ศึกเทพกษัตริย์แห่งดวงดาว - นิยาย ศึกเทพกษัตริย์แห่งดวงดาว : Dek-D.com - Writer
×

    ศึกเทพกษัตริย์แห่งดวงดาว

    เมื่อเทพกษัตริย์แห่งดวงดาวถูกความมืดกลืนกิน สงครามแห่งเทพก็เกิดขึ้น....

    ผู้เข้าชมรวม

    370

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    370

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    5
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 มิ.ย. 57 / 11:46 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

                    เมื่ออดีตกาล สมัยที่มนุษย์ยังคงได้รับการคุมครองจากเทพเจ้าแห่งดวงดาวต่างๆ โดยการคุมครองดังกล่าวเกิดจากเทพกษัตริย์แห่งดวงดาวทั้งสอง เทพกษัตริย์ชามาเนียร์ แห่งดวงสุริยะ ที่ได้ให้การคุมครองโลกในเวลากลางวัน และ ในเวลากลางคืนโลกจะได้รับการคมครองจาก เทพกษัตริย์มานาดิส แห่งดวงจันทรา โลกที่มีแต่ความสงบสุขนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อความนึกคิดของเทพทั้งสองเป็นผู้กำหนด ตลอดเวลาเทพกษัตริย์ทั้งสองได้มอบความสุข และความสงบแก่มวลมนุษย์ตลอดมา

                    แต่แล้วเมื่อระบบสุริยะได้ทำการตัดสิน ขับไล่ดาวพลูโตออกจากระบบสุริยะ เทพเซเรน เทพกษัตริย์แห่งดาวพลูโตจึงสะสมความเคียดแค้นแล้วหันหลังให้กับความดีที่ตนเคยกระทำมาตลอดเซเรน ไม่ใช่เทพกษัตริย์อีกต่อไป เขาได้รวบรวมพลังอำนาจมืดเพื่อการแก้แค้นเหล่าเทพกษัตริย์ในระบบสุริยะ

                    ในคืนที่เกิดจันทรุปราคา เป็นคืนที่เทพกษัตริย์มานาดิสนั้น อ่อนแอที่สุด เซเรนได้ใช้อำนาจมืดในการล่อลวง เทพมานาดิส ให้ยอมขายจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่และยัดเยียดความเคียดแค้นของตนให้กับเทพมานาดิส

                    มานาดิสที่ภายในใจมีแต่ความเคียดแค้นของเซเรน ทำให้จิตใจของเขานั้นถูกความมืดครอบงำ มีแต่ความคิดชั่วร้ายตลอดเวลา “ใครอยากมีความสุขงั้นหรอ!! เทพมานาดิสคนนนี้จะทำให้เจ้าทุกทรมานตลอดไป” ด้วยความคิดอันชั่วร้ายเกิดขึ้น จึงทำให้เหล่าปีศาจจากความคิดของเทพมานาดิสก่อกำเนิดขึ้นอย่างมากมาย ส่งผลให้ความสงบสุขของมวลมนุษย์ได้พังทลายลงไปในเวลาไม่ช้า

                    เมื่อสงบสุขยามค่ำคืนได้จางหายไปพร้อมกับความดีของเทพมานาดิส การเข่นฆ่ากันกำเนิดขึ้นแทนความเมตตา ความเห็นแก่ตัวเพื่อการมีชีวิตรอดเกิดขึ้นแทนความเสียสละ ความชั่วร้ยได้ขยายอณาเขตเพิ่มขึ้นจากจุดเล็กๆ เป็นวงกว้างใหญ่ และยิ่งทวีความชั่วร้ายขึ้นทุกคืนโดยไม่มีสิ้นสุด

                    ความชั่วร้ายยามค่ำคืนได้แผ่กระจายจากความมืดสู่ความสว่างของเวลากลางวัน เมื่อเทพกษัตริย์แห่งสุริยันชามาเนีย รับรู้ถึงเรื่องราวทั้งหมด ชามาเนียพยายามสยบความมืดด้วยความเมตตาต่อมานาดิส เขาพยายามเกลี้ยกล่อมมานาดิสให้รู้สึกตัว แต่มันสายไปเสียแล้ว ดวงจันทร์ที่เคยสวยสดใสยามค่ำคืนนั้นได้ถูกความมืดดำกลืนกินจนหมดไม่เหลือแม้แต่จิตวิญญาณของตน ไม่ว่าชามาเนียจะทำอย่างไร มานาดิสก็มิอาจกลับมาเป็นเช่นเดิมได้

                    กระนั้นชามาเนีย ที่รักมานาดิสดั่งพี่น้องของตน ได้เกิดอาการบ้าคลั่งจนควบคุมจิตใจของตนเองไม่ได้อีกต่อไป ภายในใจของเขานั้นมีแต่ความเคียดแค้นต่อความมืดดำของเซเรน เมื่อความโกรธมาเทียบแทนความปราณี ความเคียดแค้นมาเทียบแทนความเมตตา ชามาเนียได้กลายเป็นผู้ที่ไร้ความดีอีกต่อไป จิตใจของเขามีแต่ความมืดไม่แพ้เทพกษัตริย์อีกองค์ เมื่อความนึกคิดของเทพกษัตริย์มีแต่ความชั่วร้าย หมายจะแก้แค้นความมืดที่ทำให้ผู้ที่รักดั่งพี่น้องต้องกลายเป็นที่กำเนิดปีศาจ และถูกมวลมนุษย์สาปแช่ง เหล่าปีศาจจากความคิดชั่วร้ายของชามาเนียก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

                    สงครามระหว่างผู้ปกครองแห่งสุริยัน และผู้ปกครองแห่งจันทราก็ได้ปะทุขึ้น ความวินาศ ความตาย ความเคียดแค้น และความเห็นแก่ตัวได้ก่อเกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ เหล่ากองทัพปีศาจนับแสนนับล้านตนได้ปะทะกันอย่างดุเดือด โดยมิได้ใส่ใจกับชีวิตของมวลมนุษย์อีกต่อไป

                    เมื่อเทพกษัตริย์ที่เคยปกปักคุมครองมนุษยชาตินั้นไม่ได้เห็นความสำคัญของชีวิตมนุษย์อีกต่อไป เหล่ามวลมนุษย์จึงสาปแช่งเทพกษัตริย์ทั้งสองอย่างไม่ปราณี

                    เมื่อเทพกษัตริย์ทั้งสอง หมดคุณสมบัติของเทพแล้วเหล่าเทพกษัตริย์ในระบบสุริยะทั้งหลายจึงลงความเห็นว่าควรผนึกจิตวิญญาณอันชั่วร้ายของอดีตเทพกษัตริย์ทั้งสองไว้เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่เหล่ามนุษยชาติอีกต่อไป แต่เหล่าปีศาจก็ไม่ได้หายไปพร้อมกับเทพทั้งสอง เหล่าเทพกษัริย์จึงส่งผู้ที่จะช่วยมวลมนุษย์ให้ปล่อยภัยจากปิศาจทั้งมวลในนาม “บาทหลวงลอเรนซ์”....

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น