ตอนที่ 8 : A Thousand Years (50per)
A Thousand Years
เราจะหารักนิรันดร์ในมนุษย์ได้อย่างไร ในเมื่อมันไม่มีอยู่จริง
ยังไงวันหนึ่งก็ต้องตายจากกันอยู่ดี
ไล ควานลิน เด็กหนุ่มหน้าหวานผิวขาวซีดลูกครึ่งเกาหลี-ไต้หวัน อายุสิบหกปี นักเรียนแลกเปลี่ยนคนใหม่ของไฮสคูลในเมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงเรียงนามว่า ฟอร์ค เมืองเล็ก ๆ ในวอชิงตันที่หลายคนอาจจะรู้จักมาจากภาพยนตร์ชื่อดัง แวมไพร์ ทไวไลท์
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมควานลินถึงเลือกที่จะมาที่นี่
เพราะเขาหลงใหลสถานที่แห่งนี้จากหนังสือที่ได้อ่านและภาพยนตร์ที่ได้ดู
หวังว่าจะมีรักนิรันดร์แบบนั้นบ้าง ฟังดูบ้า แต่ก็ใช่
ไล ควานลินคงบ้าไปแล้ว
เด็กหัวดีอย่างควานลินที่คะแนนสอบนำใครหลายต่อหลายคนสามารถเลือกไปอยู่เมืองที่ดีกว่านี้ก็ได้ แต่ร่างบางกลับเลือก ฟอร์ค เมืองที่มีเมฆฝนปกคลุมตลอดทั้งปี ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความหลงใหลส่วนตัว และอีกส่วนหนึ่งมาจากความอยากรู้อยากเห็น
แวมไพร์มีจริงมั้ยนะ
อาจจะดูฟังเหมือนคนเพ้อเจ้อ แต่ในเมื่อฟอร์คเป็นเมืองที่อุดุมไปด้วยป่าไม้ อดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเองนิดนึงว่า สิ่งที่ตามหาคงจะมีจริง
“ เฮ้ แอล นั่งเหม่อนานแล้วนะ ” แซคเพื่อนสนิทในกลุ่มคนหนึ่งของควานลินสะกิดร่างบางที่เอาแต่นั่งเหม่อไม่ยอมพูดจากับเพื่อนตั้งแต่มาถึงห้อง
“ ใช่ แอล เป็นอะไรหรือเปล่า ” เจสเพื่อผู้หญิงอีกคนทักขึ้นเมื่อเห็นท่าที่แปลก ๆ ของควานลิน
“ ไม่ ไม่ได้เป็นอะไร คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเฉย ๆ ”
“ คิดถึงรักนิรันดร์อยู่หรือไงแอล หรือว่าแวมไพร์ ” และแล้วเพื่อนๆต่างก็พากันหัวเราะชอบใจเมื่อได้เห็นใบหน้ายุ่ง ๆ ของเพื่อนรัก แอล คือชื่อที่เพื่อน ๆ เรียกควานลิน ทุกคนต่างลงความเห็นว่าคำว่าควานลินมันออกเสียงยากเกินไป เรียกแอลสั้น ๆ น่าจะพอแล้ว
“ หุบปากน่าแซค ” เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งตวัดสายตาไปทางเพื่อนอย่างรำคาญ ความหลงใหลของควานลินที่มีต่อเมืองฟอร์คนี้เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างรับรู้ว่าเพราะอะไร บ่อยครั้งที่ร่างบางมักจะนำเรื่องเหล่านี้มาเล่าให้เพื่อนฟัง แต่มักจะได้คำล้อเลียนกลับไปด้วยเสมอ
“ งานเต้นรำอาทิตย์หน้านายจะชวนใครไปเหรอแอล ” จัสตินพูดขึ้นอย่างมีเลศนัย ยังไม่นับสายตาล้อเลียนจากเพื่อนในกลุ่มที่ส่งมานั่นอีก ให้ตายเถอะ จะล้อกันไปถึงไหน
“ ไม่ใช่ว่าเป็นพ่อหนุ่มเกาหลีคนนั้นนะ ”
“ คนที่เงียบ ๆ หน้าดุ ๆ เกรดสิบสอง น่ะเหรอ สเปคแอลเลยนี่นา ”
“ ลองชวนเขาสิแอล นั่นไง เดินมาโน่นแล้ว ” คำบอกของเพื่อนทำเอาร่างบางตกใจ บ้าจี้หันไปตามมือของเพื่อนที่ชี้ไปทางด้านหลังแต่กลับไม่พบคนที่พูดถึงแต่อย่างใด ใบหน้าหวานแดงกล่ำหันไปค้นใส่เพื่อนขี้แกล้งทันที
“ ไม่คุยกับพวกนายแล้ว ! ” ควานลินคว้าอาหารกลางวันพร้อมกระเป๋าเดินออกไปจากโต๊ะอาหารเพื่อหนีให้ใกล้จากเพื่อนขี้แกล้งเหล่านั้น อยู่ด้วยทีไรเป็นอันต้องถูกแซวทุกครั้ง ถูกแซวจนนับครั้งไม่ได้แล้ว ก้อนเนื้อภายในอกเต้นตึกตักอย่างไม่มีสาเหตุ มือบางจับที่อกซ้ายหวังว่าให้ก้อนเนื้อนั้นเต้นช้าลงแต่ก็ไม่เป็นผล
เห้อ พูดถึงทีไรเป็นแบบนี้ทุกทีสินะ
