คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : unfriend ; O5
O5
ดวงตาคมสอดส่องไปทั่วห้องเรียนนอกจากเพื่อนร่วมห้องรุ่นราวคราวเดียวกันก็ไม่เจอใครบางคนที่เขาตามหา
เสียงพูดคุยดังเหมือนอยู่ในย่านคนเยอะทั้งที่ในห้องนี้มีนักเรียนไม่ถึงสามสิบคนด้วยซ้ำ
เขาสถบบ่นกับตัวเองก่อนจะหมุนตัวออกมาถ้าไม่ติดว่าได้ยินเสียงของใครบางคนพูดถึงชื่อที่จู่ๆก็คุ้นหูขึ้นมาจนต้องขมวดคิ้วเมื่อจับใจความในบทสนทนานั้น
“ไอ้เจโน่มันคงได้กลับบ้านพรุ่งนี้
ห้องเก็บของหลังโรงเรียนมีคนผ่านไปที่ไหน”
“มันคงเข็ดไม่กล้ามาเรียนแล้วมั้ง
แต่ก็ดีเหมือนกันจนๆอย่างมันน่าสมเพช”
รู้ตัวอีกทีขาของเขาก็ก้าวมาถึงห้องเก็บของหลังโรงเรียน
กุญแจอันใหญ่ถูกคล้องไว้แต่ไม่ได้ล็อก
เสียงเรียกจากข้างในมันพอจะได้ยินบ้างทำให้รู้ว่าพวกนั้นขังคนที่ชื่อเจโน่เอาไว้ที่นี่จริงๆ
มือใหญ่ถอดกุญแจออกก่อนจะดันประตูเหล็กเก่าที่ขึ้นสนิมให้เปิดออกจนเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดไปทั่วบริเวณ
ใครสักคนที่มาร์คกำลังตามหาเหมือนจะอยู่ตรงนี้ข้างหน้าเขา
รูปร่างผอม ขาว ดวงตาเรียวแต่ตาดำกลมโตดูใสซื่อ แต่ตอนนี้ข้างแก้มใสขึ้นรอยช้ำม่วง
เดาไม่ยากเลยว่าพวกนั้นทำอะไรกับคนตัวขาวที่กำลังก้มหน้าหลบสายตาอยู่ตอนนี้
“นายใช่ไหมคนบนดาดฟ้าเมื่อวันก่อน”
ถามออกไปทั้งที่รู้ว่าตัวเองจำได้ว่าหน้าแบบนี้แหละใช่แน่ๆ
อีกฝ่ายเบิกตากว้างแล้วส่ายหัวไปมาจนกลุ่มผมสีเข้มปลิวไปปลิวมา
“คิดว่าตัวเองโกหกเก่งนักรึไงวะ”
แกล้งทำเสียงโหดให้คนตรงหน้ากลัวจนก้าวถอยหลังหนีเขาไป
“ผมขอโทษ
คือผม…
ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้… อ๊ะ!”
แขนผอมถูกดึงรั้งเข้ามาหาจนเสียหลักเซมาอยู่ตรงหน้าคนกระทำ
มาร์คจ้องตาที่พยายามจะหลบตาเขาจนต้องจับคางเจโน่ให้หันมามอง
“ขอโทษอะไรของนาย
ฉันทำนายเจ็บซะขนาดนั้นฉันดิ่วะต้องโทษ”
“แต่ว่าผะ…ผม”
“เจ็บใช่ไหมวันนั้น
ขอโทษนะที่ทำให้นายเจ็บ” มาร์คตัดบทเขาขอโทษอีกฝ่ายเพราะเขาผิดจริงๆ
“ไม่เป็นไรครับ
ผมเข้าใจคุณคงไม่ได้ตั้งใจ” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเนิบๆ
“ฉันมาร์คเพิ่งย้ายมาใหม่ถ้าไม่รังเกียจเป็นเพื่อนกันไหมลีเจโน่”
มาร์คคิดว่าภาพคนตัวขาวที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาตอนนี้มันดูตลกเป็นบ้า
แต่ก็ดูน่าเห็นใจเมื่อมองเห็นรอยแผลบนใบหน้า
ไม่รู้ว่าหมอนี่เคยมีเพื่อนรึเปล่าแต่ลองเป็นเพื่อนกันก็คงไม่มีอะไรเสียหายหรอกมั้ง
“ขอบคุณนะครับคุณมาร์ค
ฮึก”
“หึ
ร้องแล้วยังกับแมวน่าเกลียดเป็นบ้าเลยเจโน่”
จากนั้นมาเหมือนเจโน่จะมีมาร์คเป็นผู้พิทักษ์คอยดูแลอยู่ตลอดเวลาจนคนที่เข้ามาแกล้งๆเจโน่เริ่มหายไปทีละคนสองคน
ทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรยุ่งมาร์คลีไม่ควรทำให้อีกฝ่ายโกรธและไม่ควรไปแกล้งเพื่อนสนิทที่ดูยังไงก็โคตรไม่เข้ากัน
เจโน่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งอยู่โรงเรียนนี้มา
ถึงตอนหลังจะรู้ประวัติของเพื่อนใหม่ที่ทำให้เจโน่รู้สึกว่าเขาไม่มีอะไรเข้ากันกับผู้ชายอย่างมาร์คลีเลยจริงๆ
ถึงอีกฝ่ายจะเอาแต่พูดว่าพ่อแม่รวยแต่ตัวเองไม่ได้รวยก็เถอะ
