ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SKOOL LUV YOUNGER | ผมไม่ได้ชอบเด็ก. [ChanYun]

    ลำดับตอนที่ #8 : SF -songkranfestival-

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 58


    SF – ตัวเอง น่ารักจัง

     

    #songkranfestival

     

     

     

    อามี อามี กาฟรื้อ!  เดซิโก๊ะ เดจิ นาโบ

    กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~

     

    กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~~

     

     

    กาโว๊ะ กาโว กาโว กาโว~~~~~

     

     

     

                  ไม่ว่าใครที่ได้ยินเพลงนี้ ต้องลุกขึ้นเต้นตามทั้งนั้น เรียกได้ว่าขณะนี้เพลงกาเหว่าเป็นที่นิยมเปิดเต้นในผับ บาร์ต่างๆ หรือเทศกาลที่สนุกสนานมากมาย เช่น เทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง

     

                   ยุนฮยอง ออกไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนๆที่โรงเรียน โดยนัดเจอกันหน้าโรงเรียน เมื่อใกล้ถึงเวลา ยุนฮยองหยิบโทรศัพท์ที่ถูกคุมด้วยซองพลาสติกใสสีชมพูอ่อนแล้วนั้น คล้องคอห้อยไว้ด้านหน้าเพื่อกันน้ำที่อาจจะมีคนสาดมาใส่เมื่อไหร่ก็ได้นับตั้งแต่ที่เขากำลังจะออกจากบ้าน

     

    “แม่ ยุนไปเล่นน้ำกับเพื่อนนะ”

     

     

    .

    .

     

     

                       กว่าจะฝ่าด่านแต่ละที่มาได้นั้น  เนื้อตัวและเสื้อผ้าของยุนฮยองเปียกไปด้วยน้ำและแป้งอย่างไม่มีชิ้นดี นี่ขนาดยังไม่ได้เล่นนะ แค่เดินผ่านหน้าบ้านเพื่อมาเล่นที่โรงเรียน   พวกเด็กน้อยแถวบ้านก็เหลือเกิน สาดไม่หยุด -___-;

     

     

    “เอ้ามึง  แอบไปเล่นมาแล้วหรอ”

                       หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของยุนฮยองถามขึ้น เพราะดูจากสภาพที่เปียกโชกแล้วนั้น  ไม่ไปเล่นมาก็เดินตกท่อน้ำ 

                       ยุนฮยองที่ยังหน้าบึ้งเพราะเด็กน้อยแถวบ้านสาดน้ำใส่จนเขาแทบสำลัก  ตอบกลับ  “แอบเล่นไรหละ”

     

     

                       ยุนฮยองหันหลังเดินออกจากกลุ่มเพื่อนที่นัดกัน  ทำให้เพื่อนทั้งหมดต้องเดินตามออกมา ง้อคนขี้งอนที่สุดของกลุ่ม

     

    “งอนเป็นตุ๊ดอีกละ”

     

    “ไม่ได้งอน”

     

    “ค้าบบ ไม่งอนเลยครับ ไปพวกกเรา  เล่นน้ำกัน   เฮ้!

     

                       ยุนฮยองส่งเสียงเฮไปพร้อมกลุ่มเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะช่วงปิดเทอมอันแสนยาวนานและน่าเบื่อของเด็กมอหก

     

    .

    .

     

     

                        ยุนฮยองและกลุ่มเพื่อนได้เดินมาตามถนนสายหลักที่ผู้คนนิยมมาเล่นกันจำนวนมาก  ตั้งแต่เวลาบ่ายสองแล้วที่มีผู้คนเข้ามาเล่นกันอย่างไม่ขาดสาย  รถกระบะที่บรรทุกคนและถังน้ำได้จ่อท้ายเรียงกันเข้ามาเรื่อย  ทำให้การจราจรหยุดชะงักไปชั่วขณะ  หลายนาทีกว่าจะขยับเคลื่อนที่ได้

     

                         ถามว่าเป็นปัญหามั้ย  ไม่  เพราะกลุ่มของยุนฮยองเดินเท้าเข้ามา ทำให้ไหลไปกับกลุ่มชนที่เล่นน้ำกันอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว  เรียกได้ว่าไหลไม่ใช่เดิน  เพราะเหมือนผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกได้มาเล่นน้ำกันที่เดียว 

                         โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ดูแล้วจะสนุกสุดกับเทศกาลสงกรานต์ของประเทศไทย  อาจเพราะประเทศของพวกเขาไม่มีประเพณีหรือเทศกาลสนุกแบบนี้

     

     

     

     

    ขอโทษนะครับ ขอปะแป้งหน่อยนะค้าบบ

     

     

    ปะแป้งนะค้าบ

     

     

    ปะแป้งค้าบ

     

     

                   ตลอดทางที่เดินเข้ามาในถนนสายหลักนี้  ยุนฮยองเป็นคนที่โดนปะแป้งบนแก้มมากที่สุด  ด้วยดวงหน้าที่ขาวซีดแต่แก้มอมชมพูเพราะแดดที่ร้อนจัดกระทบเข้ากับใบหน้าอย่างไม่มีอะไรปกปิด   กับปากอิ่มที่ยังคงแดงระเรื่อเพราะลิปบาล์มรสเชอร์รี่ที่ตัวเองใช้เป็นประจำนั่นอีก  ไม่มีใครไม่ปะแป้งยุนฮยองหรอก  

     

    “คุณยุนฮยองดูร้อนเหลือเกินนะครับ”

     

    “ร้อนอะไรวะ”

     

    “ดูฮอตเหลือเกินไงครับ  โดนปะแป้งเยอะสุดอ่ะ” 

     

                        ยุนฮยองเขินเล็กน้อย  เพื่อนพูดจากใจหรือประชด  ยุนฮยองถือเป็นคำชมแล้วกัน  คนมันหล่อทำไงได้หละ

     

     

    “แน่นอน คนมันหล่อ”

     

    “ค้าบ คนหล่อ ไปเล่นกันต่อเถอะ”

     

     

                        หลังจากนั่งพักเอาแรงพราะเมื่อยกับการเดินเท้ามาตั้งแต่ต้นสายของถนน  ยอกันเสร็จก็พากันออกไปเดินเล่นน้ำต่อจนสุดสาย   เหลืออีกตั้งครึ่งทางจะไหวกันมั้ย  ขากลับคงต้องใช้บริการพี่วินคนละคันสะแล้ว

     

     

                     เดินมาได้สักพัก  ยุนฮยองเดินชนใครเข้าไม่รู้อย่างแรง  จนตัวเองพลิกกลับไปอีกทาง  ยุนฮยองไม่เห็นหรอกว่าเดินชนใคร  แต่ก็กล่าวขอโทษออกไปเพราะตัวเองอาจผิดที่ไปเดินชนเข้า  

     

     

     

    ตัวเอง

     

    หืม..  ใครเรียกน่ะ

     

     

                        เหมือนมีบางคนมากระซิบข้างหูเรียก  ยุนฮยองรีบหันกลับไปตามเสียงกระซิบที่เบาจนแทบไม่ได้ยินแต่ยุนฮยองก็ยังได้ยิน

     

     

                         เด็กหนุ่มตัวใหญ่ยืนมือไขว้หลัง  ส่งยิ้มที่โชว์ลักยิ้มบุ๋มลึกลงสองข้างแก้มมาทางตัวเอง  ยุนฮยองขมวดคิ้วสงสัย  พลางยกมือขึ้นชี้เข้าหาตัวเอง  เรียกเราหรอ

     

                         อีกคนไม่ตอบ  แต่กลับเดินเข้ามาประชิดตัวยุนฮยอง  ก้มหน้าลงเพื่อกระซิบข้างหูของยุนฮยองอีกครั้ง

             

     

    ตัวเองนั่นแหละ  น่ารักจัง” 

     

                      ยังไม่ทันที่ยุนฮยองจะตอบกลับ  แก้มที่อมชมพูก่อนหน้านี้ได้ขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อเพราะรู้สึกเขินเล็กน้อย  จากนั้นเด็กตัวใหญ่ได้แอบขโมยจูบเข้าที่ข้างแก้มซ้ายของยุนฮยอง  ก่อนจะวิ่งหนีสวนไปอีกทาง

     


