เออจริงสิ
“พี่เคโตะ” ระหว่างเดินอยู่ผมจึงถามขึ้น
“มีอะไรเหรอ”
“พี่ยังชอบพี่ยามะจังอยู่รึเปล่า”
“เอ๋ ไม่รู้สิ พี่ก็แค่เห็นว่าเค้าน่ารักดีเฉยๆ”
“จริงง่ะ”
“ดีใจอะไร อย่าบอกนะว่าริวเริ่มชอบพี่เข้าแล้ว”
“เปล่าซะหน่อยพี่เคโตะบ้า ไม่คุยด้วยแล้ว” ผมรีบเดินหนีทันที แล้วทำไมหน้าเราร้อนด้วยล่ะเนี้ย
“รอด้วยสิ”
[Yamachan talk]
กลับมาสู่โหมดปัจจุบันกันเหอะ หลังจากที่ห้องของผมกับเสาไฟฟ้าได้เละไปเรียบร้อยแล้ว เราก็เหนื่อยแล้วก็หิว ก็เลยลงมาหาอะไรกินกัน เลยเจอกับทุกคน และตอนนี้เราทั้ง10 ก็กำลังกินอาหารร่วมกันอยู่ในร้านอาหารชั้นล่างของเรียวคัง
ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้ยังกัดกันอยู่เลยอยู่ดีๆก็มานั่งร่วมโต๊ะกันซะอย่างนั้น งงเหมือนกันแต่ก็ชั่งมันเหอะ ในระหว่างที่กินกันอยู่
“ฉันว่า3วันนี้ เรามาสงบศึกหัดเหอะ” จู่ๆ ผู้คุมกฎเคย์ก็เสนอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ขึ้นมาซะงั้น
“ฉันก็เห็นด้วยเราควรจะสามัคคีกันไว้นะ” ไดจังเสริม เฮ้ย ไดจังไปเห็นด้วยกับศัตรูทำไม
“ก็ดีเหมือนกันนะครับ” เจ้าหน้าหนูเริ่มพูดบ้าง
“เป็นไปไม่ได้หรอกน่า” ผมเถียงสุดตัว ชี่ก็เริ่มบ้าง
“ฝั่งใครฝั่งมันงี้แหละดีแล้ว”
“แต่ฉันว่า...” ดูเหมือนจะลังเลล่ะ ผมกับชี่มองด้วยสายตากดดันไปที่ฮิกทันที ไดจังก็เป็นไปคนหนึ่งแล้วนะ ฮิกอย่านะ
“ถึงเวลานัดแล้วไปกันเหอะ” หลังจากที่ประธานยาบุ มองนาฬิกาเสร็จ ก็พูดขึ้นพร้อมกับฮิกออกไปทันที
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อนสิ” ฮิกพูดขึ้นหลังจากถูกลากไป
“มื้อนี้ฉันเลี้ยงล่ะกัน” ก่อนที่จะจ่ายเงินให้พนักงานแล้วรีบลากฮิกออกไปเลย โดยไม่สนใจว่าฮิกจะบ่นอะไร
“งั้นเราจะไปกันเลยเปล่า” ผมหันไปถามชี่ ในขณะที่ทุกคนเริ่มลุกออกไปกันแล้ว
“ไปกันเหอะยามะจัง ไดจังไปกับเจ้านั่นแล้วนะ” ชี่ชี้ไปทางไดจังกับผู้คุมกฎเคย์ ทำไมสนิทกันไวจังฟ่ะ
“อือ” ผมรีบตามชี่ไปทันที
