NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dragon story (fic game of thrones)

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4:พบเจอ

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 66




                                 ตอนที่ 4 : พบเจอ 


          ในขณะที่ในเวสเทอรอสกำลังเข้าสู้ความโกลาหลวุ่นวาย เพราะการฟาดฟันของสองตระกูลใหญ่อย่าง สตาร์คและแลนนิสเตอร์ 

     

     


          ทางฝั่งของแดเนริสเองก็เริ่มรู้จักใช้อำนาจของตนเองเป็นบ้างแล้ว แต่เธอก็ยังไม่กล้าชนกับวิเซริสพี่ชายของเธอมากนัก
    วิเซริสเองก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเขาไร้ซึ่งอำนาจในขณะที่น้องสาวและน้องชายของเขาเรืองอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ 
     

     


         จอน สโนว์เองก็ได้เดินทางยังหน่วย ไนท์ วอช เพื่อปกป้องกำแพง จากพวกคนเถื่อน ตั้งแต่ที่เอม่อนได้รู้เรื่องของจอน เขาเฝ้าสังเกตสมาชิกใหม่ๆที่เขามาในหน่วยนี้อย่างลับๆ 
     

     

     


         แน่นอนเมื่อจอนมาถึง เอม่อนได้แต่มองจอนที่ค่อยๆปรับตัวอยู่ห่างๆ เพราะตามความต้องการของเจ้าชายเดม่อนแล้ว คืออยากให้จอนเรียนรู้สังคมอันโหดร้ายของที่นี่ ไม่ได้อยากให้เขาอ่อนแอนั้นเอง เอม่อนเองก็เห็นด้วย

     

     


         เอม่อนอยู่ที่หน่วยนี้มานานย่อมมีเส้นสายไม่น้อย เขาได้กำชับกับคนที่เขาสนิทในหน่วยให้ช่วยจอนยามที่เขาจนตรอกจริงๆเท่านั้น โดยอ้างว่าเขาสนิท เบเจน สตาร์ค
     

     


         จอนเองก็โดนรับน้องจากหน่วยพิทักษ์ราตรีไม่น้อยเลย ยิ่งการที่เขาเป็นลูกหลานขุนนาง ยิ่งทำให้โดนเขม่นจากคนในหน่วยเข้าไปอีก แม้เขาจะเป็นลูกนอกสมรสก็ตาม

     

     

     

         ทีเรียน แลนนิสเตอร์เองก็มาพร้อมขบวนจอนด้วย เขาอยู่ที่หน่วยนี้ระยะหนึ่ง และเขาก็ได้สนิทกับจอนไม่น้อย ความประทับใจของพวกเขาก็นับว่าไม่เลว

     

     

         กลับทางด้านเอสซอสเองก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับแดเนริส นางได้ตั้งครรภ์ เซอร์จอราห์ มอมอนต์เองก็ได้แอบส่งข่าวไปยังกษัตริย์โรเบิร์ต

     

     

         ไม่นานพวกเขาก็ถึง วาเอสโดแธรก ที่ตั้งของเผ่าโดรธากี และวิเซริสก็ทำตัวให้แดเนริสปวดหัวอีกครั้ง 

     

          

         เขากระชากหัวสาวใช้ที่เขาซื้อมาบำเรอ ตรงไปที่กระโจมของน้องสาวเขา

     

          

          “เจ้าส่งนังนี้มาสั่งข้า!! ข้าน่าจะส่งแต่หัวมันกลับมานะ”วิเซริสเอ่ยด้วยความเกรี้ยวกราด

     

          

          “อภัยให้ข้า คาลีซี่! ข้าทำตามคำสั่งท่าน”อดีตนางโลมสาวรีบกล่าว

     

           

          “ช่างเถอะ ไม่เป็นไร! คีรีพานางออกไป”แดเนริสให้นางกำนัลคนสนิทพาสาวใช้ไปรักษาแผล 

     

          

          “ทำร้ายนางทำไม”แดเนริสไม่เข้าใจพี่ชายของนางเลยแม้แต่น้อย

     

     

          “ต้องให้ข้าบอกอีกกี่ครั้ง เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งข้า!!”แต่แดเนริสก็รีบเอ่ยแย้งขึ้นมาในทันที

     

     

          “ข้าไม่ได้สั่งท่านสักนิด ข้าแค่ชวนท่านมาทานข้าวเย็น!”วิเซริสหันไม่เห็นชุดหนังที่แดเนริสทำขึ้นมา

     

       

          “นี่อะไร!”

     

        

         “ของขวัญ! ข้าทำให้ท่าน”วิเซริสหยิบชุดขึ้นมาด้วยอารมณ์คุกรุ่น

     

         

         “เศษผ้าของมัน จะจับข้าแต่งตัวเรอะ!”วิเซริสโยนชุดใส่หน้าแดเนริส เขายังเริ่มโยนเครื่องประดับอยู่บนโต๊ะใส่หน้านางไม่หยุด

     

     

         “ได้โปรด หยุด! หยุดนะ!”แดเนริสเริ่มอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว นับวันพี่ชายนางยิ่งหยาบคายกับนางมากขึ้นเรื่อยๆ

     

     

          “จะให้ข้าเป็นพวกมัน แล้วข้าต้องไว้เปียด้วยไหม”วิเซริสเอ่ยประชดประชัน

     

     

          “ท่านไม่มีสิทธิ์ไว้เปีย เพราะท่านไม่เคยชนะศึกใด!”แดเนริสเองก็พูดแทงใจของวิเซริสเช่นกัน

     

     

          “เจ้าอย่ามาโยกโยนกับข้านะ!! เพี๊ยะ!!”วิเซริสตบแดเนริสจนล้มลงไปกับพื้น เขาขึ้นไปคร่อมร่างของน้องสาวหวังตบตีสั่งสอนนาง

     

     

           “โอ๊ย!!”

