ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOVE @ school...

    ลำดับตอนที่ #2 : รักวุ่นๆของแม่สื่อตัวร้ายกับนายกระจอก

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 52


    ......รักวุ่นๆของแม่สื่อตัวร้าย กะนายกระจอก

    "ไอ้หม่อน  ไอ้หม่อนโว้ย!!!  เฮ้ย!!! เป็นบ้าอะไรว่ะ นี่ฉันเรียกแกตั้งนานแล้วนะโว้ย  นั่งเหม่อหานางฟ้าคนสวยของแกอยู่รึไงหะ!!"  นายบอมตะโกนใส่หูของไอ้เพื่อนซี้หน้าตี๋ที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกร้านเกมส์อยู่มานานสองนาน

    "เออ...แล้วจะตะโกนหาพระแสงอะไรฟะ"  หนุ่มหน้าตี๋นามว่านายหม่อนหันมาทำหน้าเซ็งๆใส่ไอ้เพื่อนสุดซี้

    "ตกลงวันนี้แกจะไปเคลียร์น้ำหวานกับฉันมั้ยว่ะ"  นายบอมบ์ถามนายหม่อน เพราะตอนนี้เขามีปัญหากับแฟนสาวสุดเอาแต่ใจ  เพราะเธอจับได้ว่าเขาแอบไปมีกิ๊ก

    "อีกแล้วหรอว่ะ  คบกันไม่ถึงปีง้อกันมาร้อยกว่ารอบแล้วนะเว้ย"

    "ใครมันจะเหมือนเอ็งวะไอ้หม่อน ไม่ง้อแต่เลิกกันเลย  ผุ้ชายแบบเอ็งน่ะ ดีเกินไป"  คำพูดของนายบอมเหมือนมีดทิ่มแทงใจนายหม่อน เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน แฟนสาวของนายหม่อนดันบอกเลิกเขา เพราะเหตุผลว่าเขาดีเกินไป

    "อย่าย้ำกันได้มั้ยว่ะ แล้วแกจะไปตอนไหนเนี่ย"

    "นี่ไงไปกันเลย"  นายบอมบ์พูดจบก็กระชากนายหม่อนไปเป็นเพื่อน

          นายบอมบ์นัดกับน้ำหวานแฟนสาวที่ร้านไอศครีมหน้าโรงเรียนของยัยน้ำหวาน  ทั้งนายบอมบ์และนายหม่อนนั่งรออยู่นานกว่าที่ยัยน้ำหวานจะโผล่มาให้เห็น และไม่ใข่แค่เธอมาคนเดียว ยังมีเพื่อนของยัยน้ำหวานตามาด้วยอีก 1 คน
    "เพื่อนของแฟนเอ็งเป็นทอมรึเปล่าว่ะไอ้บอมบ์"  นายหม่อนแอบซุบซิบระหว่างที่สองสาวเดินมาทางโต๊ะ เพราะเห็นว่าเพื่อนสาวที่เดินมากับน้ำหวานท่าทางกระโดกกระเดกเหมือนผู้ชาย

    "ไม่รู้ว่ะ  น่าจะไม่ใช่"   นายบอมบ์เองก็พูดไม่เต็มปากว่าหญิงสาวที่เดินมาด้วยน้ำหวานแฟนของตนนั้นเป็นทอมรึเปล่า    ก็คุณเธอซอยผมสั้น ผอมสูง  เหมือนกับผู้ชายเลยนี่นา

    "น้ำหวาน!!!! ทางนี้"  นายหม่อนตะโกนเรียกแฟนของเพื่อน  ก็นายบอมบ์ตัวดีดันนั่งตัวแข็งทื่อไม่ยอมพูดยอมจาซะนี่

    "หวัดดีบอมบ์  หวัดดีหม่อน  นี่เพื่อนของน้ำหวานนะ ชื่อปลายหญ้า"   น้ำหวานแนะนำปลายหญ้า  ให้นายบอมบ์และนายหม่อนรู้จัก   

       ทั้งปลายหญ้าและนายหม่อนแยกตัวออกมาจากโต๊ะเพื่อให้นายบอมบ์และยัยน้ำหวานได้เคลียร์ปัญหากัน

    "เธอชื่อปลาย่างหรอ"

       พรวด...ด....   ปลายหญ้าถึงกับสำลักน้ำโค้กที่เธอกำลังดื่มอยู่ 

    "ปลายหญ้าย่ะ!!!  นี่หูนายไม่ได้แคะรึไงหา  ไอ้ตี๋!!!!"

