ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (nct) os/sf bubblegum - jaeyu

    ลำดับตอนที่ #2 : Tomorrow, Today

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 62




    Tomorrow, Today

    Jaehyun / yuta

    R: PG

     

     

     

    เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังไปทั่วปะปนกับเสียงดังของปืนที่ถูกยิงออกจากรังปืนนับครั้งไม่ถ้วน กระทบทั้งเสาปูน หรือถังขยะที่ล้มระเนระนาดอยู่บนพื้นถนน ขาเรียวกระโดดเมื่อผู้ร้ายพยายามจะล้มถังขยะทุกถังในตรอกแคบๆนี้

     

    ปัง ปัง!

     

    นากาโมโตะ ยูตะ หลบลูกกระสุนที่ถูกยิงมาจากข้างหน้าอย่างสะเปะสะปะ เสียงวิทยุสื่อสารดังไม่ขาดสายจากเพื่อนร่วมงานร่างสูงใหญ่อย่างจอห์นนี่

     

    ( ยูตะเป็นยังไงบ้าง )

     

    ปัง!

     

    “โอ้ย! เวรเอ้ย”

     

    กระสุนถากถูกยิงถากแขนซ้ายไปอย่างหวุดหวิดมันเจ็บแต่ก็ยังไกลหัวใจสำหรับชายหนุ่ม เขายังคงวิ่งตามคนร้ายไปเรื่อยๆก่อนเสียงรถตำรวจจะใกล้เข้ามา ทั้งตำรวจและคนในหน่วยของเขาลงมาจากรถ ไม่นานนักใครบางคนก็ซัดคนร้ายจนนอนลงไปกองอยู่กับพื้น ก่อนจะเงยหน้ามองเขาด้วยสายตานิ่งๆ

     

    “เจย์”

     

    จอห์นนี่อาสาดูแลทางนี้ส่วนคนบาดเจ็บอย่างยูตะถูกลากขึ้นรถตั้งแต่ดวงตาดุดันนั่นเห็นหยดเลือดที่แขนข้างซ้าย

     

     

    ถูกพามาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและทำแผลไม่นานนัก ยูตะไม่ได้เจ็บมากเพราะนี่คงไม่ใช่แผลแรกในฐานะFBI เขาทำงานที่นี่มาสามปีและถูกฝากรอยแผลจากอาวุธก็หลายต่อหลายครั้ง หนักสุดคือถูกแทงที่ท้องแต่คงเป็นโชคดีที่มันไม่ถูกอวัยวะสำคัญถึงได้รอดมาจนถึงทุกวันนี้

     

    ส่วนคนข้างๆ เพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่าสองปี เข้ามาทำงานก่อนเขาปีนึงและอีกฝ่ายก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะอัจฉริยะที่สุดในหน่วย เจย์เป็นคนเกาหลีสัญชาติอเมริกัน เหมือนเขาที่เป็นคนญี่ปุ่นที่มีสัญชาติอเมริกันเหมือนกัน และที่สำคัญสุดๆเจย์เป็น “คนรัก” ที่คบกันได้สองปีแล้ว

     

     

    “เคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่าทำอะไรเสี่ยงอันตรายแบบนั้นนายไม่เคยฟังเลยยูตะ” เสียงทุ้มฟังดูเครียดขนาดที่พูดมันออกมา และประโยคนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยูตะได้ยินจากปากของเพื่อนร่วมงานควบตำแหน่งคนรัก

     

    “ก็มันจะหนีนี่หว่า นายจะให้ฉันทำไงมองดูมันวิ่งหนีไปหรอ” ยูตะยกมือขึ้นสางผมเปียกเหงื่อของตัวเองลวกๆก่อนจะกลอกตาไปมาเมื่อร่างสูงหันมาทำหน้าขึงขังใส่

     

    “อย่างน้อยก็ไม่ใช่กับพวกคนร้ายที่มีอาวุธแบบนั้น ถ้ามันโดนที่อื่นไม่ใช่แค่ที่แขนจะทำไง”

     

    รถยนต์คันใหญ่จอดติดไฟแดงเพราะฉะนั้นนากาโมโตะ ยูตะถึงได้จับใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายให้หันมา เคลื่อนตัวเข้าไปจูบปากอิ่มสีซมพูซีดของคนรัก

     

    “อย่าดุกันสิ คราวหลังจะระวังตัวให้มากกว่านี้”

     

    เจย์ถอนหายใจแต่ก็พยักหน้า

     

    “ไม่ต้องสัญญาถ้าทำไม่ได้”

     

