คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Between Us
Between
Us
Jaehyun
x Yuta
R: PG
ไม่รู้นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้รู้สึกประหม่าแบบนี้
มือเย็นเฉียบยามที่ประกบเข้าหากันเฝ้ามองแต่หน้าจอมือถือกดดูตัวเลขบนหน้าจอครั้งแล้วแล้วครั้งเล่า
นากาโมโตะ ยูตะ สั่นขาอยู่บนโซฟาสีครีมตัวเดิมรอคอยเวลา จนกระทั่งเสียงออดหน้าประตูดังขึ้นเจ้าของร่างขาวถึงได้ลุกขึ้นจัดทรงผมให้เข้าที่สำรวจเสื้อผ้าทั้งที่มันเป็นชุดธรรมดาๆ
ประตูเปิดออกการพบหน้ากันครั้งแรกประหม่ากว่าที่คิด
เด็กหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำกับสนีกเกอร์และกระเป๋าสะพายหลังสีดำไร้รวดลาย
ทั้งชุดดูธรรมดาแต่ไม้แขวนเสื้ออันนี้ดูดีเป็นบ้า
“อ่า…”
“…”
“พี่ยูตะใช่ไหมครับ ผมแจฮยอนนะ”
เสียงของคนตรงหน้าทุ้มๆเหมือนผู้ชายทั่วไปแต่รอยยิ้มที่ประดับด้วยลักยิ้มข้างแก้มทำให้ดูพิเศษ
ตากลมโตสีเข้มรับกับรูปหน้าหล่อเหลาสมวัย
“เอ่อ อ่า ใช่ๆ เข้ามาก่อนสิ”
จอง แจฮยอนไม่ได้ดูประหม่าเท่าเขา
อีกฝ่ายดูสบายๆจนน่าอิจฉา
โซฟาตัวยาวที่เคยมีแค่เจ้าของห้องตอนนี้มีใครอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ
ยูตะได้แต่คิดในใจว่าวันนี้โซฟาดูตัวเล็กลง
“พี่ไม่มีแฟนหรอครับ”
คำถามของแจฮยอนทำให้เผลอนึกถึงมินะแฟนสาวคนสวยที่เพิ่งเลิกกันไปได้ไม่ถึงสองเดือน
เลิกทั้งที่กำลังจะแต่งงานกัน
ยูตะไม่นึกโทษเธอสักนิดก็ในเมื่อต้องอยู่ห่างกันคนละประเทศ
นานๆครั้งจะได้เจอกันสักทีถ้าเธอมีคนอื่นก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง
“พี่โอเครึเปล่าครับหรือทะเลาะกับแฟนอยู่”
“…”
“จะยกเลิกก็ได้นะพี่ ผมโอเค”
สุดท้ายก็ได้แต่ร้องไห้โฮเหมือนเด็กต่อหน้าคนเด็กกว่าที่เพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก
เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกชุ่มเป็นวงกว้าง สะอึกสะอื้นกับคำปลอบโยนที่ไร้เสียง
มีแต่สัมผัสเบาๆที่แผ่นหลัง
ทั้งที่ทุกอย่างควรจะเริ่มที่เตียงและจบลงที่เตียง
ทุกอย่างมันผิดจากที่คิดไปหมด
กว่าจะหยุดร้องไห้ก็ตอนที่ริมฝีปากอิ่มจูบลงบนหน้าผากพร้อมรอยยิ้มสดใส
“ผมทำตัวไม่ถูกแล้วนะพี่เล่นร้องไห้แบบนี้
ดูสิจมูกแดงหมดแล้ว”
นิ้วเรียวยาวจิ้มลงบนปลายจมูก
“ขอโทษนะแจฮฺยอน”
“ไม่เป็นไรน่า เอาเป็นว่าไม่ต้องทำกันก็ได้เดี๋ยวผมจะนอนข้างๆพี่จนกว่าจะเช้าดีไหม”
ใช่…
ทั้งสองคนเจอกันในแอพหาคู่ที่ไม่ได้มีไว้แค่หาคู่
คุยกันมาเกือบสองอาทิตย์จนนัดเจอกันครั้งแรกที่ห้องของยูตะ
ความต้องการทางกายเท่านั้นที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด
ใครจะไปคิดว่ามันจะจบลงบนเตียงจริงๆ แต่ไร้ซึ่งความปรารถนาทางกายๆใดนอกจาก ‘กอด’
บทสนทนาถูกเริ่มขึ้นโดยคนเด็กกว่า พูดคุยกันในเรื่องของหนังเรื่องโปรดที่รสนิยมเหมือนกันจนน่าตกใจ
ยังไม่รวมแนวดนตรี หนังสือที่ชอบ อ่อ ยังไม่นับเรื่องความรักที่ต่างคนต่างอกหักด้วยกันทั้งคู่
แจฮยอนเลิกกับแฟนไปนานแล้วและยังไม่มีแฟนใหม่
เจ้าตัวเล่าด้วยสีหน้าปกติติดรอยยิ้มเล็กๆไว้ที่มุมปากเหมือนกับมันเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง
“สักวันมันจะกลายเป็นเรื่องที่พี่พูดได้โดยไม่ต้องร้องไห้หรือเศร้าเพราะมันอีก”
แล้วคืนนั้นกับเด็กหนุ่มแปลกหน้าจบลงที่กอดกันบนเตียง
กลิ่นกายของแจฮยอนเป็นกลิ่นเดียวกับเขา
ยูตะอมยิ้มขยับตัวเข้าไปใกล้ซุกหน้ากับแผงอกแกร่งของอีกฝ่ายสูดดมความหอมนั่นจนชุ่มปอด
