ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Divalia มนตราแห่งวันสิ้นสูญ

    ลำดับตอนที่ #4 : Divalia I : ชายหนุ่มที่ไม่มีเสียงเต้นของหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 59




    Divalia I : ชายหนุ่มที่ไม่มีเสียงเต้นของหัวใจ

     

             


    เอาละ เกลียดข้านักใช่มั้ย?’


     

     

    เช่นนั้นจงมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยหัวใจของข้า…’

     

     


    การนินทาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ในสังคมที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ดีจ๋าอย่างเดธ

                หากพูดถึงสถานที่ยอดนิยมในการพูดถึงบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเป็นในแง่บวกหรือในแง่ลบก็ตาม ร้านกาแฟถือเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเสมอ ซึ่งร้านกาแฟโอลด์โรสก็เป็นหนี่งในนั้น

    ร้านนี้ถูกตั้งอยู่ใจกลางกรุงอาราเวน เมืองหลวงแห่งความตาย ที่นี่ได้ชื่อว่ารวบรวมความเป็นเดธทุกอย่างเอาไว้อย่างครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม ผู้คน สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หรือแม้กระทั่งศูนย์รวมจิตใจของปวงประชาในสังกัดของความตายราชินี

                 เพราะว่าพวกเขายกผู้นำของตนเองเป็นถึง ราชินี ไม่ใช่แค่เพียงระดับ ท่านผู้นำเหมือนตระกูลอื่นๆ นั่นจึงส่งผลให้การปกครองของเดธค่อนข้างเข้มงวด ยึดถือระเบียบเคร่งครัด มีการเอาระบบขุนนางและเจ้าหญิงเจ้าชายมาใช้ เวลาบ่ายคือเวลาน้ำชา คนของฝั่งเดธจึงได้ชื่อว่าเป็นพวกผู้ดีเต็มไปด้วยคุณสมบัติของสุภาพบุรุษ

                แต่ก็ใช่ว่าสุภาพบุรุษทุกคนจะมีความเป็นผู้ดี

                “นี่ๆ เจ้าเคยได้ยินมั้ยเรื่องของลอร์ดโรเลสตันน่ะ

                “หา? หมายถึงไอ้เด็กลูเธอร์จอมยโสนั่นน่ะเหรอ?”

                บทสนทนาที่ส่อไปในทางที่ไม่ค่อยดีนักถูกเอ่ยขึ้นในมุมหนึ่งของร้านกาแฟโอลด์โรส.... ผู้พูดเป็นชายสองคนในชุดสีดำสนิท ปักตราขุนนางตระกูลไหนสักตระกูลที่มองไม่ถนัดนัก แต่ดูแล้วน่าจะมีศักดิ์ใหญ่พอสมควร

                พวกเขากำลังพูดถึงลูเธอร์ โรเลสตัน

                “เออ มันนั่นแหละชายคนแรกเอ่ย ได้ยินว่าฝ่าบาทเพิ่งยกตำแหน่งแม่ทัพแห่งเดธให้มัน เหอะ ไอ้เด็กนั่นชักจะได้ตำแหน่งมากไปแล้วนะ! ทั้งๆที่ข้าอายุมากกว่ามันแท้ๆ!”


                แก๊ง!


                ว่าจบ ผู้พูดก็กระแทกแก้วกาแฟลงกับจานรองเสียงดัง โชคดีที่มีผู้คนอยู่ในร้านมากมาย เสียงกระแทกแก้วนั้นจึงไม่ค่อยเป็นที่สนใจนัก เพราะถูกเสียงอื่นๆกลบจนเกือบหมด หรือหากได้ยิน คนอื่นๆก็จะคิดไปในทางเดียวกันว่ามีพนักงานคนไหนสักคนที่เผลอทำแก้วลื่นตอนล้างเท่านั้น

                ยกเว้นอยู่คนหนึ่งน่ะนะ

                หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนเลือกใบชาอยู่อีกด้านหนึ่งของร้านขมวดคิ้วน้อยๆ ดวงตาสีอำพันคู่โตของเธอหรี่ลงน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงอันแปลกประหลาดที่ว่านั่น มือเรียวบางทว่าขาวซีดที่กำลังจะหยิบใบชาชั้นดีใส่ตระกร้าหยุดชะงัก ก่อนที่เจ้าหล่อนจะปราดสายตาไปทางต้นเสียงอย่างเงียบๆ โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว

                ข้าว่าไอ้เด็กลูเธอร์นั่นใช้เงินซื้อตำแหน่งดูสิ มันรวยจะตาย! โจรสลัดกระดูกที่ถูกส่งไปปล้นพวกวอร์ก็ฝีมือมัน เด็กเปรตนั่นจะไม่กินเล็กกินน้อยสักหน่อยเหรอวะ?”

                “หึ ข้าละโคตรหมั่นไส้มันเลย! จองหองยังกับอะไรดี! ไอ้ผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดินเอ๊ย…!”