ร่างบางหลบมาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังโรงเรียนซึ่งปราศจากคน เพราะตอนนี้ไม่ต้องการให้ใครมากวนใจเขาทั้งนั้น ทิ้งตัวลงบนพื้นหญ้าพร้อมกับเอนหลังพิงต้นไม้ กระเป๋าสะพายใบเก่งถูกวางไว้ข้างตัว ส่วนเบอร์เกอร์ซึ่งเป็นอาหารกลางวันถูกนำมาวางไว้บนกระเป๋า ควานลินปิดเปลือกตาลงเพื่อผ่อนคลาย สายลมเอื่อย ๆ ปะทะเข้ากับใบหน้าหวาน เขารักฟอร์คตรงนี้แหละ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อรับอากาศสดชื่นเข้าปอด จากที่ได้กลิ่นอีกไม่นานนี้ฝนคงตกเป็นแน่ มีเวลาสักพักก่อนที่จะเข้าคาบเรียน ร่างบางเลยอยากจะใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อผ่อนคลายจิตใจที่แสนจะว้าวุ่นของตนเองเสียหน่อย แต่ร่างบางไม่รู้ตัวเลยว่าขณะนี้ร่างสูงใหญ่คนใครคนหนึ่งยืนมองตัวเองจากทางข้างหน้าด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
คัง ดงโฮ รุ่นพี่หน้าดุคนนั้นของควานลิน
ผู้มาถึงใหม่มองเด็กหนุ่มหน้าหวานผู้ที่แย่งที่นั่งที่ประจำของตัวเองไปอยู่นานแสนนาน ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงตรงข้ามกับต้นไม้ต้นที่เคยนั่งประจำอย่างเงียบเชียบ ทำได้ยังไงน่ะเหรอ ความลับ J แผ่นหลังแข็งแกร่งเอนหลังพิงต้นไม้คนละต้นกับที่เด็กหนุ่มพิงอยู่ ตั้งใจจะเอ่ยบอกอะไรสักอย่างแต่จู่ ๆ เด็กนั่นก็ลืมตาขึ้นมาซะก่อน
ตาโตลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำเอาดงโฮขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แก้มใสของควานลินขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องหน้าตัวเอง
“ นายแย่งที่นั่งฉัน ”
“ ฮะ .. อ อะไรนะครับ ”
“ ที่ตรงนั้น ที่นั่งประจำฉัน ” ไม่พูดเปล่าแต่กลับเอามือชี้ไปที่ต้นไม้ต้นใหญ่ที่ควานลินนั่งพิงอยู่ ร่างบางทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าควรจะลุกหนีไปเสียดื้อ ๆ หรือควรจะอยู่ต่อดี
“ เอ่อ คือ ”
“ อยู่ต่อเถอะ ไม่ได้ว่าอะไร ”
“ ครับ ”
บทสนทนาจบลงเท่านั้น ตาคู่สวยมองนาฬิกาที่ข้อมืออีกยี่สิบนาทีคลาสเรียนแคลคูลัสกำลังจะเริ่มแล้ว มือเรียวจึงรีบคว้ามื้อกลางวันขึ้นมากินอย่างเร่งรีบ อีกใจหนึ่งก็อยากจะออกไปจากตรงนี้เร็ว ๆ ด้วย แม้จะปลื้มคนตรงหน้ามากแค่ไหน แต่สายตาแบบนั้น ใบหน้าแบบนั้น ทำเอาควานลินเขินม้วนอย่างบอกไม่ถูก แก้มใส ๆตอนนี้ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีแดงระเรื่อจนทำให้ร่างหนาตรงหน้าอดยิ้มออกมาไม่ได้
ยิ้ม .. ตั้งแต่มีชีวิตแบบนี้เขาไม่ได้ยิ้มมากี่ปีแล้วนะ
มันนานมากเสียจนจำไม่ได้แล้ว
แต่เด็กหนุ่มตรงหน้านี้กลับทำให้เขายิ้มได้ ทำไมกัน
เมื่อจัดการกับมื้อกลางวันเสร็จ ควานลินรีบควานของทุกอย่างที่เป็นของตัวเองตั้งใจจะลุกผลุนผลันออกไปจากตรงนั้นโดยที่ไม่ร่ำลาร่างหนาตรงหน้านี้สักนิด แต่ควานลินไม่มีทางเร็วไปกว่าดงโฮหรอก เปลือกตาที่เคยปิดอยู่ลืมขึ้นเพื่อจดจ้องเด็กหนุ่มหน้าหวานที่กำลังจะเดินจากเขาไปนิ่ง ๆ เสียงทุ้มรั้งร่างบางตรงหน้าไว้ทำให้คนเด็กกว่ายังเดินออกไปไม่ได้
“ พรุ่งนี้เที่ยง มาเจอกันหน่อย ”
“ ครับ อ อะไรนะ ”
“ พรุ่งนี้เที่ยง ตรงนี้นะ ” ร่างหนาพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ร่างบางยืนงงด้วยความไม่เข้าใจ อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นความฝันที่จู่ ๆ ก็ได้เจอคนที่ปลื้ม มิหนำซ้ำยังได้พูดคุยกันอีก และที่มากไปกว่านั้น พรุ่งนี้ต้องมาเจอกัน .. ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ สงสัยเลิกคลาสแคลคูลัสควานลินต้องไปถามอาจารย์สอนชีวะแล้วว่าร่างกายเขาผิดปกติอะไรหรือเปล่า
สิบนาทีแรกของคลาสเรียนแคลคูลัส ..
