NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dragon story (fic game of thrones)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1: การเกิดใหม่ของเดม่อน

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 66


     

         

    ตอนที่1:การเกิดใหม่ของเดม่อน

     

     

        

         ในขณะที่กำลังดูซีรี่ย์เรื่องโปรดอยู่นั้น ธันวาก็เกิดไม่อยากดูตอนจบของเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเขาได้รู้ตอนจบมาจากโลกโซเชี่ยลว่าตัวละครแม่มังกรตัวละครที่เขาชอบที่สุดถูกฆ่าตายนั้นเอง

     

         แถมตัวละครชายที่ฆ่าเธอยังเป็นหนึ่งในตัวละครที่เขาชอบอีกด้วย บ้าเอ้ย!! ไม่น่าฟังสปอยก่อนดูเลย ฮึกๆ อยากจิร้องไห้~

     

         ในขณะที่กำลังต่อสู้กับตัวเองว่าจะดูภาคจบของซีรี่ย์ดีไหม จู่ๆก็เกิดเสียงดังตู้ม!! พร้อมกับไฟและเศษปูน ใช่!บ้านผมระเบิด

     

          ผมมองไปรอบๆ ตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่บนพื้นโดยมีแผ่นปูนทับอยู่ ข้าวของกระจัดกระจายและไฟที่ไหม้เป็นจุดๆ ผมไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นในหัว

     

          “ เราขอโทษ ที่เป็นเหตุทำให้เจ้าต้องตายก่อนเวลาอันควร เพื่อเป็นการชดเชย เราจะให้โอกาสเจ้าในการไปเกิดใหม่ในซีรี่ย์เรื่องที่เจ้าชอบก็แล้วกัน”

     

          นี้มันอะไรกันเนี่ย ปวดหัวชะมัด แล้วทำไมตูถึงมาอยู่กลางทะเลได้วะ 

     

          ดูเหมือนว่าเขากำลังอยู่บนเรือสำเภาในยุคกลางเลยแฮะ แล้วคนพวกนี้มันอะไรกัน แต่งตัวอย่างกับเล่นซีรี่ย์เรื่องโปรดของเขาอย่างนั้นแหละ 
     

         “โอ๊ย!!”อยู่ก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา แล้วความทรงจำของเจ้าของร่างก็ผลุดขึ้นมา ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะชื่อเดม่อน ทาร์แกเรียน เป็นน้องชายฝาแฝดของแดเนริส ทาร์แกเรียนแม่มังกรในซีรี่ย์ที่เขาชอบ
     

          แต่เพราะเกิดเป็นชาย เลยโดน วิเซริส ทาร์แกเรียนพี่ชายคนรองของแดเนริสกับเดม่อนจับแยกไปอีกทางกับขุนนางที่เขาคิดว่าเป็นผู้ทรยศเพื่อหวังให้เดม่อนตาย เขาจะได้เป็นผู้สืบทอดโดยชอยธรรมของบัลลังก์เหล็ก

     

         อนิจจา ขนาดทาร์แกเรียนแทบไม่เหลืออะไร วิเซริสยังคิดจะฆ่าคนในครอบครัวตัวเองอีก เอาเถอะดูเหมือนขุนนางที่พาเดม่อนหนีจะไม่ได้เป็นคนทรยศแบบที่วิเซริสคิด
     

          หลังจากหลบหนีออกจากดราก้อนสโตน เซอร์แดนเวอร์ก็เลี้ยงดูเดม่อนมาอย่างดี พวกเขาต้องย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง เพราะต้องหนีจากนักฆ่าของโรเบิร์ต บาราเธียน จนสุดท้ายพวกเขาแกล้งตายเพื่อให้นักฆ่าเข้าใจว่าสังหารพวกเขาสำเร็จ

     

          นักฆ่าส่งข่าวไปคิงส์แลนดิ้ง ทำให้ไม่มีใครติดตามพวกเขาอีก หลังจากนั้น เซอร์แดนเวอร์ตัดสินใจใช้ชีวิตกับเด็กชายในเกาะร้างแห่งหนึ่งในทวีปเอสซอส ว่ากันว่ามันเป็นบ้านเกิดของตระกูลทาร์แกเรียน บนเกาะมีปราสาทขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง
     

