คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รักวุ่นๆของแม่สื่อตัวร้ายกับนายกระจอก
......รักวุ่นๆของแม่สื่อตัวร้าย กะนายกระจอก
"ไอ้หม่อน ไอ้หม่อนโว้ย!!! เฮ้ย!!! เป็นบ้าอะไรว่ะ นี่ฉันเรียกแกตั้งนานแล้วนะโว้ย นั่งเหม่อหานางฟ้าคนสวยของแกอยู่รึไงหะ!!" นายบอมตะโกนใส่หูของไอ้เพื่อนซี้หน้าตี๋ที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกร้านเกมส์อยู่มานานสองนาน
"เออ...แล้วจะตะโกนหาพระแสงอะไรฟะ" หนุ่มหน้าตี๋นามว่านายหม่อนหันมาทำหน้าเซ็งๆใส่ไอ้เพื่อนสุดซี้
"ตกลงวันนี้แกจะไปเคลียร์น้ำหวานกับฉันมั้ยว่ะ" นายบอมบ์ถามนายหม่อน เพราะตอนนี้เขามีปัญหากับแฟนสาวสุดเอาแต่ใจ เพราะเธอจับได้ว่าเขาแอบไปมีกิ๊ก
"อีกแล้วหรอว่ะ คบกันไม่ถึงปีง้อกันมาร้อยกว่ารอบแล้วนะเว้ย"
"ใครมันจะเหมือนเอ็งวะไอ้หม่อน ไม่ง้อแต่เลิกกันเลย ผุ้ชายแบบเอ็งน่ะ ดีเกินไป" คำพูดของนายบอมเหมือนมีดทิ่มแทงใจนายหม่อน เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน แฟนสาวของนายหม่อนดันบอกเลิกเขา เพราะเหตุผลว่าเขาดีเกินไป
"อย่าย้ำกันได้มั้ยว่ะ แล้วแกจะไปตอนไหนเนี่ย"
"นี่ไงไปกันเลย" นายบอมบ์พูดจบก็กระชากนายหม่อนไปเป็นเพื่อน
นายบอมบ์นัดกับน้ำหวานแฟนสาวที่ร้านไอศครีมหน้าโรงเรียนของยัยน้ำหวาน ทั้งนายบอมบ์และนายหม่อนนั่งรออยู่นานกว่าที่ยัยน้ำหวานจะโผล่มาให้เห็น และไม่ใข่แค่เธอมาคนเดียว ยังมีเพื่อนของยัยน้ำหวานตามาด้วยอีก 1 คน
"เพื่อนของแฟนเอ็งเป็นทอมรึเปล่าว่ะไอ้บอมบ์" นายหม่อนแอบซุบซิบระหว่างที่สองสาวเดินมาทางโต๊ะ เพราะเห็นว่าเพื่อนสาวที่เดินมากับน้ำหวานท่าทางกระโดกกระเดกเหมือนผู้ชาย
"ไม่รู้ว่ะ น่าจะไม่ใช่" นายบอมบ์เองก็พูดไม่เต็มปากว่าหญิงสาวที่เดินมาด้วยน้ำหวานแฟนของตนนั้นเป็นทอมรึเปล่า ก็คุณเธอซอยผมสั้น ผอมสูง เหมือนกับผู้ชายเลยนี่นา
"น้ำหวาน!!!! ทางนี้" นายหม่อนตะโกนเรียกแฟนของเพื่อน ก็นายบอมบ์ตัวดีดันนั่งตัวแข็งทื่อไม่ยอมพูดยอมจาซะนี่
"หวัดดีบอมบ์ หวัดดีหม่อน นี่เพื่อนของน้ำหวานนะ ชื่อปลายหญ้า" น้ำหวานแนะนำปลายหญ้า ให้นายบอมบ์และนายหม่อนรู้จัก
ทั้งปลายหญ้าและนายหม่อนแยกตัวออกมาจากโต๊ะเพื่อให้นายบอมบ์และยัยน้ำหวานได้เคลียร์ปัญหากัน
"เธอชื่อปลาย่างหรอ"
พรวด...ด.... ปลายหญ้าถึงกับสำลักน้ำโค้กที่เธอกำลังดื่มอยู่
"ปลายหญ้าย่ะ!!! นี่หูนายไม่ได้แคะรึไงหา ไอ้ตี๋!!!!"
