ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซเวียร์ โรงเรียนมนตรามหาเวท

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 7 คัดเลือกหอ 50%

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 52


    บทที่ 7 เลือกหอ
     
                    "ไปเข้าการคัดเลือกหอเลย" ผู้คุมสอบว่าแล้วก็ชี้ไปที่โต๊ะไม้เก่าๆ ตัวหนึ่ง บนโต๊ะ มีลูกเต๋าอยู่ประมานห้าลูก แต่ละลูกมีอยู่หกลายตามหกหน้าของลูกเต๋า
                    "หยิบมาทอยลูกนึง ได้หน้าไหนก็อยู่หอนั้น" ผู้คุมสอบอธิบายคร่าวๆ
                    "นายก่อนเลยโร" ซิเอลไล่ให้โรไปเป็นหนูลองยา ดูเหมือนโรจะสบถอะไรสักอย่างแต่ก็ทำตามโดยดี โรสังเกตุลูกเต๋าที่มีหกลาย ด้านหนึ่งมีสีดำ ด้านสองมีสีขาว ด้านสามมีสีแดง ด้านสี่มีสีเขียว ด้านห้ามีสีฟ้า ด้านหกมีสีเนื้ออ่อน
                    "สีดำก็หอแสงจันทรา สีขาวก็หอแสงตะวัน สีแดงก็หอพักอัคนี สีเขียวก็หอปฐพี สีฟ้าก็หอวารี สีเนื้ออ่อนก็หอวายุ" ผู้คุมสอบอธิบายต่อ
                    "เอาวะ เสี่ยงละกัน" โรโยนลูกเต๋าลูกหนึ่งทันที ลูกเต๋าหมุนไปมาตามโต๊ะเก่าๆ เช่นเดียวกับหัวใจโรที่เกือบจะหมุนตามลูกเต๋า และโรก็เอามือตบทำให้ลูกเต๋าหยุดอยู่ใต้ฝ่ามือของโร โรค่อยๆแง้มดู แต่สีที่ออกมาเป็นเขียว
                    'เวรกำ เราธาตุมืดนะเฟ่ย ใครเขาไปอยู่หอดินกัน' โรคิดแล้วก็ใช้วิชาสับเปลี่ยนเอาลูกเต๋าอีกลูกออกมาจากมืืออีกข้าง ทั้งๆที่เจ้าตัวยังไม่ได้ดูผล
                    "ตกลงเอาหอนี้แน่นะ เมื่อกี้เห็นสีเขียวแวบๆ หายไปไหนน่ะ" ผู้คุมกล่าว โรสะดุ้งเฮือก
                    "ตาฝาดมั้งครับ ผมเอาหอนี้แหละ" โรกลบเกลื่อน
                    "โร ราเซียสใช่มั้ย หอแสงตะวัน" โรตกใจทันทีเมื่อได้ยินข้อความดังกล่าว เพราะหอที่เขาต้องอยู่คือหอแห่งแสง ธาตุมืดเขาอยู่กันที่ไหน และโรก็เหมืือนหลุดเข้าไปอีกมิติ และโรก็พบกับเด็กสาววัยคราเดียวกับโร ตาสีดำเฉียบ ผมสีขาวยาวถึงแผ่นหลัง แต่เป็นไซส์มินิ
                    "สวัสดีค่ะคุณโร" เด็กสาวกล่าวทักทายเหมือนจะรู้จักกับโรดี
                    "ฉันคือฟาวาเรียค่ะ เป็นวิญญาณของอาวุธค่ะ"
                    "อ๋อ ฟาวาเรียเธอเป็นวิญญาณผู้หญิงหรอกเหรอ นึกว่าวิญญาณผู้ชาย" โรตอบ
                    "แหม คุณโรคะ ใครๆ เขาก็อยากได้วิญญาณผู้หญิงทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะวิญญาณผู้หญิงคุยง่ายกว่าวิญญาณตั้งเยอะ" วิญญาณภูตจิ๋วพูดเสียงเพราะ
