ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เวสต้า เทพธิดาราตรี

    ลำดับตอนที่ #9 : ไม่จริง

    • อัปเดตล่าสุด 21 ส.ค. 47


                      ยูมิเดินเซ่อย่างไร้ทิศทาง มือของเธอไขว่ขว้าทุกอย่างที่พอจะจับยืดได้ สิ่งสุดท้ายที่ยังพอมีเหลือในสติที่ใกล้ถึงจุดแตกหัก คือภาพกระทะใบหนาฟาดลงที่หน้าอาเคน แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องคิดตอนนี้



        “มีใครอยู่มั้ย!”หญิงสาวตะโกนอย่างมีหวังแต่ไรซึ่งการตอบกลับ ทุกอย่างยังมืดมิด



        “เดินไปเรื่อยๆคะ นายหญิง”เสียงใส่ของลินอิดังสะท้อนจากที่ไหนสักแห่ง “ไม่ต้องกลัวคะนายหญิง อาเคนไม่ตามมาหรอกคะ”



        “ล..ลินอิ! ช่วยฉันออกไปทีซิ”ยูมิตะโกนตอบ



        “นายหญิงคะ ทางขวามีแสงอยู่ นายหญิงเดินตามมันไปคะ”เสียงของลินอิชี้ทางกับเธอ ยูมิบังคับขาของตัวเองให้หันไปตามนั้น สิ่งที่เธอเห็นคือเส้นตรงที่ส่องแสงอยู่ใกล้กับพื้น เธอออกวิ่งเต็มฝีเท้า เข้าใกล้รอยนั้นมากขึ้นทุกที



        “อะไร”ยูมิพึมพำถามตัวเองพร้อมกับโถมตัวลงที่รอยแสงมือของเธอเตะที่ผนังที่ตั้งฉาก มือสั่นๆเตะไล่ขึ้นไปเรื่อยๆจนเจออะไรซักอย่างที่คล้ายลูกบิดประตู และกระชากมันเปิดออก



        แสงจ้าบาดตาส่องกระทบนัยน์ตาสีน้ำตาลที่ยี่ลง และเมื่อตาของเธอชิน สิ่งที่เห็นคือห้องนอน ห้องนอนของเธอเอง



        “ห้องของฉัน....บ้าน ฉันได้กลับบ้านแล้ว!”เด็กสาวตะโกนพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปมาเหมือนคนเสียสติ มันเหมือนเป็นแสงสว่างที่เธอรอคอยมานาน ราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ถึงจะไม่ใช่ฝัน ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่มันจบแล้ว



        “อะไรนะ! ยูมิเป็นอะไรไป!”เสียงที่เจือด้วยความตกใจของมิโดริดังมาจากหลังประตู ยูมิวิ่งไปกระชากบานประตูเปิดออกแล้วโผเข้ากอดเพื่อนสาวน้ำตาซึม



        “มิโดริ! มิโดริจริงๆ ฉัน-ฉันดีใจจังเลย! ได้เจอเธอแล้ว!”ยูมิรัดร่างของมิโดริแน่นจนเพื่อสาวแทบขาดอากาศหายใจ ยูมิจึงยอมปล่อยในที่สุด



        “อะไรกัน..ยูมิ เราเพิ่งจากกันเมื่อเย็นเอง”มิโดริพูดส่อสำเนียงไม่ไว้วางใจ “ลงไปกินข้าวกับเถอะ ทุกคนทานกับเกือบเสร็จแล้วนะ”มิโดริชี้ไปที่บันได คำว่าทุกคนปลุกใจยูมิให้วิ่งตึงตังลงไปที่ชั้นล้าง แต่เมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย มือที่ไม่ควรมีเตะไหล่เธอ



        โครม!



        ยูมิกลิ้งลงจากบันไดราวกับถูกดีด เธอเงยหน้าขึ้นอย่างโกรทแค้น แต่พอเห็นสีหน้าที่ตกใจจนเกือบร้องไห้ของมิโดริโทสะที่มีก็

    หายไปอย่างน่าประหลาด



        “ฉ..ฉันขอโทษยูมิ ฉันแค่จะบอกเธอว่า..วันนี้มีซูชิ ฉันไม่นึกว่า”



        “ช่างเถอะ!”ยูมิพูดราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องหน้ายินดี ไม่มีอะไรต้องโกรทอีกแล้วสำหรับเธอ แค่เธอได้กลับมาก็ดีเกินพอแล้ว