แต่รถหรูที่มารอรับทุกวัน หรือจะเป็นหลายๆอย่างที่เจโน่คิดว่าเขาไม่มีปัญญาจะซื้อใช้
มันก็บ่งบอกได้แล้วว่าเขาไม่เหมาะ
เจโน่ได้รับของราคาแพงจากมาร์คอยู่บ่อยๆจนตอนนี้ต้องขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดซื้ออะไรแพงๆให้ได้แล้ว
แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจยังซื้อมือถือรุ่นล่าสุดที่แพงมากๆให้อีกต่างหาก
“เงินก็เงินฉันทำไมนายต้องมากังวลแทน
ฉันรู้ว่าฉันทำอะไรอยู่เจโน่” เสียงดุทำให้คนที่กำลังถือถุงขนมร้านดังสะดุ้งนิดๆ
“แต่มันแพงหนิครับ
ผมยังไม่เคยทำอะไรให้คุณมาร์คสักอย่างเลย” เจโน่เถียงทันที
มาร์คเอื้อมมือไปขยี้ผมอีกฝ่ายจนฟู่ฟ่อง
หัวเราะกับภาพตรงหน้าเพราะเจโน่กำลังเบะปากใส่เขาซึ่งยากมากที่จะได้เห็นสีหน้าแบบนี้
“แค่นายอยู่ข้างฉันทุกครั้งที่ฉันต้องการฉันก็พอใจแล้วล่ะ”
##
วันนี้จู่ๆฝนก็ตกหนักทั้งที่มีแดดมาตลอดวันเจโน่มองสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่หยุด
ยื่นมือออกไปรองน้ำใสที่ตกลงมาจนมันเปียกชุ่มไปทั้งมือ
ฝนตกหนักเกินกว่าจะวิ่งผ่าฝนออกไปข้างนอกได้ อาจจะต้องรอจนกว่ามันจะซา
นั่งมองสายฝนสลับกับมือถืออยู่เป็นชั่วโมงวันนี้มาร์คกลับไปตั้งแต่ตอนเที่ยงเพราะบอกว่ามีงานสมาคมกับที่บ้านอะไรสักอย่างเจโน่ไม่ได้ถาม
คงเป็นงานสังคมที่มาร์คชอบมาบ่นว่าไม่อยากไปจนตอนนี้ก็ยังบ่นไม่เลิกเวลาที่โดนบังคับให้ไปออกงานสังคมทุกที
“เจโน่!”
เสียงตะโกนเรียกทำให้คนที่กำลังนั่งเหม่อสะดุ้งโหยงก่อนจะหันหน้ามอง
คนที่กำลังอยู่ในความคิดกำลังก้าวเข้ามาพร้อมร่มในมือ
“กลับบ้านกัน”
กระเป๋าสะพายของเจโน่ถูกอีกฝ่ายหิ้วไปพร้อมทั้งข้อมือที่ถูกกอบกุมเอาไว้
ร่มคันใหญ่พอที่จะทำให้ผู้ชายสองคนไม่เปียกจนถึงรถที่จอดรออยู่
“ไปส่งผมที่คอนโดนะครับลุง”
“ครับคุณหนูมาร์ค”
เจโน่แอบหลุดหัวเราะกับคำว่าคุณหนูจนโดนมาร์คผลักหัวเบาๆ
“เดี๋ยวจะโดน”
เจโน่ถูกไล่ให้ไปอาบน้ำตั้งแต่ขึ้นมาถึงบนห้องคงเพราะตัวเขาแอบชื้นหน่อยๆแถมยังเป็นหวัดง่ายกว่าชาวบ้าน
เจโน่อาบนานกว่าทุกทีเพราะเอาแต่เหม่อถึงเจ้าของห้องจนโดนเคาะประตูห้องน้ำเรียกสองสามรอบถึงจะจัดการตัวเองเสร็จ
“อาบนานนะวันนี้”
ถูกถามทันทีเดินออกมาจากห้องน้ำ
“พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อยครับ”
ตอบพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ
“เรื่องอะไรบอกได้ไหม”
มาร์คพูดถามแล้วตบเตียงให้อีกฝ่ายเดินมานั่งระหว่างขาสองข้างของตัวเอง
โดยที่อีกฝ่ายก็ยอมทำตามโดยดี
มือใหญ่เช็ดผมที่เปียกอย่างเบามือโดยที่ยังรอฟังคำตอบที่ถามเพื่อนสนิทตัวขาวออกไป
“ผมกำลังคิดว่าคุณมาร์คทำไมใจดีกับผมจัง
ผมดีใจที่มีคุณมาร์คเป็นเพื่อน”
“ฉันบอกตอนไหนว่าเป็นเพื่อนกับนาย”
เจโน่หันขวับ!
“ก็ตอนนั้นคุณมาร์คพูด”
แขนแกร่งกอดเจโน่จากด้านหลังซุกหน้าลงบนไหล่บางถึงแก้มจะเปียกชื้นจากน้ำบนผมอีกฝ่ายมาร์คก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด
“ตอนนี้ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนแล้วเจโน่”
tbc.
มันต้องจบในสักวันหนึ่งแม้เราจะขี้เกียจก็ตาม
TT
#unfriendmarkno
ความคิดเห็น