ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มนตร์สุดเพี้ยน เปลี่ยนนายคาสโนว่า ให้เป็นนางคาสโนวี่

    ลำดับตอนที่ #11 : chapter 02 พี่สาวผม คือสิ่งมีชิวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก (65%)

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 53


    บนรถเมล์สายหนึ่งหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง

    ด้วยสายตาที่ครุ่นคิด

    ทันใดนั้นเอง เธอก็เห็นคนแก่ขึ้นมาบนรถเมล์

    เธอจึงลุกให้คนแก่นั่งทันที แต่ทว่า

    ชายคนหนึ่งรีบกลับลงไปนั่งแย่งที่คนแก่อย่างหน้าด้านๆ

    ส่งผลให้ อารมณ์ของเธอขึ้นถึงขีดสุดทันที

     

    คุณคะฉันลุกให้คุณยายคนนี้นั่งนะคะ หญิงสาวพยามใช้สันติวิธี

     

    ไม่ได้ผลชายคนนั้นยังคงเนียน และหน้าด้านนั่งต่อไป

     

    คุณคะ หญิงสาวสะกิดที่ไหล่ 

    ยายคนนั้นสะกิดเธอและทำท่าทางบอกเธอว่าไม่เป็นไร

    เธอส่งยิ้มหวานให้คุณยาย ก่อนที่จะ

     

    ผัวะ!!ฝ่ามืออันหนักหน่วงตบไปที่กบาลชายคนนั้นทันที

     

    ไอ้เด็กเวรจะลุกดีๆหรือจะให้ใช้กำลัง   ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!!

     

    ได้ผลชายคนนั้นหันมามองเธอทันที

    ตูม!! เธอทุบฝาผนังที่เป็นโลหะด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลจน

    ฝาผนังยุบเป็นรอยมือของเธอ

     

    มองหน้าหาเรื่องเรอะ เดี๋ยวแม่จับฆ่าถ่วงน้ำซะนี่ !!

    เธอเอียงคอมองด้วยท่าทางนักเลงสุดๆ

     

    ชายคนนั้นมองฝาผนังโลหะที่ยุบเป็นรอยมือของเธอแล้วกลืนน้ำลาย

    ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนแล้วรีบเผ่นลงจากรถเมล์ทันที

     

    เธอยิ้มหวานก่อนที่จะหันมาหาคุณยาย

     

    เชิญค่ะคุณยาย แต่ทว่า คุณยายแกเป็นลมไปเรียบร้อยแล้ว

     

     

    เมื่อถึงจุดหมายที่ต้องการเธอลงจากรถเมล์

    ก่อนที่จะหยุดฝีเท้าที่หน้าคอนโดสุดหรูแห่งหนึ่ง

     

     ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ที่อาฆาตสุดๆ

     

    นายโย  นายน้ำ ไอ้พวกน้องเวรพวกแกทำฉันแสบมากนะ คราวนี้พวกแกถึงฆาตแน่

    อีกด้านหนึ่ง

    นายโยกำลังฮัมเพลงอย่างสบายใจทันใดนั้นเองหางคิ้วข้างหนึ่งก็รู้สึกกระตุกๆ

     

    เอ๊ะนี่เราเป็นอะไรไปนะหางตากระตุกชอบกล

    สงสัยจะเจอเรื่องดีๆแฮะเรา ขณะที่เขาเดินพ้นมุมตึกเขาก็เห็นบางสิ่งบางอย่าง

    ...........