    "แคะ!!!  แต่ฉันได้ยินว่าปลาย่างนี่นา  เลยนึกอยู่เหมือนกันว่าคนบ้าอะไรชื่อปลาย่าง"  นายหม่อนทำหน้าตากวนประสาท เพราะผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขากำลังนั่งโกรธเขาจนตัวสั่น

    "ชิ!!!!  เออนี่...ฉันถามอะไรหน่อยดิ"  ยัยปลายหญ้าถลกแขนเสื้อนักเรียนขึ้นนิดนึงก่อนที่จะนั่งเอามือมาพาดไว้บนโต๊ะ  ซึ่งนายหม่อนดูแล้วยังคิดอยู่ในใจ  ทอมชัวร์!!!  หน้าตาก็ดี  ไม่น่าเป็นทอมเลย

    "ถามอะไร"

    "นายบอมบ์เพื่อนของนายอ่ะ  แอบซ่อนใครเอาไว้บ้างรึเปล่า  นอกจากยัยน้ำหวานเพื่อนของฉันน่ะ"  

    "ไม่มีนี่...ถามทำไม"

    "โกหก!!!!  นายเป็นเพื่อนกับนายบอมบ์ ยังไงนายก็ต้องปกป้องเพื่อนของนายอยู่แล้ว"

    "แล้วเธอมาถามฉันทำไม  ถามแล้วก็ไม่เชื่อ"  นายหม่อนงงกับผู้หญิงตรงหน้า  สับสนทางเพศแล้วยังสับสนทางอารมณ์อีกนะเนี่ย

    "นายกำลังนินทานอยู่ใช่ไหม"  นายหม่อนถึงกับสะดุ้ง  นี่แม่คุณเป็นหมอดูรึไงกัน

    "ใครนินทาเธอ  ร้อนตัวรึเปล่า"

    "ถ้ายัยน้ำหวานเพื่อนฉันต้องเสียใจเพราะไอ้บอมบ์เพื่อนนายอีกครั้งล่ะก็  ตายแน่  นายด้วย!!!!"

    "เกี่ยวอะไรกับฉันเนี่ย"     

    "เพราะว่าพวกนายสองคนเป็นเพื่อนกัน นายบอมบ์ไปทำอะไรไม่ดีมา นายก็ต้องรู้ ในเมื่อนายรู้แต่นายไม่ห้าม นั่นแสดงว่านายผิด!!!"  ปลายหญ้ามองหนุ่มหน้าตี๋ตรงหน้าอย่างตาขวาง

    "เฮ้ย!!! เรื่องตัวก็ไม่ใช่ ยังจะมาโดนคาดโทษอีก"  นายหม่อนบ่นอุบอิบ ยัยปลายหญ้าก็ขยันส่งสายตาอำมหิตมาให้เขาเสียเหลือเกิน

    "หญ้า!!! คือว่า...วันนี้น่ะ...."  ปลายหญ้ามองหน้าเพื่อนสาวตรงหน้าที่พูดตะกุกตะกัก ซึ่งเธอพอจะเดาได้ว่าอาการของเพื่อนสนิทคนนี้คืออะไร

