ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Phy&Math] ครูฟิสิกส์จอมกะล่อนกับนายหน้าอ่อนหัดสอนคณิตศาสตร์

    ลำดับตอนที่ #4 : -[Physics&Math]- ทำงาน? เที่ยว? เดท?

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 56


    <Chapter4> ทำงาน? เที่ยว? เดท?

    “ประกาศ!! 19-20 ตุลาคม 2556

    จะมีการสอบปลายภาคของนักเรียนม.5

               เสียงโวยจากเด็กชั้น2 ดังลงมาถึงหัวบันไดชั้น1 จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมเดินขึ้นบันไดเพื่อไปหาสาเหตุเสียงโวยนั้น

    ผมเดินตามเสียงโวยที่ดังขึ้นเรื่อยๆมาถึงชั้น2 เด็กม.ปลายเกือบร้อยคนยืนมุงกันหน้าประตูห้องพักครูเพื่อดูอะไรบางอย่าง

    “เกิดอะไรขึ้น” ผมถามเด็ก 2คนที่เพิ่งเดินออกมาจากฝูงคนร้อยคนที่กำลังมุงดูอะไรสักอย่าง

    “วันสอบน่ะค่ะพี่ฟิล์ม”

    “แล้วสอบวันไหนกัน”

    19-20 นี้! แต่วันนี้วันที่17แล้วเพิ่งประกาศวันสอบ ใครจะเตรียมตัวทัน จะเอาเวลาจากไหนอ่านหนังสือ” เด็กทั้งสองคนเริ่มโวยวาย

    “วันนี้ก็ไม่ต้องเรียนพิเศษตอนเย็น กลับบ้านไปอ่านหนังสือกันสิ”

    “จะกลับยังไงล่ะคะ ออกยากแบบนี้”

    โรงเรียนของผมมักจะมีกฎแปลกๆงอกเป็นดอกเห็นขึ้นทุกวัน อย่างเรื่องกลับบ้านตอนเย็นของเด็กม.ปลาย โดยมีกฎอยู่ว่า

     

    นักเรียนชั้นม.4-6 ที่มีความประสงค์จะกลับบ้าน

    กรุณามารับใบอนุญาตเขียนคำขอกลับบ้านพร้อมลายเซ็นคุณครูประจำชั้น

    ดูกฎโรงเรียนผมสิ เขียนคำขออนุญาตกลับบ้านก็ว่าเยอะแล้ว นี่ต้องขอลายเซ็นครูประจำชั้นอีก จะเยอะแยะอะไรกันนักหนา

                 ผมเองก็ไม่เข้าใจทำไมต้องบังคับเด็กเรียนพิเศษตอนเย็น ถ้าเด็กอยากจะเรียนก็เรียนเองแหละครับ ถึงไม่ได้เรียนที่โรงเรียนแต่ก็เรียนข้างนอกได้เหมือนกัน ความรู้เหมือนกันถ้าเด็กรับความรู้ที่ไปเรียนนั้นมันก็ได้เองแหละครับ บังคับฝืนใจกันแบบนี้ ผมล่ะเอือมที่สุด

     

     

     

    .....ห้องพักครู ชั้น2....

    “เห้ย บาส” ผมเรียกหน้าอ่อนที่กำลังคุ้ยหาอะไรบางอย่างในกองหนังสือที่กระจัดกระจาย

    “มีอะไรหรือเปล่าพี่” หน้าอ่อนถาม พร้อมกับทำหน้าตางงๆ

    “สรุปวันเสาร์แกจะไปเยี่ยมบ้านเด็กกับฉันด้วยไหม”

    “ไปสิครับ ถ้าผมไม่ไปผมจะได้ทริคเด็ดๆจากพี่ไหมล่ะครับ” ไอ้หน้าอ่อนนี่จะเอาทริคจากผมให้ได้เลยจริงๆ ผมไม่มีทริคอะไรให้มันเลยนะมันจะเอาอะไรจากผมกันเนี่ย -0-;;;

    “เออๆ เดี๋ยวพี่ไปรับแกที่บ้าน”

    “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปรับพี่เองก็ได้ครับ”

    ห๊ะ!!!!!??? อะไรนะ 0[]0!!!!??? ไอ้หน้าอ่อนจะมารับผมที่บ้าน

    จะมารับที่บ้าน!!