{ประกาศ วันนี้เป็นวันแรกของการทัศนศึกษา เพราะฉะนั้นครูจึงให้นักเรียนได้เล่นเกมกันเพื่อฝึกความสามัคคี กติกามีอยู่ว่า ครูจะให้นักเรียนที่พักร่วมห้องกัน ช่วยกันหาธงสัญลักษณ์โรงเรียนที่อยู่ในป่า คู่ไหนที่ได้ธงมากที่สุดคู่นั้นจะได้กินฟรีไม่อั้น เอาล่ะเวลา6โมงเย็นของให้ทุกมารวมกันที่นี่อีกครั้ง ถ้าให้มาสายกว่านั้นถือว่าตกรอบ คู่ที่มาช้าครูจะให้ไปล้างจานให้คู่ที่ชนะ เอาล่ะจากนี้ไปของให้ทุกคนโชคดี}
พอประกาศจบ ทุกคนก็รีบเข้าป่าไปทันที แล้วผมจะช้าอยู่ใย
“ไปกันเหอะ” ผมหันไปเรียกนายเสาไฟฟ้า แล้ววิ่งไปในทันที
ผมกับนายเสาไฟฟ้าช่วยกันเก็บธงไปเรื่อยๆ นี่มันยังเที่ยงอยู่อีกเหรอ ทำไมแดดมันจัดจัง แล้วผมก็หันไปเจอกับ
“นั่นถ้ำนี่ ไปหลบแดดกันก่อนไหม” ผมหันไปถามคนตัวสูง หมอนั่นก็พยักหน้าแล้วเดินตามผมมา พอเข้าไปในถ้ำก็พบกับ เฮ้ย ทุกคนอยู่กันครบเลยอ่ะ
“อ่ะยามะจัง” ชี่หันมาทักผม
“ทำไมมาอยู่ในนี้กันล่ะ” ผมถาม
“หลบแดดไง นายก็เหมือนกันใช่ป่ะ” ฮิกพูดขึ้น
“อืม” ว่าแต่พวกที่เหลือไม่พูดกันเลยแหะ
ไหนๆก็เข้ามาแล้ว สำรวจถ้ำกันหน่อยดีกว่า
“ชี่สำรวจถ้ำกันเหอะ”
“อือ” แล้วผมกับชี่ก็เดินดูกัน จนพบกับ
“นั่นแสงอะไรอ่ะ”
“ไปดูกันเหอะ” ชี่เดินนำไปอย่างอยากรู้
“เอ๋ นี่มันกระจกนี่นา” ชี่ที่พบเข้า ก็หยิบมันขึ้นมา มันเป็นกระจกโบราณข้างหลังมีวงกลมไสยเวทด้วยล่ะ ยังกับในการ์ตูนเลย
“เอาไปให้ทุกคนดูกันเหอะ” ผมบอกชี่ แล้วเราก็เดินกลับไปหาทุกคน
“ทุกคนมาดูนี่สิ” ชี่เรียกทุกคน
“กระจกโบราณเหรอ มีวงกลมไสยเวทด้วย” ฮิกพูดขึ้น
“ขอฉันดูหน่อยสิ” ไดจังพูดขึ้น พร้อมรับกระจกไปดูตอนแรกก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ดูเฉยๆ แต่พอไดจังเริ่มเช็ดกระจกเท่าล่ะวงกลมไสยเวทก็หมุนทันที แล้วพวกเราก็ถูกดูดเข้าไปในนั้นทันที
พอลืมตาตื่นขึ้นมาผมก็พบว่ากำลังนอนทับไอ้เสาไฟฟ้าอยู่
“เฮ้ย” ผมรีบลุกขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว
“ที่มันที่ไหนกัน”
“ถามฉันแล้วฉันจะไปถามใครกันเล่า ว่าแต่ทุกคนหายไปไหนกันหมดเนี้ย” ผมรีบมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบใครสักคนนอกจากนายเสาไฟฟ้า แล้วรอบๆตัวเราก็เต็มไปด้วยป่าที่สวยมากยังกับอยู่ในเทพนิยายอย่างนั้นแหละ
“นายจะไปไหน” หมอนั่นรีบถามขึ้นทันที ที่เห็นผมกำลังเดินไปที่ต้นแอปเปิ้ล