"แคะ!!! แต่ฉันได้ยินว่าปลาย่างนี่นา เลยนึกอยู่เหมือนกันว่าคนบ้าอะไรชื่อปลาย่าง" นายหม่อนทำหน้าตากวนประสาท เพราะผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขากำลังนั่งโกรธเขาจนตัวสั่น
"ชิ!!!! เออนี่...ฉันถามอะไรหน่อยดิ" ยัยปลายหญ้าถลกแขนเสื้อนักเรียนขึ้นนิดนึงก่อนที่จะนั่งเอามือมาพาดไว้บนโต๊ะ ซึ่งนายหม่อนดูแล้วยังคิดอยู่ในใจ ทอมชัวร์!!! หน้าตาก็ดี ไม่น่าเป็นทอมเลย
"ถามอะไร"
"นายบอมบ์เพื่อนของนายอ่ะ แอบซ่อนใครเอาไว้บ้างรึเปล่า นอกจากยัยน้ำหวานเพื่อนของฉันน่ะ"
"ไม่มีนี่...ถามทำไม"
"โกหก!!!! นายเป็นเพื่อนกับนายบอมบ์ ยังไงนายก็ต้องปกป้องเพื่อนของนายอยู่แล้ว"
"แล้วเธอมาถามฉันทำไม ถามแล้วก็ไม่เชื่อ" นายหม่อนงงกับผู้หญิงตรงหน้า สับสนทางเพศแล้วยังสับสนทางอารมณ์อีกนะเนี่ย
"นายกำลังนินทานอยู่ใช่ไหม" นายหม่อนถึงกับสะดุ้ง นี่แม่คุณเป็นหมอดูรึไงกัน
"ใครนินทาเธอ ร้อนตัวรึเปล่า"
"ถ้ายัยน้ำหวานเพื่อนฉันต้องเสียใจเพราะไอ้บอมบ์เพื่อนนายอีกครั้งล่ะก็ ตายแน่ นายด้วย!!!!"
"เกี่ยวอะไรกับฉันเนี่ย"
"เพราะว่าพวกนายสองคนเป็นเพื่อนกัน นายบอมบ์ไปทำอะไรไม่ดีมา นายก็ต้องรู้ ในเมื่อนายรู้แต่นายไม่ห้าม นั่นแสดงว่านายผิด!!!" ปลายหญ้ามองหนุ่มหน้าตี๋ตรงหน้าอย่างตาขวาง
"เฮ้ย!!! เรื่องตัวก็ไม่ใช่ ยังจะมาโดนคาดโทษอีก" นายหม่อนบ่นอุบอิบ ยัยปลายหญ้าก็ขยันส่งสายตาอำมหิตมาให้เขาเสียเหลือเกิน
"หญ้า!!! คือว่า...วันนี้น่ะ...." ปลายหญ้ามองหน้าเพื่อนสาวตรงหน้าที่พูดตะกุกตะกัก ซึ่งเธอพอจะเดาได้ว่าอาการของเพื่อนสนิทคนนี้คืออะไร
"แกจะกลับบ้านพร้อมแฟนแกใช่มั้ย ธ่อ....แล้วแกลากฉันมาทำไมเนี่ย เฮ้อ...งั้นฉันกลับล่ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้" ปลายหญ้าขยี้หัวน้ำหวานเบาๆ ส่วนน้ำหวานก็บีบจมูกปลายหญ้าเป็นเชิงหยอกล้อ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาสองคู่ได้จับจ้องอยู่และสงสัยกับความสัมพันธ์ระหว่างปลายหญ้าและน้ำหวานมาก โดยเฉพาะหนุ่มหน้าตี๋นามว่านายหม่อน
ร่างบางของปลายหญ้าเดินออกจากร้าน แต่เธอไม่ได้มุ่งหน้ากลับบ้านหากเพียงสองเท้าของเธอได้พาเธอไปร้านหนังสือที่อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียน
ปลายหญ้ายืนอ่านหนังสือจนเพลินจนลืมไปว่าตอนนี้มันเลยเวลากลับบ้านของเธอมามากแล้ว หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือดูถึงกับตาโต
"เฮ้ย!! นี่มันเกือบสองทุ่มแล้วหรอว่ะ โอย...โดนแม่ด่าเปิงแน่งานนี้" ปลายหญ้ารีบคว้ากระเป๋านักเรียนออกจากร้านหนังสือและขึ้นรถเมล์กลับบ้านทันที
ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ เธอรู้สึกว่าด้านหลังของเธอมีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องอยู่ เมื่อเธอหันไปก็พบหนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นนั่งส่งยิ้มแหยๆมาให้เธอ
"รุ้จักกันด้วยหรอ" หลังจากที่หนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นเดินจากด้านหลังมาทรุดตัวนั่งลงข้างๆเธอ ปลายหญ้าก็ยิงคำถามใส่ทันที ทำเอาคนที่เพิ่งมานั่งถึงกับหน้าเสีย
"นี่เธอสมองเสื่อมป่ะเนี่ย เราเพิ่งเจอกันเมื่อตอนเย็นนะ" ปลายหญ้ามองพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าอย่างละเอียด
"อ้อ!!! ไอ้ตี๋เพื่อนไอ้บอมแฟนไอ้น้ำหวานเพื่อนของฉัน" นายหม่อนถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง เพราะไม่คิดว่ายัยปลาย่างของเขาจะพูดจาติดตลกขนาดนี้
"ฮ่าๆๆๆๆๆ เธอนี้บ๊องแล้วยังตลกอีกนะ"
"นายว่าฉันบ๊องหรอไอ้ตี๋!!!!!"
