ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : แผนของไฮยาซิน
ในซอยหมู่บ้านเล็กๆ บ้านที่ดูไม่สะดุดตาเหมือนบ้านอื่นๆอยู่เกือบท้ายซอย มันเป็นบ้านสีขาวสองชั้นที่ภายนอกดูเก่าซอมซอ แต่ด้านในยังคงดูดีและได้รับการรักษาอยู่ตลอดเวลา จรดจนระเบียงหน้าสวนของชั้นหนึ่งที่ยื่นออกมานอกชาน ที่นั้นชายหนุ่มผมแดงกำลังนอนหมดแรงอยู่บนที่นอนปิ๊กนิค โดยมีเด็กหญิงชุดดำนั่งมองอยู่ข้างกาย   
        “อึก...แฮกๆ..ขอบใจที่ช่วยข้า”อาเคนพูดอย่างกระหืดระหอบ พรางมองไปที่ร่างเด็กหญิงคนนั้น
    “โชคดีที่ไม่เสียโฉม”เสียงใส่ๆดังขึ้น
    “ชิ...ถ้าข้าตั้งตัวได้ข้าคงไม่เป็นเช่นนี้..แล้วเจ้าจะอยู่ในร่างของลินอิตลอดถึงเมื่อไร\"
    “จนกว่าข้าจะทำตามแผนให้สำเร็จ”เธอเอ่ยเสียงเย็น
    “แผนอะไร?”อาเคนถามอย่างสงสัย
    “แผน ที่จะให้ข้าไปอยู่ในร่างนั่งนี่ต่อไปแล้วไปเข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับเจ้าแล้วก็..ฆ่า...”เด็กหญิงเอานิ้วชี้ปาดคอตนเองอย่างน่ากลัวจนทำให้อาเคนตกใจเล็กน้อยแต่ยังคงรักษามาตตนเองไว้ได้ “พี่แน่ใจรึ”อาเคนถาม
    “เจ้ารู้จัก ไฮยาซินผู้นี้น้อยไป”ไฮยาซินเอ่ย ก่อนจะลุกขึ้นยืน “รอนี่ ข้าจะไปหาน้ำมาให้”เธอเดินเข้าไปในตัวบ้าน ขณะที่อาเคนกำลังคิดอยู่ว่าเขาลืมอะไร แล้วจึงเริ่มจับที่คอตัวเอง
    “ส..สร้อยละ”เขาพึมพัม มิน่าลินอิถึงได้ไม่ออกมาโวยวาย “พี่ แล้วลินอิละ”เขาถาม ขณะที่ไฮยาซินเดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำเย็น
    “เดี๋ยวนี้เจ้าเรียกสร้อยเส้นนั้นว่าลินอิซะแล้วเรอะ”ไฮยาซินทำเสียงเข้ม ก่อนจะฉีกยิ้ม “อย่าห่วงเลย ข้าจัดการมันเรียบร้อยแล้ว”
    “จัดการอะไร”อาเคนถามอย่างใจไม่ดี
    “ข้าก็แค่ ย้ายมันไปไว้ในศริสตั้นอเวลาแค่นั้นเอง”ไฮยาซินบอกเสียงเรียบ คริสตั้นอเวลา เป็นสิ่งที่ใช้กักขังวิญญาณ หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตให้อยู่ในโลกที่มืดสนิท ไม่มีเสียง ไม่มีแสง อีกทั้งเวลายังเดินเร็วกว่าภายนอก ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิต เวลาข้างนอกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็อาจจะเหลือแต่ร่าง แต่ถ้าเป็นวิญาณ “คงจะถึงขั้นเสียสติ ไม่ก็ความทรงจำไปชั่วขณะ วิญญาณไม่มีวันดับสลาย เว้นแต่ปีศาจอย่างเราจะจะกินจริงมั้ย แม่เด็กคนนี้ก็น่ากินใช่เล่น”ไฮยาซินตอบอย่างรู้คำถาม
    “แล้วอยู่ไหนละ”อาเคนถามต่อ ไฮยาซินจึงหยิบสร้อยออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้อาเคน แต่คราวนี้จี้สร้อยเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ถึงผิวจะเรียบแต่กลับไร้ความมันวาว ราวกับมันดูกลืนแสงมากกว่าจะสะท้อนแสง
    “คนเก็บยังเป็นเจ้า รักษาให้ดี ร่างนี้ข้าคงต้องใช้อีกนาน”ไฮยาซินบอก ก่อนจะกลายเป็นสีดำและหายไปเป็นเงา
    เช้ารุ่งขึ้น ยูมิยังคงหลับใหลในชุดนอนสีขาวแบบเสื้อกระโปงบนที่นอนตัวเดิม ซึ่งในมือเด็กหญิงถือสร้อยคอหนังจี้รูปพระจันทร์เสี้ยวสีม่วงไว้ในกำมือ
    ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ.......
    เสียงนาฬิกาตั้งโต๊ะตัวเดิมดังขึ้นเผยให้เห็นตาสีน้ำตาลคู่ที่ตอนนี้เปิดกว้างแล้วและ...
    “ฮ้าว!...”ยูมิฮ้าวขึ้นสอดใหญ่ก่อนที่จะบิดแขนบิดข่าตามประสาผู้ตื่นนอนทั่วไป“เฮ้อ...เมื่อยจัง”ยูมิเอ่ยพรางบิดตัวไม่ยอมเลิก แต่สุดท้ายเธอก็เลือกลุกไปห้องน้ำ กว่านั่งบิดขี้เกลียดอยู่ตรงนั้น และหายไปเกือบ 20 นาที
    ยูมิเดินออกมาพร้อมเสื้อผ้าชุดนักเรียนเช่นทุกๆวันที่ผ่านมา พรางเดินออกจากห้องน้ำไปยังห้องอาหารที่มีคนในครอบครัวนั่งอยู่    “อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน”ยูมิกล่าวทักทาย ทุกคนพยักหน้ารับเป็นเชิงทักกลับ
    “ยูมิ!ทานข้าวเสร็จแล้วไปโรงเรียนกันนะ!”มิโดริตะโกนออกมาจากห้องครัวที่เธอกำลังทำอาหารซึ่งเป็นอาหารง่ายๆคือไข่ดาวและขนมปัง
    “อื้อ”ยุมิตอบสั้นๆก่อนที่จะย้อนตัวลงนั่งกับเก้าอี้สีน้ำตาลที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับห้องครัว
    “พ่อ...วันมะรื่นนี้หนูต้องไปเข้าค่ายที่ฮอกไกโดห้าวันนะ”ยุมิพูดขึ้นอย่างกล้าๆกลัวเพราะเธอไม่อยากให้ทุกคนได้รับรู้ว่าอีกไม่นานเธอต้องไปแล้ว
    “อื้อ...ขอให้สนุกนะลูก ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”ยาชีโร่ตอบอย่างเอ็นดูลูกสาว
    “ค่ะ\"    ในที่สุดพวกเขาก็ทานข่าวเสร็จ มิโดริและยูมิก็ออกไปโรงเรียนทันทีระว่างเดิน
มิโดริก็ชวนคุยตามเคย ยูมิก็โต้ตอบกันอย่างสนุกสนาน
    “ยูมิ...บ่ายนี้เราไปเที่ยวกันนะ”มิโดริเอ่ยชวน
    “เอ๋”   
    “เอ้า! วันนี้วันเสาร์นะจ้ะ เรียนครึ่งวันอย่าบอกนะว่าเธอจำไม่ได้”มิโดริพูดอย่างสงสัย
    “เอ้า.....ฉันคิดว่าวันนี้วันศุกร์ช่างเหอะๆๆๆไปกันต่อดีกว่า”ยูมิตอบปัดๆอย่างอายๆ    “อืม แต่เอ...อือใช่คาบแรกเรามีชั่วโมงโฮมรูมนี่ว่าแต่ยูมิจะเลือกชมรมอะไรล่ะ    “โฮมรูมอ่ะหรอ...อือ...ไม่รู้สิ ชมรมกีฬาละมั้ง ฮิๆ”ยูมิตอบ
    “เอ...กีฬาก็น่าสนใจนะ แต่ว่าลองไปเลือกกันอีกทีดีกว่า”มิโดริพูดอย่างเป็นวิชาการ
    “อื้ม”ยูมิตอบสั้นๆแล้วเดินนำหน้ามิโดริไปก่อนที่จะวิ่งๆและวิ่งจนมิโดริวิ่งตามไปอย่างตกใจเล็กน้อย
    “ว้าย!ยูมิรอด้วยสิ!...”มิโดริตะโกนเรียกแต่เพื่อนสาวยังไม่มีท่าทางลดละความพยายาม จนสองเพื่อนซี้มาถึงหน้าโรงเรียนทั้งสองคนก็ทำตัวตามปกติเพราะถ้าหากพวกเธอมาวิ่งเล่นบริเวณนี้หรือตะโกนกันมันอาจจะเป็นภัยร้ายต่อตัวเองเป็นแน่นยูมิและมิโดริเดินจับมือกันไปที่ห้องเรียนของพวกเธอ กำแพงข้างห้องมีกระดาษแผ่นใหญ่ติดอยู่มิโดริและยูมิไม่รอช้าพวกเธอต่างวิ่งลาไปหามันโดยที่มีนักเรียนคนอื่นๆอยู่ด้วย
    “เอ...ชมรมน่าสนใจดีนี่”เด็กหญิงผมทองคนหนึ่งพูดอย่างสนอกสนใจ ในกระดาษมีข้อความยาวลงมาเป็นบรรทัดว่า...