     

          มันถูกใช้เป็นที่เลี้ยงดูเดม่อน แต่เมื่อไม่นานมานี้ เซอร์แดนเวอร์ได้ข่าวการขอความช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจในเอสซอสของวิเซริส มันทำให้พี่ชายของเดม่อนได้ฉายาว่ากษัตริย์ขอทาน
     

     

           ด้วยความไร้เดียงสาของเดม่อนคนเก่า เขาจึงขอให้เซอร์แดนเวอร์พาครอบครัวของเขากลับมาที่เกาะที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกัน
     

            แต่เมื่อเขามาอยู่ในร่างของเดม่อนแล้ว เขาไม่มีทางให้วิเซริสหาทางฆ่าเขาได้อีกแน่ ก่อนอื่นต้องหาทางเอาเรือกลับเข้าเกาะก่อน
     

            “เซอร์แดนเวอร์ ข้าเปลี่ยนใจแล้วเรากลับเกาะกันเถอะ”เซอร์แดนเวอร์ตะลึงไปพักใหญ่เพราะเขาได้คัดค้านเรื่องที่เจ้านายตัวน้อยของเขาจะไปรับพี่ชายและพี่สาวของท่านมาตลอด แต่เด็กชายไม่ยินยอม 
     

            เขาจึงจำใจที่จะออกเรือ แต่ยังไม่ทันที่เรือจะออกจากห่างจากเกาะ เจ้าชายตัวน้อยกลับเปลี่ยนใจกระทันหัน ถึงอย่างไร นี้ถือเป็นเรื่องดีเขารักเจ้าชายน้อยเหมือนลูกของเขาเองและเขาไม่ไว้ใจวิเซริส 

     

             วิเซริส ทาร์แกเรียนนั้นเป็นคนเอาแต่ใจ แต่ไร้ความสามารถ ตลอดหลายปีมานี้เขาติดต่อกับลอร์ดวาริส เพื่อขอให้เขาส่งอาจารย์มาสอนศาสตร์ต่างๆให้เจ้านายของเขา และเจ้านายของเขาก็ทำมันได้ได้ดี เขาฉลาดจนอาจเรียกได้ว่าอัจฉริยะเดม่อนเหมาะสมกับบัลลังก์เหล็กมากกว่าวิเซริส
     

     

            “ได้ขอรับฝ่าบาท”เขายิ้มให้เด็กชายและสั่งให้ทาสหันหัวเรือกลับเกาะ พวกเขาพอมีทรัพย์สินติดมาบ้างและซื้อทาสมาห้าหกคน และสอนให้พวกมันต่อสู้ 
     

             เพื่อที่จะได้ปกป้องเจ้านายได้ แต่ทรัพย์สินมีจำกัดไม่อาจเอามาสร้างกองทัพได้ แต่ก็มีพอให้เลี้ยงเจ้าชายน้อยได้หลายสิบปี

     

            “เซอร์แดนเวอร์ พวกเรามีทรัพย์สินเหลืออีกเท่าไหร่”ธันวาที่อยู่ในร่างของเดม่อนเอ่ยขึ้น 

     

            “พอมีอยู่ขอรับ อย่าทรงเป็นห่วงไปเลย ลอร์ดวาริสก็คอยส่งค่าใช้จ่ายมาให้ท่านอยู่เสมอทำให้เราอยู่ได้อย่างไม่ลำบากนัก”

     

            “วาริสหรือ...”ลอร์ดวาริสเป็นคนที่เดาทางได้ยาก เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขาคิดจะทำอะไร เขาอาจใช้เดม่อนเป็นหมาก แต่หมากแบบไหนกันนะ หมากสำคัญหรือเป็นเพียงหมากที่ใช้แล้วทิ้งแบบแดเนริสที่ถูกขายให้คาล โดรโก

     

            เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เมื่อกลับมาถึงเกาะ เดม่อนตัดสินใจที่จะสำรวจเกาะนี้เผื่อจะมีไข่มังกรเหลืออยู่ แม้มันจะเป็นหินก็อาจขายได้ราคาดีอยู่ เพราะที่พวกเขาอยู่เป็นเกาะของค้นตระกูลทาร์แกเรียน


