ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (nct) os/sf bubblegum planet #markno

    ลำดับตอนที่ #3 : ♡ love flavor

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 60



    Love Flavor

    mark / jeno

     

     
     

    กระเป๋าเป้สีดำใบเก่าถูกสะพายขึ้นไหล่ ลีเจโน่ก้มมองนาฬิกาที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญเกิดเมื่อสองปีที่แล้วเพื่อดูเวลา เด็กหนุ่มสาวเท้าไปถามทางเดินทั้งที่ตอนนี้เขาควรจะอยู่โรงเรียนแล้วแท้ๆ แต่เมื่อคืนเพื่อนสนิทชาวจีนอย่างฮวงเหรินจวิ้นดันส่งคลิปของแรปเปอร์ใต้ดินคนโปรดมาให้ดูก่อนจะเข้านอน กลายเป็นเมื่อคืนทั้งคืนเจโน่ไล่ดูคลิปพวกนั้นจนเกือบตีสาม

     

    เด็กหนุ่มยกมือปิดปากยามที่อ้าปากหาว ขับไล่ความง่วงนอนด้วยเพลงฺที่ถูกตั้งเป็นเพลย์ลิสต์โปรดในมือถือ

     

    กลุ่มผมสีควันบุหรี่พัดลู่ตามลม เจโน่เพียงแค่ส่ายหัวไปมาเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในอารมณ์ของเพลงจนไม่ทันได้มองข้างหน้าที่มีใครอีกคนเดินก้มหน้ากดมือถืออย่างไม่ใส่ใจ

     

    ปั่ก!

     

    “โอ้ย” นั่นเป็นเสียงร้องของเจโน่ที่ตอนนี้ลงไปนอนอยู่ที่พื้น

     

    สเก็ตบอร์ดลายกราฟิกร่วงจากมือจากอย่างไม่ได้ตั้งใจ เจ้าของมันหันมามองผู้กระทำที่นั่งจุมปุ๊กอยู่บนพื้น คิ้วเรียวเลิกขึ้นพลางสำรวจมองเด็กหนุ่มผมสีสว่างที่เงยหน้าขึ้นมามองค้อนเขา ปากนั่นเบะเหมือนน้องชายข้างบ้านเวลาถูกขัดใจ

     

    “โทษที” มาร์คลียักไหล่ก่อนจะยื่นมือไปเก็บสเก็ตบอร์ดแสนรักของตัวเองขึ้นมา

     

    “ขอโทษแล้วมันหายเจ็บไหมล่ะ ให้ตายสิซวยชะมัด” เหมือนประโยคหลังอีกคนจะพึมพำเบาๆกับตัวเองแต่มาร์คได้ยินเต็มสองรูหู

     

    “วันหลังก็หัดเดินดูทางบ้างสิ” มาร์คพูด หันหลังเดินไปโดยไม่สนใจคนที่ลุกขึ้นมาปัดเสื้อผ้าของตัวเองสักนิด

     

    อยากจะตะโกนด่าอยู่หรอกนะแต่ตอนนี้เจโน่ไม่คิดว่าตัวเองมีเวลาขนาดนั้น

     

    “เวรเอ้ย! สายแล้วไง”

     

     

    วันนี้คงเป็นวันที่โชคร้ายที่สุดในรอบเดือน เจโน่มาสายถูกมิสเด็บบี้ครูเวรประจำวันกักตัวเอาไว้แถมยังถูกลงโทษด้วยการอยู่ตอนเย็นเพิ่มอีกครึ่งชั่วโมง มันเลยเป็นเหตุผลที่ต้องมาติดฝนอยู่ตอนนี้ทั้งที่วันนี้ทั้งวันอากาศดีจนคิดว่าเย็นนี้อาจจะแวะไปเล่นบาสกับพวกทอมเพื่อนรุ่นพี่ ตอนเที่ยงเขายังเห็นกลุ่มเมฆสีขาวลอยอยู่ข้างบนฟ้า ไม่รู้ทำไมตอนนี้ฝนถึงได้ตกลงมาซะได้

     

    สุดท้ายก็ได้แต่ปลอบตัวเอง เอาน่าไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่ต้องมาติดฝนอย่างน้อยตอนนี้ก็มีเกือบสิบคนที่ติดฝนอยู่ตรงนี้เหมือนกัน