    นักเรียนโปรดเลือกชมรมที่นักเรียนต้องการและลงทะเบียนสมัคร
ชมรม                                                                 
ห้องลงทะเบียน
1.ว่ายน้ำ                                                                      โรงยิม(ห้อง1)
2.เทนโด้                                    ลานสนามฟุตบอล
3.กีฐา                        โรงยิม(ห้อง2)
4.ยกน้ำหนัก                                โรงยิม(ห้อง3)
5.ดอกไม้                                                  ตึกเรือนกระจก
6.ลำพัด                          ห้องแสดงลีลาด
7.ยิมนาสติก                      รงยิม(ห้อง4)
8.ภาษาอังกฤษ                    ห้องฝึกภาษา
9.ข้นหัวลุก                                    ห้อง12A
10.คณิตศาสตร์                                            ห้อง13A
11.คาราเต้                                                                      ห้อง14A
12.กระดาน (หมากรุก, หมากล้อม, หมากฮอส, โอเทลโล)          ห้อง15A
13.ย้อนอดีต                                                        ห้องสมุดตึกสาม
ป.ล.
นักเรียนเมื่อเลือกชมรมที่ต้องการเรียบร้อยแล้วโปรดลงใบทะเบียบที่ห้องลงทะเบียบข้างต้นด้วย
    “ว้าว...ยูมิเธอเลือกชมรมอะไร!”มิโดริกระซิบกับเพื่อนสาวพรางเอามือป่องปากไวE    แต่ยูมิใช่ว่าจะตอบ เธอกำลังคุ่นคิดกับชมรมอันสุดท้าย เธอคิดว่า...
    อดีดหรอ จะได้รู้เรื่องเวสต้ารึเปล่า
    แต่ความเงียบในจิตใจก็ถูกทำลายด้วยฝีมือปีศาจร้ายตนหนึ่ง...
    “ไง...ยูมิจะเลือกชมรมย้อยอดีตรึ”ทันใดนั้นเมื่ออาเคนย่างกายเข้ามา คนรอบข้างยูมิก็หยุดนิ่งราวหุ่นไม่มีผิด...
    “ฉันไม่เห็นรู้ว่าฉันคุยกับแกอยู่”ยูมิตอบโดยที่ตัวของเธอยังคงหันหลังให้กับชายผมแดง
    “ฮึ...ตอบดีๆไม่เป็นหรือไง!”อาเคนกระชากแขนข้างขวาของยูมิ แต่เธอก็สะบัดหลุดออกมาและยืนประจันหน้ากับเขา
    “เชอะ...คนอย่างนาย...ไม่สมควรกับคำพูดดีๆหรอกไส้หัวไปซะ!”ยูมิตะคอกใส่อาเคนดังลั่นแต่อาเคนก็ไม่มีท่าทีจะปล่อยเอาง่ายๆด้วย“นายมีธุระอะไรกับฉันหรอ! ถึงได้เอาหน้าเน่าๆมาแบบนี้”ยูมิทำหน้าแบ่เมื่อเห็นจุดแดงๆที่โดนเหลาลูกๆของอาเมทิสเล่นเอาทั่วร่างหรือแม้แต่ใบหน้าที่มีรอยแดงๆอยู่บางจุด
    “ข้ามาที่นี่..แค่อยากเตือนเจ้าว่า...”อาเคนหยุดพูดกระทันหันเพราะมีวัตถุบางอย่างจี้ที่ก้านคอ
    “อาเคน...เจ้าจะทำอะไร”เสียงๆหนึ่งดังขึ้น แต่มันช่างเหมือนเสียงที่คุ้นหูยูมิอะไรเช่นนี้ยูมิเลยค่อยๆมองตรงไปยังอาเคนที่ยืนแข็งดั่งตอไม้อยู่และ....