                    "ที่นี่คือมิติของวิญญาณนะคะ เมื่อเข้าเรียนได้แล้วก็ต้องผ่านมิตินี้ไปทั้งนั้นแหละค่ะ รีบกลับไปได้แล้วค่ะเดี๋ยวคุณซิเอลจะรอนาน" ภูตสาวกล่าวจบร่างของโรก็กลับสู่ปัจจุบัน
    โรกุมขมับก็สายไปเสียแล้วเมื่อผู้คุมสอบเรียกซิเอลมาทอยลูกเต๋า ซิเอลยกลูกเต๋าขึ้นเขย่าๆสองสามทีและก็ปล่อยลงมาบนโต๊ะ สีที่ออกได้แก่ สีขาว หอเดียวกับโร
                    "นายกุมขมับทำไมหรอโร" ซิเอลทักเมื่อเห็นโรมีอาการผิดปรกติ
                    "ก็ชั้นอ่าดิ...เป็นธาติมืดแต่ต้องมาอยู่หอแสง วิชาชั้นไม่เสื่อมหมดเรอะ" โรตอบเสียงเครียด
                    "ไม่มั้ง ชั้นได้ยินว่าพวกที่อยู่หอตรงกันข้ามกับธาตุ ของตัวเองมักจะประดิษฐ์วิชาใหม่ๆไม่ก็พวกหัวกะทินา" ซิเอลเห็นสีหน้าโรยังไม่หายเครียดจึงเปลี่ยนเรื่องคุย
                    "นายไม่เห็นมีคุณสมบัติของธาติมืดเลยนา ปรกติธาตุมืดมักจะเป็นคนเงียบๆ เยือกเย็นอะไรทำนองเนี้ย แต่นายกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง แต่ก็ดีแล้วล่ะ ถ้านายเยือกเย็นคงรู้สึกแปลกพิลึก" ซิเอลทัก
                    "ช่างมันเหอะ ขอให้อยู่กับเพื่อนๆฉันก็พอแล้ว" โรกล่าวถึงพวกวาเร
                    "อ้าว นายมีเพื่อนมาสอบด้วยหรอ? ไม่เห็บอกเลย"
                    "มีสิ มีอยู่ สี่คนนะ..." โรก็อธิบายไป ซิเอลก็พยักหน้าเป็นช่วงเป็นเชิงว่ารับรู้ และโรอธิบายเสร็จก็มีกลุ่มใหม่เดินทางมาถึงหอคอย โรก็หันไปมองก็พบกับวาเรและมารีนที่กำลังพยุงมาร์คัสที่หมดสติอยู่ และเจ้าหญิงนีร่าที่เดินตามมา ทุกคนมีรอยแผลคนละนิดๆ แต่มาร์คัสหนักที่สุด แขนขวาของมาร์คัสถูกกรีดเป็นทาง มีเลือดแห้งๆ ติดอยู่ที่ขอบเสื้อ ทำให้มาร์คัสดูโทรมเต็มที่
                    "เห้ย มาร์คัส" โรร้องอย่างตกใจและไปดูอาการเพื่อน ซึ่งซิเอลก็ตกใจไม่น้อยหน้าโรเลยแม้แต่น้อย โรรีบพามาร์คัสมาแผ่นอนลงบนพื้น และถามเรื่องราวจากเพื่อนๆที่เหลือ
                    "มาร์คัสมันไปโดนอะไรมา"
                    "เขาช่วยปกป้องพวกเราไว้น่ะ กำแพงดินที่มาร์คัสสร้างต้านพลังของศัตรูไม่ไหว เขาก็เลยเอาตัวมาบังพวกเรา เขาเลยโดนเต็มๆ" มารีนอธิบายและปาดเหงื่อใสตามใบหน้า
                    "มันเป็นใคร" โรเริ่มกลับเข้าสู่โหมดมารอีกแล้วทำให้ผู้เคยประสบพบต่างระมัดระวังทันที และมารีนก็ชี้ไปที่กลุ่มคนที่เดินตามมาติดๆ คนแรกผู้ชายผมสีม่วง นัยน์ตาสีเขียวใส่เครื่องแบบชุดนักเรียนแบบ ไม่เรียบร้อย ปล่อยชายเสื้อไว้ข้างนอก ดูยังไงๆก็จิ๊กโก๋ดีๆนี่เอง คนที่สองดูผอมกว่าคนแรก ผมสีเทาซีด นัยน์ตาสีเทาอ่อนกว่าสีผมเล็กน้อย ดูยังไงก็เหมือนหมาขี้เรื้อนไม่มีผิด
