คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : FWB #01
FWB
#01
กฎข้อที่ 1
ห้ามรู้สึก
Friends with
Benefits?
ไม่มีสถานะ
ไม่มีความรู้สึกใดๆต่อกัน มันก็แค่ “เซ็กซ์”
ร่างขาวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกในยามที่จองแจฮยอน
พยายามเสือกไสร่างกายเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม ยิ่งคนใต้ร่างกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้แน่นเท่าไหร่ชายหนุ่มก็ยิ่งเพิ่มความเร็วขึ้นเท่านั้น
นิ้วเรียวยาวทั้งจิกทั้งข่วนแผ่นหลังของเขาจนเป็นรอย
เสียงครางหวานที่ได้ยินมาไม่รู้กี่ครั้งแต่ฟังไม่เคยเบื่อ
โดยเฉพาะยิ่งออกมาจากปาก
นากาโมโตะ ยูตะ
“อ๊ะ!
เชี่ยเจย์เบาหน่อย มะ ไม่ใช่แบบนั้น อื้อ…”
ไม่ได้สนใจฟังคำร้องขอของเพื่อนที่(เกือบ)สนิท
ยิ่งอีกฝ่ายเปิดปากด่าเขาด้วยถ้อยคำหยาบคายแจฮยอนก็ยิ่งอยากจะแกล้ง
“เจย์มึงอย่าแตกนะ…” ยังไม่ทันพูดจบก็รับรู้ได้ถึงความเหนียวเหนอะที่ด้านล่าง“ไอ้หมาเจย์!”
ยูตะอยากจะทึ้งหัวไอ้คนที่นอนกระดิกเท้าดูทีวีอยู่บนเตียงสบายใจเฉิบ
สีหน้ามีความสุขยิ่งทำให้หมั่นไส้ ไม่รู้ไปตายอด ตายอยากมาจากไหน
ครั้งนี้ทำเอาสะโพกครากจนเกือบจะลุกไม่ขึ้น
นอนเป็นผักอยู่ค่อนวันกว่าจะลุกขึ้นมาอาบน้ำ
แต่งตัวกลับคอนโดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปเรียน
ยังดีที่วันนี้มีเรียนบ่ายไม่งั้นเขาแย่แน่
เสียงหัวเราะดังๆทำให้ยูตะอดไม่ได้ที่จะโยนผ้าขนหนูผืนเล็กที่ยังชื้นๆไปที่แจฮยอน
อีกฝ่ายหลบแล้วหันกลับมาเลิกคิ้ว
“โกรธอะไรพี่หรอครับน้องยูจัง”
เสียงทุ้มเอ่ยถามแต่สีหน้าตอนนี้กวนประสาทเสียจนอยากจะบีบคอคนที่พลิกตัวกลับมามองแรงๆ
“ยูจังพ่องมึงสิไอ้เจย์
ยูตะโว้ย” โวยวายเสียงดังไปก็เท่านั้นในเมื่อแจฮยอนไม่เคยกลัวเลยสักครั้ง
“ก็เรียกพี่แจฮยอนก่อนสิครับ
เดี๋ยวจะเรียกยูตะคุงเลย” พูดไปพลางหัวเราะไปจนยูตะต้องเดินเข้าไปยกเท้าถีบแจฮยอนแรงๆ
“กวนตีน”
มันก็เป็นแบบนี้ตลอดถ้าได้มานอนด้วยกันเมื่อไหร่ทะเลาะกันตั้งแต่เจอหน้ายันตอนมีอะไรกัน
แจฮยอนชอบบังคับให้ยูตะเรียกตัวเองว่าพี่ถึงจะแก่กว่าแค่ปีเดียว
ส่วนยูตะไม่มีความเคารพใดๆทั้งสิ้นในบุคคลนามว่าจองแจฮยอน อย่าว่าแต่เรียกพี่บางทีให้เรียกแค่แจฮยอนเฉยๆยังรู้สึกกระดากปาก
“วันนี้ไปไหมมาร์คมันมีเรื่องไม่รู้จะโดนย้ายโรงเรียนหรือเปล่า”
แจฮยอนเปลี่ยนเรื่องเขาไม่อยากจะแกล้งเพื่อนตัวขาวนี่มาก
กลัวอีกฝ่ายจะอกแตกตายซะก่อน
“ถ้าเลิกเร็วก็คงไปแต่ก็ไม่รู้ว่าอาจารย์จะปล่อยตอนไหน
ถ้ามีควิชก็จบเห่เลยเถอะ” ยูตะตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ “ยังไงก็ฝากดูมันด้วยแล้วกัน
บอกว่าฉันเป็นห่วงอย่าลืม”
“เออๆ
จะบอกมันให้ว่ายูจังเป็นห่วง ฮ่าๆ”
ยูตะชูนิ้วกลางใส่ก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้สีดำใบโปรด
หยิบกุญแจรถที่วางอยู่ใกล้ๆกัน ล่ำลาเพื่อนที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง
“คิดถึงพี่เมื่อไหร่ก็โทรมาหาพี่นะน้องยูจัง”
เสียงทุ้มตะโกนตามหลังมาจนอดไม่ได้ที่จะโผล่หน้าเข้าไปในห้องนอน
“ฟัค!”