     

     

          “เจ้าเป็นแค่อีตัว! ไร้คุณค่า! ของหัวหน้าคนเถื่อน!! โอ๊ย”แดเนริสคว้าเอาสร้อยทองทองเส้นใหญ่ฟาดไปที่หน้าของวิเซริสอย่างเต็มแรงเพื่อป้องกันตัว

     

           

          วิเซริสถึงกับช็อคไปเลย เขาไม่เคยคิดว่านางสาวหัวอ่อนของเขาจะกล้าลงมือทำร้ายเขาเช่นนี้ เมื่อก่อนไม่ว่าเขาจะให้นางทำอะไร นางก็จะทำตามแต่โดยดี

     

     

          “ข้า คือคาลีซี่แห่งเผ่าโดรธากี ข้าคือภรรยาของคาลผู้ยิ่งใหญ่! และข้าอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ ครั้งหน้าที่ท่านทำร้ายข้า นั้นคือครั้งสุดท้ายที่ท่านจะมีมือ!!”

     

     

          เมื่อตกดึกแดเนริสได้ระบายความในใจกับเซอร์จอราห์ มอมอนต์

     

          

          “ข้าทำร้ายเขา ทำร้ายมังกร”

     

     

          “เดม่อนน้องชายท่านคือมังกรตัวสุดท้าย วิเซริสเป็นไม่ได้แม้แต่เงาของงู”เซอร์จอราห์ เอ่ยความคิดของเขา เพราะเท่าที่ดูแล้ว เดม่อนเหมาะเป็นกษัตริย์มากกว่าวิเซริสมากนัก

     

     

          ขนาดผู้คนใน 7 อาณาจักรก็ยังได้ยินความสำเร็จในฐานะผู้ปกครองของเขาเลย วิเซริสเป็นตัวอะไรกัน จะเทียบเขากับเศษดินบนเท้าเดม่อนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

     

     

          “เขาเป็นตามสิทธิ์…”

     

     

          “ความจริงแล้วท่านอยากเห็นพี่ท่านนั่งบัลลังก์จริงๆหรอ…”

     

          

          “ไม่ แต่ชาวบ้านกำลังรอเขาอยู่ แอเรียริโอ้บอกว่าชาวบ้านเย็บมังกรลงป้ายและรอให้เขากลับไป”

     

     

          “ชาวบ้านภาวนาให้มีฝนและฤดูร้อนที่ไม่มีวันหมดต่างหาก พวกเขาไม่สนว่าพวกลอร์ดจะเล่นอะไร”

     

     

           “แล้วท่านภาวนาขออะไร?”เซอร์จอราห์ถอดหายใจ

     

          

          “บ้าน”

     

     

          “ข้าก็ขอเช่นนั้น…พี่ข้าไม่มีทางยึด 7 อาณาจักรคืนได้ เขาไม่อาจนำทัพต่อให้สามีข้ายกกองทัพให้เขา เขาไม่อาจพาเรากลับ ถ้าเป็นน้องชายข้าล่ะก็…”

         

     

         ในขณะนั้นเองเดม่อนก็กำลังกะเวลาไปเซอร์ไพรส์พี่ๆของเขาโดยการ ไปเยี่ยมพวกเขาที่วาเอสโดแธรก 

     

     

          ทางด้านเวสเทอรอส ทีเรียน แลนนิสเตอร์ ถูกแคทเธอรีน สตาร์คจับกุม และกษัตริย์โรเบิร์ตก็กำลังเรียกประชุมสภาเล็กเรื่องของ แดเนริส ทาร์แกเรียน ตั้งครรภ์

     

           

          “นังอีตัว!! มันท้องแล้ว!”กษัตริย์ กล่าวด้วยอารมณ์โมโห

     

     

          “มันต้องตาย! ทั้งแม่ทั้งลูก ไอ้วิเซริสโง่นั้นด้วย!! เจ้าได้ยินชัดแล้วใช่ไหม พวกมันต้องตายทั้งหมด!”

     

     

           “ท่านจะทำร้ายเกียติทั้งชีวิตหากจะทำเช่นนี้”ลอร์ดสตาร์คกล่าวเตือนกษัตริย์

     

     

           “เกียติเรอะ!! ข้ามี 7 อาณาจักรต้องปกครอง กษัตริย์เดียว 7 อาณาจักร เจ้าคิดว่าเกียติจะคุมมันได้หรอ คิดว่าเกียตินำความสงบมาได้หรอ มันคือความกลัวและเลือดต่างหาก”

     

     

           “งั้นท่านก็ไม่ต่างจากกษัตริย์คลั่ง!”