    บ้าน!!!

    บ้าน!!!!!

    บ้านนน!!!!!!!!!!!!

    ตอนนี้หัวใจผมเต้นแรงมาก เต้นเป็นจังหวะสกา เอ๊ะ? จังหวะอะไรก็ไม่รู้ ช่างมันเถอะ ผมรู้แค่ว่าหัวใจผมเบ่งบานมากเมื่อได้ยินว่าไอ้หน้าอ่อนตรงหน้าผมจะมารับที่บ้าน พรุ่งนี้!

     

     

     

     

     

     

     

    9.00 AM

    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดดดดดดดดดด!!!

    “โว้ยยยยยยยยยย” ผมเอื้อมมือไปจับนาฬิกาปลุกตัวดีของผมที่ส่งเสียงดังน่ารำคาญทุกเช้าก่อนจะกดปิดเพื่อให้มันหยุดร้องเสียงดังและเงียบลง วันนี้เป็นวันเสาร์ที่อากาศแจ่มใสเหมาะกับการนอนมากที่สุด

    ผมล่ะรักวันเสาร์มากที่สุด เป็นวันแรกของการพักผ่อนในสัปดาห์ 
    ไม่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน ไม่ต้องไปโรงเรียนที่แสนวุ่นวายและน่าเบื่อ..

     

     

    ปี๊ดปี๊ด ปี๊ด ปี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!

    “อะไรอีกเนี่ย” ผมสะดุ้งตื่นพร้อมกับเอามือปิดหูก่อนจะหันไปมองหาต้นเสียงที่น่ารำคาญนั่น

    “ก็ปิดเสียงนาฬิกาแล้วปะวะ หรือจะเสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์” ผมลุกจากที่นอนไปที่โต๊ะทำงาน ที่ผมทำความสะอาดทุกวัน บนโต๊ะทำงานผมทุกอย่างถูกจัดเข้าที่เข้าทางตามล็อคของมัน ปากกาหลากหลายสีเรียงกันในกล่องอย่างสวยงาม หนังสือ สมุดจดก็ถูกวางแยกกันเพื่อความสะดวกในการใช้งาน เอกสารสำคัญต่างๆก็ถูกจัดให้อยู่ในแฟ้มอย่างเรียบร้อย อีกทั้งข้างๆโต๊ะทำงานก็ยังมีกีต้าร์ตัวโปรดที่ผมมักจะเกาเล่นเบาๆแก้เบื่อวางประดับอีกด้วย นี่แหละห้องผู้ชายของจริง(?)

    “ก็ไม่ใช่เสียงนาฬิกาโทรศัพท์นี่หว่า เมื่อคืนไม่ได้ตั้งสักหน่อย”

    “คุณครูฟิล์มค้าบบบบบบบบบบบบบบ” เสียงแมนๆของใครสักคนตะโกนมาจากข้างล่าง  ผมรีบเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองหาต้นเสียง และผมก็พบกับไอ้หน้าอ่อนที่ยืนบีบแตรปี๊ดปี๊ดที่น่ารำคาญอยู่ข้างล่างนั่นเอง

    ใบหน้าหวาน ขาว อมชมพู กำลังโดนแสงแดดยามเช้าส่องกระทบ เผยให้ดูมีออร่าออกมา ปากเล็กๆสีแดงระเรื่อกำลังพูดอย่างรวดเร็วจนคนฟังอย่างผมจับใจความไม่ได้ ดวงตากลมดวงเล็กกำลังมองมาที่ผมอย่างเอาเรื่อง   

    นี่ผู้ชายจริงๆเหรอ.... */////////////////////*




    “ฟิล์ม!! มีคนมาหาลูกน่ะ เขามารอลูกนานแล้วนะ ตื่นหรือยัง” ผมสะดุ้งตัวเมื่อเสียงแม่ของผมตะโกนขึ้นมาจากด้านล่างของตัวบ้าน

    “ครับแม่ ผมกำลังจะลงไปแล้วครับ” ผมละสายตาจากไอ้หน้าอ่อนที่ยืนพูดราวกับด่าผมอยู่ด้านล่าง ก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรีบๆแล้วลงไปด้านล่าง