    “ล...ลินอิ!!!!”ยูมิตะโกนดังลั่นอย่างตกใจพรางชี้โพยชี้พายไปที่ร่างเด็กสาวผมดำขลับบ่าสวนชุดตัวแรกที่ยูมิเจอเธอ
    “นายหญิงหลบไปตรงนั้นก่อน...เดี่ยวข้าขอจัดการไอ้ปีศาจตนนี้เสียก่อน”ลินอิพูดเบาๆแต่ได้ยินไปทั่วทั้งห้องก่อนที่จะชี้นิ้วไปตรงมุมหนังสือข้างๆระเบียบหน้าต่างของห้องเรียน
    “รีบไปซิ!”ลินอิพูดอีกครั้ง จนทำให้ยูมิวิ่งไปตามคำสั่งขององครักษ์
    อาเคนที่ใช่ช่วงโอกาสนี้ปาระเบิดควันหนีไปโดยที่ลินอิยังใช้ทวนจี้คออยู่เลย แต่กระนั้นเด็กหญิงก็ไม่มีท่าทีจะวิ่งตามแต่อย่างใดจึงเพิ่มความสงสัยให้ยูมิเป็นเท่าตัว ลินอิโบกมือขึ้น แทบจะทันทีที่นักเรียนทุกคนเคลื่อนไหวต่อ
    ทันทีที่ลินอิดีดนิ้วประกายเพชรเปลี่ยนชุดของเธอเป็นชุดนักเรียน ก่อนจะเดินกลับไปหายูมิ
    “ไม่มีอะไรหรอกนายหญิงอย่าสนใจเลย”ลินอิตอบปัดๆ
    “อืม...เย็นนี้เราไปหาคาเทียสกันนะเพราะว่ามะรื่นนี้เราต้องไปโลกอดีต”ยูมิกระซิบเบาๆกับลินอิอย่างเงียบๆแต่ความเงียบก็ไม่ค่อยจะมีนานเท่าไรเมือมิโดริสาวผมยาวลากเสียงพร้อมกับพุ่งตัวเข้ามาทางยูมิและลินอืทันที
    “มิโดริ!เธอเป็นอะไร!”ยูมิพูดพรางวิ่งเข้าไปหามิโดริที่บัดนี้นอนแนบอยู่ที่พื้นอย่างไร้จริต
    “อือ...แค่ฝาฝูงชนมานะ กว่าจะออกมาได้ แฮกๆ”มิโดริหอบแฮก ก่อนที่จะมองไปยังลินอิที่ยื่นนิ่งอยู่เฉยๆ “อ้าว! ลินาอิซังกลับมาแล้วหรอ  แล้วไปไหนมานะ หยุดเรียนตั้งหลายวัน”
    “ไม่มีอะไร อย่าสนใจเลย”ลินอิตอบแบบยิ้มๆพรางมองไปที่มิโดริที่ทรงตัวได้แล้ว
    “อืม”มิโดริตอบสั้นๆเพราะเธอก็ไม่อยากถามอะไรต่อเหมือนกันถ้าผู้ตอบตอบปัดๆแบบนี้    “อื้อ...แล้วลินาอิจะเลือกชมรมอะไรล่ะ”ยูมิถามอย่างแสร้งทำ
    “ดูก่อน ถ้าอันไหนสนใจก็จะลงนะ”ลินอิตอบเบาๆ “เธอลงอะไรละ ลงด้วยกันจะดีกว่า”
    “จริงซินะ ฉันว่าฉันจะลงย้อนอดีตละ”ยูมิบอก และชี้บรรทัดสุดท้ายให้ลินอิดู “น่าสนใจดีนะ ว่ามั้ย”
    “ใช่ นั้นซินะ”ลินอิพูดเรียบๆ ไม่ มันเรียบไป ลินอิไม่เคยใช้เสียงเย็นๆแบบนี้มาก่อน แล้วที่ใช้มีดกับอาเคนเมื่อกี้อีก “รีบลงใบสมัครเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันคนอื่น”เธอบอก แต่สำหรับยูมิตอนนี้กำลังตะงิดใจว่ามันเหมือนคำสั่งเสียมากกว่า แต่นั้นพวกเธอก็ยินดีลงใบสมัครทันที ก่อนจะรีบวิ่งจี๋ไปที่ห้องสมุดที่อาคารสาม และแปะใบสมัครใส่หน้าประธานชมรมทันทีที่เข้าไปถึงห้องสมุดที่อยู่ตั้งชั้นหก แถมยังแสนจะเก่าแสนแก่แสนรกล้านเก่ากึก
    “ไม่น่ารีบมาเลย พวกเรามาถึงเป็นพวกแรกๆเลยด้วยซ้ำ แล้วนี่ไม่มีที่อื่นแล้วหรือไง”ลินอิพูดใส่อารมณ์เมื่อพ้นรัศมีของประธานชมรม ห้องๆนี้เป็นห้องที่ใหญ่ แต่ออกจะมืดสลัวเพราะหลอดไฟสามในสี่ขาดไปเรียบร้อยแล้ว ชั้นหนังสือไม้เก่าๆที่วางอัดแน่นกันอยู่ภายในห้องและเหลือทางเดินไม่ถึงหนึ่งเมตร ตามที่ประธานบอกมา เขาว่าห้องสมุดนี้เป็นห้องที่จะรับหนังสือเก่าล้าสมัย (ต้องเก่ามากๆด้วย) จากห้องสมุดอาคารห้า มันจึงเหมาะที่สุดที่จะหาหนังสือเก่าเก็บได้ที่นี่
    “พระเจ้า ฝุ่นหรือตระไคร้น้ำเนี่ย”มิโดริพูดเปรียบได้เหมาะทีเดียว ก่อนจะหยิบหนังสือเล่มบนสุดจากกองออกมาและใช้มือปาดฝุ่นสีเทาหนาแทบเป็นแผ่นจนพอเห็นสีปกจริงๆ “ถ้าเราต้องอยู่ชมรมนี้อีกปี ฉันจะลงทุนมาทำความสะอาดยกห้อง”
    “งั้นก็ต้องทำแล้วละ เพราะเราต้องอยู่ชมรมนี้อีกปี”ลินอิพูดลอยๆ “ยูมิท่าจะสนใจกว่าที่คิด”มิโดริร้องเสียงหลง แต่ยูมิที่เดินตัวปลิวห่างออกไปไม่สนใจ และพยามมองผ่านม่านฝุ่นเข้าไปอ่านตามสันหนังสือที่บางเล่มเธอต้องลงทุนใช้ผ้าเช็ดหน้าปัดฝุ่นออก จนกระทั่งเธอไปสะดุดตาเอาหนังสือเล่มบางเท่ากับสมุดปกแข็งสีดำ
    “โอ๊ย ให้อายอิ”ยูมิปิดจมูกตัวเองและดึงหนังสือที่ฝุ่นฝุ้งออกมาเต็มที่ และเดินเร็วๆออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะก้มลงอ่านหน้าปก “อ้าว ไม่มีชื่อนิ”เธอพูดอย่างอารมเสีย ก่อนจะเปิดดูคร้าวๆและหยุดลงที่รูปวาด รูปพระจันทร์เสี้ยว “คุ้นมาก...”ยูมิพึมพัม และเปิดต่อไปเจอกับรูปชายคนหนึ่งที่มีปีกค้างคาวขนาดใหญ่คล้ายมังกร
    “ว้าว สวยจังเลย”มิโดริโผล่เข้ามาทำเอายูมิสะดุ้งสุดตัว “ฉันได้ของฉันแล้ว ไปนั่งอ่านตรงโน้นกันดีกว่า ลินอิไปรอก่อนแล้ว”เธอบอก ก่อนจะเดินนำยูมิไปนั่งที่กลุ่มโต๊ะ ที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ใหม่ และสะอาด แต่ยังไม่ทันทำอะไรต่อ ประธานชมรมก็สามคนก็ออกมายืนที่หน้าห้องพร้อมกับโปรสเตอร์แสดงงานแผ่นใหญ่ ที่พวกเขากางและแปะมันลงที่กระดาษดำ
    “นี่คืองานแรกของพวกเรา”ประธานคนหนึ่งใช้ไม้เคาะที่แผ่นโปรสเตอร์ “รายงานประวัติน่าสนใจ ให้ทุกคนจับคู่ กลุ่มหรือเดี่ยวก็ได้ ทำรายงานค้นหาประวัติแปลกๆที่น่าสนใจ เพื่อไว้แสดงนิทัศการในอีกไม่กี่เดือนนี้ แต่ไม่ใช่ว่ามากลุ่มเจ็ดแปดคน ทำเท่ากับคนที่ทำคนเดียวนะ มีอัดตราด้วย ถ้าเดี่ยวต้องไม่ต่ำกว่าสิบห้าหน้า คู่หรือกลุ่มสามคนให้ทำมากกว่าสี่สิบหน้า และกลุ่มสี่ถึงเจ็ดคนให้ทำมากกว่าห้าสิบหน้า จะทำกี่เรื่องรวมกันก็ได้ ขนาดหน้ากระดาษเอสี่ ตัวอักษรขนาดสิบสี่ ตัวใหญ่หัวข้อให้แค่ยี่สิบ มีคำถามมั้ย”เขาพูดรวดเดียวจบ พร้อมกับกฎเหล็ก