    จุ๊ฟ   ข -  3-



     

                     ยุนฮยองยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  จำได้เพียงว่ามีคนเรียกเขาว่า ตัวเอง  จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีก



                      เด็กคนเมื่อกี้ขโมยจุ้บแก้มของเขา  แล้วทำไมเขาถึงยอม  ทำไมเขาถึงไม่ตะโกนด่าตามหลังเด็กคนนั้น  ยุนฮยองนึกแล้วโทษตัวเองที่ยอมให้เด็กคนนั้นทำอะไรโดยพลการ

     

     

    “เห้ย ยุนฮยอง เป็นอะไร”

     

                          จากที่จมกับความคิดของตัวเอง  เพื่อนที่พากันเดินไปก่อนหน้าแล้ว  เมื่อหันกลับมาไม่พบตัวยุนฮยองจึงพากันเดินตามหา  เมื่อพบได้เห็นยุนฮยองยืนนิ่งให้คนเข้ามารุมปะแป้ง  เหมือนยุนฮยองจะไม่รู้สึกตัว  เพื่อนได้เรียกชื่อเสียงดังเพื่อเรียกสติของยุนฮยองกลับมา

     

                          แล้วก็ได้ผล  ยุนฮยองกลับมามีสติอีกครั้ง  แต่ก็ไม่ได้ยินคำถามของเพื่อนตัวเองก่อนหน้านี้

     

     

    “เป็นไรวะ”

     

    “คือ.. ปะ.. เปล่า  ไม่มีอะไร”

     

                       ยุนฮยองพูดติดขัด  ไม่กล้าแม้แต่จะบอกเพื่อนในกลุ่มของตัวเองกับเหตุการณ์ที่เจอะก่อนหน้านี้  เขารู้สึกอายที่ยอมเด็กที่ไหนไม่รู้มาจุ้บแก้มโดยไม่ทันตั้งตัว อีกทั้งเขาและเด็กคนนั้นไม่ได้รู้จักกัน

     

     

    “แน่นะ”

     

    “แน่ดิ  ไป  ไปเล่นน้ำกันต่อเหอะ เฮ้!

     

                     ยุนฮยองส่งเสียงกลบเกลื่อนก่อนที่เพื่อนตัวดีจะค่อยๆถามมากขึ้น จนตัวเองเกือบเผลอเล่าออกไป   คิดว่ายุนฮยองจะยอมเล่าเรื่องน่าอายนั้นหรอ 

     

    ไม่ มี ทาง !

     

     

     

    .

    .

     

    .

    .

     

     

    “เห้อ  วันนี้เล่นสะเหนื่อยเลยว่ะ”

     

    “เออดิ  พรุ่งนี้มาเล่นด้วยกันอีกวันนะ”

     

    “โอเคเว้ย”

     

    “เจอกัน  บาย”

     

     

     

    “บาย”

     

     

     

     

                    หลังจากยุนฮยองกล่าวลาเพื่อน  และนัดไปเล่นน้ำด้วยกันอีกในวันพรุ่งนี้เสร็จ   ยุนฮยองเดินไปรอรถเมล์ที่ป้ายเพื่อเดินทางกลับบ้าน

     

    “ตัวเอง”

     

    “หืม”

     

                   ตัวเอง  อีกแล้ว..     ครั้งนี้ไม่ใช่กระซิบ  แต่เรียกให้ยุนฮยองรู้สึกตัวและหันไปตามเสียงเรียก   เด็กตัวใหญ่ที่ขโมยจุ้บแก้มของยุนฮยองนั่นเอง  

     

     

    “น้องเป็นใคร”

     

    “อยากรู้ว่าผมเป็นใครหรอ”

     

    “ทำไม”

     

     

    “เป็นแฟนกับผมดิ”

     



    เป็นแฟนกับผมดิ ..




    เป็นแฟนกับผมดิ ....







     

    ไอ้เด็กบ้า!

     

    ไอ้ตัวใหญ่!

     

    ไอ้อ้วน!

     

    ไอ้..

     

     

                 ยุนฮยองงงกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด  ถ้าเขาอยากรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นใครต้องเป็นแฟนด้วยน่ะหรอ

     

    ไม่ มี ทาง !

     

     

    “ไม่รู้จักกัน จะเป็นแฟนกันได้ยังไง”

     

    “งั้นเราก็มาทำความรู้จักกัน”

     

     

                   ยุนฮยองพยายามจะอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจว่า  คนที่ไม่รู้จักกันจะรักกัน  ชอบกัน  เป็นแฟนกันได้ยังไง  อีกอย่างเขาและเด็กคนนี้เพิ่งเจอกันเมื่อกลางวัน  เพราะยุนฮยองเดินไปชนใครเข้าแล้วเด็กคนนี้ก็เข้ามาพอดี

     

     

                     ขณะเดียวกัน  รถเมล์ประจำทางสายที่เขาต้องใช้บริการเพื่อกลับบ้านนั้นมาถึงป้ายพอดี  ยุนฮยองจึงก้าวขึ้นไปบนรถอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้อีกคนขึ้นตามได้ทั น  ไม่ใช่หนึ่งคนขึ้นแล้วรถจะออกเลย  รถเมล์ประจำทางต้องรอจนกว่าจะถึงเวลาออกรถ  ไม่ก็จอดรอคนขึ้นตามกำหนดเวลา

     

     

                       ยุนฮยองเลือกเดินไปนั่งเบาะรองสุดท้ายที่อยู่ด้านหลัง  นั่งเข้าชิดหน้าต่างเพื่อรับลมยามเย็นทางช่องหน้าต่าง   อีกคนที่ยุนฮยองไม่อยากให้ตามมานั้นก็ได้นั่งลงข้างกาย  เอนหลังพิงเบาะนุ่มของตัวรถ  พลางหลับตาคล้ายคนกำลังหลับ

     

     

    “นี่  น้องเป็นใคร  ตามมาทำไม”

     

    “...”

     

                         ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างกาย  ยุนฮยองเลยเลือกที่จะหยุดถามต่อ  นึกได้ว่าตัวเองทั้งเมื่อยและเหนื่อยกับการเล่นน้ำวันนี้  ถ้าได้พักบ้างคงจะดีไม่น้อย 

     

                           ยุนฮยองค่อยขยับตัวนั่งให้พอดีกับเบาะ  พิงหลังเอนลงเข้ากับพนักพิง  แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้าที่ข้อมือเชือกของอีกคน  มีป้ายเล็กๆสีเงินห้อยอยู่  สลักเป็นคำว่า  ‘JUNG CHANWOO’

     

     

    “จอง ชานอู”

     

    “ว่าไงครับ”    

     

    “หืม”     

                          ยุนฮยองที่คิดว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้วนั้นถึงกับงง  เมื่ออีกคนตอบรับเขาที่กล่าวชื่อบนป้ายสลักที่ข้อมือ

     

     

    “ตอนนี้เราก็รู้จักกันแล้ว  เป็นแฟนกันนะ”

     

    “อะไร  แค่อ่านเฉยๆ  ไม่ได้รู้จัก”   ยุนฮยองรีบปฎิเสธคำพูดเข้าข้างตัวเองของชานอู  

     

     

     

     

    ยุนฮยองไม่ได้รู้จักชานอู

     

    ยุนฮยองไม่ได้รู้จักชานอู 

     

    ยุนฮยองไม่ได้รู้จักชานอู 

     

     

     

    ยุนฮยองไม่ได้รู้จักชานอู 

     

    .

    .

     

    ยุนฮยองไม่ได้รู้จักชานอู 

     

     

    “อยากรู้จักมั้ยหละ”  ชานอูส่งยิ้มมุมปากให้ยุนฮยอง  ก่อนเขยิบเข้ามาใกล้ตัวของยุนฮยอง  อีกทั้งยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ระยะขนาดลมหายใจรดต้นคอของยุนฮยอง

     

     

    “ไม่”

     

    “แน่ใจหรอ”   ชานอูยังคงไม่เลิกถาม   แถมยังเขยิบเข้าใกล้ตัวของยุนฮยองมากขึ้น

     

     

    “ไม่ ก็ไม่สิ เอ๊ะ!

     

                           ยุนฮยองหัวเสียจนได้  เพราะท่าทางอันน่ารำคาญของอีกฝ่ายที่ถามอยู่ได้จนน่าโมโห  ยุนฮยองฉุนและเผลอเอ็ดออกไป  

     

                            แต่รู้มั้ย นั่นหละเข้าทางชานอูเลย..

     

     

                          

     

    จุ๊ฟ                             .....    ( - 3-) (-c - )   .....

     

     

     

     

                     อีกครั้งที่ยุนฮยองโดนชานอูจุ้บ  แต่ครั้งนี้เป็นเพราะตัวเขาเองที่หันไปทางชานอู  ทั้งที่รู้ว่าชานอูอยู่ใกล้ตัวของเขามาก  แต่ใครจะไปคิดกันว่าชานอูไม่หลบ  แถมยังเหมือนวางแผนไว้แล้วว่าถ้ายุนฮยองหันไปต้องได้รับจุ้ฟจากยุนฮยองแน่นอน

     

     

                    ถือว่าแผนนี้สำเร็จนะ  ชานอู

     

     

    “ย๊า  ออกไปไกลๆเลย”   ยุนฮยองยกมือขึ้นผลักชานอูให้ออกห่าง  พร้อมใช้มือเช็ดเข้าที่ปากอิ่มของตัวเองแรงๆ 

     

     

    “ฮ่าๆๆ ชอบอ่ะ  เป็นแฟนกันได้ยัง  เราจุ๊ฟกันตั้งสองครั้งแล้วนะ”

     

     

    “ครั้งแรกนั่นมันทีเผลอ”   ยุนฮยองเถียงขึ้น

     

     

    “แต่ครั้งเมื่อกี้ตั้งใจ”

     

                          ยุนฮยองเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น  ไม่อยากยอมรับความจริงแต่ครั้งที่สองนั้นเขาโดนกับดักให้ดูตั้งใจจุ้ฟกับชานอูเสียด้วย   จะไม่ปฏิเสธแล้วกัน

     

     

    “อืม  ก็เพราะมันเป็นแผน”

     

     

    “ถ้าไม่วางแผนแล้วเราจะได้เป็นแฟนกันมั้ย”

     

     

    “อืม..  เห้ย  ไม่เป็นแฟนกันดิ”

     

     

    “ไม่ทันละ  เราเป็นแฟนกันแล้วนะ  เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก็ได้  ค่อยศึกษากันและกัน ให้ผมได้ดูแลยุนฮยองนะ”

     

     

               ยิ้มที่ออกมาจากใจของชานอู  ทำให้ยุนฮยองรู้สึกดีไม่น้อย  รอยยิ้มนั้นแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของอีกฝ่ายที่ต้องการดูแลเขา  และอาจจะดูแลตลอดไป   ยุนฮยองเองก็เริ่มไว้ใจอีกคน  จึงไม่ขัดขืนที่ชานอูเป็นแฟน  และขอดูแล

     

     

                 ครั้งนี้ก็ต่างจากครั้งแรกที่เขายอม  เพราะครั้งนี้เขาเต็มใจให้อีกฝ่ายได้เรียนรู้กันและกัน  มาลองศึกษาชีวิตของตัวเขา  

     

     

                  ไม่แน่นะ  คนไม่รู้จักกัน อาจจะดูแลได้ดีมาก

     

                   และ รักกันมากก็ได้

     

    ซึ่งเขาเองคิดเช่นนั้น 

     

     

    “อืม  เป็นก็เป็น.. ”

     

    “เป็นอะไร”   ชานอูยิ้มมุมปากส่งให้ยุนฮยอง เพื่อตอบอย่างชัดเจนกับสถานะของเราสองคน

     
     

    เป็นแฟนกันไง  จะเป็นปะ”


     

    “ครับยุนฮยอง  เราเป็นแฟนกัน J











     

    x x talk x x

    เรื่องสั้นแว๊บเข้ามาในหัวอีกแย้ว ฮ่า 
    แต่งให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ไทย หรือเทศกาลสงกรานต์แล้วกันนะ 


    ให้ความรักน้องชานอู กับพี่ยุนฮยองกันเยอะๆน้า  จุ้บ  *3*



    #Chanyun #ผมไม่ได้ชอบเด็ก











     

     © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×