“ดูสิแอปเปิ้ลน่ากินมากเลยล่ะ” ผมเริ่มเด็ดมาเชยชมทันที มันดูแดงแวววาว น่ากินมากเลยอ่ะ
“เฮ้ย อย่ากินสุ่มสี่สุ่มห้าสิ เผื่อมันเป็นยาพิษขึ้นมาล่ะจะว่าไง” ไม่ทันแล้วล่ะ กินไปแล้ว หลังจากที่กัดไปได้คำเดียวทุกอย่างก็เริ่มดับลง อย่าบอกนะว่าแอปเปิ้ลมันมียาพิษจริงๆน่ะ
[Yuto talk]
“ยามาดะ เรียวสึเกะตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันไม่ตลกด้วยนะจะบอกให้” ผมเข้าไปหาร่างที่นอนแน่นิ่งไม่ยอมขยับ
“ถ้านายไม่ตื่นฉันจูบนะ” เงียบสนิท ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ก็ได้เอางั้นก็ได้ ผมรีบโน้มตัวลงไปทันที พร้อมกับประทับริมฝีปากของผมแนบลงที่ริมฝีปากของเค้าอย่างแผ่วเบา หลังจากที่ผมถอนถอนจูบออกเค้าก็ลืมตาขึ้นมากระพริบตาปริบๆ เหมือนกับเด็กไร้เดียงสา มันเพี้ยนไปแล้วรึเปล่าฟ่ะ
“ยามาดะ เรียวสึเกะ นายโอเคป่ะ” ผมหันไปถามเค้าทันที
“ยูโตะคุง~” เย้ย ไหงทำเสียงงั้นอ่ะ แถมยังเข้ามากอดอีกตะหาก นี่มันเกิดอะไรล่ะเนี้ย
“เรียวสึเกะนายบ้าไปแล้วเหรอ” ผมพูดขึ้น
“เค้าไม่ได้บ้าหรอกค่ะ แค่ถูกยาเสน่ห์เท่านั้นเอง” จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ออกมาจากพุ่มไม้
“อะไรนะยาเสน่ห์”
“ยูโตะคุง ที่ร๊าก~” เชื่อแล้วล่ะว่าโดนจริง
“เรามียาถอนพิษนะ แต่มีข้อแม้เราจะให้ก็ได้ถ้าพวกคุณทั้ง10คน ยอมช่วยเจ้าหญิงขอพวกเรา”
“แล้วต้องช่วยอย่างไรล่ะ ไหนจะพวกเพื่อนฉันอีกพวกเค้าอยู่ที่ไหน”
“ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่ปราสาท คุณเองก็ตามมาสิค่ะจะได้อธิบายให้ฟัง”
ผมจึงเดินตามเธอไปที่ปราสาทพร้อมกับเรียวสึเกะที่เกาะผมอย่างกับปลิง เดินทางไปได้สักพักก็พบกับปราสาทใหญ่ พอเข้าไปก็ผมกับทหารหญิงมากมาย เมืองนี้มันมีแต่ผู้หญิงรึไงฟ่ะ ในที่สุดก็พบทุกคน
“ยามะจัง” เสียงเจ้าตัวเล็กตะโกนเรียกคู่หู
“ยูโตะคุง~” ไอ้นี่ก็ไม่สนใจคนรอบข้างเลย เอาแต่อ้อนผมอยู่ได้
“ยามะจังเป็นอะไรไปน่ะ” ตัวเล็กพูดขึ้นแล้วฮิกกับไดก็เข้ามาดูอาการเรียวสึเกะ
“เค้าโดนยาเสน่ห์น่ะค่ะ แต่ว่าเรามียาแก้นะ ตกลงพวกคุณจะช่วยเจ้าหญิงของเราไหม” นั่นไงกลายเป็นข้อต่อรองไปซะแล้วหมูเอ๋ย
“ก็ได้ งั้นพวกเราต้องทำไงบ้างล่ะ” ประธานยาบุพูดขึ้นทันที