    เขาก้าวถอยหลังก้าวหนึ่ง ก่อนจะขยี้ตาตัวเอง

     

    ไม่ใช่น่า คงไม่ใช่หรอก มันเป็นไปไม่ได้ เขานึกในใจ

    ก่อนจะโผล่หัวออกไปทางมุมตึกแล้วพบว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด

     

    ซวยแล้วเจ๊แกมาได้ไงวะ

     

    ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาทันทีทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว

     

    น้ำ talk

     

    ณ ที่โรงเรียนมัธยม

     

    ทุกสรรพสิ่งต่างเงียบงันมีเพียงเราสามคนเท่านั้นที่อยู่ภายในห้อง

    หลังจากอุบัติเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจทำให้ ริมฝีปากของสายไหม

    มาชนปากผม อาจจะไม่ตรงประเด็นนัก แต่ยังไงมันก็คือจูบนั่นล่ะ

     

     

    เอ่อ.....คือ   ผมเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาก่อน

     

    ขอโทษนะฉันไม่ได้ตั้งใจ สายไหม พูดทั้งที่ตัวเองเอามือปิดปากอยู่

     

    ไม่เป็นไรหรอกเราขอตัวก่อนนะ ผมทิ้งท้ายไว้แค่นั่นแล้วรีบออกมาจากห้อง

    เธออาจจะคิดว่า   ผมช็อคที่ไปจูบกับเธอเข้าเลยรีบหลบหน้า

    แต่เปล่าหรอกผม กำลังดีใจจนเก็บสีหน้าและท่าทางไม่อยู่ต่างหาก

    ที่สำคัญผมแก้คำสาปได้แล้ว วินาทีใดวินาทีหนึ่งต่อไปนี้ผมอาจกลับกลายเป็นผู้ชายก็เป็นได้

    ( โปรดคิดสภาพผู้ชายตัวโตๆ มาใส่เสื้อผ้าผู้หญิง เอ่อ....ขออภัยคนที่กำลังทานข้าวอยู่ ท่านอาจทานไม่ลงถ้านึกภาพตาม )

     

     

    ผมรีบกดโทรศัพท์หาไอ้เจ้า โยเพื่อที่บอกข่าวนี้แก่มัน

     

    ฮัลเหล่ย น้องรักพี่มีข่าวดีเว้ย ผมกรอกบทสนทนาลงไป

     

    (  ฮัลโหลพี่เหรอ  แย่แล้วพี่ เราแย่แล้ว )

     

    แย่เย่อ อะไร ของแกวะ ผมค่อนข้าง งงๆกับอาการตื่นเต้นของมัน

     

    ( เอาเถอะน่า ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนพี่รีบกลับมาเลยนะมีเรื่องด่วนสุดๆ )

     

    อะไรของแกวะ แกจะตื่นเต้นอะไรปานนั้นขโมยขึ้นห้องหรือไง

     

    ( แย่กว่านั้นอีกพี่   เจ๊แกกลับมาแล้ว )

     

    เฮ้ย!!!!!  อย่าล้อเล่นน่า เล่นมุขนี้ไม่ขำนา

     

    (เรื่องจริงผมไม่ได้ล้อเล่น )

     

    ล..ละ...แล้วตอนนี้ เจ๊แกอยู่ที่ไหน

     

    ( อยู่ที่ห้องรับรองของคอนโด )

     

    โอเค แกหาทางถ่วงเวลาไว้ก่อน

     

    (ถ่วงเวลา  !!! พี่จะให้ผมทำยังไง ผมเป็นประชาชนคนธรรมดานะพี่

    ผมจะเอาอะไรไปสู้รบปรบมือกับเจ๊แก )

     

    เอาน่างานแกสวดกี่วัน เดี๋ยวฉัน ไปทุกวันเลย

     

    ( สวดเจ็ดวัน ผมเลี้ยงข้าวต้มกุ้งนะ   เย้ย!! มันใช่เวลาตลกไหมเนี่ย )

     

    ปิ๊บ ผมกดสายตัดการสนทนา  แถมปิดเครื่องด้วย

    ส่วนผมก็รีบกระโดดขึ้นแท็กซี่ทันที

    หวังว่าน้องผม คงยังชิ้นส่วนครบสามสิบสองชิ้นนะ

    แต่ไม่แน่เมื่อคิดถึงวีรกรรมล่าสุดที่เราทำกับเจ๊แกไว้ น้องผมอาจหัวไปทางแขนขาไปทางก็เป็นได้

