ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (nct) os/sf bubblegum - jaeyu

    ลำดับตอนที่ #6 : Between Us

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 62




    Between Us

    Jaehyun x Yuta

    R: PG

     

     


    ไม่รู้นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้รู้สึกประหม่าแบบนี้ มือเย็นเฉียบยามที่ประกบเข้าหากันเฝ้ามองแต่หน้าจอมือถือกดดูตัวเลขบนหน้าจอครั้งแล้วแล้วครั้งเล่า นากาโมโตะ ยูตะ สั่นขาอยู่บนโซฟาสีครีมตัวเดิมรอคอยเวลา จนกระทั่งเสียงออดหน้าประตูดังขึ้นเจ้าของร่างขาวถึงได้ลุกขึ้นจัดทรงผมให้เข้าที่สำรวจเสื้อผ้าทั้งที่มันเป็นชุดธรรมดาๆ

     

    ประตูเปิดออกการพบหน้ากันครั้งแรกประหม่ากว่าที่คิด เด็กหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำกับสนีกเกอร์และกระเป๋าสะพายหลังสีดำไร้รวดลาย ทั้งชุดดูธรรมดาแต่ไม้แขวนเสื้ออันนี้ดูดีเป็นบ้า

     

    “อ่า

     

     

    “พี่ยูตะใช่ไหมครับ ผมแจฮยอนนะ”

     

    เสียงของคนตรงหน้าทุ้มๆเหมือนผู้ชายทั่วไปแต่รอยยิ้มที่ประดับด้วยลักยิ้มข้างแก้มทำให้ดูพิเศษ ตากลมโตสีเข้มรับกับรูปหน้าหล่อเหลาสมวัย

     

    “เอ่อ อ่า ใช่ๆ เข้ามาก่อนสิ”

     

    จอง แจฮยอนไม่ได้ดูประหม่าเท่าเขา อีกฝ่ายดูสบายๆจนน่าอิจฉา โซฟาตัวยาวที่เคยมีแค่เจ้าของห้องตอนนี้มีใครอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ ยูตะได้แต่คิดในใจว่าวันนี้โซฟาดูตัวเล็กลง

     

    “พี่ไม่มีแฟนหรอครับ”

     

    คำถามของแจฮยอนทำให้เผลอนึกถึงมินะแฟนสาวคนสวยที่เพิ่งเลิกกันไปได้ไม่ถึงสองเดือน เลิกทั้งที่กำลังจะแต่งงานกัน ยูตะไม่นึกโทษเธอสักนิดก็ในเมื่อต้องอยู่ห่างกันคนละประเทศ นานๆครั้งจะได้เจอกันสักทีถ้าเธอมีคนอื่นก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง

     

    “พี่โอเครึเปล่าครับหรือทะเลาะกับแฟนอยู่”

     

     

    “จะยกเลิกก็ได้นะพี่ ผมโอเค”

     

     

    สุดท้ายก็ได้แต่ร้องไห้โฮเหมือนเด็กต่อหน้าคนเด็กกว่าที่เพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกชุ่มเป็นวงกว้าง สะอึกสะอื้นกับคำปลอบโยนที่ไร้เสียง มีแต่สัมผัสเบาๆที่แผ่นหลัง

     

    ทั้งที่ทุกอย่างควรจะเริ่มที่เตียงและจบลงที่เตียง

     

    ทุกอย่างมันผิดจากที่คิดไปหมด กว่าจะหยุดร้องไห้ก็ตอนที่ริมฝีปากอิ่มจูบลงบนหน้าผากพร้อมรอยยิ้มสดใส

     

    “ผมทำตัวไม่ถูกแล้วนะพี่เล่นร้องไห้แบบนี้ ดูสิจมูกแดงหมดแล้ว”

     

    นิ้วเรียวยาวจิ้มลงบนปลายจมูก

     

    “ขอโทษนะแจฮฺยอน”

     

    “ไม่เป็นไรน่า เอาเป็นว่าไม่ต้องทำกันก็ได้เดี๋ยวผมจะนอนข้างๆพี่จนกว่าจะเช้าดีไหม”

     

     

    ใช่

     

    ทั้งสองคนเจอกันในแอพหาคู่ที่ไม่ได้มีไว้แค่หาคู่ คุยกันมาเกือบสองอาทิตย์จนนัดเจอกันครั้งแรกที่ห้องของยูตะ ความต้องการทางกายเท่านั้นที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด ใครจะไปคิดว่ามันจะจบลงบนเตียงจริงๆ แต่ไร้ซึ่งความปรารถนาทางกายๆใดนอกจากกอด

     

    บทสนทนาถูกเริ่มขึ้นโดยคนเด็กกว่า พูดคุยกันในเรื่องของหนังเรื่องโปรดที่รสนิยมเหมือนกันจนน่าตกใจ ยังไม่รวมแนวดนตรี หนังสือที่ชอบ อ่อ ยังไม่นับเรื่องความรักที่ต่างคนต่างอกหักด้วยกันทั้งคู่ แจฮยอนเลิกกับแฟนไปนานแล้วและยังไม่มีแฟนใหม่ เจ้าตัวเล่าด้วยสีหน้าปกติติดรอยยิ้มเล็กๆไว้ที่มุมปากเหมือนกับมันเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง

     

    “สักวันมันจะกลายเป็นเรื่องที่พี่พูดได้โดยไม่ต้องร้องไห้หรือเศร้าเพราะมันอีก”