     

     

          “ระวังเน็ด ระวังปากไว้!”กษัตริย์เองก็เริ่มคุมอารมณ์ไม่ได้

     

     

          “ท่านอยากฆ่าเด็กหญิงเพราะแมงมุมมาบอกข่าวลือ?”ลอร์ดวาริสรีบเอ่ยแย้ง

     

     

          “นั้นไม่ใช่ข่าวลือใต้เท้า นางตั้งครรภ์จริงๆ”

     

     

          “ได้ข่าวเรื่องนี้จากใคร”

     

     

         “เซอร์จอราห์ มอมอนต์ เขาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้แก่ ทาร์แกเรียน”

     

     

          “มอมอนต์หรอ หึ เสียงกระซิบจากคนทรยศ อยู่ห่างครึ่งโลกแต่ท่านบอกว่าจริง”หลังจากลอร์ดสตาร์คเอ่ยจบไม่นานนิ้วก้อยก็เอ่ยขึ้นมาแย้งว่า

     

     

          “มอมอนต์ค้าทาสไม่ใช่คนทรยศ มันต่างกันข้ารู้สำหรับคนมีเกียรติเช่นท่านอาจไม่ต่าง”

     

     

         “เขาแหกกฎ ทรยศครอบครัวและหนีจากแดนเรา เราจะฆ่าคนเพราะลมปากเขาอย่างนั้นหรอ”ลอร์ด สตาร์คยังคงยืนยันคำเดิม

     

         

         “แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริงล่ะ ถ้านางได้ลูกชาย พวกทาสร์แกเรียนได้นำกองทัพของโดรธากีจะทำยังไง”กษัตริย์ยังไม่ยอมแพ้

     

     

         “ทะเลแนโรขวางเราอยู่ ถ้าจะกลัวโดรธากีเอาไว้ตอนที่พวกเขาสอนม้าว่ายน้ำเถอะ”

     

        

          “ไม่ทำอะไรเลย! นั้นคือคำแนะนำของเจ้า ไม่ทำอะไรในวันที่ศัตรูบุกมา พวกเจ้าเป็นที่ปรึกษาข้า พูดคำฉลาดต่อไอ้โง่คนนี้หน่อย”กษัตริย์หันไปทางพวกที่ปรึกษา

     

     

          ลอดร์วาริสจึงตัดสินใจเอ่ยขึ้นมาแก้สถานการณ์

     

     

         “ข้าเข้าใจข้อสงสัยของท่าน ข้าเข้าใจจริงๆ มันคือสิ่งที่เลวร้ายที่เราต้องทำ แต่ถึงกระนั้นเราฐานะผู้ปกครอง บางครั้งต้องทำสิ่งหยาบช้าเพื่อความสงบของอาณาจักรของเรา หากทวยเทพให้ลูกชายแก่นาง จะมีการหลั่งเลือด”

     

          แมสเตอร์เพียงคนเดียวในห้องก็เอ่ยตามมาหลังลอร์ดวาริสพูดจบ

     

      

         “ข้าไม่มีความแค้นกับนาง แต่ถ้าโดรธากีรุกรานเราจะมีคนบริสุทธิ์กี่คนที่ต้องตาย และเมืองต้องลุกไหม้จะไม่ฉลาดและดีกว่าหรอหากนางตายตอนนี้ คนอีกหลายพันคนจะมีชีวิต”

     

     

         เรนลี่ ลาราเธี่ยนเองก็เห็นด้วยกับกษัตริย์ เช่นกัน

     

     

          “เราควรฆ่าทาร์แกเรียนทั้งสามมานานแล้ว”

     

     

          ต่อมานิ้วก้อยเองก็เสริมขึ้นพร้อมจิบไวน์

     

     

          “เมื่อท่านอยู่บนเตียงกับสาวอัปลักษณ์ท่านก็แค่เพียงหลับตาหลับนอนกับนาง ปาดคอนางให้มันจบๆไป!”

     

     

          ลอร์ดสตาร์คได้แต่อึ้งกับความเห็นของคนให้สภา เขาเดินตรงไปที่ๆกษัตริย์นั่งอยู่

     

     

          “ข้าตามท่านไปในสนามรบ 2 ครั้ง ไม่สงสัย ไม่เคยลังเล แต่วันนี้ข้าจะไม่ตามท่าน โรเบิร์ตที่ข้าโตมาด้วยไม่กลัวเงามืดของเด็กที่ยังไม่เกิด

     

     

          “ข้าไม่ขอมีส่วนร่วม”

     

     

          “เจ้าคือมือขวากษัตริย์ลร์ดสตาร์ค เจ้าต้องทำตามคำสั่ง ไม่งั้นข้าจะหาคนใหม่”โรเบิร์ตยื่นคำขาด

     

     

          ลอร์ดสตาร์คหยิบเข็มกลัดมือขวาออกแล้ววางไว้บนโต๊ะ

     

     

         “ข้าขอให้เขาโชคดี  พวกท่านด้วยอย่าลืมนะทาร์แกเรียนไม่ได้มีแค่สองคน พวกท่านจะฆ่าพี่สาวเขาถามน้องชายและมังกรทั้งสามของเขารึยัง ข้านึกว่าท่านจะดีกว่านี้!”ประโยคสุดท้าย ลอร์ดสตาร์คงั้นไปกล่าวกับกษัตริย์

     

     

         “เจ้ากล้าดียังไง ข้าสาปส่งเจ้า ไป!!”ลอร์ดสตาร์คเดินออกจากห้องประไป

     

     

         “ฝ่าบาทที่ลอร์ดสตาร์คพูดก็มีเหตุผลนะพะย่ะค่ะ กษัตริย์เดม่อนกับแดเนริสเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน หากเราฆ่านาง จะไม่เป็นการประกาศศึกกับเขาหรือ”เรนลี่ คิดตามคำพูดของลอร์ดสตาร์ค

     

     

         “งั้นก็อย่าให้เขารู้สิ!!”ลอร์ดวาริสที่อยากให้ เดม่อนบุกยึด 7 อาณาจักรก็พยายาม หว่านล้อมคนในสภา ใช่!เขาคิดใช้แดเนริสกดดันให้เจ้านายที่แท้จริงของเขาบุกยึดเวสเทอรอสเสียที

     

     