    “สวัสดีตอนเช้าครับแม่” ผมติดกระดุมเสื้ออย่างรีบๆจะติดผิดติดถูกก็ไม่รู้แล้ว  เพราะตอนนี้ 10โมงกว่าแล้วผมยังไม่ได้ออกจากบ้านเลย แล้วจะมีเวลาเที่ยวหลังจากไปเยี่ยมบ้านเด็กๆไหมเนี่ย

    “ไม่กินข้าวก่อนหรอ” แม่ถามผม ขณะที่มองผมใส่รองเท้าแบบลวกๆเพื่อจะได้ออกจากบ้านโดยเร็วที่สุด

    “ไว้ไปกินตอนเที่ยงกับบาสเลยครับแม่ ผมไปล่ะครับ” ผมหอมแก้มแม่ทั้งสองข้างก่อนจะก้าวขาฉับๆเดินออกมาอย่างไว



                           หน้าอ่อนที่มารอผมก่อน 9โมงยืนขมวดคิ้วมองผมแถมยังจ้องหน้าแบบหาเรื่องอีกด้วย จะจ้องทำไมวะ
    รู้แล้วว่าผิด ขอโทษเว้ยยยยยยยย
    !!!!

    “มองอะไร ไปได้แล้ว” ผมลุกลี้ลุกลน สายตาไม่อยู่กับที่เพราะคนตรงหน้าเอาแต่จ้องเหมือนต้องการอะไรสักอย่าง

     

    O_O!!!!!!!!!;;;;;;

    มือเล็กๆขาวซีดกำลังปลดกระดุมบนของผมอย่างเบามือ เลื่อนลงมากระดุมที่สอง กระดุมที่สาม แล้ว.......

    “เห้ยๆๆๆๆ จะทำอะไร นี่บ้านนะ” ผมรีบโวยวายแล้วถอยตัวออกห่างจากไอ้หน้าอ่อน

    “ก็จะติดกระดุมให้ไง พี่ติดกระดุมเป็นปะ เอากระดุมสามติดกระดุมสอง เอากระดุมสองติดกระดุมแรก”

                   

                      ผมนิ่งไปสักพัก ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่ว่าผมติดกระดุมผิด แต่อยู่ๆก็มาปลดกระดุมคนอื่นแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ จะไม่ให้คิดแบบนั้นได้ยังไง ไอ้หน้าอ่อนเอ้ย!!!!

    “นี่พี่คิดอะไรของพี่อยู่ ผมก็แค่จะติดกระดุมให้ใหม่เองนะ”

    นี่ถามออกมาได้ไง ว่าผมคิดอะไรอยู่ ซื่อเกินไปแล้ว -0-


    “ก็บอกก่อนสิว่าจะทำอะไร ติดกระดุมใหม่ใช่ไหม ติดเองได้” ผมรีบติดกระดุมทั้งหมดใหม่อย่างไวก่อนจะเดินไปอีกฝั่งเพื่อขึ้นรถ ปล่อยให้ไอ้หน้าอ่อนยืนมองปฏิกิริยาของผมมอย่างงงๆ หน้าอ่อนก็เหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่าผมเป็นอะไร

    หน้าอ่อนเปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่งในที่ฝั่งคนขับ ก่อนจะเอ่ยปากถามผม

    “พี่จะไปบ้านเด็กคนไหนก่อนครับ”   ทำเป็นพูดเพราะนะ ทีตอนยังไม่ลงมานี่ยืนด่าอยู่ล่ะสิ เหอะ -3-

    “วันนี้ไปบ้านชีวรัตน์คนเดียวก่อน บ้านนี้ไกลสุด”

    “โอเคครับ” หน้าอ่อนถอนเกียร์ก่อนจะเหยียบคั่นเร่งออกตัวไปอย่างเบามือ ที่ต่างกับผมออกตัวครั้งแรกทีไรเหยียบสุดแรงพร้อมแข่งได้ทุกเมื่อ ก็ผมชอบความเร็วนี่ครับ ฮ่าๆ ๆๆๆ

     

     

    .
    .

     

     

    -บ้านชีวรัตน์-

    อ่อด.. อ่อด.. อ่อด..

    นี่ผมกดกริ่งสามสี่รอบแล้วนะ ทำไมยังไม่มีใครออกมาเลยสักคน หรือจะไม่อยู่กัน อะไรเนี่ย!!!!

