คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : chapter 02 มันไม่จริงใช่ไหม (100%)
สถานที่บ้านสายไหม
ปื้น... ปื้น..
เสียงแตรรถ ใครก็ไม่รู้สงสัยเป็นของข้างบ้าน
รู้แต่ว่า ฉันต้องลุกจากที่นอน
ง่วงอะ
ฉัน ยื่นมือไปคว้านาฬิกาปลุกและ
พบว่ามันเป็นเวลาที่สมควรจะตื่นได้แล้ว
“ ฮ้าว....” ฉันบิดขี้เกียจนิดนึงก่อนจะลงมาจากเตียง
ก๊อก
เอ๊ะเสียงอะไร กันนะ ช่างเถอะ
ก็อก
ฉันหันไปทางต้นเสียงและก็เห็นก้อนหินก้อนเล็กๆ ถูกปามาที่หน้าต่าง
สงสัยจะเป็น เด็กแถวนี้เล่นซนล่ะมั้ง ช่างเถอะ
ก็อก
แต่ว่า ถ้าเกิดกระจกแตกแล้ว พ่อกลับมาล่ะก็ ซวยแน่นอนฉัน
ด้วยความที่เป็นนางเอกผู้แสนจะอ่อนหวาน
ฉัน เลยต้องออกไปดุเด็กพวกนั้นซะหน่อย
ครืด...
ฉันเปิด หน้าต่างออกไปแล้วยื่นหน้าออกไป
“ เฮ้ยไอ้เด็กเวร !! ไม่มีอะไรทำหรือไงยะ เดี๋ยวแม่ฆ่าซะหรอก “
แต่ทว่า ฉันกลับได้เสียงหนึ่งตอบกลับมาแทน
“ ระวัง!! “
โป็ก!
“ เอ๋ง เอ๊ย โอ๊ย !! “
เจ็บอะเมื่อวานโดนหาเรื่อง แถมเจ็บขา มาวันนี้โดนใครไม่รู้ปา กบาลอีก
ทำช่วงนี้ซวยแบบนี้นะ
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง อย่างระแวด ระวัง
ก็พบยัยน้ำ กำลังโบกมือหยอยๆให้อย่างเต็มที่
“ ว่าไง มาทำอะไร เหรอ “ ฉันเอ่ยพร้อมกับคลำหัวที่เริ่มปูด
“ มารับเธอไปเรียนไง “
“ ขอบใจนะเข้ามาก่อนสิ “ ฉันลงไปเปิดประตูให้ก่อนจะ
ขึ้นไปธุระส่วนตัว
หลังจากแต่งตัว ประมาณครึ่งชม.เรียบร้อยแล้ว
“ ก็ พบยัย น้ำกำลังทำหน้าตาเซ็งๆ อยู่ “
“ เป็นอะไรทำหน้าตาเบื่อโลก “
“ เปล่าไม่เป็นอะไรหรอก เราจะไปกันรึยัง “
“ อืมไปสิ “
ฉันเปิดประตูออกไปก็พบรถเฟอร์รารี่สีแดง จอดอยู่หน้าบ้าน
โดยมีคนนั่งอยู่ด้านในด้านคนขับ และคนๆนั้นก็คือพ่อครัวคนใหม่นั่นเอง
“ รถบ้านเธอเหรอ “ ฉันเอ่ยถามน้ำ
“ เปล่า รถไอ้เจ้าโย น่ะ “
“ นั่นใช่พ่อครัวคนใหม่ หรือเปล่า “ ฉันชี้ไปที่คนขับ
“ อืม ใช่หมอนี่ชื่อโยเพื่อนฉันเอง นี่ก็รถมัน “
โอ้ว....พ่อครัวเนี่ย มันได้เงินเดือนเยอะขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
สมัครไปเป็นแม่ครัวมั่งจะดีไหมเนี่ย
เพื่อจะได้ออก เฟอร์รารี่กับเขามั่ง
น้ำเปิดประตูให้ฉันก่อนที่ส่งตัวเองไปนั่งที่เบาะหน้า
“ เฮ้ย โยนี่เพื่อนฉัน คนที่เล่าให้แกฟังไง ชื่อสายไหม “
เธอเอ่ยก่อนจะหันมาพูดกับฉัน
“ไหมนี่เพื่อนเราชื่อโย “
“ สวัสดีค่ะ “
โยหันมาก่อนจะยิ้มให้ฉัน
“ หวัดดีคร้าบ “
ผู้ชายคนนี้ยิ้มแล้ว น่ารักจัง แฮะ
รู้สึกถูก ชะตายังไง บอกไม่ถูก