    ยูตะเบะปากของตัวเองแต่ก็ตอบรับในลำคอ อย่างที่เจย์บอกเขาเป็นคนชอบสัญญาแล้วก็ทำไม่ได้ ครั้งที่โดนแทงจำได้ว่าสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ใจร้อนสุดท้ายก็ใจร้อนวิ่งเข้าหาคนร้ายเพื่อช่วยเด็กผู้หญิงวัยห้าขวบและโดนแทงเข้าที่ท้อง ตอนนั้นจอห์นนี่มาเล่าให้ฟังทีหลังว่าคนรักของเขาร้องไห้ขอให้หมอช่วย เจย์แทบไม่เคยร้องไห้แม้อีกฝ่ายจะสูญเสียพ่อไปจากอุบัติเหตุ

     

     

     

     

    ยูตะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนประเภทอ่อนหวานในเมื่อเขาทำงานด้านนี้ มันไม่ได้หยาบกระด้างแต่เขาทำอาหารไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ค่อยเป็น ถ้าเรื่องการใช้ชีวิตแบบคนปกติก็แทบจะเป็นภาระให้เจย์ด้วยซ้ำ

     

     

    “จริงๆไม่ต้องเข้ามาอาบน้ำให้ฉันก็ได้นะ” ดวงตากลมมองคนรักที่ค่อยๆบรรจงลูบไล้ฟองสบู่ไปทั่วตัวยกเว้นบริเวณแขนข้างที่เจ็บ

     

    “เจ็บแบบนี้จะอาบแขนเดียวได้ยังไง อย่ามาดื้อ” เจย์บนเสียงดุ

     

    “เปล่าดื้อ ไม่อยากเป็นภาระให้นายเพราะความสะเพร่าของฉัน”

     

    ใบหน้าหวานหงอยลงหลังจากพูดจบเรียกคนที่กำลังล้างฟองสบู่ออกต้องเชยค้างยูตะขึ้น กดจูบลงไปบนริมฝีปากนุ่มนิ่ม

     

    “ภาระที่ฉันยินดีทำตลอดชีวิต”

     

     

     

    หลังจากจัดการอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่ก็แต่งตัวก่อนจะมานอนดูหนังอยู่บนเตียง เจย์บังคับให้คนเจ็บกินยาแก้อักเสบตามที่หมอสั่งรวมถึงยาแก้ปวด แม้ยูตะจะปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ต้องยอมเมื่อใบหน้าหล่อนั่นเรียบตึงเหมือนไม่ชอบใจ

     

    หนังสักเรื่องที่ถูกฉายไม่ได้เรียกความสนใจของทั้งคู่ เมื่อนากาโมโตะ ยูตะทำตัวเป็นแมวปีนขึ้นมานอนบนตัวของเจย์

     

    “แจฮยอน” เสียงใสเอ่ยเรียกชื่อจริงของร่างสูงที่กำลังยิ้มมุมปาก

     

    “ไม่มีหนมให้หรอกนะ”

     

    “ไม่ได้จะเอาขนมซะหน่อย ยูตะไม่ใช่เด็กแล้วนะ”

     

     

    โอเคนากาโมโตะ ยูตะอายุยี่สิบหกไม่ใช่เด็กแต่เวลาอ้อน จองแจฮยอนขอปฏิเสธว่าอีกฝ่ายไม่ต่างจากเด็กสิบเจ็ดสิบแปด โดยเฉพาะตอนนี้ตอนที่มุดเข้ามาในเสื้อนอนคอย้วยสีขาวเหมือนแมวที่จอห์นนี่เอามาเล่นที่หน่วยบ่อยๆไม่มีผิด แถมยังแทนตัวเองด้วยชื่ออีกต่างหาก

     

    “เล่นกันนะ”

     

     

    ยูตะโผล่ออกมาทางคอเสื้อจูบที่ปลายคางก่อนจะถดตัวกลับไป มือเรียวตะปบเข้าที่กลางลำตัวเหมือนจงใจจะชวนเล่นจริงๆ แจฮยอนแตะไหล่เมื่อคนรักจับที่ขอบกางเกงขายาวที่ไร้ชั้นใน

     

    “เจ็บอยู่ไม่ใช่หรอแล้วจะเล่นได้ยังไง”

     

    ยูตะหน้างอ

     

    “เจ็บแค่นี้ไกลหัวใจ”

     

    พูดแบบนั้นแล้วกดยกชายเสื้อกล้ามสีขาวตัวเก่งขึ้นมากัดไว้ โชว์หน้าท้องขาวที่มีกล้ามหน้าท้องถึงจะไม่มากแต่ก็ดูดีตามประสาคนดูแลสุขภาพ และที่ทำให้แจฮยอนอดจะจ้องไม่ได้ก็จุดสองจุดบนอกขาวเนียน สีของมันค่อนข้างชมพูเพราะยูตะขาวมาก

     

    “อย่ามาร้องให้หยุดนะยูตะ ถึงเจ็บแผลก็ไม่หยุดให้หรอกนะ”

     

     

     

     

     

     