                “เรื่องจองหองน่ะมันเป็นตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่มันแล้ว ลูเซียส พวกโรเลสตันน่ะโอหังมาตั้งแต่ต้นตระกูล…” คนพูดหัวเราะเหอะ ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบอีกครั้ง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ลูเซียสสานบทสนทนาต่อไป

                “ได้ยินมาว่าไอ้เด็กโอหังนั่นเก็บเด็กมาเลี้ยงตั้งหลายคนเจ้าว่ามันสร้างภาพรึเปล่า?”

                “เรื่องมันแหงอยู่แล้วอเล็กซ์เค่นยิ้มอย่างดูถูก “…น้องบุญธรรม? เชื่อข้ามั้ยว่าเด็กพวกนั้นน่ะนางบำเรอทั้งนั้น!”

                เพล้ง!!!

                ทันทีที่จบประโยคนั้นแก้วกาแฟในมือของอเล็กซ์ก็แตกละเอียดทันที! น้ำกาแฟร้อนๆกระฉอกถูกมือของผู้ถือจนแสบไปหมด แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ามีดสั้นเล่มหนึ่งที่ปักอยู่บนโต๊ะคาดว่ามีคนปามันใส่แก้วของเขาจนแตกยับไม่เหลือชิ้นดี!

                เฮ้ย นี่ถ้าใส่แรงอีกนิดนึง มันไม่ทะลุอกเขาเลยเหรอฟะ!

                อเล็กซ์รีบตวัดสายตาไปตามทิศทางที่คมมีดถูกปามา ก่อนจะต้องขมวดคิ้วมุ่น เมื่อพบว่ามีหญิงสาวในชุดกระโปรงสีเข้มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าสวยงามของเธอเคลือบด้วยรอยยิ้มที่แสนละมุนละไม ซึ่งดูไม่น่าไว้ใจอย่างยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้!

              นี่ เธอเป็นคนปาไอ้มีดนั่นมาเรอะ!?

                ไม่ปล่อยให้สงสัยนาน หญิงสาวค่อยๆขยับริมฝีปากอย่างช้าๆ เธอเอ่ยเฉลยออกมา พร้อมกับจ้องมองพวกเขาด้วยดวงตาคู่งามราวกับผลึกคริสตัล

    ตายจริง ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ พอดีข้ายืนฟังคำพูดของพวกท่านตั้งนาน มันช่างกินใจเสียจนทนไม่ไหว….”

                “อะ เอ่อ…?”

                “พวกท่านช่างเป็นคนที่พูดจาได้น่าฟังมากเจ้าค่ะสาวน้อยคนสวยวาดรอยยิ้มนุ่มนวลบนริมฝีปาก ขณะก้าวมาที่โต๊ะของพวกเขาอย่างช้าๆ ดึงดูดอารมณ์คนฟังได้ดีเลิศประเสริฐศรีสุดๆ จนข้าอยากจะให้เกียรติท่านโดยการเอาหัวจุ่มชักโครกสักทีสองทีด้วยความเคารพสุดหัวใจ

                หมับ!

                มือขาวราวกระดาษคว้ามีดสั้นที่ปักไว้บนโต๊ะขึ้นมา เผยให้เห็นโต๊ะกาแฟที่ถูกจิ้มเป็นรูอย่างน่ากลัวทว่าสาวเจ้าไม่ได้สนใจร่องรอยนั้นนัก หลังจากเก็บมีดเข้าที่แล้ว เธอก็ยิ้มส่งรอยยิ้มงามๆให้อเล็กซ์และลูเซียสอย่างละมุนละไม

                “มีอะไรจะพูดอีกหรือไม่เจ้าคะ? เผื่อว่าข้าจะได้จดจำคำพูดอันน่าประทับใจของท่านไปบอกนายท่านของข้าได้ถูก

                “….”

                “อา บางทีอาจจะน้องๆบุญธรรมของนายท่านด้วย

                สองนักนินทากลืนน้ำลายเอื๊อกริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรงเมื่อสังเกตเห็นเข็มกลัดทองคำที่ประดับอยู่บนอกของหญิงสาวคนนั้น มันเป็นตรารูปเถาวัลย์กุหลาบที่พันอยู่บนหัวกะโหลก ซึ่งคนในวงการขุนนางรู้จักกันดีว่าไม่สิ คนเกือบทั้งสังกัดเดธรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นตราประจำตระกูลโรเลสตัน!

              ฉิบหาย นี่มันจุดไต้ตำตอสุดๆเลยนี่หว่า!!

                เอ่อไม่มีอะไรครับ คุณผู้หญิง ค คือพวกข้ามีประชุมพอดี

                “นั่นสิๆ ข้าว่าเรารีบไปกันก่อนดีกว่า ลูเซียส

                ว่าจบ คนจุดไต้ตำตอทั้งสองก็รีบลุกออกจากเก้าอี้โดยวางเงินปึกหนึ่งให้เป็นค่าเครื่องดื่ม พวกเขารีบสาวเท้าเดินออกจากร้านไปโดยไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ! แถมยังมีซาวด์เอฟเฟ็คต์เป็นคำพูดประมาณ ไม่น่าเลย!’ ไอ้เด็กนั่นจะรู้ป่ะวะ!?’ กับ เพราะเจ้านั่นแหละ! โว้ย!’ ลอยตามสายลมมาเป็นระลอกๆ

                “เฮ้อ ไม่แน่จริงนี่เจ้าคะ

                สาวเจ้าของมีดมองภาพนั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เธอไม่สนว่าตัวเองจะตกเป็นเป้าสายตาของคนในร้าน หรือถูกมองด้วยสายตาสะพรึงกลัวมากแค่ไหน แหงละ หน้าที่ของเธอไม่ใช่การมาสนใจสายตาพวกนั้นซะหน่อย!