     

    “ไง”

     

    เจโนได้แต่หวังว่านี่จะเป็นเรื่องสุดท้ายของวันคือไอ้ผู้ชายหัวทองทั้งหัวเจ้าของสเก็ตบอร์ดเมื่อเช้ากำลังยืนอยู่ข้างๆ

     

    “ไม่ได้พกปากมาด้วยหรอ”

     

    “ฉันไม่คิดว่าจำเป็นต้องตอบคำถามของนาย”

     

    “เฮ้ ไม่เอาน่าเมื่อเช้านายยังด่าฉันอยู่เลย

     

    แล้วจู่ๆมาร์คลีก็เอื้อมมือไปจับมือที่เล็กกว่า อืมสักประมาณไม่ถึงสองเซ็น

     

    “ฉันมาร์คยินดีที่รู้จัก”

     

     

     

    #

     

     

     

    เมื่อวานฝนตกเหมือนจะไม่ตกไปอีกตลอดปีนี้สุดท้ายเจโน่ถึงได้ตัดสินใจวิ่งฝ่าออกมา และไม่ใช่เขาแค่คนเดียวที่ทำแบบนั้น มาร์คไม่ใช่เพื่อนรุ่นเดียวกันและไม่ได้เรียนที่นี่แต่เป็นลูกชายของมิสซิสลี ครูสอนภาษาเกาหลี อีกฝ่ายเรียนมหาวิทยาลัยแล้วและไม่มีอะไรเจ๋งไปกว่าการที่มาร์คคอดนตรีเดียวกันกับเขา

     

    การได้รู้ว่ามีคนชอบแรปเปอร์ใต้ดินอย่างML เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เจโน่ยืนสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจก วันนี้เขาตื่นตอนสิบโมงพลาดอาหารเช้าอย่างแพนเค้กของโปรดฝีมือแม่ แต่ก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะแวะไปกินพิซซ่าร้านโปรด ถือเสียว่าเผื่อท้องเอาไว้

     

    เสียงแตรรถดังอยู่หน้าบ้าน เด็กหนุ่มถึงได้หยิบเป้สะพายหลังใบเดิมและหยิบหมวกสีน้ำเงินใบโปรดสวมหัวก่อนจะวิ่งลงบันได หอมแก้มแม่ที่ยืนดูดฝุ่นในห้องนั่งเล่นถึงจะถูกตีเข้าที่แขนพร้อมเสียงบ่น

     

    “กลับดึกนะครับ”

     

    มันบ้าดีที่ตอนนี้อยู่บนรถกับคนที่เพิ่งเจอกันเมื่อวาน มาร์คดูดีกับผมสีใหม่ที่เจ้าตัวเพิ่งจะไปย้อมมาเมื่อคืน เหมือนคนเอเชียจนน่าตกใจ แต่อย่างว่าถ้าเขาย้อมผมดำอาจจะดูเอเชียซะยิ่งกว่าคนข้างๆเป็นร้อยเท่า แจ็คสันเพื่อนร่วมชั้นถึงได้ชอบล้อว่าบ่อยๆว่าเขาเป็นไอ้หน้าอ่อน

     

    “ที่บอกว่าวันนี้จะพาไปที่ร้านนั้นจริงหรอ”

     

    มันไม่เชิงเป็นร้านจากที่เสิร์ซหาในกูเกิลเป็นเหมือนผับเล็กๆ มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษห่วยแตกที่ไม่รู้เลยว่ารสนิยมเจ้าของร้านมันเป็นยังไง Neo ชื่อเหมือนอะไรสักอย่างฟังดูตลก ถึงแบบนั้นก็เถอะแต่แรปเปอร์ใต้ดินเจ๋งๆอยู่ที่นั่นเยอะรวมไปถึงคนที่เจโน่แทบจะเถิดทูนอย่างML ชื่อย่อที่ไม่มีคนรู้ว่าชื่อเต็มๆคืออะไร แต่ดันเป็นคนที่เจโน่ได้ฟังเพลงจังหวะฮิบฮอบครั้งแรกก็ตกหลุมรัก

     

    “ได้บัตรมาแล้ว” ว่าแล้วก็ยื่นมือไปในเกะล้วงบัตรสีขาวสองใบออกมา

     

    “โคตรเจ๋ง”