    แจฮยอนกดจูบลงบนแก้มนิ่มที่มีริ้วรอยจางๆของแผลเป็นของคนนอนหลับ เกลี่ยผมหน้าม้าที่อีกฝ่ายมักจะเสยขึ้นออกเบาๆ ถึงยูตะสำหรับคนอื่นในหน่วยจะแข็งแรงแค่ไหนแต่สำหรับแจฮยอนก็แมวน้อยดีๆนี่แหละ นอกจากใจร้อนไม่ชอบฟังเจ้าของยังขี้อ้อนอีกต่างหาก

     

     

    ( เจย์มีงานด่วนให้ช่วยหน่อย รีบมาที่หน่วยด่วนเลย )

     

    แจฮยอนอ่านข้อความบนมือถือที่จอห์นนี่ส่งมาตอนตีสี่

     

    ( ยูตะคงออกไปไม่ไหว ฉันไปคนเดียว)

     

    ( อ้อนกันอีกแล้วสิพวกนาย ให้ตายสิฉันอิจฉานะ )

     

     

    แจฮยอนหลุดหัวเราะ เขากับจอห์นนี่คุยกันเรื่องยูตะค่อนข้างบ่อยเพราะอีกฝ่ายใจร้อนมากทำให้จอห์นนี่เป็นหูเป็นตาเวลาออกไปทำงานด้วยกันแล้วเขาไม่ได้ไปด้วย การทำงานในนี้มันเสี่ยงทุกอย่าง ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเข้ามาแล้วจะมีคนรักหรืออะไรแบบนี้ แจฮยอนจำได้ครั้งแรกที่เจอกันยูตะสุภาพจนดูตลก

     

    แต่พอรู้ว่าเขาเด็กกว่าสองปีก็แทบจะกลายเป็นอีกคน ถึงแรกๆจะพูดมากจนน่ารำคาญแต่ใครจะไปรู้ว่าหลังจากยูตะถูกสั่งพักงานเนื่องจากทำเกินหน้าที่ จากนั้นหน่วยก็เงียบเป็นสุสาน ไม่มีใครคอยแกล้งคนนู้นคนนี้เหมือนทุกที

     

    ยูตะเมาเกือบทุกวันหลังจากถูกสั่งพักงานแต่ที่ตลกคือดันโทรเรียกให้เขาไปรับ อ้วกใส่ แล้วก็ร้องไห้ระบายทุกอย่างออกมา หมดคราบยูตะคนเก่งที่ทุกคนพูดกัน

     

     

    แจฮยอนรู้ว่ายูตะไม่ใช่ความประทับใจแรกที่ดี เพราะก่อนหน้านั้นเขากับจอห์นนี่ก็ผลัดกันจีบอลิสสาวอกสะบึ้มที่ชอบเดินโฉบไปโฉบมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ฟัดกับยูตะอยู่บนเตียงในอพาร์ทเมนต์เล็กๆของเขาเมื่อสองปีก่อน จากนั้นก็มักจะจบลงที่เตียงบ่อยขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นคนรัก

     

    “กาแฟหน่อยไหม เดี๋ยวนายช่วยฉันเคลียร์อันนี้เสร็จก็กลับได้เลย โทษทีว่ะที่ต้องเรียกนายเพราะนายฉลาด” จอห์นนี่ยื่นแก้วกาแฟให้ก่อนจะเอ่ยแซ็วแล้วนั่งลงข้างๆ

     

    “ถ้านายส่งข้อความมาก่อนหน้านี้นายคงต้องทำคนเดียวนะจอห์นนี่” แจฮยอนพูดแต่ริมฝีปากกลับยกยิ้ม

     

    “ร้ายว่ะ ถ้าไม่บอกว่ายูตะโดนนายขย้ำฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะเว้ย หมอนั่นโคตรจะแมน”

     

    แจฮยอนหัวเราะน้อยๆแล้วเลิกคิ้วขึ้น

     

    “แมนยังไงสุดท้ายก็ลูกแมว คิตตี้บอย”

     

    “ฉันจะฟ้องยูตะ นายอดแน่” จอห์นนี่ยักคิ้วอย่างกวนประสาทเหมือนว่าเขาเป็นต่อในสถานการณ์แบบนี้อยู่

     

    แจฮยอนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับไปทำงานต่อ มันเป็นแฟ้มคดีที่ยังไม่ถูกปิดเพราะยังจับคนร้ายไม่ได้ เมื่อตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้จนกลายเป็นคดีต่อเนื่องและรุนแรงมันก็จะถูกส่งต่อมาให้ FBI จัดการอีกที ส่วนกองเอกสารข้างหน้าเป็นแฟ้มคดีของคนร้ายชาวเกาหลีใต้ เนื่องจากมันเป็นเอกสารที่เก็บมาจากห้องของคนร้ายและทั้งหมดนั่นเป็นภาษาเกาหลี แจฮยอนพอจะสันทัดเรื่องภาษาเกาหลีที่สุดเลยถูกจอห์นนี่เรียกตัวออกมา