                    "มาหาพวกช่วยต่อเหรอ คงสวะเหมือนๆกันล่ะนะ" ไอ้จิ๊กโก๋พูดออกมา โรรีบสังให้มารีนปลดผนึกของตนโดยใช้พลังเวทของวาเรเพื่อคลายผนึกและกันร่างของเพื่อนๆออกไปทันที
                    "แกว่าใครสวะนะ" โรแผ่จิตสังหารออกมามากกว่าเดิมเนื่องจากผนึกถูกคลาย
                    "ก็พวกแกไง ไอ้พวกสะ..." ไอ้จิ๊กโก๋พูดไม่ทันจบ โรก็เอาสันดาบของฟาวาเรียฟาดเข้าไปเต็มหัวของไอ้จิ๊กโก๋กระเด็นไปไกล มันค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ
                    "โอ้ยย อย่าเอาสันดาบฟาดสิคะ มันเจ็บนะ มันเหมือนใช้มือฟาดของแข็งง่ะ ยังดีนะที่ไม่ใช่หิน" ไม่ใช่เสียงไอ้จิ๊กโก๋แต่เป็นของ ภูตสาวฟาวาเรียกอยู่ดีๆก็ออกมาประท้วง
                    "อืม ขอโทษนะเดี๋ยวจะไปรักษาให้ทีหลัง"
                    "ก็ได้แต่อย่าให้หนักมากนะ เดี๋ยวทนไม่ไหว" ภูตสาวพูดจบ สายตาทุกคู่ก็จับจ้องมาที่เธอแม้แต่ไอ้จิ๊กโก๋
                    "นี่คืออะไร ภูตของอาวุธออกมาได้ยังไง" ทุกเสียงถาม
                    "เมื่อเลือกหอเสร็จ ก็มาแล้วจ้า" ภูตสาวตอบและรีบจัดการต่อตามคำสั่งของเจ้าของดาบ โรเอาสันดาบฟาดไปที่คอของไอ้จิ๊กโก๋อีกครั้ง ทำให้มันสลบไป และไอ้ขี้เรื้อนก็รีบยกร่างของเพื่อนตนและหนีไปอย่างรวดเร็ว
                    "โอ๊ยย ก็บอกว่ามันเจ็บไงโร" ภูตสาวโวยลั่น สายตาของพวกวาเรก็จ้องมาที่เธออีกครั้ง
                    "ว้าย น่ารักจัง ^^" วาเร มารีน เจ้าหญิงนีร่า หรือแม้แต่ซิเอลก็เอ่ยขึ้นและวิ่งเข้ามาดูภูตสาวจิ๋ว
                    "เดี๋ยวเธอก็ได้ภูตของตัวเองแหละ หลังคัดเลือกหอน่ะนะ" โรอธิบาย
                    "แล้วนายได้ภูุตน่ารักอย่างนี้ได้ยังไงอ่า" พวกสาวๆถามขึ้นทั้งๆที่ยังวุ่นอยู่กับการสำรวจภูตสาว
                    "ก็แล้วแต่อาวุธของพวกเธอแหละ" โรไม่อธิบายมากและชี้ไปที่โต๊ะไม้คัดเลือกหอ และพวกเธอก็เดินไปที่โต๊ะยกเว้นมารีนที่กำลังดูแลมาร์คัสซึ่งยังหมดสติอยู่ โรยิ้มบางๆให้มาร์คัส และเดินไปสมทบกับพวกสาวๆ ปล่อยให้มาร์คัสที่กำลังหนุนตักของมารีนอยู่ด้วยกันตามลำพัง
                    "อั่กกก" มาร์คัสสำรอกออกมาเป็นเลือดทั้งๆที่กำลังหนุนตักของมารีน ทำให้มารีนตกใจ และรีบทำความสะอาดใบหน้าของมาร์คัสอย่างวุ่นๆ แต่แล้วมารีนก็ชะงักเมื่อคนที่เคยสลบได้สติแล้ว
                    "อ้าว มารีนที่นี่ที่ไหนน่ะ" คนเพิ่งได้สติทักทันทีเมื่อพบคนรู้จัก แต่ก็พบว่าใบหน้าของผู้ที่ตนกำลังถามเริ่มขึ้นสีเรื่อๆ