     

            แน่นอนว่าเซอร์แดนเวอร์ไม่ปล่อยให้เขาออกสำรวจเกาะคนเดียวแน่ พวกเขาสองคนเข้าไปในป่าลึกแถวหน้าผา

    อยู่ๆก็เหมือนมีเสียงกระซิบของใครบ้างคนดังขึ้น 


     

             “ทางนั้น ไปทางนั้นใช่”เสียงแหลมเล็กดังขึ้นข้างหูของเดม่อน


     

             “ท่านได้ยินหรือไม่เซอร์แดนเวอร์”เขาหันไปหาคนด้านข้าง


     

             “ได้ยินอันใดขอรับ ที่นี่เงียบมากแม้แต่นกสักตัวยังไม่มี”แดนเวอร์มึนงงกับสิ่งที่เด็กชายกล่าว

     

             “แล้วเสียงนี้มันอะไรกัน”เดม่อนบ่นพึมพำกับตัวเอง ถ้าเป็นเขาเมื่อก่อนคงไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้ แต่เขาเพิ่งถูกส่งยังโลกในซีรี่ย์ฟอร์มยักษ์ที่ตัวเองชอบที่สุด จะให้เขาเพิกเฉยกับเสียงนี้ได้หรอ คำตอบคือไม่มีทาง

     

             เอาเถอะตามเสียงไปคงไม่เสียหายหรอกน่ะ เขายังมีอัศวินฝีมือฉกาจอย่างเซอร์แดนเวอร์อยู่ทั้งคน


     

             เดม่อนเดินตามเสียงไปเรื่อยๆ จนพบกับน้ำตกแห่งหนึ่ง แต่หินบริเวณนั้นเป็นสีดำ มันคือดราก้อนก๊าสหรือแก้วผลึกมังกร แบบเดียวกับที่ดราก้อนสโตน


     

            “นี่มันแก้วผลึกมังกร! อาจเป็นไปได้ว่าอาจมีไข่มังกรก็เป็นได้”


     

           “ใช่เป็นผลึกมังกรจริงๆด้วยเจ้าชาย แต่หากเราเจอไข่มังกรจริงมันคงกลายเป็นหินไปแล้วล่ะขอรับ เรามาอยู่ที่นี่สองปีแล้ว และตลอดเวลาที่เราอยู่ที่นี่ เราไม่เห็นมังกรเลยสักตัว หากมีมังกรบนเกาะมันต้องออกล่าไปทั่วเกาะแล้วล่ะ”


     

            “อืม ถึงจะเป็นไข่หินไปแล้วก็ยังอาจฟักเป็นตัวได้อยู่นะ” ถ้าเขาและแดเนริสเป็นแฝดกันบางทีเขาอาจจะทันไฟเหมือนกันก็ได้ ต้องลองพิสูจน์ดูแล้วแฮะ


     

            “...ท่านรู้วิธีหรือ”เซอร์แดนเวอร์คิดว่าบางทีสายเลือดทาร์แกเรียนในตัวเจ้าชายน้อยอาจทำให้เขารับรู้เรื่องของมังกรได้ด้วยสัญชาตญาณ


     

           “อืม...แต่ข้าไม่หมั่นใจว่าจะทำสำเร็จหรอกนะ”เดม่อนตอบแบบไม่คิดอะไร


     

          พวกเขาเดินสำรวจบริเวณน้ำตกอยู่นาน แต่ก็ไม่พบไข่มังกรเลยสักใบ จนพวกเราเริ่มเหนื่อย เซอร์แดนเวอร์ให้เดม่อนนั่งพักรออยู่ที่น้ำตกในขณะที่เขาไปล่าสัตว์ ที่เกาะนี้อุดมสมบูรณ์มาก ในเกาะมีทั้งฝูงกวาง หมูป่า กระต่าย นก ม้าป่า


     

