ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Reborn ] รักร้ายเจ้าชายโรคจิต BF

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1: สถานะที่ได้รับ

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 55


           หลังจากที่เบลเฟกอลเดินนำฟรานมาที่ห้องแห่งนี้ซึ่งถูกจัดไว้เป็นห้องสำหรับ

    รับประทานอาหาร  เบลจัดแจงให้ฟรานนั่งอยู่ใกล้ๆเขา  ไม่นานนักก็มีคนทยอยเข้ามา  ทุกคน

    ไม่พูดคุยและไม่มองหน้ากันแม้แต่น้อย  ทำเหมือนว่าไม่รู้จักกัน  สักพักอาหารก็เริ่มทยอย

    เข้ามาในห้องนี้  กลิ่นของอาหารและหน้าาตาของมัน  เมื่อฟรานได้เห็นก็เกิดอาการหิวขึ้นมา

    แม่บ้านลุซก็เลยเสิร์ฟอาหารทันทีอย่างรวดเร็วด้วยความคล่องตัว  เสร็จแล้วก็จัดคู่จานและ

    ช้อนส้อมให้แต่ละที่นั่ง  เสร็จแล้วตัวเองก็ไปประจำที่ของตัวเองก่อนที่คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะจะ

    สั่งให้ทานอาหารได้  ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสงบ  ต่างกับทุกวันที่เบลเฟกอลมักจะเห็น

    หัวหน้าของเขาทะเลาะกับนักดาบที่ปากร้ายชวนหาเรื่องเป็นประจำ  แต่สุดท้ายก็จบ

    ด้วยการทำโทษประจำวันซึ่งนั่นทำให้นักดาบปากร้ายต้องสงบไปถึงสามวันด้วยอาการ

    หมดแรงจากการทำโทษของหัวหน้าของเขา  การรับประทานอาหารในวันนี้เป็นไปอย่าง

    รวดเร็ว  เมื่อทานเสร็จแม่บ้านลุซก็จัดการนำจานชามที่ตอนนี้แทบไม่เหลือเศษซากของ

    อาหารไปล้าง  สาเหตุก็มาจากผู้มาเยือนใหม่หรือฟรานนั่นเองที่หิวจนทานอาหารได้เยอะ

    อย่างไม่มีหยุด  แต่ก็ถือว่าดีเพราะว่าจะได้ไม่เสียเวลามากนักจะได้แนะนำตัวให้ทราบกันเลย


    " กินกันเสร็จแล้วก็ตามไปเจอกันที่ห้องประชุมได้เลย  อย่าชักช้าล่ะฉันขี้เกียจรอ"    เมื่อ

    คนที่อยู่ในห้องได้ยินก็รีบเดินตามผู้ที่กล่าวไปอย่างรวดเร็ว  เหลือเพียงแม่บ้านลุซหรือ

    ลุซซูเรียที่เก็บกวาดทำความสะอาดห้องอยู่และฟรานที่นั่งลูบท้องตัวเองหลังจากที่

    ทานอาหารไปมากกว่าใคร


    " นี่  รีบตามไปเร็วสิ  บอสสั่งไม่ได้ยินรึไงเดี๋ยวจะเสียเวลาเอานะ   ลุซไม่ช่วยด้วยนะขอบอก"

    ลุซซูเรียรีบบอกเมื่อเห็นว่าฟรานยังไม่ไป


    " ขอผมพักก่อนไม่ได้  เพิ่งทานอาหารไป  อิ่มมากเลย"  ฟรานพูดไปพลางลูบท้องที่แทบจะ

    ไม่มีของตนเอง


    " ก็แล้วแต่นะ  ลุซไปก่อนนะ"  ว่าแล้วลุซซูเรียก็เดินออกจากห้องไป  ซึ่งตอนนี้ที่ห้องสำหรับ

    รับประทานอาหารแห่งนี้ก็เหลือเพียงฟรานคนเดียวแล้ว


    " เอ่อ...ว่าแต่ห้องประชุมที่ต้องไปทางไหนล่ะเนี่ย  ไม่ใช่สิ...ทางออกของที่นี่อยู่ตรงไหน

