ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซเวียร์ โรงเรียนมนตรามหาเวท

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 ราชาแทนคุณ (จริงหรอ)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 52


     
    บทที่ 2 ราชาแทนคุณ (จริงหรอ)
     
     
                    "ที่นี่ที่ไหนเนี่ย" โรตื้นขึ้นมาพร้อมมองไปรอบๆ
     
                   "ที่นี่คือ วังที่เจ้าถูกสอบสวนเรื่องอยู่ไงล่ะ นี่คือห้องพยาบาล" เสียงหนึ่งดังขึ้น โรหันไปมองต้นเสียงทันที เขาคือชายวัยกลางคน ไว้เคราสีดำสั้นๆ ผมสีดำยาวประบ่า นัยตาสีม่วงแสดงถึงความมีอำนาจ ดูแล้วเป็นที่น่าเกรงขามยิ่งนัก เขาคือราชาแห่งอาณาจักรฟาวาเรีย ราชาวิลเลี่ยม

                    "เจ้าฟื้นขึ้นมาพอดีเลย ข้ามีเรื่องอะไรจะถามเจ้านิดหน่อย" ราชากล่าวต่อ

                    "เจ้าไปทำอะไรกับลูกสาวข้า นางถึงไม่ได้สติขณะเจ้ากำลังต่อสู้" ราชาถามขึ้น
     
                   "เอ่อ กระผมเห็นเจ้าหญิงเรียกกระผมเสียงดัง แล้วนางก็หน้าแดงแป้ด และนางบอกว่าปวดหัว และเจ็บคอ แต่นางก็บอกว่าดีขึ้นแล้ว แล้วอยู่ดีๆนางก็เป็นลมไป กระผมเลยจะหาคนมาช่วย แต่กลับมาถูกขัดขวางด้วยพวกชุดดำสองคนนั้นล่ะครับ" โรอธิบายยาวเหยียด

                    "ว่าแต่เจ้าช่วยลูกสาวข้าทำไม ในเมื่อเจ้าสามารถหนีไปโดยทิ้งนางไว้ก็ได้" ราชาเหมือนจะถามเข้าตรงจุด ทำให้โรหายใจชะงัก และตอบอย่างตะกุกตะกัก
     
                   "กะ...กระผมทนเห็นเจ้าหญิงคนสำคัญของอาณาจักรบ้านเกิดของผมถูกทำร้ายโดยผมต้องดูอยู่เฉยๆไม่ได้"
     
                   "อืมม ข้าจะถามเจ้าแค่นี้แหละ อ๋อ อีกเรื่องนึง ข้าเจอแฟนของเจ้าอยู่หน้าวัง ข้าเห็นนางถามถึงเจ้าพอดี ข้าเลยจะพานางมาหาเจ้าน่ะ เห็นบอกว่าชื่อวาเรล่ะมั้ง??" โรทำหน้าช็อก
    ‘นี่เขาถูกมองว่าเป็นแฟนกับยัยบ้าวาเรแล้วรึ’ โรคิดอย่างรันทดใจ
                   "หม่อมฉันไม่ได้เป็นแฟนกับหมอนั่นนะเพคะ" เสียงหวานดังขึ้นตรงประตูทางเข้าของห้องพยาบาล

                    "อ้าว วาเรเจ้ามานี้ได้ไงเนี่ย" โรถาม

                    "ข้าจะปล่อยให้เจ้ากันสองคนล่ะนะ ข้าไม่รบกวนล่ะ" ราชาเอ่ยขึ้นพร้อมเดินออกจากห้องไป

                    "ก็ข้าได้ยินชาวบ้านเค้าบอกกันว่า นายน่ะโดนจับไปสอบสวนคดีในวัง แล้วเรื่องไอ้ชุดดำอีกล่ะ มันเกิดอะไรขึ้น เจ้านี่มันเป็นภาระคนอื่นเขาจริง" วาเรบ่นเป็นวรรคเป็นเวร
     
                   แล้วโรก็เล่าทุกอย่างให้วาเรฟัง...