          แต่ถึงที่นี้จะอุดมสมบูรณ์มากแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะล่าสัตว์ได้ทุกวัน แถมคนเราจะกินแต่เนื้อได้อย่างไร เดี๋ยวก็ขาดสารอาหารกันพอดี ดังนั้นบางครั้งพวกเราจะไปที่เมืองใกล้ซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูก กับซื้อแกะและวัวมาจำนวนหนึ่งเอาไว้กินตอนที่เราล่าสัตว์ไม่ได้


     

           เดม่อนนอนลงตรงร่มไม้ใกล้กับน้ำตก เขากะจะพักสายตาสักเล็กน้อย เขาค่อยๆจมลงไปในความฝัน ในฝันเขาอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งมันอยู่หลังม่านน้ำตก 


     

          ถ้ำมีขนาดใหญ่มาก ภายในเต็มไปด้วยเหรียญทองและเพชรพลอย ใจกลางมีไข่มังกรอยู่สามฟอง พวกมันมีสีที่ต่างกันออกไป ฟองแรกมีสีแดงออกดำ ฟองที่สองมีสีเงินอมขาวและฟองสุดท้ายมีสีทองสว่างแต่มันมีขนาดเล็กกว่าไข่สองใบแรก


     

          ด้านในสุดของถ้ำมีมังกรตัวใหญ่กว่าบาเลเรียนมังกรของเอกอนที่1ถึงสามเท่า ตัวมันมีสีน้ำเงินอมม่วงมันน่าจะอาจอายุมากกว่าร้อยปี แต่ดูเหมือนมันกำลังจำศีลอยู่


     

         “มาหาข้าสิ เดม่อนข้ารอเจ้าอยู่”มังกรตัวนั้นลืมตาขึ้นพร้อมจ้องมองเขา มันทำให้เดม่อนสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันประหลาด แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเขา


     

         เดม่อนตัดสินใจ เขาไปดูให้แน่ใจว่าหลังม่านน้ำตกมีถ้ำอยู่จริงไหม เดม่อนกระโดดลงน้ำอย่างไม่ลังเล เขาเข้าไปใกล้ม่านน้ำตก ปรากฎว่ามันมีถ้ำซ่อนอยู่จริงๆด้วย


     

         เดม่อนเดินตามทางไปเรื่อย ถ้ำแห่งนี้ค่อนข้างลึกทีเดียว เขาเดินมาเจอทางแยกสองทาง เดม่อนไปทางด้านขวาตรงไปในนั้นมีห้องกว้างที่เต็มไปด้วยเหรียญทองและเพชรพลอยเหมือนที่เขาฝัน


     

         เขาตรงไปที่ไข่มังกรทั้งสามใบ เขาไม่ใช่คนโลภมาก เขาต้องการไข่แค่ฟองเดียว แล้วก็ทุนให้การเลี้ยงมันด้วยเพชรพลอยสี่ห้าเม็ด


     

        ในขณะที่เขากำลังจะหยิบไข่สีเงินอมขาวเขาก็เหลือบไปเห็นตาสีฟ้าสวยคู่มีขีดดำตรงกลางคล้ายงูแต่ขนาดของมันใหญ่กว่าตาของงูหลายสิบเท่า


     

          เดม่อนรู้ทันทีว่ามันเป็นตาของสัตว์ชนิดไหน ดูจากสิ่งที่เขาเห็นเป็นตรงกับในฝันทั้งหมด เจ้าตัวที่กำลังจ้องมองเขาจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากมังกร


     

           เดม่อนนิ่งไปนานเขาก็ได้สติ เขาคิดหาวิธีที่จะไม่เป็นเหยื่อของมัน มังกรตัวใหญ่กว่ามังกรที่เอกอนขี่เสียอีก เขาสำรวจตามร่างของมังกรสีน้ำเงินเข้มอมม่วงสวย ที่ขาของมันมีโซ่ที่ทำจากเหล็กวาลีเรี่ยน มันต้องมีกุญแจอยู่แถวนี้แน่  


     

            เขาไม่รู้ว่ามันอยู่ที่นี่มานานแค่ไหน แต่ต้องมากกว่าสองปีแน่ ร่างของมันผอมจนแถบจะเห็นซี่โครง เขาไม่ใช่คนดีแต่เห็นแล้วอดสงสารมันไม่ได้ 

