ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Reborn ] รักร้ายเจ้าชายโรคจิต BF

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : คนๆนั้น

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 55


                  ทันทีที่ฟรานวิ่งมาถึงห้องของตนเอง  ก็รีบปิดประตูแล้วยืนหอบก่อนที่เข่าจะค่อยๆทรุดลงไป

    กลายเป็นนั่ง  แล้วฟรานก็คิดทบทวนกับตัวเอง  สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ปกติสำหรับผู้ชาย รวมทั้งตัวเองก็...

    พอมานึกถึงเรื่องนั้นแล้ว  ฟรานก็อยากจะเอามือทุบหัวตัวเองให้ปูดจนความจำเสื่อมไปเลย  พอนึก

    ได้อย่างนั้นฟรานก็รีบจัดแจงเสื้อผ้า  แล้วเดินหาตู้เสื้อผ้าซึ่งคาดว่าน่าจะมีเสื้อผ้าพอให้เปลี่ยนอยู่  แล้วก็

    เหลือบไปเห็นตู้เสื้อผ้าตู้หนึ่งที่ถูกแกะสลักเป็นลายไม้สวยงาม  แต่ถูกคลุมด้วยผ้าสีหม่น และแทบจะ

    ไม่มีฝุ่นเกาะอยู่เลย  ฟรานเดินเข้าไปแล้วค่อยๆดึงผ้าคลุมมารวบกองไว้ที่พื้น  แล้วเปิดตู้ออกมา  

    ข้างในตู้เต็มไปด้วยภาพถ่ายของเบลเฟกอลกับผู้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งดูท่าทางจะสนิทกันมาก  เพียงแต่

    ภาพถ่ายเหล่านั้นผู้ชายอีกคนที่ถ่ายด้วยกลับเอาหมวกคลุมใบหน้าไปครึ่งหนึ่งทุกใบ ทำให้ฟรานไม่สามารถ

    เดาได้ว่าหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร  แล้วฟรานก็หันขึ้นไปมองก็พบอุปกรณ์มากมาย ทั้งกล่องกำมะหยี่

    สีเขียว  ชุดคลุมสีดำสองชุด  เสื้อผ้าบางชุดถูกพับไว้อย่างเรียบร้อย  ไม่มีฝุ่นเกาะแม้แต่นิดเดียว

    แล้วเสื้อผ้าเหล่านั้นก็มีขนาดพอดีกับขนาดตัวของฟราน  ฟรานจึงหยิบเสื้อกล้ามสีดำกับเสื้อคอกว้าง

    สีขาวสลับดำแนวนอนมาก่อนจะหยิบกางเกงขาสั้นอีกตัวหนึ่งมาก่อนหายเข้าห้องน้ำไป 

            เสียงจากฝักน้ำที่ถูกเปิดไหลผ่านร่างกายบางๆของเจ้าของผมสีเขียว-ฟ้าน้ำทะเล  เส้นผมที่ถูกน้ำ

    ค่อยๆลู่แนบหนังศรีษะกระแสน้ำค่อยๆไหลผ่านร่างกายพร้อมกับชำระสิ่งสกปรกบนตัว  ในตอนนี้

    ฟรานค่อยๆสงบสติอารมณ์ลงหน่อย  ฟรานไม่ลืมที่จะเปิดน้ำอุ่นๆเอาไว้ในอ่าง  แล้วค่อยๆเอาตัวลง

    ไปแช่น้ำอุ่นๆ  ซึ่งทำให้ฟรานรู้สึกเพลิดเพลินและผ่อนคลายจนลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น

    เพียงไม่นานฟรานก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ  แล้วออกมายืนให้ลมพัดเส้นผมที่ระเบียง  แม้จะรู้สึกหนาว

    แต่สภาพแวดล้อมโดยรอบของปราสาทแห่งนี้มีสภาพสวยงาม  สามารถมองเห็นแสงจันทร์ส่องสว่าง

    เป็นภาพที่สวยที่สุดที่ฟรานเคยพบ  ฟรานอดยิ้มไม่ได้ที่ถึงแม้ที่แห่งนี้จะเป็นที่ๆตนจำใจต้องมา แต่ในตอนนี้