    “เรื่องอะไรก็ได้ใช่มั้ยครับ”นักเรียนชายถาม
    “ใช่ แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วย”ประธานตอบ “มีอะไรอีกมั้ย ถ้าไม่มีก็...เออ...ค้นคว้าเลย แต่ พี่เตือนไว้ก่อนว่าทางที่ดีพวกเธอน่าจะหาซื้อผ้าปิดปาก ถ้าไม่งั้นพี่จะโหวดว่าจะมีการทำความสะอาดหรือไม่ คิดว่าไง”เกิดเสียงพึมพำจากกลุ่มเด็กที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการทำความสะอาด ดีกว่าพวกเขาต้องทนเป็นซากอยู่ในนี้ทั้งปี “ใครว่าจะทำความสะอาดก่อน”ประธานถาม ตามด้วยการยกมือของทุกคนในห้อง “ถ้างั้น เสาร์นี้หลังเรียนครึ่งวันเช้า ให้มาที่นี่ เตรียมเครื่องมือทำความสะอาดมาให้พร้อม แล้วเราจะลุยกัน ใครไม่มาพี่จะดูดคะแนนจากโครงงานครึ่งๆ อย่างได้คะแนนสิบแปดคะแนน พี่จะปรับเหลือแค่แปดคะแนน เขาใจ๋”
    “เข้าใจคร้าบ/ค่า”ทุกคนตอบ ก่อนจะแยกย้ายกันลุยฝุ่นไปหาหนังสืออ่าน ส่วนยูมิเดินถือหนังสือไปหาประธาน
    “พี่คะ หนูยืมหนังสือกลับได้ใช่มั้ยคะ”ยูมิถามและยื่นหนังสือให้ดู
    “เอ....น้อง ไอ้นี่มัน”เขาดึงหนังสือไปดู “แค่สมุดบันทึกระมั่ง น่าจะเป็นหนังสือที่เคยถูกคัดลอกใหม่จากบันทึกของใครบางคน ไม่ก็แค่นิยายเขียนเล่นที่ตกทอดมาเฉยๆ”เขาบอก และส่งให้เพื่อนๆดู
    “จริงด้วย แต่รูปนี้มันเขียนด้วยดินสอนะ”พี่รองประธานอีกคนบอก “ดูซิ นี้ยังมีรอบดำอยู่เลย ฉันว่าคงเป็นสมุดต้นแบบเลยหละ แต่มันเป็นภาษาอังกฤษนะ”เขาชี้ให้ทุกคนดูตัวหนังสือตัวเขียนภาษาอังกฤษ “แต่ฉันอ่านมันไม่ออก”
    “ลายมือสวยจะตายไอ้โง่”ประธานพูดหมิ่นๆ เมื่อเขาลองอ่านดู “แต่พี่ว่าน้องอ่านไม่ไหวหรอก ส่วนนี่ก็...อะไรเนี่ยเวด..เวส...เวสต้าหรือไงเนี่ย”
    “เวสต้า”ยูมิถามขึ้นอย่างตกใจ
    “คิดว่านะ น้องเอาเล่มนี่กลับบ้านเลยก็ได้มั่ง ยังไงมันก็หนังสือรอปลวกรับประทาน”พี่ประธานบอก ก่อนจะมองหานาฬิกา “อ้า...ทุกคน รีบๆกันหน่อยอีกห้านาทีจะหมดชั่วโมงเรียนแล้ว”
    ในที่สุดก็หมดเวลาเรียนตอนเที่ยงตรง ยูมิแทบจะจับลินอิยัดใส่กระสอบแบกให้ให้คาเทียสดู เพราะเจ้าตัวดูเฉื่อยๆยังไงก็ไม่รู้ ไม่เห็นกระตือรือร้นจะได้เจอพี่ชายเลยซักนิด ผิดกับคาเทียสลิบลับที่พอไปถึงห้องพักครู พี่แกก็เกือบจะกระโจนใส่ลินอิถ้ายูมิไม่ห้าม ส่วนลินอิแค่กอดตอบเฉยๆ
    “ไปไหนมา ทำไมไม่บอก! หายไปตั้งหลายวัน!”เขากระซิบถามดุๆ
    “ฉันเจอเจ้าอาเคนเล่นงานตอนกลับบ้าน เลยถูกมันจับขังตั้งหลายวัน แล้วเพิ่งจะหนีออกมาได้”ลินอิตอบเบาๆ “พี่แล้วที่บอกจะกลับอดีต ฉันว่าเรารีบไปกันเลยดีกว่า อีกฝ่ายเริ่มรู้ความเคลื่อนไหวของเราแล้ว”เธอบอกอย่างร้อนรน “แต่คงต้องให้อาเมทิสเปิด ฉันไม่มีแรง”
    “ก็ได้ แต่จะไปแบบไม่มีใครรู้ยูมิจะเดือดร้อน”คาเทียสแย้งขึ้น
    “ถ้าอยู่ต่อ ฉันว่าตายยกครัวมากว่า”ลินอิพูดแทงใจดำ “เขตุอาคมของฉันเสื่อมแล้วด้วย จะกางใหม่ฉันก็ไม่มีแรงขนาดนั้นแล้ว”ลินอิบอกอย่างจริงจังผิดกับทุกที
    “ถ้าไปวันนี้...ฉันจะบอกพ่อแม่ฉันเอง”ยูมิบอกอย่างหนักแน่น “เราจะกลับมาในช่วงเวลาเท่าๆเดิมได้รึเปล่า”
    “ได้ แต่อาจจะคราดเคลื่อน”คาเทียสตอบ “แน่ใจหรอ”
    “ฉันจะไม่ยอมให้ใครทำครอบครัวฉัน”ยูมิตอบตาเป็นประกาย “ฉันจะไป”คาเทียสคิดกับแผนการนี้อยู่นาน จนกระทั่งนักเรียนชายสองคนเดินแบกเอกสารเข้ามา
    “ขอทางหน่อยคร้าบ”อาเคนบอก ก่อนจะเดินผ่านคาเทียสไปวางเอกสารลงที่โต๊ะหลังห้อง
    “ชิ คนสองบุคลิก”ลินอิพูดหมิ่นๆ ก่อนจะหลบอาเคนและเพื่อนที่เดินออกจากห้อง “จะตัดสินใจได้รึยัง”
    “งั้นก็ตามนี้ ตอนกลับต้องพยามให้คราดเคลื่อนน้อยที่สุด”คาเทียสกระซิบบอกพวกเธอ ก่อนจะหันไปมองที่โต๊ะทำงานของเขาที่แทบจะว่างเปล่า “ไม่มีอะไรค้างแล้ว กลับกันเลยละกัน”เขาบอก ก่อนจะไล่ให้ทั้งคู่ลงไปรอที่ลานจอดมอเตอร์ไซ แล้วก็ต้องพบกับปัญหาตรงที่ ทั้งยูมิทั้งลินอิสวมกระโปรง ซ้อนสามก็ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องยอมทิ้งมอเตอร์ไซแล้วนั่งแท็กซี่กลับไปที่เมนชั่น แต่เมื่อไปถึง
    “ไม่ยักรู้ว่าเขาเปลี่ยนยามใหม่ ทำงานพิเศษหรือไง”ลินอิพูดขึ้นทันทีที่เห็นอาเคนยืนขวางประตูเมนชั่น
    “เปล่า ฉันก็แค่มารอเพื่อนเก่า กับพี่สาว”อาเคนตอบออกสำเนียงกวนประสาท ขณะที่คาเทียสลากยูมิมาหลบหลังเขา
    “โฮ้ ยังสติดีอยู่รึเปล่า”ลินอิพูดเน้นความ
    “ดีซิ ดีมากด้วย!”ลงคำสุดท้ายของอาเคนมาพร้อมกับหมัดหนักที่ต่อยลินอิเข้าเต็มเหนี่ยว  และเหวี่ยงหมัดเสยเด็กหญิง เตะแข่งลินอิจนทรุดวูบก่อนที่คาเทียสจะหายตกใจ และออกหมัดสวน วินาทีนั้นเองเมรินก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับยกคทาขึ้น
    “สายธารแห่งอดีตจงทำตามใจข้า นำทางสู่วันเพรียนเปลี่ยนเวลา”
   
..............................................