            

             จากที่เขาดูซีรี่ย์มังกรของทาร์เรียนยุคหลังๆ ถูกเลี้ยงโดยการล่ามโซ่ ทำให้มันกรมีพลังน้อยลง ตัวเล็กลงเรื่อยๆและสูญพันธุ์อย่างรวดเร็วหลังสงครามมังกรเริงระบำ

     

           “รออยู่ตรงนี้นะ ข้าจะหากุญแจมาเปิดให้ ข้ามาดี”เดม่อนพยายามสื่อสารให้มังกรตัวนั้นสงบไม่เผาเขาก่อนที่เขาจะช่วยมัน จากที่เขาดูซีรี่ย์เรื่องนี้มาหลายภาค มังกรฉลาดมากพวกมันรู้ว่าใครดีใครไม่ดี

     

           “ครืน!!”เสียงลมหายใจมีมังกรสีน้ำเงินสวยตรงหน้า เหมือนกำลังจะสื่อว่ามันเข้าใจในสิ่งที่เดม่อนพูด

     

           เดม่อนเปิดหีบสองสามใบในถ้ำและคุ้ยหาจากกองเหรียญทองรูปมังกรหลายกองแต่ก็ไม่พบกุญแจเลย เดม่อนหยุดคิดว่ากุญแจสำคัญแบบนั้นมันควรอยู่ที่ไหน

     

           เด็กชายสะดุดใจกับไข่มังกรสีทองใบเล็กที่สุดในไข่ทั้งหมด ไข่มังกรใบนี้มันเล็กเกินกว่าจะเป็นไข่มังกรได้ ไข่มังกรของแดเนริสใหญ่เกือบเท่าลูกฟุตบอลของเด็ก ไข่อีกสองใบตรงหน้าเขาก็ใบกว่านั้นสองเท่า

     

           ไข่สีทองนี้ใหญ่ไม่ถึงครึ่งของไข่ที่เหลือด้วยซ้ำ เดม่อนลองหยิบมันขึ้นมา พบว่ามันมีน้ำหนักเบาเกินไป เหมือนในไข่ใบนี้มันจะกลวง เอาวะ!! คงต้องเสี่ยงกันสักตั้ง

     

           เดม่อนขว้างไข่ลงพื้นอย่างแรง ไข่แตกออกเผยให้เห็นกุญแจสีเงินที่ทำจากเหล็กวาลีเรี่ยน เดม่อนหยิบมันขึ้นมาแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหามังกรตัวใหญ่มหึมาที่สงบนิ่งผิดวิสัยของมังกรที่เป็นสัตว์ดุร้าย

     

           “ข้าแค่จะช่วยเจ้านะ เด็กดียื่นขามาเร็วเข้า”เมื่อเดม่อนพูดจบ มังกรที่จับจ้องมาที่เด็กชายตั้งแต่เขาปรากฎตัวขึ้น มันรู้ว่าคนตรงหน้าคือคนที่มันรอมาตลอดชีวิตมังกรของมัน คนที่มันเฝ้าตามหามาตลอด
     

     

            “ครืด!!”เสียงโซ่ขูดกับพื้นถ้ำดังขึ้น มังกรยอมยื่นเข้าออกมา แล้วใช่สายตาอ้อนวอน 
     

     

            “แก๊ก!! เคร่ง!!!”เสียงกุญแจที่ถูกปลดออกดังขึ้นทีละเส้น เดม่อนและมังกรสบตากัน พวกเขาต่างรู้สึกถึงสายสัมพันธ์บางอย่างที่กำลังก่อเกิดขึ้น 
     

            เดม่อนยื่นมือเข้าไปใกล้หวังที่จะได้สัมผัสมังกรสักครั้ง มันเป็นความฝันของเขาตั้งแต่ได้ดูซีรี่ย์เรื่องนี้ บางทีถ้าเขาฟักมังกรไม่ได้นี้อาจเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้สัมผัสสิ่งมีชีวิตในตำนานที่สง่างามและหน้าเกรงข้าม


     