     

     

    ขณะนั่งอยู่ในแท็กซี่ผมนึกถึงเรื่องราวของเจ๊แก

    แฟกไฟล์ ของเจ๊

    เพศ    หญิง (จริงๆนะสาบาน )

    ชื่อเล่นว่า ดีเน่ (ย่อมาจาก อวินดีเน่ เป็นชื่อเรียกภูตน้ำในภาษาลาติน )

    ชื่อจริงว่า  สายชล นามสกุล การยุทธ

    อาชีพผู้สื่อข่าวสงคราม *  ของ CNN

    ความสามารถในการยิงปืน   ระดับ AA+

    ความสามารถในการเจรจาต่อรองตัวประกัน   ระดับA

    ความสามารถพิเศษ  มวยไทย เทควันโด ยูโด คาราเต้  ไอคิโด** มวยสากลฯลฯ

    ทักษะในการควบคุมอารมณ์เวลาโมโห D-

    (สามารถวีนแตกได้แม้กระทั่งกับถังแก๊ส ถ้ามันไปขวางหูขวางตาเจ๊แก )

    ประวัติ

    ม.ปลายปี1    ทุกแก๊งในโรงเรียนที่เจ๊แกเรียนอยู่ยอมศิโรราบ

    ม.ปลายปี2     ทุกแก๊งในรัศมี ยี่สิบกิโลนับจากโรงเรียนเจ๊แก ขึ้นตรงกับแก๊งของ เจ๊

    ม.ปลายปี3     เจ๊แกตัดสินใจยุบแก๊งของตัวเอง ด้วยเหตุผล เนื่องจากมีลูกน้องมากเกินไป

    (เจ๊แกรำคาญ) ท่ามกลางความดีใจของหลายคนเพราะไม่แน่ว่าเจ๊แกอาจครองโลกได้

     

    จากประวัติข้างต้นคุณคงหายสงสัยว่าทำไมผมถึงแพ้ทาง

    ผู้หญิงคนนี้เหมือนกับซุปเปอร์แมนแพ้หินสีเขียว ก็แกเล่นไร้เทียมทานขนาดนี้เชียวนะ

    ผมคนธรรมดานะครับจะเอาอะไรไปสู้

    ผมไม่อยากจะบอก คุณเลยครับว่าผู้หญิงคนนี้คือพี่สาวผมเอง!!!

    คุณคงสงสัยว่าทำไมผมกับนายโยถึงได้กลัวผู้หญิงคนนี้นัก

    เรื่องมันมีอยู่ว่าผมกับนายโย

    เคยไปจีบผู้หญิงสองคนทำนองหมาหยอกไก่และแน่นอน 
    เราสองคนก็เลิกกับพวกเธอในเวลาต่อมาพูดง่ายๆก็คือหักอกนั่นล่ะ
     และที่สำคัญสองคนนั้นดันเป็นอดีตลูกน้องเจ๊แกน่ะสิ
    !!(โลกมันกลมอะไรขนาดนี้)
    แน่นอนว่าเจ๊แกที่รู้เรื่องนี้ไม่ยอมแน่นอน

     เจ๊แกที่อยู่ต่างประเทศ จะบินกลับมาจัดการกับพวกผม

    ผมเลยให้เจ้าโย แฮกเข้าไปในฐานข้อมูลของเอฟบีไอ ว่าเจ๊แกเป็นตัวอันตราย

    เป็นอาชญกร เพื่อที่ว่าเจ๊แกจะได้กลับมาช้าหน่อย แล้วพวกผมก็จะทางหนีทีไล่ได้ทัน

    แต่ปรากฎว่า เกิดเรื่องที่ทำให้ผม ต้องมากลายเป็นผู้หญิง

    ทำให้ลืมไปเลยว่าพวกผมไปก่อวีรกรรมอะไรกับเจ๊แกไว้

    ว่าแต่ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว ( อย่างโมโหด้วย ตายแน่เลย )

     

    เอี๊ยด...

