ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (nct) unfriend - #markno

    ลำดับตอนที่ #3 : unfriend ; O3

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.พ. 62





     

    O3

     

     

     

    แขนยาวโอบรอบเอวบางของคนบนตัก อีกฝ่ายซบหน้าลงบนไหล่ด้วยท่าทางเอียงอายเหมือนลูกแมวตัวน้อย เจโน่ร้องฮื้อในลำคอตอนที่มาร์คกดจูบลงบนซอกคอแถมยังลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนให้คนบนตักเขินจนตัวแดงไปหมด เขาหัวเราะในยามที่เจโน่จิกนิ้วที่แผ่นหลังจนรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะเคยโดนทำแบบนั้นครั้งเดียวและมันก็สักสองเกือบสามเดือนแล้วด้วย

     

    แต่ยอมรับตรงๆว่ามาร์คชอบเวลาที่ได้เห็นท่าทีเขินๆของเจโน่ ยิ่งตอนที่เขินจนปากชมพูนั่นยับยู่เขายิ่งอยากจะจับมาจูบแรงๆให้ช้ำ

     

    “คุณมาร์คครับ“ เสียงใสเอ่ยเรียกชื่อคนที่กำลังขบเม้มซอกคอตนเองอยู่ “จะ อื้อทำหรอครับ”

     

    ตอนนั้นแหละเลยได้สติผละออกจากซอกคอหอมๆ มองหน้าเจโน่ที่ก้มหน้างุดแต่ไม่อาจหลบซ่อนความเขินอายไว้มิดชิด มาร์คยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

     

    “แล้วนายยอมหรอ ครั้งแรกก็เจ็บจนร้องไห้เลยไม่ใช่หรือไง” พูดออกไปตรงๆยิ่งทำให้เจ้าลูกแมวบนตักก้มหน้ายิ่งกว่าเดิม

     

    “ถ้าคุณมาร์คต้องการผมก็อ๊ะ!

     

     

    ยังพูดไม่ทันจบประโยคเจโน่ก็โดนพลิกตัวลงบนเตียงนุ่ม มาร์คยกมือเกลี่ยปอยผมบนหน้าผากเนียนออก จ้องนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่สะท้อนใบหน้าของเขา ก่อนที่คนใต้ร่างจะเบนสายตาหนีไปทางอื่น

     

    “เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาถามความต้องการของฉันคนเดียวหรอกนะเจโน่ลี”

     

    ถึงจะพูดแบบนั้นแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ริมฝีปากหยักกดลงบนแก้มใสไล้ลงไปเรื่อยๆโดยไม่ลืมที่จะทิ้งร่องรอยไว้บนซอกคอขาว มาร์คค่อยๆใช้มือปลดกระดุมชุดนอนของเจโน่ทีละเม็ดอย่างไม่เร่งรีบ ในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมาป่าที่กำลังจะกินลูกกระต่ายตัวน้อย รสชาติของลูกกระตายที่หมาป่าเคยลิ้มรสทั้งหอมหวาน เนียนนุ่ม แม้จะเป็นเพียงลูกกระต่ายตัวเล็กๆ

     

    ส่วนเจ้าลูกกระต่ายตัวน้อยไม่รู้จะทำยังไงด้วยซ้ำกับเรื่องแบบนี้ที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ครั้งแรกก็ไม่มีเวลาแม้แต่จะทำใจเลยสักนิด

     

    ครั้งนี้ก็เช่นกัน

     

     

    พลั่ก!

     

    “เฮ้ย!” เสียงดังแทบจะตะโกนของจอห์นนี่ดังอยู่หน้าประตูที่ดันเปิดประตูพรวดพราดเข้ามา มาร์คแทบจะดึงผ้าห่มมาคลุมแมวตัวขาวใต้ร่างแทบไม่ทัน ก่อนที่อีกสี่คนที่ตามมาทีหลังจะมายืนออกันอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้ากรุ่มกริ่ม

     

    “กินแมวอยู่หรอวะ” คำถามของจอห์นนี่รุ่นพี่ที่อายุห่างจากมาร์คหลายปีถามขึ้นมาดื้อๆแถมยังแอบมองไปยังคนที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม

     

    “จะหิวอะไรตั้งแต่หัวค่ำวะมึง” คราวนี้เป็นแฮชานที่พูดสมทบด้วยสีหน้าล้อเลียนจนมาร์คอดไม่ได้ที่จะชูนิ้วกลางใส่

     

    “ออกไปก่อนไปมันเขินจนตัวแดงแล้ว” มาร์คโบกมือไล่ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินตรงไปที่ประตูแล้วดันพวกที่ยืนยิ้มออกนอกห้องและปิดประตูใส่หน้าทุกคน ถึงอย่างนั้นพวกข้างนอกก็ยังส่งเสียงโวยวายเข้ามา

     

    “เฮ้ย มึงจะกินแมวทั้งที่พวกกูอยู่ตรงนี้ไม่ได้นะไอ้มาร์คลี!