    "แกจะกลับบ้านพร้อมแฟนแกใช่มั้ย  ธ่อ....แล้วแกลากฉันมาทำไมเนี่ย เฮ้อ...งั้นฉันกลับล่ะ  แล้วเจอกันพรุ่งนี้"  ปลายหญ้าขยี้หัวน้ำหวานเบาๆ ส่วนน้ำหวานก็บีบจมูกปลายหญ้าเป็นเชิงหยอกล้อ  โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาสองคู่ได้จับจ้องอยู่และสงสัยกับความสัมพันธ์ระหว่างปลายหญ้าและน้ำหวานมาก โดยเฉพาะหนุ่มหน้าตี๋นามว่านายหม่อน

        ร่างบางของปลายหญ้าเดินออกจากร้าน  แต่เธอไม่ได้มุ่งหน้ากลับบ้านหากเพียงสองเท้าของเธอได้พาเธอไปร้านหนังสือที่อยู่ใกล้ๆกับโรงเรียน 

    ปลายหญ้ายืนอ่านหนังสือจนเพลินจนลืมไปว่าตอนนี้มันเลยเวลากลับบ้านของเธอมามากแล้ว  หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือดูถึงกับตาโต

    "เฮ้ย!! นี่มันเกือบสองทุ่มแล้วหรอว่ะ  โอย...โดนแม่ด่าเปิงแน่งานนี้"  ปลายหญ้ารีบคว้ากระเป๋านักเรียนออกจากร้านหนังสือและขึ้นรถเมล์กลับบ้านทันที 

    ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ  เธอรู้สึกว่าด้านหลังของเธอมีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องอยู่  เมื่อเธอหันไปก็พบหนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นนั่งส่งยิ้มแหยๆมาให้เธอ

    "รุ้จักกันด้วยหรอ"  หลังจากที่หนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นเดินจากด้านหลังมาทรุดตัวนั่งลงข้างๆเธอ ปลายหญ้าก็ยิงคำถามใส่ทันที ทำเอาคนที่เพิ่งมานั่งถึงกับหน้าเสีย

    "นี่เธอสมองเสื่อมป่ะเนี่ย  เราเพิ่งเจอกันเมื่อตอนเย็นนะ"  ปลายหญ้ามองพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าอย่างละเอียด

    "อ้อ!!! ไอ้ตี๋เพื่อนไอ้บอมแฟนไอ้น้ำหวานเพื่อนของฉัน"  นายหม่อนถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง เพราะไม่คิดว่ายัยปลาย่างของเขาจะพูดจาติดตลกขนาดนี้

    "ฮ่าๆๆๆๆๆ  เธอนี้บ๊องแล้วยังตลกอีกนะ"

    "นายว่าฉันบ๊องหรอไอ้ตี๋!!!!!"

    "ก็ใช่น่ะสิ ฮ่าๆๆๆ  เออ..นี่เธอห้ามเรียกฉันว่าไอ้ตี๋นะ"

    "ทำไม!!!!  ฉันจะเรียกนายว่าไอ้ตี๋ นายจะทำไม"

    "ฉันก็จะเรียกเธอว่ายัยปลาย่าง หรือไม่ก็...ยัยทอม!!!!"

    "ฮึ่ม!!! ไอ้ตี๋"

    "ฉันขี้เกียจเถียงกับเธอแล้ว  ฉันต้องลงตรงนี้ ไปและนะ"  นายหม่อนเดินลงจากรถหลังจากที่รถเมล์จอดที่ป้ายหน้าปากซอยเข้าบ้านเขา  ทิ้งให้ยัยทอม  นั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่บนรถ