                อา เชื่อสิ เธอเป็นแค่สาวใช้ตัวน้อยๆ ที่เดินออกมาซื้อของเข้าบ้าน แต่บังเอิ๊ญบังเอิญไปได้ยินคนปากไม่ดีนินทาเจ้านายโดยไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นเอง!

                สาวน้อยสังกัดโรเลสตันหลับตาลงแล้วค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะหันไปหาเจ้าของร้านกาแฟที่กำลังอ้าปากค้าง ริมฝีปากได้รูปเอ่ยออกมารัวๆ ทว่าชัดถ้อยชัดคำ

                อิงลิชเบรกฟาสต์ เอิร์ลเกรย์ ดาร์จีลิง พีช มะลิ และซีลอนอย่างละสามเจ้าค่ะ!”

     

               


                คฤหาสน์สีดำสนิทตั้งตระหง่านอยู่ในเขตแห่งความตาย แสงจันทร์นวลส่องกระทบตัวคฤหาสน์เป็นสีเลื่อมเงาสวยงาม ดอกกุหลาบสีรัตติกาลที่มีเพียงที่นี่เพียงที่เดียวเบ่งบานรับยามราตรี ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบรรยากาศที่มืดหม่น หนำซ้ำยังเจือปนด้วยไอวิญญาณ

    นี่คือคฤหาสน์โรเลสตันคฤหาสน์แห่งดอกกุหลาบและโครงกระดูก ที่พำนักของตระกูลขุนนางชั้นสูงโรเลสตันผู้ภักดีต่อราชินีแห่งความตายมันถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากพระราชวังหลวงนัก แม้จะเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่โตโอฬาร แต่พวกเขาก็คอยระมัดระวังไม่ให้ธง หอคอย หรืออะไรสูงเกินธงของวังหลวงเพื่อเป็นการให้เกียติแด่องค์ราชินี

    ตัวคฤหาสน์เป็นสีดำล้วนอย่างมีรสนิยม ล้อมรอบด้วยสวนกุหลาบขนาดใหญ่และทะเลสาบที่ใสราวกับแก้ว บนรั้วสีดำสนิทของคฤหาสน์มีตราประจำตระกูลประดับเอาไว้ มันเป็นสีทองสวยงาม สลักเสลาบนบานรั้วด้วยจิตกรรมระดับครู

    รีนน์ ใช้มือผลักบานประตูรั้วสีดำให้เปิดออก แต่ทันทีที่ปลายเท้าย่ำเข้าสู่ด้านใน ร่างสีดำร่างหนึ่งก็วิ่งปราดเข้ามาหาเธอทันที

    อ้าว กลับมาแล้วเหรอ?”

    เขาเป็นชายหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีดำสนิทที่สุดแสนจะยุ่งเหยิง ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลชวนมองประดับอยู่บนใบหน้าดูดี เขาสวมชุดเครื่องแบบพ่อบ้านสีดำสนิทเช่นเดียวกับถุงมือ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวสวมแหวนเงินมากมายเอาไว้จนแสบตาไปหมด

    เขาคนนี้คือ เฮลซิ่งหรือ เฮลชายหนุ่มที่เป็นหนึ่งในผู้ดูแลคฤหาสน์โรเลสตันเช่นเดียวกับเธอ แน่นอนว่าเฮลทำหน้าที่ได้ดีมาก ตั้งแต่เรื่องการดูแลความเรียบร้อยของบ้านไปจนถึงการเฝ้ายาม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของเฮลที่มีเผ่าพันธุ์เป็น คูสิทหรือ หมาดำปีศาจเท่าไหร่นัก

    โดยมากแล้ว คนในสังกัดเดธมีความสัมพันธ์อันดีกับโลกหลังความตาย ถึงขั้นนำสิ่งมีชีวิตกลับมาจากความตายเพื่อมารับใช้ได้เลยด้วยซ้ำ รีนน์ก็เช่นกัน เธอเป็น ซอมบี้ที่นายท่านแห่งตระกูลโรเลสตันลงทุนปลุกขึ้นมาเพื่อทำงานนี้โดยเฉพาะ

    แต่กรณีของรีนน์ตรงข้ามกับเฮล

    ในขณะที่เธอเป็นซอมบี้ที่ถูกปลุกขึ้นมา แต่เฮลกลับเป็น เด็กหลง ที่หนีจากการฆ่าล้างตระกูลมาอยู่ที่นี่ เพราะคูสิทถือเป็นสุนัขแห่งลางร้าย เหล่านักล่าจึงเห็นว่าเป็นเป้าหมายที่ควรกำจัด

