คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : มารร้ายสุดชั่ว
He talk
หนึ่งปีต่อมา
ณ.บ้านในหมู่บ้านจัดสรรหลังหนึ่งบ้านหลังนี้มี อากาศที่ร่มรื่นเนื่องด้วยแมกไม้นานาพรรณ
ที่เจ้าของบ้านปลูกไว้ แม้ตัวบ้านจะเก่าแก่ แต่ก็ดูไม่ทรุดโทรม เนื่องด้วยผู้ที่มาอาศัยใหม่
ดูแลใส่ใจมันเป็นอย่างดี และภายในบ้านมีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง กำลังแต่งตัวอย่างรีบร้อน
เขามีผิวที่ขาวร่างกาย ผอมบาง สวมแว่นตาทั้งๆที่สายตาไม่ได้สั้น
ปากแดงราวกับผู้หญิง ผมสีดำสนิท แบชาวเอเชียแท้ๆ คิ้วเข้มสวยได้รูป
แต่ว่าผมทรงกะลาครอบสุดเห่ยที่เจ้าตัวคิดว่าดูดี กลับทำให้คนที่หน้าตาดีกลายเป็น
กลายเป็นไอ้เห่ยไปได้ และนี่คือพระเอกของเรื่องนี้
“ สายแล้วนะเว้ย “เสียงของซี เร่งผมให้ แต่งตัวเร็วๆทั้งๆที่ผมรีบจะตายอยู่แล้ว
ไม่ทราบว่าภรรยาคุณคลอดลูกรึไงฟะ ไอ้เพื่อนเวร
“ เสร็จแล้วๆ “ ผมตะโกนออกไปพร้อมกับกระโดดลงมาจากขั้นบันได
ขั้นที่ห้าโดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
“ เสร็จซักที ไปได้แล้วเว้ย ไอ้ยุ “ มันเร่งผมโดยที่ไม่ลืมยกมือไหว้แม่ผมก่อนออกจากบ้าน
แม่ผมรับไหว้ก่อนที่ จะอวยพรผม
“ ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าไปมีเรื่องกับใครที่ไหนอีกล่ะวายุ “
“โธ่...แม่ผมไม่เคยหาเรื่องใครก่อนนะแม่ มีแต่เรื่องมาหาผมเอง “ ผมยกมือไหว้ แม่ก่อนที่จะออกจากบ้านไป
ซีเดินนำหน้าผมไปอย่างรีบเร่ง เนื่องด้วยขณะนี้เวลา .....เวลา เจ็ดโมงยี่สิบ !!
อิบอ๋ายแล้ว พี่น้อง ประเดิมด้วยการสายเลยเหรอเนี่ย
โอ๊ะ!!คุยกันมาตั้งนาน เสียมารยาทจริงๆผมยังไม่แนะนำตัวเลยนี่นา
สวัสดีครับผมชื่อ วายุ แต่เพื่อนเรียกสั้นๆว่า ยุ ผมเป็นลูกนายตำรวจ
ประจำ ICPO ( องค์กรตำรวจสากล ) แต่ว่าพ่อผมได้มาประจำการที่ไทย
เลยทำให้ผมต้องย้ายมาเรียนที่นี่ไปด้วยแน่นอนพ่อกับแม่ผมเป็นคนไทยทั้งคู่
ผมสูง 180 ซม. อายุ 17 กำลังดีเหมาะกับผู้ที่คิดจะเลี้ยงต้อย( อ๊ะ!นี่ผมพูดอะไรออกไป )
วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกเลย แต่วันแรกทำท่าจะสายซะแล้ว
ส่วนคนที่ เดินนำหน้าผมน่ะชื่อ ซี เป็นลูกของเพื่อนพ่อผม แน่นอนว่าพ่อมันก็เป็นตำรวจเหมือนกัน
ส่วนหน้าตานะเหรอ อืมๆ ก็หล่ออะนะ ได้ยินมาว่าสาวๆที่นี่ติดกันเกรียว
แต่ว่ามันหล่อน้อยกว่าผมนิดหน่อย พ่อของมันได้มาประจำการก่อนหน้าพ่อผมหนึ่งปี
ทำให้มันมาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าผมปีหนึ่ง เช่นกัน
“ วันหลังนะเว้ย ถ้าข้านัด เจ็ดโมงหมายความว่า ให้พร้อมตอนเจ็ดโมงไม่ใช่ตื่นตอนเจ็ดโมง “
ซีหันมาพูดกับผมหลังจากเรามาอยู่รถเมล์เรียบร้อยแล้ว
“ เอาน่า อย่าบ่นนักเลย ฉันยังไม่ชินกับเวลาที่นี่หว่า “
“ เออๆ วันหลังก็อย่าสายก็ แล้วกัน แล้วก็อีกอย่างแกจะไปมีเรื่องกับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่
กับคนๆหนึ่ง “
“ไอ้บ้า...พูดอย่างกับ ฉันอยากจะมีเรื่องซะเต็มประดา เรื่องมันหาเองนะว้อย “
ผมพูดจริงๆนะเรื่องมักจะมาหาผมเองโดยไม่ทราบสาเหตุ
ไอ้ซีเคยวิเคราะห์ไว้น่าจะเพราะตาของผมที่ดุดัน ชนิดที่ว่ามองไปที่ใครคนนั้นก็สะดุ้งเอาได้ง่ายๆ
เลยล่ะ ทั้งที่ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยซักนิด แต่เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ผมเลยใส่แว่นปิดบังมันซะเลย
คราวนี้คงได้ผลอยู่บ้างล่ะน่า เพราะตั้งแต่ผมมาอยู่ที่เมืองไทยยังไม่เคยมีเรื่องเลยซักครั้ง
เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ เป็น สิถิติใหม่เลยนะเนี่ย ว่าแต่ ใครกันนะที่ไอ้ซีนักเลงโต
ผู้ไม่เคยกลัวใครหน้าไหน ต้องสั่งห้ามไม่ให้ไปยุ่ง
“เขาชื่อ อะไรเหรอ “
ซีมองซ้ายมองขวาก่อนจะตอบผม“ ชื่อ เกล “
เฮือก!! แค่คำๆเดียวก็ก็พาสะดุ้งกันทั้งรถ โดยเฉพาะ เด็กนักเรียนโรงเรียนผมต่างเลิกลั่กมองซ้ายมองขวากันใหญ่ อะไรมันจะน่ากลัวขนาดนั้น
“ ชื่อ อย่างกับผู้หญิง “ผมเอ่ยให้เราได้ยินเพียงแค่สองคน
“ ก็ผู้หญิงน่ะสิ “ ซีตอบผมก่อนจะลงจากรถเมล์
.............................................................................................................................................
ความคิดเห็น