                    มาร์คัสค่อยใช้สัมผัสทั้ง 5 สำรวจ ก็พบว่าตนกำลังอยู่บนตักของผู้ที่ตนถาม ทำให้ผู้ที่กำลังสำรวจหน้าแดงกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว
                    เมื่อมาร์คัสรู้สึกตัวก็รีบผละออกจากหน้าตักของมารีนแล้วทั้งคู่ก็หน้าแดงแข่งกันอยู่นาน จนกว่าทั้งคู่จะรู้ตัวโรก็มายืนกระแอมอยู่ใกล้ๆแล้ว
                    "อะแฮ่ม ทำอะไรกันอยู่หรอ?" คนพูดว่าแล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย มาร์คัสรีบผละออกจากหน้าตักมารีนและลากแขนโรไป มารีนได้แต่มองตามไปงงๆ ทั้งๆที่ใบหน้ายังแดงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
                    เมื่อมาร์คัสลากโรมาได้ระยะหนึ่ง เขาก็หยุดเมื่อเห็นว่าอยู่ไกลจากมารีนมากแล้ว
                    "โร นายอย่ามายุ่งได้มั้ย หืม?" มาร์คัสถามขึ้นมา
                    "อย่ายุ่งอะไร? อ๋อ..." โรร้องอ๋อแต่ก็เงียบไปทำให้มาร์คัสรู้สึกสังหรใจจึงถามต่อ
                    "อ๋ออะไร"
                    "แล้วถึงขั้นจูบรึยังล่ะ ฮ่าๆๆๆ" โรหัวเราะออกมาและพูดเสียงไม่เบา แม้จะอยู่ไกลจากมารีน แต่เสียงพูดก็น่าจะไปถึงหูของเธอได้ไม่ยาก
                    พลั่กกก มาร์คัสตบหัวของโรและเอานิ้วชี้มาปิดปาก เป็นเชิงว่าให้เงียบ มาร์คัสกะจะเอาคืนบ้าง จึงพูดออกไม่เบา
                    "แล้วนายกับวาเรล่ะ ถึงขั้นมีลูกรึยัง ฮ่าๆๆๆๆ" เจ้าตัวว่าแล้วก็หัวเราะ
                    "รู้จักมั้ยว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า" มาร์คัสยังหัวเราะไม่เลิก ก็ยังรู้สึกได้ว่ารังสีอำมหิตได้ถูกแผ่ออกมาจากโรแล้ว
                    พลั่กกกก โรฟาดสันดาบฟาวาเรียเข้าไปเต็มท้ายทอย ทำให้มาร์คัสเซทำท่าเหมือนจะล้ม แต่ก็พยายามเดินไปหามารีน และขอความช่วยเหลือ
                    "มารีน ช่วยหน่อยสิ เจ้าโรมันฟาดดาบมาเต็มๆเลย" มารีนเห็นแล้วก็ตกใจกับรอยปูดเขียวขึ้นมากลางหัวของมาร์คัส เธอจึงร่ายเวทรักษา
                    "ด้วยพลังเยียวยาแห่งวารี ข้าขอพลังเพื่อเยียวยารักษามิตรข้าด้วยเถิด" มารีนร่ายเวทจบมือของเธอก็เรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆ เธอก็นำมือปะใส่ผ้าเช็ดหน้าของเธอ และเอามือลูบไปที่แผลของมาร์คัสทำให้แผลที่ปูดค่อยๆยุบตัวลง
                    "แผลอาจจะยังไม่หายขาดนะ เอาผ้าเช็ดหน้านี่ไปโปะเวลาปวดแผลนะ" มารีนยื่นผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าให้มาร์คัส มาร์คัสยิ้มหวานให้หนึ่งทีและรับของมา