    อย่าบอกนะว่าผมมาเสียเที่ยวอ่ะ โห่วววววววววววววววววววววววววววววววววววว -0-

    “เหมือนจะไม่มีคนอยู่นะครับ”

    “รู้แล้วน่ะ”

    “ทำไงต่อครับ”

    “เที่ยวสิ”

    “อะไรนะครับ -[]-”

    “เที่ยวไง เที่ยว เข้าใจปะ มาที่ไกลๆทั้งทีก็ต้องเที่ยวสิ” ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก็ผมน่ะชอบเที่ยวที่สุด




    แต่เดี๋ยวนะ......
    เอ๊ะ? ไอ้หน้าอ่อนมาด้วยนิแล้วผมจะเที่ยวสนุกไหม หมดฟีลเลย
    -________-

     

     

    -เขื่อน FBBF-

                  ผมเปิดประตูรถช้าๆ ก่อนจะก้าวขาข้างหนึ่งออกมาจากตัวรถที่ผมนั่งมาจนถึงตัวเขื่อน บรรยากาศที่นี่เงียบสงบสุดๆ อากาศก็กำลังเย็น สบาย มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่เยอะแยะเหมาะให้เป็นที่พัก น้ำจากแม่น้ำสิบสายไหลมารวมตัวกันที่เขื่อนนี้เพื่อให้ชาวบ้านในแถบนี้ได้มีน้ำใช้ดื่ม ทำนา ทำสวน ปลูกผักและอื่นๆ

    ผมยกแขนขึ้นเหนือหัวจนสุดแขนก่อนจะบิดไปทางซ้ายที ขวาทีเพื่อปัดความอ่อนล้าจากการนั่งรถมาอย่างยาวนาน

    “อื้ออออออ....... ><

    “พี่ทำเสียงอะไรของพี่น่ะ” ไอ้หน้าอ่อนถามผม ตั้งแต่ขึ้นรถมาผมคุยกับมันแค่ไม่กี่คำเอง แล้วก็ต่างฝ่ายต่างเงียบมาตลอด ที่เงียบน่ะเพราะผมหลับ ส่วนไอ้หน้าอ่อนก็มีหน้าที่ขับรถพาผมไปเที่ยว ต่างฝ่ายต่างยุ่งกับกิจกรรมของตัวเองก็เลยไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก

    “อย่าทำลายบรรยากาศดิ”

    “ก็ดูพี่ทำเสียงสิ น่าขนลุกที่สุด”

                 ไอ้บาสทำลายบรรยากาศอันสบายของผมพังพินาศ แค่พูดประโยคสองประโยคผมก็เสียอารมณ์แล้ว -3-

             ผมล้มตัวลงนอนกับพื้นหญ้าใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีเงาบดบังแสงแดดอันร้อนแรงจากดวงอาทิตย์ให้ ผมหลับตาพริ้มแล้วปล่อยให้ลมพัดผ่านตัวไป ผมล่ะรู้สึกผ่อนคลายสุดๆเลยตอนนี้ ผมอยากจะนอนตรงนี้นานๆจัง ^_______________^

    “นอนดิ ไอ้บาส”

    “ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวเสื้อผมเปื้อน”

                     ผมยกมือขึ้นสุดแขนก่อนจะกระชากข้อมือเล็กๆของคนที่กำลังยืนอยู่ให้ทรุดตัวนอนเหมือนกับผม ไม่งั้นคงได้ทำลายบรรยากาศอันเลอค่าของผมอีกรอบเป็นแน่

                      แต่คนที่ผมกระชากลงมานั้น ไม่ได้ลงมานอนน่ะสิ กลับล้มลงมาทับอยู่บนตัวผมแทน มือของผมยังจับข้อมือเล็กๆของคนที่นอนทับตัวผมอยู่อย่างแน่น เพราะก่อนหน้านี้ผมต้องใช้แรงอย่างมาก เพื่อที่จะดึงคนที่กำลังยืนให้ลงมานอนรับบรรยากาศเดียวกันกับผม

