ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ไม่จริง
                  ยูมิเดินเซ่อย่างไร้ทิศทาง มือของเธอไขว่ขว้าทุกอย่างที่พอจะจับยืดได้ สิ่งสุดท้ายที่ยังพอมีเหลือในสติที่ใกล้ถึงจุดแตกหัก คือภาพกระทะใบหนาฟาดลงที่หน้าอาเคน แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องคิดตอนนี้
    “มีใครอยู่มั้ย!”หญิงสาวตะโกนอย่างมีหวังแต่ไรซึ่งการตอบกลับ ทุกอย่างยังมืดมิด
    “เดินไปเรื่อยๆคะ นายหญิง”เสียงใส่ของลินอิดังสะท้อนจากที่ไหนสักแห่ง “ไม่ต้องกลัวคะนายหญิง อาเคนไม่ตามมาหรอกคะ”
    “ล..ลินอิ! ช่วยฉันออกไปทีซิ”ยูมิตะโกนตอบ
    “นายหญิงคะ ทางขวามีแสงอยู่ นายหญิงเดินตามมันไปคะ”เสียงของลินอิชี้ทางกับเธอ ยูมิบังคับขาของตัวเองให้หันไปตามนั้น สิ่งที่เธอเห็นคือเส้นตรงที่ส่องแสงอยู่ใกล้กับพื้น เธอออกวิ่งเต็มฝีเท้า เข้าใกล้รอยนั้นมากขึ้นทุกที
    “อะไร”ยูมิพึมพำถามตัวเองพร้อมกับโถมตัวลงที่รอยแสงมือของเธอเตะที่ผนังที่ตั้งฉาก มือสั่นๆเตะไล่ขึ้นไปเรื่อยๆจนเจออะไรซักอย่างที่คล้ายลูกบิดประตู และกระชากมันเปิดออก
    แสงจ้าบาดตาส่องกระทบนัยน์ตาสีน้ำตาลที่ยี่ลง และเมื่อตาของเธอชิน สิ่งที่เห็นคือห้องนอน ห้องนอนของเธอเอง
    “ห้องของฉัน....บ้าน ฉันได้กลับบ้านแล้ว!”เด็กสาวตะโกนพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปมาเหมือนคนเสียสติ มันเหมือนเป็นแสงสว่างที่เธอรอคอยมานาน ราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ถึงจะไม่ใช่ฝัน ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่มันจบแล้ว
    “อะไรนะ! ยูมิเป็นอะไรไป!”เสียงที่เจือด้วยความตกใจของมิโดริดังมาจากหลังประตู ยูมิวิ่งไปกระชากบานประตูเปิดออกแล้วโผเข้ากอดเพื่อนสาวน้ำตาซึม
    “มิโดริ! มิโดริจริงๆ ฉัน-ฉันดีใจจังเลย! ได้เจอเธอแล้ว!”ยูมิรัดร่างของมิโดริแน่นจนเพื่อสาวแทบขาดอากาศหายใจ ยูมิจึงยอมปล่อยในที่สุด
    “อะไรกัน..ยูมิ เราเพิ่งจากกันเมื่อเย็นเอง”มิโดริพูดส่อสำเนียงไม่ไว้วางใจ “ลงไปกินข้าวกับเถอะ ทุกคนทานกับเกือบเสร็จแล้วนะ”มิโดริชี้ไปที่บันได คำว่าทุกคนปลุกใจยูมิให้วิ่งตึงตังลงไปที่ชั้นล้าง แต่เมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย มือที่ไม่ควรมีเตะไหล่เธอ
    โครม!