ตลอดทางโยเป็นฝ่ายชวนฉันคุยตลอด
และพบว่าคนๆนี้เป็นคนที่สนุกสนานน่าดู
“ คิกๆ จริงเหรอ “ ฉันกำลังหัวเราะเรื่องเปิ่นๆเรื่องที่สิบ ของรูมเมทของโย
ที่เจ้าตัวกำลัง เล่าให้ฟัง แล้วสายตา ฉันก็เห็นน้ำกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด
ผ่านทางกระจกมองหลัง
“เป็นอะไรไปเหรอ น้ำ “ ฉันเอ่ย
“ เปล่า “
“ นั่นสิ ทำหน้าเหมือนโลกแตก “ โยพูดขึ้นมาบ้าง
“ หัวแกจะแตก ก่อนโลกนี่แหละ ขับไปเหอะ “
“ เอ....หรือว่า จะหึง “ โยอื้มมือข้างที่ไม่ได้จับพวงมาลัย
มาขยี้หัวคนที่นั่งด้านข้าง
“ ไอ้นี่บอกว่าอย่าเล่น หัว “ เธอปัดมือออกไปอย่างฉุนๆ
ก่อนจะเอ่ย
“ ใช่ฉันหึง มีอะไรมะ “
ความรู้สึกหดหู่เข้ามา เกาะกินหัวใจทันที
โดยที่ฉัน ไม่รู้ตัวเอง เหมือนกันว่าเศร้าเพราะอะไร
“ แหม ดีใจจัง พี่หึงผมด้วย “ โยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจอย่างปิดไม่อยู่
“ไม่ได้หึงแกเว้ย “
เอ๋ เธอไม่ได้หึงโยแล้วเธอหึงใคร
ในเมื่อในรถมีกันอยู่แค่สามคน
ความเศร้าหายไปทันที
มันถูกแทนที่ด้วย เสียงหัวใจที่เต้นโครมครามเข้ามาแทน
นี่ฉันเป็นอะไรไปนะ
ความสุขที่กำลังเอ่อล้นในหัวใจนี่มันคืออะไรกัน
ฉันเอาได้แต่เอามือกุมหัวใจของตัวเองเอา ไว้เพียงอย่างเดียว
ณ ที่โรงเรียน
ฉันลงจากรถโดยที่มีน้ำคอย ประคองตัวฉันอยู่
“ ไหมเป็นอะไรไป น่ะ “ ยัยกิ่งเอ่ยเมื่อเห็นสภาพของฉันที่พันข้อเท้า
“ เมื่อวาน มีเรื่องกับพวกนักเลงน่ะ เลยเจ็บตัวนิดหน่อย “
“น่าสงสารจัง “
“ ขอบใจ “
“ น่าสงสารพวกนักเลง จัง “
........... (พูดไม่ออก )
“สงสารทำไมยะ “
“ ก็ แกคงอัดพวกนั้นเป็นการเอาคืนใช่มั้ย
หลังจากนั้น แกคงฆ่าหั่นศพพวกมัน เพื่อเป็นการทำลายหลักฐาน
ไม่นะ.....เพื่อนฉันเป็นฆาตกรไปแล้วเหรอเนี่ย “
“ยัยบ้า ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แกเห็นฉันเป็นคนยังไง “
“ ไม่จริงน่า จริงๆเหรอ แกไม่ได้ทำอะไรพวกมันเลยเหรอเนี่ย “
“อืม “
“ ไม่ซักนิดอะ “
“ ไม่เลย “
“ แหะๆ ขอโทษนะฉันคงทักคนผิด ไปล่ะ “ยัยกิ่งทำท่าจะเดินหนีไป
“ ยัยบ้าจะไปไหน “ ฉันอื้ม มือไปจับคอเสื้อยัยกิ่ง
ไม่ให้หนีไปไหน
“ ปล่อยนะ แกเป็นตัวปลอมใช่ไหม เพื่อนฉันอยู่ไหน เอาเพื่อนฉันคืนมานะ “
“ หยุดบ้าได้แล้วแก ฉันเป็นตัวจริงย่ะ “ แล้วฉันก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวานให้ฟัง
หลังจากฟังเหตุการณ์เมื่อวานแล้ว ยัยกิ่งก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“ อ๊ายเท่ มากเลย น้ำ หยั่งกับพระเอกหนังไทย “