                      ลมหายใจร้อนผ่าวกระทบปลายจมูกผม ริมฝีปากชมพูอ่อนที่น่าขบเม้มแตะเข้าที่ริมฝีปากบนผมอย่างแผ่วเบา ดวงตากลมเล็กๆสองดวงที่กำลังสั่นเพราะอาการตกใจที่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ผมมองทะลุเข้าไปในดวงกลมเล็กทั้งสองดวงนั้นแบบลึกซึ้ง ผมค่อยๆยื่นใบหน้าของผมเข้าไปใกล้กับคนข้างบนทีละนิด แต่แล้วคนข้างบนก็ผละออกจากตัวผมก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงของตัวเองพร้อมกับหันหน้าหนีไปอีกทางเหมือนแก้เขิน -///////-

    “เอ่อ.. อากาศดีปะล่ะ บอกแล้วอากาศดี” ผมไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาพูดแก้เขินแล้วตอนนี้ ปกติผมเป็นคนพูดตรง พูดเก่ง พูดได้ทุกสถานการณ์ แต่เจอแบบนี้เข้าไป ผมเองพูดไม่ออกเลยครับ

    “อื้อ” คนที่ยืนหันหลังให้ผมตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่รู้เพราะอะไร

    “งั้น.. กลับบ้านกันเถอะ” คนที่ยืนอยู่ก่อนแล้วนั้นได้ก้าวเท้าเดินออกไปก่อน ส่วนผมยังนั่งแช่อยู่กับพื้น ก้มหน้าก้มตามองหาแร่ธาตุในดินเพราะอาการเขินที่ไม่สามารถระงับยั้งได้สักที

    ผมค่อยๆลุกพร้อมกับปัดเศษหญ้าที่เปื้อนกางเกงออกให้หมดก่อนจะเดินตามไอ้หน้าอ่อนไปอย่างช้าๆ
    เมื่อมาถึงตัวรถ  ไอ้บาสได้มาถึงก่อนแล้ว มันไม่ยอมมองหน้าผม ไม่ยอมสบสายตาผม เอาแต่ยืนหน้าบี้อยู่ที่ประตูรถฝั่งคนขับ เมื่อไอ้บาสรู้สึกได้ว่าผมมาถึงแล้วมันจึงกดรีโมตอัตโนมัติเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่ง ปล่อยให้ผมที่เดินตามมาทีหลังอ้อมไปนั่งอีกฝั่งเอง

     

     

     

    -บ้าน-

                    ภายในตัวรถเงียบสงัด ไม่มีเสียงพูดเล็ดลอดมาจากปากใครเลยสักคน ตอนนี้ผมก็มาถึงหน้าบ้านของตัวเองแล้ว ผมก็ควรที่จะลงรถและเข้าบ้านไปแบบปกติไม่ใช่หรอ แต่ผมยังไม่อยากลงยังไงก็ไม่รู้
    ผมอยากพูดอะไรสักอย่างกับไอ้บาส...

    ขอโทษ..” ผมพูดไปแล้ว ผมพูดแล้ว

    “.......” ไม่มีเสียงหรือสัญญาณใดๆตอบรับกลับมา

    บาส พี่ขอโทษ

    “.........”

    “พี่เข้าบ้านแล้วนะ” ผมหันไปมองหน้าคนที่ขับรถมาส่งผมที่บ้านอย่างมีความหวังว่าจะหันมามองกันบ้าง แต่แล้วก็ไม่หันมามองกันเลยสักนิด ผมจึงตัดสินใจเปิดประตูรถแล้วก้าวขาลงจากรถอย่างช้าๆ ผมยังคงไม่ปิดประตูรถ ยังคงยืนมองคนที่เอาแต่นั่งนิ่งๆอยู่ในรถเผื่อคนนั้นมีอะไรจะพูดกับผม

     

    ปัง!!!

    เสียงประตูรถปิดอย่างแรก พร้อมกับการออกตัวเหมือนรถแข่งพุ่งออกไปอย่างเร็ว -0-

     

    นี่ไอ้บาสขับรถเร็วขนาดนี้ได้ด้วยหรอ ?

    ผมยืนอึ้งกับความเร็วของรถที่เพิ่งออกตัวไป และงงว่าคนที่ขับรถออกไปนั้นเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลย เอาแต่นั่งนิ่ง ตาเหม่อลอย อีกทั้งยังไม่รับฟังคำพูดอะไรเลย

    นี่ไอ้บาสมันเป็นอะไรขงมัน ???

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×