    เสียงห้ามล้อของรถแท็กซี่ที่ผมนั่งทำให้ผมหลุดจาก จากความคิด

    ผมจ่ายเงินให้ค่าแท็กซี่เรียบร้อยแล้วผมก็พาตัวเองในชุดที่ใส่ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชายลงมา

    แน่นอนผมเปลี่ยนชุดแล้วเพราะถ้ากลายเป็นผู้ชายคงดูไม่จืดซักเท่าไหร่ในสภาพชุดนักเรียนหญิง

    ( ผมเปลี่ยนชุดก่อนมาขึ้นแท็กซี่นะผมไม่หน้าด้านขนาดเปลี่ยนชุดในรถหรอก )

     

    ผมเดินตรงไปที่คอนโดก็พบไอ้เจ้าโยกำลังทำท่าทางลับๆล่อๆอยู่แถวมุมตึก

    ผมเดินไปแตะไหล่เจ้านั่น

     

    เจ้าโย สะดุ้งสุดตัวก่อนจะยกมือไหว้ท่วมหัว

    ขอโทษครับ เจ๊  มันไม่ใช่ความผิดผมนะ ถ้าเจ๊จะโกรธ ก็ไปโกรธพี่น้ำแล้วกันพี่น้ำเป็นคนสั่ง

    ผมไม่รู้เรื่องจริงๆผมเป็นผู้บริสุทธิ์ นะ

     

    อ้าวไอ้นี่

     

    เฮ้ยแก...ลืมตาดูซะก่อน.

     

    พอเจ้าโยมองเห็นว่าเป็นใคร เจ้านั่นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ย

     

    ปัดโธ่พี่ ผมนึกว่าเจ๊ซะอีก

     

    เออขอโทษที ว่าแต่เมื่อแกว่าไงนะ

     

    ผมพูดตามสถานการณ์ ครับคุณพี่

     

    เฮอะ..ตามสถานการณ์  หนอย   เอาตัวรอดคนเดียวเลยนะแก ว่าแต่แกมีแผนอะไรบ้างหรือยัง

     

    ยังเลย ผมคิดไม่ออก

     

    งั้นเอาอย่างนี้นะ  แกเห็นเสาไฟฟ้า ลิบๆต้นนั้นไหม

     

    เห็น ทำไมเหรอ

     

    แกล่อเจ๊ ไปทางนั้นนะ ถ้าเกิดแกโดนจับได้ แกก็ไปตายตรงนั้นก็แล้วกัน

     

    ได้พี่.....เฮ้ย แผนนี้ไม่เอา

     

    ทำไมวะ แผนออกจะยอดเยี่ยม

     

    ขณะที่ผมกับเจ้าโยกำลังปรึกษา แผนการอยู่นั้น

    หางตาของผมก็มองเห็นพี่สาวของ ผม

     เจ๊แกนึกยังไงไม่รู้ถึงได้เดินมาทางผม

     

    เฮ้ย ....เจ๊แกเดินมานี้แล้ว ผมร้องเตือนเจ้าโย

     

    จริงอะ เจ้าโยหันกลับไปด้านหลัง

    เฮ้ยจริงด้วย ทำไงดีพี่

     

    แกล้งตายสิ  แกล้งตาย เลย

     

    เจ๊แกไม่ใช่หมีนะพี่ ที่สำคัญจะมาฮาอะไรตอนนี้เนี่ย

     

    ผมหันซ้ายหันขวาหาทางหนีทีไล่

    ส่วนไอ้เจ้าโยก็เตรียมตัวหลังหนีเจ๊แกทันที

     

    หยุดนะโย !!แกจะหนีเจ๊ไปไหน

    ซวยของแท้แล้วเจ๊แกเห็นไอ้เจ้าโยแล้วก็ต้องเห็นผมด้วยน่ะสิ

    ทันใดนั้นเองเจ๊แกก็เอา กระป๋องโค้กที่อยู่ในมือขว้างใส่หัวไอ้เจ้าโยที่กำลังวิ่งหนีทันที

    โป๊ก!! เสียงที่เกิดจากกระป๋องโค้กกระทบศีรษะรุ่นน้องผม ดังขึ้นมาเมื่อกระป๋องโค้ก

    เข้าเป้าอย่างถนัดถนี่ ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งมาจับหลังคอเสื้อของเจ้าโยไม่ให้หนีไปไหน

     

    เจ๊คร้าบไว้ชีวิตผมเถอะ

     

    แกคิดหนีเจ้าหน้าที่  ศาลไม่ยกโทษให้หรอก

     

    แค่คิดเฉยๆคร้าบ

     

    ฉันไม่สนแกมานี่เลย เจ๊แกพูดเสร็จก็ลากคอเสื้อไอ้เจ้าโยไปทางห้องรับรอง

    ด้วยพละกำลังมหาสารปาน ช้างก้านกล้วย โดยไม่สนผมเลยแม้แต่น้อย

     

    โอ๊ะ!!ลืมไปผมเป็นผู้หญิงอยู่นี่นา เจ๊แกย่อมไม่รู้จักผมอยู่แล้ว

     งั้นงานนี้ผมก็รอดน่ะสิ
     ขณะที่ผมกำลังจะแอบย่องหนีไปเจ้าโยก็แหกปากตะโกนขึ้นมาทันที

    "ที่รักจ๋าช่วย แฟนด้วย "  เสียงนั้นทำเอาเจ๊แกหันมามองทันที

     

     

    น้อง เป็นแฟนไอ้หมอนี่งั้นเหรอ เจ๊พูดพร้อมดึงหูไอ้เจ้าโยไปด้วย

     

    เอ่อ....คือ

     

    ว่าไง !!”

     

    ผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะตอบพร้อมส่งสายตาไปหาไอ้เจ้าโย

    ที่แปลได้ว่า งานนี้ถ้ารอดไปได้แกตายแน่

     

    ค่ะ ฮือๆ ลาก่อนโลกอันสวยงามใบนี้

     

    คิดยังไงถึงได้มาคบไอ้บ้านี่

     

    ก็ไม่ได้คิดน่ะสิ คะ

     

    เจ๊ ขอคุยด้วยหน่อย

     

    เธอพูดเสร็จก็เดินนำหน้าผม ไปทางคอนโด

    แต่ทว่า ทันใดนั้นเอง อาการที่ร้อนไปทั้งตัว

    ก็เกิดขึ้นกับผม มันร้อนจนทนไม่ไหว ทำให้ผมทรุดลงนั่งกับพื้น

     

    พี่เป็นอะไร ไอ้เจ้าโยรีบเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง

     

     

    ร้อนผมพูดได้แค่นั้น แต่แล้วผมที่ยาวสลวย ก็หดสั้นลง หน้าอกสะกดใจชายก็หายไป

    แขนบอบบาง ก็หนาล่ำขึ้น

    คุณพระช่วยผมกำลังจะกลับเป็น ผู้ชาย ต่อหน้าเจ๊ด้วย

     

    แต่แล้วทุกอย่างก็หยุดลงแล้วก็กลับไปเป็นเหมือนตอนต้นอีกครั้งเพียงแต่กลับกัน

    ผมกลายเป็นผู้หญิงเหมือนเดิม นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

     

    ผมได้แต่หวังว่าเจ๊จะมองไม่เห็น เหตุการณ์ เมื่อสักครู่นะ

    แต่มัน เป็นเพียงแค่ความหวังเท่านั้น เพราะว่ามัน

     

    พี่สาวผมทำหน้าตาประหลาดใจสุดๆก่อนจะเอ่ย

    ไอ้เจ้าน้ำ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับแก เนี่ย 

     

    เจ๊แกเห็นเต็มๆเลย ซวยแล้วงานนี้

    ..................................