ควานลินเรียนไม่รู้เรื่องเลย ในหัวคิดถึงแต่เรื่องคนนั้นเต็มไปหมด ใบหน้าคมรับกับสันจมูกโด่งได้รูป ดวงตาสีเฮเซลที่ใช้จดจ้องเขามันเหมือนกับจะหลอมละลายควานลินให้ตายอยู่ตรงนั้น ไหนจะผิวขาว ๆ นั่นอีก แต่เอาเข้าจริงแล้ว คัง ดงโฮ ไม่ได้ขาวไปกว่าเขาเลยด้วยซ้ำไป แต่ทำไมไม่รู้เมื่อจ้องมองดูดี ๆ แล้วผิวนั่นกลับซีดราวกับกระดาษ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาที่คิดไปเอง
“ คุณคัง สายไปสิบนาที ”
“ ขอโทษครับมิสซิสแพท ”
“ เหลือที่นั่งเดียว ข้างคุณไล ตรงนั้นเลย ” ร่างหนาของคนเข้าเรียนสายไปสิบนาทีนั่งลงข้าง ๆ ควานลินซึ่งตอนนี้นั่งเหม่อไม่รับรู้กับสถานการณ์ปัจจุบัน
“ คุณไล ” เสียงเรียกครั้งแรกจากมิสซิสแพทเจ้าของคลาสเรียนดังขึ้น และเป็นไปตามคาด ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ จากเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ … ”
“ ไลควานลิน ! ” ชื่อเต็มของควานลินที่ไม่ได้ยินนาน บวกกับน้ำเสียงดุดันของเจ้าของคลาสทำเอาควานลินสะดุ้งตกใจ แต่นั่นก็ยังไม่ตกใจเท่ากับตอนที่ได้รู้ว่า คัง ดงโฮ นั่งมองควานลินด้วยสายตาสงสัยอยู่ข้าง ๆ
ช็อค ไล ควานลิน ช็อคไปแล้ว
“ ออกมาแสดงโจทย์ข้อนี้ให้เพื่อน ๆ ดูหน่อย ไลควานลิน ”
อาจจะเป็นโชคดีของควานลินก็ได้ที่ชอบเลขอยู่แล้ว หรือไม่ก็อ่านบทเรียนก่อนเรียนมา การทำโจทย์ข้อนั้นจึงผ่านฉลุยไปได้อย่างง่ายดายพร้อมเสียงปรบมือของเพื่อนทั้งคลาสอย่างไม่น่าเชื่อ รวมทั้งคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาด้วย
ร่างบางเดินกลับมานั่งประจำที่ก่อนจะจดจ่อกับบทเรียนแม้จะไม่มีสมาธิเลยก็ตาม รู้สึกว่าคนข้าง ๆ กำลังจดจ้องเขาอยู่ แต่ก็ไม่กล้าหันไปเผชิญหน้าด้วยอยู่ดี ห้านาทีสุดท้ายของคาบเรียนไม่มีการเรียนการสอน แต่กลับถูกสั่งการบ้านที่แม้แต่คนชอบเลขอย่างควานลินก็ไม่อยากนับจำนวนข้อเลยด้วยซ้ำไป
ทันทีที่ออดเรียนดังขึ้นนักเรียนในคลาสก็ลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันและพากันเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนี้ในห้องเหลือแต่ควานลินและดงโฮเท่านั้น ไม่มีบทสนทนาใด ๆ มีแต่ความเงียบ ระหว่างที่เก็บของใส่กระเป๋า มือเล็ก ๆ ไปสัมผัสกับแขนของดงโฮ ทำเอาควานลินต้องชักมือหนีทันที
เพราะ มันเย็นเหลือเกิน ..
