ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
ณ.ร้านอาหารฝรั่งเศส Buongiorno Cafe
ห้องทำงานหลังร้านของยูริ
"ฮ่ะ จะลาออก คุณหมายความว่ายังไง" เจ้าของร้านยังสงสัยในซองสีขาวของเชฟสาวมือหนึ่งแผนกขนมหวานของร้านยื่นให้
"คะ ก็หมายความว่าฉันขอลาออกนั้นแหละคะ" เชฟสาวยังคงยื่นยันคำตอบ
"ลาออกทำไม แล้วทำไมมันถึงกะทันหันนักหล่ะ" เจ้าของร้านยังคงซักไซ้ต่อไป
"คือ ฉันขอโทษนะคะ แต่ฉันมีปัญหานะคะแม่ฉันป่วยหนักไม่มีใครดูแลท่าน ฉันจึงต้องไปดูแลท่าน" เจ้าของร้านเมื่อฟังเหตุผลของลูกจ้างแล้วก็พยักหน้าเข้าใจ
"เฮ้อ ฉันล่ะเสียดายฝีมือคุณจริง ๆ แต่ฉันเข้าใจคุณนะ ก็แม่คุณป่วยนิ" เจ้าของร้านพูดพลางหยิบแบงค์ในกระเป๋าตังออกมาหลายใบพร้อมใส่ซองยื่นให้ลูกจ้าง
"อะ รับไปซิ" สิ่งที่ยื่นให้ไปทำให้เชฟสาว งวยงง
"อะไรกันคะคุณยูริ เดือนนี้ฉันเพิ่งทำงานไป 2 วันเองนะคะ" เชฟสาวพูดพลางทำหน้าเกรงใจเพราะเดือนนี้เธอยังทำงานยังไม่ถึงอาทิตย์เลยด้วยซ้ำแต่เจ้านายเธอกลับให้เงินเดือนเธอราวกับว่าได้โบนัส 8 เดือน
"นี้ไม่ต้องสงสัยหรอกน้า คุณทำงานอยู่กับฉันมานานแล้วคุณเองก็กำลังเดือดร้อนด้วย แม่คุณป่วยอยู่ไม่ใช้เหรอ คุณลาออกแล้วจะเอาไงที่ไหนไปดูแลแม่คุณหล่ะ"
"แต่มันมากเกินไปนะคะ คุณยูริ" เชฟสาวยังคงปฏิเสธที่จะรับ
"รับไปเถอะหน้า ถือว่าฉันช่วยแม่คุณด้วยล่ะกัน คุณเองก็ช่วยร้านเราไว้เยอะ ถ้าไม่ได้คุณมาช่วยร้านไว้ตอนนั้นร้านเราคงไม่อยู่มาถึงตอนนี้หรอก รับไปเถอะคะ" เจ้าของร้านยื่นซองให้อีกครั้งพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"คะ ขอบคุณมากนะคะคุณยูริ ขอบคุณจริง ๆ" เชฟสาวรับซองจากเจ้านายพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยความซาบซึ้ง
"ไม่เป็นไรน้า อย่าร้องซิ คุณต้องเข้มแข็งเพื่อแม่ของคุณนะ" ยูริพูดพลางเข้าไปกอดเชฟสาวเพื่อให้กำลังใจ โดยไม่รู้ว่ามีผู้จัดการแง้มประตูแอบมองอย่างอิจฉาตาร้อนอยู่
"คุณยูริกอดยัยนั้น โอ้ยฉันอยากจะกรี๊ด" เธอพูดพรึมพรำด้วยความอิจฉาราวกับเด็กน้อยโดนแย่งความรัก
"นี้โชคดีนะยะ ยังไงก็ไปแล้วก็ไปลับหล่ะหวังว่าคงไม่เจอกันอีกนะ ยัยซึงฮยอน" ผู้จัดการร้านจอมอิจฉายื่นกอดอก
พูดแขวะใส่เชฟสาวคู่กัดประจำทันที่หลังเดินออกมาจากห้องเจ้าของร้าน ก่อนจะเดินสะบัดตูดหนี้ไป
"จ๊ะ ยัยซอนเย โปโลเย แล้วเธอจะคิดถึงฉันยัยบ้า" เชฟสาวตะโกนตามหลังซอนเยไปหัวเราะชอบใจกับอาการเด็ก ๆ ของผู้จัดการคนสวย
"สวัสดีคะ โรงแรมควอนควีนพาร์ค ยินดีให้บริการคะ" โอปาเรเตอร์สาวกรอกเสียงหวานใส่โทรศัพท์
"ฮัลโลนี้ฉันยูรินะ ต่อสายผู้จัดการห้องอาหารให้หน่อย ซิคะ" ยูริพูดกับโอปาเรเตอร์ด้วยน้ำเสียอ่อนหวาน
"คะ คุณยูริ รอสักครู่นะคะ"
~~~~~~~ ตืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ~~~~~~~~~~~~~
"ฮัลโลครับ นิชคุณ ผู้จัดการห้องอาหาร five sky พูดครับ"
"ฮัลโลนิชคุณ นี้ฉันยูริเองนะ"
"ครับ คุณหนูยูริ มีอะไรผมรับใช้เหรอครับ"
"คือที่ห้องอาหาร แผนกขนมหวานมีเชฟหลักกี่คน"
" 2 คน ครับ คุณหนู"
"งั้นเหรอ ดึงตัวมาช่วยที่ร้านฉันซักคนได้มั้ย"
"เออ ..................."
