just one month
คลื่นทะเลซัดสาดเข้าชายฝั่งกระทบกับผืนทรายนำพาหยาดน้ำซึมลงสู่ด้านล่างอย่างรวดเร็วราวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากแต่ฝากฝังรอยเปียกชื้นบนผืนทรายไว้เป็นสัญลักษณ์ ฝูงนกพากันบินกลับรังอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พระอาทิตย์เริ่มคล้อยลับขอบฟ้าลงเรื่อย ๆ แสงสุดท้ายของวันเริ่มหมดไป สถานที่นี้ไม่มีใครอื่นนอกจากเขา
เขากับกระป๋องเบียร์โง่ ๆ หนึ่งกระป๋อง
ร่างบางสลัดไล่ความมึนจากแอลกออล์กระป๋องที่เท่าไรไม่รู้จำไม่ได้ รู้เพียงแต่ยังมีเหลือถมเถไปสำหรับค่ำคืนนี้
สายลมเย็น ๆ ไม่ได้พัดพาความเหงาและความเศร้าให้คลายหายไป มันกลับเพิ่มให้ความเหงาและความเศร้าทวีคูณขึ้นไปอีก
มือเรียวสไลด์โทรศัพท์เครื่องหรูเปิดเพลงเพื่อหวังว่ามันอาจจะช่วยคลายความเหงาลงได้ ทั้งๆที่ใจรู้ดีว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด
แสงไฟจากบ้านเรือนเริ่มทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่เมื่อความมืดเริ่มมาเยือน หากร้องไห้ออกมาตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร ..
“คนใจร้าย ฮึก”
จงอย่าคาดหวัง ถ้าไม่อยากผิดหวัง
จริงดั่งเขาว่า เมื่อเริ่มเอาชีวิตไปผูกไว้กับใครคนหนึ่ง มันยากที่จะไม่คาดหวัง หวัง.. หวังแค่ว่าเราจะมีกันตลอดไป หวัง... หวังแค่ว่าเขาจะมอบความรักให้เราเพียงคนเดียว
และเมื่อพบกับความผิดหวังก็แค่เพียงทำใจยอมรับมัน
แม้ว่ามันจะทำได้ยากเหลือเกิน
เสียงข้อความเข้าดังเตือนให้ร่างบางที่นั่งกอดเข่าร้องไห้ละจากสิ่งที่ทำให้จมอยู่กับความทุกข์ คิ้วขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อพบว่าเลยเวลานัดมาจวบจนครึ่งชั่วโมง มือเรียวปาดน้ำตาออกจากใบหน้าสวยและดวงตาบวมช้ำ สูดหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติกลับคืนมา เก็บของทุกชิ้นที่คาดว่าเป็นของตัวเองลงกระเป๋า
เว้นไว้อย่างหนึ่ง .. เสื้อเชิ้ตสีกรมท่าที่ถูกกองไว้บนผืนทราย
เพราะมันไม่ใช่ของเขา
ควานลินย่างตัวเข้ามาภายในบ้านไม้สองชั้นยกพื้น ภายนอกบ้านร่มรื่นเพราะต้นไม้น้อยใหญ่ที่ถูกปลูกล้อมรอบบ้าน สุนัขหน้าตาตลกวิ่งกระโดดกอดเขาจนเสียหลักจนล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น
“ เป็นอะไรไหมครับคุณ ขอโทษด้วยเจ้านี่มันซนอยู่เรื่อย ”
ฝ่ามือหนาถูกยื่นมาตรงดวงหน้าสวย เมื่อมองขึ้นไปก็พบกับชายร่างใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของบ้านยื่นมือให้ความช่วยเหลือเขาอยู่ ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ ก่อนจะออกแรงดึงพาร่างบางขึ้นไปยืนตรงบนพื้นได้สำเร็จ
“ข..ขอบคุณครับ”
“คุณคงเป็นควานลินสินะ”
“อ่า ครับ คุณ..ดงโฮ ใช่มั้ยครับ”
“ใช่ครับ”
“หนึ่งเดือนนี้ รบกวนด้วยนะครับ” มีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ ที่เจ้าของบ้านส่งมาให้ควานลิน
ใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่ออีกฝ่ายส่งยิ้มมาให้
ไม่แน่ชัดนักหากจะระบุว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงเพียงเช่นนี้
เพราะดวงตาสีเฮเซลนัทคู่นั้นน่ะหรือ ?