                    "ขอบใจนะ" มาร์คัสกล่าวพร้อมกับยิ้ม ทำให้มารีนยิ้มหวานตอบบางๆ ทำให้มาร์คัสเหม่อลอยหลงไหลในรอยยิ้มนั้น
                    แต่แล้วเขาเดินไปหาโรเพื่อนรัก ที่ยืนยิ้มอยู่ห่างๆ
                    "ยังไม่ทันหมั้นกันจะเตรียมของชำร่วยแล้วหรอ" โรเอ่ยกวนๆ
                    มาร์คัสทำเป็นไม่สนใจและเดินหนีไปคัดหอ
                    แต่แล้วอีกไม่นานทุกคนก็คัดหอเสร็จซึ่งทุกคนได้อยู่หอแสงตะวันยกเว้นซิเอล ทุกคนก็ดีีใจที่ได้มีภูตน้อยประจำกายกันท่วนหน้า
                    "น้องๆครับ เดี๋ยวพี่จะพาน้องๆไปชมหอนะครับ" รุ่นพี่ใส่ชุดสีขาวซึ่งเป็นเครื่องแบบของหอแสงตะวัน ตาสีม่วงทอประกายขี้เล่น ผมสีเขียวสั้นๆ โผล่ออกมาตอนไหนไม่มีใครรู้
                    'วิชาอำพรางจิตกับเคลื่อนที่ชั่วพริบตาเยี่ยม' โรชมในใจ
                    "พี่ชื่อซีเวียร์ มาเวรัล เชิญน้องตามมาทางนี้นะ" รุ่นพี่หนุ่มแนะนำตัว และพารุ่นน้องทั้งหลายออกเดิน
                    "ที่นี่คือห้องอาหารของเรา เราต้องกินอาหารเฉพาะหอของเราเท่านั้น" ซีเวียร์ชี้หลังจากออกเดินมาสักพัก ทำให้เห็นห้องโถงสีขาวใหญ่ประดับด้วยผ้าขาวเหลือบเงิน มีซุ้มอาหารหลากหลายและมีโต๊ะยาวให้สำหรับนักเรียนนั่งทานอาหาร
                    "ส่วนที่นี่คือห้องโถงใหญ่ พวกน้องๆสามารถใช้ที่นี่เป็นห้องทำการบ้านห้องนั่งเล่นได้" พี่ซีเวียร์ชี้แนะนำต่อหลังจากเดินมาห้องถัดมา เผยให้เห็นห้องสีขาวใหญ่ มีตู้หนังสือสูงเฉียดเพดานอยู่หลายตู้ และมีบันไดสองทางเพื่อขึ้นชั้นถัดๆไปซึ่งสูงขึ้นไปเลยเพดาน
                    "บันไดสองทางนั้นเป็นหอชายและหญิงนะ หอชายอยู่ทางบันไดซ้ายส่วนหอหญิงก็บันไดขวา ห้ามนักเรียนชายเข้าหอหญิงหรือนักเรียนหญิงเข้าหอชายเด็ดขาด มิฉะนั้นจะได้รับโทษร้ายแรง" ซีเวียร์กล่าวต่อ
                    "ส่วนกฎอื่นๆก็มีอีกไม่กี่ข้อ หนึ่งห้ามเข้าเรียนสายเด็ดขาด สองห้ามนำของมึนเมาเข้ามาในหอ สามห้ามขัดคำสั่งรุ่นพี่ถือเป็นสิ้นสุด น้องไม่มีสิทธิ์แย้ง แล้วสดท้ายข้อสี่ ให้ผู้ชายดูแลผู้หญิงหอเรายิ่งชีพ แค่นี้แหละ"
                    โรอ้าปากค้างอย่างอึ้งๆ มาร์คัสคิ้วกระตุก ส่วนผู้หญิงก็ทำหน้าเหลอหลา
                    "กฎข้อสี่นี่พี่พูดผิดหรือเปล่าครับ" เป็นโรที่เเย้งขึ้นมา
                    "ได้ยินถูกแล้วล่ะไอ้น้อง เพราะผู้หอเราทุกปีมักมีน้อย แถมหอเราได้รับการยกย่องว่าเป็นหอที่มีนักเรียนหญิงสวยที่สุดในทั้งหมด 6 หอ เพราะฉะนั้นผู้หญิงในหอนี้ต้องเป็นสิทธิ์ของพวกเราเท่านั้น" ซีเวียร์ว่าแล้วก็หัวเราะและยืนเก๊กอยู่อย่างนั้น จนรุ่นน้องที่กำลังฟังได้แต่หัวเราะเบาๆตาม