        ยูมิกระโดดลุกขึ้นและวิ่งไปที่ห้องครัว และพุ่งพรวดเข้าไปรวบคอพ่อที่รักอย่างสุดทน



        “อะไรเนี่ย ยูมิ”ยาชิโร่ถามอย่างมึนงง ยูมิไปตอบก่อนจะปล่อยพอและวิ่งผ่านคุณน้าเพื่อไปที่เก้าอี้ แต่เธอก็ต้องกระโดดหลบน้ำเดือดๆที่หกจากกาในมือของน้า



        “อุ้ย! ตายแล้วน้าขอโทษจะ ไม่โดนใช่มั้ยจ้ะ!”น้าถามอย่างตกใจ ยูมิส่ายหน้าอย่างตื่นๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้



        “น่าอร่อยจังเลย!”เธอร้องสายตากลาดไปบนโต๊ะที่เติมไปด้วยซูชิหลายต่อหลายถาดตรงหน้า



        “ยกให้เธอทั้งหมดเลย ยูมิ”มิโดริเดินมาส่งตะเกียบให้ ยูมิรีบรับมันมา



        “ว้าย!”เธอชักมือออก เลือดแดงฉาดไหล่รินจากปลายนิ้ว เธอจ้องบาดแผลก่อนจะสะบัดหน้าไปมองตะเกียบ สิ่งที่เห็นคือใบมีดโกนที่ผูกกับตะเกียบสีน้ำตาลที่ย้อมด้วยสีแดงจากเลือดสดๆ ยูมิกระโดดลุกขึ้นและถอยห่างจากทุกคนในบ้านไปอยู่ที่มุมห้อง มือยังคงกำข้องมือขวาที่โชกเลือด



        “ยูมิ พ่อสอนเรื่องการจับตะเกียบแล้วไม่ใช่หรือไง”ยาชิโร่ลุกขึ้นสีหน้าเติมไปด้วยความไม่พอใจทุกริ้วรอย



        “นั้นซิยูมิ ฉันอุตส่าจะให้มันบาดปากเธอมากกว่าด้วยซ้ำ”ยูมิวางตะเกียบสุดอันตรายนั้นลงและถือสิ่งอันตรายมากกว่า มีดทำครัวด้ามใหญ่เท่าหัวไชเท่าสะท้องแสงในมือของหญิงสาว



        “เจ้าเด็กเลว!”ยาชิโร่คว้ามีดหั่นเนื้อขึ้นมาฟันใส่ยูมิที่กระโดดหลบ ก่อนจะก้มหลบมีดของมิโดริอย่างเฉียดปาลายผม



        “ไม่จริง!”ยูมิวิ่งหนีออกไปจากห้องครัวสู่ประตูหน้าบ้าน ไม่จริงใช่มั้ย มันยังไม่จบ อะไรทำให้ทุกคนเป็นแบบนี้ นี้อะไรกันฝันร้ายชัดๆ



        ยูมิวิ่งออกมาพบบันยากาศที่หน้าบ้าน ท้องฟ้าที่ควรพร้าพรายไปด้วยดวงดาวกลับมีสีที่ปนแปหน้าเวียหัว แต่นั้นไม่ใช่เวลามาวิเคราะสีท้องฟ้า ยูมิวิ่งหนียาชิโรและทุกคนในบ้านไปตามทางเดินที่บิดเบี้ยวไม่ได้รูป ทางที่ควรเรียบไร้ที่ติกลับคดงอ บ้านสวยๆก็ดูคล้าย

    สถาปัตยกรรมไม่พิสมัย



        “กริ๊ด!!!!”ยูมิร้องมีดปลายแหลมเฉียดเสื้อเธอขาด และไม้กวาดด้ามยาวถูกเขี้ยวมาปักที่กลางหลังเธอจนล้มกลิ้งไปเป็นท้า



        “กลับมานี้! อย่าดื้อนะยูมิ!”ยาชิโร่วิ่งตามเข้ามา แต่ยูมิลุกขึ้นวิ่งต่อ พวกนั้นไม่ใช่ตัวจริง ไม่ใช่แน่น ไม่ใช่ ถึงสิ่งที่ไล่ตามคือ

    ภาพลวงตา แต่สิ่งที่เป็นของจริงอยู่ตรงหน้า



        อาเคน ยืนดักเธออยู่ ยูมิหยุดชะงักก่อนจะหันไปมองด้านหลังที่มีพวกมิโดริวิ่งถืออุปกรในบ้านเข้ามายืนปิดทาง ไม่มีทางให้หนีแล้ว



        “ครั้งสุดท้ายแล้ว เวสต้า”อาเคนเดินเข้ามา ยูมิผลักเขาออกไป



        “ไม่มีวัน!”ยูมิตอบ ตายก็ตาย ไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว “ฉันสาบาน! อีกกี่พันชาติ! ฉันก็ไม่มีวันไปกับแก!”