"ก็ใช่น่ะสิ ฮ่าๆๆๆ เออ..นี่เธอห้ามเรียกฉันว่าไอ้ตี๋นะ"
"ทำไม!!!! ฉันจะเรียกนายว่าไอ้ตี๋ นายจะทำไม"
"ฉันก็จะเรียกเธอว่ายัยปลาย่าง หรือไม่ก็...ยัยทอม!!!!"
"ฮึ่ม!!! ไอ้ตี๋"
"ฉันขี้เกียจเถียงกับเธอแล้ว ฉันต้องลงตรงนี้ ไปและนะ" นายหม่อนเดินลงจากรถหลังจากที่รถเมล์จอดที่ป้ายหน้าปากซอยเข้าบ้านเขา ทิ้งให้ยัยทอม นั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่บนรถ
"นี่นายติสท์ นายอย่าพูดอะไรหมาๆแบบนี้นะ ถ้าฉันไม่เห็นกับตาฉันไม่ตั้งท่าวีนนายแน่ นายก็รู้นี่นาว่าฉันเป็นคนยังไง จับไม่ได้คาหนังคาเขาฉันไม่หาเรื่องหรอกย่ะ แล้วนายอย่าพูดพล่อยๆว่าฉันหึงนายจนควันออกหูนะ ฉันไม่หึงคนอย่างนายหรอก เรื่องของเรามันจบลงแล้ว ไปตายซะไป!!!!" ปลายหญ้าเกือบจะเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือในมือทิ้งไปแล้ว แต่จิตใต้สำนึกสั่งให้เธอชักมือไว้ทัน เสียงทะเลาะของปลายหญ้าที่ตะคอกใส่โทรศัพท์เมื่อกี้สร้างความสงสัยให้กับผู้ชายที่ยืนอยู่อีกด้านของชั้นวางหนังสือ ด้วยความอยากรู้ชายหนุ่มจึงแอบมามองต้นเสียงที่ดังไม่เกรงใจคนแถวมุมหนังสือการ์ตูนในร้านหนังสือ
แต่ด้วยความบังเอิญหรืออะไรไม่รู้ ทำให้ดวงตาคู่กลมของหญิงสาวหันมาสบตากับดวงตาของชายหนุ่มพอดีเป๊ะ
"ไอ้ตี๋!!!!"
"ยัยปลาย่าง"
"นายแอบฟังฉันหรอยะ"
"ฉันไม่ได้แอบฟังเธอนะ ก็เธอเล่นพูดดังซะหลายเดซิเบล อยู่บนชั้นบรรยากาศชั้นเอกซ์โซสเฟียร์ยังได้ยินเลย"
"ก็คนมันโมโหนี่หว่า ผู้ชายมันก็เลวเหมือนกันหมดทุกคนนั่นแหละ ปากบอกว่าไม่มีแฟนใหม่แล้วไอ้ที่ควงแขนมันอยู่แฟนหรือหมาว่ะ" คนหน้าตี๋ที่เป็นผู้ชายอยู่ถึงกับสะดุ้งเฮือก
"นี่เธอ!!! ผู้ชายไม่ได้เลวไปซะทุกคนนะ คนดีๆก็ยังมีอีกตั้งเยอะ" นายหม่อนลากยัยปลายหญ้าออกมาจากร้านหนังสือ เพราะเขารู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองกลายเป็นเป้าสายตาของคนเกือบทั้งร้านไปแล้ว ก็ยายปลาย่างเล่นตะโกนซะเสียงดัง
"นี่นายจะพาฉันไปไหนน่ะ" ยัยปลายหญ้าแว๊ดใส่นายหม่อน จนเขาต้องปล่อยข้อมือของเธอและจับร่างบางเล็กให้นั่งลงที่เก้าอี้ม้านั่งตรงสวนสาธารณะใกล้ๆร้านหนังสือเมื่อครู่
"ก็พามาอธิบายไง ทำไมเธอถึงชอบว่าผู้ชายเลวไปซะทุกคนหา!!!!"