     
    "นี่นายติสท์  นายอย่าพูดอะไรหมาๆแบบนี้นะ  ถ้าฉันไม่เห็นกับตาฉันไม่ตั้งท่าวีนนายแน่  นายก็รู้นี่นาว่าฉันเป็นคนยังไง  จับไม่ได้คาหนังคาเขาฉันไม่หาเรื่องหรอกย่ะ  แล้วนายอย่าพูดพล่อยๆว่าฉันหึงนายจนควันออกหูนะ  ฉันไม่หึงคนอย่างนายหรอก  เรื่องของเรามันจบลงแล้ว  ไปตายซะไป!!!!"  ปลายหญ้าเกือบจะเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือในมือทิ้งไปแล้ว  แต่จิตใต้สำนึกสั่งให้เธอชักมือไว้ทัน  เสียงทะเลาะของปลายหญ้าที่ตะคอกใส่โทรศัพท์เมื่อกี้สร้างความสงสัยให้กับผู้ชายที่ยืนอยู่อีกด้านของชั้นวางหนังสือ  ด้วยความอยากรู้ชายหนุ่มจึงแอบมามองต้นเสียงที่ดังไม่เกรงใจคนแถวมุมหนังสือการ์ตูนในร้านหนังสือ 
       แต่ด้วยความบังเอิญหรืออะไรไม่รู้ ทำให้ดวงตาคู่กลมของหญิงสาวหันมาสบตากับดวงตาของชายหนุ่มพอดีเป๊ะ

    "ไอ้ตี๋!!!!"

    "ยัยปลาย่าง"

    "นายแอบฟังฉันหรอยะ"

    "ฉันไม่ได้แอบฟังเธอนะ  ก็เธอเล่นพูดดังซะหลายเดซิเบล  อยู่บนชั้นบรรยากาศชั้นเอกซ์โซสเฟียร์ยังได้ยินเลย"

    "ก็คนมันโมโหนี่หว่า  ผู้ชายมันก็เลวเหมือนกันหมดทุกคนนั่นแหละ  ปากบอกว่าไม่มีแฟนใหม่แล้วไอ้ที่ควงแขนมันอยู่แฟนหรือหมาว่ะ"  คนหน้าตี๋ที่เป็นผู้ชายอยู่ถึงกับสะดุ้งเฮือก

    "นี่เธอ!!!  ผู้ชายไม่ได้เลวไปซะทุกคนนะ คนดีๆก็ยังมีอีกตั้งเยอะ"   นายหม่อนลากยัยปลายหญ้าออกมาจากร้านหนังสือ  เพราะเขารู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองกลายเป็นเป้าสายตาของคนเกือบทั้งร้านไปแล้ว  ก็ยายปลาย่างเล่นตะโกนซะเสียงดัง 

    "นี่นายจะพาฉันไปไหนน่ะ"  ยัยปลายหญ้าแว๊ดใส่นายหม่อน  จนเขาต้องปล่อยข้อมือของเธอและจับร่างบางเล็กให้นั่งลงที่เก้าอี้ม้านั่งตรงสวนสาธารณะใกล้ๆร้านหนังสือเมื่อครู่

    "ก็พามาอธิบายไง  ทำไมเธอถึงชอบว่าผู้ชายเลวไปซะทุกคนหา!!!!"

    "ก็มันจริงนี่"  

    "ไม่จริง  เธออคติกับผู้ชายมากกว่า  ผู้ชายดีๆก็มีถมไป"

    "ดีๆที่นายว่า  นายใช่มั้ย  ดีเกินไป"  คำพูดเย้ยหยันของปลายหญ้าเล่นเอานายหม่อนสะดุ้งเฮือก  ไม่ใช่เพราะน้ำเสียงของเธอแต่เป็นเพราะคำว่าดีเกินไปที่เธอพูดออกมาต่างหาก

    "......ปลายหญ้า"  นายหม่อนเรียกชื่อยัยปลายหญ้าเบาๆ เขาเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นเคร่งขรึมซึ่งเป็นสีหน้าที่ปลายหญ้าไม่เคยเห็นมาก่อน

    "มีอะไร"  ยัยปลายหญ้ามองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสงสัย

    "ผู้หญิงน่ะ ชอบคนเลวหรือคนดีกันแน่.....ฉันได้ยินที่เธอวีนใส่แฟนเธอทางโทรศัพท์เพราะว่าเขามีผู้หญิงคนใหม่ แสดงว่าเค้าเลวใช่มั้ย...."