"ว่าไง...................หล่ะตกลงว่าได้มั้ยนิชคุณ"
"คือเรื่องนี้ คุณหนูต้องคุยกับท่านประธานเองหน่ะครับ ผมไม่มีอำนาจสั่งการ"
"งั้นเหรอ งั้นพรุ่งนี้ส่งเชฟมาให้ฉันที่ร้านคนนึงละกัน เด๋วฉันไปคุยกับคุณแม่เอง แค่นี้นะ"
"ครับ ครับ คุณหนู"
"เฮ้อ ต้องเจอกับคุณแม่อีกแล้วเหรอเนี้ย" ยูริถอนหายใจพลางทำหน้าเบื่อโลกเมื่อคิดว่าจะต้องไปเจอกับใครที่ทำให้เธอต้องเครียด
ณ.ห้องอาหารในโรงแรมชื่อดังของฝรั่งเศส
"นี้ ซูยองเธอมาสายอีกแล้วนะ" ร่างเร็กเอ่ยทักแฟนสาวร่างสูงอย่างเอือมระอาทันทีที่เห็นร่างสูงเดินมา
"มาถึงก็บ่นเป็นคนแก่อยู่นั้นแหละ น่าเบื่อ" ร่างสูงเอ่ยกับร่างเล็กอย่างเบื่อหน่าย
"ก็มันน่าบ่นมั้ยหล่ะ เธอเป็นคนนัดฉันเองแท้ๆแต่กลับมาสาย" ร่างเล็กยังคงบ่นต่ออย่างอดไม่ได้
"เฮ้อ เข้าเรื่องเลยละกัน" ร่างสูงถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดเข้าเรื่อง
"อะไรกันมาถึงก็จะคุย ไม่สั่งอาหารก่อนแล้วค่อยคุยก็ได้" ร่างเล็กพูดขัดทันทีที่ร่างสูงพูดเสร็จเพราะเธอไม่ทานอะไรมาก่อนเลย เพราะคิดว่าจะมาทานพร้อมแฟนสาวสุดที่รัก
"ฉันไม่หิวอะ ถ้าเธอหิวก็สั่งทานซิ" ร่างเล็กทำหน้าขัดใจร่างสูงเธออุตส่ารอทานอาหารมื้อนี้พร้อมกัน ก่อนจะหยิบเมนูไปสั่งอาหารกับพนักงานอย่างคุ้นเคย ไม่คุ้นเคยได้ไงหล่ะก็เธอเป็นเชฟฝึกหัดทำขนมฝีมือดีที่ห้องอาหารโรงแรมนี้นิ
หลังจากสั่งอาหารไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ
"ไม่กินด้วยกันใช่มะ งั้นฉันกินแล้วนะ" ร่างเล็กย้ำถามร่างสูงอีกครั้งก่อนก้มหน้าทานอาหาร
"ไม่หล่ะ ตามสบาย งั้นเธอกินไปด้วยฟังฉันไปด้วยล่ะกันนะ" ร่างสูงส่ายหน้าก่อนจะพูดเข้าเรื่อง
"ก็ว่ามาซิ" ร่างเล็กเงือยหน้าขึ้นมาพูดก่อนจะก้อกินต่อ
"คือ ....... แทยอน ฉันว่าเราเลิกกันเถอะ" สิ้นคำพูดร่างสูงเส้นสปาเก็ตตี้ในปากแทยอนก็ถูกพ้นมาเต็มหน้าเธอ
"อะไร นะ ธะ ธะ เธอว่าอะไรนะซูยอง" ร่างเล็กถามเสียงติดขัดด้วยความตกใจ
"ฉันบอกว่าเราเลิกกันเถอะแทยอน ชัดมั้ย" ร่างสูงพูดเสียงแข็งพลางเอามือปาดเศษอาหารที่ถูกพ้นใส่หน้าเมื่อกี้
"ชัด แต่ทำไมหล่ะ ฉันไม่เข้าใจ ฉันทำอะไรผิดเหรอ" ร่างเล็กถามอย่างไม่เข้าใจ
"ฉันเบื่อเธอแล้ว ตอนนี้ฉันก็มีคนอื่นแล้วด้วยเข้าใจมั้ย" ร่างสูงพูดเสียงเย็นใส่ร่างเล็กอย่างเบื่อหน่าย มือก็ยังคงปัดเศษอาหารอย่างรังเกียจ
"เลว เธอนี้มันทุเรศจริง ๆ ฉันล่ะสงสารยัยนั้นจริงๆ ที่ได้คนอย่างเธอไป" ร่างเล็กพยายามพูดไม่ให้เสียงสั่น เธอไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอกำลังอ่อนแอ
"ไม่ต้องสงสารเค้าหรอกเพราะฉันรักเค้า จริงๆ ไม่เหมือนเธอที่ฉันก็แค่ ควงเล่นๆ เบื่อแล้วก็เปลี่ยน" ร่างสูงพูดอย่างเหยียดๆ โดยไม่ชายตากลับมามองหน้าแทยอนอีกแม้แต่น้อย
"ทุเรศ คนอย่างเธอนี้มันทุเรศสิ้นดี ไอ้เลวเอ๊ย" ร่างเล็กพูดพลางหยิบน้ำที่เต็มสาดเข้าไปที่หน้าของร่างสูง
"ก็เธอมันน่าเบื่ออย่างงี้ไง แทยอน จืดชืด ไร้รสชาติ น่าเบื่อมากๆ รู้ไว้ซะด้วย" ร่างสูงลุกขึ้นพูดอย่างโมโหพลางหยิบเงินในกระเป๋าตังกระแทกที่โต๊ะ "อะ ถือว่าเป็นมื้อสุดท้ายของเราสองคนล่ะกัน ฉันเลี้ยง" และเดินหนีไปโดยไม่หันมามองแทยอนอีกเลย
แทยอนทรุดลงกับพื้นทันที่ เธอพยายามจะเข้มแข็งแล้วจริงๆ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~DJ Put the Back on ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น แทยอนพยายามคำหาโทรศัพท์ในกระเป๋าใบสวยของเธอ เมื่อเห็นเบอร์โทรเข้าก็ยิ่งอยากร้องไห้หนักเข้าไปใหญ่