    ยูมิกลิ้งลงจากบันไดราวกับถูกดีด เธอเงยหน้าขึ้นอย่างโกรทแค้น แต่พอเห็นสีหน้าที่ตกใจจนเกือบร้องไห้ของมิโดริโทสะที่มีก็
หายไปอย่างน่าประหลาด
    “ฉ..ฉันขอโทษยูมิ ฉันแค่จะบอกเธอว่า..วันนี้มีซูชิ ฉันไม่นึกว่า”
    “ช่างเถอะ!”ยูมิพูดราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องหน้ายินดี ไม่มีอะไรต้องโกรทอีกแล้วสำหรับเธอ แค่เธอได้กลับมาก็ดีเกินพอแล้ว
    ยูมิกระโดดลุกขึ้นและวิ่งไปที่ห้องครัว และพุ่งพรวดเข้าไปรวบคอพ่อที่รักอย่างสุดทน
    “อะไรเนี่ย ยูมิ”ยาชิโร่ถามอย่างมึนงง ยูมิไปตอบก่อนจะปล่อยพอและวิ่งผ่านคุณน้าเพื่อไปที่เก้าอี้ แต่เธอก็ต้องกระโดดหลบน้ำเดือดๆที่หกจากกาในมือของน้า
    “อุ้ย! ตายแล้วน้าขอโทษจะ ไม่โดนใช่มั้ยจ้ะ!”น้าถามอย่างตกใจ ยูมิส่ายหน้าอย่างตื่นๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้
    “น่าอร่อยจังเลย!”เธอร้องสายตากลาดไปบนโต๊ะที่เติมไปด้วยซูชิหลายต่อหลายถาดตรงหน้า
    “ยกให้เธอทั้งหมดเลย ยูมิ”มิโดริเดินมาส่งตะเกียบให้ ยูมิรีบรับมันมา
    “ว้าย!”เธอชักมือออก เลือดแดงฉาดไหล่รินจากปลายนิ้ว เธอจ้องบาดแผลก่อนจะสะบัดหน้าไปมองตะเกียบ สิ่งที่เห็นคือใบมีดโกนที่ผูกกับตะเกียบสีน้ำตาลที่ย้อมด้วยสีแดงจากเลือดสดๆ ยูมิกระโดดลุกขึ้นและถอยห่างจากทุกคนในบ้านไปอยู่ที่มุมห้อง มือยังคงกำข้องมือขวาที่โชกเลือด
    “ยูมิ พ่อสอนเรื่องการจับตะเกียบแล้วไม่ใช่หรือไง”ยาชิโร่ลุกขึ้นสีหน้าเติมไปด้วยความไม่พอใจทุกริ้วรอย
    “นั้นซิยูมิ ฉันอุตส่าจะให้มันบาดปากเธอมากกว่าด้วยซ้ำ”ยูมิวางตะเกียบสุดอันตรายนั้นลงและถือสิ่งอันตรายมากกว่า มีดทำครัวด้ามใหญ่เท่าหัวไชเท่าสะท้องแสงในมือของหญิงสาว
    “เจ้าเด็กเลว!”ยาชิโร่คว้ามีดหั่นเนื้อขึ้นมาฟันใส่ยูมิที่กระโดดหลบ ก่อนจะก้มหลบมีดของมิโดริอย่างเฉียดปาลายผม
    “ไม่จริง!”ยูมิวิ่งหนีออกไปจากห้องครัวสู่ประตูหน้าบ้าน ไม่จริงใช่มั้ย มันยังไม่จบ อะไรทำให้ทุกคนเป็นแบบนี้ นี้อะไรกันฝันร้ายชัดๆ
    ยูมิวิ่งออกมาพบบันยากาศที่หน้าบ้าน ท้องฟ้าที่ควรพร้าพรายไปด้วยดวงดาวกลับมีสีที่ปนแปหน้าเวียหัว แต่นั้นไม่ใช่เวลามาวิเคราะสีท้องฟ้า ยูมิวิ่งหนียาชิโรและทุกคนในบ้านไปตามทางเดินที่บิดเบี้ยวไม่ได้รูป ทางที่ควรเรียบไร้ที่ติกลับคดงอ บ้านสวยๆก็ดูคล้าย
สถาปัตยกรรมไม่พิสมัย
