ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Désolé! ผมไม่ชอบหน้า!! Yaoi

    ลำดับตอนที่ #3 : นร.1 หยิ่งได้อีก

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 53


    บทที่ 1

     

    เปิดเทอมใหม่

     

     

    บรรยากาศใหม่

     

     

    ความรู้สึกตอนขึ้นม.4 ใหม่

     

     

    เพื่อนใหม่

     

     

    ผมจำไม่ได้ว่า เจอใครมาบ้าง ระหว่างทาง เพราะแต่ละคนเปลื่ยนไป สภาพม.ต้นจาก หลังตีนเป็นหน้ามือ พวกผู้หญิง จากที่เปียผมสองข้าง พอขึ้นม.ปลายก็ได้มัดรวบ แต่ละคนนี้ไม่มีเค้าโครงเดิมเลย ต่างกับพวกผู้ชายครับ หลังตีนยังไงก็ยังหลังตีนแบบเดิม แต่ที่เหมือนเดิม คือบรรยากาศเก่าๆครับ ต้นไม้ ตึกเรียน ห้องน้ำยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ถึงแม้มันจะหวิวๆไปบ้าง เพราะเพื่อนบางคนก็ได้ไปอยู่โรงเรียนใหม่

     

     

    หยก อยู่ห้องอะไร

     

    คนที่ถามผมคือ แมนครับ ไม่ได้สนิทอะไรหรอก แต่ด้วยความที่เคยอยู่โรงเรียนตั้งแต่อนุบาลทั้งคู่ ทำให้คุ้นหน้ากัน

     

    เอ่อ ห้อง 1 ผมตอบ

     

    แล้ว แมนเห็น เพื่อนผมมั้ย

     

    พวกทีเหรอ อืม เหมือนเมื่อกี้เห็นเดินไปทางโรงอาหาร

     

    ผมรีบบอกขอบคุณแมนก่อนจะเดินไปทางโรงอาหาร ระหว่างทางเจอเพื่อนที่เคยคุยด้วย แต่บางคนก็ไม่คุ้นหน้า พอเท้าผมเหยียบโรงอาหาร ก็เห็นหัวไอ่ทีลอยเด่นทันทีครับ ก็มันเล่นตัดสกินเฮด ตอนแรกมันก็บอกผมแล้วล่ะครับ แต่ยังไม่ชิน เพราะปกติเห็นมันไว้ผมยาวจนโดนไถ่บ่อยๆ ส่วนเพื่อนผมอีกคน ไอ่ขัน นั่งตรงข้ามกับไอ่ที ปกติผมสนิทแต่กับ 2 คนนี้ครับ คนอื่นผมก็คุยได้ แต่ที่สนิทจริงๆก็มีแค่นี้ ปกติ พวกผมจะนั่งกัน 3 คนรวมถึงผมด้วย แต่วันนี้ กลับมีอีกคนที่นั่งข้างไอ่ที พอไอ่ขันเห็นผมเดินเข้ามา ก็เลยสะกิด ให้ไอ่ทีหันมา ไอ่ทีหันมามองผมแบบอึ้งๆ ทำไมวะ

     

    ไอ่หยก ได้ข่าวว่าถอดใจจากพี่นัดแล้วหรอวะ

     

    ไอ่ขันเริ่มเปิดประเด็นก่อนเลยครับ อยากตายมั้น ถามยังงี้ ตอนนั่น ผมอยากจะร้องไห้ เสียตรงนั่น เล่นถามอะไรแทงใจดำ พอไอ่ทีเห็นผมเงียบไป ก็เลยทำปากขมุบขมิบ ส่งมาให้คนที่นั่งข้างผม เหมือนสถาณการณ์ เริ่มไม่ดี ผมเองก็ไม่อยากให้เพื่อนๆ เครียดตามผมไปด้วย ผมเลยชวนพวกมันพูดนู้นพูดนี้ตนทั้งโต๊ะกับมาร่าเริงอีก

     

     

    เอ่อ ไอ่หยก นี้ญาติกุ มันมาเรียนต่อที่นี้ ชื่อฟาร์” ไอ่ทีบอกผมหลังจากที่ปล่อยให้ผมงงมานาน

     

    ผมหันไปมองหน้ามัน ความคิดแรกที่เข้ามาในหัว ดำว่ะ(เอ่อ...ไอ่หยกบอกยังงั้นจริงๆนะคะ มันบอกว่า ฟาร์ตอนม.4 ดำมากก) แต่คิ้วมันดึงดูดสายตาผมมาก ผมชอบคนคิ้วสวยครับ แต่หน้าตามันเหมือนไม่ค่อยรับแขกเท่าไร ผมเลยฉีกยิ้มให้มันไป 1 ที ตามมารยาทครับ มันมองหน้าผม ก่อนจะ ก้มหน้าลงไปเล่นมือถือมันต่อ