        “แน่ใจรึ”



        “ไปตายซะ!ไอ้นรก!”วินาทีต่อมา มือมากมายก็พุ่งเข้าร็อกเด็กสาว และสายไฟก็รัดที่คอเธอ ยูมิดิ้นรนอย่างหมดหนทาง    



        ขณะที่ยูมิกับลังจะหมดแรง สิ่งที่อาเคนเพิ่งสังเกตคือจี้?? จี้รูปพระจันทร์หายไป



        “แก!”อาเคนชักดาบขึ้นพุ่งใส่ยูมิ เสี้ยววินาทียูมิก็สะบัดตัวและกระโดดสูงกลับตัวกลางอากาศอย่างสง่างามขึ้นไปยืนบนหลังคาที่บิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มที่มีชัย “ไอ้เด็กเปรต!”อาเคนตะโกนด่า ยูมิดีดนิ้ว ประกายเพชรแตกกระจายออกจากตัวเธอกลายเป็นเด็กหญิงชุดขาวขึ้นแทนที่ ขณะที่ยูมิตัวจริงโผล่ออกมาจากด้านหลังหลังคาอย่างกล้าๆกลัว



        “คนเรานี้โงได้ขนาดนี้เชียวเนอะอาเคน”ลินอิมอบคำพูดแทงใจให้กับชายที่ยืนจ้องเธอราวกับจะสาปให้บันลัยซะตรงนั้น



        “ข้าจะฆ่าแก!”อาเคนตะโกนพร้อมกับวาดมือดึงดาบสีนิลขึ้นมาจากอากาศ



        “ไว้วันหลังละกันนะ”ลินอิร่ายมือขึ้นเป็นรูปเสี้ยวจันทร์ คันธนูไฟสีฟ้าเกิดขึ้นที่มือ พร้อมกับเด็กหญิงเงื้อลูกธนูไปขึ้น “ต้องพานายหญิงไปส่งก่อน ส่วนเจ้าไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ”



        ธนูพุ่งเข้าใส่อาเคนระเบิดตูมใหญ่ กว่ามันจะตั้งตัวได้ก็ช้าไปแล้ว สองสาวหายไปทั้งคู่

        

        ณ ส่วนป่าขนาดใหญ่บนตึกระฟ้า บนพื้นหย้าเกิดแสงสีขาวรูปจันทร์เสี้ยววาบขึ้นเมื่อแสงหายไป ลินอิก็เดินลากยูมิไปที่ต้น

    แอปเปิลล์ต้นใหญ่



        “นายหญิงคะ!”ลินอิผลักยูมิไปที่หลังต้นไม้ด้วยท้าทีร้อนรน ก่อนจะก้มลงปักหินแหมสีม้วงลงที่พื้น “นายหญิงคะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหายออกห่างต้นไม้นี้เด็จขาดนะคะ”



        “ทำไมละ”ยูมิถาม



        “เพราะ—“



        ตูม!!



        นั้นคือคำตอบ ระเบิดขนาดย่อมๆระเบิดที่กลางหลังขององครักษ์น้อย ยังไม่ทันที่ยูมิจะร้องลินอิก็กระโดดหลบระเบิดอีกลูก พร้อมกับร่ายมือควงทวนออกจากสายหมอก รับมือกับดาบทมิฬของอาเคนที่โจมตีแบบเอาเลือดเอาเนื้อ



        เป็นการต่อสู้ที่เหลือเชื่อที่สุดในชีวิตวัยรุ่นของยูมิ เด็กหญิงชุดขาวที่ไม่น่าจะมีอายุเกินสิบสี่ปี กำลังเหวี่ยงทวนรับดาบอย่างว่องไว อาวุทสัมผัสกันเพียงเสี้ยววินาทีที่ประกายไฟส่องสะหว่าง การรุกรับทำได้เพียงเฉียดปลายนิ้วทุกวินาทีหมายถึงชีวิตอันมีค้าต้องหลุดลอย



        “เฟอร์เซลวิล!”แสงสีขาวนวลอัดเข้าเต็มท้องของอาเคน “เซนเทอร์มูน!”วงเวทรูปจันทร์เสี้ยวลอยเหนือหัวเด็กหญิงเพียงเสี้ยววิและแตกออกเป็นเสี้ยวจันทร์สิบสองวงพุ่งเข้าเฉือนอาเคนราวจะบั่นให้ขาด แต่ไม่ ลินอิเสียจังหวะมันเป็นโอกาสของอาเคน



        “จี-สตอง” ภาพที่เกิดขึ้นบนสายตาของยูมิ คืออาเคนอัดหมัดที่เต็มไปด้วยละอองสีดำเสยร่างของเด็กน้อยกระเด็นเลยขอบตึกตกลงหายลับไป



        “ลิลอิ!!”





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×