     

     

    เจ้าของชื่อหัวเราะหึเบาๆแต่ดวงตากลับจ้องแก้มใสที่แดงฉ่ากับสีหน้าเหมือนจะร้องไห้

     

    “ถ้าเขินก็อยู่ในนี้ไปก่อน เดี๋ยวบอลเริ่มพวกมันก็หยุดล้อเอง” พูดออกไปแบบนั้นทั้งที่รู้ดีกว่าใครว่าพวกนั้นจะไม่หยุดล้อหรอก คงไม่เลิกล้อด้วยก็เป็นพวกชอบแหย่เป็นทุนเดิม คราวนี้เจโน่ลีได้เขินจนแก้มแดงทุกครั้งที่เจอพวกนั้นแน่ๆ

     

    “อื้อ คะ คุณมาร์คไปอยู่กับเพื่อนเถอะ ฮื้ออ” แล้วก็ซุกหน้าลงกับหมอนร้องฮื้อให้มาร์คนึกมันเขี้ยวอยากจะสานต่อจากเมื่อครู่

     

     

    แต่ถ้าให้ทำทั้งที่มีพวกนั้นแอบฟังอยู่ข้างนอกคงทำไม่ได้

     

    ไม่ใช่ว่าอาย

     

    แต่เสียงหวานๆเขาก็อยากจะเก็บไว้ฟังคนเดียวสิ

     

     

     

     

     

     

    ทุกคนที่กำลังนั่งกองกันอยู่หน้าทีวีเครื่องยักษ์ได้แต่มองมาที่มาร์คจนเขาอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เพราะเอาแต่มองแล้วเงียบมาร์คเลยหันกลับไปมองหน้าจอที่กำลังฉายฟุตบอลคู่ที่เขาชอบและที่พวกนี้มาวันนี้ก็เพราะมาดูบอล จะเป็นแบบนี้เสมอถ้ามันมีคู่ที่ชอบมาชิงกันหรือไม่ก็เป็นเบสบอล

     

    “แฮ่ม!” แฮชานแกล้งกระแอ้มในลำคอเรียกความสนใจ

     

    “ตีนติดคอ?” มาร์คหันกลับมาถาม “ถ้าใช่กูจะได้เอาออกให้”

     

    “ดุจังนะมึงที่กูเห็นตอนจ้องเพื่อนสนิทไม่เห็นจะดุแบบนี้เลยใช่ป่ะพี่จอห์น” แฮชานพูดแล้วก็ใช้แขนกระแซะพี่ชายคนสนิท

     

    “นั่นดิ่ไหนตอนที่พาไปรู้จักบอกว่าเพื่อนสนิทที่โรงเรียนไง แล้วที่กูเห็นมันอะไรวะ” จอห์นนี่เปิดประเด็น

     

     

    เอาจริงๆทั้งจอห์นนี่ แจฮยอน วินวิน สงสัยตั้งแต่มาร์คลีพาใครก็ไม่รู้มาแนะนำ นี่ยังไม่รวมยูตะกับแทยงที่ไม่ได้มาวันนี้ ทุกคนสงสัยกันหมดแต่ไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้ดี คนอย่างมาร์คลีถ้าอยากจะอธิบายก็คงบอกเอง ทั้งที่ก่อนกลับวันนั้นก็ถามย้ำไปแล้วว่าแค่เพื่อนจริงหรอ เจ้าตัวก็ยืนยันกับจอห์นนี่ว่าลีเจโน่แค่เพื่อนสนิทที่โรงเรียนใหม่

     

    เกือบจะเชื่ออยู่แล้ว

     

    ถ้าไม่เห็นว่ามาร์คลีกำลังทำพิธีกินแมวอยู่กลางเตียงเต็มสองตา

     

    ไม่ใช้แสตนอิน ไม่ใช้ตัวแสดงแทน

     

     

    “ก็เพื่อนสนิทอย่างที่พูดไปนั่นแหละ” พูดออกไปแบบนั้นแล้วยักไหล่ทำเหมือนว่าที่ทุกคนเห็นเป็นเรื่องที่เพื่อนทั่วไปเขาทำกัน ต่อให้สนิทกันก็เถอะ