สุดท้ายก็ได้แต่หัวเราะใบหน้ายู่ๆของคนที่เพิ่งจะด่าเขาไปหมาดๆก่อนจะหุนหันออกไป
แจฮยอนส่ายหัวกับความดื้อของเพื่อนตัวขาว
โดยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าทั้งคืนที่เอาแต่รักอีกฝ่ายทั้งคืนเขายิ้มไปแล้วกี่ครั้ง
ความสัมพันธ์ของเขากับยูตะเริ่มขึ้นในฐานะเพื่อนที่ให้ความสุขทางกายกันได้แต่ไม่ผูกพันทางใจต่อกันและกัน
ผ่านมาแล้วเกือบห้าเดือนหลังจากวันที่เขาโสดแต่ยูตะอกหัก
จู่ๆคนที่แจฮยอนคิดว่ายังไม่สนิทพอก็โผล่มาหน้าห้องร้องไห้จะเป็นจะตาย
ตอนนั้นไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมคนที่แทบจะไม่พูดกับเขาและเขาก็แทบจะไม่พูดด้วย
ถึงได้เลือกเขาเป็นที่พึ่งทางใจ
ยูตะร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กน้อย
จำได้ว่าเสื้อนอนคอย้วยของเขาเปียกแชะเป็นวงกว้างเพราะน้ำตามหาศาลเหมือนก๊อกแตก
รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากแตะกัน ร่างกายเสียดสีกันบนเตียง
ยูตะครางชื่อเขาไม่หยุด บางทีก็ครางชื่อใครสักคนที่แจฮยอนไม่รู้ออกมา
แต่ก็ไม่ได้ไม่พอใจ…
ในเมื่อไม่ได้รู้สึกอะไร
แล้วในเช้าวันต่อมานากาโมโตะ
ยูตะ ก็กลายมาเป็นเพื่อนที่เกือบจะสนิทที่สุด
พูดคุยกันราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยนิ่งเงียบใส่กันมาก่อน
วันนั้นยังไม่ได้คิดว่าจะมีครั้งที่สองแต่หลังจากนั้นพอมีครั้งที่สองเกิดขึ้น ครั้งที่สามก็ตามมา
ครั้งที่สี่ ห้า หก จนกลายเป็นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในเวลาหนึ่งเดือน
ถึงจะจูบกันเป็นร้อยๆครั้ง
สัมผัสกันเกือบจะแทบทุกส่วนของร่างกาย
ทั้งแจฮยอนทั้งยูตะก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่าเพื่อน
ถ้าจะพิเศษขึ้นมาหน่อยก็คงเป็นเพื่อนที่มีเซ็กซ์กันได้อย่างสนิทใจ
สุดท้ายถึงได้จัดการความสัมพันธ์แบบนี้กลายเป็น Friends with
Benefits ไปในที่สุด
แจฮยอนคิดว่าเขามีความสุขกับการที่ตัวเองโสด
มีบ้างที่อาจจะเปลี่ยนคู่นอนตามประสาคนโสด อีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้ว
ขี้เหล่อะไร แต่ยูตะก็ไม่ใช่คนหน้าตาธรรมดาๆเหมือนกัน
กลายเป็นว่าต่างคนต่างมีช่วงเวลาที่อยากจะนอนกับคนอื่นบ้าง
แต่ถึงแบบนั้นสุดท้ายก็กลับมาตายรังที่กันและกันอยู่ดี
เสียงโทรศัพท์มือถือเรียกให้แจฮยอนตื่นจากความคิด
เขาเอื้อมมือไปหยิบก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็นชื่อของคนที่เพิ่งออกไปไม่นานโชว์หราอยู่
“มีอะไรยูจัง
แป๊บเดียวคิดถึงกันแล้วหรอ” กรอกเสียงลงไปมิวายแกล้งให้อีกฝ่ายหัวเสีย
“ยูจังบ้านมึงสิ
รถกูถูกชนช่วยมาดูให้หน่อยได้ไหม”