“พวกคุณก็แค่เข้าไปช่วยเจ้าหญิงของเราจากปราสาทของราชาปีศาจ”
“ราชาปีศาจพวกเราคงสู้ไม่ไหวหรอกเราก็แค่คนธรรมดา” ประธานถามขึ้น
“นี่ไงค่ะสิ่งที่ทำให้พวกคุณมีพลังไปสู้กับราชาปีศาจ” แล้วเธอก็ชี้ไปที่ถาดผลไม้ที่มีคนเอาเข้ามาให้
“ส่วนนี่ก็ยาถอนพิษ” เธอหยิบขวดเล็กๆขวดหนึ่งจากถาดส่งมาให้ผม ผมรับมาโดยทันที
“เรียวสึเกะ ดื่มซะ” ผมหันไปสั่งเค้า เค้าก็รับไปพร้อมทำตามอย่างว่าง่าย จากนั้นเค้าก็สลบไปอีกรอบ ผมล่ะเกือบรับไม่ทัน
“ที่นี่ที่ไหนอ่ะ” ตื่นแล้วก็ถามทันที เค้าทำหน้างงพอรู้สึกตัวก็ผลักผมออกทันที
“ปราสาทน่ะ เราต้องช่วยเจ้าหญิงของเค้า”
“อ๋อ แล้วถ้าช่วยได้จะได้กลับไปที่โลกของเราใช่ป่ะ อย่างกับนิยายแฟนตาซีเลยเนอะ” พูดไปนั่นแต่จะว่าไปแล้ว
“แล้วตกลง ถ้าเราช่วยได้เราจะได้กลับด้วยใช่ป่ะ” ผมหันไปถามผู้หญิงคนนั้น
“ถ้าเป็นเจ้าหญิง คงจะรู้วิธีค่ะ แต่ว่าตอนนี้มากินผลไม้วิเศษกันก่อนเถอะค่ะ”
“ว่าแต่เมืองคุณมีแต่ผู้หญิงเหรอครับ” ประธานเองก็สงสัยเหมือนผม
“ใช่แล้วล่ะค่ะ เมืองของเรามีแต่ผู้ผลไม้วิเศษนี้จึงไม่มีผล”
“นี่แสดงว่าผลไม้เนี้ยจะออกฤทธิ์แต่กับผู้ชายงั้นสิ” ฮิกเริ่มถามบ้าง
“ใช่แล้วล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นถึงต้องให้พวกคุณมาช่วยไงค่ะ ถ้างั้นก็เชิญเลือกตามกินตามสบายเลยค่ะ”
“แล้วเราจะรู้ได้ไงล่ะว่าผลไม้ไหนให้พลังอะไรบ้าง” รองทาคาคิถามขึ้น
“พวกเราไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามันให้ผลอย่างไรบ้าง พวกคุณ
“ถ้ากินแล้วกลายเป็นปีศาจอ่ะ” ริวถามขึ้น
“พวกเรามียาถอนพิษค่ะ”
“อันเดียวกับที่ให้ยามะจังอ่ะเหรอ” ไดกิถาม
“ค่ะ” แล้วทุกคนก็หมดคำถาม จึงแยกย้ายไปเลือกผลไม้ ส่วนยามาดะก็
“โห น่ากินทั้งนั้นเลย ว้าว อร่อยจัง อันนู้นก็อร่อยอันนี้ก็อร่อย” ตะกละ เดี๋ยวก็โดนยาเสน่ห์อีกหรอก
[Yamachan talk]
หลังจากที่พวกเราเลือกผลไม้กินกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มายังปราสาทราชาปีศาจ ตอนนี้เรากำลังหลบอยู่หลังพุ่มไม้
“ทหารอยู่กันเยอะแยะแบบนั้นเอาไงดีอ่ะ” ชี่หันไปถามฮิก
“คงต้องมีตัวล่อแล้วล่ะ” ฮิกพูดขึ้น แล้วหันไปทางริวทาโร่
“ทำไมต้องเป็นฉันด้วยอ่ะ” ริวทาโร่โวยทันที
“นายนั่นแหละดีแล้ว เคโตะนายก็ไปด้วยสิ” ประธานยาบุพูดขึ้น
“เอาไงอ่ะริว” เม่นหันไปถามริว
“ก็ได้ฮะ” ทันทีที่ตอบตกลง ทั้งคู่ก็วิ่งออกไปทันที โดยที่ทั้งคู่ไปคนละทาง ทำให้ทหารต้องแยกออกเป็น2กลุ่ม
“พวกทหารไปกันแล้ว พวกเราเข้าไปในปราสาทเหอะ” ฮิกพูดพร้อมนำพวกเราเข้าไป พอเข้าไปเท่านั้นแหละก็เจอกับฝูงทหารอีกแล้ว พวกเราเลยวิ่งหนีกันวุ่นไปหมด ตอนนี้พวกเราก็แตกวงกันอีกแล้ว ตอนที่หนีผมก็หาชี่ไม่เจอ เจอแต่ไอ้สูงเนี้ย เลยต้องหนีมากับมันเลย
ผมกับไอ้สูงก็วิ่งหนีมาเรื่อยๆจนเจอกับห้องๆหนึ่ง ก็เลยเข้าไปซ้อนกันในนั้นเลย
“พวกทหารไปกันแล้วยัง” ผมถามไอ้สูงที่แอบเปิดประตูออกไปดู
“ไปหมดแล้วล่ะ” หันกลับมาตอบผมแบบห้วนๆ
“จะว่าไปแล้วห้องนี้มันก็แปลกๆอยู่นะ” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเดินสำรวจไปทั่วๆห้อง ห้องๆนี้ดูเก่ามากๆเลยล่ะเครื่องใช้เต็มไปด้วยฝุ่นเต็มไปหมด ผมค่อยๆสำรวจไปเรื่อยๆ จนเจอกับ
“ยูโตะ นี่มันกระจกที่ดูดเราเข้ามานี่นา” ผมรีบเรียกไอ้สูงให้มาดูทันที
“เหมือนกันเลย แต่ว่าเมื่อกี้มันมีตัวอักษรขึ้นมาด้วย” จริงด้วย
<ช่วยฉันด้วย ถ้าพวกเธอช่วยฉันได้ฉันจะส่งพวกเธอกลับ> ข้อความนี้ปรากฏขึ้นบนกระจก และหลังจากนั้นก็ปรากฏแสงสว่างขึ้น จากนั้นเราก็ถูกดูดเข้าไปอีกแล้ว คราวนี้จะเป็นที่ไหนอีกเนี้ย
[Ryu talk]
ความซวยมันเป็นของผมกับพี่เม่นที่ตอนนี้กำลังวิ่งหนีทหารกันอยู่ วิ่งไปวิ่งมาก็ดันมาเจอกันเองอีก เลยต้องพากันหนีเข้าไปในปราสาทบ้าง โอ๊ยยุ่งกันใหญ่แล้ว
“ขึ้นบนกันเหอะ” พี่เม่นหันจับมือผม พาวิ่งขึ้นบันได ตอนนี้ไม่มีเวลามาเขินแล้วล่ะ ผมจึงตามไปแต่โดยดี เราหนีขึ้นมาข้างบนก็ดันมาเจอกับทหารอีกกอง เอาแล้วไง ซวยแล้ว ข้างหลังก็มี ข้างหน้าก็มี
ผมกับพี่เม่นเลยถูกจับไปตามระเบียบ ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องขังที่แสนจะใหญ่โต
“คราวนี้ เอาไงต่อ” พี่เม่นหันมาถามผม
“พี่ถามผมแล้วผมจะไปถามใครล่ะ”
“จริงดิ เรายังไม่ได้ลองใช้พลังอะไรเลย” พี่เม่นออกความเห็น
“แล้วพลังมันจะออกมาได้ไง”