    "อือ...."  ปลายหญ้าไม่รู้จะตอบคำถามนายหม่อนว่ายังไงดี เพราะจู่ๆนายหม่อนก็เปลี่ยนมาเป็นบทขรึมในทันที

    "แล้วทำไม....ผู้หญิงถึงบอกเลิกผู้ชายด้วยเหตุผลที่ว่าเธอดีเกินไปล่ะ"  คำพูดของนายหม่อนเล่นเอาปลายหญ้าถึงกับอึ้ง เธอเองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันเพราะผู้ชายที่ดีเกินไปก็จะถูกบอกเลิกด้วยเหตุผลนี้ ส่วนผู้ชายที่เลวก็ถูกบอกเลิก  ตกลงผู้หญิงชอบผู้ชายแบบไหนกันแน่

    "ทำไมนายถามอย่างนี้ล่ะ"  นายหม่อนไม่ตอบคำถามคนข้างๆแต่เขาหันมาสบตาเธอแทนคำตอบ  ทำเอายัยปลายหญ้าที่ดูภายนอกกระโดกกระเดกเหมือนผู้ชายถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

    "เย็นมากแล้ว....กลับบ้านกันเถอะ"  นายหม่อนลุกขึ้นก่อนที่จะคว้ากระเป๋านักเรียนของตัวเองมาสะพายไว้บนหลังและไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋านักเรียนของปลายหญ้ามาถือไว้ในมือ

    "ไม่ต้องหรอก ฉันถือเองได้"  ยัยปลายหญ้าแย่งกระเป๋านักเรียนคืนมาจากนายหม่อน

    "เออ...ถามหน่อยสิปลายหญ้า  ตกลงนี่เธอเป็นโสดใช่มั้ย"

    "ก็....อืม" 

    "นี่เธอรู้มั้ย ตอนแรกฉันนึกว่าเธอเป็นทอมซะอีก  แต่ที่ไหนได้ เธอมีแฟนนี่นา"

    "นี่นายตี๋...นายหาว่าฉันเป็นทอมหรอ"

    "ก็ท่าทางของเธอมันบ่งบอกซะขนาดนี้นี่นา  เออจริงด้วย....ฉันลืมถามไปเลย  ฉันเจอเธอในร้านหนังสือบ่อยๆ เห็นเธอชอบเดินวนเวียนอยู่ตรงการ์ตูนแอ๊คชั่น เธอชอบแนวนั้นหรอ"

    "ใช่สิ..ฉันชอบการ์ตูนแนวแอ๊คชั่นบู๊ล้างผลาญมาก"  ยัยปลายหญ้าทำตาวิ้งๆเป็นประกาย เรียกเสียงหัวเราะจากนายหม่อน เพราะทั้งคู่ต่างก็ชอบการ์ตูนแนวเดียวกัน

       
         เวลาผ่านไป เหตุการณ์ก็เริ่มจะดีไปด้วย เพราะตอนนี้ยัยปลายหญ้ากับนายหม่อนต่างก็สนิทกันเป็นอย่างมาก  ทุกเย็นถ้าไม่ติดเรียนพิเศษทั้งสองก็จะนัดเจอกันที่ร้านหนังสือเพื่อพูดคุยและกลับบ้านด้วยกัน เช่นเดียวกับวันนี้

    "ปลายหญ้า....เธออยู่ที่ไหนเนี่ย.....ฉันมารอเธอที่ร้านไอติมข้างร้านหนังสือตั้งนานแล้วนะ"  นายหม่อนกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์หวังแกล้งปลายสาย  เพราะเขาเองเพิ่งจะมาถึงเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว

    "นายหม่อนหรอ...วันนี้ฉันคงไปไม่ได้แล้วล่ะ ขอโทษนะที่ผิดนัด....พอดีฉันมีธุระด่วนน่ะ"

    "ธุระหรอ....อืม  ไว้วันหลังค่อยเจอกันก็ได้"  นายหม่อนหน้าสลดลงไปนิดนึงก่อนที่จะวางโทรศัพท์ และเดินไปจ่ายเงินค่าน้ำที่เคาน์เตอร์