    ต่างหาก  ต้องเดินหาทางออกเองแล้วสิ...เจ้าโรคจิตกับพวกไปกันหมดทางสะดวกล่ะ"

    ฟรานพูดพลางเดินออกจากห้องแล้วเลี้ยวซ้ายไปตรงทางเดินแคบๆ  เมื่อหลุดออกจาก

    ทางเดินแคบๆนั้นก็พบว่ามีบันไดสีขาวทอดยาวลงไปด้านล่าง  ฟรานเดินตามทางบันได

    จนสุดก็พบว่าข้างล่างเป็นห้องเก่าๆที่ไม่มีคนใช้มานานมากแล้ว  แต่แล้วก็มีของสิ่งหนึ่ง

    สะท้อนแสงกระทบเข้าตาของฟรานพอดี  ฟรานจึงเดินไปตามแสงที่สะท้อนในห้องเก่า

    ที่มีแสงสลัว   แล้วเขาก็หยิบสิ่งของที่สะท้อนแสงนั่นขึ้นมาแล้วก็พบว่ามันคือมีดสีเงิน

    เล่มหนึ่งที่ไม่ได้มีลวดลายอะไร


    " โธ่...ก็แค่มีดสั้นเล่มเดียว  ไม่เห็นน่าสนใจอะไรเลย"  ว่าแล้วฟรานก็ปามีดเล่มนั้นทิ้ง

    แต่หารู้ไม่ว่าการปามีดทำให้เกิดแรงสั่นที่นิ้วของเบลเฟกอล  นั่นทำให้เบลเฟกอลรู้

    ทันทีว่ามีคนคิดหนีออกจากปราสาทแห่งนี้  เบลเฟกอลเลยวิ่งออกจากห้องประชุม

    ตรงลงมาที่ห้องเก็บของ  แต่ฟรานเองก็หูดีไม่แพ้กัน  เลยหนีไปซ่อนในกล่องใบใหญ่

    ที่ตั้งใกล้กล่องใบอื่นและของใช้ที่ไม่ได้ใช้หลายอย่าง  หารู้ไม่ว่าเบลเฟกอลรู้ดีไม่ว่า

    ฟรานจะซ่อนอยู่ไหน   เพราะว่าสายเอ็นของเขามันพันนิ้วของฟรานเอาไว้เป็นที่

    เรียบร้อยแล้ว  เบลเฟกอลเดินห่างจากกล่องใบใหญ่ที่ฟรานซ่อนอยู่ก่อนกระตุก  

    นิ้วกลางดึงเส้นเอ็นและมีดขึ้นมาแล้วผ่าทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆเป็นเป็นสองส่วนก่อนที่

    กล่องใบใหญ่ที่ฟรานซ่อนอยู่จะถูกผ่าออกเป็นสิ่งสุดท้าย


    " ชิชิิชิ~  คิดจะหนีเหรอ ยังไงก็หาทางออกไม่เจอหรอกนะ เจ้าชายบอกแล้ว  ถ้าจะออก

    เจ้าชายคนนี้จะพาออกเอง  ชิชิิชิ~"  ว่าแล้วเบลเฟกอลก็เดินเข้าไปแบกฟรานก่อนที่จะ

    วิ่งตรงไปที่ห้องประชุมอย่างรวดเร็ว  


    " เก็บกวาดให้สะอาดด้วย  ไอ้สวะ"  สควอโล่สั่งกับลุซซูเรียก่อนที่จะตามซันซัสไปที่

    ห้องประชุม  เมื่อทยอยไปกันหมด  ลุซซูเรียก็รีบเก็บกวาดสิ่งของที่เบลเฟกอลเป็นคนสร้าง