เจ้าของโฮมสเตย์หน้าโหดแต่หากใจดี ควานลินรู้สึกได้ผ่านรอยยิ้มอบอุ่นของคนตรงหน้าที่ส่งมาให้กับเขา เพียงแค่หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอดปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการหนีมาเยียวยาแผลใจที่นี่ก็ไม่เลวนัก
สองอาทิตย์ที่อยู่ที่นี่ เขาและเจ้าของบ้านดูเขากันได้ดีกว่าที่คิด
มีสุนัขอารมณ์ดีหน้าตาตลกคอยวอแวสามเวลาหลังอาหาร
มีเจ้าของบ้านที่แสนใจดีคอยพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างกัน
ดีเหลือเกิน
อากาศวันนี้เย็นลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ร่างบางที่นอนอยู่บนชิงช้าไม้ตัวใหญ่เริ่มผลอยหลับ กลุ่มผมบางส่วนพริ้วไหวไปตามสายลม ดวงตาเริ่มปิดลงช้า ๆ ปล่อยให้บรรยากาศดีๆโอบกอดร่างเอาไว้ ไม่นานร่างบางบนชิงช้าไม้ก็จมสู่หวงนิทราในที่สุด
ผ้าห่มผืนหนาถูกนำมาคลุมทับร่างผอมบางบนชิงช้าไม้อย่างเบามือเพราะกลัวคนที่กำลังฝันหวานจะตื่นจากฝัน มือหนาปัดผมบางส่วนที่ปกปิดดวงหน้าสวยที่ต้องใจตั้งแต่แรกเห็นออก นิ้วมือเกลี่ยแก้มนุ่มนิ่มอย่างเบามือ
ควานลินเป็นคนน่ารักสดใส หากแต่ในดวงตานั้นดูเศร้าสร้อยเหลือเกิน เศร้าจนอยากจะกู้ความสดใสนั้นคืนกลับมา ดงโฮไม่รู้ว่าก่อนมาเจอเขาควานลินต้องพบเจออะไรมา รู้เพียงแต่ว่าคงเป็นเรื่องแย่พอสมควร
สองอาทิตย์กับสถานะเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย
“คุณหายเศร้าบ้างไหมครับ”
มือหนาลูบลงบ่นกลุ่มผมนิ่มเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ร่างบางซุกหัวทุยลงกับฝ่ามือหนา ปากเล็กพึมพำอะไรบางอย่างไม่ได้ศัพท์ดูแล้วช่างน่าเอ็นดู
เจ้าของบ้านค่อยๆช้อนร่างบางขึ้นในวงแขนพร้อมผ้าห่มผืนหนา หัวทุยซบลงตรงหน้าอกตำแหน่งหัวใจ เขาเองไม่อยากถือวิสาสะทำเช่นนี้ แต่หากปล่อยให้ร่างบางนอนเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ เห็นทีจะไม่สบายเอา
“คุณดงโฮ” เสียงทุ้มติดหวานเอื้อนเอ่ยชื่อดงโฮขณะที่เจ้าของบ้านกำลังก้าวขึ้นบันไดขั้นที่สอง
“คุณตื่นแล้ว งั้นผม..” พูดพลางทำท่าจะวางร่างบางลงเกรงจะโดนเจ้าตัวว่าที่ถือวิสาสะทำเช่นนี้
“อุ้มต่อไปได้ไหมครับ” ผิดคาดไปหมด
“หืม อะไรนะครับ”
“อุ้มต่อสิ ผมไม่ได้ว่าอะไร” พูดพลากซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง เสียงหัวใจเต้นระส่ำของดงโฮควานลินได้ยินมันชัดเจน แต่อีกฝ่าย..คงไม่ได้ยินของเขาหรอก
ร่างบางถูกเจ้าของห้องบรรจงวางลงบนเตียงกว้าง มือหนากระชับผ้าห่มคลุมจนถึงแผ่นอก ส่งเพียงรอยยิ้มบางให้ผู้อาศัยชั่วคราว ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นเต็มความสูงเพื่อก้าวออกจากห้องไป
เขาคงก้าวพ้นประตูห้องออกไปดั่งใจคิด ถ้าไม่มีมือเล็กๆรั้งต้นแขนเอาไว้
“คุณครับ”
“ว่าไงครับ”
“ผมไม่อยากอยู่คนเดียว ช่วยอยู่กับผมได้ไหม”
“คุณควานลิน...”
“รังเกียจผมหรือ” ถามออกไปอย่างตัดพ้อพร้อมช้อนตาเศร้าคู่นั้นมองเจ้าของบ้านอย่างน้อยอกน้อยใจ
“ผมจะอยู่กับคุณ”
ริมฝีปากหยักประทับลงใจกลางหน้าผากของผู้อยู่อาศัย ความอุ่นจากริมฝีปากคู่นั้นแผ่ซ่านไปทั่วกายจนผ้าห่มผืนหนาไม่จำเป็นอีกต่อไป ร่างบางค่อยๆทิ้งกายลงบนเตียงดังเดิมพร้อมๆกับเจ้าของบ้านใจดีที่ทิ้งกายนอนลงข้างเขาเช่นกัน
ปลอดภัย อบอุ่น
อ้อมกอดของดงโฮทำให้ควานลินรู้สึกเช่นนั้น
อบอุ่นยิ่งกว่าอ้อมกอดไหนๆที่เคยได้รับสัมผัสมา
“ผมหายเศร้ากว่าวันแรกที่มาอยู่ที่นี่นะ”
“ครับ ?”
“คำตอบของคำถามคุณไง”
“คุณหายเศร้าบ้างไหมครับ”
คำถามนั้นที่ดงโฮคิดว่ามันจะจางหายไปกับสายลม แต่กลับไม่... ควานลินตอบคำถามนั้นของเขาแล้ว
“ถ้าผมจะขอ ..”
“ขออะไรครับ”
“จูบได้ไหมครับ”
“ค คุณ .. อื้อ”
สัมผัสร้อนฉ่าบริเวณกลีบปากทำเอาสติกระเจิดกระเจิงชั่วพริบตาเดียว ไม่มีการรุกล้ำใด ๆ มีเพียงสัมผัสอ่อนนุ่มบนริมฝีปากเพียงเท่านั้น
“ให้ผมเป็นคนนั้น .. คนที่ทำให้คุณหายเศร้า ให้ผมเป็นได้ไหมครับ”
คำตอบของคำถามของเจ้าของบ้านหลังใหญ่หลังนี้ มีเพียงควานลินเท่านั้นที่จะตอบมันได้
TBC.
#crushโฮลิน
คิดถึงกันมั้ย คิดถึงมากเลย ไม่ได้เขียนบทบรรยายซะนาน ไม่รู้มันดีหรือแย่ลง ถ้าอยากรู้คำตอบของควานลินโปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ just one month จะมาเป็นตอนสั้น ๆ พอกระชุ่มกระชวยแต่จะเขียนต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ
ปล.โทนของเรื่องมันก็จะตามอารมณ์คนเขียน แหะๆ
ปล.2 คิดถึงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย