ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (nct) unfriend - #markno

    ลำดับตอนที่ #5 : unfriend ; O5

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.พ. 62




     

     

    O5

     

     

     

    ดวงตาคมสอดส่องไปทั่วห้องเรียนนอกจากเพื่อนร่วมห้องรุ่นราวคราวเดียวกันก็ไม่เจอใครบางคนที่เขาตามหา เสียงพูดคุยดังเหมือนอยู่ในย่านคนเยอะทั้งที่ในห้องนี้มีนักเรียนไม่ถึงสามสิบคนด้วยซ้ำ เขาสถบบ่นกับตัวเองก่อนจะหมุนตัวออกมาถ้าไม่ติดว่าได้ยินเสียงของใครบางคนพูดถึงชื่อที่จู่ๆก็คุ้นหูขึ้นมาจนต้องขมวดคิ้วเมื่อจับใจความในบทสนทนานั้น

     

    “ไอ้เจโน่มันคงได้กลับบ้านพรุ่งนี้ ห้องเก็บของหลังโรงเรียนมีคนผ่านไปที่ไหน”

     

    “มันคงเข็ดไม่กล้ามาเรียนแล้วมั้ง แต่ก็ดีเหมือนกันจนๆอย่างมันน่าสมเพช”

     

    รู้ตัวอีกทีขาของเขาก็ก้าวมาถึงห้องเก็บของหลังโรงเรียน กุญแจอันใหญ่ถูกคล้องไว้แต่ไม่ได้ล็อก เสียงเรียกจากข้างในมันพอจะได้ยินบ้างทำให้รู้ว่าพวกนั้นขังคนที่ชื่อเจโน่เอาไว้ที่นี่จริงๆ มือใหญ่ถอดกุญแจออกก่อนจะดันประตูเหล็กเก่าที่ขึ้นสนิมให้เปิดออกจนเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดไปทั่วบริเวณ

     

    ใครสักคนที่มาร์คกำลังตามหาเหมือนจะอยู่ตรงนี้ข้างหน้าเขา รูปร่างผอม ขาว ดวงตาเรียวแต่ตาดำกลมโตดูใสซื่อ แต่ตอนนี้ข้างแก้มใสขึ้นรอยช้ำม่วง เดาไม่ยากเลยว่าพวกนั้นทำอะไรกับคนตัวขาวที่กำลังก้มหน้าหลบสายตาอยู่ตอนนี้

     

    “นายใช่ไหมคนบนดาดฟ้าเมื่อวันก่อน” ถามออกไปทั้งที่รู้ว่าตัวเองจำได้ว่าหน้าแบบนี้แหละใช่แน่ๆ

     

    อีกฝ่ายเบิกตากว้างแล้วส่ายหัวไปมาจนกลุ่มผมสีเข้มปลิวไปปลิวมา

     

    “คิดว่าตัวเองโกหกเก่งนักรึไงวะ” แกล้งทำเสียงโหดให้คนตรงหน้ากลัวจนก้าวถอยหลังหนีเขาไป

     

    “ผมขอโทษ คือผมผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้ อ๊ะ!

     

    แขนผอมถูกดึงรั้งเข้ามาหาจนเสียหลักเซมาอยู่ตรงหน้าคนกระทำ มาร์คจ้องตาที่พยายามจะหลบตาเขาจนต้องจับคางเจโน่ให้หันมามอง

     

    “ขอโทษอะไรของนาย ฉันทำนายเจ็บซะขนาดนั้นฉันดิ่วะต้องโทษ”

     

    “แต่ว่าผะผม”

     

    “เจ็บใช่ไหมวันนั้น ขอโทษนะที่ทำให้นายเจ็บ” มาร์คตัดบทเขาขอโทษอีกฝ่ายเพราะเขาผิดจริงๆ

     

    “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจคุณคงไม่ได้ตั้งใจ” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเนิบๆ

     

    “ฉันมาร์คเพิ่งย้ายมาใหม่ถ้าไม่รังเกียจเป็นเพื่อนกันไหมลีเจโน่”

     

    มาร์คคิดว่าภาพคนตัวขาวที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาตอนนี้มันดูตลกเป็นบ้า แต่ก็ดูน่าเห็นใจเมื่อมองเห็นรอยแผลบนใบหน้า ไม่รู้ว่าหมอนี่เคยมีเพื่อนรึเปล่าแต่ลองเป็นเพื่อนกันก็คงไม่มีอะไรเสียหายหรอกมั้ง

     

    “ขอบคุณนะครับคุณมาร์ค ฮึก”

     

    “หึ ร้องแล้วยังกับแมวน่าเกลียดเป็นบ้าเลยเจโน่”

     

    จากนั้นมาเหมือนเจโน่จะมีมาร์คเป็นผู้พิทักษ์คอยดูแลอยู่ตลอดเวลาจนคนที่เข้ามาแกล้งๆเจโน่เริ่มหายไปทีละคนสองคน ทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรยุ่งมาร์คลีไม่ควรทำให้อีกฝ่ายโกรธและไม่ควรไปแกล้งเพื่อนสนิทที่ดูยังไงก็โคตรไม่เข้ากัน

     

    เจโน่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตั้งอยู่โรงเรียนนี้มา ถึงตอนหลังจะรู้ประวัติของเพื่อนใหม่ที่ทำให้เจโน่รู้สึกว่าเขาไม่มีอะไรเข้ากันกับผู้ชายอย่างมาร์คลีเลยจริงๆ

     