     

    มันไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนเขาเอากันหรอกเว้ย! นั่นคือสิ่งที่จอห์นนี่คิด

     

    “เพื่อนแบบไหนวะ เพื่อนแบบ friend with benefits หรอวะ” คำถามจากจอห์นนี่เป็นสิ่งที่มาร์คไม่เคยคิดที่จะหาคำตอบ

     

     

    เจโน่ลีเป็นคนน่ารักและเป็นเพื่อนที่ดี อย่างที่เคยบอกถึงจะจืดชืดมากแต่พออยู่ใกล้ๆกลับให้ความรู้สึกเย็นสบาย ไม่ได้แต่งแต้มด้วยสีสันฉูดฉาดเพราะไม่มีครั้งไหนที่อยู่ใกล้อีกฝ่ายแล้วเขารู้สึกอึดอัดใจหรือแม้กระทั่งทำให้ลำบากใจ

     

    ส่วนหนึ่งคงมาจากการกระทำที่เจโน่แสดงออกกับเขา มันฟังดูเห็นแก่ตัวแต่มาร์คชอบที่เพื่อนสนิทตัวขาวไม่แสดงความเป็นเจ้าของ ไม่เรียกร้อง ไม่หึงหวง

     

    “ไม่ถึงขั้นนั้นเคยทำกันแค่ครั้งเดียวคงไม่ถึงขั้น friend with  benefits อะไรหรอก” ตอบออกไปอย่างที่รู้สึกจนเพื่อนและพี่ในกลุ่มส่ายหน้า “แล้วจะมาอยากรู้อะไรกัน ทำเหมือนว่าพี่เจย์กับพี่ยูตะไม่เคยทำแบบนี้ไปได้”

     

     

    แล้วมาร์คลีก็บ่ายเบียงไปที่คนในกลุ่ม โยนระเบิดไปให้แจฮยอนกับเจ้าของชื่อที่ไม่ได้มาวันนี้ จนพี่ชายหน้าหมีโยนกระป๋องเบียร์เปล่าใส่มาร์ค

     

    “ไอ้เชี่ยมาร์คอย่ามาโยนขี้ให้กู” แจฮยอนสถบด่า

     

    “แล้วพี่จะเถียงรึไงว่าพี่กับพี่ยูตะไม่ใช่ friend with  benefits กัน” มาร์คถามกลับ

     

    แจฮยอนนิ่งไปสักพัก “ก็เคยใช่แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ทนไม่ได้หรอกเว้ยถ้าต้องเห็นมันเป็นของคนอื่นโดยที่เราไม่มีสิทธิ์ห้ามมัน”

     

    “แมนวะ” วินวินที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้นพูดขึ้นพร้อมทั้งชูนิ้วโป้งให้แจฮยอน

     

    “เออ แมนมากอ่ะพี่เจย์ แมนกว่าไอ้กากแถวนี้อีก เอาแต่คิดถึงคนเก่าก็เลยให้คนใหม่เป็นได้แค่เพื่อน”

     

    พูดจบแฮชานก็หงายหลังไปกับพื้นเพราะมาร์คยันฝ่าเท้าเข้าที่ท้องอีกฝ่ายเต็มแรง ทุกคนในกลุ่มหัวเราะเมื่อคนเจ็บลุกขึ้นมาโวยวายเสียงดัง

     

    “ก็พูดจริง คอยดูเถอะมึงเดี๋ยวมีคนมาจีบเมีย เอ้ย! เพื่อนสนิทมึงเมื่อไหร่กูจะรอดูน้ำหน้ามึงไอ้มาร์ค”

     

     

     

     

     

     

     

    จากวันนั้นผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้วแต่พวกนั้นยังไม่ยอมหยุดพูดเรื่องเจโน่สักที แถมยังกระจายเรื่องนี้ต่อให้คนอื่นๆในกลุ่มฟังจนมาร์ครำคาญกับคำถามเดิมๆ “ตกลงกับเจโน่ลีนี่เพื่อนจริงหรอ” อธิบายเป็นร้อยๆรอบก็ยังไม่มีใครเข้าใจ

     

    มันจะมากกว่าเพื่อนไปได้ยังไงกัน

     

     

    “คุณมาร์ค” เจโน่ที่เดินตามหลังเรียกเขาแล้วรีบสาวเท้าขึ้นมาเดินข้างๆเมื่อเขาลดความเร็วลงเพื่อให้อีกคนตามทัน

     

