ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SKOOL LUV YOUNGER | ผมไม่ได้ชอบเด็ก. [ChanYun]

    ลำดับตอนที่ #3 : 03

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 58


    03

     

     

    ครืด..

    ครืด..

               เสียงโทรศัพท์ที่กำลังสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงนักเรียนสีดำของผม บอกให้ผมรู้สึกตัวว่ามีการแจ้งเตือนบางอย่าง ผมปล่อยมือจากปากกา ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงนักเรียน หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อตรวจดูการแจ้งเตือน

    “...”     ผมปลดล็อครหัสผ่าน ‘0826’ ก่อนจะสไลด์แถบหน้าจอด้านบนลงมา

     

    มีการแจ้งเตือนของเฟซบุ้คเข้ามาครับ

     

    ผมรีบกดเข้าไปดูทันที ไอ่ดงกับไอ่จุนฮเวมันต้องแท็กรูปหลุดของผมมาแกล้งแน่ๆ

     

     

    ดงด่งด้งด๊งด๋ง คิม,จุนเน่ กูเอง และคนอื่นๆอีก 19 คน ได้เชิญให้คุณเล่น Pirate Kings.

    5 min

     

     

     

    “...”  พวกเหี้-ย! กูบอกแล้วไง ใครส่งเกมมา

    กู บล็อค ! ! !

    ตึ๊งงง..

     

    ขณะที่ผมกำลังสรรหาคำด่าไอ่เพื่อนสองคนยังไม่หมด มีการแจ้งเตือนเข้ามาอีก

     

     

    ชานอู จองนะจ๊ะ รับคุณเป็นเพื่อนแล้ว

    ตอนนี้คุณสามารถดูสิ่งที่เธอแชร์กับเพื่อนได้

    3 mins

     

     

    “เห้ย”  ผมเผลอร้องออกมาเสียงดัง จนเพื่อนทั้งห้องหันมามอง รวมไปถึงไอ่ดงที่นั่งข้างหน้าของผมด้วย ยกเว้นคนที่นั่งข้างขวามือของผมไว้คน ไอ่จุนฮเวครับ ตอนนี้มันกำลังหลับ นอนอ้าปากน้ำลายไหลออกมากองบนสมุดจนเปียกหมดแล้วครับ มันไปอดหลับอดนอนมาจากไหนวะ +_+;

     

    “มึงร้องทำไมวะ”

    “กูเปล่าร้อง”

    “ทอแxล แล้วมึงเล่นอะไรอยู่”

    “กูเปล่าเล่น” ผมรีบกดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ แล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกงนักเรียน ยังไม่ทันที่ผมจะยัดเข้ากระเป๋าเรียบร้อย ไอ่ดงมันโน้มตัวข้ามโต๊ะเลคเชอร์จากด้านหน้า มาคว้าโทรศัพท์ของผม

    อย่างปกติครับ มันกดปลดล็อค ใส่รหัสผ่านเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของแบบทุกครั้ง

     

    “เห้ยๆๆ น้องชานอูรับมึงเป็นเพื่อนแล้ว”   เออ..

    “รับแล้วไงวะ” ผมไม่สนใจอยู่แล้ว ไอ่อ้วนจะรับผมเป็นเพื่อนหรือไม่รับก็เรื่องของมัน เกี่ยวอะไรกับผม

    “มึงรีบทักน้องชานอูไปเลยนะ ถามว่าพี่บ๊อบบี้ของกูทำอะไรอยู่”

    “ทำไมกูต้องทักวะ มึงอยากรู้มึงก็ไปถามเองดิ” เออ อยากรู้ก็ถามเองดิไอ่ดง กูไม่ได้อยากรู้กับมึงเลย

     