อีกฝ่ายด่าก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบาหวิวในประโยคท้าย
“ตรงไหน
แชร์โลเคชั่นมา”
พูดจบก็วางสายก่อนจะตรงดิ่งไปล้างหน้าเปลี่ยนชุดไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ
รถหรูขับไปตามถนนถึงเพื่อนสนิทตัวขาวจะบอกว่าไม่ต้องรีบเพราะประกันมาแล้วแต่แจฮยอนร้อนใจยิ่งกว่าอะไร
ไม่นานนักก็เจอคนที่เพิ่งจากกันไม่ถึงชั่วโมงยืนอยู่ข้างๆรถ
แจฮยอนตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางก่อนจะก้าวออกจากรถเดินดุ่มๆไปหาเพื่อนตัวขาวที่ยืนทำตาละห้อย
“มึงมาแล้วเพื่อนเจย์
รถกูมึงดูลูกรักกูสิโดนเสยตูดพังเลย”
อีกฝ่ายแทบจะกระโดดเข้ามากอดแขนแจฮยอนเอาไว้เหมือนลูกโคอาล่า
แถมยังทำสีหน้าง้องแง้งเหมือนเด็กโดนเพื่อนทำของเล่นพัง
“กูเห็นแล้ว
มึงไม่เป็นไรใช่ไหมยูจัง มึงเป็นไรไปพี่จอห์นนี่ได้ฆ่ากูแน่”
พูดแล้วก็จับอีกฝ่ายหมุนไปหมุนมาเพื่อดูว่ายูตะไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน
“กูไม่เป็นอะไร
แต่เจย์…” จู่ๆน้ำเสียงที่กระวนกระวายเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง
ใบหน้าหวานสลดลงตอนที่มองไปที่รถ
แต่ไม่ใช่รถของตัวเอง
เป็นรถของคู่กรณีที่แจฮยอนรู้สึกว่าเขาคุ้นหน้าคุ้นตาอีกฝ่ายดี
“พี่ฮันซลอยู่ตรงนั้นเจย์…”
แจฮยอนถอนหายใจแล้วยกมือเสยผมสีเฮเซลของตัวเองขึ้นลวกๆ
เขาจะเป็นบ้าตายเพราะจู่ๆก็มีคนไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามา
แถมยังเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของนากาโมโตะ ยูตะมากที่สุด
จู่ๆก็รู้สึกแปลกๆกับหัวใจตัวเอง บอกไม่ถูกว่าจะรู้สึกหึง หวง หรือว่าห่วง
พอนึกถึงวันที่อีกฝ่ายร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆมายืนอยู่หน้าห้องเขาตอนดึกวันนั้น
ความเป็นห่วงมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวทั้งที่ตลอดห้าเดือนไม่เคยจะรู้สึกแบบนี้ไม่ว่ายูตะจะไปกับใคร
แต่พอเป็นจีฮันซลคนนั้น
หัวใจเจ้ากรรมกลับคันยุบยิบจนไม่รู้ว่าจะแสดงออกไปแบบไหน
บุหรี่มวนแล้วมวนเล่าถูกเผามอดจนเหลือแค่เศษผง
เจือจางเป็นเพียงแค่ควันขาวๆล่องลอยไปในอากาศ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนที่แจฮยอนกำลังเหม่อมองออกไปนอกระเบียง
ตึกสูงเรียงราย มีไฟระยิบระยับสมกับเป็นโซล เขาหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงกดรับ
“ไม่ต้องเป็นห่วงกูนะเจย์
ตอนนี้กูกำลังคุยกับพี่เขาอยู่ถ้ายังไงจะส่งข้อความไปบอกนะ”
ถ้ากฎข้อที่หนึ่งคือห้ามรู้สึก…
จองแจฮยอนคงกำลังจะฝ่าฝืนมัน
ไม่ชอบแบบนี้เลยจริงๆ
tbc.
edit ตัวอักษรใหญ่เฉยเลยยยย!
tag on twitter #fwbjaeyu
ความคิดเห็น