     

    “แล้วชอบมานานแค่ไหน”

     

    “หมายถึงMLหรอ ก็หลายเดือนพอที่จะจำได้เกือบทุกเพลงของเขา”

     

    “หมอนั่นคงดีใจตาย”

     

     

    อย่างที่บอกเจโน่วางแผนไว้แล้วว่าจะมากินพิซซ่าแล้วอีกอย่างที่ได้รู้ในวันนี้ก็คือมันอยู่ใกล้กับNeo ผับในตรอกแคบๆที่อยู่เยื้องๆกัน ตอนนี้เพิ่งจะหกโมงเลยยังไม่มีคนมันดูเหมือนปกติสุดๆ แต่มาร์คบอกว่าถ้าถึงเวลาเปิดคนก็จะเยอะจนแทบหายใจไม่ออก

     

    เหมือนเขาตอนนี้ ตื่นเต้นจนหายใจแทบไม่ออก

     

     

    เจโน่คิดว่ามาร์คขี้โม้แต่เปล่าเลย ชายหนุ่มพูดเรื่องจริงตอนนี้เขาอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก กลิ่นบุหรี่ที่ไม่เคยชอบแม้จะเคยลองสูบก็เถอะ อบอวลจนแทบอาเจียน เหล้าในมือเกินกว่าจะบอกว่าอร่อยเพราะอย่างมากก็ดื่มแค่เบียร์ราคาไม่กี่ดอลล่าที่เหรินจวิ้นหิ้วมาจากบ้าน แต่น้ำสีอำพันในมือมันบาดคอจนต้องทำหน้าเหยเกตอนที่พยายามกระเดือกมันลงคอ

     

     

    อยากอ้วกชะมัด

     

    “เฮ้ ไหวไหมหน้านายแดงมากเลย”

     

    มาร์คพยายามโบกมือต่อหน้าเด็กหนุ่มแต่อีกฝ่ายไม่มีการตอบรับมากกว่ายิ้มจนตาสองข้างนั่นยิ้มไปด้วย ให้ตายเถอะคิดว่าจะเจนโลกเสียอีก มาร์คหลุดหัวเราะก่อนจะหิ้วปีกเด็กหนุ่มผมสีสว่างออกมาจากร้าน

     

    “กลับแล้วหรอวะมาร์ค วันนี้ไม่ขึ้นโชว์สักเพลง”

     

    “ต้องขอบายว่ะเจย์ วันนี้พาคนมาด้วย” มาร์คชี้ไปในรถ “เพิ่งจะสิบแปดคงต้องพาไปส่งบ้าน”

     

    เจย์ เพื่อนรุ่นพี่ชาวเกาหลีหัวเราะ โบกมือลาแล้วก็กลับเข้าไปพร้อมกับแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่มาร์คเพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันก่อน

     

    จากที่บอกจะไปส่งบ้านสุดท้ายก็ไม่ถึงบ้าน เจโน่เมามากกว่าที่คิดเอาไว้ อาเจียนออกมาเลอะเสื้อตัวเก่งจนต้องเปลี่ยนใจหักพวงมาลัยไปทางบ้านของเขาแทน จริงๆมันห่างจากกันไม่มากแต่ตอนนี้เจโน่ลีไม่น่าจะไหวแล้ว

     

    กว่าจะแบกร่างเด็กหนุ่มที่เพิ่งรู้จักได้วันเดียวเข้ามาในห้องก็แทบตาย ไม่ได้หนักมากแต่คนเมาเวลาเมานี่โคตรจะทิ้งตัว

     

    “แล้วจะทำไงดีวะ มัมก็ไม่อยู่” มาร์คพึมพำ

     

    “หวังว่าคงจะไม่ว่ากันหรอกนะถ้าฉันจะเปลี่ยนชุดให้”

     

     

    เกิดมาไม่เคยจะต้องมาเช็ดตัวให้ใครสักคน คิดแบบนั้นตอนที่หาชุดนอนตัวเล็กๆแต่อย่างมากที่สุดก็ใหญ่กว่าที่อีกคนใส่ประมาณสองไซส์ เจโน่ลีตัวเล็กกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มาก เอวคอดเหมือนผู้หญิงถึงจะมีกล้ามเนื้อนิดๆหน่อยๆก็เถอะ และที่แปลกกว่านั้นดันได้กลิ่นพายแอปเปิลหอมๆจากตัวเด็กสิบแปด