                    "อืม งั้นพวกนั้นมันต้องการอะไรกัน" วาเรถาม

                    "ชั้นจะรู้มั้ยล่ะ ชั้นแค่บังเอิญเจอพวกมันเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจหาพวกมันซักหน่อย" โรตอบ

                   
    “แล้วได้ใช้วิชาอะไรไปรึเปล่า” วาเรถาม

                   
    “ใช้ไปวิชาเดียวกับมนตร์อีก 1 บท และใช้ดาบสู้” โรตอบเหมือนถูกเช็คสภาพเครื่องยนต์

                   
    “ไม่เช็คผ้าเบรก ลมยาง ความสะอาดของเครื่องยนต์ แล้วเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วยเลยล่ะ” โรกวนวาเร

                   
    “ไอ้บ้า เห็นฉันเป็นพนักงานที่อู่รถรึไง ที่ถามนี่เพราะเป็นห่วงจะเล่นเพลินเกินไป”

                    “แล้วคู่ต่อสู้น่ะ มันเก่งถึงขนาดต้องใช้ดาบเลยรึไง”

                    “ปรกติเห็นนายร่ายเวทที่มันเบาๆ ใส่ศัตรูก็เห็นสลบเหมือดแล้วนา ไม่เคยเห็นนายใช้ดาบสู้เลย” วาเรยังสงสัยไม่เลิก
     
                  
    “ก็เพราะว่ามันเก่งน่ะสิ รู้มั้ย....ว่าคนที่ดูถูกคู่ต่อสู้มักจะไร้ฝีมือ” โรตอบและแย็บกลับไป
     
                  
    “เคยได้ยินมั้ยว่า...ความประมาทคือหนทางสู่ความตาย”

                   
    “นายว่าฉันกระจอกงั้นหรอ....มาดวลกันเลยดีกว่ามา ดูซิว่าใครจะแน่กว่ากัน” วาเรท้าดวลโร
     
                  
    “มาสิ ยิ่งไม่ค่อยมีโอกาส ซัดกันเท่าไหร่งั้นเอาเต็มที่เลยละกัน” เมื่อโรพูดจบ เขาก็ปล่อยจิตสังหารทะลักออกมาทันที
     
                   แอ้ดดด เสียงแง้มประตตูดังขึ้น ทำให้มวยของเพื่อนทั้งสองชะงักลง โรและวาเรมองไปทางต้นเสียงทันที เมื่อเห็นพระราชาวิลเลี่ยมที่เข้ามา จิตสังหารของทั้งคู่ก็ลดหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่เลย

                    "ไม่มีอะไรหรอก ขอโทษที่ขัดจังหวะนะ ข้าแค่มาบอกว่า เพราะเจ้าได้ช่วยลูกสาวข้าไว้ ข้าจะรับพวกเจ้าเป็นองครักษ์ของลูกข้า โดยให้เจ้าทั้งสองคนเข้าไปเรียนที่โรงเรียนเซเวียร์ด้วย แต่ค่าเรียนและของจำเป็นต่างๆ เจ้าต้องออกเองนะ พร้อมข้าจะยกโทษให้เจ้าละกันเรื่องคดีน่ะ" ราชากล่าว
     
                   "ขอบพระคุณมากครับ/ค่ะ" เสียงของโรและวาเรดังขึ้นพร้อมกัน

                   
    “ราชานี่งกจริงๆ” โรกับวาเรพึมพำ กระซิบกระซาบด้วยกันเบาๆ โดยไม่คิดว่าราชาจะหูผีขนาดจะได้ยิน

                   
    “เจ้าพูดว่าอะไร....งกๆนะ”

                    "โรงเรียนจะเปิดภายในอีกสองวันนะ พวกเจ้าพักอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้นะ แล้วออกไปเตรียมซื้อของต่างๆด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้มารีนไปซื้อด้วยนะ แล้วนางจะไปเรียนกับพวกเจ้าด้วย" สิ้นเสียงของราชาก็มีเด็กหญิงอายุประมาน15ปี เดินเข้ามาในห้อง

                    "ข้าชื่อมารีน เคซีลค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ" เด็กหญิงกล่าว นางมีผมสีฟ้ายาวตรงถึงเอว นัยตาสีน้ำทะเล น่ารัก แก้มอมชมพู รอยยิ้มบางๆช่วยเพิ่มสเน่ห์ให้ใบหน้าได้มาก ใส่เสื้อคลุมสั้นๆที่ยาวถึงหัวเข่า ข้างในใส่เสื้อสายเดี่ยวสีดำ พร้อมกับกางเกงยีนสั้นๆ มีปอยเชือกโผล่ๆออกมา

                    "รีบออกไปซื้อของกันดีกว่า เดี๋ยวของจะหมด" วาเรพูดพร้อมจูงมือโรกับมารีนไปพร้อมๆกัน มารีนตอบด้วยรอยยิ้มบางๆพร้อมเดินไปที่ตลาด
     

    ตลาด
                   
                    "นี่ มารีนๆ" โรเรียก

                    "ว่าไงคะ" เสียงหวานๆของมารีนตอบกลับมา

                    "มารีนถนัดเวทธาตุน้ำ และเวทสายรักษาใช่มั้ย" โรถามต่อ

                    "ค่ะ ใช่ค่ะ แล้วตอนนี้กำลังหัดเวทสลายอาคม กับเวทผนึกอยู่ค่ะ ตอนนี้ยังไปไม่ถึงไหนเลย" มารีนตอบ