     

     

    “ยูตะเคยขอทำนายบ้างไหม” จอห์นนี่ที่นั่งอ่านแผ่นกระดาษที่ถูกแปลไว้เรียบร้อยแล้วหันมาถามรุ่นน้องคนสนิท

     

    แจฮยอนเลิกคิ้วขึ้น

     

    “ก็เคยอยู่นะ”

     

    จอห์นนี่ตบเข่าดังฉาด เขาหัวเราะเมื่อคิดภาพของแจฮยอนที่โดนยูตะกระทำเพราะหลายครั้งยูตะก็ชอบที่จะทำตัวแมนมากๆต่อหน้าทุกคนในที่ทำงาน จนแจฮยอนกลายเป็นลูกหมาตัวน้อยๆ

     

    “แล้วนายยอมไหม” จอห์นนี่ยังเซ้าซี้

     

    “แล้วนายยอมให้เด็กมหาลัยผมชมพูคนนั้นทำนายไหมล่ะจอห์นนี่”

     

     

    เจ้าของชื่อยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้แล้วยกกาแฟที่เย็นชืดหมดแล้วขึ้นมาจิบแก้เก้อ แจฮยอนตาดีชะมัดเพราะทุกครั้งที่นัดเจอแทยงก็มักจะสวมหมวกตลอดถ้าไม่สังเกตก็จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแฟนเด็กของเขาย้อมผมสีชมพูบนหัว

     

    “ร้ายกาจว่ะ สงสารยูตะแล้วที่มาชอบคนอย่างนาย” จอห์นนี่พูดก่อนจะชกที่ไหล่ของแจฮยอนเบาๆเป็นเชิงหยอกล้อ

     

    “นายก็เลี้ยงแมวเหมือนฉัน แล้วไม่รู้หรอว่าเวลาไหนควรยอมเวลาไหนไม่ควร”

     

    แมวที่แจฮยอนพูดถึงไม่ใช่เจ้าเจโน่แมวขนปุยตัวขาวที่เขาเอามาเล่นที่นี่แน่ๆจอห์นนี่มั่นใจ รอยยิ้มถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากของอีกฝ่าย

     

    “เสร็จแล้ว จะไปสูบสักหน่อยไปด้วยกันไหม”

     

    จอห์นนี่ส่ายหน้าเพราะเขาอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เช้าเมื่อวาน และแมวที่บ้านก็ส่งข้อความมาตามตั้งแต่เมื่อดึกจนเงียบหายไป จอห์นนี่อยากกลับแล้วไม่อย่างงั้นใครบางคนที่เป็นหัวข้อสนทนาวันนี้คงได้งอนแล้วหายหน้าไปเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่าน

     

    “ขอบายว่ะฉันรีบ” ตอบพลางเก็บของใส่ลิ้นชัก “นายก็รีบกลับนะเจย์ถ้ายูตะตื่นมาไม่เจอเดี๋ยวก็แจ้นมาที่นี่แต่เช้าอีก”

     

    แจฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะล่ำลาคนที่อยู่ที่นี่มาทั้งคืน ชายหนุ่มลุกขึ้นบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบก่อนจะเลื่อนเก้าอี้เก็บให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมาสูบบุหรี่ข้างนอก ตอนนี้เกือบหกโมงเช้าและเขายังไม่ได้นอนแต่ไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่เพราะกาแฟยังคงทำงานอยู่ ควันสีขาวลอยไปตามอากาศ

     

    ( อยู่ไหนตื่นมาแล้วไม่เจอ )

     

    แจฮยอนอ่านข้อความแล้วขยี้มวลบุหรี่ที่ยังเหลือเก็บครึ่งทิ้ง ก่อนจะตอบกลับไปอย่างรวดเร็วไม่รอให้อีกฝ่ายคอยนาน

     

    ( ออกมาซื้ออาหารเช้า เดี๋ยวกลับเข้าไป )

     

    ( หิวหรอ เมื่อคืนยังไม่อิ่มหรือไง )

     

    แจฮยอนหัวเราะเบาๆ

     

    ( จะได้มีแรงทำอีกทั้งวันไง )

     

    แจฮยอนขึ้นรถรอให้อีกฝ่ายตอบข้อความกลับมาก่อนมันจะเรียกรอยยิ้มทั้งเช้าของ FBI หนุ่มได้อย่างทุกที

     

    ( เร็วๆนะรออยู่ )

     

    ยั่วซะกันซะเหลือเกินนะนากาโมโตะ ยูตะ

     






    Fin



    #bbgjaeyu

     

     

     

     

     

     

    T
    B

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×