"ก็มันจริงนี่"
"ไม่จริง เธออคติกับผู้ชายมากกว่า ผู้ชายดีๆก็มีถมไป"
"ดีๆที่นายว่า นายใช่มั้ย ดีเกินไป" คำพูดเย้ยหยันของปลายหญ้าเล่นเอานายหม่อนสะดุ้งเฮือก ไม่ใช่เพราะน้ำเสียงของเธอแต่เป็นเพราะคำว่าดีเกินไปที่เธอพูดออกมาต่างหาก
"......ปลายหญ้า" นายหม่อนเรียกชื่อยัยปลายหญ้าเบาๆ เขาเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นเคร่งขรึมซึ่งเป็นสีหน้าที่ปลายหญ้าไม่เคยเห็นมาก่อน
"มีอะไร" ยัยปลายหญ้ามองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสงสัย
"ผู้หญิงน่ะ ชอบคนเลวหรือคนดีกันแน่.....ฉันได้ยินที่เธอวีนใส่แฟนเธอทางโทรศัพท์เพราะว่าเขามีผู้หญิงคนใหม่ แสดงว่าเค้าเลวใช่มั้ย...."
"อือ...." ปลายหญ้าไม่รู้จะตอบคำถามนายหม่อนว่ายังไงดี เพราะจู่ๆนายหม่อนก็เปลี่ยนมาเป็นบทขรึมในทันที
"แล้วทำไม....ผู้หญิงถึงบอกเลิกผู้ชายด้วยเหตุผลที่ว่าเธอดีเกินไปล่ะ" คำพูดของนายหม่อนเล่นเอาปลายหญ้าถึงกับอึ้ง เธอเองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันเพราะผู้ชายที่ดีเกินไปก็จะถูกบอกเลิกด้วยเหตุผลนี้ ส่วนผู้ชายที่เลวก็ถูกบอกเลิก ตกลงผู้หญิงชอบผู้ชายแบบไหนกันแน่
"ทำไมนายถามอย่างนี้ล่ะ" นายหม่อนไม่ตอบคำถามคนข้างๆแต่เขาหันมาสบตาเธอแทนคำตอบ ทำเอายัยปลายหญ้าที่ดูภายนอกกระโดกกระเดกเหมือนผู้ชายถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
"เย็นมากแล้ว....กลับบ้านกันเถอะ" นายหม่อนลุกขึ้นก่อนที่จะคว้ากระเป๋านักเรียนของตัวเองมาสะพายไว้บนหลังและไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋านักเรียนของปลายหญ้ามาถือไว้ในมือ
"ไม่ต้องหรอก ฉันถือเองได้" ยัยปลายหญ้าแย่งกระเป๋านักเรียนคืนมาจากนายหม่อน
"เออ...ถามหน่อยสิปลายหญ้า ตกลงนี่เธอเป็นโสดใช่มั้ย"
"ก็....อืม"
"นี่เธอรู้มั้ย ตอนแรกฉันนึกว่าเธอเป็นทอมซะอีก แต่ที่ไหนได้ เธอมีแฟนนี่นา"
"นี่นายตี๋...นายหาว่าฉันเป็นทอมหรอ"
"ก็ท่าทางของเธอมันบ่งบอกซะขนาดนี้นี่นา เออจริงด้วย....ฉันลืมถามไปเลย ฉันเจอเธอในร้านหนังสือบ่อยๆ เห็นเธอชอบเดินวนเวียนอยู่ตรงการ์ตูนแอ๊คชั่น เธอชอบแนวนั้นหรอ"
"ใช่สิ..ฉันชอบการ์ตูนแนวแอ๊คชั่นบู๊ล้างผลาญมาก" ยัยปลายหญ้าทำตาวิ้งๆเป็นประกาย เรียกเสียงหัวเราะจากนายหม่อน เพราะทั้งคู่ต่างก็ชอบการ์ตูนแนวเดียวกัน
เวลาผ่านไป เหตุการณ์ก็เริ่มจะดีไปด้วย เพราะตอนนี้ยัยปลายหญ้ากับนายหม่อนต่างก็สนิทกันเป็นอย่างมาก ทุกเย็นถ้าไม่ติดเรียนพิเศษทั้งสองก็จะนัดเจอกันที่ร้านหนังสือเพื่อพูดคุยและกลับบ้านด้วยกัน เช่นเดียวกับวันนี้
