ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 เจ้าหญิงตัดสินคดี
“ปล่อยนะ!! ข้าไม่ได้ทำ!!!” โรตวาดใส่ทหารที่กำลังจับเข้าไปสอบสวนในวัง
“ไม่มีใครเชื่อแกหรอก แกก็แค่โจรกระจอกธรรมดาๆตัวนึง” ทหารยามตอบแบบดูถูกดูแคลน
“ปล่อยเขาได้แล้วจ้ะ” เสียงของเจ้าหญิงนีร่าได้ช่วยเขาเอาไว้
“เดี๋ยวชั้นจะจัดการเองนะ พวกเธอสองคนออกไปเฝ้าประตูเถอะ ชั้นไม่เป็นไรหรอก”
“ขอรับ” ทหารยามรับคำสั่งแล้วจึงรีบทำตาม
“มาเริ่มกันเถอะจ้ะ” เจ้าหญิงนีร่าพูดกับโร พร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ในเวลาเดียวกับโร นางมีผมสีเงินยาวถึงหัวเข่า นัยตาสีฟ้าอ่อนแสดงถึงความอ่อนโยน ใบหน้านวลอมชมพูดูงามได้โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางเลย โรได้แต่นั่งมองภาพนั้นเหมือนถูกมนตร์สะกด
“เอ่อ...คุณโรคะ??”
“คุณโรคะ” เจ้าหญิงพยายามเรียกโรที่ต้องมนตร์สะกดต่อ
เจ้าหญิงสูดลมหายเข้าลึกๆ แล้วเตรียมปล่อยออกมาสุดแรง
“คุณโรคะ!!!!!” เจ้าหญิงตะโกนออกไปสุดเสียงทำเอานางหน้าแดงแป้ด เหมือนจะเป็นลมเลยทีเดียว
“หะ?? ครับๆ” โรตอบรับแบบตกใจ
“เห้อ งั้นเริ่มเลยนะคะ ตามข้อกล่าวหาคุณไปลักทรัพย์ผู้อื่นมาแล้วนำไปหลอกขายกับเจ้าของร้านทอง จริงรึปล่าวคะ”
“จะ...จริงครับ” โรตอบอย่างตะกุกตะกัก
ทันใดนั้น เจ้าหญิงคนสำคัญก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาจนต้องนำมือมากุมศีรษะ ประกอบกับอาการเจ็บคอที่เธอต้องตะโกนเรียกโร เพื่อให้โรหลุดจากภวังค์ และนำมือไปนวดๆหัวอีกทีเพื่อที่จะให้เลือดในสมองไหลเวียนดีขึ้น โรซึ่งเห็นท่าทางผิดปรกติเหล่านั้นของเจ้าหญิง จึงถามด้วยความเป็นห่วง
“จะ.....เจ้าหญิงนีร่า......ปะ....เป็นอะไรรึเปล่าครับ” โรถามขึ้นด้วยเสียงตะกุกตะกัก
“อืมมมๆ.....ไม่เป็นไรๆ ฉันเวียนหัวกับเจ็บคอนิดหน่อย มาต่อกันเลยละกันนะ...” เจ้าหญิงนวดๆหัว พร้อมกระแอมทำให้พูดชัดเจนขึ้น
“ได้ครับ” โรตอบ
“คุณโรได้ไปหลอกขายทองปลอมกับร้าน ฮัตสัน จริงหรือ...มะ...” เมื่อเจ้าหญิงจะถามต่อ เธอก็ชะงัก แล้วเป็นลมไปดื้อๆ และร่างของเธอก็โงนเงน เอนไปเอนมา โรกลัวว่าเจ้าหญิงจะตกเก้าอี้ จึงพยุงตัวเธอขึ้น แต่ว่า....... เจ้าหญิงกลับ ล้มลงมาซบที่ตักของโรแทน
ตุ้บบ!!!!