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่านเนื้องจากตอนพิเศษมีความผิดพราด รีเฟจึงลบทิ้งไปก่อนแล้วรีเฟจะรีบจัดแจงเอามาให้อีกนะค่ะ ขอแก้แป๊บหนึ่ง ประมาณวันจันทร์คงเสร็จมั้ง(มั้งอ่ะนะ)
        “อึก...แฮกๆ..ขอบใจที่ช่วยข้า”อาเคนพูดอย่างกระหืดระหอบ พรางมองไปที่ร่างเด็กหญิงคนนั้น
    “โชคดีที่ไม่เสียโฉม”เสียงใส่ๆดังขึ้น
    “ชิ...ถ้าข้าตั้งตัวได้ข้าคงไม่เป็นเช่นนี้..แล้วเจ้าจะอยู่ในร่างของลินอิตลอดถึงเมื่อไร\"
    “จนกว่าข้าจะทำตามแผนให้สำเร็จ”เธอเอ่ยเสียงเย็น
    “แผนอะไร?”อาเคนถามอย่างสงสัย
    “แผน ที่จะให้ข้าไปอยู่ในร่างนั่งนี่ต่อไปแล้วไปเข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับเจ้าแล้วก็..ฆ่า...”เด็กหญิงเอานิ้วชี้ปาดคอตนเองอย่างน่ากลัวจนทำให้อาเคนตกใจเล็กน้อยแต่ยังคงรักษามาตตนเองไว้ได้ “พี่แน่ใจรึ”อาเคนถาม
    “เจ้ารู้จัก ไฮยาซินผู้นี้น้อยไป”ไฮยาซินเอ่ย ก่อนจะลุกขึ้นยืน “รอนี่ ข้าจะไปหาน้ำมาให้”เธอเดินเข้าไปในตัวบ้าน ขณะที่อาเคนกำลังคิดอยู่ว่าเขาลืมอะไร แล้วจึงเริ่มจับที่คอตัวเอง
    “ส..สร้อยละ”เขาพึมพัม มิน่าลินอิถึงได้ไม่ออกมาโวยวาย “พี่ แล้วลินอิละ”เขาถาม ขณะที่ไฮยาซินเดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำเย็น
    “เดี๋ยวนี้เจ้าเรียกสร้อยเส้นนั้นว่าลินอิซะแล้วเรอะ”ไฮยาซินทำเสียงเข้ม ก่อนจะฉีกยิ้ม “อย่าห่วงเลย ข้าจัดการมันเรียบร้อยแล้ว”
    “จัดการอะไร”อาเคนถามอย่างใจไม่ดี
    “ข้าก็แค่ ย้ายมันไปไว้ในศริสตั้นอเวลาแค่นั้นเอง”ไฮยาซินบอกเสียงเรียบ คริสตั้นอเวลา เป็นสิ่งที่ใช้กักขังวิญญาณ หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตให้อยู่ในโลกที่มืดสนิท ไม่มีเสียง ไม่มีแสง อีกทั้งเวลายังเดินเร็วกว่าภายนอก ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิต เวลาข้างนอกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็อาจจะเหลือแต่ร่าง แต่ถ้าเป็นวิญาณ “คงจะถึงขั้นเสียสติ ไม่ก็ความทรงจำไปชั่วขณะ วิญญาณไม่มีวันดับสลาย เว้นแต่ปีศาจอย่างเราจะจะกินจริงมั้ย แม่เด็กคนนี้ก็น่ากินใช่เล่น”ไฮยาซินตอบอย่างรู้คำถาม
    “แล้วอยู่ไหนละ”อาเคนถามต่อ ไฮยาซินจึงหยิบสร้อยออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้อาเคน แต่คราวนี้จี้สร้อยเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ถึงผิวจะเรียบแต่กลับไร้ความมันวาว ราวกับมันดูกลืนแสงมากกว่าจะสะท้อนแสง
    “คนเก็บยังเป็นเจ้า รักษาให้ดี ร่างนี้ข้าคงต้องใช้อีกนาน”ไฮยาซินบอก ก่อนจะกลายเป็นสีดำและหายไปเป็นเงา
    เช้ารุ่งขึ้น ยูมิยังคงหลับใหลในชุดนอนสีขาวแบบเสื้อกระโปงบนที่นอนตัวเดิม ซึ่งในมือเด็กหญิงถือสร้อยคอหนังจี้รูปพระจันทร์เสี้ยวสีม่วงไว้ในกำมือ
    ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ/ปิ้บ.......
    เสียงนาฬิกาตั้งโต๊ะตัวเดิมดังขึ้นเผยให้เห็นตาสีน้ำตาลคู่ที่ตอนนี้เปิดกว้างแล้วและ...
    “ฮ้าว!...”ยูมิฮ้าวขึ้นสอดใหญ่ก่อนที่จะบิดแขนบิดข่าตามประสาผู้ตื่นนอนทั่วไป“เฮ้อ...เมื่อยจัง”ยูมิเอ่ยพรางบิดตัวไม่ยอมเลิก แต่สุดท้ายเธอก็เลือกลุกไปห้องน้ำ กว่านั่งบิดขี้เกลียดอยู่ตรงนั้น และหายไปเกือบ 20 นาที
    ยูมิเดินออกมาพร้อมเสื้อผ้าชุดนักเรียนเช่นทุกๆวันที่ผ่านมา พรางเดินออกจากห้องน้ำไปยังห้องอาหารที่มีคนในครอบครัวนั่งอยู่    “อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน”ยูมิกล่าวทักทาย ทุกคนพยักหน้ารับเป็นเชิงทักกลับ
    “ยูมิ!ทานข้าวเสร็จแล้วไปโรงเรียนกันนะ!”มิโดริตะโกนออกมาจากห้องครัวที่เธอกำลังทำอาหารซึ่งเป็นอาหารง่ายๆคือไข่ดาวและขนมปัง
    “อื้อ”ยุมิตอบสั้นๆก่อนที่จะย้อนตัวลงนั่งกับเก้าอี้สีน้ำตาลที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับห้องครัว
    “พ่อ...วันมะรื่นนี้หนูต้องไปเข้าค่ายที่ฮอกไกโดห้าวันนะ”ยุมิพูดขึ้นอย่างกล้าๆกลัวเพราะเธอไม่อยากให้ทุกคนได้รับรู้ว่าอีกไม่นานเธอต้องไปแล้ว
    “อื้อ...ขอให้สนุกนะลูก ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”ยาชีโร่ตอบอย่างเอ็นดูลูกสาว
    “ค่ะ\"    ในที่สุดพวกเขาก็ทานข่าวเสร็จ มิโดริและยูมิก็ออกไปโรงเรียนทันทีระว่างเดิน
มิโดริก็ชวนคุยตามเคย ยูมิก็โต้ตอบกันอย่างสนุกสนาน
    “ยูมิ...บ่ายนี้เราไปเที่ยวกันนะ”มิโดริเอ่ยชวน
    “เอ๋”   
    “เอ้า! วันนี้วันเสาร์นะจ้ะ เรียนครึ่งวันอย่าบอกนะว่าเธอจำไม่ได้”มิโดริพูดอย่างสงสัย
    “เอ้า.....ฉันคิดว่าวันนี้วันศุกร์ช่างเหอะๆๆๆไปกันต่อดีกว่า”ยูมิตอบปัดๆอย่างอายๆ    “อืม แต่เอ...อือใช่คาบแรกเรามีชั่วโมงโฮมรูมนี่ว่าแต่ยูมิจะเลือกชมรมอะไรล่ะ    “โฮมรูมอ่ะหรอ...อือ...ไม่รู้สิ ชมรมกีฬาละมั้ง ฮิๆ”ยูมิตอบ
    “เอ...กีฬาก็น่าสนใจนะ แต่ว่าลองไปเลือกกันอีกทีดีกว่า”มิโดริพูดอย่างเป็นวิชาการ
    “อื้ม”ยูมิตอบสั้นๆแล้วเดินนำหน้ามิโดริไปก่อนที่จะวิ่งๆและวิ่งจนมิโดริวิ่งตามไปอย่างตกใจเล็กน้อย
    “ว้าย!ยูมิรอด้วยสิ!...”มิโดริตะโกนเรียกแต่เพื่อนสาวยังไม่มีท่าทางลดละความพยายาม จนสองเพื่อนซี้มาถึงหน้าโรงเรียนทั้งสองคนก็ทำตัวตามปกติเพราะถ้าหากพวกเธอมาวิ่งเล่นบริเวณนี้หรือตะโกนกันมันอาจจะเป็นภัยร้ายต่อตัวเองเป็นแน่นยูมิและมิโดริเดินจับมือกันไปที่ห้องเรียนของพวกเธอ กำแพงข้างห้องมีกระดาษแผ่นใหญ่ติดอยู่มิโดริและยูมิไม่รอช้าพวกเธอต่างวิ่งลาไปหามันโดยที่มีนักเรียนคนอื่นๆอยู่ด้วย
    “เอ...ชมรมน่าสนใจดีนี่”เด็กหญิงผมทองคนหนึ่งพูดอย่างสนอกสนใจ ในกระดาษมีข้อความยาวลงมาเป็นบรรทัดว่า...