     

    ก็เซ็กซี่ดี

     

    มาร์คสะบัดหัวตัวเองอดจะขำไม่ได้กับความคิดตลกๆ สอดตัวเองลงในผ้าห่มผืนเดียวกับคนเมา เอื้อมมือไปปิดโคมไฟที่หัวเตียงก่อนจะปิดเปลือกตาลง

     

    หวังว่าคนเมาคงจะฝันดี

     

     

     


     

     

    ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งตอนนี้มันคงเป็นความสัมพันธ์พิลึกที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แค่สองเดือนแต่เหมือนรู้จักกันมาหลายปี เจโน่เข้าออกบ้านมาร์คเหมือนเป็นลูกชายอีกคนของมิสซิสลีที่เพิ่งจะรู้วันนี้ว่าจริงๆมิสซิสลีชื่อว่าดายอน เธอใจดีจนแทบจะลืมเวลาเธอสั่งการบ้านที่โรงเรียนไปเลย แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็นเพราะที่เจโน่เอาแต่คิดไม่ตกคือความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมาร์ค

     

    มาร์คบอกว่าเขายังเด็ก อ่าเจโน่เกลียดคำว่า “เด็ก” เกินกว่าจะเข้าใจอะไรในแบบของผู้ใหญ่ เหมือนกับอเมริกาโน่รสขมปร่าที่เจโน่เกลียดแสนเกลียด นั่นแหละรสชาติความเป็นผู้ใหญ่ที่มาร์คลีกล่าวถึง แถมยังพูดถึงรสชาติพายแอปเปิลที่เขาชอบกินว่ามันเป็นรสชาติของเด็ก

     

    เจโน่ไม่เข้าใจเพราะมาร์คเรียนเอกปรัชญาทุกอย่างที่พูดมันเข้าใจยากเกินกว่าที่จะตีความหมายให้เข้าใจง่ายๆ

     

    แต่กับเรื่องนี้เจโน่คิดว่ามาร์คคงปฏิเสธกัน เขาเด็กเกินไปสำหรับมาร์คลี

     

    ทั้งที่จูบแรกของเขาเพิ่งจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นไม่ถึงห้านาที

     

     

     

     

    เจโน่ไม่ได้แวะไปที่บ้านมิสซิสลีในทุกวันหยุดเหมือนอย่างเคย ไม่มีอารมณ์ออกไปเล่นบาสด้วยซ้ำ อยากแค่หมกตัวอยู่ในห้องฟังเพลงของแรปเปอร์ใต้ดินคนโปรดที่รู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าMLมันหมายถึงอะไรและหมายถึงใคร ไม่ก็ดูหนังโง่ๆที่เหรินจวิ้นบอกว่าตลก

     

    เหมือนความรู้สึกมันแตกสลายทั้งที่มันยังไม่เกิดขึ้น มันแตกสลายอยู่ในใจเงียบๆ

     

    เย็นวันนั้นมารดากลับมาพร้อมพายแอปเปิลของโปรด เจโน่หยิบมันขึ้นมากินบนห้องรกๆที่ไม่ได้เก็บมาสักพัก รสชาติหวานอมเปรี้ยวทำให้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ทดแทนที่เขาพยายามดื่มอเมริกาโน่ขมๆนั่นตลอดหลายวันที่ผ่านมาได้มาก

     

    รสชาติของเด็กก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเสียหน่อย มาร์คลีตัดสินไปเองว่าการเป็นเด็กมันไม่ดี

     

    “มาร์คมาคอยอยู่หน้าบ้านนะเจโน่”

     

    เสียงมารดาลอดผ่านประตูเข้ามา เจโน่หมุนเก้าอี้อย่างใช้ความคิด เขาเลือกที่จะไม่ตอบข้อความของอีกฝ่ายตั้งแต่วันนั้นรวมถึงพยายามหลบหน้าด้วย

     