    “ซา-หวาด-เด-ครับ น้องชานอู”  เดี๋ยว ไอ่ดงมันสวัสดีใคร ชานอูหรอ ไหนๆ ไอ่อ้วนมันอยู่แถวนี้หรอ ผมมองไปรอบๆเพื่อหาเจ้าของชื่อที่ไอ่ดงมันพูดขึ้นมาก่อนหน้านี้  เมื่อหาไม่เจอ ผมจึงหันหน้ากลับมาหาไอ่ดง มันบังอาจหลอกผม

    “ไหนวะ”

    “ตอบแล้วๆ น้องชานอูตอบแล้ว” ตอบไรวะ อย่าบอกนะว่ามึง

    “เอาเฟซกูทักมันไปหรอวะ” ผมถามมันเสียงดัง จนเพื่อนในห้องหันมามองอีกครั้ง  ผมไม่รอให้มันได้ตอบ รีบฉวยโอกาสคว้าโทรศัพท์ของผมในมือไอ่ดงมาดูทันที

     

    นี่มันทำอะไรกับเฟซบุ้คของโผ้มมม

     

    มันทักไอ่อ้วนนั่นไป

     

     

     

     

    สวัสดีครับ น้องชานอู

                     

                             ‘คับ

                                              ส่งจาก Messenger

     

     

    ตอบแล้วจริงด้วย

     

    ผมกดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะรีบยัดลงไปในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง ผมจะไม่ให้ไอ่ดงมันคว้าไปได้อีก ไม่อย่างนั้นมันทักไอ่อ้วนอีกแน่

     

    “ทำอะไรของมึงเนี่ย”

    “มึงนั่นแหละ ทำอะไรของมึง” ผมย้อนถามไอ่ดงกลับ ก็ดูมันดิครับ เอาโทรศัพท์ผมไปเล่นเกมผมไม่ว่า แต่เอาไปแล้วทักแชทไอ่อ้วนแบบนี้ ผมว่าแน่ ครั้งก่อนที่กดแอดเฟรนเอง ผมยังไม่ได้ว่าเลยนะ ครั้งนี้ต้องรวบยอด หึ

     

    “มึงบอก อยากรู้ก็ให้ไปถามเอง นี่ไง กูก็กำลังจะถามน้องชานอู” ถามเองก็ไม่ใช่เอาเฟซบุ้คกูไปถามแบบนี้โว้ยย

    “เ-ล-ว!

    “มึงว่ากูเลวหรอ ใจร้าย ไอ่ยุนฮยอง มึงมันคนใจร้าย” อะไรอีกวะ มึงจะมาไม้ไหนอีกไอ่ดง ดูทำหน้าทำตากับปากเบะๆ มันหันหลังกลับไปฟุบหน้าลงบนโต๊ะ ก่อนจะส่งเสียงเหมือนร้องไห้ออกมา ตอนนี้ไอ่ดงกำลัง(แกล้ง)สะอื้นแหละครับ คิดว่ากูไม่รู้หรอ =_=

    “มึงร้องทำไม”

    “...”

    “ไอ่ดง”

    “...” เงียบ

    “ไอ่เชี้-ยดง!

    “..” ยังเงียบ

     

    “เออ กูยอมแล้ว หันมาคุยกับกูก่อน”

     

    “งึมงอมง่วยงูแง้วใง่งะ” ไอ่ดงพูดเสียงงึมงำออกมา ขณะที่มันยังฟุบหน้าลงบนโต๊ะของมัน ช่วยเงยหน้ามาคุยก่อนครับมึง  งึมงำแบบนั้นใครจะไปฟังรู้เรื่อง

    “มึงพูดอะไร”

    “มึงยอมช่วยกูแล้วใช่ปะ!” จะเสียงดังทำไมเนี่ย ไอ่ดงหันมาตะโกนสิ่งที่มันงึมงำเมื่อกี้ใส่หน้าผม อีกยังใช้มือทั้งสองมือกระแทกลงบนโต๊ะของผมจนเกิดเสียงดัง ทำให้จุนฮเวที่หลับอยู่สะดุ้ง เพราะเสียงที่ดังรบกวนการนอนของมัน ตื่นขึ้น