และเหมือนเจ้าตัวจะรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น คังดงโฮรีบลุกออกจากเก้าอี้ทันที โดยที่มีเสียงเล็ก ๆ ของควานลินเรียกไว้
“ เดี๋ยวสิคุณ ”
“ อะไร ” ร่างหนาตอบคำถามแต่ยังคงหันหลังให้กับควานลินอยู่
“ คุณหนาวเหรอ ทำไมแขนคุณ .. มันเย็น ” คิ้วเล็กๆขมวดเป็นปนเพราะความสงสัย เพราะเมื่อสักครู่นี้ควานลินไม่ได้คิดไปเองอย่างแน่นอน เขาไม่ได้ฝัน
“ เปล่านี่ ” คนที่ถูกตั้งคำถามหันมาเผชิญหน้ากับร่างบาง มิหนำซ้ำยังก้าวเข้าไปหาควานลินเรื่อย ๆ อีกด้วย หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว จนตอนนี้ควานลินถูกต้อนไปติดโต๊ะเรียนเสียแล้ว
“ แล้วทำไม ... ”
“ อยากรู้เหรอ งั้นพรุ่งนี้เที่ยงเจอกันตามที่บอกสิ ” โน้มใบหน้าคมลงไปกระซิบข้างหูร่างบางแล้ว หลังจากนั้นใช้ดวงตาสีเฮเซลจดจ้องไปที่คนตรงหน้าใบหน้าเคลื่อนเข้าหาคนตัวเล็กเรื่อย ๆ จนอีกนิดเดียวริมฝีปากจะสัมผัสกันแล้ว แต่เมื่อได้สติจึงรีบผละออกจากร่างบางและผลุนผลันออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้ควานลินยืนมองตามด้วยความสงสัยพร้อมกับใจที่เต้นระรัว ไหนจะใบหน้าแดงซ่านนั่นอีก
อะไรน่ะ ..
เมื่อกี๊มันอะไร ..
//
คนอะไรจะตัวเย็นได้ขนาดนั้น
แอร์ก็ไม่ได้หนาวมากนี่นา
บางทีควานลินก็คิดว่าตัวเองคิดมากจนเกินไป ชั่ววินาทีที่สัมผัสกันไม่น่าจะถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ บางทีอาจจะแค่คิดไปเองก็ได้ ความคิดในหัวตีกันเองคิดแล้วก็ได้แต่สับสน นอนกลิ้งไปมาบนเตียงพร้อมหนังสือเล่มโปรด ก่ายหน้าผากคิดแล้วคิดอีกก็ยิ่งปวดหัว ไม่นานความง่วงเริ่มเข้ามาเยือนเสียแล้ว มือบางวางหนังสือทไวไลท์ในมือลงที่โต๊ะข้างหัวเตียง เอื้อมมือปิดโคมไฟที่ทำหน้าที่ให้แสงสว่าง และแล้วความมืดก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งห้อง จนเปลือกตาบางค่อย ๆ ปิดลงในที่สุด
ไล ควานลิน หลับไปแล้ว
ปรากฏภาพฝันในหัวของร่างบาง สถานที่อันไกลโพ้นที่เจ้าตัวไม่รู้จัก รอบตัวขาวโพลนไปหมด หนาวยะเยือกจับใจจนต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองไว้หลวม ๆ เสียงเล็กพยายามตะโกนเรียกใครสักคนแต่ก็ไม่เป็นผล มีแต่ความเงียบได้ยินเสียงตัวเองสะท้อนกลับไปมา จนควานลินเริ่มจะกลัวแล้ว สองเท้าก้าวเดินไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางที่ปรากฏ สิ้นสุดปลายทางควานลินเห็นหลังใครสักคนอยู่ไกล ๆ อดยิ้มออกมาไม่ได้ในที่สุดก็เจอใครสักคนสักที แต่เหมือนยิ่งเดินเข้าไปใกล้ร่างบางกลับรู้สึกว่าเหมือนคนนั้นยิ่งอยู่ไกลออกไปทุกที ควานลินเหนื่อยหอบคุกเข่าลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง
“ เฮ้ คุณ ” เสียงเล็ก ๆ ตะโกนเรียนบุคคลปริศนา และเป็นไปตามคาด ผู้ชายคนนั้นหันกลับมา และเดินเข้ามาใกล้ควานลินเรื่อย ๆ
หนาวเหลือเกิน
ทำไมบรรยากาศรอบตัวมันเริ่มหนาวขึ้นเรื่อย ๆ
“ ที่นี่ที่ไหน ผมอยู่ที่ไหน ”
“ สักที่ ”
“ ทำไมผมเดินไปหาคุณไม่ได้เลย ”
“ อยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องเข้ามา ฉันจะไปหานายเอง ”
ประโยคเพียงประโยคเดียวจากบุคคลปริศนาตรงหน้าละลายความเย็นยะเยือกที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ทิ้งไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความอบอุ่นที่ร่างบางได้รับ อดยิ้มออกมาไม่ได้ พยายามครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะก้าวไปหาคนๆนั้นสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ในที่สุด
“ อยู่ตรงนั้นแหละ ”
“ ทำไม ”
“ เดี๋ยวจะพากลับบ้าน ”
ฝ่ามือหนาทาบลงบนกลุ่มผมของควานลิน ลูบศรีษะสองสามทีแล้วจู่ ๆ คนตรงหน้าก็ค่อย ๆ เดินจากไป ระยะห่างระหว่างควานลินและบุคคลปริศนามากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดแผ่นหลังของผู้ชายคนนั้นก็หายลับไป พอดิบพอดีกับรอบข้างที่เริ่มมืดลงจนควานลินไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงความมืดที่รับรู้ได้เท่านั้น
ฟึ่บ !
ควานลินสะดุ้งตื่นกลางดึก ร่างบางหายใจเหนื่อยหอบ กดเปิดไฟที่หัวเตียง ก่อนจะพบว่าทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นระรัวไม่หยุดหย่อนจนต้องยกมือขึ้นมากุมเอาไว้และค่อยๆหายใจเข้าออกจนหัวใจกลับมาเต้นปกติในที่สุด
ร่างบางสลัดความคิดที่เหลือตกค้างจากความฝันทิ้งไป ปิดไฟที่หัวเตียงและทิ้งตัวลงนอนเช่นเดิม ความเหนื่อยบวกความเพลียทำให้ควานลินเข้าสู่ห้วงนิทราได้เร็วกว่าเดิม ความคิดสุดท้ายที่เกิดขึ้นในหัวควานลินคือบุคคลปริศนาคนนั้นที่เขารู้สึกว่าคุ้นเคยมากเหลือเกิน คุ้นเคยจนคิดว่าเป็นใครสักคนที่รู้จักแน่ ๆ
คัง ดงโฮ
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ควานลินนึกถึงก่อนจะดำดิ่งสู่ห้วงนิทราไป
คัง ดงโฮ อยากหลับบ้างเหลือเกิน อยากรู้สึกง่วง อยากรู้สึกเหนื่อย อยากรู้สึกเหมือนที่มนุษย์ทั่วไปรู้สึกบ้าง ความรู้สึกแบบนั้นเขาเองก็ลืมไปแล้วว่ามันเป็นยังไง ตั้งแต่ได้ชีวิตใหม่นี้มาสักพักแล้วรู้สึกโหยหาชีวิตแบบเดิมเหลือเกิน และมันยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้เห็นหน้าเด็กคนนั้น เพราะเขาแอบเฝ้ามองเจ้าของรอยยิ้มสดใสนั้นมานานพอสมควร นานพอที่จะรู้ว่าเด็กคนนั้นก็สนใจเขาอยู่เหมือนกัน แก้มยุ้ย ริมฝีปากแดงจัด จังหวะหัวใจของเด็กคนนั้น ดงโฮรับรู้หมดทุกอย่าง
นานเหลือเกินที่ไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้ ผ่านมานานจนจำไม่ได้แล้ว ดงโฮตอนนี้ก็เหมือนเด็กกำลังหัดมีความรัก น่าขันเสียจริงที่จู่ ๆ ก็มีความรู้สึกแบบนี้ จนกระทั่งได้เห็นหน้าไลควานลิน รู้สึกเหมือนใจกลับมาเต้นอีกครั้งทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะดงโฮเองก็มีเพียงร่างกายเท่านั้น คล้ายมนุษย์แต่ก็ไม่ใช่ แม้หัวใจจะกลับมาเต้นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว แต่ความรู้สึกรัก หรือความรู้สึกชอบมันยังคงอยู่
คังดงโฮรู้สึกว่าต้องการไลควานลินมากมายเหลือเกิน
ที่ผ่านมาพยายามแล้วที่จะไม่สนใจ อยู่ห่าง เพื่อระงับความต้องการบางอย่างที่เกิดขึ้นภายใน แต่ทุกอย่างกลับพังลงเพราะจู่ ๆ ก็เจอควานลินนั่งอยู่ในที่ๆเขาเองเคยนั่งอยู่ประจำ สถานที่ส่วนตัวของเขาเอง ไม่มีนักเรียนในโรงเรียนนี้บ้าที่จะมานั่งหลังโรงเรียนนี้หรอก สถานที่ที่เต็มไปด้วยตำนานผีหลอกเด็กมากมายจึงทำให้หลังโรงเรียนกลายเป็นสถานที่ของดงโฮไปโดยปริยาย
ไล ควานลิน คงเป็นหนึ่งในเด็กนักเรียนของโรงเรียนนี้ที่บ้า
และวันนั้นเอง วันที่ทำให้แวมไพร์หนุ่มเริ่มขยับเข้าไปใกล้ควานลินทีละก้าวสองสาว ความพยายามที่มีมาตลอดกลายเป็นศูนย์เพราะวันนั้นวันเดียว
เด็กนั่นฝันถึงเขา ..
ใช่ ดงโฮรับรู้ได้
แวมไพร์มีสามารถมีความรักได้ไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ แม้จะรู้ว่าสักวันหนึ่งเขาเองต้องเจอคู่ของตน แต่ไม่คาดคิดเลยว่าคู่ของตนจะเป็นมนุษย์ นั่นคือเหตุผลที่ดงโฮพยายามห้ามความรู้สึกของตัวเองมาตลอด เพราะท้ายที่สุดมันอาจจะเป็นไปไม่ได้
แต่เขาเริ่มไปแล้ว
มันเกินจะหยุดได้แล้วนี่สิ ..
แต่ยังไงคังดงโฮก็รู้ดีว่าถ้าเขาไม่เป็นฝ่ายเริ่ม สักวันหนึ่งเด็กนั่นก็ต้องเริ่มอยู่ดี ไม่มีใครหนีชะตาพ้นหรอก ไม่มี ถ้าจะหนีกันไม่พ้นจริง ๆ เขาขอเป็นฝ่ายเริ่มทุกอย่างขึ้นเองดีกว่า ถึงได้บอกไปว่าให้เด็กนั่นอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวเขาจะไปหาเอง
เป็นมื้อกลางวันอีกหนึ่งมื้อที่ควานลินหลีกเลี่ยงไม่พบหน้าเพื่อน ๆ จอมจุ้นของตัวเอง แหงสิ ถ้าไปเจอคงจะโดนล้อเรื่องคู่เต้นรำไม่หยุดหย่อนแน่ หรือไม่ก็เชียร์ให้เขาไปขอคนที่ชอบเต้นรำ
ถ้าเพื่อนรู้ว่าเราชอบใคร .. ชีวิตก็จะชิบหายแบบนี้แหละครับ
หลบตาหลบตาเพื่อนมันก็แค่ข้ออ้าง เพราะจริง ๆ แล้วควานลินมีนัดกับใครบางคนไว้ต่างหาก ใครบางคนที่แอบปลื้มหนักหนา คิดถึงเรื่องเมื่อวานก็อดหน้าร้อนขึ้นมาไม่ได้ อีกนิดเดี๋ยวเท่านั้น เฉียดกันไปแค่นิดเดียวริมฝีปากก็เกือบจะแตะกันแล้ว วินาทีนั้นมันอึ้งปนตกใจเลยทำได้แค่ยืนนิ่ง ๆ
“ เป็นอะไรทำไมหน้าแดง ”
เสียงทุ้มเรียกสติควานลินให้กลับมาสู่ปัจจุบัน ร่างหนาก้าวเข้ามาใกล้ควานลินขึ้นเรื่อย ๆ แอบสักเกตว่าในมือหนานั่นมีมื้อกลางวันอยู่ด้วย อา .. หิวจัง T^T
“ ป .. เปล่า ” ควานลินได้แต่เกาแก้มแก้เก้อ ได้แต่หวังว่าคนตรงหน้าจะไม่รู้ว่าตนนั้นคิดอะไรอยู่ รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่นแน่
“ หึ ”
“ เอาไป ยังไม่ได้กินอะไรไม่ใช่เหรอ ”
ดงโฮโยนมื้อกลางวันที่ตั้งใจไปเอามาให้กับเด็กหนุ่มร่างบางตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่ง ๆ เห็นดังนั้นควานลินรีบรับไปทันที
“ รู้ได้ไงว่ายังไม่ได้กิน ”
“ รู้แล้วกัน ”
เงียบกริบ ..