"ฮัลโล พี่ยูบินคะ" แทยอนพูดเสียงสั่นสะอื้น
"ฮัลโลแทยอน เธอเป็นอะไรรึป่าว เสียงเหมือนจะร้องไห้" ปลายสายพูดถามอย่างห่วงใย
"ปะ ปะ ป่าว คะ ฉันไม่เป็นไร" แทยอนตอบกัลไปเสียงสั่น
"เหรองั้นเธอก็ทำใจดี ๆ แล้วกันเพราะเธอร้องไห้แน่ ๆ " ยูบินพูดเสียงสั่นบอกน้องสาวให้ทำใจล่วงหน้า
"อะไรล่ะคะพี่ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น" แทยอนรีบถามอย่างร้อนรน
"คะ คือ พ่อเสียแล้วหน่ะ" ยูบินพูดพลางสะอื้น
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~เงียบ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ไม่เสียงตอบรับอะไรกลับมาตอนนี้แทยอน ช็อคไปแล้ว
"แทยอน แทยอน เธอเป็นอะไรรึป่าว" ปลายสายเอ่ยร้องเสียงน้องสาวที่เงียบไปอย่างเป็นห่วง
"คะ คะ พี่ยูบิน ฉันไม่เป็นไร ว่าแต่พ่อเป็นอะไรตายคะ" แทยอนพยายามถามเสียงสั่น
"คือ ว่าพ่อกินเหล้าแล้วเดินตากหิมะอะก็เลยหัวใจวายกะทันหันนะ เธอรีบกลับมาเลยนะ เพราะพี่มาถึงเกาหลีแล้ว"
"คา คะ แล้วฉันจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด" แทยอนพูดพลางเสียงสั่นก่อนจะว่างสายไป
"นี้มันอะไรเนี้ย บ้ามันบ้าที่สุดเลย นี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับฉันวะเนี้ย" แทยอนเอ่ยพรึมพรำกับตัวเองน้อยใจความโชคร้ายต่างๆที่เข้ามาพร้อมๆกันของตัวเองเหลือเกิน
อีกฝากนึงของโลก มลรัฐแมสซาซูเสต สหรัฐอเมริกา
"ไฮ ทิฟฟานี่" เสียงหวานจากเจสสิก้าเอ่ยทักหมอที่รักษาเธอก่อนจะเดินเข้ามากอด
"อ้าวสิก้า ทำไมมาไม่โทรมาบอกก่อนหล่ะจะได้ไปรับ" หมอสาวเอ่ยถามพลางกอดตอบร่างบาง
"ไม่เป็นไรหรอก ไม่อยากรบกวนฟานี่นะ" ร่างบางผละตัวออกก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานทิฟฟานี่
"ว่าแต่วันนี้สิก้ามาหาฟานี่ถึงโรงบาลมาอะไรรึป่าว วันนี้ไม่ได้นัดตรวจนิ" ทิฟฟานี่เอ่ยถามอย่างสงสัย
"ก็คิดถึงมาหาไม่ได้หรือไง จะมาชวนไปทานข้าวหนะ" เจสสิก้าพูดพลางทำหน้างอน
"ปากหวานจริงนะ โอ๋ ๆๆๆ อย่างอนเลยนะคะ สิก้าอยากกินอะไรหล่ะ เด๋วฟานี่เลี้ยงเอง" ทิฟฟานี่พูดง้อคนสวย
"จริงนะ งั้นไปกินอาหารฝรั่งเศสกัน สิก้าอยากกิน" ได้ผลเจสสิก้าหายงอนพลางยิ้มหวานตอบเสียงใส
"หายงอนเร็วจังนะ เมื่อกี้แกล้งงอนฟานี่ป่ะเนี้ย" ทิฟฟานี่เอ่ยถามพลางยิ้มหวานกลับไป
"ไม่ได้แกล้งนะ งอนจริง ๆ " เจสสิก้าพูดพลางกอดอกมองหน้าทิฟฟานี่อย่างเคือง ๆ
"โอ๋ ๆ โอเค ไม่แกล้งก็ไม่แกล้ง อย่างอนเลยนะ เด๋วฟานี่เก็บของก่อนนะ" ทิฟฟานี่พูดยิ้มพลางเก็บของไปด้วย
"โอเค เร็วๆ หล่ะ สิก้าหิวแล้ว"
ร้านอาหารฝรั่งเศส
"ฟานี่วันนี้ ฟานี่จนแน่ เพราะสิก้าหิวมาก" เจสสิก้าพูดอย่างเจ้าเล่ห์พลางหยิบเมนูอาหารมาเปิดดู
"ตามสบายคะองค์หญิงสิก้า จ่ายเยอะไม่กลัวหรอก กลัวเธอจะกินไม่หมดมากกว่า" ทิฟฟานี่พูดยิ้มพลางมองหน้าคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู เอ็นดูในความน่ารักขี้อ้อนของเจ้าตัวเหลือเกิน
"ไม่มีทางหรอก ฟานี่ก็ต้องกินเป็นเพื่อนสิก้าจนกว่าจะหมดอยู่แล้วแหละ"
"อะคะ ฟานี่ยอมแพ้แล้ว เต็มที่เลยนะคะองค์หญิง" ทิฟฟานี่พูดอย่างยอมแพ้เธอเถียงสู้เจสสิก้าไม่ได้จริงๆ
หลังจากนั้นไม่นานอาหารก็มาวางอยู่ตรงหน้าทั้งสองสาวเต็มโต๊ะ
"นี้ฟานี่กินนี้สิ อร่อยมากกกกกกกกก" เจสสิก้าพูดพลางตักอาหารใส่จานทิฟฟานี่
"ค้า ขอบคุณนะคะ สิก้าเองก็กินเยอะ ๆ หล่ะ จะได้แข็งแรงๆ" ทิฟฟานี่พูดพลางตักอาหารเข้าปาก