         เขารอผู้ที่มีคุณสมบัติที่ดีในการเป็นราชา มาปกครองที่นี่มาตลอด แต่ราชาที่เขาคาดหวังกลับมีความทะเยอทะยานน้อยเสียเหลือเกิน หากไม่มีเหตุการณ์อะไรมากระตุ้นความโกรธของเขา เขาไม่มีวันยกทัพมาแน่

     

     

         

          ณ  วาเอสโดแธรก

     

     

          แดเนริส กำลังทำพิธีทำนายดวงชะตาของทารกในครรภ์ โดยการกินหัวใจของม้าแบบสดๆ ท่ามกลางผู้คนที่มาร่วมพิธี วิเซริสเห็นภาพนี้แล้วเขาแทบกินอะไรไม่ลง เขาหันไปถามเซอร์จอราห์

     

          

          “ต้องกินหัวใจให้หมดเลยหรือ หวังว่าคงไม่ใช่ม้าข้านะ”

     

     

          “อืม นางทำได้ดี”

     

     

          “นางกลืนไม่ลงแน่!”ไม่นานโหรก็กล่าวคำทำนายออกมา วิเซริสสงสัยว่าโหรเฒ่ากล่าวว่าอย่างไร จึงหันไปถามเซอร์จอราห์อีกครั้ง

     

          

          “นางพูดว่าอะไร?”

     

     

          “เจ้าชายกำลังขี่ม้า ได้ยินเสียงม้าควบนำกัมปนาท เขาขี่ม้าว่องไวดุจสายลม ศัตรูเขาจะหวาดกลัวเขา เมียพวกเขาจะร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด นางกำลังจะมีลูกชาย”วิเซริสไม่อาจยอมรับได้

     

     

          “เขาไม่ใช่สายเลือดทาร์แกเรียน ไม่ใช่มังกรที่แท้จริง”วิเซริสพยายามปฏิเสธความจริงที่ว่าจะมีทาร์แกเรียนคนอื่นอีกที่มีสิทธิ์ในบัลลังก์และเหนือกว่าเขา แค่เดม่อนคนเดียวก็อาจเขี่ยเขาได้แล้ว

     

     

          “อึกกก”แดเนริสฝืนกินหัวใจดิบจนหมด ทำให้เกือบอ้วกออกมา ทุกคนหยุดชะงัก แต่นางก็กลืนมันลงไปเมื่อโหรเฒ่ากล่าวคำทำนายต่อเซอร์จอราห์ก็แปลต่อเช่นกัน

     

     

          “อาชาที่จะขึ้นครองโลก ผู้นำจะอยู่เหนือผู้นำ เขาจะสามารถร่วมผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนบนโลกจะอยู่ในฝูงของเขา”แดเนริสยืนขึ้นและประกาศบางอย่างออกมา

     

     

          “ตอนนี้เจ้าชายมาอยู่กับข้าแล้ว และเขาจะมีชื่อว่า เรโก”ทุกคนต่างตะโกนชื่อของเจ้าชายในอนาคต 

     

         “เรโกๆๆๆ”

     

     

          “พวกเขารักนาง”วิเซริสพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าแดเนริสได้รับการยอมรับจากเผ่าโดรธากี แล้วเขาก็แอบออกไปจากกระโจม โดรโกอุ้มแดเนริสและเดินไปรอบๆ ทำให้เซอร์จอราห์อดภาคภูมิใจไม่ได้

     

     

          “วันนี้นางได้เป็นราชินีเต็มตัวแล้ว”เขาหันไปคุยกับวิเซริสต่อแต่ก็ไม่เห็นเขาแล้ว 

     

     

          เขาจึงรีบตามวิเซริสก็เห็นเขากำลังขโมยไข่มังกรทั้งสามใบของแดเนริส วิเซริสรู้สึกถึงคนที่อยู่ด้านหลังตนจึงเตรียมชักดาบ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครเขาก็ไม่ได้ชักดาบออกมา

     

     

          “อย่าให้ใครเห็นท่านถือดาบในเมืองนี้ท่านก็รู้กฎดี”เซอร์จอราห์กล่าวอย่างใจเย็น

     

     

          “ไม่ใช่กฏของข้า”หลังจากพูดเสร็จวิเซริสก็หันไปเก็บไข่มังกรใส่กระเป๋าต่อ

     

     

          “นั้นก็ไม่ใช่ไข่ของท่าน..”เซอร์จอราห์เตือนวิเซริส

     

     

         “อะไรที่เป็นของนางก็ย่อมเป็นของข้า”แต่เซอร์จอราห์ก็พูดคำที่แทงใจเขา

     

     

         “เมื่อก่อนน่ะใช่”เขาหันกลับไปกล่าวความคิดของตน

     

     

         “ถ้าขายไข่มังกรหนึ่งฟองข้าจะซื้อเรือได้ สองฟองจะได้ทั้งเรือและกองทัพ ไม่แน่ข้าอาจฟักพวกมันได้ ข้าคือทาร์แกเรียน”

     

     

         “แต่ท่านเอาไปสามฟอง”เซอร์จอราห์แทบจะขำออกมากับคำพูดของวิเซริส ถ้าการฟักมังกรมันง่ายแค่เป็นทาร์แกเรียน พวกมันคงไม่สูญพันธุ์ไปหลายร้อยปีหรอก

     

     

         “ก็ข้าอยากได้กองทัพใหญ่ๆ”เซอร์จอราห์พอจะเข้าใจความคิดของเขา

     

     