    ณ....ที่ห้องของผม

    บนห้องมีประตูกระจกฉายให้เห็นแสงยามเย็นบรรยากาศที่ดูชวนให้สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

    แม้บรรยากาศภายนอกจะชวนให้สบายใจแต่..ทว่าผมไม่สบายใจเลย

    เพราะว่าถ้าคุณมีพี่สาวสุดโหดนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้าใครมันจะไปสบายใจได้ล่ะครับพี่น้อง

     

    ผมและไอ้เจ้าโยนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นโดยที่มีคุณพี่นั่งอยู่บนโซฟา

     

    ว่ามา พี่สาวผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

     

    เอ่อ....คือว่า โอย ทำไมภาษไทยมันยากเย็นอย่างนี้เนี่ยครับ

     

    เร็วๆ อย่าอ้ำอึ้ง  มันเกิดอะไรขึ้นกับแก

     

    สารภาพ  ตามตรงนะเจ๊ ผมไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดีๆผมก็กลายเป็นผู้หญิง

    แล้วผมก็เล่าถึงเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้น ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม

    แน่นอนรวมถึงความคืบหน้าในการแก้คำสาป

     

    บอกตรงๆนะ ถ้าเจ๊ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ก็ไม่มีวันเชื่อหรอก  แล้วนี่จะทำไงดี

     

    แถ่ม แท้ม ผมมีทางแก้คร้าบ แน่นอนว่าคนที่ร่าเริงได้ไม่รู้เวลาคือไอ้เจ้าโยนั่นเอง

    หมอนั่นกำลังหิ้วลูกแก้วลูกเดิมออกมาจากห้อง

     

    ลูกแก้วลูกนั้นคือลูกที่ไอ้เจ้าโยใช้เรียกภูตสาวออกมาและก็เหมือนเดิมนายโย

    ร่ายมตร์บทเดิม

     

    และก็เหมือนเดิมลูกแก้วส่องสว่าง และพอแสงดับวูบลง

    ก็ปรากฏภูตสาว ผู้งดงาม ตนเดิม เธอมองซ้ายมองขวาก่อนจะหันหน้ามาเจอผม

     

    ว่าไงยะเรียกฉันมาอีกทำไม เนี่ย ฉันบอกแล้วไงถ้าเรียกมาด้วยเรื่องไร้สาระอีกล่ะก็

     

    แล้วเธอจะทำไมเรอะ เจ๊ถามเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก ที่ถ้าเป็นผมกับไอ้เจ้าโย

    ได้ยินเสียงแบบนี้เข้า ล่ะก็คงทิ้งระยะห่างไม่ต่ำกว่าสามกิโล เพราะว่าถ้าเจ๊ทำเสียงแบบนี้ล่ะก็

    นั่นหมายความว่าเธอกำลังโมโหสุดๆเลยล่ะ

     

    ฉันจะ....แว๊กนายหญิงเจ้าคะ มาได้ไงคะเนี่ย

     

    สองคนนี่เป็นน้องฉันเอง

     

    โลกมันกลมจริงๆเลยนะเจ้าคะ

     

    ผมกับไอ้เจ้าโยได้แต่อ้าปากค้างเมื่อ ภูตสาวทำท่าทีอ่อนน้อมผิดกับตอนพูดกับพวกผม

    ราวๆฟ้ากับเหว

    "นี่ทั้งสองคนรู้จักเหรอครับ " ผมอดถามไม่ได้

    "แน่นอนสิยะ คิดว่าใครส่งลูกแก้วนี่มาให้เจ้าโยกันล่ะ " เจ๊มองพวกผมแบบเชิดนิดๆก่อนจะหันไปมองมองภูตสาวที่ย่อกายนอบน้อมตรงหน้า
    " น้องฉันทำไมเป็นแบบนี้กันล่ะเนี่ย " เธอชี้มาทางผมที่นั่งคุกเข่ารอคำตัดสิน ข้างๆไอ้เจ้าโย