    ครืด....ครืด....ครืด....นายหม่อนรีบคว้าโทรศัพท์หวังให้เบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์ของยัยปลายหญ้า  แต่นายหม่อนต้องผิดหวังอีกรอบเพราะเบอร์ที่โทรมาคือแม่ของเขา

    "ครับแม่  ได้ครับ เดี๋ยวหม่อนไปซื้อให้"  นายหม่อนวางโทรศัพท์จากแม่ปุ๊บก็รีบมุ่งหน้าไปยังซูปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ใกล้โรงเรียนของปลายหญ้าเพื่อซื้อของที่แม่สั่ง 
       หลังจากที่ซื้อของให้แม่เสร็จนายหม่อนก็มุ่งหน้าจะกลับบ้าน แต่ทว่าตาตี๋ของนายหม่อนดันไปสะดุดกับร่างบางของผู้หญิงในชุดนักเรียนที่คุ้นตาเขายิ่งนัก  นายหม่อนสาวเท้าไปยังร่างนั้นทันที แต่ก่อนที่เขาจะเรียกชื่อเธอ ชายหนุ่มที่อยู่อีกฝั่งของถนนก็วิ่งเข้ามาหาเธอก่อนหน้าเขาเพียงนิดเดียว
    นายหม่อนจึงต้องหลบอยู่หลังเสาเพื่อไม่ให้สองคนนั้นเห็นเขา

    "ปลายหญ้า!!!!  เอานี่ เราให้" กระป๋องน้ำอัดลมถูกชูขึ้นมาตรงหน้าปลายหญ้าเธอรับมันมาอย่างปฏิเสธไม่ได้

    "ขอบใจนะนายติสท์ ตกลงที่นายชวนฉันมาที่นี่นายมีเรื่องอะไรจะพูดกับฉัน" 

    "เรากลับมาคบกันได้มั้ยหญ้า"  นายติสท์รวบรวมความกล้าถามปลายหญ้าขึ้นมา  ซึ่งยัยปลายหญ้าเองก็ตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะนายติสท์เองที่เป็นคนผิดคำพูดจนเธอทนไม่ไหวต้องบอกเลิกเขาไป และเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะแคร์เธอมากกว่าผู้หญิงคนนั้น แล้วทำไมตอนนี้นายติสท์ถึงอยากกลับมาคบกับเธออีก   ถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวเขาจะอยู่บนรถไฟฟ้า แต่คำพูดที่นายติสท์ขอกลับมาเริ่มต้นใหม่กับยัยปลายหญ้าและยัยปลายหญ้ายังไม่มีทีท่าว่าจะปฏิเสธนายติสท์นั้นยังคงวงเวียนอยู่ในหัวสมองของนายหม่อน เขาคงคิดไปเองฝ่ายเดียวสินะว่าตลอดเวลาที่ได้สนิทกับปลายหญ้านั้นเธอเองก้มีใจให้เขาเหมือนที่ตัวเขามีใจให้เธอ แต่นายหม่อนเพิ่งรู้ตัวว่าเขาคิดผิด เพราะยัยหม่อนยังรักนายติสท์อยู่และเขาทั้งสองกำลังจะกลับมาคบกันในอีกไม่ช้านี้

       หลายวันมาแล้วที่นายหม่อนคอยเลี่ยงที่จะเจอปลายหญ้าและเลี่ยงที่จะรับโทรศัพท์เธอ เพราะเขาเองก้ไม่รู้ว่าจะเจอเธออีกทำไมในเมื่อตอนนี้ยัยปลายหย้าคงกำลังสวีทหวานอยู่กับนายติสท์
    "เฮ้ยไอ้หม่อนเอ็งเป็นอะไรไปวะช่วงนี้ไม่ค่อยร่าเริ่งเลยว่ะ"  นายบอมบ์ถามเพื่อนซี้ขึ้นเพราะหลายวันมานี้นายหม่อนดูเงียบผิดหูผิดตาไป

    "เปล่านี่หว่า ข้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย"