    นักเรียนโปรดเลือกชมรมที่นักเรียนต้องการและลงทะเบียนสมัคร
ชมรม                                                                 
ห้องลงทะเบียน
1.ว่ายน้ำ                                                                      โรงยิม(ห้อง1)
2.เทนโด้                                    ลานสนามฟุตบอล
3.กีฐา                        โรงยิม(ห้อง2)
4.ยกน้ำหนัก                                โรงยิม(ห้อง3)
5.ดอกไม้                                                  ตึกเรือนกระจก
6.ลำพัด                          ห้องแสดงลีลาด
7.ยิมนาสติก                      รงยิม(ห้อง4)
8.ภาษาอังกฤษ                    ห้องฝึกภาษา
9.ข้นหัวลุก                                    ห้อง12A
10.คณิตศาสตร์                                            ห้อง13A
11.คาราเต้                                                                      ห้อง14A
12.กระดาน (หมากรุก, หมากล้อม, หมากฮอส, โอเทลโล)          ห้อง15A
13.ย้อนอดีต                                                        ห้องสมุดตึกสาม
ป.ล.
นักเรียนเมื่อเลือกชมรมที่ต้องการเรียบร้อยแล้วโปรดลงใบทะเบียบที่ห้องลงทะเบียบข้างต้นด้วย
    “ว้าว...ยูมิเธอเลือกชมรมอะไร!”มิโดริกระซิบกับเพื่อนสาวพรางเอามือป่องปากไวE    แต่ยูมิใช่ว่าจะตอบ เธอกำลังคุ่นคิดกับชมรมอันสุดท้าย เธอคิดว่า...
    อดีดหรอ จะได้รู้เรื่องเวสต้ารึเปล่า
    แต่ความเงียบในจิตใจก็ถูกทำลายด้วยฝีมือปีศาจร้ายตนหนึ่ง...
    “ไง...ยูมิจะเลือกชมรมย้อยอดีตรึ”ทันใดนั้นเมื่ออาเคนย่างกายเข้ามา คนรอบข้างยูมิก็หยุดนิ่งราวหุ่นไม่มีผิด...
    “ฉันไม่เห็นรู้ว่าฉันคุยกับแกอยู่”ยูมิตอบโดยที่ตัวของเธอยังคงหันหลังให้กับชายผมแดง
    “ฮึ...ตอบดีๆไม่เป็นหรือไง!”อาเคนกระชากแขนข้างขวาของยูมิ แต่เธอก็สะบัดหลุดออกมาและยืนประจันหน้ากับเขา
    “เชอะ...คนอย่างนาย...ไม่สมควรกับคำพูดดีๆหรอกไส้หัวไปซะ!”ยูมิตะคอกใส่อาเคนดังลั่นแต่อาเคนก็ไม่มีท่าทีจะปล่อยเอาง่ายๆด้วย“นายมีธุระอะไรกับฉันหรอ! ถึงได้เอาหน้าเน่าๆมาแบบนี้”ยูมิทำหน้าแบ่เมื่อเห็นจุดแดงๆที่โดนเหลาลูกๆของอาเมทิสเล่นเอาทั่วร่างหรือแม้แต่ใบหน้าที่มีรอยแดงๆอยู่บางจุด
    “ข้ามาที่นี่..แค่อยากเตือนเจ้าว่า...”อาเคนหยุดพูดกระทันหันเพราะมีวัตถุบางอย่างจี้ที่ก้านคอ
    “อาเคน...เจ้าจะทำอะไร”เสียงๆหนึ่งดังขึ้น แต่มันช่างเหมือนเสียงที่คุ้นหูยูมิอะไรเช่นนี้ยูมิเลยค่อยๆมองตรงไปยังอาเคนที่ยืนแข็งดั่งตอไม้อยู่และ....
    “ล...ลินอิ!!!!”ยูมิตะโกนดังลั่นอย่างตกใจพรางชี้โพยชี้พายไปที่ร่างเด็กสาวผมดำขลับบ่าสวนชุดตัวแรกที่ยูมิเจอเธอ
    “นายหญิงหลบไปตรงนั้นก่อน...เดี่ยวข้าขอจัดการไอ้ปีศาจตนนี้เสียก่อน”ลินอิพูดเบาๆแต่ได้ยินไปทั่วทั้งห้องก่อนที่จะชี้นิ้วไปตรงมุมหนังสือข้างๆระเบียบหน้าต่างของห้องเรียน
    “รีบไปซิ!”ลินอิพูดอีกครั้ง จนทำให้ยูมิวิ่งไปตามคำสั่งขององครักษ์
    อาเคนที่ใช่ช่วงโอกาสนี้ปาระเบิดควันหนีไปโดยที่ลินอิยังใช้ทวนจี้คออยู่เลย แต่กระนั้นเด็กหญิงก็ไม่มีท่าทีจะวิ่งตามแต่อย่างใดจึงเพิ่มความสงสัยให้ยูมิเป็นเท่าตัว ลินอิโบกมือขึ้น แทบจะทันทีที่นักเรียนทุกคนเคลื่อนไหวต่อ
    ทันทีที่ลินอิดีดนิ้วประกายเพชรเปลี่ยนชุดของเธอเป็นชุดนักเรียน ก่อนจะเดินกลับไปหายูมิ
    “ไม่มีอะไรหรอกนายหญิงอย่าสนใจเลย”ลินอิตอบปัดๆ
    “อืม...เย็นนี้เราไปหาคาเทียสกันนะเพราะว่ามะรื่นนี้เราต้องไปโลกอดีต”ยูมิกระซิบเบาๆกับลินอิอย่างเงียบๆแต่ความเงียบก็ไม่ค่อยจะมีนานเท่าไรเมือมิโดริสาวผมยาวลากเสียงพร้อมกับพุ่งตัวเข้ามาทางยูมิและลินอืทันที
    “มิโดริ!เธอเป็นอะไร!”ยูมิพูดพรางวิ่งเข้าไปหามิโดริที่บัดนี้นอนแนบอยู่ที่พื้นอย่างไร้จริต
    “อือ...แค่ฝาฝูงชนมานะ กว่าจะออกมาได้ แฮกๆ”มิโดริหอบแฮก ก่อนที่จะมองไปยังลินอิที่ยื่นนิ่งอยู่เฉยๆ “อ้าว! ลินาอิซังกลับมาแล้วหรอ  แล้วไปไหนมานะ หยุดเรียนตั้งหลายวัน”
    “ไม่มีอะไร อย่าสนใจเลย”ลินอิตอบแบบยิ้มๆพรางมองไปที่มิโดริที่ทรงตัวได้แล้ว
    “อืม”มิโดริตอบสั้นๆเพราะเธอก็ไม่อยากถามอะไรต่อเหมือนกันถ้าผู้ตอบตอบปัดๆแบบนี้    “อื้อ...แล้วลินาอิจะเลือกชมรมอะไรล่ะ”ยูมิถามอย่างแสร้งทำ