"นี้ทิฟฟานี่ อาทิตย์หน้าฉันจะได้กลับเกาหลีแล้วนะ" เจสสิก้าเอ่ยอย่างตื่นเต้นใบหน้าสดใส ในขณะที่อีกคนหน้าเศร้าลงทันที
"เหรอ ถึงเวลาสิก้าจะกลับไปหาเค้าคนนั้นแล้วเหรอ" ทิฟฟานี่เงยหน้าจากอาหารถามพยายามรักษาสีหน้าให้ยิ้มเข้าไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาจับผิดของเจสสิก้าไปได้หรอก
"ฟานี่อ่า อย่างฝืนยิ้มอย่างนั้นสิ ฟานี่กลับไปกะสิก้าด้วยสิ" เจสสิก้าพยายามพูดให้ทิฟฟานี่สบายใจ
"ไม่เอาหรอก ไปให้ปวดใจ ฟานี่ไม่ไปหรอก" ทิฟฟานี่พูดพลางทำหน้าเศร้า
"โถ่ ฟานี่อ่า อย่าพูดแบบนี้ซิ สิก้าไม่สบายใจนะ" เจสสิก้าพูดพลางทำหน้าไม่สบายใจ ทิฟฟานี่เห็นดังนั้นก็อดน้อยใจไม่ได้ก็เธอรักเจสสิก้ามากนะสิ รักมาตลอดถึงแม้จะรู้ว่าเจสสิก้ารักใครก็ตาม ขอแค่เธอได้ดูแลเจสสิก้าได้อยู่ใกล้ ๆ เธออย่างงี้ก็พอแล้ว แต่เธอต้องปั้นหน้ายิ้มออกไปเพราะเธอไม่อยากให้คนที่เธอรักนั้นไม่สบายใจ
"สิก้าอย่าทำหน้าแบบนั้นซิ ฟานี่ล้อเล่นนะ"
"งั้น ฟานี่ก็ไปกับสิก้าซิ"
"ฟานี่ไปไม่ได้ ฟานี่ติดเคสนะคนไข้มะเร็งลำไส้อยู่อะ"
"แล้วจะเคสนี้จะเสร็จเมื่อไหร่ สิก้าอยากให้ฟานี่ไปเที่ยวเกาหลีด้วยกันนะ" เจสสิก้าพูดพลางทำเสียงอ้อน
"อีกประมาณเดือนนึงอะ ต้องรอดูอาการโดยรวมไปเรื่อย ๆ หนะ"
"งั้นอีกหนึ่งเดือนฟานี่ต้องลาพักร้อนยาว ๆ แล้วตามสิก้าไปเกาหลีนะ" เจสสิก้าพูดพลางทำตาแป๋วอ้อนเอาแต่ใจ
"ไม่รู้ สิ ฟานี่ยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้หรอกสิก้า" ทิฟฟานี่ตอบพลางทำหน้าเศร้า
"ทำไมหล่ะฟานี่ สิก้าไปอยู่เกาหลีคนเดียวฟานี่ไม่ห่วงสิก้าเลยเหรอ" เจสสิก้าพูดพลางทำหน้างอน
"โถ่ สิก้าอ่า อย่างอนสิคะ ไม่น่ารักเลยน้า" ทิฟฟานี้พูดพลางเอื่อมมือไปกุมมืออีกฝ่ายไว้
"ใช่ซิ สิก้ามันไม่น่ารักแล้วนี้ งั้นฟานี่ก็ปล่อยให้สิก้าไปเผชิญกับผู้คนมากมายคนเดียวตามลำพังก็แล้วกัน" เจสสิก้าพูดพลางชักมือออกแล้วกอดอก
"โอเค โอเค คะสิก้า เด๋วถ้าจบเคสนี้แล้วฟานี่จะลาพักร้อนซัก 2 เดือน แล้วบินไปหาสิก้าที่เกาหลีทันทีเลย โอเคมั้ย"
ไม่รู้อะไรดลบันดาลให้ทิฟฟานี่พูดออกไปแบบนั้นทั้งที่รู้ว่าถ้าเธอตามเจสสิก้ากลับไปเกาหลีเธออาจจะต้องเจ็บปวดเพราะเจสสิก้าตั้งใจจะกลับไปง้อคนรักของเธอ อาจจะเป็นเพราะเธอเป็นห่วงเจสสิก้ามากถึงต้องยอมเจ็บปวดมากกว่าที่จะยอมให้เจสสิก้าเป็นอะไรไป เธอรู้ดีว่าเจสสิก้าแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมมากจนไม่ต้องพึงเธออยู่ข้างกายตลอดเวลาแต่ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดีเธอได้รับการดูแลอย่างดีมาตลอด และหน้าที่นั้นมันควรจะต้องดำเนินต่อไปและต้องเป็นเธอ เธอคนเดียวเท่านั้น ที่จะต้องทำหน้าที่นี้ เธอรู้ดีที่สุดว่าเจสสิก้าจะมีอาการยังไง เวลาอาการกำเริบ
"เย้ ฟานี่น่ารักที่สุดเลย " เจสสิก้าเอ่ยอย่างดีใจก่อนจะลุกไปหอมแก้มใสๆของทิฟฟานี่ เล่นเอาคนถูกกระทำหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศด้วยความเขินอายที่พุ่งทะลุปรอดแตกไปแล้ว
แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงอยากให้ทิฟฟานี่ไปเกาหลีกับเธอนักทั้งที่เธอเองตั้งใจจะไปง้อคนรักของเธอแล้วเธอเองก็รู้ว่าทิฟฟานี่คิดยังไงกับเธอแต่เธอก็ยังลากทิฟฟานี่เข้ามาเจ็บปวดเธอเองไม่ได้รู้สึกไม่ดีที่ทิฟฟานี่มีใจให้เธอแต่เธอเองก็รู้สึกดี ๆ กับทิฟฟานี่เหมือนกันแต่เธอหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อทิฟฟานี่นั้นเป็นไปในรูปแบบไหน ทั้งๆที่เธอเองก็มีคนที่รักมากอยู่แล้วและเธอกำลังจะกลับไปหาเค้า แต่เธอเองก็ขาดทิฟฟานี่ไม่ได้เหมือนกัน จะว่าเธอเป็นคนเห็นแก่ตัวก็ได้แต่เธอก็ขาดทิฟฟานี่ไม่ได้จริงๆ ทำไมนะ