    ฟรานไม่คิดอย่างนั้น  พลันสายลมก็พัดให้เส้นผมของฟรานปิดตาข้างหนึ่ง  ทำให้ฟรานต้องหันหน้า

    ไปตามที่เส้นผมพัด  แล้วก็ไปเจอเบลเฟกอลยืนอยู่ที่ระเบียงข้างๆกัน  แต่ฟรานกลับมองไม่เห็นแววตาของ

    คนที่ยืนอยู่ที่ระเบียงถัดไปเลยว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร  แต่ดูเหมือนแสงจันทร์จะเป็นใจให้ฟรานได้เห็นแววตานั้น

    แววตาของเบลเฟกอลที่สั่นระริกด้วยความกลัวและความเสียใจ  ในมือถือกล่องบางอย่างทีมีขนาดเล็ก

    เท่าฝ่ามือ แต่ดูเหมือนว่าเบลเฟกอลจะรู้ตัวทันเลยเก็บกล่องนั้นอย่างรวดเร็วแล้วตวัดสายตาอาฆาต

    ส่งให้ก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องตนเองไป...

         " ว้า...เป็นอะไรของเขากันนะ  อารมณ์เสียตลอดทุกครั้งที่เจอเราเลยแฮะ"  ฟรานแอบบ่นด้วย

    ความน้อยใจนิดๆ ที่เบลเฟกอลต้องทำเสียงหัวเราะแบบโรคจิตหรือไม่ก็ทำอารมณ์เสียใส่เขาทุกทีไป

    ฟรานยืนตากลมที่ระเบียงต่ออีกสักพักก็เดินเข้าห้องไปหาหนังสือมาอ่านก่อนนอน  แต่ว่าในห้องนี้

    ไม่มีหนังสือสักเล่มเดียวทำให้ฟรานต้องเดินออกจากห้องไปหาหนังสืออ่าน  ระหว่างนั้นก็ผ่านห้อง

    บอสของวาเรียซึ่งก็คือซันซัสนั่นเอง   มีเสียงร้องครางเบาๆดังออกมาจากห้องนั้น  ฟรานเองก็อยากใส่ใจ

    กับเรื่องส่วนตัวของคนอื่น  เลยมุ่งหน้าไปหาห้องหนังสือ  ซึ่งไม่นานก็หาเจอ  ภายในห้องหนังสือ

    มีหนังสือหลายประเภททั้งหนังสือเกี่ยวกับความงามและการครัวเรือน ( ซึ่งเดาได้ว่าลุซซูเรียคง

    อ่านหนังสือพวกนี้แน่นอน ) หนังสืออีกตู้หนึ่งถูกล็อกเอาไว้ซึ่งฟรานเดาได้ว่าคงเป็นหนังสือสำคัญ

    หรือไม่ก็เป็นหนังสือที่เจ้าของหวงมาก ( แต่ก็ไม่น่าจะถึงขนาดนี้นะ )  ฟรานเดินหาหนังสือไปๆมาๆ

    ก็ไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งตกอยู่ที่พื้น  หนังสือเล่มนั้นถูกใจฟรานมากแม้สีสันของมันจะไม่ค่อยสดใส

    ออกหมองๆหน่อยๆแต่ก็ดูมีความลับดี  ฟรานตัดสินใจหยิบหนังสือเล่มนั้นเดินกลับห้องไปก่อน

    โดดขึ้นที่นอนแล้วเปิดหนังสืออ่านดู  ข้างในมีตัวอักษรที่เขียนด้วยมือและภาพที่แต่ละหน้าจะมีติดไว้

    เป็นภาพของทุกๆคนในวาเรียถ่ายร่วมกับคนๆหนึ่งที่ฟรานไม่เคยพบมาก่อน ทุกคนดูมีความสุขมาก

    โดยเฉพาะเบลเฟกอล ทุกๆหน้ามักจะมีภาพของเบลเฟกอลถ่ายคู่กับ ' คนๆนั้น ' แต่พอฟรานเปิดอ่าน

    มาจนหน้าสุดท้ายมันกลับถูกฉีกออก ทำให้ฟรานไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นต่อ  แต่ภาพหลังๆนั้นรู้สึกว่า

    เบลเฟกอลจะทำแววตาเหงาๆอยู่เกือบทุกภาพ  ฟรานตัดสินใจปิดมันแล้ววางไว้ข้างตัวก่อนจะหลับ

    ท่ามกลางราตรีที่มีแสงจันทร์สาดส่องกระทบแผ่นหน้าบางๆ...