    “กริ๊ด!!!!”ยูมิร้องมีดปลายแหลมเฉียดเสื้อเธอขาด และไม้กวาดด้ามยาวถูกเขี้ยวมาปักที่กลางหลังเธอจนล้มกลิ้งไปเป็นท้า
    “กลับมานี้! อย่าดื้อนะยูมิ!”ยาชิโร่วิ่งตามเข้ามา แต่ยูมิลุกขึ้นวิ่งต่อ พวกนั้นไม่ใช่ตัวจริง ไม่ใช่แน่น ไม่ใช่ ถึงสิ่งที่ไล่ตามคือ
ภาพลวงตา แต่สิ่งที่เป็นของจริงอยู่ตรงหน้า
    อาเคน ยืนดักเธออยู่ ยูมิหยุดชะงักก่อนจะหันไปมองด้านหลังที่มีพวกมิโดริวิ่งถืออุปกรในบ้านเข้ามายืนปิดทาง ไม่มีทางให้หนีแล้ว
    “ครั้งสุดท้ายแล้ว เวสต้า”อาเคนเดินเข้ามา ยูมิผลักเขาออกไป
    “ไม่มีวัน!”ยูมิตอบ ตายก็ตาย ไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว “ฉันสาบาน! อีกกี่พันชาติ! ฉันก็ไม่มีวันไปกับแก!”
    “แน่ใจรึ”
    “ไปตายซะ!ไอ้นรก!”วินาทีต่อมา มือมากมายก็พุ่งเข้าร็อกเด็กสาว และสายไฟก็รัดที่คอเธอ ยูมิดิ้นรนอย่างหมดหนทาง   
    ขณะที่ยูมิกับลังจะหมดแรง สิ่งที่อาเคนเพิ่งสังเกตคือจี้?? จี้รูปพระจันทร์หายไป
    “แก!”อาเคนชักดาบขึ้นพุ่งใส่ยูมิ เสี้ยววินาทียูมิก็สะบัดตัวและกระโดดสูงกลับตัวกลางอากาศอย่างสง่างามขึ้นไปยืนบนหลังคาที่บิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มที่มีชัย “ไอ้เด็กเปรต!”อาเคนตะโกนด่า ยูมิดีดนิ้ว ประกายเพชรแตกกระจายออกจากตัวเธอกลายเป็นเด็กหญิงชุดขาวขึ้นแทนที่ ขณะที่ยูมิตัวจริงโผล่ออกมาจากด้านหลังหลังคาอย่างกล้าๆกลัว
    “คนเรานี้โงได้ขนาดนี้เชียวเนอะอาเคน”ลินอิมอบคำพูดแทงใจให้กับชายที่ยืนจ้องเธอราวกับจะสาปให้บันลัยซะตรงนั้น
    “ข้าจะฆ่าแก!”อาเคนตะโกนพร้อมกับวาดมือดึงดาบสีนิลขึ้นมาจากอากาศ
    “ไว้วันหลังละกันนะ”ลินอิร่ายมือขึ้นเป็นรูปเสี้ยวจันทร์ คันธนูไฟสีฟ้าเกิดขึ้นที่มือ พร้อมกับเด็กหญิงเงื้อลูกธนูไปขึ้น “ต้องพานายหญิงไปส่งก่อน ส่วนเจ้าไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ”
    ธนูพุ่งเข้าใส่อาเคนระเบิดตูมใหญ่ กว่ามันจะตั้งตัวได้ก็ช้าไปแล้ว สองสาวหายไปทั้งคู่
   
    ณ ส่วนป่าขนาดใหญ่บนตึกระฟ้า บนพื้นหย้าเกิดแสงสีขาวรูปจันทร์เสี้ยววาบขึ้นเมื่อแสงหายไป ลินอิก็เดินลากยูมิไปที่ต้น
แอปเปิลล์ต้นใหญ่
    “นายหญิงคะ!”ลินอิผลักยูมิไปที่หลังต้นไม้ด้วยท้าทีร้อนรน ก่อนจะก้มลงปักหินแหมสีม้วงลงที่พื้น “นายหญิงคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหายออกห่างต้นไม้นี้เด็จขาดนะคะ”
    “ทำไมละ”ยูมิถาม
    “เพราะ“
    ตูม!!