ตอนแรกขอคอมเม้นเยอะ ๆ นะคะเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์เขียนตอนต่อไปไง
รีดเดอร์ที่รัก ถ้าไม่เม้นไม่อัพต่อจริง ๆ ด้วย ไม่ได้ขู่นะจ๊ะ
ห้องทำงานหลังร้านของยูริ
"ฮ่ะ จะลาออก คุณหมายความว่ายังไง" เจ้าของร้านยังสงสัยในซองสีขาวของเชฟสาวมือหนึ่งแผนกขนมหวานของร้านยื่นให้
"คะ ก็หมายความว่าฉันขอลาออกนั้นแหละคะ" เชฟสาวยังคงยื่นยันคำตอบ
"ลาออกทำไม แล้วทำไมมันถึงกะทันหันนักหล่ะ" เจ้าของร้านยังคงซักไซ้ต่อไป
"คือ ฉันขอโทษนะคะ แต่ฉันมีปัญหานะคะแม่ฉันป่วยหนักไม่มีใครดูแลท่าน ฉันจึงต้องไปดูแลท่าน" เจ้าของร้านเมื่อฟังเหตุผลของลูกจ้างแล้วก็พยักหน้าเข้าใจ
"เฮ้อ ฉันล่ะเสียดายฝีมือคุณจริง ๆ แต่ฉันเข้าใจคุณนะ ก็แม่คุณป่วยนิ" เจ้าของร้านพูดพลางหยิบแบงค์ในกระเป๋าตังออกมาหลายใบพร้อมใส่ซองยื่นให้ลูกจ้าง
"อะ รับไปซิ" สิ่งที่ยื่นให้ไปทำให้เชฟสาว งวยงง
"อะไรกันคะคุณยูริ เดือนนี้ฉันเพิ่งทำงานไป 2 วันเองนะคะ" เชฟสาวพูดพลางทำหน้าเกรงใจเพราะเดือนนี้เธอยังทำงานยังไม่ถึงอาทิตย์เลยด้วยซ้ำแต่เจ้านายเธอกลับให้เงินเดือนเธอราวกับว่าได้โบนัส 8 เดือน
"นี้ไม่ต้องสงสัยหรอกน้า คุณทำงานอยู่กับฉันมานานแล้วคุณเองก็กำลังเดือดร้อนด้วย แม่คุณป่วยอยู่ไม่ใช้เหรอ คุณลาออกแล้วจะเอาไงที่ไหนไปดูแลแม่คุณหล่ะ"
"แต่มันมากเกินไปนะคะ คุณยูริ" เชฟสาวยังคงปฏิเสธที่จะรับ
"รับไปเถอะหน้า ถือว่าฉันช่วยแม่คุณด้วยล่ะกัน คุณเองก็ช่วยร้านเราไว้เยอะ ถ้าไม่ได้คุณมาช่วยร้านไว้ตอนนั้นร้านเราคงไม่อยู่มาถึงตอนนี้หรอก รับไปเถอะคะ" เจ้าของร้านยื่นซองให้อีกครั้งพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"คะ ขอบคุณมากนะคะคุณยูริ ขอบคุณจริง ๆ" เชฟสาวรับซองจากเจ้านายพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยความซาบซึ้ง
"ไม่เป็นไรน้า อย่าร้องซิ คุณต้องเข้มแข็งเพื่อแม่ของคุณนะ" ยูริพูดพลางเข้าไปกอดเชฟสาวเพื่อให้กำลังใจ โดยไม่รู้ว่ามีผู้จัดการแง้มประตูแอบมองอย่างอิจฉาตาร้อนอยู่
"คุณยูริกอดยัยนั้น โอ้ยฉันอยากจะกรี๊ด" เธอพูดพรึมพรำด้วยความอิจฉาราวกับเด็กน้อยโดนแย่งความรัก
"นี้โชคดีนะยะ ยังไงก็ไปแล้วก็ไปลับหล่ะหวังว่าคงไม่เจอกันอีกนะ ยัยซึงฮยอน" ผู้จัดการร้านจอมอิจฉายื่นกอดอก
พูดแขวะใส่เชฟสาวคู่กัดประจำทันที่หลังเดินออกมาจากห้องเจ้าของร้าน ก่อนจะเดินสะบัดตูดหนี้ไป
"จ๊ะ ยัยซอนเย โปโลเย แล้วเธอจะคิดถึงฉันยัยบ้า" เชฟสาวตะโกนตามหลังซอนเยไปหัวเราะชอบใจกับอาการเด็ก ๆ ของผู้จัดการคนสวย
"สวัสดีคะ โรงแรมควอนควีนพาร์ค ยินดีให้บริการคะ" โอปาเรเตอร์สาวกรอกเสียงหวานใส่โทรศัพท์
"ฮัลโลนี้ฉันยูรินะ ต่อสายผู้จัดการห้องอาหารให้หน่อย ซิคะ" ยูริพูดกับโอปาเรเตอร์ด้วยน้ำเสียอ่อนหวาน
"คะ คุณยูริ รอสักครู่นะคะ"
~~~~~~~ ตืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ~~~~~~~~~~~~~
"ฮัลโลครับ นิชคุณ ผู้จัดการห้องอาหาร five sky พูดครับ"
"ฮัลโลนิชคุณ นี้ฉันยูริเองนะ"
"ครับ คุณหนูยูริ มีอะไรผมรับใช้เหรอครับ"
"คือที่ห้องอาหาร แผนกขนมหวานมีเชฟหลักกี่คน"
" 2 คน ครับ คุณหนู"
"งั้นเหรอ ดึงตัวมาช่วยที่ร้านฉันซักคนได้มั้ย"
"เออ ..................."