            มังกรยอมให้เด็กชายสัมผัสแต่โดยดี มันดันเด็กชายไว้ข้างลำตัวของมัน ราวกับจะให้เขาขึ้นมาบนหลังมัน 


     

            “ให้ข้าขึ้นไปบนหลังเจ้าหรือ?”เดม่อนค่อยไปีนขึ้นไปบนหลังของมังกรยักษ์ อย่างทุลักทุเลด้วยขาสั้นๆของเขา มังกรคงอดสมเพชเขาไม่ได้มันใช้หัวช่วยพยุงเขาให้ขึ้นไปบนหลังพร้อมเดินไปที่ทางออกของถ้ำ แล้วพาเด็กชายบินออกไปจากถ้ำ 


     

            “ว๊ากกกกก!!!”เด็กชายตกใจมาก เพราะเขากำลังอยู่บนฟ้า ความสูงไม่ใช่น้อยๆเลย แต่เมื่อเขาเริ่มปรับตัวได้ ทำให้เขารู้สึกถึงสายลมและอิสระ


     

             สายลมปะทะเข้ามาที่ตัวเขา มันทำให้รู้สึกเป็นอิสระ ชาติก่อนเข้าเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น เขาจึงถูกย่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดโดยที่มีพ่อแม่ได้ส่งเงินมาให้ หลังย่าเสียเขาก็อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด

     

            ด้วยถูกย่าเลี้ยงมาอย่างเข้มงวด เขาจึงไม่ค่อยได้ออกไปมีสังคมเท่าไหร่ ทำให้มีเพื่อนน้อย เพื่อนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจริงใจกับเขา ทำให้เขามีเพื่อนสนิทอยู่ไม่กี่คน
     

     

            ในขณะที่เด็กชายกำลังหวนคิดถึงอดีต มังกรยักษ์ก็โฉบลงไปงับม้าป่าตัวใหญ่แล้วกลืนลงท้องอย่างง่ายดาย สร้างตกตะลึงให้กับเดม่อนไม่น้อย เพราะมังกรตัวนี้แถบไม่ได้เคี้ยวเลย เขาพอจะเดาได้ว่ามันหิวมากแค่ไหน


     

           ฝูงม้าต่างพากันวิ่งหนีไม่คิดชีวิต แต่ก็มีม้าแก่บางตัวที่วิ่งไม่ทันตกเป็นอาหารของมังกรยักษ์ไปไม่น้อย หลังจากมังกรยักษ์กินจนอิ่ม มันก็พาเดม่อนกลับมาที่น้ำตก 


     

          เดม่อนลงจากหลังของมังกร และกินน้ำจากธารน้ำตก ดูเหมือนว่าเจ้ามังกรเองก็หิวน้ำไม่น้อยไปกว่าเขา แต่เอ่อเจ้ามังกร ปากเจ้าเต็มไปด้วยเลือดแล้วเจ้ามากินน้ำใกล้ๆข้า น้ำก็คาวกันพอดี


     

           เดม่อนได้แต่บ่นในใจ เพราะเขายังกลัวเจ้ามังกรนี้อยู่ หลังกินน้ำเสร็จ เจ้ามังกรยักษ์นั่งพักข้างน้ำตก มันไม่มีทีท่าว่าจะจากไปเลยสักนิด 


     

           เดม่อนลุกขึ้นตอนแรกเขาหวังว่าจะไปตามเซอร์แดนเวอร์ที่ออกไปล่าสัตว์และยังไม่กลับมาสักที แต่พอเขาลุกขึ้นเดินไปในป่า เจ้ามังกรยักษ์ก็เดินตามหลังเขามาราวกับลูกเจี๊ยบ
     

            “เจ้าเป็นอิสระแล้ว ไม่ต้องส่งข้าหรอก ข้าไปเองได้”เมื่อพูดจบเดม่อนก็เดินต่อ แต่ลูกเจี๊ยกยักษ์ที่อยู่ด้านหลังก็ยังไม่มีอีกท่าว่าจะหยุดเดินตามเขาเลยสักนิด
     

            “....เจ้าอยากอยู่กับข้าหรือ”เด็กชายเดินแล้วหันไปถามมังกรยักษ์

     