     

    “มึงทำเชี้-ยไรกันวะเนี่ย เสียงดังเว้ย” ตาที่ปิดสนิทของจุนฮเวก่อนหน้านี้ค่อยๆกระพริบถี่ๆเพื่อปรับโฟกัสมองมาที่พวกผมสองคน “เห่ยย” จุนฮเวหาวพร้อมกับยกมือขึ้นไปขยี้ที่ดวงตา ใช้นิ้วทั้งห้าแคะขี้ตาทั้งสองข้างออกมาทีละนิ้ว จากนั้นก็ป้ายมาที่กางเกงของผม

    “อ้าว ไอ่เวร มึงป้ายกูทำไม”

    “..” จุนฮเวไม่ตอบอะไร แถมยังทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้สไตล์ของมันอีก ที่ต้องเหลือกลูกตาขึ้นด้านบนพร้อมกับเบะปากเป็นรูปสระอิ #ก็กูจุนฮเวอะ

     

    “แล้วมึงเป็นอะไรไอ่ดง ทำหน้างอนเป็นตุ๊ดเลย” เออใช่ อย่างที่จุนฮเวพูด ตั้งแต่งึมงำเมื่อกี้แล้ว ไหนจะฟุบหน้ากับโต๊ะอีก งอนเป็นตุ๊ดเลยว่ะ

     

    หรือตุ๊ดวะ =0=

     

    “ตุ๊ดมึงดิ่ ไอ่ยุนมันไม่ช่วยกูอ่ะ”

    “ช่วยไรของมึง”  เป็นจุนฮเวที่ถามดงฮยอก เออ ช่วยอะไรวะ

    “เรื่องพี่บ๊อบบี้ไง ไหนมึงบอกจะถามให้กู ไหนบอกช่วย”

    “กูบอกตอนไหน”

    “...” ดงฮยอกเม้มปากแน่น หลบสายตาของผมกับจุนฮเวที่จ้องมัน อยากรู้ว่าผมบอกมันตอนไหน แล้วมันก็หันหลังกลับไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ฟุบหน้า คงกลัวไอ่จุนฮเวว่าตุ๊ดอีกมั้ง ดงฮยอกนั่งนิ่ง มือทั้งสองข้างกำรวมกันไว้กับนิ้วโป้งที่สลับกันไขว้ไปมาเร็ว   ๆ

     

    งอนจริง

     

    ตุ๊ด...

     

     

    “ไอ่ยุน มึงก็ช่วยมันเหอะ กูไม่อยากมีเพื่อนเป็นตุ๊ด” มึงพูดได้นี่ มึงไม่ต้องช่วยมันนี่ กูนี่ที่ต้องช่วย กูอีกแล้ว! จุนฮเวตบเข้าที่หัวของผม บอกให้ช่วยเรื่องพี่บ๊อบบี้ของไอ่ดง นี่คือการอยากให้กูช่วยหรอวะ จุนฮเวส่ายหัวก่อนจะหันหน้าไปอีกทางแล้วฟุบลงกับโต๊ะ

    “แดกข้าวปลุกกูด้วย” เป็นอันเข้าใจ จุนฮเวจะให้ผมไม่ก็ไอ่ดงปลุกก่อนจะลงไปกินข้าว เพราะมันจะหลับก่อนกินข้าวเสมอ เหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันไปทำอะไรมา ถึงต้องมาหลับแบบนี้ได้ทุกวัน

     

    แล้วก็เหลือผมกับไอ่ดงสองคนที่เงียบใส่กัน ดงฮยอกยังไม่หันมาคุยกับผม นี่มันงอนจริงจังขนาดนั้นเลยหรือไง ผมไม่ได้บอกจะช่วยมันก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ช่วย มันคิดเอง เออเอง งอนเองอีก

     