    ถึงอีกฝ่ายจะเอาแต่พูดว่าพ่อแม่รวยแต่ตัวเองไม่ได้รวยก็เถอะ แต่รถหรูที่มารอรับทุกวัน หรือจะเป็นหลายๆอย่างที่เจโน่คิดว่าเขาไม่มีปัญญาจะซื้อใช้ มันก็บ่งบอกได้แล้วว่าเขาไม่เหมาะ เจโน่ได้รับของราคาแพงจากมาร์คอยู่บ่อยๆจนตอนนี้ต้องขอร้องให้อีกฝ่ายหยุดซื้ออะไรแพงๆให้ได้แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจยังซื้อมือถือรุ่นล่าสุดที่แพงมากๆให้อีกต่างหาก

     

    “เงินก็เงินฉันทำไมนายต้องมากังวลแทน ฉันรู้ว่าฉันทำอะไรอยู่เจโน่” เสียงดุทำให้คนที่กำลังถือถุงขนมร้านดังสะดุ้งนิดๆ

     

    “แต่มันแพงหนิครับ ผมยังไม่เคยทำอะไรให้คุณมาร์คสักอย่างเลย” เจโน่เถียงทันที

     

    มาร์คเอื้อมมือไปขยี้ผมอีกฝ่ายจนฟู่ฟ่อง หัวเราะกับภาพตรงหน้าเพราะเจโน่กำลังเบะปากใส่เขาซึ่งยากมากที่จะได้เห็นสีหน้าแบบนี้

     

    “แค่นายอยู่ข้างฉันทุกครั้งที่ฉันต้องการฉันก็พอใจแล้วล่ะ”

     

     

     

     


    ##

     

     

     


    วันนี้จู่ๆฝนก็ตกหนักทั้งที่มีแดดมาตลอดวันเจโน่มองสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่หยุด ยื่นมือออกไปรองน้ำใสที่ตกลงมาจนมันเปียกชุ่มไปทั้งมือ ฝนตกหนักเกินกว่าจะวิ่งผ่าฝนออกไปข้างนอกได้ อาจจะต้องรอจนกว่ามันจะซา

     

    นั่งมองสายฝนสลับกับมือถืออยู่เป็นชั่วโมงวันนี้มาร์คกลับไปตั้งแต่ตอนเที่ยงเพราะบอกว่ามีงานสมาคมกับที่บ้านอะไรสักอย่างเจโน่ไม่ได้ถาม คงเป็นงานสังคมที่มาร์คชอบมาบ่นว่าไม่อยากไปจนตอนนี้ก็ยังบ่นไม่เลิกเวลาที่โดนบังคับให้ไปออกงานสังคมทุกที

     

    “เจโน่!

     

    เสียงตะโกนเรียกทำให้คนที่กำลังนั่งเหม่อสะดุ้งโหยงก่อนจะหันหน้ามอง คนที่กำลังอยู่ในความคิดกำลังก้าวเข้ามาพร้อมร่มในมือ

     

    “กลับบ้านกัน”

     

    กระเป๋าสะพายของเจโน่ถูกอีกฝ่ายหิ้วไปพร้อมทั้งข้อมือที่ถูกกอบกุมเอาไว้ ร่มคันใหญ่พอที่จะทำให้ผู้ชายสองคนไม่เปียกจนถึงรถที่จอดรออยู่

     

    “ไปส่งผมที่คอนโดนะครับลุง”

     

    “ครับคุณหนูมาร์ค”

     

    เจโน่แอบหลุดหัวเราะกับคำว่าคุณหนูจนโดนมาร์คผลักหัวเบาๆ

     

    “เดี๋ยวจะโดน”

     

    เจโน่ถูกไล่ให้ไปอาบน้ำตั้งแต่ขึ้นมาถึงบนห้องคงเพราะตัวเขาแอบชื้นหน่อยๆแถมยังเป็นหวัดง่ายกว่าชาวบ้าน เจโน่อาบนานกว่าทุกทีเพราะเอาแต่เหม่อถึงเจ้าของห้องจนโดนเคาะประตูห้องน้ำเรียกสองสามรอบถึงจะจัดการตัวเองเสร็จ

     

    “อาบนานนะวันนี้” ถูกถามทันทีเดินออกมาจากห้องน้ำ

     

    “พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อยครับ” ตอบพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ

     

    “เรื่องอะไรบอกได้ไหม” มาร์คพูดถามแล้วตบเตียงให้อีกฝ่ายเดินมานั่งระหว่างขาสองข้างของตัวเอง โดยที่อีกฝ่ายก็ยอมทำตามโดยดี

     

    มือใหญ่เช็ดผมที่เปียกอย่างเบามือโดยที่ยังรอฟังคำตอบที่ถามเพื่อนสนิทตัวขาวออกไป

     

    “ผมกำลังคิดว่าคุณมาร์คทำไมใจดีกับผมจัง ผมดีใจที่มีคุณมาร์คเป็นเพื่อน”

     

    “ฉันบอกตอนไหนว่าเป็นเพื่อนกับนาย”

     

    เจโน่หันขวับ!

     

    “ก็ตอนนั้นคุณมาร์คพูด”

     

    แขนแกร่งกอดเจโน่จากด้านหลังซุกหน้าลงบนไหล่บางถึงแก้มจะเปียกชื้นจากน้ำบนผมอีกฝ่ายมาร์คก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด

     

    “ตอนนี้ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนแล้วเจโน่”

     

     





     

    tbc.

     

    มันต้องจบในสักวันหนึ่งแม้เราจะขี้เกียจก็ตาม TT

    #unfriendmarkno












    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×