    "เออ...แล้ววันนี้ตกลงเอ็งจะไปเที่ยวงานของโรงเรียนน้ำหวานกับข้ามั้ยวะ"  งานของโรงเรียนน้ำหวาน...ถ้าไปก็ต้องเจอปลายหญ้าสินะ

    "ไม่ดีกว่า ข้าอยากกลับบ้านไปอ่านหนังสือ"

    "เฮ้ย!!! ไม่ไปไม่ได้นะโว้ย งานนี้เอ็งจะต้องไปเป็นเพื่อนข้า ห้ามปฏิเสธ เลิกเรียนเจอกัน"  นายบอมบ์ใช้ไม่ตายมัดมือชกนายหม่อนจนเขายอมไปด้วย

       งานประจำปีของโรงเรียนที่ยัยน้ำหวานและปลายหญ้าเรียนอยู่นั้นจัดขึ้นอย่างใหญ่โต เพราะปีนี้เป็นปีที่ครบ 100 ปีของโรงเรียนด้วย มีการออกร้านของนักเรียนแต่ละห้องและร้านค้าอื่นๆที่มาร่วมขายของ ทั้งนักเรียน อาจารย์ รวมถึงผู้สนใจคนอื่นๆก็เข้ามาร่วมสนุกกันอย่างเนืองแน่น  นายหม่อนและนายบอมบ์ซึ่งตอนนี้มาอยู่ที่ซุ้มลูกโป่งของยัยน้ำหวานเรียบร้อยแล้ว

    "หวัดดีหม่อน"  เสียงเรียกที่คุ้นหูของนายหม่อนทำให้เขาต้องหันกลับไปที่ต้นเสียงทันที  ใช่เธอจริงๆด้วย...ปลายหญ้า

    "หวัดดีหญ้า"

    "ไม่คิดว่าจะเจอนายที่นี่ ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ"

    "อะ..เอ่อ..."

    "ถ้านายไม่อยากคุยกับฉันก็ไม่เป็นไร"  สีหน้าของปลายหญ้าสลดลงเล็กน้อยก่อนที่เธอจะเดินผ่านหน้านายหม่อนไปแต่แขนเล็กๆของเธอก็ถูกนายหม่อนคว้าเอาไว้

    "งั้นก็ไปสิ จะไปคุยที่ไหนกันดีล่ะ"  คราวนี้นายหม่อนเองที่เป็นฝ่ายพูดขึ้น

       ยัยปลายหญ้าพานายหม่อนมาที่ศาลาน้ำตกที่ๆคิดว่าน่าจะมีคนอยู่น้อยที่สุดและก็เป็นเช่นนั้นเพราะในศาลานี้ไม่มีใครอยู่เลย

    "เธอมีอะไรก็ว่ามาสิ"  นายหม่อนเป็นคนพูดทำลายความเงียบ ที่ชวนให้ทั้งสองคนอึดอัด

    "นายหลบหน้าฉันทำไม ทำไมนายไม่รับโทรศัพท์ฉันเลย"  น้ำเสียงของปลายหญ้าสั่นเล็กน้อย ซึ่งนั่นทำให้หัวใจของนายหม่อนอ่อนยวบ

    "เธอจะมาเจอฉันอีกทำไม เดี๋ยวแฟนเธอก็ไม่พอใจเอาหรอก"

    "แฟนฉัน...นายหมายความว่าไง"

    "ก็นายติสท์แฟนเก่าเธอน่ะสิ...เอ๊ะแต่ตอนนี้คงไม่ใช่แล้วล่ะ เพราะเธอกับเขากลับมาคบกันแล้วนี่"  ยัยปลายหญ้าประติดประต่อเรื่องอยู่นานกว่าจะถึงบางอ้อ เหตุที่นายหม่อนไม่รับโทรศัพท์เธอเลยเพราะอย่างนี้นี่เอง

    "นี่นายไปแอบฟังฉันมาหรอ"