“ ฮิ ฮิ ขอบใจนะ “
“ โหยนี่ถ้าเธอ เป็นผู้ชายนะ ยัยไหม ต้องใจตึกตัก หลงรัก เธอแน่เลย “
“ งั้นเหรอ แล้วไหม ใจเต้นกับเราหรือเปล่า “
เธอก้มหน้าลงมาถามฉันที่นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อน
ด้วยแววตาที่บางอย่างที่มีความหมาย
“ มะ...ไม่...มีทางหรอก ใครจะไปใจเต้นกับผู้หญิง “
ยัยกิ่งตบหลัง ฉันก่อนจะเอ่ย
“ เฮ้ย!!..เป็นอะไรไป ยัยไหม น้ำเขา ล้อเล่น แหม
อย่าบอกนะว่าแกใจเต้นกับ ยัยน้ำขึ้นมาจริงๆน่ะ “
ทำไมทายแม่นจัง (วะ )
“ เอ่อ...ฉันต้องไปส่งการบ้านก่อนนะ “ ฉันรีบลุกขึ้นมาก่อนจะรีบเดินหนีทันที
“ เป็นอะไรของมัน เนี่ย “ กิ่ง เกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ
ส่วนน้ำ แสยะยิ้มที่มุมปาก
ก่อนจะนึกในใจ
สำเร็จ
และแล้วเวลาก็ผ่านไป
ตอนนี้กำลังอยู่ในชั่วโมงดรออิ้ง
ฉันกำลังวาดรูปอยู่อย่างตั้งใจ ขณะที่ในใจของฉันนั้นคิดถึง คำพูดของยัยกิ่ง
โหยนี่ถ้าเธอ เป็นผู้ชายนะ ยัยไหม ต้องใจตึกตัก หลงรัก เธอแน่เลย
เฮ้ย!!..เป็นอะไรไป ยัยไหม น้ำเขา ล้อเล่น แหม
อย่าบอกนะว่าแกใจเต้นกับ ยัยน้ำขึ้นมาจริงๆน่ะ
แกรกๆ
มือของฉันค่อยไล่เงารูปจากนางแบบที่นั่งอยู่ตรงกลางของห้อง
“อ้า...ทำไมรูปของฉันเป็นแบบนี้เนี่ย “ ยัยกิ่งยกรูปมาให้ฉันดู
เอ่อ....รูปของยัยกิ่งทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย นางแบบเขาออกจะสวย
วาดซะ....นางแบบ แทบฆ่าตัวตาย
“ไหนดูรูปของแกหน่อยซิ โอ้โหสวยจังว่ะไหม “ ยัยกิ่งเอ่ยหลังจากชโงกหน้ามาดูใน
กระดานวาดรูปของฉัน
“ แต่ว่าทำไมรูปแก ครึ่งหนึ่งมัน ไม่เหมือนนางแบบวะ “
ฉันมองดูรูปตัวเอง และพบว่ามันเป็นที่อย่างที่ยัยกิ่งพูดจริง
รูปของฉันครึ่งหน้าซีกซ้าย เหมือน นางแบบ
อีกครึ่งเหมือน....
เหมือนยัยน้ำ
อ๊าค...นี่ฉันคิดถึงยัยนั่นจน เขียนลงในรูปเลยเหรอเนี่ย
ไม่จริงน่า
“น้ำดูนี่สิ เธอว่าเหมือนใคร ฉันรู้สึกคุ้นๆนะ “ กิ่งหยิบรูปในมือฉันส่งให้ยัยน้ำดู
อ๊าคยัยกิ่งอย่าพึ่ง
ฉันจะหยิบรูป จากมือของเธอแต่ทว่า
ไม่ทัน
“อืมๆ สวยดี ทำไมล่ะมันก็เหมือนนางแบบออก “ น้ำเอ่ยหลังจากรับรูปมาดู
โชคดีจัง ที่น้ำไม่ทันเห็น
“ นี่ไงน้ำเอามือปิดภาพซีกซ้ายไว้นะแล้วมองภาพทางขวา เห็นรึเปล่าว่ามันเป็นอีกคน “
ยัยกิ่งเอามือปิดภาพซีกซ้ายแล้วให้น้ำดู
“ ไม่เห็นมีอะไรเลย มันก็เหมือนนางแบบออกจะตาย เธอคิดมากไปหรือ เปล่า “
น้ำยังคงคำตอบเดิม
“ เธอว่าอย่างนั้นเหรอ แต่เรา ว่ามัน...”