    “ดูก่อน ถ้าอันไหนสนใจก็จะลงนะ”ลินอิตอบเบาๆ “เธอลงอะไรละ ลงด้วยกันจะดีกว่า”
    “จริงซินะ ฉันว่าฉันจะลงย้อนอดีตละ”ยูมิบอก และชี้บรรทัดสุดท้ายให้ลินอิดู “น่าสนใจดีนะ ว่ามั้ย”
    “ใช่ นั้นซินะ”ลินอิพูดเรียบๆ ไม่ มันเรียบไป ลินอิไม่เคยใช้เสียงเย็นๆแบบนี้มาก่อน แล้วที่ใช้มีดกับอาเคนเมื่อกี้อีก “รีบลงใบสมัครเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันคนอื่น”เธอบอก แต่สำหรับยูมิตอนนี้กำลังตะงิดใจว่ามันเหมือนคำสั่งเสียมากกว่า แต่นั้นพวกเธอก็ยินดีลงใบสมัครทันที ก่อนจะรีบวิ่งจี๋ไปที่ห้องสมุดที่อาคารสาม และแปะใบสมัครใส่หน้าประธานชมรมทันทีที่เข้าไปถึงห้องสมุดที่อยู่ตั้งชั้นหก แถมยังแสนจะเก่าแสนแก่แสนรกล้านเก่ากึก
    “ไม่น่ารีบมาเลย พวกเรามาถึงเป็นพวกแรกๆเลยด้วยซ้ำ แล้วนี่ไม่มีที่อื่นแล้วหรือไง”ลินอิพูดใส่อารมณ์เมื่อพ้นรัศมีของประธานชมรม ห้องๆนี้เป็นห้องที่ใหญ่ แต่ออกจะมืดสลัวเพราะหลอดไฟสามในสี่ขาดไปเรียบร้อยแล้ว ชั้นหนังสือไม้เก่าๆที่วางอัดแน่นกันอยู่ภายในห้องและเหลือทางเดินไม่ถึงหนึ่งเมตร ตามที่ประธานบอกมา เขาว่าห้องสมุดนี้เป็นห้องที่จะรับหนังสือเก่าล้าสมัย (ต้องเก่ามากๆด้วย) จากห้องสมุดอาคารห้า มันจึงเหมาะที่สุดที่จะหาหนังสือเก่าเก็บได้ที่นี่
    “พระเจ้า ฝุ่นหรือตระไคร้น้ำเนี่ย”มิโดริพูดเปรียบได้เหมาะทีเดียว ก่อนจะหยิบหนังสือเล่มบนสุดจากกองออกมาและใช้มือปาดฝุ่นสีเทาหนาแทบเป็นแผ่นจนพอเห็นสีปกจริงๆ “ถ้าเราต้องอยู่ชมรมนี้อีกปี ฉันจะลงทุนมาทำความสะอาดยกห้อง”
    “งั้นก็ต้องทำแล้วละ เพราะเราต้องอยู่ชมรมนี้อีกปี”ลินอิพูดลอยๆ “ยูมิท่าจะสนใจกว่าที่คิด”มิโดริร้องเสียงหลง แต่ยูมิที่เดินตัวปลิวห่างออกไปไม่สนใจ และพยามมองผ่านม่านฝุ่นเข้าไปอ่านตามสันหนังสือที่บางเล่มเธอต้องลงทุนใช้ผ้าเช็ดหน้าปัดฝุ่นออก จนกระทั่งเธอไปสะดุดตาเอาหนังสือเล่มบางเท่ากับสมุดปกแข็งสีดำ
    “โอ๊ย ให้อายอิ”ยูมิปิดจมูกตัวเองและดึงหนังสือที่ฝุ่นฝุ้งออกมาเต็มที่ และเดินเร็วๆออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะก้มลงอ่านหน้าปก “อ้าว ไม่มีชื่อนิ”เธอพูดอย่างอารมเสีย ก่อนจะเปิดดูคร้าวๆและหยุดลงที่รูปวาด รูปพระจันทร์เสี้ยว “คุ้นมาก...”ยูมิพึมพัม และเปิดต่อไปเจอกับรูปชายคนหนึ่งที่มีปีกค้างคาวขนาดใหญ่คล้ายมังกร
    “ว้าว สวยจังเลย”มิโดริโผล่เข้ามาทำเอายูมิสะดุ้งสุดตัว “ฉันได้ของฉันแล้ว ไปนั่งอ่านตรงโน้นกันดีกว่า ลินอิไปรอก่อนแล้ว”เธอบอก ก่อนจะเดินนำยูมิไปนั่งที่กลุ่มโต๊ะ ที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ใหม่ และสะอาด แต่ยังไม่ทันทำอะไรต่อ ประธานชมรมก็สามคนก็ออกมายืนที่หน้าห้องพร้อมกับโปรสเตอร์แสดงงานแผ่นใหญ่ ที่พวกเขากางและแปะมันลงที่กระดาษดำ
    “นี่คืองานแรกของพวกเรา”ประธานคนหนึ่งใช้ไม้เคาะที่แผ่นโปรสเตอร์ “รายงานประวัติน่าสนใจ ให้ทุกคนจับคู่ กลุ่มหรือเดี่ยวก็ได้ ทำรายงานค้นหาประวัติแปลกๆที่น่าสนใจ เพื่อไว้แสดงนิทัศการในอีกไม่กี่เดือนนี้ แต่ไม่ใช่ว่ามากลุ่มเจ็ดแปดคน ทำเท่ากับคนที่ทำคนเดียวนะ มีอัดตราด้วย ถ้าเดี่ยวต้องไม่ต่ำกว่าสิบห้าหน้า คู่หรือกลุ่มสามคนให้ทำมากกว่าสี่สิบหน้า และกลุ่มสี่ถึงเจ็ดคนให้ทำมากกว่าห้าสิบหน้า จะทำกี่เรื่องรวมกันก็ได้ ขนาดหน้ากระดาษเอสี่ ตัวอักษรขนาดสิบสี่ ตัวใหญ่หัวข้อให้แค่ยี่สิบ มีคำถามมั้ย”เขาพูดรวดเดียวจบ พร้อมกับกฎเหล็ก
    “เรื่องอะไรก็ได้ใช่มั้ยครับ”นักเรียนชายถาม
    “ใช่ แต่ต้องดูความเหมาะสมด้วย”ประธานตอบ “มีอะไรอีกมั้ย ถ้าไม่มีก็...เออ...ค้นคว้าเลย แต่ พี่เตือนไว้ก่อนว่าทางที่ดีพวกเธอน่าจะหาซื้อผ้าปิดปาก ถ้าไม่งั้นพี่จะโหวดว่าจะมีการทำความสะอาดหรือไม่ คิดว่าไง”เกิดเสียงพึมพำจากกลุ่มเด็กที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการทำความสะอาด ดีกว่าพวกเขาต้องทนเป็นซากอยู่ในนี้ทั้งปี “ใครว่าจะทำความสะอาดก่อน”ประธานถาม ตามด้วยการยกมือของทุกคนในห้อง “ถ้างั้น เสาร์นี้หลังเรียนครึ่งวันเช้า ให้มาที่นี่ เตรียมเครื่องมือทำความสะอาดมาให้พร้อม แล้วเราจะลุยกัน ใครไม่มาพี่จะดูดคะแนนจากโครงงานครึ่งๆ อย่างได้คะแนนสิบแปดคะแนน พี่จะปรับเหลือแค่แปดคะแนน เขาใจ๋”