“เหวอออ!! เจ้าหญิงครับ!!.....เจ้าหญิง!!” โรร้องเสียงหลงพร้อมกับตกใจเพราะไม่เคยมีหญิงคนไหนลงมาซบที่ตักของตนมาก่อน แถมหญิงคนนี้เป็นถึงเจ้าหญิงองค์สำคัญของอาณาจักร โรใบหน้าแดงฉ่าเต็มไปด้วยความเขินอาย
“เจ้าหญิงครับ...เจ้าหญิงนีร่า ใครก็ได้ช่วยทีเจ้าหญิงนีร่าที” โรรีบตะโกนให้คนมาช่วย โรรอสักพัก แต่ไม่มีใครมาช่วยเลย
‘สงสัยไอ้สองทหารยามมันแอบหนีไปเที่ยวชัวร์เลย’ โรคิด ด้วยความเป็นห่วง โรจึงตัดสินใจอุ้มเจ้าหญิงนีร่าออกไปจากห้อง โดยจะพาตัวเจ้าหญิงไปฝากกับนางกำนัล แต่...มีสิ่งหนึ่งกำลังจะขัดขวางเขา แต่สิ่งนั้นยังไม่แสดงกายออกมา
“ออกมาเถอะน่า...ชั้นรู้ว่าพวกแกซ่อนอยู่แถวนี้” เมื่อโรพูดจบก็มีร่างในชุดดำ 2 ร่างปรากฏขึ้นในสายตาของโร
“เก่งนี่...รู้ได้ไงว่าพวกข้าอยู่นี่” ชายในชุดดำถาม
“ถ้าข้าไม่บอกเจ้าจะทำไม” โรตอบแบบกวน...กลับ
“เออๆ ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรทั้งๆที่จะได้ตอบเป็นครั้งสุดท้าย” ชายชุดดำคนเดิมกล่าวต่อ
“คนที่จะตายคือแกต่างหาก” โรตอบด้วยน้ำน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมจิตสังหารรุนแรงทำให้ร่างในชุดดำร่างหนึ่งขาดอากาศหายใจลงไปกองกับพื้นเนื่องจากแรงกดดันมหาศาล ทันทีหลังจากร่างในชุดดำล้มลง โรเข้าประชิดชายชุดดำ
ฉัวะ!!! โรตวัดสีดำในมือเขาเพียงครั้งเดียว ศีรษะของชายชุดดำก็หล่นลงไปบนพื้นอย่างไม่ยากเย็น
"ฟาวาเรียยังคมเหมือนคมแฮะ" โรพูดชมดาบทมิฬของตนพร้อมลูบไปตามด้ามดาบ ฟาวาเรียนั้นเป็นดาบสองคมดาบนี้ได้ชื่อมาจากเมืองนี้ ภาพของวันหนึ่งเมื่อประมาน 11ปีที่แล้วปรากฏขึ้นมาในหัวของโร มีชายคนหนึ่งใต้ผ้าคลุม ได้ยื่นดาบเล่มนี้ให้โร พร้อมกับเด็กสาวคนหนึ่ง นั่นก็คือวาเรนี่เอง
"ข้าฝากดูวาเรด้วยนะ เจ้าต้องปกป้องและดูแลเธอด้วยดาบนี้ ดาบฟาวาเรีย" โรรับดาบเล่มที่ยาวเกินตัวของผู้ถือ ชายใต้ผ้าคลุมกล่าวพร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับโร โรเป็นกำพร้าตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของโรได้จบชีวิตลงในสงครามเมื่อโรเพิ่งอายุได้แค่ปีเดียว
“แต่
ข้ายังไม่มีวิชาอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว” โรในวัยเด็กกำลังพูดกับชายในผ้าคลุม
“ก็เอาสิเดี๋ยวชั้นจะสอนเอง รับรองแปบเดียวเสร็จ แต่ก่อนอื่นยื่นหน้ามานี่ซิ” ชายในผ้าคลุมอาสาจะสอนวิชาให้โร เมื่อโรฟังคำขอของชายในผ้าคลุมจบ โรก็ยื่นไปให้เขาทันที จากนั้นชายในผ้าคลุมก็นำมือข้างขวาที่มีออร่าสีดำหุ้มอยู่กดเข้าไปที่หน้าผากของโรอย่างเบาๆ แต่โรกลับกรีดร้องราวกับถูกมีดกรีดที่ใบหน้า
“อดทนไว้...ชั้นกำลังปลดผนึกพลังของนายที่หน้าผากก่อน” ชายใต้ผ้าคลุมกล่าวอย่างใจเย็น
“ข้ากำลังยัดวิชาและคาถาลับต่างๆที่ข้ารู้ เข้าไปในหัวของเจ้า”