       " จิ๊บๆ...ฮ้าววว~ แง่มๆ  งืมมม~.....หนาว~" เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้น  ฟรานก็ยังนอนอยู่บนเตียงอย่าง

    สบายใจเฉิบ โดยไม่รู้ว่ามีใครมานั่งอยู่ข้างๆเตียงของตัวเองด้วย  คนๆนั้นค่อยๆโน้มตัวลง

    แล้วประทับริมฝีปากบนริมฝีปากของฟรานอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้เจ้าตัวตื่น   สัมผัสอุ่นๆจากริมฝีปาก

    ทำให้ฟรานลืมตาขึ้นดูนิดนึงก่อนหลับต่อและสะดุ้งสุดแรงเกิดจนหัวของทั้งสองชนกัน  แล้วฟราน

    ก็หันไปมองหน้าของคนที่อยู่ข้างๆอย่างชัดเจน

       " เจ้าโรคจิต  นายกล้าเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง  นี่มันห้องของผมนะ คุณเข้ามาจาก...ฟิ้วว~"

    ไม่ทันที่ฟรานจะได้ถามจนจบประโยคก็เห็นประตูที่เปิดไปที่ระเบียงกำลังเปิดรับลมเย็นๆของยามเช้า

    ให้ลมพัดเข้ามาในห้องและไม่ต้องสงสัยให้มากความ  เพราะดูแล้วคงรู้ได้ทันทีว่าเบลเฟกอล

    เข้ามาจากทางไหน

       " ชิชิชิ~ นายตื่นสายเองนะ  วันนี้มีภารกิจต้องทำ  รีบๆแต่งตัวแล้วไปรวมตัวกันที่เดิมล่ะ...ส่วนจูบนี่

    วันนี้เจ้าชายขอขโมยไปก่อนหนึ่งวันล่ะนะ  ชิชิชิ~"  ว่าแล้วเบลเฟกอลก็เดินไปทางประตูก่อนจะ

    เปิดออกแล้วเดินไปรอที่ห้องประชุม  ส่วนฟรานก็สะบัดผ้าห่มทิ้งก่อนวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ

    พอฟรานอาบเสร็จดันลืมนึกว่าไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้ามาด้วย  เลยมองหาผ้าขนหนู่สักผืนหรือ

    อะไรมาคลุมตัวก่อน  แล้วค่อยเหลียวมองซ้าย - ขวา แล้วเดินออกจาห้องน้ำก่อนย่องไปที่ตู้เสื้อผ้า

    แล้วหยิบเอาเสื้อกล้ามสีดำมาก่อนที่จะปรากฏเงาคนตัวสูงมาทาบทับฟราน  ทำให้ฟรานรู้สึก...

       " ชิชิชิ~ แต่งตัวมาแบบนี้คิดจะยั่วเจ้าชายรึไง  แต่ก็นะ...ผิวแบบนี้เจ้าชายเห็นแล้วรู้สึกอยากกิน

    ขึ้นมาทันทีเลย  คงรอให้เสร็จภารกิจก่อนคงไม่ไหวแล้วล่ะ ชิชิชิ~" ว่าแล้วเบลเฟกอลก็

    กระชากฟรานมาโยนลงบนเตียงพร้อมกับตรึงแขนและขาของฟรานไว้ด้วยมือและเข่าของตัวเอง

    ก่อนที่จะซุกใบหน้าลงไปที่ลำคอ  ทำให้เส้นผมของเบลเฟกอลถูลำคอของฟรานจนรู้สึกเสียว

    ผ้าที่คลุมหลุดออกเผยให้เห็นผิวสีขาวอมชมพูแบบผู้หญิง  ร่างกายดูบอบบางควรทนุถนอม

    หน้าอกของงฟรานขยับขึ้น - ลงอย่างรวดเร็วทำให้เห็นว่าฟรานตกใจแค่ไหน

       " ปล่อยผมนะ...ผมเจ็บนะ  ปล่อยผม บอกให้ปล่อยไง  อื้อ..."  คำพูดของฟรานหยุดลงทันที

    ริมฝีปากของเบลเฟกอลค่อยๆจูบด้วยความร้อนแรงและหนักหน่วง  แทบไม่เปิดโอกาสให้

    คนถูกกระทำไดหายใจเลยสักนิด  จนฟรานค่อยๆอ่อนแรงลงและไม่สามารถต้านพละกำลังของ

    คนที่กระทำได้เลย  เบลเฟกอลจึงยอมเปิดโอกาสให้ฟรานได้หายใจสักครู่  และยอมปล่อยฟรานไป

    ฟรานรีบกระชับผ้าคลุมตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ  ก่อนเปิดน้ำจากฝักบัวราดตัวเองเพื่อคลายความรู้สึกกลัว

       " หมอนั่นไม่ใช่...ไม่ใช่  ถึงจะเหมือนกันแต่ก็ไม่ใช่  ฉันจะทำอะไรเกินเลยกว่านี้ไม่ได้  เขาไม่ใช่

    ' คนๆนั้น ' ..."  เบลเฟกอลกระซิบคำพูดตอกย้ำความคิดกับตัวเอง  ก่อนจะล้มตัวนอนบนเตียง

    แล้วมองเพดาน  ก่อนค่อยๆหลับตาลงแล้วลืมความคิดของตัวเองก่อนจมดิ่งสู่ห้วงนิทราแห่งฝัน

       " เฮ้ๆ...เบลเฟกอลนายจะทำอะไรน่ะ  โอ๊ย...มันแสบตานะ  เจ้าบ้านี่!"  เสียงของเด็กผู้ชาย

    คนหนึ่งซึ่งตัวเล็กบอบบางและผิวขาวอมชมพูเหมือนฟรานใส่เสื้อลายขวางแนวนอนสีเขียว - เหลือง 

    ( เหมือนรถแท็กซี่บ้านเราจัง ) กำลังพูดกับเบลเฟกอลที่จู่ๆก็วักน้ำทะเลใส่หน้าของเขาแล้ว

    มันกระเด็นไปโดนตาพอดีทำให้คนที่เล่นต้องหยุดชะงักแล้วเดินมาหาเพื่อดู   แต่ก็ต้องเป็น

    ฝ่ายโดนเสียเอง  คนตัวเล็กยังแลบลิ้นแหย่อีกจึงทำให้เกิดสงครามการสาดน้ำทะเลระหว่าง

    เบลเฟกอลกับเด็กผู้ชายคนนั้น  เพียงไม่นานคนที่แกล้งก็ออกอาการเซเพราะเป็นลมแดด

    ทำให้ต้องไปอยู่ในอ้อมกอดของเบลเฟกอลที่ยื่นออกมารับ  แล้วเบลเฟกอลก็อุ้มคนๆนั้นขึ้นมา

    บนชายหาดแล้วให้ลุซซูเรียดูอาการ  ซึ่งลุซซูเรียบอกว่าแค่เป็นลมแดดให้พักสักหน่อยก็หาย

    เบลเฟกอลอดที่จะเล่นแก้มของคนที่นอนสลบไม่ได้  เพราะแก้มที่ขาวระเรื่อนั้นดูเหมือนคนเขินอาย

    แต่ขณะเดียวกันมันก็อดที่จะทำให้เบลเฟกอลก้มลงไปหอมไม่ได้  แค่เพียงประทับรอยแดงจางๆ

    ที่แก้มของคนๆนั้นแล้วเบลเฟกอลก็หยุดไปก่อนลุกขึ้นไปนอนมองฟ้า...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×