“ พอเลย ยัยกิ่ง เอารูปฉัน คืนมาได้แล้ว “ ฉันรีบเอารูปมาจากมือของ ยัยกิ่งทันที
ส่วน ยัยกิ่ง ก็ทำหน้างงนิดหน่อยก่อนกลับไปวาดรูปต่อ
เนื่องจากเวลาที่อาจารย์ให้มาใกล้หมดแล้ว
เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆในที่สุดก็หมดชั่วโมงดรออิ้ง
ขณะที่น้ำกับฉันเดินไปส่งรูปที่โต๊ะ เธอกระซิบข้างหูฉัน เบาๆ
“ ถ้าอยากวาดรูป เรา ขนาดนั้นเราเป็นแบบให้ก็ได้นะ “
“เธอรู้...”ฉันกลับไปหันมองหน้าเธออย่างตกใจ
มีเพียงรอยยิ้มแบบมีเลศนัยตอบกลับมาเท่านั้น
ช่วงเวลาพักกลางวัน
ฉันนั่งกินข้าวอยู่กับ ยัยกิ่ง ท่ามกลางเสียงพูดคุยที่ฟังไม่ได้ศัพท์และ
ความวุ่นวายสับสน ในช่วงเวลาพักกลางวัน ของโรงอาหาร
มีเพียงโต๊ะเราเท่านั้นที่เงียบงัน
“ เป็นอะไรไป ไหม ฉันเห็นแกเขี่ยเอา เขี่ยเอา แกเป็นไก่หรือไง “
ยัยกิ่งเอ่ยหลังจากเห็นฉันเอาแต่เขี่ยข้าวโดยไม่ยอมกิน
“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ “
“ มีเรื่องให้คิด!! แกคิดกับเขาด้วยเหรอ โอ้วแม่เจ้า “
“ ........... “
“ โอเค ๆ ฮาพอแล้ว แกมีเรื่องอะไรกลุ้มใจปรึกษาฉันได้นะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ “
ยัยกิ่งเอ่ยหลังจากเห็นสีหน้าฉัน
“เปล่าไม่มีอะไรหรอก แกอย่าไปใส่ใจเลย“
“โกหก..... แกเป็นเพื่อนฉันมากี่ปีแล้วไหม แกคิดอะไรทำไมฉันจะไม่รู้ “
“ ฉันไม่รู้ว่าเป็นอะไร “
“ อ้าว แกไม่รู้แล้วแมวน้ำที่ไหนจะไปรู้เนี่ย “
ฉันหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ โอเคๆ เลิกตลกแล้ว แกเป็นอะไรไปล่ะ “
“แกเคยมั้ย ที่ใจเต้นเวลา อยู่ใกล้ๆใครบางคน มีความสุขเพียงแค่เพราะคำพูดของเขาไม่กี่คำ “
ไม่พอใจเวลาเขาไปใกล้คนอื่น แกว่าฉันเป็นอะไรเหรอ “
ยัยกิ่งอามือปิดปากแบบเจอเรื่องประหลาดใจมากๆก่อนจะเอ่ย
“ไม่อยากเชื่อ ไหม ก...กะ...แกกำลังมีความรัก “
ฉันอึ้งไปประมาณ2.35 วิ กว่าๆ
“อย่ามาตลกน่ากิ่งฉันจะไปตกหลุมรักได้ไง ฉันพึ่งเจอได้แค่สามวัน “
“ได้สิแก ไม่งั้นจะมีคำว่ารักแรกพบเหรอ “แล้ว ยัยกิ่งก็เข้าโหมดเพ้อฝัน
“ไม่ใช่หรอกแกคิดผิดแล้วล่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก “
“ ถ้าฉันคิดผิดนะให้แกไปกระโดด ถีบไอ้ต้อมได้เลย “
“ ฉันโดดถีบไอ้ต้อมเลยได้มั้ย “
“ฮ่าๆ แล้วแต่แก ว่าแต่แล้วใครคือผู้โชคร้าย เอ๊ยโชคดีคนนั้นล่ะแก “
“ไม่บอกหรอก เพราะว่ามันไม่ใช่ “
ยัยกิ่งเนี่ยพูดอะไรไร้สาระจริงๆ
ฉันไม่ใช่พวกเล่นดนตรีไทยซักหน่อย
จะไปตกหลุมรักผู้หญิงได้ไง ฟ้าได้ผ่าตายเลย