    นั้นคือคำตอบ ระเบิดขนาดย่อมๆระเบิดที่กลางหลังขององครักษ์น้อย ยังไม่ทันที่ยูมิจะร้องลินอิก็กระโดดหลบระเบิดอีกลูก พร้อมกับร่ายมือควงทวนออกจากสายหมอก รับมือกับดาบทมิฬของอาเคนที่โจมตีแบบเอาเลือดเอาเนื้อ
    เป็นการต่อสู้ที่เหลือเชื่อที่สุดในชีวิตวัยรุ่นของยูมิ เด็กหญิงชุดขาวที่ไม่น่าจะมีอายุเกินสิบสี่ปี กำลังเหวี่ยงทวนรับดาบอย่างว่องไว อาวุทสัมผัสกันเพียงเสี้ยววินาทีที่ประกายไฟส่องสะหว่าง การรุกรับทำได้เพียงเฉียดปลายนิ้วทุกวินาทีหมายถึงชีวิตอันมีค้าต้องหลุดลอย
    “เฟอร์เซลวิล!”แสงสีขาวนวลอัดเข้าเต็มท้องของอาเคน “เซนเทอร์มูน!”วงเวทรูปจันทร์เสี้ยวลอยเหนือหัวเด็กหญิงเพียงเสี้ยววิและแตกออกเป็นเสี้ยวจันทร์สิบสองวงพุ่งเข้าเฉือนอาเคนราวจะบั่นให้ขาด แต่ไม่ ลินอิเสียจังหวะมันเป็นโอกาสของอาเคน
    “จี-สตอง” ภาพที่เกิดขึ้นบนสายตาของยูมิ คืออาเคนอัดหมัดที่เต็มไปด้วยละอองสีดำเสยร่างของเด็กน้อยกระเด็นเลยขอบตึกตกลงหายลับไป
    “ลิลอิ!!”
    “มีใครอยู่มั้ย!”หญิงสาวตะโกนอย่างมีหวังแต่ไรซึ่งการตอบกลับ ทุกอย่างยังมืดมิด
    “เดินไปเรื่อยๆคะ นายหญิง”เสียงใส่ของลินอิดังสะท้อนจากที่ไหนสักแห่ง “ไม่ต้องกลัวคะนายหญิง อาเคนไม่ตามมาหรอกคะ”
    “ล..ลินอิ! ช่วยฉันออกไปทีซิ”ยูมิตะโกนตอบ
    “นายหญิงคะ ทางขวามีแสงอยู่ นายหญิงเดินตามมันไปคะ”เสียงของลินอิชี้ทางกับเธอ ยูมิบังคับขาของตัวเองให้หันไปตามนั้น สิ่งที่เธอเห็นคือเส้นตรงที่ส่องแสงอยู่ใกล้กับพื้น เธอออกวิ่งเต็มฝีเท้า เข้าใกล้รอยนั้นมากขึ้นทุกที
    “อะไร”ยูมิพึมพำถามตัวเองพร้อมกับโถมตัวลงที่รอยแสงมือของเธอเตะที่ผนังที่ตั้งฉาก มือสั่นๆเตะไล่ขึ้นไปเรื่อยๆจนเจออะไรซักอย่างที่คล้ายลูกบิดประตู และกระชากมันเปิดออก
    แสงจ้าบาดตาส่องกระทบนัยน์ตาสีน้ำตาลที่ยี่ลง และเมื่อตาของเธอชิน สิ่งที่เห็นคือห้องนอน ห้องนอนของเธอเอง