"ว่าไง...................หล่ะตกลงว่าได้มั้ยนิชคุณ"
"คือเรื่องนี้ คุณหนูต้องคุยกับท่านประธานเองหน่ะครับ ผมไม่มีอำนาจสั่งการ"
"งั้นเหรอ งั้นพรุ่งนี้ส่งเชฟมาให้ฉันที่ร้านคนนึงละกัน เด๋วฉันไปคุยกับคุณแม่เอง แค่นี้นะ"
"ครับ ครับ คุณหนู"
"เฮ้อ ต้องเจอกับคุณแม่อีกแล้วเหรอเนี้ย" ยูริถอนหายใจพลางทำหน้าเบื่อโลกเมื่อคิดว่าจะต้องไปเจอกับใครที่ทำให้เธอต้องเครียด
ณ.ห้องอาหารในโรงแรมชื่อดังของฝรั่งเศส
"นี้ ซูยองเธอมาสายอีกแล้วนะ" ร่างเร็กเอ่ยทักแฟนสาวร่างสูงอย่างเอือมระอาทันทีที่เห็นร่างสูงเดินมา
"มาถึงก็บ่นเป็นคนแก่อยู่นั้นแหละ น่าเบื่อ" ร่างสูงเอ่ยกับร่างเล็กอย่างเบื่อหน่าย
"ก็มันน่าบ่นมั้ยหล่ะ เธอเป็นคนนัดฉันเองแท้ๆแต่กลับมาสาย" ร่างเล็กยังคงบ่นต่ออย่างอดไม่ได้
"เฮ้อ เข้าเรื่องเลยละกัน" ร่างสูงถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดเข้าเรื่อง
"อะไรกันมาถึงก็จะคุย ไม่สั่งอาหารก่อนแล้วค่อยคุยก็ได้" ร่างเล็กพูดขัดทันทีที่ร่างสูงพูดเสร็จเพราะเธอไม่ทานอะไรมาก่อนเลย เพราะคิดว่าจะมาทานพร้อมแฟนสาวสุดที่รัก
"ฉันไม่หิวอะ ถ้าเธอหิวก็สั่งทานซิ" ร่างเล็กทำหน้าขัดใจร่างสูงเธออุตส่ารอทานอาหารมื้อนี้พร้อมกัน ก่อนจะหยิบเมนูไปสั่งอาหารกับพนักงานอย่างคุ้นเคย ไม่คุ้นเคยได้ไงหล่ะก็เธอเป็นเชฟฝึกหัดทำขนมฝีมือดีที่ห้องอาหารโรงแรมนี้นิ
หลังจากสั่งอาหารไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ
"ไม่กินด้วยกันใช่มะ งั้นฉันกินแล้วนะ" ร่างเล็กย้ำถามร่างสูงอีกครั้งก่อนก้มหน้าทานอาหาร
"ไม่หล่ะ ตามสบาย งั้นเธอกินไปด้วยฟังฉันไปด้วยล่ะกันนะ" ร่างสูงส่ายหน้าก่อนจะพูดเข้าเรื่อง
"ก็ว่ามาซิ" ร่างเล็กเงือยหน้าขึ้นมาพูดก่อนจะก้อกินต่อ
"คือ ....... แทยอน ฉันว่าเราเลิกกันเถอะ" สิ้นคำพูดร่างสูงเส้นสปาเก็ตตี้ในปากแทยอนก็ถูกพ้นมาเต็มหน้าเธอ
"อะไร นะ ธะ ธะ เธอว่าอะไรนะซูยอง" ร่างเล็กถามเสียงติดขัดด้วยความตกใจ
"ฉันบอกว่าเราเลิกกันเถอะแทยอน ชัดมั้ย" ร่างสูงพูดเสียงแข็งพลางเอามือปาดเศษอาหารที่ถูกพ้นใส่หน้าเมื่อกี้
"ชัด แต่ทำไมหล่ะ ฉันไม่เข้าใจ ฉันทำอะไรผิดเหรอ" ร่างเล็กถามอย่างไม่เข้าใจ
"ฉันเบื่อเธอแล้ว ตอนนี้ฉันก็มีคนอื่นแล้วด้วยเข้าใจมั้ย" ร่างสูงพูดเสียงเย็นใส่ร่างเล็กอย่างเบื่อหน่าย มือก็ยังคงปัดเศษอาหารอย่างรังเกียจ
"เลว เธอนี้มันทุเรศจริง ๆ ฉันล่ะสงสารยัยนั้นจริงๆ ที่ได้คนอย่างเธอไป" ร่างเล็กพยายามพูดไม่ให้เสียงสั่น เธอไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอกำลังอ่อนแอ
"ไม่ต้องสงสารเค้าหรอกเพราะฉันรักเค้า จริงๆ ไม่เหมือนเธอที่ฉันก็แค่ ควงเล่นๆ เบื่อแล้วก็เปลี่ยน" ร่างสูงพูดอย่างเหยียดๆ โดยไม่ชายตากลับมามองหน้าแทยอนอีกแม้แต่น้อย
"ทุเรศ คนอย่างเธอนี้มันทุเรศสิ้นดี ไอ้เลวเอ๊ย" ร่างเล็กพูดพลางหยิบน้ำที่เต็มสาดเข้าไปที่หน้าของร่างสูง
"ก็เธอมันน่าเบื่ออย่างงี้ไง แทยอน จืดชืด ไร้รสชาติ น่าเบื่อมากๆ รู้ไว้ซะด้วย" ร่างสูงลุกขึ้นพูดอย่างโมโหพลางหยิบเงินในกระเป๋าตังกระแทกที่โต๊ะ "อะ ถือว่าเป็นมื้อสุดท้ายของเราสองคนล่ะกัน ฉันเลี้ยง" และเดินหนีไปโดยไม่หันมามองแทยอนอีกเลย
แทยอนทรุดลงกับพื้นทันที่ เธอพยายามจะเข้มแข็งแล้วจริงๆ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~DJ Put the Back on ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น แทยอนพยายามคำหาโทรศัพท์ในกระเป๋าใบสวยของเธอ เมื่อเห็นเบอร์โทรเข้าก็ยิ่งอยากร้องไห้หนักเข้าไปใหญ่
"ฮัลโล พี่ยูบินคะ" แทยอนพูดเสียงสั่นสะอื้น
"ฮัลโลแทยอน เธอเป็นอะไรรึป่าว เสียงเหมือนจะร้องไห้" ปลายสายพูดถามอย่างห่วงใย