     

     

    เอ่อ ไอ่ฟาร์มันพูดไม่ค่อยเก่งว่ะ

     

    ผมก็ไม่ได้ถือสาอะไร แค่คิดว่าชั่งเหอะ ยังไงก็เพื่อนเหมือนกัน ผมเลยชวนมันคุย เช่นผมลองถามมันว่า เรียนศิลป์ฯหรือวิทย์ฯ มันก็เงียบครับ ไอ่ทีเลยต้องตอบแทนมัน ทำให้ผมรู้ว่ามัน เรียนศิลป์ฯ ฝรั่งฯ ผมก็ถามมันไปเรื่อยๆ แต่มันไม่ตอบคำถามผมซักคำเลยครับ นั่งเล่นมือถือมันไปนั่นแหละ ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับมันเท่าที่ควร จนคุณครูประกาศให้ไปเข้าแถวนั่นแหละครับ มันถึงจะเงยหน้าจากมือถือมัน แล้วคว้ากระเป๋ามัน ก่อนจะเดินออกไป ผมได้แต่มองหน้าไอ่ทีกับไอ่ขันอย่างโกรธ ผมไม่ชอบให้ใครขัดใจผม เมินผมแบบนี้

     

    ใครจะคบมันเป็นเพื่อนก็คบไป แต่กูไม่อยากยุ่งกับมัน

     

    ยอมรับครับว่าตอนนั่นโมโหมาก เวลาโมโหแล้วนิสัยเสียของผมคือชอบพาลคนอื่นครับ ผมเลยคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไป ปล่อยให้ไอ่ทีกับไอ่ขันวิ่งตามผมมานั่นแหละ ตอนเช้า หลังจากร้องเพลงชาติ สวดมนต์เสร็จ อาจารย์ก็มาพูดๆ กล่าวต้อนรับอะไรไม่รู้บลาๆ ว่ากันไป อาจารย์ก็พูดไป ผมก็ด่าไอ่ฟาร์ในใจไป ตอนนั่นแค้นมากถึงมากที่สุด พอตอนเที่ยง แค้นถึงขนาดไม่ยอมลงมากินข้าวกับไ อ่ทีไอ่ขัน จนลำบาก พวกมันต้องขึ้นมาตามครับ แต่ทำไงได้ ผมไม่อยากไปก็คือไม่ ผมเลยบอกมันไปว่าปวดหัว อะไรทำนองนี้ มัน 2 คนก็เลยถอดใจ

     

    หลังจากนั่นชีวิตผมก็หลีกเลี่ยงการที่จะอยู่กับไอ่ฟาร์มากที่สุด แต่บางเวลาก็จำเป็นจะต้องอยู่ด้วยกัน ผมก็เห็นมันเริ่มพูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น ส่วนไอ่ขันกับไอ่ทีก็กรอกหูผมทุกวัน ว่าไอ่ฟาร์เป็นคนคุยสนุกยังงั้นยังงี้ เพราะมัน 2 ตัวคุยโทรศัพท์กับไอ่ฟาร์บ่อยครับ ส่วนผมน่ะเหรอ เบอร์ก็มี แต่ไม่โทร ไม่อยากโทร โทรไปก็ไม่รู้จะคุยอะไร

     

    จนเวลาล่วงเลยจนถึงปิดเทอมเดือนตุลานั่นแหละ มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมกับมันต้องสนิทกันจนได้ ช่วงเดือนตุลา ใครๆก็รู้ว่ามันเป็นช่วงที่ ม. เค้าเริ่มจัดค่ายต่างๆนาๆ ไอ่ขันกับไอ่ทีมันดันไปค่ายเวลาเดียวกันทำให้ผมไม่มีเพื่อนช่วง อาทิตย์ถึง 2 อาทิตย์ อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ พอเบื่อก็นอน ตื่นมาก็กิน การ์ตูนที่มีในชั้นก็อ่านจบไปหลายรอบแล้ว ผมเลยนั่งหาเบอร์เพื่อนในโทรศัพท์ จนไปสะดุดอยู่ที่เบอร์ของไอ่ฟาร์นั่นแหละครับ เลยตัดสินใจชวนมันไปเดินเที่ยว แต่แปลกครับ แทนที่มันจะแบบ ไม่ไปอะไรทำนองนี้ ตอบตกลงไปง่ายมากเลยครับ มันบอกว่าให้รอแถวๆหน้าตู้ปลา มันนัดผมตอนเที่ยง แต่ผมดันไปเที่ยงครึ่งครับ(ฮา) ไปถึงก็เห็นมันทำหน้าหงิก สงสัยจะรอนาน ผมเลย แอ๊บแบ๊วใส่มันเล็กน้อย วิ่งไปกระโดด ยิ้มให้มันเห็นเหล็กดัดที่ผมใส่ไว้ เห็นมัน เหมือนจะยิ้มเล็กน้อย

     

    จะไปไหน อ่า...