    “เข้าใจคร้าบ/ค่า”ทุกคนตอบ ก่อนจะแยกย้ายกันลุยฝุ่นไปหาหนังสืออ่าน ส่วนยูมิเดินถือหนังสือไปหาประธาน
    “พี่คะ หนูยืมหนังสือกลับได้ใช่มั้ยคะ”ยูมิถามและยื่นหนังสือให้ดู
    “เอ....น้อง ไอ้นี่มัน”เขาดึงหนังสือไปดู “แค่สมุดบันทึกระมั่ง น่าจะเป็นหนังสือที่เคยถูกคัดลอกใหม่จากบันทึกของใครบางคน ไม่ก็แค่นิยายเขียนเล่นที่ตกทอดมาเฉยๆ”เขาบอก และส่งให้เพื่อนๆดู
    “จริงด้วย แต่รูปนี้มันเขียนด้วยดินสอนะ”พี่รองประธานอีกคนบอก “ดูซิ นี้ยังมีรอบดำอยู่เลย ฉันว่าคงเป็นสมุดต้นแบบเลยหละ แต่มันเป็นภาษาอังกฤษนะ”เขาชี้ให้ทุกคนดูตัวหนังสือตัวเขียนภาษาอังกฤษ “แต่ฉันอ่านมันไม่ออก”
    “ลายมือสวยจะตายไอ้โง่”ประธานพูดหมิ่นๆ เมื่อเขาลองอ่านดู “แต่พี่ว่าน้องอ่านไม่ไหวหรอก ส่วนนี่ก็...อะไรเนี่ยเวด..เวส...เวสต้าหรือไงเนี่ย”
    “เวสต้า”ยูมิถามขึ้นอย่างตกใจ
    “คิดว่านะ น้องเอาเล่มนี่กลับบ้านเลยก็ได้มั่ง ยังไงมันก็หนังสือรอปลวกรับประทาน”พี่ประธานบอก ก่อนจะมองหานาฬิกา “อ้า...ทุกคน รีบๆกันหน่อยอีกห้านาทีจะหมดชั่วโมงเรียนแล้ว”
    ในที่สุดก็หมดเวลาเรียนตอนเที่ยงตรง ยูมิแทบจะจับลินอิยัดใส่กระสอบแบกให้ให้คาเทียสดู เพราะเจ้าตัวดูเฉื่อยๆยังไงก็ไม่รู้ ไม่เห็นกระตือรือร้นจะได้เจอพี่ชายเลยซักนิด ผิดกับคาเทียสลิบลับที่พอไปถึงห้องพักครู พี่แกก็เกือบจะกระโจนใส่ลินอิถ้ายูมิไม่ห้าม ส่วนลินอิแค่กอดตอบเฉยๆ
    “ไปไหนมา ทำไมไม่บอก! หายไปตั้งหลายวัน!”เขากระซิบถามดุๆ
    “ฉันเจอเจ้าอาเคนเล่นงานตอนกลับบ้าน เลยถูกมันจับขังตั้งหลายวัน แล้วเพิ่งจะหนีออกมาได้”ลินอิตอบเบาๆ “พี่แล้วที่บอกจะกลับอดีต ฉันว่าเรารีบไปกันเลยดีกว่า อีกฝ่ายเริ่มรู้ความเคลื่อนไหวของเราแล้ว”เธอบอกอย่างร้อนรน “แต่คงต้องให้อาเมทิสเปิด ฉันไม่มีแรง”
    “ก็ได้ แต่จะไปแบบไม่มีใครรู้ยูมิจะเดือดร้อน”คาเทียสแย้งขึ้น
    “ถ้าอยู่ต่อ ฉันว่าตายยกครัวมากว่า”ลินอิพูดแทงใจดำ “เขตุอาคมของฉันเสื่อมแล้วด้วย จะกางใหม่ฉันก็ไม่มีแรงขนาดนั้นแล้ว”ลินอิบอกอย่างจริงจังผิดกับทุกที
    “ถ้าไปวันนี้...ฉันจะบอกพ่อแม่ฉันเอง”ยูมิบอกอย่างหนักแน่น “เราจะกลับมาในช่วงเวลาเท่าๆเดิมได้รึเปล่า”
    “ได้ แต่อาจจะคราดเคลื่อน”คาเทียสตอบ “แน่ใจหรอ”
    “ฉันจะไม่ยอมให้ใครทำครอบครัวฉัน”ยูมิตอบตาเป็นประกาย “ฉันจะไป”คาเทียสคิดกับแผนการนี้อยู่นาน จนกระทั่งนักเรียนชายสองคนเดินแบกเอกสารเข้ามา
    “ขอทางหน่อยคร้าบ”อาเคนบอก ก่อนจะเดินผ่านคาเทียสไปวางเอกสารลงที่โต๊ะหลังห้อง
    “ชิ คนสองบุคลิก”ลินอิพูดหมิ่นๆ ก่อนจะหลบอาเคนและเพื่อนที่เดินออกจากห้อง “จะตัดสินใจได้รึยัง”
    “งั้นก็ตามนี้ ตอนกลับต้องพยามให้คราดเคลื่อนน้อยที่สุด”คาเทียสกระซิบบอกพวกเธอ ก่อนจะหันไปมองที่โต๊ะทำงานของเขาที่แทบจะว่างเปล่า “ไม่มีอะไรค้างแล้ว กลับกันเลยละกัน”เขาบอก ก่อนจะไล่ให้ทั้งคู่ลงไปรอที่ลานจอดมอเตอร์ไซ แล้วก็ต้องพบกับปัญหาตรงที่ ทั้งยูมิทั้งลินอิสวมกระโปรง ซ้อนสามก็ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องยอมทิ้งมอเตอร์ไซแล้วนั่งแท็กซี่กลับไปที่เมนชั่น แต่เมื่อไปถึง
    “ไม่ยักรู้ว่าเขาเปลี่ยนยามใหม่ ทำงานพิเศษหรือไง”ลินอิพูดขึ้นทันทีที่เห็นอาเคนยืนขวางประตูเมนชั่น
    “เปล่า ฉันก็แค่มารอเพื่อนเก่า กับพี่สาว”อาเคนตอบออกสำเนียงกวนประสาท ขณะที่คาเทียสลากยูมิมาหลบหลังเขา
    “โฮ้ ยังสติดีอยู่รึเปล่า”ลินอิพูดเน้นความ
    “ดีซิ ดีมากด้วย!”ลงคำสุดท้ายของอาเคนมาพร้อมกับหมัดหนักที่ต่อยลินอิเข้าเต็มเหนี่ยว  และเหวี่ยงหมัดเสยเด็กหญิง เตะแข่งลินอิจนทรุดวูบก่อนที่คาเทียสจะหายตกใจ และออกหมัดสวน วินาทีนั้นเองเมรินก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับยกคทาขึ้น
    “สายธารแห่งอดีตจงทำตามใจข้า นำทางสู่วันเพรียนเปลี่ยนเวลา”
   
..............................................
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่านเนื้องจากตอนพิเศษมีความผิดพราด รีเฟจึงลบทิ้งไปก่อนแล้วรีเฟจะรีบจัดแจงเอามาให้อีกนะค่ะ ขอแก้แป๊บหนึ่ง ประมาณวันจันทร์คงเสร็จมั้ง(มั้งอ่ะนะ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น