"ปลายหญ้า....เธออยู่ที่ไหนเนี่ย.....ฉันมารอเธอที่ร้านไอติมข้างร้านหนังสือตั้งนานแล้วนะ" นายหม่อนกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์หวังแกล้งปลายสาย เพราะเขาเองเพิ่งจะมาถึงเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว
"นายหม่อนหรอ...วันนี้ฉันคงไปไม่ได้แล้วล่ะ ขอโทษนะที่ผิดนัด....พอดีฉันมีธุระด่วนน่ะ"
"ธุระหรอ....อืม ไว้วันหลังค่อยเจอกันก็ได้" นายหม่อนหน้าสลดลงไปนิดนึงก่อนที่จะวางโทรศัพท์ และเดินไปจ่ายเงินค่าน้ำที่เคาน์เตอร์
ครืด....ครืด....ครืด....นายหม่อนรีบคว้าโทรศัพท์หวังให้เบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์ของยัยปลายหญ้า แต่นายหม่อนต้องผิดหวังอีกรอบเพราะเบอร์ที่โทรมาคือแม่ของเขา
"ครับแม่ ได้ครับ เดี๋ยวหม่อนไปซื้อให้" นายหม่อนวางโทรศัพท์จากแม่ปุ๊บก็รีบมุ่งหน้าไปยังซูปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ใกล้โรงเรียนของปลายหญ้าเพื่อซื้อของที่แม่สั่ง
หลังจากที่ซื้อของให้แม่เสร็จนายหม่อนก็มุ่งหน้าจะกลับบ้าน แต่ทว่าตาตี๋ของนายหม่อนดันไปสะดุดกับร่างบางของผู้หญิงในชุดนักเรียนที่คุ้นตาเขายิ่งนัก นายหม่อนสาวเท้าไปยังร่างนั้นทันที แต่ก่อนที่เขาจะเรียกชื่อเธอ ชายหนุ่มที่อยู่อีกฝั่งของถนนก็วิ่งเข้ามาหาเธอก่อนหน้าเขาเพียงนิดเดียว
นายหม่อนจึงต้องหลบอยู่หลังเสาเพื่อไม่ให้สองคนนั้นเห็นเขา
"ปลายหญ้า!!!! เอานี่ เราให้" กระป๋องน้ำอัดลมถูกชูขึ้นมาตรงหน้าปลายหญ้าเธอรับมันมาอย่างปฏิเสธไม่ได้
"ขอบใจนะนายติสท์ ตกลงที่นายชวนฉันมาที่นี่นายมีเรื่องอะไรจะพูดกับฉัน"
"เรากลับมาคบกันได้มั้ยหญ้า" นายติสท์รวบรวมความกล้าถามปลายหญ้าขึ้นมา ซึ่งยัยปลายหญ้าเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะนายติสท์เองที่เป็นคนผิดคำพูดจนเธอทนไม่ไหวต้องบอกเลิกเขาไป และเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะแคร์เธอมากกว่าผู้หญิงคนนั้น แล้วทำไมตอนนี้นายติสท์ถึงอยากกลับมาคบกับเธออีก ถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวเขาจะอยู่บนรถไฟฟ้า แต่คำพูดที่นายติสท์ขอกลับมาเริ่มต้นใหม่กับยัยปลายหญ้าและยัยปลายหญ้ายังไม่มีทีท่าว่าจะปฏิเสธนายติสท์นั้นยังคงวงเวียนอยู่ในหัวสมองของนายหม่อน เขาคงคิดไปเองฝ่ายเดียวสินะว่าตลอดเวลาที่ได้สนิทกับปลายหญ้านั้นเธอเองก้มีใจให้เขาเหมือนที่ตัวเขามีใจให้เธอ แต่นายหม่อนเพิ่งรู้ตัวว่าเขาคิดผิด เพราะยัยหม่อนยังรักนายติสท์อยู่และเขาทั้งสองกำลังจะกลับมาคบกันในอีกไม่ช้านี้
หลายวันมาแล้วที่นายหม่อนคอยเลี่ยงที่จะเจอปลายหญ้าและเลี่ยงที่จะรับโทรศัพท์เธอ เพราะเขาเองก้ไม่รู้ว่าจะเจอเธออีกทำไมในเมื่อตอนนี้ยัยปลายหย้าคงกำลังสวีทหวานอยู่กับนายติสท์
"เฮ้ยไอ้หม่อนเอ็งเป็นอะไรไปวะช่วงนี้ไม่ค่อยร่าเริ่งเลยว่ะ" นายบอมบ์ถามเพื่อนซี้ขึ้นเพราะหลายวันมานี้นายหม่อนดูเงียบผิดหูผิดตาไป
"เปล่านี่หว่า ข้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย"
"เออ...แล้ววันนี้ตกลงเอ็งจะไปเที่ยวงานของโรงเรียนน้ำหวานกับข้ามั้ยวะ" งานของโรงเรียนน้ำหวาน...ถ้าไปก็ต้องเจอปลายหญ้าสินะ
"ไม่ดีกว่า ข้าอยากกลับบ้านไปอ่านหนังสือ"
"เฮ้ย!!! ไม่ไปไม่ได้นะโว้ย งานนี้เอ็งจะต้องไปเป็นเพื่อนข้า ห้ามปฏิเสธ เลิกเรียนเจอกัน" นายบอมบ์ใช้ไม่ตายมัดมือชกนายหม่อนจนเขายอมไปด้วย
งานประจำปีของโรงเรียนที่ยัยน้ำหวานและปลายหญ้าเรียนอยู่นั้นจัดขึ้นอย่างใหญ่โต เพราะปีนี้เป็นปีที่ครบ 100 ปีของโรงเรียนด้วย มีการออกร้านของนักเรียนแต่ละห้องและร้านค้าอื่นๆที่มาร่วมขายของ ทั้งนักเรียน อาจารย์ รวมถึงผู้สนใจคนอื่นๆก็เข้ามาร่วมสนุกกันอย่างเนืองแน่น นายหม่อนและนายบอมบ์ซึ่งตอนนี้มาอยู่ที่ซุ้มลูกโป่งของยัยน้ำหวานเรียบร้อยแล้ว
"หวัดดีหม่อน" เสียงเรียกที่คุ้นหูของนายหม่อนทำให้เขาต้องหันกลับไปที่ต้นเสียงทันที ใช่เธอจริงๆด้วย...ปลายหญ้า
"หวัดดีหญ้า"
"ไม่คิดว่าจะเจอนายที่นี่ ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ"
"อะ..เอ่อ..."
"ถ้านายไม่อยากคุยกับฉันก็ไม่เป็นไร" สีหน้าของปลายหญ้าสลดลงเล็กน้อยก่อนที่เธอจะเดินผ่านหน้านายหม่อนไปแต่แขนเล็กๆของเธอก็ถูกนายหม่อนคว้าเอาไว้
"งั้นก็ไปสิ จะไปคุยที่ไหนกันดีล่ะ" คราวนี้นายหม่อนเองที่เป็นฝ่ายพูดขึ้น
ยัยปลายหญ้าพานายหม่อนมาที่ศาลาน้ำตกที่ๆคิดว่าน่าจะมีคนอยู่น้อยที่สุดและก็เป็นเช่นนั้นเพราะในศาลานี้ไม่มีใครอยู่เลย
"เธอมีอะไรก็ว่ามาสิ" นายหม่อนเป็นคนพูดทำลายความเงียบ ที่ชวนให้ทั้งสองคนอึดอัด
"นายหลบหน้าฉันทำไม ทำไมนายไม่รับโทรศัพท์ฉันเลย" น้ำเสียงของปลายหญ้าสั่นเล็กน้อย ซึ่งนั่นทำให้หัวใจของนายหม่อนอ่อนยวบ
"เธอจะมาเจอฉันอีกทำไม เดี๋ยวแฟนเธอก็ไม่พอใจเอาหรอก"
"แฟนฉัน...นายหมายความว่าไง"
"ก็นายติสท์แฟนเก่าเธอน่ะสิ...เอ๊ะแต่ตอนนี้คงไม่ใช่แล้วล่ะ เพราะเธอกับเขากลับมาคบกันแล้วนี่" ยัยปลายหญ้าประติดประต่อเรื่องอยู่นานกว่าจะถึงบางอ้อ เหตุที่นายหม่อนไม่รับโทรศัพท์เธอเลยเพราะอย่างนี้นี่เอง
"นี่นายไปแอบฟังฉันมาหรอ"
"ฉันไม่ได้แอบฟังนะ บังเอิญฉันเจอเธอและจะเข้าไปทักแต่ดันได้ยินเสียก่อน"
"โธ่เอ้ย...จะฟังก็ฟังไม่จบ"
"ไม่จบยังไง....ก็เธอเงียบ แสดงว่าเธอยอมรับเขาแล้วล่ะสิ"
"นายนี่จริงๆเลยนะ ชอบเดาเหตุการณ์ไปเองอยู่เรื่อย ที่ฉันเงียบเพราะฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะปฏิเสธเขาไปยังไง แต่นายดันไม่อยู่ฟังให้จบแถมยังคิดเองเออเองว่าฉันจะกลับไปคบกับนายติสท์อีก"
"งั้นหมายความเธอไม่ได้คบกับนายติสท์ใช่มั้ย" ด้วยความดีใจนายหม่อนรีบคว้ามือเล็กๆของยัยปลายหญ้าเข้ามาถือไว้ ทำให้ใบหน้าขาวๆของปลายหญ้าถึงกับแดงเป็นลูกตำลึงสุกขึ้นมาทันที
"ก็..ใช่น่ะสิ ในเมื่อฉันไม่ได้ชอบเขาแล้วฉันจะคบกับเขาทำไมล่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นแล้วตอนนี้เธอชอบใครอยู่อ่ะ"
"จะบ้าหรอ...ฉันเป็นผู้หญิงนะ" เมื่อเห็นสาวห้าวๆอย่างยัยปลายหญ้าแสดงอาการเขินขึ้นมานายหม่อนจึงอดที่แกล้งเธอไม่ได้
"โธ่ปลายหญ้า...บอกฉันหน่อยเถอะนะว่าเธอชอบใคร"
"บอกไปแล้วนายจะไปทำอะไรเขา"
"ฉันก็จะไปอัดมันน่ะสิ"
"นายจะไปอัดเขาทำไม"
"ไปอัดมัน โทษฐานที่มันมาแย่งแฟนฉัน" นายหม่อนไม่พูดเปล่ายังจ้องหน้าปลายหญ้าด้วยแววตาจริงจัง
"ขี้ตู่ ใครเป็นแฟนนาย ฉันตกลงเป็นแฟนนายตั้งแต่เมื่อไหร่กันยะ"
"ไม่รู้ล่ะ เธอเป็นแฟนฉันแล้ว ฉันชอบเธอนะปลายหญ้า แล้วเธอล่ะคิดยังไงกับฉัน" นายหม่อนตัดสินใจรวบรวมความกล้าแล้วบอกออกไป ทำเอายัยปลายหญ้าถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก
"ไม่รู้!!!!"
"ปลายหญ้า แสดงว่าเธอชอบใครที่ไม่ใช่ฉันงั้นหรอ บอกฉันมานะว่ามันเป็นใคร ฉันจะไปอัดมันให้เละคามือฉันเลย"
"ถ้าฉันบอกแล้วนายจะไปอัดเขาจริงๆหรอ"
"ก็ใช่น่ะสิ ฉันจะไปอัดมันแล้วบอกมันว่าอย่ามายุ่งกับแฟนของฉันอีก"
"ถ้าอย่างนั้น.....ฉันชอบนาย....." คราวนี้นายหม่อนเองที่เป็นฝ่ายอึ้งจนพูดอะไรไม่ถูกแทน
"จริงหรอหญ้า"
"จริงสิ นายอย่าลืมที่บอกล่ะ...ว่านายจะไปอัดมัน...เจ็บตัวหน่อยนะนายหม่อน" ยัยปลายหญ้ายิ้มอย่างคนชนะ ส่วนนายหม่อน ถึงแม้จะต้องอัดตัวเองแต่เขาก็ยอมเพราะยอมเจ็บตัวเพียงเล็กน้อย แต่กลับได้คนที่รู้ใจมาแทนมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
ความคิดเห็น