     

    ตามใจ

     

     

    มันก็เลยหาผมไปกินข้าวครับ ร้าน....ปิ้งย่าง ขอบอกครับ ว่าผมกับมันกินคุ้มมาก!!! พี่พนักงานแทบไม่ได้อยู่กับที่ เดินหยิบนู้นหยิบนี้ให้โต๊ะพวกผม ผมเห็นมันสั่งนู้นสั่งนี้ซะเชี่ยว ปกติผมไม่ค่อยได้มากินทีนี้หรอกครับ กินแล้ว เสื้อผ้า เนื้อตัว ผม จะเหม็น ถึงมันจะมีที่ดูดอากาศก็เหอะ แต่ไม่ไหวครับ กินแล้วไม่อยากไปไหนต่อ พอผมกับมัน กินเสร็จ ร้านเค้าแทบจะล้มละลาย ผมกับมันก็เลยตัดสินใจเดินดูของต่อ นับว่ามันมั่นมากครับ เดินทั้งๆที่กลิ่นแบบนี้ เอาเป็นว่า เรา 2 คนพยายามเดินเลี่ยงคนให้มากที่สุดครับ

     

    มึงมีแฟนยังวะ

     

    มี

     

    เอ่อ... ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อครับ

     

    โทษที พอดีเป็นคนที่พูดไม่เก่ง กับคนอื่น

     

    มันคงเห็นผมเงียบมานานเลยบอกกับผมยังงั้น ตอนนั่นผมนั่นรู้สึกได้ว่ามันก็เป็นคนดีเหมือนกัน หลังจากนั่น ตลอด 2 อาทิตย์ ผมกับมันก็ออกมาเจอกันแทบทุกวัน ไม่ก็คุยโทรศัพท์กัน จนเรียกว่าสนิทโคตรๆก็ได้ครับ ทำให้รู้ว่ามันขี้งอลมาก ชอบงอลนู้นงอลนี้ไร้สาระ แต่ก็น่ารักดีครับ จนไอ่ 2 คนนั่นกลับมาก็ตกใจกับพวกผมที่สนิทกันได้ พวกมันเลยฉลอง(?) โดยการไปเที่ยวห้างกันอีกรอบครับ แต่รอบนี้แปลกเพราะว่า มันพาแฟนมาด้วย ความรู้สึกตอนนั่น ไม่ค่อยพอใจเท่าไรครับ แต่ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงไม่พอใจเหมือนกัน แฟนมันก็น่ารักดีครับ แต่ดูเหมือนชอบอ้อนให้ไอ่ฟาร์ซื้อนู้นซื้อนี้ให้ ผมก็เข้าใจนะครับว่าเป็นแฟนกัน แต่ผมว่าออกจะตามใจไปหน่อย

     

    พอกลับมาถึงบ้านโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นเบอร์ของไอ่ฟาร์ครับ มันโทรมามันก็พูดๆ ผมก็อืมๆ อาๆ มันไป จนมันเหมือนจะจับสังเกตได้ถึงถามผมว่าเป็นอะไรรึป่าว ผมก็เลยพูดในสิ่งที่ผมคิดออกไป

     


    ไม่รู้สิ กูรู้สึกเหมือนไม่ค่อยชอบ แฟนมึงเลยว่ะเหมือนมันจะเงียบไปซักพัก

     


    เฮ้ย อย่าคิดมาก เอ่อ...กูขอโทษ กูไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

     


    อืม กูเข้าใจ งั้นแค่นี้ก่อนนะ บายครับ

     


    มันวางไป ก่อนที่ผมจะทันพูดอะไรต่อซะอีก ผมคิดว่าผมเข้าใจความรู้สึกของมันนะครับ ถ้ามีใครซักคนบอกว่าไม่ชอบแฟนผม ผมคงรู้สึกแย่ ผมเลยรีบโทรไปหามัน

     


    ฮัลโล มีอะไรอีกป่าวเอ่อ...

     


    กูขอโทษ กูไม่น่าเกลียดแฟนมึงเลยว่ะ กู กูเอาซะพูดไม่ออก

     


    ชั่งเหอะคิดมาก

     

    เอ่อ...