“ก็แบบนี้ไง” แล้วพี่เค้าก็ทำท่าเหมือนปล่อยพลังคลื่นเต่า แล้วจู่ๆก็มีพลังแสงถูกปล่อยออกมาจากมือพี่เค้า
“สุดยอด” ทันทีที่มันกระแทกเข้ากับกงขัง มันก็พังทันที
“เยส หนีกันเหอะ” พังง่ายมาก แถมไม่มีเสียงอีกด้วยอ่ะ จากนั้นเราก็พากันหนีอีกรอบ เมื่อเจอกับกลุ่มทหารเราปล่อยพลังพร้อมกัน แล้วทหารก็ถูกทำลายโดยง่ายดาย
วิ่งได้สักพักเราก็เจอกับ
“อ้าว รองทาคาคิ อ่ะจิเน็นคุง” ผมทักขึ้น ทั้ง2หันมาโดยทันที
“พวกนาย2คนปล่อยพลังไงอ่ะ” พี่ตัวเล็กถามผมขึ้น
“ไม่รู้เหมือนกันครับผมลองทำตามพี่เคโตะ”
“แสดงว่าพวกนายกินเข้าไปเหมือนกันน่ะสิ” รองทาคาคิถาม
“ครับ” ผมตอบไป
“นายก็กินเหมือนฉันนี่ไอ้รองเท้า คิดดิปล่อยพลังไง” พี่ตัวเล็กพูดขึ้น
“แล้วทำไมนายไม่คิดเองกันเล่า แล้วฉันก็ไม่ใช่รองเท้านะเฟ้ย” จากทั้ง2ก็ทะเลาะ
“แย่แล้วทหารมาแล้ว” พี่เม่นพูดขึ้น พร้อมทำท่าจะปล่อยพลังแต่ก็ถูกรองทาคาคกับจิเน็นตัดหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ
“เผามันเลย” แล้วพลังไฟก็ถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วจากมือของทั้งคู่
“สุดยอด”
[Daiki talk]
ตอนนี้ผมกับเคย์อยู่ในห้องๆหนึ่งครับ ห้องนี้หรูมากอ่ะ ยังกับห้องนอนของราชาเลย
“คร่อก” เสียงอะไรอ่ะ ผมหันไปทางเคย์ทันที เคย์ส่ายหัว อ้าวแล้วเสียงใครกันอ่ะ พอเดินเข้ามาถึงข้างในห้องก็เจอกับปีศาจร่างใหญ่ที่นอนอยู่
“ราชาปีศาจ อุ๊บ” ผมรีบเอามือปิดปากเคย์ทันที
“จะบ้าเหรอส่งเสียงดังทำไมเนี้ย เดี๋ยวเค้าก็ตื่นหรอก” ผมพูดพลางทำท่าให้เค้าเงียบ เค้ารีบพยักหน้า ผมจึงปล่อยมือออกจากปากเค้า
“แล้วเอาไงต่อดีอ่ะ” เค้าถามผม เออแล้วจะไงต่อดีอ่ะ
แล้วผมก็ได้ยินเสียฝีเท้า หรือว่าจะเป็น ผมรีบหันหลังไปดูทันที
“ฮิก/ไดจัง” เรา2คนตะโกนขึ้นด้วยความดีใจ
“พวกแกเป็นใคร” เสียงนี้มัน เอาแล้วไงราชาปีศาจตื่นซะแล้ว
“คือว่า...” เอาไงดีอ่ะ พวกเราทั้ง4 เงียบได้สักพัก
“ฉันว่าเราเผ่นกันเหอะ” ทันทีทีประธานยาบุพูดจบ พวกเราทั้ง4ก็วิ่งกันอีกแล้ว
“ทหารจับตัวพวกมันไว้” ทันทีที่หนีออกจากห้องนั้นได้ ราชาปีศาจก็ตะโกนเสียงดัง
“น่าจะมีค้อน” อยู่ดีๆฮิกก็พูดขึ้นแล้วจู่ค้อนก็โผล่ออกมาที่มือฮิก
“เฮ้ย ค้อนมาได้ไงอ่ะ” เคย์ถามขึ้นเมื่อเห็น ค้อนอันใหญ่นั่น