         “หรือไม่ก็อาจจะมีมังกรสามตัวไว้ต่อกรกับน้องชายท่านงั้นสิ?  ท่านคิดอะไรง่ายไปแล้ว ถ้าการฟักมังกรมันง่ายแบบนั้น บรรพบุรุษของท่านคงทำไปแล้ว และถึงท่านจะมีมังกรเท่ากับเดม่อน แต่ท่านก็ไม่อาจสู้เขาได้อยู่ดี ท่านเคยได้ยินว่าเดม่อนใช้มังกรเข้ายึดเมืองไหนในเอสซอสบ้าง  ไม่เลยเขานำทัพยึดเมืองเหล่านั้นมาได้โดยไม่ต้องใช้มังกร แล้วท่านล่ะ ท่านมีความสามารถพอหรือ” จากคำพูดของเซอร์จอราห์ ทำให้วิเซริสเจ็บใจจนแทบกระอักเลือดออกมา

     

     

         “ข้าคือเป็นความหวังสุดท้ายของราชวงศ์ ราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยเห็น ที่ข้าต้องแบกรับภาระนี้ตั้งแต่ห้าขวบ ไม่เคยมีใครให้ข้าได้ในสิ่งที่เดม่อนหรือนางได้รับในกระโจมนั้น 

     

         

           ไม่เลยแม้เพียงเสี้ยว ข้าจะรับภาระนี้ไว้ได้ยังไงถ้าไม่มีมัน ไร้ซึ่งความรักและทรัพย์สิน ใครจะปกครองได้ หึ!ไม่ เจ้ายืนอยู่ในนั้นอย่างมีเกียรติเต็มประดา 

     

        

           ข้าเห็นว่าเจ้ามองน้องข้าอยู่  ข้ามองออกนะว่าเจ้าต้องการอะไร  ข้าไม่สน! อยากได้ก็เอาไป นางจะเป็นราชินีคนเถื่อนกินม้าก็ช่าง และส่วนเจ้าอยากจะกินส่วนไหนของนางก็ได้ทั้งนั้น แต่ให้ข้าออกไป” วิเซริสพูดในสิ่งที่เขาเห็นและใช้มันกดดันเซอร์จอราห์ แต่เซอร์จอราห์ไม่ยอมถอย

     

     

         “ท่านออกไปได้ แต่ห้ามเอาไข่ไปด้วย”เขายืนกราน

     

     

         “เจ้าให้คำสัตย์กับข้าแล้ว ไม่มีความหมายกับเจ้าเลยหรือ”

         

     

         “มันสำคัญกับข้ามาก”

     

     

         “แต่เจ้าก็ยังมาขวางทางข้า”

     

     

         “ใช่ ข้าก็ยังยืนขวางท่าน”วิเซริสโยนกระเป๋าที่ใส่ไข่ไว้กับพื้น เซอร์จอราห์หลีกทางให้เขาและเขาก็จากไป

     

     

         ทางด้านลอร์ดสตาร์คเองก็กำลังสงสัยเรื่องชาติกำเนิดของเจ้าหญิงและเจ้าชายของกษัตริย์โรเบิร์ตอาจไม่ใช่ลูกของเขา แต่เป็นลูกชู้

     

     

         เดม่อนเองก็ได้เดินทางมาถึงวาเอสโดแธรกแล้ว เขาจอดมังกรใกล้กับเผ่าโดรธากี แต่สั่งให้พวกมันไปหาอะไรกินก่อน ถ้าเขายังไม่เรียกก็ยังไม่ต้องเข้าใกล้ที่นี่

     

     

         ชาวโดรธากีคุ้นเคยกับเขามาก เพราะเขากับโดรโกเป็นสหายสนิทกันมาหลายปี พวกเขาปล่อยให้เดม่อนเข้าไปในเผ่าได้โดยไม่ห้ามปราม ทหารคนสนิทของโดรโกบางคนยังเข้ามาทักทายเขาด้วยซ้ำ

     

     

         เซอร์จอราห์อดสงสัยไม่ได้ เขาเลยสอบถามทหารในเผ่าที่เขาสนิทด้วย

     

     

         “เขาเป็นใคร ดูไม่เหมือนคนในเผ่าเจ้าเลย”ชายหนุ่มมองไปที่เดม่อนที่กำลังมุ่งตรงไปที่กระโจมของคาล

     

     

         “กษัตริย์นักรบ เขาเป็นสหายของคาลนานๆทีเขาจะมาที่เผ่าของเราเพื่อเยี่ยมคาลและร่วมในงานเลี้ยงสำคัญ บางทีคืนนี้ท่านอาจเจอเขาในงานเลี้ยง”

     

     

         “เขาเป็นกษัตริย์หรือจากเมืองไหน แล้วทำไหมข้าถึงไม่เห็นขบวนเสด็จของเขาล่ะ เขาไม่มีทหารติดตามสักคน?”ทหารคนนั้นมองหน้าเขาอย่างประหลาด

     

     

          “ไม่มีหรอก เขามักชอบไปไหนมาไหนลำพัง ไม่มีใครบ้าพอทำร้ายเขา เขารวม 8 อาณาจักรไว้ด้วยกัน ชื่ออาณาจักรคือมังกรสมุทร”

     

     

          เซอร์จอราห์รู้สึกคุ้นหน้าของเขายิ่งนักแถมชื่ออาณาจักรของอีกฝ่ายก็คุ้นหูเช่นกัน 

     

     

           เผ่าโดรธากีนับถือผู้ที่แข็งแกร่ง และเดม่อนเองก็มือฝีมือพอๆกับผู้นำของเขา ดังนั้นคนในเผ่าก็ให้ความเคารพนับถือเขาเช่นแขกผู้มีเกียรติ