            “โฮกกกก”มันคำรามเสียงต่ำเหมือนเป็นการตอบรับ

     

            “งั้นก็ ยินดีต้อนรับนะ”


     

            “ครืน!!”มังกรเอาหัวถูกับตัวของเด็กชายเบาๆ


     

            “แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องมีชื่อ เจ้าน่าจะเป็นตัวเมียสิน่ะงั้นชื่อฟีน่าก็แล้วกัน”ก็สวยขนาดนี้จะเป็นตัวผู้ได้ไงล่ะ


     

            ในขณะที่คนกับมังกรกำลังทำความรู้จักกัน เซอร์แดนเวอร์ที่พึ่งล่าหมูป่าตัวใหญ่ได้ เขากำลังจะแบกมันไปที่น้ำตกที่เจ้าชายเดม่อนรออยู่


     

             แต่เขาก็ได้ยินเสียงคำราม ของสัตว์บางอย่าง เขากวาดตาไปรอบๆเพื่อหาต้นตอของเสียง แต่กลับไปพบไม่นานก็มีเงาขนาดใหญ่บินผ่านหัวเขาไปอย่างรวดเร็ว เซอร์แดนเวอร์มองขึ้นไปบนฟ้า 


     

             มังกรตัวใหญ่มหึมา หัวของมันใหญ่กว่าหัวของมังกรบาลาเรี่ยนที่เคยแขวนไว้ในท้องพระโรงที่คิงส์แลนดิ้งเสียอีก แย่แล้วเจ้าชาย!!!


     

             เซอร์แดนเวอร์ตกใจมาก เพราะมังกรตัวนั้นบินไปทางน้ำตกที่เจ้าชายน้อยของเขาอยู่ เซอร์แดนเวอร์ทิ้งหมูป่าไว้แล้วรีบวิ่งไปที่น้ำตกอย่างไม่คิดชีวิต ดีที่จุดที่เขาอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกมากนัก


     

             เซอร์แดนเวอร์ชักดาบเตรียมตัวสู้ แต่สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาไม่อาจถือดาบได้อีกต่อไป ตระกูลของเขารับใช้ราชวงศ์ทาร์แกเรียนมาหลายชั่วอายุคน แน่นอนพวกเขาพอมีความรู้เรื่องมันกรอยู่บ้าง


     

             มังกรของพวกทาร์แกเรียนส่วนใหญ่มักถูกเลี้ยงตั้งแต่ฟักออกมาจากไข่ ทำให้พวกมันเชื่องกว่ามังกรป่า ในอดีตเคยมีลูกนอกสมรสของตระกูลทาร์แกเรียนอยากพิสูจน์ตัวเองออกไปกำราบมังกรป่า ผลปรากฏว่าคนเหล่านั้นเหลือรอดไม่กี่คนเท่านั้น 


     

            เพราะมังกรป่าส่วนใหญ่มีนิสัยดุร้าย และพวกมันมักสร้างปัญหาให้แก่ผู้คน และทำให้เชื่องได้ยาก อย่างไรก็ตามไม่มีใครนอกจากพวกทาร์แกเรียนที่จะปราบพยศมังกรได้

      

            แต่เด็กชายวัยห้าขวบปีตรงหน้ากลับลูบหัวมังกรป่าตัวใหญ่ยักษ์อย่างร่าเริง แถมมังกรป่าตัวนี้ดูเชื่องกับเขาราวกับลูกสุนัขตัวน้อยๆอีก อัศวินหนุ่มตกใจจนเผลอปล่อยดาบหลุดจากมือ


     

            “เคร่ง!”เสียงดาบของเซอร์แดนเวอร์เรียกความสนใจจากมังกรยักษ์ได้ดี มันตั้งท่าจะปกป้องเจ้าชายน้อยจากมนุษย์ตรงหน้า แต่ในขณะที่มันกำลังจะพ่นไฟใส่ชายตรงหน้า เด็กชายกลับห้ามมันไว้ 


     

             “อย่าฟีน่า!!”เด็กชายเอาตัวบังปากของฟีน่า เพื่อไม่ให้มันทำร้ายเซอร์แดนเวอร์


     


     

     

             

              

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×