    เด็กหนุ่มลากสลิปเปอร์สีขาวออกมาจากห้อง ได้ยินเสียงของมารดาคุยอะไรสักอย่างพร้อมทั้งเสียงหัวเราะของมาร์ค ตอนนี้เจโน่ไม่รู้จะทำตัวแบบไหน เขาไม่ชอบอเมริกาโน่ของมาร์ค ไม่ชอบรสจูบที่มีกลิ่นนิโคตินนั่นด้วย ไม่ชอบอะไรเยอะแยะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ปรับตัวเข้าหาซะหน่อย พอถูกเทดื้อๆทำเอาไม่รู้จะต้องทำตัวแบบไหน

     

    กลายเป็นต่างคนต่างนั่งนิ่งๆมาเกือบครึ่งชั่วโมงโดยมีเสียงของทีวีที่มารดาเปิดเอาไว้พอช่วยให้บรรยากาศมันไม่เงียบมาก เจโน่กัดปากปรายตามองคนอายุมากกว่าที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเจอหน้ากันต่างฝ่ายต่างพูดไม่หยุด แต่ดูตอนนี้สิ

     

    “ทำไมไม่ตอบข้อความฉันเลย” เป็นมาร์คที่คงทนความอึดอัดนี้ไม่ไหว

     

    “ผมไม่รู้จะตอบอะไร”

     

    “โกรธหรอ”

     

    “ไม่รู้”

     

    แล้วบทสนทนาก็เงียบลงไปอีกครั้ง เจโน่รู้สึกเหมือนตอนนี้ตัวเองกำลังดื่มอเมริกาโน่รสขมปร่า

     

    “แม่นายบอกว่านายเอาแต่ดื่มอเมริกาโน่ทุกวัน”

     

    เจโน่ยิ้มเจื่อนเหมือนเด็กตัวเล็กที่ถูกจับได้ว่าดื่มกาแฟทั้งที่ไม่ควร เขาควรจะบอกมาร์คออกไปว่ายังไงดี เขาเกลียดมันหรอ ก็ไม่ใช่ ตอนนี้เจโน่เริ่มจะชินกับรสชาติขมๆนั่นได้แล้ว

     

    “ก็แค่อยากลองเป็นผู้ใหญ่ดู”

     

     

    คำตอบของเจโน่ฟังดูน่าขัน มาร์คกลั้นยิ้มตอนที่มองหน้าที่เริ่มจะคล้ายเจ้าแมวข้างบ้านที่เควินเพื่อนบ้านของเขาเลี้ยงเอาไว้ มันทั้งน่ารัก น่าทะนุถนอม เขาไม่อยากอ้างเหตุผลความเป็นเด็กเพราะเจโน่ลีอายุสิบแปดแล้ว โตพอที่จะทำทุกอย่างได้อย่างที่เด็กหนุ่มชอบพูดว่าโตพอแล้วนั่นแหละ

     

    รสจูบที่มีกลิ่นของพายแอปเปิลยังอบอวลไปทั่วทั้งปาก มันไม่ใช่รสชาติของเด็กแต่มันเป็นรสชาติของเจโน่ลีโดยเฉพาะ เขาเคยจูบมาเยอะแต่อย่างที่บอกทุกคนให้ความรู้สึกต่างกันออกไป เจโน่เป็นรสชาติแปลกใหม่ เหมือนอาหารที่หน้าตาของมันก็เดิมๆแต่รสชาติพิเศษกว่าจานไหนๆ

     

    “คุณว่าพายแอปเปิลมันจะเข้ากับอเมริกาโน่แล้วก็บุหรี่ไหม”

     

    “ก็ลองดูสิว่ามันเข้ากันไหม”

     

    กลิ่นนิโคตินกับรสขมปร่าของอเมริกาโน่ไม่ได้แย่ หรือไม่ก็เพราะพายแอปเปิลที่เขาเพิ่งกินเมื่อเมื่อกี้ มาร์คบดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างอ้อยอิง ใช้มือประคองใบหน้าหล่อปนน่ารักของเด็กหนุ่มเอาไว้แผ่วเบา

     

    รสชาติของความรักหวานอมเปรี้ยว ขมปร่า และล่องลอย

     

    “คบกันนะ”

     

     

    คำตอบตกลงมาร์คจะคิดว่ามันคือจูบหวานๆของเจโน่ลี

     

     

     

     



    end ?








    คิดว่ามันคงจะมีอีกตอนค่ะ แต่ก็ดูเป็นฟิคที่ล่องลอยขะมัด

    #bbgmarkno

     

     

     

    T
    B

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×