    “ห้องของฉัน....บ้าน ฉันได้กลับบ้านแล้ว!”เด็กสาวตะโกนพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปมาเหมือนคนเสียสติ มันเหมือนเป็นแสงสว่างที่เธอรอคอยมานาน ราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ถึงจะไม่ใช่ฝัน ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่มันจบแล้ว
    “อะไรนะ! ยูมิเป็นอะไรไป!”เสียงที่เจือด้วยความตกใจของมิโดริดังมาจากหลังประตู ยูมิวิ่งไปกระชากบานประตูเปิดออกแล้วโผเข้ากอดเพื่อนสาวน้ำตาซึม
    “มิโดริ! มิโดริจริงๆ ฉัน-ฉันดีใจจังเลย! ได้เจอเธอแล้ว!”ยูมิรัดร่างของมิโดริแน่นจนเพื่อสาวแทบขาดอากาศหายใจ ยูมิจึงยอมปล่อยในที่สุด
    “อะไรกัน..ยูมิ เราเพิ่งจากกันเมื่อเย็นเอง”มิโดริพูดส่อสำเนียงไม่ไว้วางใจ “ลงไปกินข้าวกับเถอะ ทุกคนทานกับเกือบเสร็จแล้วนะ”มิโดริชี้ไปที่บันได คำว่าทุกคนปลุกใจยูมิให้วิ่งตึงตังลงไปที่ชั้นล้าง แต่เมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย มือที่ไม่ควรมีเตะไหล่เธอ
    โครม!
    ยูมิกลิ้งลงจากบันไดราวกับถูกดีด เธอเงยหน้าขึ้นอย่างโกรทแค้น แต่พอเห็นสีหน้าที่ตกใจจนเกือบร้องไห้ของมิโดริโทสะที่มีก็
หายไปอย่างน่าประหลาด
    “ฉ..ฉันขอโทษยูมิ ฉันแค่จะบอกเธอว่า..วันนี้มีซูชิ ฉันไม่นึกว่า”
    “ช่างเถอะ!”ยูมิพูดราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องหน้ายินดี ไม่มีอะไรต้องโกรทอีกแล้วสำหรับเธอ แค่เธอได้กลับมาก็ดีเกินพอแล้ว
    ยูมิกระโดดลุกขึ้นและวิ่งไปที่ห้องครัว และพุ่งพรวดเข้าไปรวบคอพ่อที่รักอย่างสุดทน
    “อะไรเนี่ย ยูมิ”ยาชิโร่ถามอย่างมึนงง ยูมิไปตอบก่อนจะปล่อยพอและวิ่งผ่านคุณน้าเพื่อไปที่เก้าอี้ แต่เธอก็ต้องกระโดดหลบน้ำเดือดๆที่หกจากกาในมือของน้า
    “อุ้ย! ตายแล้วน้าขอโทษจะ ไม่โดนใช่มั้ยจ้ะ!”น้าถามอย่างตกใจ ยูมิส่ายหน้าอย่างตื่นๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้
    “น่าอร่อยจังเลย!”เธอร้องสายตากลาดไปบนโต๊ะที่เติมไปด้วยซูชิหลายต่อหลายถาดตรงหน้า
    “ยกให้เธอทั้งหมดเลย ยูมิ”มิโดริเดินมาส่งตะเกียบให้ ยูมิรีบรับมันมา