     

     

           “เดม่อน!! ในที่สุดเจ้าก็มา เจ้ามาได้เวลาที่ดีข้ากำลังจะมีลูกคนแรก คืนนี้จะมีงานเลี้ยงเจ้าต้องเข้าร่วมน่ะ อวยพรให้ลูกชายข้า หลานของเจ้า”โดรโกรู้ดีว่าเดม่อนกับคาลิซี่ของเขาเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นตอนที่ทางวิเซริสติดต่อไปมาเขาถึงรับข้อตกลง

     

     

           “ยินดีด้วย ในที่สุดท่านก็จะเป็นพ่อคนแล้ว ในขณะที่ข้าไม่มีแม้แต่คนรัก”คิดจะเกทับกันล่ะสิ โดรโกดูภายนอกเป็นคนนิ่งๆ แต่กับเพื่อนแล้วเจ้านี่กวนบาทามากอะบอกเลย

     

     

           “เหอะๆ เจ้านี่ช่างน่าสงสารจริงเชียว”โดรโกพยายามยั่วโมโหเดม่อน

     

     

           “ชิ!  อย่าทำเป็นอวดหน่อยเลย อย่าให้ถึงทีข้าบ้างก็แล้วกัน ว่าแต่ท่านไม่ทำตามข้อตกลงของวิเซริสเขาอาจก่อเรื่องให้ท่านปวดหัวก็ได้นะ”เดม่อนเอ่ยเตือน

     

     

           “เจ้าอ่อนนั้นน่ะเรอะ มันไม่กล้าหรอก หึ”โดรโกกล่าวคำดูถูกวิเซริสอย่างไม่ปิดบัง

     

     

          “อย่าประมาทล่ะ ทาร์แกเรียนมีแต่พวกบ้าๆทั้งนั้น”

     

     

          “รวมถึงเจ้าด้วยรึ”

     

     

           “ก็อาจจะ….”เดม่อนไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่อยากยอมรับในเรื่องนี้

     

          

          เมื่อพระอาทิตย์ดับแสง เหล่านักรบของเผ่าโดรธากีมารวมตัวกัน ตอนนี้ทุกคนมากกันครบเหลือเพียงวิเซริส 

     

          

          เดม่อนจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในงาน ทุกคนต่างต้อนรับเขาอย่างดี ทำให้แดเนริสหันไปถามกับเซอร์จอราห์ว่าชายที่ลักษณะภายนอกคล้ายกับนางอย่างมากผู้นี้เป็นใคร 

     

     

          “เขาเป็นใครหรือ?”ยิ่งเห็นสามีของนางเข้าไปกอดต้อนรับราวกับเขาเป็นพี่น้อง ยิ่งทำให้นางอดที่จะตลึงไม่ได้ สามีนางเป็นคนนิ่งๆมาตลอด นางไม่เคยเห็นมุมนี้ของเขา

     

     

          “ท่านนั้นเป็นเพื่อนกับท่านคาลคาลิซี่ อีกเดียวท่านคาลคงพาเขามาแนะนำกับท่านเอง ท่านเป็นกษัตริย์ของมหาประเทศในเอสซอสอย่างไรท่านต้องให้เกียติเขาสักหน่อย”

     

     

           “อืม ข้าเข้าใจล่ะ”เซอร์จอราห์รีบหลีกทางให้สองกษัตริย์ที่กำลังเดินเข้ามาหาเจ้านายของตน

     

     

          “คาลิซี่ มารู้จักกับเพื่อนข้าเขาเป็นยอดกษัตริย์นับเป็นพี่น้องข้าคนหนึ่ง”คาลโดรโกกล่าว

     

     

          “ข้าแดเนริส ทาร์แกเรียน คาลิซี่ของคาล”นางกล่าวแนะนำชื่อกับชายตรงหน้าและรอให้เขาเอ่ยนามของต่อ เซอร์จอราห์เองก็อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น เขาเองก็อยากรู้ชื่อของชายผู้นี้เช่นกัน

     

     

          “เดม่อน  เดม่อน ทาร์แกเรียนพี่หญิงยินดีที่ได้เจอท่านเสียที”เมื่อรู้ว่าชายตรงหน้าคือน้องชายที่ตนอยากเจอมาตลอด เขาจับมือนาง ทำให้นางรู้สึกถึงสายใยบางอย่างที่เชื่อมนางกับเขาเอาไว้

     

     

          “ข้านำของขวัญวันงานแต่งและการมีบุตรคนแรกมาด้วย มีทั้งอัญมณี ผ้าจากเมืองต่างๆในเอาซอสและในเวสเทอรอส ข้าจะให้คนขนไปไว้ยังที่พักของท่าน”เดม่อนให้คนของคาลโดรโกยกหนึ่งในของขวัญมาให้พี่สาวของเขาดูแล้วเขาก็นั่งลงระหว่างคาลและแดเนริส

     

     

         “น้องข้าเจ้ามาคนเดียวหรือ ข้าไม่เห็นผู้ติดตามของเจ้าเลย”นางชวนน้องชายคุย

     

     

         “ข้ามากับครอบครัว พวกเขาไปออกล่าเติมอาหารใส่ท้องพรุ่งนี้ก็คงพากันบินกลับมา”

     

     

         “ท่านมากับมังกรหรือ”เซอร์จอราห์ตกใจ ไม่ว่าใครก็อยากเห็นมังกรสักครั้งในชีวิต เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

     

     

         “ใช่ เจ้าคงเป็นเซอร์จอราห์ มอมอนต์สินะ”

     

     

         “ขอรับ”