    “ว่า” คิ้วหนาเลิกขึ้น

     

    “พวกคุณแฮชานยังล้อคุณมาร์คเรียกผมอยู่อีกไหม” น้ำเสียงฟังดูจะอ่อนลงเมื่อพูดชื่อแฮชานแถมยังติดสั่นนิดๆ

     

    “พวกนั้นก็ล้อแบบนี้แหละชินแล้ว” ตอบออกไปก่อนจะเอื้อมไปจับมือนิ่มที่จับอยู่ที่ขอบกระเป๋ากางเกงมาจับเอาไว้

     

    “ผมขอโทษนะ เดี๋ยวผมจะบอกคุณแฮชานให้เลิกล้อคุณมาร์ค” เจโน่พูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล

     

    มาร์คหยุดกะทันหันก่อนจะหันไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ จับไหล่เล็กให้หันมาหาเขาแล้วเชยใบหน้าน่ารักที่ตอนนี้ดูยับยุ่งขึ้น

     

    “จะไปบอกมันได้ยังไง อาทิตย์ไม่ได้ว่างพาไปเจอกับพวกนั้น” มาร์คถาม

     

    “ก็ผมมีเบอร์คุณแฮชานกับพี่ยูตะแล้วก็พี่จอห์นนี่ด้วย ผมจะโทรไปขอร้องให้คุณแฮชานเลิกล้อคุณมาร์ค ผมไม่อยากให้คุณมาร์คไม่สบายใจเพราะเรื่องของผม”

     

     

    ตอนที่ได้ยินแทบอยากจะจับเจโน่ลีมาเขย่าแล้วถามให้รู้เรื่องว่าได้เบอร์พวกนั้นมายังไง กับจอห์นนี่แล้วก็ยูตะยังไม่เท่าไหร่ แต่กับลีแฮชานน่ะไปแลกเบอร์กันมาตอนไหนเขาอยากจะรู้ในเมื่อพาไปหาพวกนั้นแค่สองสามครั้งถ้าจำไม่ผิด

     

     

    “ใครสั่งให้ไปติดต่อกับไอ้แฮช” พูดเสียงเข้มจนคนถูกถามหน้าเหลือสองนิ้ว ฟันขาวขบกัดปากล่างของตัวเองจนซีด

     

    “กะ ก็คุณแฮชานบอกว่าแลกเอาไว้เผื่อติดต่อคุณมาร์คตอนอยู่ที่โรงเรียนไม่ได้”

     

     

    ตอแหล

     

    มาร์คอยากจะไปตบหัวไอ้เพื่อนบ้านั่นให้แรงๆสักที มันไม่เคยคิดจะติดต่อเขาด้วยซ้ำ อย่างมากสุดก็โทรสายเดียวไม่รับก็ไม่เคยจะโทรซ้ำ

     

    “ผมไม่ได้ตั้งใจก้าวก่ายเรื่องของคุณมาร์ค ขอโทษนะครับ!

     

    “เดี๋ยว! เจโน่ลีกลับมาเดี๋ยวนี้!

     

     

    เจ้าของชื่อวิ่งลงบันไดไปโดยไม่หันกลับมามองเขาสักนิด วิ่งเร็วเหมือนจะไปชิงแชมป์โลกทั้งที่ปกติเดินเอื่อยเฉื่อยยังกับหอยทาก มาร์คยกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมสีสว่างของตัวเองจนยุ่ง

     

    เจโน่คิดว่าเขาโกรธแต่เอาจริงๆก็โกรธนั่นแหละ ใครใช้ให้ไปยุ่งกับพวกบ้าพวกนั้นกัน แต่ละคนไว้ใจไม่ได้สักคน แล้วหน้าเหมือนแมวขนาดนั้นถ้าเผลอทำหล่นในดงเสือคงไม่ต้องพูดหรอก อย่างน้อยๆลีแฮชานก็เคยชมว่าเจโน่น่ารัก ขนาดพี่จอห์นนี่ยังบอกเลยว่าเจโน่ลีมันลูกแมวดีๆนี่เอง

     

     

     

    “ไอ้แฮชมึงนะมึง” พึมพำกับตัวเองแล้วส่งข้อความให้คนขับรถมารับโดยไม่ลืมที่จะส่งข้อความหาเพื่อนสนิทผิวเข้มที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่อง

     

     

     

    Marklee: กูจัดการแมวเสร็จเมื่อไหร่ เตรียมตัวตายเลยไอ้เพื่อนชั่ว

     

     

     

     

     

     

    tbc.


    #unfriendmarkno

     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×