“และจำไว้ อย่าเผยอาวุธให้คนอื่นเห็นถ้าไม่จำเป็น อีกอย่าง ธาติของนายคือ ธาติมืด อย่าพยายามใช้วิชาของธาติอื่น เพราะ จะทำให้พลังของวิชานั้นลดลงจากคนปกติที่ถนัดธาติเดียวกับวิชานั้นๆ และสุดท้ายอย่างใช้วิชาฟุ่มเฟือยถ้าไม่จำเป็นให้ใช้แต่ธาติที่ชนะศัตรูเท่านั้น และ หาท่าประจำตัวไม่สัก4 ท่าละกันแค่นี้ก็เอาชีวิตรอดได้แล้ว” ชายใต้ผ้าคลุมสั่งสอน
“และชั้นต้องไปแล้ว ลาก่อนเจ้าหนู” ชายใต้ผ้าคลุมกล่าวลา
"มันไม่จบง่ายขนาดนั้นหรอก" เสียงของชายชุดดำดังขึ้นมาทำให้โรหลุดจากภวังค์
"กี่ทีก็เหมือนเดิมแหละ" โรตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมตวัดดาบจากระยะไกล หลังจากนั้นไม่ถึงวินาทีหัวของชายชุดดำก็กระเด็นออกพร้อมเลือดสาดไปทั้งห้อง ยังดีที่โรกันร่างบางของเจ้าหญิงไว้ทัน นางจึงไม่เปื้อนเลือด ชายชุดดำคำรามลั่นออกมาอย่างเจ็บปวด
"นี่มัน...อั่ก...เพลงดาบสายลมนี่นา นึกว่าไม่มีคนใช้วิชานี้ได้อีกแล้วน่ะสิ วิชานี้เป็นวิชาต้องห้าม แล้วแกใช้ได้ยังไง" ชายชุดถามทั้งที่หัวกับตัวอยู่คนละทาง!!!!
"ตายยากจังวะ แกนี่น่ารำคาญจริง" โรสบถออกมาอย่างหงุดหงิด
"ตายง่ายก็ไม่มันสิ ฮ่าๆๆๆๆ" ชาย
ชุดดำกล่าวพร้อมหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ตาข้ามั่งล่ะ" ชายชุดดำกล่าวออกมาพร้อมเริ่มร่ายเวทบางอย่าง ทันใดนั้นก็มีโคลนไหลออกมา และเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นคล้ายมนุษย์อยู่ในท่าเตรียมโจมตี แต่โรก็ไม่รอช้าร่ายเวทออกมาเหมือนกัน
จุ๋มมมม!! พอสิ้นอักษรสุดท้ายของมนตร์ ร่างโคลนของชายชุดดำก็ถูกสูบจมลงไปในธรณีหายไปจากสายตา โรอาศัยโอกาสขณะชายชุดดำกำลังตะลึงกับผลงานของเขา โรเข้าประชิดด้วยความเร็วดุจปีศาจ พร้อมนำมือซ้ายที่มีบางอย่างคล้ายลูกบอลสีดำอัดเข้าใส่ลำตัวของชายชุดดำ ทำให้ร่างนั้นปลิวไปกระแทกกำแพงของปราสาทเป็นรูใหญ่เลยทีเดียว แต่ชายชุดกลับลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย โดยมีแผลเหวอะหวะที่โรฝากไว้บนกลางลำตัวทำให้เสื้อดำขาดรุ่งริ่ง แต่ร่างนั้นไม่มีทีท่าจะรู้สึกเจ็บเลยสักนิดเดียว
"ยังไม่ตายอีกเรอะ ประมาทไม่ได้แล้วนะเนี่ย" โรตอบแบบลากเสียงกวนๆ
"ข้าน่ะถึงขีดสุดแล้ว แต่ข้าไม่ยอมหรอกข้าจะลากแกและเจ้าหญิงไปตายเป็นเพื่อน ฮ่าๆๆๆๆ" ชายชุดดำกล่าวพร้อมหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง อีกไม่กี่วินาที ร่างของชายชุดดำก็เริ่มปริออก เหมือนกำลังจะระเบิด!!!
"ชิ!!" โรสบถพร้อมรีบกางบาเรียสีดำเพื่อป้องกันเจ้าหญิงนีร่าจากการโจมตีของชายชุดดำ ส่วนโรวิ่งเข้าไปหาชายชุดดำเพื่อจะยับยั้งการระเบิด เพราะโรรู้ดีว่าลำพังเขาคนเดียวไม่สามารถทนต่อแรงระเบิดได้แน่นอน
บึ้มมมม!!!!!!!!!! การระเบิดตัวเองของชายชุดดำทำเอากำแพงปราสาทบริเวณใกล้เคียงแหลกเป็นขุยผง ส่วนโรนั้นลงไปนอนกับพื้นหมดสติไปเลยทีเดียว...............
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น