     

     

         “เลือกให้ดี…”เดม่อนไม่ได้กล่าวอะไรกับเขาอีกแต่เซอร์จอราห์เริ่มเข้าใจแล้ว เขาอดที่จะเหงื่อตกไม่ได้

     

     

         “พี่หญิงพรุ่งนี้เมื่อฟีน่ามังกรของข้ากลับมา ท่านจะอยากลองขี่มันดูไหม”

     

     

         “มันไม่อันตรายใช่ไหม คาลิซี่ตั้งครรภ์อยู่นะ”คาลอดกังวลไม่ได้

     

     

         “ไม่ถ้าคนคุมแกร่งพอ ท่านไม่ไว้ใจข้ารึไง”คาลหัวเราะเสียงดัง

     

     

         “ฮ่าๆ แน่นอนถ้าเจ้าไว้ใจไม่ได้คนในห้องนี้คงเป็นจอมโกหกแล้วล่ะ”คาลรู้ว่าเดม่อนไม่เคยผิดคำพูดกับใครที่เข้ารับปาก ไม่แม้แต่ครั้งเดียว

     

     

        “พี่อยากขี่ เจ้ามีมังกรถึงสามตัวเลยใช่ไหม พวกมันดุร้ายหรือไม่”

     

     

         “ย่อมต้องดุร้าย แต่กลับผู้อื่นไม่ใช่ข้า พวกมันภักดี ซื่อสัตย์ยิ่งกว่าอัศวินคนใด มันไม่เคยขัดคำสั่งข้า ไม่แม้แต่ครั้งเดียว”

     

     

         “แดเนริส!! น้องข้าอยู่ที่ไหน!!”วิเซริสเดินเซเล็กน้อย เหมือนเขาจะเมาแล้ว แดเนริสรีบกระซิบบอกเซอร์จอราห์ทันที นางกลัวว่าพี่ชายจะทำอะไรบ้าๆ

     

     

        “ไปห้ามเขา”เซอร์จอราห์รับคำและรีบตรงไปหาวิเซริสเพื่อห้ามเขา

     

     

       “นางอยู่ไหน!! ข้ามาร่วมฉลองแล้ว งานฉลองของนางบำเรอ”

     

     

        “มานี้!”เซอร์จอราห์คิดจะพาเขาออกไป

     

     

        “อย่าบังอาจมาแตะต้องตัวข้า และห้ามใครมาแตะต้องมังกร”ทหารคนสนิทแอบนินทาวิเซริสและยอกล้อเดม่อน ทำให้คาลหัวเราะออกมา 

     

     

        “เฮ้! ข้ายังยังอยู่ตรงนี้นะ เกรงใจกันหน่อยสิ”เดม่อนแกล้งทำเป็นโกรธแบบไม่จริงจังนัก ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะจากผู้คนในกลุ่ม ทำวิเซริสสังเกตเห็นพวกเขา

     

     

        “คาลโดรโก ข้ามาร่วมฉลองแล้ว”คาลพูดบางอย่าง แต่วิเซริสฟังไม่ออกจึงหันไปหาเซอร์จอราห์ให้แปลภาษาให้

     

     

        “คาลโดรโกบอกว่าจัดที่ให้ท่านแล้ว อยู่ด้านหลัง”วิเซริสส่ายหน้า

     

     

         “นั้นไม่ใช่ที่สำหรับกษัตริย์”คาลไม่ใช่คนโง่เขาพอจะฟังภาษาของวิเซริสออก

     

     

         “เพราะเจ้าก็ไม่ใช่กษัตริย์”คาลตอกย้ำความจริงให้วิเซริสได้ฟังนั้นทำให้วิเซริสชักดาบออกมา เซอร์จอราห์จะเข้าไปห้ามแต่ถูกวิเซริสหันดาบใส่ไว้

     

         “ออกไปไกลๆข้าเลย!!”แดเนริสเห็นท่าไม่ดี รีบเอ่ยขอร้องพี่ชาย

     

     

         “วิเซริสขอร้องล่ะ!!”

     

     

         “อยู่นี้เอง”วิเซริสถือดาบตรงไปที่แดเนริส

     

     

         “วางดาบลง! เดี๋ยวเราก็ได้ตายกันหรอก!”เซอร์จอราห์เตือนวิเซริสแต่เหมือนเขาจะไม่ฟังใครทั้งนั้น

     

     

         “พวกมันฆ่าเราไม่ได้ เหอะ! พวกมันทำให้เมืองศักดิ์สิทธิ์เปื้อนเลือดไม่ได้ แต่ข้าทำได้!” เขาลดดาบลงจ่อไว้ที่ท้องของแดเนริสและเอ่ยสิ่งที่เขาต้องการกับคาล 

     

         นางกำนัลคอยแปลภาษาให้คาล ถึงสิ่งที่วิเซริสเรียกร้อง เดม่อนที่นั่งอยู่ด้านข้างแทบจะลุกขึ้นไปบีบคอวิเซริสเต็มทน เขาโกรธมากแต่ก็พยายามอดกลั้นไม่ฆ่าวิเซริส

     

     

       “ข้าอยากได้สิ่งที่ข้ามาเอา บัลลังก์ที่เขาสัญญาจะให้ข้า เขาซื้อเจ้าไปแต่กลับไม่ยอมจ่าย…บอกเขาไปว่าข้าต้องการสิ่งที่ตกลงกันไว้ไม่งั้นข้าจะพาเจ้ากลับ ข้าจะเก็บลูกเขาไว้ ข้าจะผ่าเอาออกให้”แดเนริสแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง นางหมดศัทธากับพี่ชายคนนี้แล้วจริงๆ คาลพูดบางอย่าง