    “เออ ช่วยก็ได้”

    “จริงหรอวะ” นั่นไง รีบหันมาหากูเลย ดงฮยอกหันขวับทันทีที่ได้ยินประโยคบอกจะช่วย ครั้งนี้ผมเป็นคนบอกแล้วว่าจะช่วย จะได้ไม่ต้องเถียงกันอีกว่าบอกตอนไหน ตาที่ประกายเหมือนตัวการ์ตูนญี่ปุ่นน่ารักๆ เวลาอยากได้ของชิ้นหนึ่ง จะมีรูปดาวระยิบระยับอยู่รอบตัวและข้างในดวงตา ดงฮยอกเองก็เช่นกัน ในตอนนี้ดงฮยอกไม่ต่างอะไรกับเด็กผู้หญิงที่อยากได้ตุ๊กตาตัวใหม่ มึงเอาไว้ไปอ้อนพี่บ๊อบบี้ของมึงเถอะ

    กูขนลุก =_=!

     

     

     

     

     

     

     

     

    12.00

     

     

     

    “จุนฮเว กินข้าวเว้ย”

    “อือ”

     

    พวกเราสามคนเดินมาตามทางของชั้นสาม หากเดินไปสุดทางจะมีทางเชื่อมเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนกับบันไดลงไปชั้นสองและชั้นหนึ่ง พวกเราเดินลงบันไดกันช้าๆ รีบไปตอนนี้ โรงอาหารคนเยอะแน่นอน ตึกที่พวกเราเรียนนี้เป็นตึกของมอปลายโดยเฉพาะ ตึกนี้แบ่งเป็นห้าชั้นด้วยกัน โดยชั้นบนสุดเป็นห้องประชุม ชั้นสี่เป็นของรุ่นพี่มอหก ชั้นสามเป็นของพวกเรามอห้า ชั้นสองเป็นของรุ่นน้องมอสี่ และชั้นหนึ่งเป็นสำนักงานต่างๆของโรงเรียน

     

    ผมก็ไม่ใช่คนเดินช้านะ แต่มีดงฮยอกกับจุนฮเวเดินด้วย พวกเราก็พากันเดินช้าเลยครับ และช้ามากด้วย ตอนนี้เข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงครึ่ง พวกเราสามคนเพิ่งลงมาถึงชั้นสองครับ เดินช้าปะหละ

    ความไม่รีบจริง ๆ ของพวกเรา จึงหยุดยืนอยู่ตรงระเบียงของชั้นสอง จุนฮเว ผม ดงฮยอก เราสามคนยกแขนขึ้นวางไว้ตรงขอบระเบียง มองตรงไปยังโรงอาหารเพื่อสำรวจคนว่าเยอะมั้ย พวกผมไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบแย่งอะไรกับใคร มันน่าเบื่อน่ะครับ

    “คนเยอะว่ะ”

    “อือ” ผมส่งเสียงตอบรับจุนฮเว ที่ตอนนี้คนในโรงอาหารยังเยอะอยู่ วันนี้พวกผมจะได้กินข้าวมั้ยครับ

     

     

    “เออ ไอ้ยุน ทักแชทน้องชานอูไปดิ ถามว่าพี่บ๊อบบี้ของกูกินข้าวยัง” มึงเองยังไม่ได้กินยังจะห่วงคนอื่นอีก ห่วงตัวเองบ้างปะวะ หรือห่วงพวกกูสองคนก็ได้

    “มึงก็ห่วงแต่คนอื่น” จุนฮเวชะโงกหัวออกไปข้างหน้าพูดกับดงฮยอก โดยมีสายตาของผมมองไปที่ดงฮยอกและพยักหน้าแบบเห็นด้วยกับที่จุนฮเวพูด

    “เออ กูก็ห่วงพวกเราด้วย”