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักประโยค ควานลินได้แต่นั่งจัดการมื้อกลางวันของตัวเองอย่างเงียบ ๆ โดยมีสายตากดดันจากบางคนที่นั่งอยู่ข้างหน้านี้ ให้ตายเถอะจะจ้องไปถึงไหน กินอะไรไม่ลงแล้ว
“ คุณ จ้องอย่างนั้นผมอึดอัดนะ ”
“ เหรอ งั้นไม่จ้อง ”
พูดเพียงเท่านั้นก็ปิดตาลงทันที ทิ้งให้คนตัวเล็กนั่งจัดการกับมื้อกลางวันต่อไป ใช้เวลาไม่นานนักควานลินก็จัดการกับมื้อกลางวันจนหมดเกลี้ยง พอดีกับที่คังดงโฮลืมตาขึ้นมาจ้องควานลินอีกรอบ
“ เอ่อ คุณยังหนาวอยู่ไหม ”
“ ก็บอกว่าไม่หนาว ”
“ แล้วทำไมตัวเย็นขนาดนั้นอ่ะ ”
“ อยากรู้จริงเหรอ ”
“ ค..คุณถอยไปนะ ” ควานลินตกใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มก้าวเข้ามาใกล้ ใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ และเหมือนควานลินจะหมดหนทางหนีเสียแล้ว รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังก็แนบชิดไปกับต้นไม้ต้นใหญ่ มือหนาทั้งสองข้างดันไว้กับต้นไม้ พลางโน้มใบหน้าลงมาใกล้ควานลินจนปลายจมูกชิดกัน ใช้สายตาสีเฮเซลคมกริบจดจ้องไปยังร่างบาง
“ ก็จะบอกอยู่นี่ไง ”
“ แล้ว ท ทำไมต้องเข้ามาใกล้ขนาดนี้ด้วย ” ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อถูกจ้องปานจะกลืนกิน พยายามหลบสายตาแล้วก็หลบไม่พ้น
“ ใกล้ขนาดไหน ” ร่างหนาปรับองศาหน้าเล็กน้อย อีกนิดเดียวเท่านั้น อีกแค่นิดเดียว
“ ก.. ก็มันใกล้ ปากคุณจะจูบผมอยู่แล้วเนี่ย อะ อื้อ ”
ตกใจ อึ้ง งง
ร่างบางสับสนไปหมดเมื่อจู่ ๆ คนตรงหน้าก็ทาบริมฝีปากลงมาบดเบียดกับกลีบปากบาง เกิดความรู้สึกเย็นวาบขึ้นทันทีที่ปากแตะกัน ดงโฮค่อย ๆ บรรจงจูบคนตรงหน้าทีละนิด ขบเม้มดูดดึงเรียวปากบางด้วยความอ่อนโยน มือเย็นๆรั้งต้นคอควานลินเข้ามาใกล้ตนมากกว่าเดิม ถอนจูบและทาบริมฝีปากลงไปที่เรียวปากเล็กซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง ก่อนจะผละออกจากกัน
“ ค .. คุณ ” หัวใจดวงน้อยสั่นระรัว ใบหน้าหวานซ่อนความตกใจไว้ไม่มิด หายใจหอบแรงส่วนหนึ่งเป็นเพราะรสจูบเมื่อสักครู่ อีกส่วนหนึ่งเป็นสาเหตุมาจากคนตรงหน้า
ทำไมมันเย็นไปหมดเลย
“ คุณเป็นอะไรกันแน่ ” ควานลินพยายามเค้นเสียงสั่น ๆ ของตัวเองถามออกไป แม้ลึก ๆ ในใจจะมีคำตอบอยู่แล้ว จุดประสงค์ของการมาเรียนที่ฟอร์คของควานลินไม่ใช่แค่ชื่นชมธรรมชาติเสียหน่อย ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าควานลินหลงใหลในเรื่องอะไร แต่ร่างบางไม่อยากจะเดาคำตอบไปเอง ต้องการที่จะรู้จากคนตรงหน้านี้มากกว่า และถึงจะใช่ควานลินก็ไม่กลัว ที่เป็นอยู่ตอนนี้ตกใจเสียมากกว่า
“ อยากให้ฉันเป็นอะไรล่ะ ไล ควานลิน ” ดวงตาสีเฮเซลจดจ้องร่างบางไม่ลดละ จ้องลึกเข้าไปในตาคู่สวยเพื่อต้องการหาคำตอบ เพราะเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่มีวี่แววที่จะกลัวเขาเลยสักนิด คำตอบ คัง ดงโฮ อยากได้แค่คำตอบเท่านั้น
“ หัวใจคุณเต้นไหม ”
“ ไม่ ”
“ ล แล้วคุณหายใจหรือเปล่า ”
“ ไม่ ”
“ ว แวมไพร์เหรอ ”
“ เก่งนี่ ”
50%
---------------------------------------------
คัง ดงโฮ เธอจะมาทำลูกเราแบบนี้ไม่ได้นะ !