"ปะ ปะ ป่าว คะ ฉันไม่เป็นไร" แทยอนตอบกัลไปเสียงสั่น
"เหรองั้นเธอก็ทำใจดี ๆ แล้วกันเพราะเธอร้องไห้แน่ ๆ " ยูบินพูดเสียงสั่นบอกน้องสาวให้ทำใจล่วงหน้า
"อะไรล่ะคะพี่ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น" แทยอนรีบถามอย่างร้อนรน
"คะ คือ พ่อเสียแล้วหน่ะ" ยูบินพูดพลางสะอื้น
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~เงียบ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ไม่เสียงตอบรับอะไรกลับมาตอนนี้แทยอน ช็อคไปแล้ว
"แทยอน แทยอน เธอเป็นอะไรรึป่าว" ปลายสายเอ่ยร้องเสียงน้องสาวที่เงียบไปอย่างเป็นห่วง
"คะ คะ พี่ยูบิน ฉันไม่เป็นไร ว่าแต่พ่อเป็นอะไรตายคะ" แทยอนพยายามถามเสียงสั่น
"คือ ว่าพ่อกินเหล้าแล้วเดินตากหิมะอะก็เลยหัวใจวายกะทันหันนะ เธอรีบกลับมาเลยนะ เพราะพี่มาถึงเกาหลีแล้ว"
"คา คะ แล้วฉันจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด" แทยอนพูดพลางเสียงสั่นก่อนจะว่างสายไป
"นี้มันอะไรเนี้ย บ้ามันบ้าที่สุดเลย นี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับฉันวะเนี้ย" แทยอนเอ่ยพรึมพรำกับตัวเองน้อยใจความโชคร้ายต่างๆที่เข้ามาพร้อมๆกันของตัวเองเหลือเกิน
อีกฝากนึงของโลก มลรัฐแมสซาซูเสต สหรัฐอเมริกา
"ไฮ ทิฟฟานี่" เสียงหวานจากเจสสิก้าเอ่ยทักหมอที่รักษาเธอก่อนจะเดินเข้ามากอด
"อ้าวสิก้า ทำไมมาไม่โทรมาบอกก่อนหล่ะจะได้ไปรับ" หมอสาวเอ่ยถามพลางกอดตอบร่างบาง
"ไม่เป็นไรหรอก ไม่อยากรบกวนฟานี่นะ" ร่างบางผละตัวออกก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานทิฟฟานี่
"ว่าแต่วันนี้สิก้ามาหาฟานี่ถึงโรงบาลมาอะไรรึป่าว วันนี้ไม่ได้นัดตรวจนิ" ทิฟฟานี่เอ่ยถามอย่างสงสัย
"ก็คิดถึงมาหาไม่ได้หรือไง จะมาชวนไปทานข้าวหนะ" เจสสิก้าพูดพลางทำหน้างอน
"ปากหวานจริงนะ โอ๋ ๆๆๆ อย่างอนเลยนะคะ สิก้าอยากกินอะไรหล่ะ เด๋วฟานี่เลี้ยงเอง" ทิฟฟานี่พูดง้อคนสวย
"จริงนะ งั้นไปกินอาหารฝรั่งเศสกัน สิก้าอยากกิน" ได้ผลเจสสิก้าหายงอนพลางยิ้มหวานตอบเสียงใส
"หายงอนเร็วจังนะ เมื่อกี้แกล้งงอนฟานี่ป่ะเนี้ย" ทิฟฟานี่เอ่ยถามพลางยิ้มหวานกลับไป
"ไม่ได้แกล้งนะ งอนจริง ๆ " เจสสิก้าพูดพลางกอดอกมองหน้าทิฟฟานี่อย่างเคือง ๆ
"โอ๋ ๆ โอเค ไม่แกล้งก็ไม่แกล้ง อย่างอนเลยนะ เด๋วฟานี่เก็บของก่อนนะ" ทิฟฟานี่พูดยิ้มพลางเก็บของไปด้วย
"โอเค เร็วๆ หล่ะ สิก้าหิวแล้ว"
ร้านอาหารฝรั่งเศส
"ฟานี่วันนี้ ฟานี่จนแน่ เพราะสิก้าหิวมาก" เจสสิก้าพูดอย่างเจ้าเล่ห์พลางหยิบเมนูอาหารมาเปิดดู
"ตามสบายคะองค์หญิงสิก้า จ่ายเยอะไม่กลัวหรอก กลัวเธอจะกินไม่หมดมากกว่า" ทิฟฟานี่พูดยิ้มพลางมองหน้าคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู เอ็นดูในความน่ารักขี้อ้อนของเจ้าตัวเหลือเกิน
"ไม่มีทางหรอก ฟานี่ก็ต้องกินเป็นเพื่อนสิก้าจนกว่าจะหมดอยู่แล้วแหละ"
"อะคะ ฟานี่ยอมแพ้แล้ว เต็มที่เลยนะคะองค์หญิง" ทิฟฟานี่พูดอย่างยอมแพ้เธอเถียงสู้เจสสิก้าไม่ได้จริงๆ
หลังจากนั้นไม่นานอาหารก็มาวางอยู่ตรงหน้าทั้งสองสาวเต็มโต๊ะ
"นี้ฟานี่กินนี้สิ อร่อยมากกกกกกกกก" เจสสิก้าพูดพลางตักอาหารใส่จานทิฟฟานี่
"ค้า ขอบคุณนะคะ สิก้าเองก็กินเยอะ ๆ หล่ะ จะได้แข็งแรงๆ" ทิฟฟานี่พูดพลางตักอาหารเข้าปาก
"นี้ทิฟฟานี่ อาทิตย์หน้าฉันจะได้กลับเกาหลีแล้วนะ" เจสสิก้าเอ่ยอย่างตื่นเต้นใบหน้าสดใส ในขณะที่อีกคนหน้าเศร้าลงทันที
"เหรอ ถึงเวลาสิก้าจะกลับไปหาเค้าคนนั้นแล้วเหรอ" ทิฟฟานี่เงยหน้าจากอาหารถามพยายามรักษาสีหน้าให้ยิ้มเข้าไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาจับผิดของเจสสิก้าไปได้หรอก