    แล้ว ลูเธอร์นายท่านแห่งโรเลสตันคนนั้น ก็รับเฮลเข้ามาดูแล

    มีครั้งหนึ่งที่เหล่านักล่าคูสิทเป็นสิบๆคนตามเขามาที่นี่ มาแจ้งต่อนายท่านของคฤหาสน์ว่าให้ส่งตัวทายาทสุนัขปีศาจมาให้พวกตนทำการฆ่าทิ้งซะ! ตอนแรกเฮลซิ่งเองก็นึกกังวลแต่เมื่อนายท่านคนนั้นกล่าวออกมา เขาก็ถึงกับสะท้านไปทั้งร่าง

     

    เฮลซิ่ง บาร์เกสต์เป็นคนในความดูแลของข้า เจ้าจะล่าเขาก็ได้ ถ้าพวกเจ้าอยากเป็นศัตรูกับโรเลสตันล่ะก็นะ…’

     

    ไม่ว่าเปล่า นายท่านแห่งบ้านกุหลาบและกระดูกยังใช้สายตาเยือกเย็นจ้องมองเหล่านักล่าทุกคนกลัวจนตัวสั่น แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีนักล่าคนใดกล้ายุ่งกับเขาอีกเลย

    เหตุการณ์นี้ทำให้เฮลภักดีต่อโรเลสตันมาก แถมความภักดีนั่นยังเผื่อแผ่ไปถึงตระกูลเดธทั้งตระกูลอีกด้วย ปัจจุบันเจ้าตัวทำงานอยู่ที่คฤหาสน์โรเลสตันคู่กับรีนน์ สองคนนี้ถูกเรียกเล่นๆว่าพ่อบ้านหมาดำและแม่บ้านซอมบี้ประจำคฤหาสน์กระดูกฟังไปฟังมาก็น่ารักดีเหมือนกัน

    ถ้าไม่กลับมาแล้วจะเห็นมั้ยละเจ้าคะ? ว ว้าย!”

    ไม่ปล่อยให้หญิงสาวพูดจบประโยค ชายหนุ่มฉวยถุงกระดาษในมือของเธอไปถือเอาไว้ทันที พร้อมกับใช้ดวงตาสีน้ำทะเลนั่นสำรวจสิ่งของในถุงอย่างตื่นเต้น

    ไหนดูซิอิงลิชเบรกฟาสต์ เอิร์ลเกรย์ ดาร์จีลิง พีช มะลิ แล้วก็ซีลอนเหรอ? งั้นข้าเอาไปเรียงเข้าที่เลยแล้วกัน

    กรุณาอย่าเรียงเพลินจนลืมกวาดพื้นอีกนะเจ้าคะ

    เฮลซิ่งกลอกตา พร้อมกับทำหน้าหน่ายสุดชีวิต เออน่า! ไปๆๆ ป่านนี้นายท่านรอน้ำชาจนคอแห้งแล้ว!”

     

     


    "เอาละ จับมือพี่นะ"

    ภายในห้องรับแขกสุดหรูของตระกูลโรเลสตันถูกประดับประดาด้วยเครื่องเรือนราคาแพง เน้นโทนสีดำและสีทองดูภูมิฐาน เป็นเรื่องจริงที่รสนิยมชอบสีดำของคนในสังกัดเดธลามตั้งแต่การแต่งตัวมาจนถึงสไตล์การตกแต่งบ้านขั้นพื้นฐาน และดูเหมือนจะลามไปถึงเรื่องอื่นๆด้วยเช่น ชุดแต่งงานของคนใต้บัญชาของความตายที่ต้องเป็นสีดำล้วน เป็นต้น

    ตึ๊ง…!

    ตรงกลางของห้องถูกเว้นไว้เป็นที่ว่างขนาดกำลังดี อย่างน้อยก็มากพอที่จะให้คนสองคนเต้นรำกันได้ไม่ยากนัก บนโซฟาสีดำตัวยาวมีร่างของเด็กๆจำนวนสี่คนนั่งอยู่ในอิริยาบถแตกต่างกัน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังพื้นที่ว่างตรงกลางที่ถูกนำไปใช้สำหรับการสอนเต้นรำของคนสองคน โดยมีเสียงดนตรีดังมาจากเปียโนสีดำสนิทที่ถูกร่ายเวทย์ให้เล่นเองได้

    ร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งกำลังประคองเด็กสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน มือข้างหนึ่งแตะลงบนเอวเล็กๆนั่นเบาๆ ส่วนอีกข้างขยับออกด้านข้างเล็กน้อย เพื่อให้มือขาวๆของอีกฝ่ายวางลงบนนั้นได้สะดวก

    ขายาวก้าวนำร่างเล็กตามจังหวะเพลง ส่วนปากก็เอ่ยกำกับด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม

    ถอยหลังด้วยเท้าขวาแล้วก็หมุนตัวไปทางซ้าย แบบนั้นแหละ

    ลูเธอร์ โรเลสตันนั่นละชื่อของเขา

    ชายหนุ่มผู้มีเส้นผมสีทองสว่างดั่งทองคำล้ำค่า ผิวสีขาวราวโครงกระดูกตัดกับอาภรณ์สีดำสนิทที่สวม ใบหน้าหล่อเหลามากเสน่ห์ที่ควรค่าแก่คำว่าสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด และที่เด่นที่สุดย่อมหนีไม่พ้นดวงตาสีเขียวคู่คมบนใบหน้านั่นมันเป็นสีเขียวเหลือบฟ้างดงามราวกับดวงตาบนหางนกยูง เอกลักษณ์ของผู้สืบทอดสายตรงของโรเลสตันที่มักจะทอประกายหยิ่งผยอง มากอัตตา และยโสโอหังอย่างยากจะหาใครเทียบอยู่เสมอ

    สำหรับคนอื่นๆที่ไม่ใช่องค์ราชินีทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านลอร์ดลูเธอร์นั้นทั้งจองหอง กินศักดิ์ศรีแทนข้าว แถมยังเย่อหยิ่งอย่างไร้ที่ติ แต่สำหรับคนในครอบครัวแล้ว ลูเธอร์คือผู้ชายที่อบอุ่นอย่างยากจะหาที่ใดเปรียบ

    แม้พ่อแม่ของเขาจะไม่อยู่ตั้งนานแล้ว แต่ อัลซารีย์’ ‘ลอว์เรน’ ‘เลสลีย์’ ‘เทเรซ่า และ คอนลาจบรรดาน้องๆ บุญธรรมที่เจ้าตัวเก็บมาเลี้ยง รวมถึงสองผู้ดูแลบ้าน รีนน์และ เฮลซิ่งพร้อมจะยืนยันคำตอบนี้อย่างเต็มปากเต็มคำ

    ในอ้อมแขนของเขามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในนั้น เธอเป็นเด็กหญิงร่างเล็ก เส้นผมสีน้ำตาลของเธอถูกประดับไว้ด้วยริบบิ้นสวยงาม เช่นเดียวกับชุดกระโปรงประดับลูกไม้สีน้ำตาลอ่อนที่สวมทับอยู่บนร่างกายเล็กๆน่ารักนั่น มันขับเน้นให้เด็กน้อยดูน่ารักราวกับตุ๊กตาราคาแพง

    ซึ่งก็ไม่ผิดหรอก เด็กคนนี้เป็น ตุ๊กตา จริงๆนั่นแหละ

    ลูเธอร์กระชับมือของเด็กน้อยแน่นขึ้น ก่อนจะพาเธอขยับตัวไปตามจังหวะเพลงอย่างช้าๆ ทว่าสมบูรณ์แบบจนน่าตกตะลึง เมื่อมาถึงจังหวะที่ต้องหมุน เขาก็ค่อยๆยกมือขึ้น ปล่อยให้อีกฝ่ายได้หมุนเต็มที่ เมื่อเห็นว่าท่าทางของเด็กน้อยตุ๊กตาออกมาสวยงามใช้ได้ เขาก็มองสาวน้อยตรงหน้าอย่างพอใจ

    ดีมาก จำจังหวะนี้ไว้ให้ดีนะ อัลลี่

    “…”

    อัลลี่ หรือ อัลซาลีย์ โรเลสตัน หนึ่งในบรรดาน้องบุญธรรมของลูเธอร์พยักหน้ารัวๆ พร้อมกับใช้ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตคู่นั้นมองผู้เป็นพี่ชายโดยไร้สุ้มเสียง ดวงตาสองคู่ต่างสีสบกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ลูเธอร์จะหัวเราะออกมาเบาๆ

    คนเก่ง…” ลูเธอร์ลูบเส้นผมสีน้ำตาลของน้องสาวอย่างเบามือ จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มนั่นครู่หนึ่งก่อนจะทำสีหน้าเหมือนคนเพิ่งนึกอะไรออกจริงสิ

    “…?”

    นายเหนือแห่งบ้านโรเลสตันคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ใช้มือเลิกชายกระโปรงลูกไม้หนาๆของเด็กน้อยตรงหน้าออกอย่างสุภาพ แล้วจึงลงมือถอดรองเท้าส้นสูงสีเข้มที่คนตรงหน้าสวมอยู่ออกมาอย่างเบามือ

    ใช่ ลูเธอร์ผู้หยิ่งผยองคนนั้นกำลังถอดรองเท้าให้เด็กผู้หญิง

    เป็นภาพที่หากไม่เห็นกับตาก็คงไม่มีทางเชื่อ แน่นอนว่าต่อให้หัวต้องขาดออกจากร่าง ลูเธอร์ โรเลสตัน ผู้ชายที่โด่งดังเรื่องความถือตัวคนนี้ก็ไม่มีทางคุกเข่าให้ใครแน่ๆ นี่คือสิ่งที่คนทั้งฝั่งเดธเชื่อสุดๆ! เพราะนอกจากองค์ราชินีที่เจ้าตัว (รวมถึงคนในฝั่งเดธ) ให้ความรักและเคารพยิ่งชีวิตแล้ว ลูเธอร์ดูจะเห็นที่เหลือเป็นแค่ปลาซิวปลาสร้อยที่ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจไปเสียหมด

    มุมอ่อนโยนของลูเธอร์เหมือนจะถูกสงวนไว้ใช้กับคนในบ้าน โดยเฉพาะกับน้องๆบุญธรรม ชนิดที่ว่าถ้าคนนอกมาเห็นเข้าอาจตกใจสุดขีดเลยก็ได้

    เจ็บเท้ามั้ย?”