    “ว้าย!”เธอชักมือออก เลือดแดงฉาดไหล่รินจากปลายนิ้ว เธอจ้องบาดแผลก่อนจะสะบัดหน้าไปมองตะเกียบ สิ่งที่เห็นคือใบมีดโกนที่ผูกกับตะเกียบสีน้ำตาลที่ย้อมด้วยสีแดงจากเลือดสดๆ ยูมิกระโดดลุกขึ้นและถอยห่างจากทุกคนในบ้านไปอยู่ที่มุมห้อง มือยังคงกำข้องมือขวาที่โชกเลือด
    “ยูมิ พ่อสอนเรื่องการจับตะเกียบแล้วไม่ใช่หรือไง”ยาชิโร่ลุกขึ้นสีหน้าเติมไปด้วยความไม่พอใจทุกริ้วรอย
    “นั้นซิยูมิ ฉันอุตส่าจะให้มันบาดปากเธอมากกว่าด้วยซ้ำ”ยูมิวางตะเกียบสุดอันตรายนั้นลงและถือสิ่งอันตรายมากกว่า มีดทำครัวด้ามใหญ่เท่าหัวไชเท่าสะท้องแสงในมือของหญิงสาว
    “เจ้าเด็กเลว!”ยาชิโร่คว้ามีดหั่นเนื้อขึ้นมาฟันใส่ยูมิที่กระโดดหลบ ก่อนจะก้มหลบมีดของมิโดริอย่างเฉียดปาลายผม
    “ไม่จริง!”ยูมิวิ่งหนีออกไปจากห้องครัวสู่ประตูหน้าบ้าน ไม่จริงใช่มั้ย มันยังไม่จบ อะไรทำให้ทุกคนเป็นแบบนี้ นี้อะไรกันฝันร้ายชัดๆ
    ยูมิวิ่งออกมาพบบันยากาศที่หน้าบ้าน ท้องฟ้าที่ควรพร้าพรายไปด้วยดวงดาวกลับมีสีที่ปนแปหน้าเวียหัว แต่นั้นไม่ใช่เวลามาวิเคราะสีท้องฟ้า ยูมิวิ่งหนียาชิโรและทุกคนในบ้านไปตามทางเดินที่บิดเบี้ยวไม่ได้รูป ทางที่ควรเรียบไร้ที่ติกลับคดงอ บ้านสวยๆก็ดูคล้าย
สถาปัตยกรรมไม่พิสมัย
    “กริ๊ด!!!!”ยูมิร้องมีดปลายแหลมเฉียดเสื้อเธอขาด และไม้กวาดด้ามยาวถูกเขี้ยวมาปักที่กลางหลังเธอจนล้มกลิ้งไปเป็นท้า
    “กลับมานี้! อย่าดื้อนะยูมิ!”ยาชิโร่วิ่งตามเข้ามา แต่ยูมิลุกขึ้นวิ่งต่อ พวกนั้นไม่ใช่ตัวจริง ไม่ใช่แน่น ไม่ใช่ ถึงสิ่งที่ไล่ตามคือ
ภาพลวงตา แต่สิ่งที่เป็นของจริงอยู่ตรงหน้า
    อาเคน ยืนดักเธออยู่ ยูมิหยุดชะงักก่อนจะหันไปมองด้านหลังที่มีพวกมิโดริวิ่งถืออุปกรในบ้านเข้ามายืนปิดทาง ไม่มีทางให้หนีแล้ว
    “ครั้งสุดท้ายแล้ว เวสต้า”อาเคนเดินเข้ามา ยูมิผลักเขาออกไป
    “ไม่มีวัน!”ยูมิตอบ ตายก็ตาย ไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว “ฉันสาบาน! อีกกี่พันชาติ! ฉันก็ไม่มีวันไปกับแก!”