ในที่สุดเวลาก็มาถึงจนกระทั่งเลิกเรียน
ฉันกำลังรอ น้ำกับยัยกิ่ง เพื่อที่จะรอกลับพร้อมกัน
อยู่ที่ห้องเรียน
สักพัก น้ำ ก็ ปรากฏตัวให้เห็น
“ไงรอนาน รึเปล่า “
“อืมไม่นานหรอก “ ฉันรีบลุกแต่ด้วยความที่รีบร้อนไปหน่อยฉันเลยเตะ
ถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ ล้มทันที
และที่สำคัญ แมลงเก้าชีวิตที่ถ้าเกิดสงครามนิวเคลียร์ยังรอดก็โผล่ออกมาด้วย
ใช่แล้วมันคือ แมลงสาบนั่นเอง
มันกำลังยกขาหน้าขึ้นพร้อมกับพูดว่า
ฮาโล อามีโก้ (หวัดดีพักพวก)
อาจเป็นเพราะว่าความกลัวเลยทำให้เห็นเป็นแบบนั้น
ฉันทั้งเกลียดทั้งกลัวแมลงสาบเป็นที่สุด
“ อ๊าค...น้ำไล่มันออกไปที “
“จะไล่ยังไง ....ฉันก็กลัวมันเหมือนเธอเนี่ยล่ะ “
กลัวเหมือนกัน!!
ซวยแล้วค่า
และยิ่งกว่านั้นมันกระพือปีกนิดๆ อันเป็นสัญญาณว่ามันจะบิน ไม่อ๊าว!!
และที่สำคัญมันบินแล้ว
(สำหรับคนที่กลัวแมลงสาบเนี่ยคงจะเข้าใจว่าเวลาเจอแมลงสาบบินเนี่ย
มันน่ากลัวขนาดไหน BY คนเขียน )
ฉันรีบพุ่งตัวหลบโดย สัญชาติญาณ แต่ทว่ามันบินเลย
เราสองคนไป ออกนอกหน้าต่างสู่โลกกว้างอันห่างไกล
“ไหม....ไหม ..แมลงสาบมันไปแล้วล่ะ “ น้ำเรียกฉันที่กำลังกอดตัวเธออยู่
“เอ๋มันไปแล้วเหรอ “ ฉันเงยหน้าขึ้นมามอง
และพบว่าเธอกับฉันอยู่ใกล้กันมากแค่ไหน
ใกล้กันขนาดนี้มันไม่ดีแน่
“นี่ปล่อยสิ “ ฉันพยายามขืนตัวออก
แต่ทว่า เธอกลับเลื่อนใบหน้าของตัวเองมาเรื่อยๆ
น่าแปลกที่ฉันควรจะถอยหนีแต่อะไรบางอย่างในดวงตาคู่นั้น
ทำให้ฉันไม่สามารถถอยห่างออกมาได้
ฉันค่อยๆ หลับตาลงเหลือเพียงของหัวใจเท่านั้นเอง
โครม
เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตูทำเอาเราทั้งคู่หันไปมอง
ยัยกิ่งกำลังเอามือปิดปากเมื่อได้เห็นภาพนี้ เสียงโครมคือเสียงของ
ที่ยัยกิ่ง ถือมา
ทำเอาฉันและเธอถอยห่างออกจากกันทันที
“ เธอสองคน...”
“ มะ....มันไม่ใช่อย่างที่แกคิดนะ “
“ ช.....ขะ..ใช่ ไหมฝุ่นเข้าตา ฉันเลยจะเอาออกให้แค่นั้นเอง “
“ งั้นเหรอ “ ยัยกิ่งหรี่ตามองอย่างสงสัย
ไม่เขื่อแหง
“จริงๆนะ “ฉันรีบเดินไปหา แต่ลืมไปว่าตัวเองขาเจ็บเลยสะดุดล้ม
น้ำรีบคว้าตัวฉันไว้ แต่ทว่า...
เธอกลับเสียหลักลื่นเลยล้มลงมาด้วย
จุ๊บ
ปากเธอกับปากฉันดันมาชนกัน
เอาใหม่ได้ไหม เมื่อกี้ท่าไม่สวย เอ๊ย!!ไม่ใช่
เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่
ที่สำคัญก็คือ
อ๊าค เฟิสคิส ฉัน
ฉันเสียเฟิสคิสให้ผู้หญิงเหรอเนี่ยไม่อยากเชื่อเลยพี่น้อง
ความคิดเห็น