                    "เดี๋ยวพี่จะอนุญาตให้พวกน้องๆเอาสัมพาระไปเก็บที่ห้องก่อน รอให้คนอื่นสอบเสร็จก่อนนะแล้วค่อยมา ส่วนใครจะอาบน้ำก็อาบได้ ห้องน้ำอยู่ในหอทั้งสองฝั่งนะ"
                    "ครับ/ค่ะ"
                    "เอ่อ โร นายเอากระเป๋ามายังไงฟะ" มาร์คัถามหลังจากเดินเข้าไปในหอ
                    "ก็ย่อส่วนไว้ดิ ไม่งั้นลำบากตาย"
                    "ฉันเสกเวทไว้เรียกเอา"
                    "ก็สะดวกดีหมดแหละ"
                    "อืม"
                    "ลงไปข้างล่างเหอะ น่าจะสอบเสร็จกันหมดแล้ว"
                    เมื่อลงมาด้านล่างห้องโถงก็เต็มไปด้วยนักเรียนที่สอบผ่านแล้ว แต่ที่โรเห็นและทำให้เขาหมั่นไส้คือ เจ้าอิสฮานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ด้วยแค้นที่ยังสะสางของโรทำให้เขาเดินเข้าไปกระชากคดเสื้ออิสฮาน ขึ้นมาให้มองหน้าตน
                    "มาสะสางกันต่อดีมั้ย"
                    อิสฮานปัดมือของโรที่กำลังจับเสื้อตนอยู่ออก และปัดๆบริเวณที่โรจับราวกับว่า มือของเป็นของสกปรก
                    "ฉันไม่อยากโดนพี่ทำโทษตั้งแต่วันแรก แต่ถ้านายอยากโดนก็เชิญไปคนเดียว" อิสฮานพูดเหมือนตอกย้ำสำนวน 'อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ' เข้าสมองโร ทำให้โรฉุนควันออกหูกระชากคอเสื้ออิสฮานอีกที แต่คราวนี้แรงกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้ร่างของอิสฮานหล่นจากเก้าอี้ไปกระแทกพื้น
                    อิสฮานไม่พูดอะไรแต่ปัดมือโรและเดินหนีไป
                    "โห่ป๊อดนี่หว่า ไม่กล้าเจอ" โรตะโกนไล่หลัง
                    "เอาน่า อย่าไปมีเรื่องกับมันเลยน่ะ" มาร์คัสตักเตือนแล้วพาโรไปนั่งโซฟา
                    "เอ้า เดินตามพี่มา พี่จะพาไปห้องโถง ไปปฐมนิเทศ" พี่ซีเวียร์ต้อนฝูงน้องๆไปตามทางแคบเพื่อเดินไปโถงรวม
                    "เอาล่ะ นี่คืออาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเซเวียร์ของเรา เซเลน ผู้สืบทอดจากบรรพบุรุษเซเวียร์ ์ผู้ก่อตั้งโรงเรียนวันนี้ท่านจะมาปฐมนิเทศพวกเรา" พี่ซีเวียร์แนะนำชายแก่ชรา ผมสีขาวไว้เคราสีเดียวกันยาว ริ้วรอยบนใบหน้าแสดงถึงประสบการณ์ที่ยาวนาน
                    "ขอต้อนรับนักเรียนเก่าและใหม่ทุกคนสู่ปีการศึกษาใหม่นะ" ครูใหญ่พูดทันทีที่พบว่านักเรียนทั้งหมดได้เข้าสู่หอประชุมเกือบครบแล้ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×