    ให้เรียบร้อย  ระหว่างทำงานลุซซูเรียก็บ่นด้วยความน้อยใจไปด้วย


                  ณ     ที่ห้องประชุม  ขณะนี้มีเบลเฟกอลกับฟรานที่อยู่ในห้อง   ทั้งสองต่างไม่มอง

    หน้ากัน  เพราะฟรานน้อยใจ  ส่วนเบลเฟกอลก็เหนื่อยกับการแบกคนตัวเล็กที่น้ำหนักเยอะ

    " ทำไมนายต้องคอยยุ่งกับชั้นด้วย  ชั้นเกลียดนายที่สุดเลย  ชีวิตของชั้นมันจะเป็นยังไง  นายก็ไม่เห็น

    ต้องยุ่งเลยสักนิด  นายพาชั้นมาอยู่ที่นี่   กักขังไม่ให้ฉันได้ออกไปข้างนอก  แล้วนายจะเอาอะไรอีก

    ฮึก...ฮึก...ฮึ"   ฟรานหันไปว่าบลเฟกอลด้วยความน้อยใจ  แต่เจ้าตัวที่ถูกว่าไม่สนใจหันมามองหน้าเลยสักนิด

    แต่สักพักร่างของฟรานก็หล่นตุ้บลงไปนั่งกับพื้นทันที  เ้ก้าอี้ของฟรานถูกยกปากับฝาผนังห้องจนเป็นรอยร้าว

    คนที่ถูกว่าหันหน้ากลับมามองด้วยความเจ็บปวด

    " นายคิดเหรอว่าฉันอยากยุ่งกับนายนักน่ะ  ที่่คนอย่างเจ้าชายต้องยุ่งก็เพราะว่านายมีความสำคัญกับทางเรา

    ขอให้นายฟังบ้างสักนิดไม่ได้เหรอ  ขอแค่นั้น...เท่านั้นไม่ได้เหรอ...โธ่เว้ย!"  ว่าแล้วเบลเฟกอลก็ชกกำแพง

    จนมือเป็นแผลแล้วเดินออกไป   สวนทางกับพวกสควอโล่ที่กำลังเดินจะเข้ามา   แต่คราวนี้พวกสควอโล่

    เปิดประเด็นทันทีที่นั่งลง  และก็ไม่ลืมที่จะมัดฟรานให้นั่งติดกับเก้าอี้ด้วยเชือกที่ใช้ล่าสิงโต  เจ้าตัวที่ถูกมัด

    จึงต้องยอมนั่งฟังแต่โดยดี  สควอโล่พูดถึงเรื่องที่ฟรานถูกจับตัวมาเพราะอะไร  และได้เข้าเป็นส่วนหนึ่ง

    ของวอริเออร์เป็นที่เรียบร้อย  แล้วก็ส่งกล่องกำมะหยี่สีเขียวฟ้่าให้ฟราน  แล้วแก้เชือกให้ฟรานก่อนที่ฟรานจะ

    รับมาแล้วเดินกลับห้องไป  ส่วนลุซซูเรียก็ถูกใช้ให้เก็บกวาดกำแพงที่ถูกเก้าอี้ของเบลเฟกอลปาเข้าใส่เช่นเดิม

    และหลังจากออกจากห้องนั้นในใจของฟรานยังนึกเป็นห่วงเบลเฟกอลที่มีสีหน้าดูเจ็บปวดแบบนั้นกับมือที่ทุบ

    กับกำแพงจนเป็นแผล  จึงกลับมาที่ห้องซึ่งกว่าจะหาทางกลับมาได้ก็  2  ชั่วโมงเต็ม  แถมยังเดินไม่ดูทางจน

    ชนกำแพงหัวปูดเป็นมะนาวสองลูกบนหน้าผาก    แต่พอกลับไปถึงห้องก็รีบหายาทาแผลมาแล้วรีบหาห้องของ

    เบลเฟกอลทันที   แต่คราวนี้หาไม่นานก็เจอเพราะว่าฟรานได้เดินเล่นทั่วปราสาทนาน  2  ชั่วโมงเต็ม

    เรียบร้อยแล้ว

    " สะ...สวัสดีครับ   มีใครอยู่มั๊ย   เอิ่ม...หวังว่าผมคงไม่มารบ...อุ๊บ!...ตุ๊บ"  ฟรานเปิดประตูแล้วค่อยๆเดินเข้าไป

    พลางมองหาคนที่เป็นเจ้าของห้อง  แต่เมื่อไม่เห็นการตอบรับจึงเดินเข้าไป  แล้วก็ถูกคนที่ซ่อนอยู่หลังประตู

    ปิดปากก่อนอุ้มไปโยนทิ้งบนเตียงนอนเตียงใหญ่ๆ   ก่อนที่ฟรานจะหันไปมองเห็นว่าใครเป็นคนทำ  ซึ่ง

    ก็เป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่ฟรานกำลังตามหา  เพียงแต่ตอนนี้สิ่งที่ฟรานสังเกตเห็นคือ  ผ้าพันแผลที่มือ

    ถูกพันไว้อย่างลวกๆ  รอยฟกช้ำยังคงปรากฏอยู่ให้เห็นบางส่วน  ดูเหมือนจะไม่ได้พันปิดรอยไว้  ฟรานเห็น

    ก็รู้สึกผิด  จึงคลานเข้าไปหาพลางจับมือข้างนั้นขึ้นมาแล้วค่อยๆแก้ผ้าพันแผลออก  จนเสร็จ  แล้วเอามา

    พันรอบมืออย่างประณีตใหม่

    " ถึงจะดูว่าอดทนได้ก็เถอะครับ  แต่หัดเข้าใจร่างกายของคุณบ้าง  ว่ามันรู้สึกยังไง..."  ฟรานพูดเพียงเท่านั้น

    แล้วเบลเฟกอลก็ผลักให้ฟรานล้มลงไปบนเตียงอีกรอบก่อนจะรวบแขนทั้งสองข้างมามัดด้วยเส้นเอ็นจาก

    ใบมีดที่ปาไปปักบนฝาผนังของห้อง   เล่นเอาคนพูดแทบไม่ทันตั้งตัว  ก่อนที่คนเจ็บจะค่อยๆคลานบนเตียง

    ตรงเข้าไปหาอย่างช้าๆแล้วจับคางของฟรานขึ้นมาเชิดดู

    " ความรู้สึกของร่างกายน่ะ  ใช่แบบนี้รึเปล่า?..."  ว่าแล้วเบลเฟกอลก็ค่อยๆเอามือเข้าไปใต้เสื้อของฟราน

    แล้วลูบไล้ผิวหนังของคนที่ถูกตรึงอย่างช้าๆ  พลอยทำให้คนที่ถูกตรึงรู้สึกเสียวจนมีสีหน้าแดงระเรื่อ  แล้ว

    คนพูดก็เอามืออกจากใต้เสื้อนั้นอย่างช้าๆ  พร้อมกับเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นการถอดเข็มขัดที่รัดกางเกงออก

    แทน  แล้วค่อยๆดึงซิงให้รูดลงมา...

    " อยะ...อย่าครับ  อย่าทำแบบนี้  ผมขอโทษ...อย่าทำแบบนี้เลย..."  คนถูกตรึงเริ่มไหวหวั่นและเกรงกลัว

    จึงตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือน้ำตา  พลางหันนห้าไปทางอื่น เพื่อหลบหน้าคนตรงหน้า

    " เอาเถอะ  วันนี้เจ้าชายเองก็จุกจนไม่อยากกินอะไรแล้ว  งั้นปล่อยก็ได้  ไว้วันหลังจะเอาคืนให้สาสมยิ่งกว่านี้

    ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ...ชิชิชิ~"  ว่าแล้วเบลเฟกอลก็ใช้มีดสั้นปาดไปตรงเส้นเอ็นที่ใช้ตรึงฟรานไว้  ก่อนจะเดิน

    ไปเข้าห้องน้ำของตน  แล้วฟรานจึงเดินก้มหน้าแล้วเร่งความเร็วของฝีเท้าวิ่งไปยังห้องของตนเองทันที...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×