#แวมไพร์โฮลิน #crushโฮลิน
TALK : แนะนำเปิด A Thousand Years ฟังไปด้วยนะคะ เรื่องของเรื่องคือเรากลับไปนั่งดูทไวไลท์แล้วอิน เลยเอามาเขียนด้วยซะเลย เขียนไปเขียนมาชักจะชอบเขียนแนวนี้ซะแล้ว ยังไงก็ฝากคอมเม้น + Fav + #crushโฮลิน + #แวมไพร์โฮลิน ไม่รู้ว่าเราเขียนดีหรือไม่ดียังไงแต่จะพยายามใช้ภาษาให้สลวยนะคะ มีไรติชมได้ตามสะดวกเลยฮับ เลิ้บ (ความยาวน่าจะพอ ๆ กับตอนที่แล้ว)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1,000 ความคิดเห็น
-
#882 pukkapuk (จากตอนที่ 8)วันที่ 16 มกราคม 2562 / 11:13รอน้าาาาา ฮือออออ#8820
-
#726 Zanisina (จากตอนที่ 8)วันที่ 8 กันยายน 2561 / 15:16แงงงงงง มาต่อเถอะน้าาาา#7260
-
#617 Galaxy___yek (จากตอนที่ 8)วันที่ 8 กรกฎาคม 2561 / 13:16อยากอ่านต่อล้าว😂😂😂😂#6170
-
#506 Para P (จากตอนที่ 8)วันที่ 8 พฤษภาคม 2561 / 10:22มาต่อเร็วนะ อยากอ่านแล้ว สนุกมากๆๆๆ#5060
-
#195 Mickey (จากตอนที่ 8)วันที่ 18 ตุลาคม 2560 / 11:01สนุกมากเลยค่าาาา ภาษาก็สวย อ่านลื่นมากเลย แงๆดีต่อใจ รออีก 50% ที่เหลือน้าาา#1950
-
#189 Fhunter (จากตอนที่ 8)วันที่ 16 ตุลาคม 2560 / 16:05ย๊าาาาาาาา รับผิดชอบลูกเราเดี๋ยวนี้เลย น้องโดนพรากจูบไปแล้ว แอร๊ยยยยยยยยยยย#1890
-
#188 canchuii (จากตอนที่ 8)วันที่ 16 ตุลาคม 2560 / 00:16สนุกมากเลยค่ะ ภาษาก็ดี เป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ#1880
-
#187 หมีคริสลี่ (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 23:38งึกก ชอบบบบบ#1870
-
#186 Cchaz (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 20:58มันต้องดุเดือดแน่เลยยยยยยย -.,-#1860
-
#185 Hippokim (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 20:43กรี้ดดดดด แวมไพร์พี่ดงโฮ เเห่กๆๆๆ โอ้ย ชอบมากค่าา#1850
-
#184 luntimarr (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 20:29โอพี่จ๋าาาาา#1840
-
#183 Fruit-Tea (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 19:30งื้อออ น่ารักกกก#1830
-
#182 Unizaza (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 19:30รอเลยค่ะงานนี้รีบมาต่อนะไรท์#1820
-
#181 I am Diffy (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 14:53เขินอ่ะ5555555555555555#1810
-
#180 Kwa_Kwa (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 14:33เกร้สสสพี่ดงโฮเป็นแวมไพร์แน่ๆเลยฮื่อออ กัดหนูเลยค่ะพี่55555555#1800
-
#179 z_Tamapure_z (จากตอนที่ 8)วันที่ 15 ตุลาคม 2560 / 00:26พี้ดงโฮเป็นแวมไพร์หรอ เอียงคอเลยค่ะ 5555 น้องหลินดูเขินๆ อายๆ#1790
-
#178 ace.v (จากตอนที่ 8)วันที่ 14 ตุลาคม 2560 / 21:01โอ้โหหหหๆๆๆๆ หวีดๆๆๆๆ อยากโดนกัดจังค่ะ#1780
-
#177 jsmt2804 (จากตอนที่ 8)วันที่ 14 ตุลาคม 2560 / 06:50โอ้ยย พี่เถื่อนเป็นแวมไพร์ใช่มั๊ย กรี๊ด ๆๆๆๆ#1770
-
#176 blkimj (จากตอนที่ 8)วันที่ 14 ตุลาคม 2560 / 03:22ชอบค่ะ ฮืออออ#1760
-
#175 luntimarr (จากตอนที่ 8)วันที่ 14 ตุลาคม 2560 / 02:44น้องน่ารักกกกก#1750
-
#174 หมีคริสลี่ (จากตอนที่ 8)วันที่ 14 ตุลาคม 2560 / 01:16ฮือเราชอบบบบบ อยากให้เขียนเป็นเรื่องยาวจัง5555 บรรยายดีมากเลยค่ะ จะรอนะคะ สู้ๆค่ะ#1740
-
#173 Monkeynoon (จากตอนที่ 8)วันที่ 14 ตุลาคม 2560 / 00:46รอค่าาาาา><#1730
-
#172 neaumn_sm (จากตอนที่ 8)วันที่ 13 ตุลาคม 2560 / 23:33พี่ดงโฮฮฮฮฮ จะมาเต๊าะลูกเราแบบนี้เลยหรอออ#1720
-
#171 ansine (จากตอนที่ 8)วันที่ 13 ตุลาคม 2560 / 23:24อั้ยยยย แวมไพร์คังดงโฮฮฮฮ เเล้วงี้ต้องเปลี่ยนน้องให้เป็นเหมือนกันเหมือนในทไวไลท์มั้ยคะ????#1710
-
#170 Unizaza (จากตอนที่ 8)วันที่ 13 ตุลาคม 2560 / 21:47รอเลยค่ะ ไรท์ รีบมาต่อนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ#1700