    “…”

    อัลซาลีย์ส่ายหน้าน้อยๆ ดวงตากลมโตน่ารักนั่นมองผู้เป็นพี่ชายนิ่งๆ แม้ว่าสีหน้าจะไม่เปลี่ยนไปเลย แต่ลูเธอร์ก็พอจะเดาออกว่าน้องสาวตัวจ้อยของเขารู้สึกยังไง

    ถ้าเจ็บต้องบอกพี่ เราซื้อรองเท้าคู่ใหม่ได้…” ลูเธอร์พูด ก่อนจะหันไปทางน้องๆคนอื่นที่นั่งเรียงกันอยู่บนโซฟา คนอื่นก็เหมือนกัน เข้าใจมั้ย?”

    ครับ พี่ชาย!”

    คนแรกที่ตอบรับคือ คอนลาจ โรเลสตันเด็กชายคนเดียวในหมู่เด็กผู้หญิงที่ลูเธอร์เก็บมาเลี้ยง ตามด้วย ลอว์เรน โรเลสตันเด็กสาวแสนสวยที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากคอนลาจนัก

    ค่ะลอว์เรนว่าเสียงใส อ๊ะ พี่ชายคะ น้ำชามาโน่นแล้วค่ะ

    พูดจบ เด็กสาวก็ผายมือไปยังประตูด้วยท่วงท่าอันสวยงาม

    ลอว์เรนเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย มีเส้นผมสีดำประบ่าที่ตรงปลายเป็นสีขาวพิสุทธิ์ราวหิมะ ใบหน้าหวานน่ารักสะกดทุกสายตา ตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในชุดกระโปรงสีดำประดับริบบิ้นและลูกไม้ คาดทับด้วยโบว์ผูกเอวสีขาว ยิ่งขับเน้นผิวขาวๆของเธอให้เด่นยิ่งขึ้นไปอีก

    ลอว์เรนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างหนึ่งคือเจ้าตัวไม่เคยลืมตาเลย เธอหลับตาไว้ตลอดเวลาแต่กลับมองเห็นทุกสิ่งรอบข้างได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่สำคัญ แม้จะหลับตา แต่ลอว์เรนก็ยังฟันดาบได้คล่องแคล่วพอสมควร ลูเธอร์รู้ดี เพราะเขาเป็นคนสั่งให้ช่างตีเหล็กอันดับต้นๆของเดธตีดาบให้เธอเป็นของขวัญ แล้วนำมามอบให้ด้วยตัวเอง

    เมื่อก่อนเด็กสาวเป็นนักเปียโนชื่อดัง แต่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้สูญเสียประสาทการรับฟังไปอย่างสมบูรณ์ โดยมากแล้วเธอจะใช้วิธีการเขียนสื่อสารไม่ก็อ่านปากของคนอื่นๆที่เป็นคู่สนทนาเอามากกว่า

    ดวงตาสีหางนกยูงของลูเธอร์ตวัดไปมอง ก่อนจะพบรีนน์ที่เดินนำน้ำชามาให้ด้วยท่าทางนอบน้อม ไม่ช้า แก้วและถ้วยชาสีดำประกายมุกก็ถูกวางไว้บนโต๊ะ กลิ่นหอมที่โชยออกมาบ่งบอกได้ดีว่าชามื้อนี้เป็นชากุหลาบ

    ขอบใจมากนะ ลอว์ลูเธอร์ว่า เจ้าด้วย รีนน์

    หน้าที่ของข้าอยู่แล้วเจ้าค่ะ นายท่าน

    ลูเธอร์ก้าวขาไปหมายจะหยิบน้ำชามาดื่ม แต่กลับเร็วไม่เท่าร่างเล็กๆร่างหนึ่งที่ก้าวตัดหน้าเขาไปอย่างว่องไว ร่างนั้นจัดแจงหยิบแก้วที่มีน้ำชาอยู่เต็มมาส่งให้เขา พร้อมกับตวัดเอาหางฟูๆมาบังหน้า

    พี่ชาย! เครื่องดื่มค่ะ!”

    ขอบใจ เรซ่า

    ลูเธอร์รับถ้วยชาที่ เรซ่าหรือ เทเรซ่า โรเลสตันมาดื่มอย่างช้าๆ ทว่าสง่างาม รสชาติเฝื่อนๆของน้ำชาทำให้เขารู้สึกดีได้เสมอ

    พอๆกับบรรดาน้องๆนั่นแหละ!

    เขาเห็นดวงตาสีส้มใต้แว่นกรอบใสของเทเรซ่ามองลอดผ่านขนหางฟูๆนั่นกำลังมองมาทางเขา แต่ไม่กล้ามองเต็มๆตาเพราะเจ้าตัวเป็นคนขี้อายมากๆ! โชคดีที่เทเรซ่าเป็นจิ้งจอก ทำให้มีไอเทมเสริมเป็นหางฟูๆที่เจ้าตัวสามารถใช้มันได้สารพัดนึกแบบนี้

    “…”

    ลูเธอร์ที่นึกอยากจะแกล้งน้องสาวขึ้นมาใช้มือข้างที่ว่างจับหางให้ออกจากใบหน้าของน้องสาว ส่งผลให้เรซ่าต้องสบตากับเขาเต็มๆ!