“ไม่รู้เหมือนกัน” พูดจบ ฮิกก็โยนค้อนไปที่ทหารทันที
“โดนหัวทหารด้วยอ่ะ แม่นมาก” ยาบุพูดขึ้น
“พวกเรากินมาเหมือนกันนี่นา จะเรียกอะไรออกมาดี” ผมพูดขึ้น
“เอาพีระมิดทับมันเลยดีกว่า” ทันทีที่เคย์พูดจบ พีระมิดก็ตกลงมาทับทหารทันที
“โครม”
“เจ๋ง”
[Yamachan talk]
แล้วเราก็ถูกส่งมายังห้องที่สวยมากๆ พอมองเข้าไปก็จะพบกับ เจ้าหญิงที่ถูกตรึงไว้ด้วยเถาวัลย์ เธอสวยมากเลยล่ะ
“รีบช่วยกันเหอะ จะได้กลับซะที” แล้วไอ้สูงก็ตรงเค้าไปแกะเถาวัลย์ทันที แต่ทำอย่างมันก็ไม่ออก
“ลองใช้พลังดูสิ” เจ้าหญิงพูดขึ้น
“แล้วจะใช้ไงอ่ะ” ผมกับไอ้สูงถามขึ้นพร้อมกัน
“ไม่รู้สิ คงต้องลองดูเอง” แล้วจะช่วยได้ไงกันล่ะเนี้ย ไอ้สูงเงียบได้สักพัก ก็ดีดนิ้วดูปรากฏว่าสายฟ้าก็ฟาดลงมาที่เถาวัลย์ทันที
“ทำได้ไงอ่ะ สุดยอด” ผมเลยเอาบ้าง ทันทีที่สายฟ้าของผมถูกปล่อยออกไปแล้ว เถาวัลย์ก็ถูกทำลายลงทันที
“ขอบใจพวกเธอทุกคนมาก ตามสัญญาฉันจะส่งพวกเธอกลับ”
“แต่ว่าเพื่อนของเรา”
“ไม่ด้องเป็นห่วงพวกเธอทุกคนจะได้กลับพร้อมกัน” แล้วแสงสว่างก็เกิดขึ้นรอบตัวผมกับไอ้สูง แล้วเราก็หายไปทันที
ตื่นขึ้นมาอีกที พวกเราทั้ง10ก็มาอยู่หน้าเรียวคังแล้ว
“รู้ไหมว่านี่มันกี่โมงแล้ว” ผอ.เดินมาถามพวกผม พวกผมจึงได้แต่ส่ายหน้า
“นี่ 2 ทุ่มแล้ว ไปล้างจานแทนคนล้างจานเลย” สิ้นเสียงคำสั่งของผอ. พวกเราก็รีบวิ่งไปทำตามคำสั่งโดยทันที ทำไมซวยงี้อ่ะ อาหารก็ยังไม่ได้กินแถมยังต้องมาล้างจานให้นักเรียนทุกคนอีก ไหนบอกว่าล้างให้แค่ผู้ชนะไง
แต่เรื่องที่แย่กว่านั้นคือผมได้รู้ว่าผมน่ะโดนยาเสน่ย์มา
“แล้วทำไมยามะจังถึงหลงยูโตะล่ะ” เม่นถามยูโตะ เหผมนี่เหรอหลงไอ้สูง ไม่จริงอ่ะ
“ก็แค่จูบเฉยๆ” เฮ้ยว่าไงนะ
“ไอ้สูง แกตาย” แล้วผมก็ปาจานไปในทันที นั่นมันจูบแรกของฉันนะเฟ้ย
“เฮ้ย ยามะจังโยนจานทำไมเดี๋ยวจายก็แตกหรอก” ไดจังพูดขึ้นทันทีหลังจากที่รับจานของผมได้อย่างหวุดหวิด โธ่เอ๊ย แค้นมันเฟ้ย แต่จะทำอะไรมันตอนนี้ก็ไม่ได้พลังก็ใช้ไม่ได้แล้ว
“ฝากไว้ก่อนเหอะ” ผมพูดขึ้นพลางชึ้หน้ามัน
“ฝากแล้วอย่าลืมมาเอาคืนล่ะกัน” มันพูดขึ้นพร้อมทำท่ากวนๆ ไอ้บ้าเอ๊ย
ความคิดเห็น