"ฟานี่อ่า อย่างฝืนยิ้มอย่างนั้นสิ ฟานี่กลับไปกะสิก้าด้วยสิ" เจสสิก้าพยายามพูดให้ทิฟฟานี่สบายใจ
"ไม่เอาหรอก ไปให้ปวดใจ ฟานี่ไม่ไปหรอก" ทิฟฟานี่พูดพลางทำหน้าเศร้า
"โถ่ ฟานี่อ่า อย่าพูดแบบนี้ซิ สิก้าไม่สบายใจนะ" เจสสิก้าพูดพลางทำหน้าไม่สบายใจ ทิฟฟานี่เห็นดังนั้นก็อดน้อยใจไม่ได้ก็เธอรักเจสสิก้ามากนะสิ รักมาตลอดถึงแม้จะรู้ว่าเจสสิก้ารักใครก็ตาม ขอแค่เธอได้ดูแลเจสสิก้าได้อยู่ใกล้ ๆ เธออย่างงี้ก็พอแล้ว แต่เธอต้องปั้นหน้ายิ้มออกไปเพราะเธอไม่อยากให้คนที่เธอรักนั้นไม่สบายใจ
"สิก้าอย่าทำหน้าแบบนั้นซิ ฟานี่ล้อเล่นนะ"
"งั้น ฟานี่ก็ไปกับสิก้าซิ"
"ฟานี่ไปไม่ได้ ฟานี่ติดเคสนะคนไข้มะเร็งลำไส้อยู่อะ"
"แล้วจะเคสนี้จะเสร็จเมื่อไหร่ สิก้าอยากให้ฟานี่ไปเที่ยวเกาหลีด้วยกันนะ" เจสสิก้าพูดพลางทำเสียงอ้อน
"อีกประมาณเดือนนึงอะ ต้องรอดูอาการโดยรวมไปเรื่อย ๆ หนะ"
"งั้นอีกหนึ่งเดือนฟานี่ต้องลาพักร้อนยาว ๆ แล้วตามสิก้าไปเกาหลีนะ" เจสสิก้าพูดพลางทำตาแป๋วอ้อนเอาแต่ใจ
"ไม่รู้ สิ ฟานี่ยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้หรอกสิก้า" ทิฟฟานี่ตอบพลางทำหน้าเศร้า
"ทำไมหล่ะฟานี่ สิก้าไปอยู่เกาหลีคนเดียวฟานี่ไม่ห่วงสิก้าเลยเหรอ" เจสสิก้าพูดพลางทำหน้างอน
"โถ่ สิก้าอ่า อย่างอนสิคะ ไม่น่ารักเลยน้า" ทิฟฟานี้พูดพลางเอื่อมมือไปกุมมืออีกฝ่ายไว้
"ใช่ซิ สิก้ามันไม่น่ารักแล้วนี้ งั้นฟานี่ก็ปล่อยให้สิก้าไปเผชิญกับผู้คนมากมายคนเดียวตามลำพังก็แล้วกัน" เจสสิก้าพูดพลางชักมือออกแล้วกอดอก
"โอเค โอเค คะสิก้า เด๋วถ้าจบเคสนี้แล้วฟานี่จะลาพักร้อนซัก 2 เดือน แล้วบินไปหาสิก้าที่เกาหลีทันทีเลย โอเคมั้ย"
ไม่รู้อะไรดลบันดาลให้ทิฟฟานี่พูดออกไปแบบนั้นทั้งที่รู้ว่าถ้าเธอตามเจสสิก้ากลับไปเกาหลีเธออาจจะต้องเจ็บปวดเพราะเจสสิก้าตั้งใจจะกลับไปง้อคนรักของเธอ อาจจะเป็นเพราะเธอเป็นห่วงเจสสิก้ามากถึงต้องยอมเจ็บปวดมากกว่าที่จะยอมให้เจสสิก้าเป็นอะไรไป เธอรู้ดีว่าเจสสิก้าแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมมากจนไม่ต้องพึงเธออยู่ข้างกายตลอดเวลาแต่ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดีเธอได้รับการดูแลอย่างดีมาตลอด และหน้าที่นั้นมันควรจะต้องดำเนินต่อไปและต้องเป็นเธอ เธอคนเดียวเท่านั้น ที่จะต้องทำหน้าที่นี้ เธอรู้ดีที่สุดว่าเจสสิก้าจะมีอาการยังไง เวลาอาการกำเริบ
"เย้ ฟานี่น่ารักที่สุดเลย " เจสสิก้าเอ่ยอย่างดีใจก่อนจะลุกไปหอมแก้มใสๆของทิฟฟานี่ เล่นเอาคนถูกกระทำหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศด้วยความเขินอายที่พุ่งทะลุปรอดแตกไปแล้ว
แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงอยากให้ทิฟฟานี่ไปเกาหลีกับเธอนักทั้งที่เธอเองตั้งใจจะไปง้อคนรักของเธอแล้วเธอเองก็รู้ว่าทิฟฟานี่คิดยังไงกับเธอแต่เธอก็ยังลากทิฟฟานี่เข้ามาเจ็บปวดเธอเองไม่ได้รู้สึกไม่ดีที่ทิฟฟานี่มีใจให้เธอแต่เธอเองก็รู้สึกดี ๆ กับทิฟฟานี่เหมือนกันแต่เธอหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อทิฟฟานี่นั้นเป็นไปในรูปแบบไหน ทั้งๆที่เธอเองก็มีคนที่รักมากอยู่แล้วและเธอกำลังจะกลับไปหาเค้า แต่เธอเองก็ขาดทิฟฟานี่ไม่ได้เหมือนกัน จะว่าเธอเป็นคนเห็นแก่ตัวก็ได้แต่เธอก็ขาดทิฟฟานี่ไม่ได้จริงๆ ทำไมนะ
ตอนแรกขอคอมเม้นเยอะ ๆ นะคะเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์เขียนตอนต่อไปไง
รีดเดอร์ที่รัก ถ้าไม่เม้นไม่อัพต่อจริง ๆ ด้วย ไม่ได้ขู่นะจ๊ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น