    “หรา” ผมกับจุนฮเวลากเสียงยาวประชด

    “แหะๆ ถามให้กูหน่อยเหอะ นะ” ดงฮยอกหัวเราะแห้งๆ ส่งให้ผม อีกทั้งยังให้ผมทักไอ่อ้วนนั่นไปให้ได้ นี่มึงอยากรู้มากเลยหรอวะ ถ้าเขาไม่ได้กินข้าวไม่ได้ทำให้เขาตายหรอกเว้ย

     

     

    ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงนักเรียนของตัวเอง หยิบโทรศัพท์มือถือสีดำที่ห่อหุ้มด้วยกรอบสี่เหลี่ยมตามรูปทรงของมันเป็นสีแดง ช่วงนี้ผมชอบสีแดงครับ ร้อนแรงดี ร้อนเหมือนอากาศด้วย -_-;

     

    “ถามว่าไรนะ” ผมกดปลดล็อคหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับถามดงฮยอกว่าจะให้ถามอะไร เมื่อปลดล็อคเสร็จ กดเข้าเมสเซนเจอร์ที่เป็นโปรแกรมส่วนหนึ่งของเฟซบุ้คไว้สำหรับแชทกับเพื่อนในเฟซบุ้ค  ว่าแต่มันจะแยกทำไมก็ไม่รู้ ว่ามั้ยครับ

    “กินข้าวยัง” ผมกดตัวหนังสือบนแป้นพิมพ์ตามที่ดงฮยอกบอก พิมพ์เสร็จก็กดส่งทันที แต่ถามแค่ว่ากินข้าวยังมันเหมือนผมไม่ได้ถามเกี่ยวกับพี่บ๊อบบี้ เหมือนผมถามไอ่อ้วนนั่นเลย 

     

     

     

     

    “กูถามให้แล้ว”

    “รอน้องเขาตอบด้วยดิ”

    “มันตอบ เดี๋ยวบอก ไป กินข้าว!”  ผมตบเข้าที่ไหล่ของดงฮยอกให้มันไปกินข้าว เมื่อหันมาอีกทางก็ไม่พบจุนฮเว มันหายไปไหน

    “ไอ่จุนฮเวอ่ะ” ผมหันกลับไปถามดงฮยอก ไอ่จุนฮเวไปไหนไม่ค่อยบอก จะไปก็ไป จะมาก็มา

    “มันเดินลงไปนานแล้ว”

    “เอ้า ไม่บอกวะ”

    “ก็มึงพิมพ์ช้าอ่ะ นั่นไง ไอ้จุนฮเวมันอยู่ข้างล่างแล้ว” ดงฮยอกชี้ไปที่จุนฮเว ตอนนี้มันยืนอยู่ข้างล่างด้านหน้าของตึก ไม่ยืนเปล่ายังหยิบโทรศัพท์ของมันขึ้นมาเพื่อใช้เป็นกระจกส่องหน้า จุนฮเวจัดผมหน้า(หมา)ม้าของมันที่ยาวแหลมมาทิ่มตา ทำให้รุ่นน้องผู้หญิงมอสี่ที่เดินลงจากตึกต่างกรี๊ดกับท่าทางของมัน หากเป็นรุ่นน้องผู้ชายคงอยากต่อยมัน แอ็คจริงๆ

     

     

     

     

    “มึง น้องชานอูตอบยัง” ผมที่กำลังตักข้าวเข้าปากต้องหยุด แต่ก็ตักเข้าปากจนได้ ผมเคี้ยวช้าๆเพื่อเลี่ยงที่จะตอบคำถามของดงฮยอก เมื่อมองไปที่จุนฮเว มันไม่สนใจอะไรเลยครับ หยิบขนมเข้าปากเรื่อยๆ นี่มึงจะไม่ให้ปากว่างจากขนมเลยใช่ปะ แล้วนิ้วมึงจะกระดกขึ้นมาทำไม ตุ๊ดอีกคนละ

     

     

    “เอาโทรศัพท์มาดูดิ” ดงฮยอกแบมือข้างหน้าผมเพื่อขอดูโทรศัพท์ ผมวางมือจากช้อนแล้วล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงส่งให้มัน ตอนนี้โทรศัพท์ของผมอยู่ในมือไอ่ดงเรียบร้อย เอาของกูไปใช้เลยมั้ย

     

    “น้องชานอูตอบแล้ว!!!” อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น ผมไม่สนหรอก มันไม่เกี่ยวกับผม

     

    แต่มันโทรศัพท์ผม...