รู้สึกดีขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มกระชับวงแขนกอดเขาให้แน่นกว่าเดิม
อย่างน้อยๆอ้อมกอดนี้ก็จะพาผ่านค่ำคืนหนึ่งที่เจ็บปวดไปได้
“หลับฝันดีนะครับพี่ยูตะ”
ยูตะลบแอพหาคู่นั้นทิ้งไปแล้วตั้งแต่วันที่แจฮยอนโบกมือลาอยู่หน้าประตูพร้อมรอยยิ้ม
ทุกอย่างจบลงวันนั้นเหมือนเป็นแค่เรื่องดีๆเรื่องหนึ่งที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป
ไม่มีการทิ้งช่องทางติดต่ออะไรไว้
แจฮยอนก็ไม่ได้ต้องการสานสัมพันธ์ที่มันยังไม่เกิดขึ้น การไม่รู้สึกคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ผิดหวังในความรักทั้งสองคน
ยูตะย้ายออกจากคอนโดหลังจากเปลี่ยนงานที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยตั้งแต่เรียนจบ
ตัดสินใจลงเรียนคลาสทำอาหารเล็กๆเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน
เรื่องของคนรักถูกลืมเลือนเหลือไว้เพียงความทรงจำในส่วนหนึ่งของสมอง
กลายเป็นเรื่องที่ทำให้หัวเราะเมื่อถูกล้อโดยเพื่อนสนิท
และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงเจ้าของประโยคนั้นทุกครั้งที่พูดถึงมินะหน้าของจองแจฮยอนก็จะลอยเข้ามา
อะไรบางอย่างวกวนอยู่ในหัวไร้ทางออก
ไม่แน่อาจจะเป็นความคิดถึงก็ได้
ในคืนที่ฝนตกหนักร่มคันใหญ่ช่วยแค่ไม่ทำให้โน้ตบุ๊กในมือเปียกก็เท่านั้น
อาหารแช่แข็งหลายกล่องในถุงถูกแขวนอยู่ในข้อมือ
ทุกอย่างพะรุงพะรังจนอยากจะเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้ววางมันลงเร็วๆ
ยูตะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อคลำหากุญแจในกระเป๋าเสื้อของตัวเองไม่เจอ
ได้แต่สถบบ่นตัวเองที่ไม่เตรียมพร้อม
ขณะที่กำลังจะเปิดกระเป๋าสะพายข้างสีดำใบโปรด
ห้องตรงข้ามที่เขาเองอยู่มาเกือบสี่เดือนก็ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอ
ประตูบานนั้นเปิดออก ไม่รู้อะไรดลใจให้ยูตะหันไปมอง
วินาทีนั้นเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน
ลมหายใจติดขัด
มือสั่นพอๆกับที่หัวใจเต้นระริกระรี้เหนือการควบคุม
กุญแจที่ถืออยู่ในมือร่วงหล่นไร้แรงโน้มถ่วงกระทบลงพื้นเสียงดัง
แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของห้องละความสนใจจากผู้ชายตรงหน้า
“บังเอิญจังเลยนะครับ”
“…”
“แล้วทำไมหอบหิ้วอะไรเยอะแยะไปหมด
ดูสิกางเกงพี่เปียกเยอะเลย”
มือใหญ่เอื้อมมือหยิบร่มสีทึบออกไปอย่างถือวิสาสะ
กลิ่นกายอีกฝ่ายทำให้ยูตะรู้สึกตัวเพราะตอนนี้จองแจฮยอนกำลังยืนซ้อนจากด้านหลังและไขกุญแจห้องของเขา
ข้าวของทั้งหมดถูกวางลงบนโต๊ะกินข้าวในครัวเล็กๆ
ยูตะรู้สึกถึงมือที่สั่นไหวมันเหมือนกำลังอยู่บนรถไฟเหาะ ทั้งวูบโหวง ตื่นเต้น
ยิ่งตอนที่จองแจฮยอนหันมายิ้มให้ภาพเด็กหนุ่มในคืนนั้นก็ทับซ้อนกัน
“ผมตกใจที่ได้เจอพี่อีก
ตั้งแต่คืนนั้นมันมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับความรู้สึกของผม”
ยูตะมองแจฮยอนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้ๆ
มือใหญ่เลื่อนมาปัดผมหน้าม้ารุงรังที่ยังไม่ได้ตัดให้เรียบร้อยออกเบาๆ
“จริงๆมันควรจบตั้งแต่คืนนั้น”
“…”
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรดลใจให้เอื้อมมือไปดึงรั้งต้นคออีกฝ่ายเข้ามาจูบ
แจฮยอนใช้สองมือประคองใบหน้าเขาเอาไว้
ดวงตาสบกันและใกล้กว่าจะโกหกว่าไม่ได้คิดอะไรต่อกัน
“เรื่องระหว่างเราสองคนมาทำให้มันเป็นจริงเถอะนะครับ”
end.
#bbgjaeyu
ความคิดเห็น