    “แน่ใจรึ”
    “ไปตายซะ!ไอ้นรก!”วินาทีต่อมา มือมากมายก็พุ่งเข้าร็อกเด็กสาว และสายไฟก็รัดที่คอเธอ ยูมิดิ้นรนอย่างหมดหนทาง   
    ขณะที่ยูมิกับลังจะหมดแรง สิ่งที่อาเคนเพิ่งสังเกตคือจี้?? จี้รูปพระจันทร์หายไป
    “แก!”อาเคนชักดาบขึ้นพุ่งใส่ยูมิ เสี้ยววินาทียูมิก็สะบัดตัวและกระโดดสูงกลับตัวกลางอากาศอย่างสง่างามขึ้นไปยืนบนหลังคาที่บิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มที่มีชัย “ไอ้เด็กเปรต!”อาเคนตะโกนด่า ยูมิดีดนิ้ว ประกายเพชรแตกกระจายออกจากตัวเธอกลายเป็นเด็กหญิงชุดขาวขึ้นแทนที่ ขณะที่ยูมิตัวจริงโผล่ออกมาจากด้านหลังหลังคาอย่างกล้าๆกลัว
    “คนเรานี้โงได้ขนาดนี้เชียวเนอะอาเคน”ลินอิมอบคำพูดแทงใจให้กับชายที่ยืนจ้องเธอราวกับจะสาปให้บันลัยซะตรงนั้น
    “ข้าจะฆ่าแก!”อาเคนตะโกนพร้อมกับวาดมือดึงดาบสีนิลขึ้นมาจากอากาศ
    “ไว้วันหลังละกันนะ”ลินอิร่ายมือขึ้นเป็นรูปเสี้ยวจันทร์ คันธนูไฟสีฟ้าเกิดขึ้นที่มือ พร้อมกับเด็กหญิงเงื้อลูกธนูไปขึ้น “ต้องพานายหญิงไปส่งก่อน ส่วนเจ้าไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ”
    ธนูพุ่งเข้าใส่อาเคนระเบิดตูมใหญ่ กว่ามันจะตั้งตัวได้ก็ช้าไปแล้ว สองสาวหายไปทั้งคู่
   
    ณ ส่วนป่าขนาดใหญ่บนตึกระฟ้า บนพื้นหย้าเกิดแสงสีขาวรูปจันทร์เสี้ยววาบขึ้นเมื่อแสงหายไป ลินอิก็เดินลากยูมิไปที่ต้น
แอปเปิลล์ต้นใหญ่
    “นายหญิงคะ!”ลินอิผลักยูมิไปที่หลังต้นไม้ด้วยท้าทีร้อนรน ก่อนจะก้มลงปักหินแหมสีม้วงลงที่พื้น “นายหญิงคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหายออกห่างต้นไม้นี้เด็จขาดนะคะ”
    “ทำไมละ”ยูมิถาม
    “เพราะ“
    ตูม!!
    นั้นคือคำตอบ ระเบิดขนาดย่อมๆระเบิดที่กลางหลังขององครักษ์น้อย ยังไม่ทันที่ยูมิจะร้องลินอิก็กระโดดหลบระเบิดอีกลูก พร้อมกับร่ายมือควงทวนออกจากสายหมอก รับมือกับดาบทมิฬของอาเคนที่โจมตีแบบเอาเลือดเอาเนื้อ
    เป็นการต่อสู้ที่เหลือเชื่อที่สุดในชีวิตวัยรุ่นของยูมิ เด็กหญิงชุดขาวที่ไม่น่าจะมีอายุเกินสิบสี่ปี กำลังเหวี่ยงทวนรับดาบอย่างว่องไว อาวุทสัมผัสกันเพียงเสี้ยววินาทีที่ประกายไฟส่องสะหว่าง การรุกรับทำได้เพียงเฉียดปลายนิ้วทุกวินาทีหมายถึงชีวิตอันมีค้าต้องหลุดลอย
    “เฟอร์เซลวิล!”แสงสีขาวนวลอัดเข้าเต็มท้องของอาเคน “เซนเทอร์มูน!”วงเวทรูปจันทร์เสี้ยวลอยเหนือหัวเด็กหญิงเพียงเสี้ยววิและแตกออกเป็นเสี้ยวจันทร์สิบสองวงพุ่งเข้าเฉือนอาเคนราวจะบั่นให้ขาด แต่ไม่ ลินอิเสียจังหวะมันเป็นโอกาสของอาเคน
    “จี-สตอง” ภาพที่เกิดขึ้นบนสายตาของยูมิ คืออาเคนอัดหมัดที่เต็มไปด้วยละอองสีดำเสยร่างของเด็กน้อยกระเด็นเลยขอบตึกตกลงหายลับไป
    “ลิลอิ!!”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น