     

    แล้วคืนนั้นกับเด็กหนุ่มแปลกหน้าจบลงที่กอดกันบนเตียง กลิ่นกายของแจฮยอนเป็นกลิ่นเดียวกับเขา ยูตะอมยิ้มขยับตัวเข้าไปใกล้ซุกหน้ากับแผงอกแกร่งของอีกฝ่ายสูดดมความหอมนั่นจนชุ่มปอด รู้สึกดีขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มกระชับวงแขนกอดเขาให้แน่นกว่าเดิม

     

    อย่างน้อยๆอ้อมกอดนี้ก็จะพาผ่านค่ำคืนหนึ่งที่เจ็บปวดไปได้

     

    “หลับฝันดีนะครับพี่ยูตะ”

     

     

     

     

    ยูตะลบแอพหาคู่นั้นทิ้งไปแล้วตั้งแต่วันที่แจฮยอนโบกมือลาอยู่หน้าประตูพร้อมรอยยิ้ม ทุกอย่างจบลงวันนั้นเหมือนเป็นแค่เรื่องดีๆเรื่องหนึ่งที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป ไม่มีการทิ้งช่องทางติดต่ออะไรไว้ แจฮยอนก็ไม่ได้ต้องการสานสัมพันธ์ที่มันยังไม่เกิดขึ้น การไม่รู้สึกคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ผิดหวังในความรักทั้งสองคน ยูตะย้ายออกจากคอนโดหลังจากเปลี่ยนงานที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยตั้งแต่เรียนจบ ตัดสินใจลงเรียนคลาสทำอาหารเล็กๆเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน

     

    เรื่องของคนรักถูกลืมเลือนเหลือไว้เพียงความทรงจำในส่วนหนึ่งของสมอง กลายเป็นเรื่องที่ทำให้หัวเราะเมื่อถูกล้อโดยเพื่อนสนิท และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงเจ้าของประโยคนั้นทุกครั้งที่พูดถึงมินะหน้าของจองแจฮยอนก็จะลอยเข้ามา อะไรบางอย่างวกวนอยู่ในหัวไร้ทางออก

     

    ไม่แน่อาจจะเป็นความคิดถึงก็ได้

     

    ในคืนที่ฝนตกหนักร่มคันใหญ่ช่วยแค่ไม่ทำให้โน้ตบุ๊กในมือเปียกก็เท่านั้น อาหารแช่แข็งหลายกล่องในถุงถูกแขวนอยู่ในข้อมือ ทุกอย่างพะรุงพะรังจนอยากจะเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้ววางมันลงเร็วๆ ยูตะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อคลำหากุญแจในกระเป๋าเสื้อของตัวเองไม่เจอ ได้แต่สถบบ่นตัวเองที่ไม่เตรียมพร้อม

     

    ขณะที่กำลังจะเปิดกระเป๋าสะพายข้างสีดำใบโปรด ห้องตรงข้ามที่เขาเองอยู่มาเกือบสี่เดือนก็ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอ ประตูบานนั้นเปิดออก ไม่รู้อะไรดลใจให้ยูตะหันไปมอง

     

    วินาทีนั้นเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน

    ลมหายใจติดขัด

    มือสั่นพอๆกับที่หัวใจเต้นระริกระรี้เหนือการควบคุม

     

    กุญแจที่ถืออยู่ในมือร่วงหล่นไร้แรงโน้มถ่วงกระทบลงพื้นเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของห้องละความสนใจจากผู้ชายตรงหน้า

     

    “บังเอิญจังเลยนะครับ”

     

     

    “แล้วทำไมหอบหิ้วอะไรเยอะแยะไปหมด ดูสิกางเกงพี่เปียกเยอะเลย”

     

    มือใหญ่เอื้อมมือหยิบร่มสีทึบออกไปอย่างถือวิสาสะ กลิ่นกายอีกฝ่ายทำให้ยูตะรู้สึกตัวเพราะตอนนี้จองแจฮยอนกำลังยืนซ้อนจากด้านหลังและไขกุญแจห้องของเขา

     

    ข้าวของทั้งหมดถูกวางลงบนโต๊ะกินข้าวในครัวเล็กๆ ยูตะรู้สึกถึงมือที่สั่นไหวมันเหมือนกำลังอยู่บนรถไฟเหาะ ทั้งวูบโหวง ตื่นเต้น ยิ่งตอนที่จองแจฮยอนหันมายิ้มให้ภาพเด็กหนุ่มในคืนนั้นก็ทับซ้อนกัน

     

    “ผมตกใจที่ได้เจอพี่อีก ตั้งแต่คืนนั้นมันมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับความรู้สึกของผม”

     

    ยูตะมองแจฮยอนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้ๆ มือใหญ่เลื่อนมาปัดผมหน้าม้ารุงรังที่ยังไม่ได้ตัดให้เรียบร้อยออกเบาๆ

     

    “จริงๆมันควรจบตั้งแต่คืนนั้น”

     

     

    ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรดลใจให้เอื้อมมือไปดึงรั้งต้นคออีกฝ่ายเข้ามาจูบ แจฮยอนใช้สองมือประคองใบหน้าเขาเอาไว้ ดวงตาสบกันและใกล้กว่าจะโกหกว่าไม่ได้คิดอะไรต่อกัน

     

    “เรื่องระหว่างเราสองคนมาทำให้มันเป็นจริงเถอะนะครับ”






    end.



    #bbgjaeyu


    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×