                    "โห ถึงขั้นเวทสลายอาคม และวิชาผนึกแล้วหรอเนี่ย....เก่งจริงๆ ไม่เหมือนใครบางคน สังกัดธาตุของเวทยังไม่มีเล้ย" โรชมมารีนพร้อมแขวะอย่างถนัด และเคยชินไปหาวาเร

                    "ไม่ใช่หรอกย่ะ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าเอาธาติอะไร แล้วมันใช้ชิวิตได้ง่ายๆหรอก" วาเรตอบแบบเริ่มหงุดหงิด

                    "เปล่านี่ ชั้นก็ไม่ได้ว่าใคร อยากร้อนตัวเองก็ช่วยไม่ได้" โรแย็บกลับไป ยิ่งเท่ากับสุมกองไฟให้วาเรอารมณ์เดือดไวขึ้น

                    "ว่าไงนะ ไอ้สมองกลวง" วาเรด่ากลับ

                    "เธอก็เหมือนกันแหละยัยขี้บ่น" โรยังไม่ยอมแพ้

                    "พูดงี้ ก็ดวลกันให้รู้ดำรู้แดงเลยดีกว่า" วาเรพูดพร้อมเรียกเคียวสีดำเหลือบเงิน อาวุธคู่ใจออกมา

                   
    ‘ใช้เคียวเทนเซียเลยหรอ เนี่ยกะจะเอาจริงเลยรึไง’ โรคิดในใจ

                    "ก็ดีเหมือนกัน นานๆทีกว่าจะได้ทะเลาะกัน 
    เต็มรูปแบบอย่างนี้ คราวที่แล้วทำให้เธอเลือกอาวุธได้คราวนี้ เอาให้เลือกธาตุเลยละกัน" โรกล่าว

                    "เดี๋ยวก็รู้ว่าคราวนี้จะเลือกอะไร" วาเรกล่าวพร้อมหัวเราะเบาๆ

                    มารีนนั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่อเห็นเพื่อนต่างเพศทั้งสอง มีออร่าสีดำพุ่งกระฉูดราวกับน้ำป่าทะลัก

                    "ทำไงดี!! ทำไงดี!!" มารีนกล่าวกับตัวเองอย่างระส่ำระสาย

                    ระหว่างนั้นเพื่อนทั้งสองก็เริ่มซัดกันซะแล้ว คนในตลาดเริ่มมามุงดูกันแล้วพร้อมพนันกันว่าใครจะชนะ

                    โรมันเป็นธาติมืด อ่อนเรื่องความเร็ว งั้นเราก็เลือกธาติสายฟ้าสิ พอดีเลย!! โรมันโจมตีแรง แต่ถ้าเราหลบได้มันก็ไร้ผลน่ะซี่ วาเรคิดเอาเองในใจ พร้อมหัวเราะเบาๆเมื่อพบธาติที่ต้องการ
     
                  
    ‘สงสัยมันคิดอะไรได้แล้วสิ ยิ้มซะขนาดนั้น ก็ลองดูนะกั๊น ว่าใครจะแน่กว่ากัน’ โรคิด

                    "ลุยเลย!!! ลุยเลย!!!" พวกผู้ชมเริ่มเชียร์กันดังสนั่น

                    "มาเริ่มกันเลยดีกว่าโร" วาเรเอ่ย

                    "ขอมา เดี๋ยวจะจัดให้" โรตอบ

                    พอสิ้นเสียงโร วาเรก็เข้าประชิดตัวทันทีพร้อมตวัดเคียวตนใส่เต็มท้องของโร แต่ยังดีที่โรตั้งสติทันจึงโดนไปแค่ถากๆ แต่ก็เรียกเลือดออกมาได้ไม่น้อย โรตกใจเล็กน้อยกับการโจมตีเมื่อครู่จึงกล่าวขึ้น

                     "ตกลงเลือกสายฟ้าใช่มั้ย คิดอยู่ล่ะสิว่าธาติมืดอย่างชั้นน่ะอืด เลยคิดว่าธาติสายฟ้า เพราะจะหลบการโจมตีของชั้นง่ายใช่มั้ย ฉลาดไม่เบานี่ แต่ขอบอกว่าเสียใจด้วยเพราะเธอคิดผิด" เมื่อโรกล่าวยังไม่ทันจบโรก็ไปพิงหลังวาเรรออยู่แล้ว โรง้างหมัดสุดวงแขน วาเรหลับตาปี๋เตรียมรับชะตากรรม
     