    “…”

    “…”

    ง งื้อออออ!”

    แล้วจิ้งจอกน้อยก็หน้าแดงแปร๊ด! เหมือนจะมีควันพุ่งออกมาจากหน้ายังไงยังงั้น! ไวเท่าความคิด เรซ่ารีบวิ่งหนีไปหลบหลัง เลสลีย์ โรเลสตันหนึ่งในน้องบุญธรรมของเขาทันที!

    รังแกเด็กเลสลีย์พูดเสียงนิ่งซึ่งนิ่งพอๆกับสีหน้าของเจ้าตัว นิสัยเสีย

    หืม?”

    อ่อนแอ แกล้งแต่เด็ก

    “…”

    เล็กล่ะสิไม่ว่…”

    โป๊ก!

    ยังไม่ทันจบคำพูดดี เลสลีย์ก็โดนเขกกะโหลกเข้าไปทีหนึ่งเต็มๆ!

    พี่ไม่เล็ก

    ว่าเรื่องอื่นอาจจะได้ แต่ลูเธอร์คิดว่าตัวเองไม่เล็กนะ!

    เลสลีย์ลูบหัวตัวเองป้อยๆ พร้อมกับส่องสายตาประมาณว่า เหรอ? ไม่เล็กจริงเหรอ?’ มาให้เขาซึ่งลูเธอร์ก็ได้แต่จิบชาแก้ครียด

    แม่เด็กน้อยเลสลีย์คนนี้เป็นคนหน้าตาจิ้มลิ้มดูน่าเอ็นดู ผมสีขาวตัดตรงประบ่า ดวงตาสีฟ้าสดใส เสียดายที่เป็นคนกวนประสาทอย่างน่าเหลือเชื่อเชื่อมั้ย เมื่อปีก่อน ลูเธอร์นึกครึ้มอยากทำอาหารเย็นให้น้องๆกินในวันฮัลโลวีนซึ่งเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา ชาวเดธทั้งมวล

    แต่ทั้งๆที่เขาตั้งใจทำสุดฝีมือ มันกลับออกมาห่วยแล้วก็โดนเลสลีย์วิจารณ์ยับเยิน

     

    รสชาติเหมือนดินฝังศพ

     

    ‘…’

     

    เชื่อแล้วว่าพี่อยู่สังกัดเดธมาตั้งแต่เกิด

     

    ลูเธอร์พยายามชิมกับข้าวฝีมือตัวเองอืม มันก็ห่วยจริง! แต่ไม่ต้องตอกย้ำก็ได้มั้ง!!! สุดท้ายมื้อนั้นรีนน์ก็เป็นคนทำจนได้ โดยลูเธอร์บอกให้คอนลาจเอากับข้าวที่เขาทำไปเททิ้งให้ต้นไม้ในสวนย่อยเป็นปุ๋ย แต่คอนลาจกลับเดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าแห้งๆ

     

    พี่ชายครับ

     

    ว่าไง?’

     

    ต้นไม้ตายหมดเลยครับ…’

     

    ‘…………’

     

    นี่มันโคตรบาดแผลทางใจเลย!

    เอ๊า! ก็เขาเป็นผู้รับใช้ราชินีแห่งความตายนี่นา! ทำกับข้าวก็ต้องรสชาติแบบนี้อยู่แล้ว ขืนทำไม่เหมือนดินฝังศพก็เสียสถาบันสิ! น เนอะๆๆๆ…!

    หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น ลูเธอร์ก็เอาแต่ทำงานอยู่ในห้องเงียบๆ ไร้คำพูดคำจา ไม่ออกมากินข้าวเลยเป็นเวลาสามวันเพราะเสียความมั่นใจอย่างหนัก กว่าจะออกมาได้ต้องให้สามสาว ลอว์เรน อัลซาลีย์ และเทเรซ่าไปช่วยกันลากออกมา เหนื่อยกันแทบตาย

    ลูเธอร์นั่งจิบชาอย่างเงียบๆอยู่บนโซฟา สนทนากับน้องๆไปพลาง ดูน้องๆคุยกันไปพลางจนกระทั่งชาหมด เจ้าตัวจึงตัดสินใจลุกขึ้น หมายจะขึ้นไปเคลียร์เอกสารที่จะต้องยื่นให้ราชินีต่อ

    มันเป็นเอกสารรายงานผลประจำเดือนของ กองโจรสลัดกระดูกที่เขาเป็นเจ้าของ พวกมันออกปล้นเรือสินค้าและเรือขนสมบัติของเดธมาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว คอยฉกชิงทรัพย์สมบัติราคาแพงมาถวายให้กับองค์ราชินีเหนือหัว เสริมเป็นฐานอำนาจให้กับฝั่งเดธ

    มันสำคัญเพราะงั้นต้องเช็ครายชื่อสิ่งของทั้งหมดให้ดี

    ใช่ เขาตั้งใจจะทำแบบนั้น แต่

    เปรี๊ยะ!!!!

    ทันทีที่ลุกขึ้นยืน อาการปวดแปลบที่หน้าอกก็แล่นเข้ามาโจมตีจนเจ้าตัวเกือบเข่าทรุดลงไป! ดวงตาสีเขียวเบิกกว้างขณะเอามือกุมหน้าอกตัวเองแน่น หอบหายใจถี่รัวจนน้องๆต้องเข้ามาพยุงเป็นการใหญ่

    พี่คะ!?”

    เป็นอะไรรึเปล่าครับพี่!?”

    “…หัวใจ…” ลูเธอร์พึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะส่ายหน้าแรงๆสองสามที ไม่มีอะไร ปล่อยพี่เถอะ

    ไม่ใช่แค่ห้าม แต่ชายหนุ่มยังขยับตัวหนีอีกด้วยลูเธอร์สะบัดมือเป็นเชิงบอกกับน้องๆว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร แล้วจึงรีบสาวเท้าเดินขึ้นบันไดไปทั้งๆที่มือยังขยำเสื้อตัวเองอยู่แบบนั้น

    พี่ชายจะเป็นอะไรรึเปล่าคะเนี่ย?”

    ลอว์เรนอยากเดินตาม แต่เมื่อพี่ชายแสดงท่าที่ว่าไม่อยากให้ใครไปยุ่งขนาดนี้เธอก็ไม่อยากตอแยอะไรต่อได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างๆนั้นไปเช่นเดียวกับน้องๆคนอื่นๆ

    “…”

    มีเพียงแค่อัลซาลีย์เท่านั้นที่มองคนเป็นพี่ชายด้วยสายตาที่ต่างออกไป

    เธอไม่ได้ไม่เป็นห่วงเขา ทว่าเธอแค่แปลกใจ

    อัลซาลีย์เป็นตุ๊กตา เธอจึงไม่มีหัวใจ ไม่มีชีพจรให้เต้น ผิดกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อันนี้อัลซาลีย์รู้ดี แต่เมื่อกี้ที่เธอเต้นรำกับลูเธอร์เด็กน้อยก็สัมผัสได้ถึง ความแปลกประหลาด บางอย่างในร่างกายของพี่ชายบุญธรรม

    พี่ชายของเธอไม่มีการเคลื่อนไหวของชีพจร

    ไม่มีกระทั่งเสียงหัวใจเต้น…?!?

     

     


    ลูเธอร์สูดลมหายใจเข้าก่อนจะหลับตาลง มือข้างหนึ่งเผลอยกขึ้นมาสัมผัสบริเวณหน้าอกข้างซ้ายของตนเบาๆ

    มันเริ่มเจ็บอีกแล้วสิ

    แม้ว่าภายนอกของเขาจะดูปกติทุกอย่าง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าใต้เสื้อผ้าสีดำราคาแพงนั่นซ่อนอะไรเอาไว้

    แผ่นอกใต้เนื้อผ้าสีดำนั้นดูแข็งแกร่งสมชายชาตรีทุกประการ กล้ามหน้าท้องหรืออะไรเล่าก็สมบูรณ์แบบอย่างที่หลายคนอยากออกกำลังกายทั้งชีวิตให้ได้หุ่นที่น่าอิจฉาแบบเขา แต่ว่าจุดเด่นที่อยากจะกล่าวถึงไม่ใช่ตรงนั้น

    แต่เป็น รอยร้าวแตก ตรงบริเวณที่เป็นหัวใจต่างหาก

    ตรงจุดที่ควรจะเป็นหัวใจของเขาปรากฏช่องว่างสีดำเล็กๆรอยร้าวที่มีศูนย์กลางมาจากช่องว่างนั้นกินพื้นที่ไปเกือบทั่วแผ่นอกช่วงบน ดูแล้วเหมือนกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่ถูกทุบจนร้าวไม่มีผิด..!

    อา…”

    ชายหนุ่มผมทองสะกดลมหายใจเข้าออก ความเจ็บปวดที่หน้าอกเดี๋ยวเพิ่มเดี๋ยวลดอย่างน่าหงุดหงิด ในสมองของชายหนุ่มเริ่มปรากฏภาพของ คนๆหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องเต็มๆกับรอยร้าวนี้

     

    เปล่าประโยชน์น่า อาคาเซล


    เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก...

     

     


    วันนี้อัพด้วยความยาวจุใจ ตระกูลโรเลสตันกับพื้นที่สิบห้าหน้ากระดาษเอสี่! (?)

    ขออนุญาตอัพก่อนเวลาที่ตกลงกันไว้นะคะ เพราะรู้สึกว่าตอนหกโมงไรท์เตอร์ต้องออกไปทำธุระข้างนอก แหะๆ

    สำหรับคนที่มาไม่ทันเมื่อเช้า ขอชี้แจงซ้ำนะคะว่าที่ไม่ได้มาอัพอาทิตย์ที่แล้วเพราะเน็ตพังแถมมีงานอื่นเข้ามาแทรกอีก แต่ตอนนี้มาอัพแล้วน้า!

    div>
    (c)              Chess theme 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×