    "ฉันไม่ได้แอบฟังนะ บังเอิญฉันเจอเธอและจะเข้าไปทักแต่ดันได้ยินเสียก่อน"

    "โธ่เอ้ย...จะฟังก็ฟังไม่จบ"

    "ไม่จบยังไง....ก็เธอเงียบ  แสดงว่าเธอยอมรับเขาแล้วล่ะสิ"

    "นายนี่จริงๆเลยนะ ชอบเดาเหตุการณ์ไปเองอยู่เรื่อย  ที่ฉันเงียบเพราะฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะปฏิเสธเขาไปยังไง แต่นายดันไม่อยู่ฟังให้จบแถมยังคิดเองเออเองว่าฉันจะกลับไปคบกับนายติสท์อีก"

    "งั้นหมายความเธอไม่ได้คบกับนายติสท์ใช่มั้ย"  ด้วยความดีใจนายหม่อนรีบคว้ามือเล็กๆของยัยปลายหญ้าเข้ามาถือไว้ ทำให้ใบหน้าขาวๆของปลายหญ้าถึงกับแดงเป็นลูกตำลึงสุกขึ้นมาทันที

    "ก็..ใช่น่ะสิ ในเมื่อฉันไม่ได้ชอบเขาแล้วฉันจะคบกับเขาทำไมล่ะ"

    "ถ้าอย่างนั้นแล้วตอนนี้เธอชอบใครอยู่อ่ะ"

    "จะบ้าหรอ...ฉันเป็นผู้หญิงนะ"  เมื่อเห็นสาวห้าวๆอย่างยัยปลายหญ้าแสดงอาการเขินขึ้นมานายหม่อนจึงอดที่แกล้งเธอไม่ได้

    "โธ่ปลายหญ้า...บอกฉันหน่อยเถอะนะว่าเธอชอบใคร"

    "บอกไปแล้วนายจะไปทำอะไรเขา"

    "ฉันก็จะไปอัดมันน่ะสิ"

    "นายจะไปอัดเขาทำไม"

    "ไปอัดมัน โทษฐานที่มันมาแย่งแฟนฉัน"  นายหม่อนไม่พูดเปล่ายังจ้องหน้าปลายหญ้าด้วยแววตาจริงจัง

    "ขี้ตู่ ใครเป็นแฟนนาย ฉันตกลงเป็นแฟนนายตั้งแต่เมื่อไหร่กันยะ"

    "ไม่รู้ล่ะ เธอเป็นแฟนฉันแล้ว ฉันชอบเธอนะปลายหญ้า แล้วเธอล่ะคิดยังไงกับฉัน"  นายหม่อนตัดสินใจรวบรวมความกล้าแล้วบอกออกไป ทำเอายัยปลายหญ้าถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก

    "ไม่รู้!!!!"

    "ปลายหญ้า แสดงว่าเธอชอบใครที่ไม่ใช่ฉันงั้นหรอ  บอกฉันมานะว่ามันเป็นใคร ฉันจะไปอัดมันให้เละคามือฉันเลย"

    "ถ้าฉันบอกแล้วนายจะไปอัดเขาจริงๆหรอ"

    "ก็ใช่น่ะสิ ฉันจะไปอัดมันแล้วบอกมันว่าอย่ามายุ่งกับแฟนของฉันอีก"

    "ถ้าอย่างนั้น.....ฉันชอบนาย....."  คราวนี้นายหม่อนเองที่เป็นฝ่ายอึ้งจนพูดอะไรไม่ถูกแทน

    "จริงหรอหญ้า"

    "จริงสิ นายอย่าลืมที่บอกล่ะ...ว่านายจะไปอัดมัน...เจ็บตัวหน่อยนะนายหม่อน"  ยัยปลายหญ้ายิ้มอย่างคนชนะ ส่วนนายหม่อน ถึงแม้จะต้องอัดตัวเองแต่เขาก็ยอมเพราะยอมเจ็บตัวเพียงเล็กน้อย แต่กลับได้คนที่รู้ใจมาแทนมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×