     

    ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย งั้นวางนะ บายครับ

     


    ตอนนั่น บอกตามตรงว่าเครียดครับ!! เหอะๆ อย่างที่เค้าเคยบอกกันเลยครับ ว่าให้คิดก่อนพูด แต่ผมดันเป็นพวก พูดก่อนคิดอีก เลยเผลออาจจะไปทำร้ายจิตใจมัน เวรแล้วไง ตอนแรกในใจคิดอยากจะโทรไปหามันอีกรอบ แต่กลัวมันจะอารมณ์เสียใส่ เลยคิดว่าโทรวันพรุ่งนี้ดีกว่า ผมเลยนอนไปคิดไป เผลอตัวอีกทีก็เช้าแล้วครับ แฮ่ๆ

     

    พอตอนบ่ายก็รีบกดโทรศัพท์โทรหามันทันที ปรากฏว่ามันอยู่กับแฟนมันครับ ตอนนั่นรู้สึกแย่สุดๆ ตอนที่มันถามว่า มีอะไรอีกรึป่าว พอดีตอนนี้ไม่ว่าง แค่นี้ก่อนนะ บายครับ ทำเอาผม ไม่กล้ายื้อมันต่อเลยครับ เลยต้องปล่อยให้มันวางไป ผมว่าผมไม่ควรจะยุ่งกับมันมากกว่านี้แล้วล่ะ มันคงอยากมีชีวิตส่วนตัวกับแฟนมันบ้าง ในเมื่อผมไม่ชอบแฟนมัน มันก็คงต้องเมินผมแบบนี้

     

    อาทิตย์ที่เหลืออีก 7 วันผมกับมันไม่ได้ติดต่อกันเลยมันก็ไม่โทรมา ผมก็ไม่โทรไป จนเปิดเทอมนั่นแหละครับ ผมถึงได้ยินเสียงมัน ผมก็เห็นมันคุยกับไอ่ที ไอ่ขัน ตามปกติ แต่พอผมชวนคุย มันก็ทำเป็นเมิน อีกแล้ว ทำแบบนี้อีกแล้ว ตอนเช้าผมเลยขอตัวขึ้นห้องก่อน พอตอนเที่ยงก็ไม่ลงมากินข้าวกับพวกมัน พอตกเย็นผมก็รีบเดินออกจากโรงเรียนทันที แต่ไม่รู้จะไปไหนขี้เกียจกลับบ้านครับ เลยตัดสินใจไปเดินเล่นที่ห้าง แต่ก็ดันเจอของดีเข้าให้แล้วครับ

     

    ภาพที่ผมเห็นตรงหน้า เป็นแฟนของไอ่ฟาร์มันเดินกับผู้ชายคนอื่น แล้วไอ่ที่เดินที่ว่าเนี่ย เดินแบบแนบชิดมากเลยครับ คือต่อให้ผมกินหญ้าก็รู้ครับว่า 2 คนนี้เป็นอะไรกัน แฟนมันที่ผมเห็น ก็เหมือนที่เจอกันวันนั่น ขอให้ซื้อนู้นให้ ซื้อนี้ให้ ไอ่คนนั้น ก็เต็มใจครับ เหมือนเห็นภาพฟาร์แว๊บเข้ามาในหัว ผมเลยแกล้งเดินตัดหน้าเหมือนผ่านๆ พอแฟนมันเห็นหน้าผมปุ๊บ ตาเหลือกเลยครับ มือที่ควงกับไอ่นั่นค่อยๆลดระดับลง ผมเหล่ต่างไปทางนั่นเล็กน้อย ก่อนจะแกล้งทำเป็นยกโทรศัพท์โทรหาไอ่ฟาร์

     

    เฮ้ย ฟาร์ รู้มั้ยกูเจออะไรเด็ด

     

    แฟนมันทำตาเหลือกกว่าเดิมอีกครับ คงกลัวล่ะสิ พอไอ่คนนั่นเห็นแฟนไอ่ฟาร์หยุดเดิน ก็ทำหน้างง เพื่อความสมจริง ผมก็แกล้งต่อครับ

     

    หา?? อะไรเด็ดหรอ มาดูเองมั้ย เฮ้ย ไม่ได้ เดี๋ยวมันจะหายไปนะเว้ย อะไรวะ ให้ถ่ายรูปให้ดูหรอ ได้ๆ

     