    " เอ่อ..กรุณารอสักครู่นะคะ " ภูตสาวจัดการหยิบเอาแว่นแก้วโปร่งแสงออกมาก่อนจะส่องดูรอบตัวผม เล่นเอาผมต้องขยับตัวอย่าอึดอัดด้วยความระแวง

    "อืมๆ เป็นแบบนี้นี่เอง "เธอพูดด้วยความเข้าใจในอะไรบางอย่างก่อนจะหันมาทางเจ๊
    " คือว่านายหญิงเจ้าคะ การแก้คำสาปไม่สมบรูณ์ค่ะ ผลเลยออกมาครึ่งๆกลางๆ "

    "ทำไมล่ะ " พี่ผมเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ

    " ก็จุมพิตนั้นมันได้ด้วยไม่ใช่เสน่หาน่ะสิคะ พูดง่ายๆก็เค้าไม่เต็มใจน่ะค่ะ "

    ผมฟังเท่านั้นก็สะกิดไอ้เจ้าโยให้มันลี้ภัยไปพร้อมกับผม  แต่ทว่าไอ้เจ้าโยหายไปไหนไม่รู้แล้ว หนอยทิ้งกันเลยนะ
    ไอ้น้องเวรช่างมันเถอะผมไปคนเดียวก็ได้
    แต่ทว่า....
    ฉึก!!!
    ปลายมีดที่มาจากไหนไม่รู้ปักลงบนพื้นห่างตัวผมไม่ถึงฝ่ามือ

    "จะไปไหน เจ๊ยังคุยกับแกไม่จบเลยนะ แกไปบังคับเค้าใช่มั้ยหา  เจ๊บอกแล้วใช่ไหม ว่าผู้หญิงน่ะ อ่อนแอและบอบบาง กว่าผู้ชาย แกต้องให้เกียรติเค้าเสมอ "

    อ่อนและบอบบางกว่าผู้ชายผมว่าในกรณีเจ๊คงไม่ใช่ แต่ว่าเอิ่มคิดแล้ว อย่าพูดดีกว่า
    " ไม่ใช่ครับ คือว่ามันเป็นอุบัติเหตุครับ " ผมมมองดูมือเธอว่ามีอะไรอยู่ในมือรึเปล่า เผื่อจะหลบได้ทัน

    "เหรอ ไว้สอบสวนต่อไปแล้วกัน " เธอพูดเสร็จก็หันไปทางพูดสาว
     " แล้วแบบนี้จะเป็นยังไงต่อไปกันล่ะเนี่ย "

    " ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ภายในสามสิบวัน เค้าจะต้องเป็นผู้หญิงตลอดไปน่ะค่ะ "

    "อืม...แบบนั้นก็ดีนะ เข้าใจแล้ว" เจ๊พยักหน้า อย่างเข้าใจ

    เจ๊เข้าใจแต่ผมใจจะขาดน่ะสิครับพี่น้อง ซวยแล้วไงพี่น้อง
    ผมจะเอาอะไรไปจีบเค้าเนี่ยผมเป็นผู้หญิงนะ ให้ตายเถอะ

    " แถ่มแท้ม ผมมีทางออกครับทุกๆคน " ไอ้เจ้าโยโผล่เข้ามาในห้องพร้อมกับถือบางอย่างไว้ในมือ




     

     

     

     

    (*ผู้สื่อข่าวสงครามคือผู้ที่ไปทำข่าวในที่มีการทำสงคราม )

    (**ไอคิโด คือศิลปะป้องกันตัวชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น )

    (ดีใจจังได้แฟนพันธ์แท้เพิ่มขึ้นตั้งสองคนแน่ะ By คนเขียน)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×