     

        

       “เขาพูดว่ายังไง”วิเซริสถามน้องสาว

     

     

       “เขาตกลง ท่านจะได้ครองมงกุฎทองคำที่ใครเห็นจะต้องกลัวจนตัวสั่น

     

      

       “นี่แหละที่ข้าต้องการ! ก็ตกลงกันไว้แล้วนี่ หึๆ”วิเซริสถอยออกจากแดเนริส คาลเดินเข้ามาจับท้องของนาง

     

     

       “บัลลังก์!! แค่นี้ใช่ไหมที่เจ้าอยากได้ แม้จะต้องแลกกับครอบครัว เจ้านี่มันเศษสวะในเศษสวะจริงๆ!!”เดม่อนอดพูดไม่ได้ตอนนี้เขาอย่างในเผ่าโดรธากี เขาต้องไว้หน้าเจ้าบ้านอย่างคาลไม่อาจลงมือได้ ไม่งั้นจะเป็นการหยามเกียรติคาล

     

     

         คาลพูดอะไรบางอย่าง ทหารของเขาเข้ามาหักแขนวิเซริสโดยไม่มีเลือดสักหยดไหลสักหยด

     

     

        “เจ้าคือเดม่อน?”วิเซริสรู้จักหน้าตาของเดม่อนดี วาริสเคยส่งคนวาดรูปของเขามาให้วิเซริสดู เพื่อกล่อมให้เขาติดต่อกันเดม่อน

     

     

        “อะไรน่ะ!! ไม่นะไม่โอ๊ย!! เจ้าห้ามถูกตัวข้า ข้าเป็นมังกร! เอาบัลลังก์ข้ามา!! อ๊ากกก”นางกำนัลเทแกงในหม้อลงพื้น คาลเองก็เอาทองทำใส่ลงไปในหม้อ วิเซริสมองการกระทำของคาลอย่างตื่นตระหนก แล้วหันไปหาน้องสาวและน้องชายที่ยังคงยืนมองเขาอย่างนิ่งเฉย

     

     

        เซอร์จอราห์เดินเข้าไปหาแดเนริส เพื่อกันนางออกจากเรื่องโหดร้ายตรงหน้า

     

     

         “อย่าดูเลยคาลิซี่”

     

     

        “ไม่”นางปฏิเสธนางอยากรู้อะไรบางอย่าง

     

     

        “ให้นางดูเถอะ นางก็เป็นทาร์แกเรียน นางยังต้องเจอเรื่องแบบนี้ไปตลอดชีวิตนั้นแหละ ไม่นานท่านจะชินไปเองพี่ข้า”

     

      

         “ไม่ ข้าเป็นพี่ชายพวกเจ้าน่ะ”วิเซริสพยายามใช่สายสัมพันธ์มาอ้างเพื่อให้เขารอดจากสถานการณ์นี้

     

     

        “ใช่! เรื่องนั้นข้าไม่เถียง ท่านเป็นพี่ชายของเรา แต่เราไม่ทาสของท่าน ไม่ว่าข้าหรือนางก็ไม่ใช่สมบัติของท่าน!! การมีท่านเป็นพี่ชายเป็นเรื่องน่าสมเพชที่สุดในชีวิตข้า ท่านกล้าขายน้องสาวตัวเองเพื่อบัลลังก์เหล็ก แต่ไม่กล้ายอมรับผลของมันงั้นหรือ ช่างไร้เดียงสานัก”

     

     

        ไม่นานทองในหม้อก็เริ่มละลาย วิเซริสพอจะรู้ชะตากรรมของตนเองเขาเอ่ยอ้อนวอนกับน้องสาวของเขา

     

     

         “แดนนี่!! แดนนี่ไม่นะ ห้ามมันที!! ห้ามทำข้า ได้โปรด ได้โปรด!!”คาลถือหม้อเดินตรงมาที่วิเซริส

     

     

         “แดนนี่ข้าขอร้อง!!!”แดเนริสมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความเฉยชา ในขณะที่คาลกำลังเททองคำเดือดลงไปที่หัวของวิเซริส

     

     

         “นี่ไง มงกุฎกษัตริย์”

     

     

         “อ๊ากกกก!!!”เมื่อเทเสร็จคาลโดรโกก็นั่งมองผลงานของเขาอยู่ครู่หนึ่ง เซอร์จอราห์เป็นห่วงความรู้สึกของแดเนริส

     

     

        “คาลิซี่…”

     

     

        “เขาไม่ใช่มังกร ไฟไม่สามารถฆ่ามังกรได้”

     

     

        “ก็ไม่ใช่ว่า ทาร์แกเรียนทุกคนจะไม่โดนไฟเผาไหม้ มีจะผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งเท่านั้น เช่นเราสองคนพี่สาวข้า”เมื่อพูดจบ เขาจูบหน้าผากนางนางเดินไปหาคาล

     

     

        “คาล ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็เป็นพี่ชายข้า ตอนนี้ข้าอยากขออนุญาต ทำพิธีศพให้เขา”

     

     

        “ได้ ถ้านั้นเป็นสิ่งที่เจ้าต้องการเพื่อนข้า”คาลไม่คัดค้าน 

     

     

        “ขอบคุณ”เมื่อพูดในสิ่งที่ต้องการจบ เดม่อนก็ออกจากงานเลี้ยงและออกจากเผ่าโดรธากีเพื่อเรียกสามมังกรให้กลับมาในพรุ่งนี้เช้า

     

     

     

       

     

     

        

     

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×