    แฟนไอ่ฟาร์รีบลากไอ่นั่นให้เดินห่างจากผมออกไป คงกลัวล่ะสิ อันที่จริงผมก็ไม่ใช่นางร้ายอะไรหรอกครับ แค่ไม่ค่อยพอใจเท่านั่นเอง ที่ไอ่ฟาร์โดนสวมเขาแบบนี้ ผมเลยตัดสินใจกลับบ้าน แล้วไปเล่าเรื่องนี้ให้ไอ่ทีกับไอ่ขันฟัง พวกมันทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ ผมเลยบอกพวกมันไปว่า กูเพื่อนมึงนะเว้ย จนมันยอมเชื่อแหละครับ เลยตัดสินใจว่าจะทำไงต่อ ไอ่ขันก็เสนอว่าให้ไอ่ฟาร์ไปเห็นกับตาตัวเองดีกว่า พวกผมเลยปล่อยไปตามนั่นครับ

     

    แล้ววันแห่งความซวยของแฟนมันก็มาถึง เอาเป็นว่าตอนนั่นไอ่ฟาร์ก็ยังเมินผมเหมือนเดิม แต่เพราะว่าไอ่ทีมันชวน ไอ่ฟาร์ก็เลยยอมมาด้วยครับ ตอนที่กำลังเดินเพลินเมื่อนั่นแหละ แฟนมัน กับผู้ชายคนใหม่ เดินมาทางพวกผมพอดี ทำเอาไอ่ฟาร์อึ้งเลยครับ มองหน้าแฟนมันก่อนจะ เดินผ่านไป ผมคงคิดว่า มันคงอยากเคลียกันเอง ส่วนแฟนมันหรอครับ แทบจะกรี๊ดตอนนั่นเลย หลังจากนั่นไอ่ฟาร์ก็ไม่พูดอะไรเลยครับ แต่มันหันมามองทางผมบ่อยๆ เหมือนจะอยากพูดอะไร พอหลังจากเดินเที่ยว พวกผมก็กลับบ้าน เท้ายังไม่ทันแตะถึงบ้านเลยครับ ไอ่ฟาร์ก็โทรมา

     

    ฮัลโลผมกดรับ

     

    มึงรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหน

     

    ห๊ะ!!”

     

    กูถามว่ามึงรู้เรื่องที่แพร เค้ามีคนอื่นมานานแค่ไหนแล้ว แพร ที่ว่า คือชื่อแฟนมันนะครับ

     

    ก็...ไม่

     

    อย่ามาโกหก แพรเค้าบอกกูว่ามึงเห็นตั้งนานแล้ว

     

    ตอนนั่น ผมรู้สึกโกรธแพรมาก เหมือนกับว่าเค้ามีปัญหากันแค่ 2 คนแต่ต้องลากเอาผมไปด้วย ลากเอาผมไปเหมือนกับว่ารู้อะไรแล้วไม่บอกเพื่อน แล้วผมก็น้อยใจมาก ตรงที่ว่า มันถึงขนาดโทรมาคาดคั้น ถามผม ด้วยเรื่องที่ฟังจากแฟนมัน ผมยอมรับครับว่ารู้มาพอสมควร แต่ที่ไม่บอกเพราะไม่อยากให้ มัน 2 คนผิดใจกัน แต่ทำไม ผู้หญิงคนนั่นถึงต้องทำกับผมยังงี้

     

    นานแล้ว พอใจยังผมบอก

     

    ทำไมมึงไม่บอกกู เห็นกูเป็นอะไร

     

    กูไม่อยากให้มึงเลิกกันเพราะกูผมพูดไปตามที่ตัวเองคิด

     

    เออ กูไม่เลิกหรอก เพราะกูรักเค้า!!”

     

     

     

    คุยกับผู้แต่ง

     

    เอ่อ...ตอนผู้แต่งได้อ่านเรื่องนี้จากที่หยกมันพิมพ์มาให้นะคะ  ขอบอกว่าช็อคค่ะ ผู้แต่งเลยรีบ โทรไปหามันแบบด่วนๆ

     

    ผู้แต่ง : ไอ่หยก

     

    หยก : หืม?? มีอะไรหรอ ไม่ได้เรื่องที่พิมพ์ให้หรอ

     

    ผู้แต่ง : ได้ แต่แก ที่พิมพ์มามันเรื่องจริงหรอวะ ที่ว่าแกไม่ชอบหน้ามันเนี่ย

     

    หยก : อืม ก็มันหยิ่ง

     

    ฟาร์ : คุยโทรศัพท์กับใครอ่ะ

     

    ผู้แต่ง : อ้าว แกอยู่กับฟาร์เรอะ

     

    หยก : อืม งั้นแค่นี้ก่อนนะ บาย

     

    ผู้แต่ง : อ๊ะ เดี๋ยว!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×