                   "ล้อเล่นน่ะ ชั้นไม่สู้ให้เปลืองแรงหรอก" โรกล่าว วาเรค่อยๆลืมตาขึ้นแต่สายไปเสียแล้ว เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น
     
                   "ซากิทะเซลเอสอิคนีส ข้าแด่ราชาแห่งท้องทะเล จงมาเป็นพลังแก่ข้า ผนึกศัตรูของข้าให้สิ้นไป" มารีนร่ายเวทเตรียมผนึกพลังของโรที่มารีนคิดว่ากำลังจะทำร้ายวาเร และมีวงเวทเปล่งแสงสีฟ้าอ่อนๆโผล่ขึ้นมาจากใต้เท้าของโรและวาเร ทันใดนั้นอาวุธและออร่าของวาเรก็ไปเอาดื้อๆ ส่วนของโรนั้นเหมือนออร่าถูกดูดไปครึ่งนึง

                    "เห้ย!!!!" โรและวาเรร้องอุทานขึ้นพร้อมกัน พร้อมมองไปทางตัวต้นเหตุ
     
                   "มารีน!!!!" โรและวาเรพูดประสานเสียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย

                    "เธอทำอะไรลงไปน่ะ หา!!!!" ทั้งสองคนประสานเสียงกันอีกครั้ง

                    "เอ่อ พอดีเห็นว่าคุณโรกำลังจะทำร้ายคุณวาเรนี่คะ ชั้นก็เลยผนึกพลังไม่ให้คุณโรทำร้ายคุณวาเรได้ค่ะ แต่ไม่รู้ทำไมผนึกพลังคุณโรได้ครึ่งเดียวแต่ผนึกพลังคุณวาเรไปหมดเลยน่ะค่ะ สงสัยคุณโรพลังจะมากกว่าชั้นสองเท่าล่ะมั้งคะ" มารีนตอบด้วยน้ำเสียงและหน้าตาที่สำนึกผิดอย่างเต็มที่

                    "เวทของชั้นคงกักพลังของคุณวาเรและอีกครึ่งนึงของคุณโรได้อย่างมากก็แค่เดือนเดียวแหละค่ะ" มารีนกล่าวขึ้นอย่างสำนึกผิดอีกครั้ง
     
                   "รีบไปซื้อของกันเถอะเดี๋ยวจะมืดซะก่อน"
    โรรีบกล่าวขึ้นมาแล้วเดินไปโดยไม่รอคำตอบของทั้งสองคน
     
                   "จะไปไหนก็ไปเลยไป!!" วาเรพูดมาประชดโร แต่ต้องชะงักแล้วเดินตามไปเมื่อมีเสียงดังจากมารีน

                    "ขอชั้นไปด้วยคนสิคะ คุณโร" มารีนรีบวิ่งตามไปเมื่อกล่าวจบ แต่เมื่อไปทันโรมารีนก็สะดุดส้นสูงตัวเองลงไปร้องโอดโอยอยู่บนพื้น

                    "อ้าว!! มารีน!!เป็นอะไรรึเปล่าเดินไหวมั้ย" โรถามอย่างเป็นห่วง

                    "ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ชั้นเดินไหว" มารีนพยายามฝืนเดินด้วยท่าทางกะเผลก จนโรต้องไปอุ้มมารีนขึ้นมา มารีนหน้าขึ้นสีระเรื่อ ด้วยความเขินอาย

                    "ไม่ไหวก็อย่าฝืนสิ เดี๋ยวก็เจ็บเท้าอีกหรอก" โรตอบอย่างเป็นห่วง

                    "ไม่เป็นไรค่ะ ชั้นจะเดิน" มารีนพยายามดิ้น
     
                   "เห้ยๆ!! มารีนใจเย็นก่อนเดี๋ยวก็ได้ลงไปกองทั้งคู่หรอก" โรรีบปราม
     
                   มารีนยังดิ้นไม่หยุด จนได้ลงไปกองทั้งคู่จนได้ โรได้ลงไปเป็นเบาะรองของมารีน ใบหน้าของทั้งคู่นั้น อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ทำให้สีหน้าของทั้งคู่แดงระเรื่อ ถึงกระนั้นใบหน้าของทั้งคู่กลับใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าที่มีผมสีน้ำตาลแต่งเติม นัยตาสีน้ำเงินทอประกายเกล้า ส่วนฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้า ผมสีฟ้าที่ชุ่มเหงื่อจนเหลือบออกเงินยิ่งทำให้เหมือนคลื่นทะเลที่อ่อนไหวคลอเคลียไปกับใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาสีน้ำทะเลหลับตา เพื่อเตรียมรับลมหายใจที่คลอเคลียกัน..............................................................................................................................................................
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×