     

    “เอาคืนมาได้ละ”

    “เดี๋ยวดิมึง น้องชานอูกำลังพิมพ์” เฮ้ออ

     

    “เห้ยมึง น้องชานอูจะมากินข้าวด้วย”

    “หะ”  0_0

     

    “น้องบอกน้องอยู่ในโรงอาหารแล้ว” มันจะกินข้าวมันก็ต้องอยู่ในโรงอาหารปะวะ

    “...”

     

    ดงฮยอกเงยหน้าจากโทรศัพท์ ชะเง้อมองหาคนที่มันคุยด้วยในโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ นี่มันคุยอะไรของมันวะ ดงฮยอกทำหน้าตกใจเหมือนเห็นอะไรสักอย่าง ผมหันไปตามที่ไอ่ดงมองก่อนจะทำหน้าตกใจตาม

     

    ไอ่อ้วน

     

    ชานอูที่กำลังมองหาใครสักคนในโรงอาหาร แล้วเหมือนมันเห็นผม ชานอูหยุดมองมาทางผมก่อนจะเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ ไม่หรอกมั้ง มันไม่เห็นกูหรอก มันอาจจะเดินมาหาเพื่อนมันที่นั่งทางนี้ก็ได้ ผมหันตัวกลับไปทางเดิมเพื่อจะหลบหน้ามัน ผมไม่ได้กลัวนะ แค่ไม่อยากจะเถียงด้วยเฉยๆ

    “น้องชานอู ทางนี้ค้าบบ”

    “มึงเรียกมันทำไม” ดงฮยอกที่ตอนแรกตกใจ ตอนนี้มันยกมือขึ้นจนสุดแขน โบกไปมาพร้อมเรียกชื่อคนที่ผมหลบหน้าอยู่ตอนนี้

     

    “ก็ชวนน้องชานอูมากินข้าวด้วยไง” ดงฮยอกยิ้มออกมาจนตาหยี มึงนี่ทำเอง เออเองตลอด ไม่ถงไม่ถามกูสักคำ

     

    “สวัสดีครับพี่...”

    “ดงฮยอกครับ เรียกดงก็ได้ ส่วนข้างๆพี่คือจุนฮเว”

    “ครับพี่ดง ครับพี่จุนฮเว” ตอนนี้ดงฮยอกกำลังทักทายชานอูข้ามหัวผม ผมพยายามก้มหน้าให้ต่ำที่สุดจนแทบจะเอาหน้าจุ่มเข้าไปในข้าวอยู่แล้ว

     

    “แล้วพี่อีกคนหละครับ”

    “อ้อ ชื่อยุนฮยอง” ผมที่นั่งตัวแข็งทื่อ ค่อยๆหันหลังกลับไปมองบุคคลที่เข้ามาหาดงฮยอกอย่างช้าๆ แล้วคาดว่าน่าจะยืนอยู่ข้างหลังของผม แต่แล้วก็ต้องตกใจกว่าเดิม เพราะตอนนี้หน้าของชานอูอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าของผม เราเกือบจุ๊บกันแล้ว

     

    “เชี้-ย/ป้า” ผมร้องออกมาเพราะตกใจที่หน้าเราใกล้กัน ชานอูก็ด้วย

     

     

    นี่ยังเรียกป้าอยู่อีกหรอ หะ




     

    #Chanyun #ผมไม่ได้ชอบเด็ก












     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×