ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลิงฤทธิ์...พิศวาส

    ลำดับตอนที่ #1 : อดีตที่แสนเจ็บปวด

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 51


       แสงดาวในยามราตรีส่งประกายระยิบระยับไปทั่วทั้งท้องฟ้า  ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว และกางเกงแสล็กสีดำกำลังนั่งหมุนแก้วทรงหรูที่ใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ครึ่งแก้ว ก่อนที่เขาจะกระดกเหล้าทั้งแก้วรวดเดียวลงคอจนหมดแก้วแล้วแก้วเล่า

    "นายครับ...นี่มันดึกมากแล้วนะครับ ผมว่า....."  เสียงเข้มของลูกน้องคนสนิทพูดขึ้น เพราะเจ้านายหนุ่มของเขายังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดื่มง่ายๆ

    "ไม่ต้องพูด...พวกนายกลับไปก่อนได้เลย...ฉันขออยู่ที่นี่สักพัก"  ดวงหน้าขาวคม ดวงตาดุจพยาเหยี่ยวที่แฝงไปด้วยความเย็นชานั้นหันมาสั่งกับลูกน้องของตัวเองด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามแบบฉบับ

    "แต่พรุ่งนี้นายมีประชุมผู้บริหารแต่เช้านะครับ"

    "เออน่า..ฉันยังไหวอยู่" ศิวากร หนุ่มนักธุรกิจวัย 30 ผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าของศิวากรุ๊ปคนที่ 3 หันมาตวาดใส่ลูกน้องคนสนิท

    "ครับเจ้านาย"  หลังจากที่ลูกน้องคนสนิทหายลับไปจากชั้นดาดฟ้าของอาคาร 9 ชั้นอย่างบริษัทศิวากรุ๊ปที่ตอนนี้ชั้นดาดฟ้าได้กลายมาเป็นห้องส่วนตัวเล็กๆของศิวากร เจ้าของศิวากรุ๊ปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

    "พ่อครับ...พ่อมองผมอยู่ใช่ไหมครับ..." ศิวกรแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าก่อนที่จะรำพึงกับตัวเอง 

      สิการณ์ ศิวภูมิพัตน์ นักธุรกิจวัย 60 ผู้เป็นเจ้าของศิวากรุ๊ปรุ่นที่ 2 ได้จากโลกนี้ไปด้วยโรคทางประสาท หลังจากผู้ที่เป็นภรรยาที่รักยิ่งของเขาได้จากเขาไปอยู่กับสามีใหม่ที่ต่างประเทศพร้อมทั้งทิ้งลูกชายวัยเพียง 5 ขวบไว้ให้อยู่กับเขาตามลำพัง  สิการณ์ต้องบริหารงานที่นับวันยิ่งจะเติบโตและยิ่งใหญ่ขึ้นพร้อมๆกับดูแลลูกชายคนเดียวของเขาไปด้วย นั่นคือ..ศิวากร ศิวภูมิพัตน์  ศิวากร 
       หลังจากที่สิการณ์ได้จากโลกนี้ไปแล้วเหลือเพียงแต่ศิวากรเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้สานต่อศิวากรุ๊ปเจ้าของโรงแรมชั้นนำแนวหน้าของเมืองไทยหลายแห่ง ด้วยวัยเพียง 22 ทำให้ศิวากรถูกจับตามองจากนักธุรกิจในวงการเดียวกัน แต่เขาก็พิสูจน์ความสามารถให้ทุกคนได้เห็นว่า เขา..ก็มีฝีมือการบริหารที่ไม่ได้แย่ไปกว่าพ่อหรือปู่ของเขาเลย แต่ในทางกลับกัน เขากลับมีฝีมือในการบริหารดีเยี่ยมกว่าบรรพบุรุษเสียอีก  

      ศิวากรจึงกลายเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและฝีมือในอีกไม่กี่ปีต่อมา

    ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด..... โทรศัพท์มือถือราคาแพงส่งสัญญาณดังขึ้น  มือใหญ่ของชายหนุ่มกดรับ

    "ว่าไงนุกูล"  นุกูล ลูกน้องคนสนิทที่เพิ่งจะแยกจากเขาไปไม่กี่นาทีนี้เองได้โทรมา

    "เจ้านายครับ คือว่าทางสายที่อยู่ที่อังกฤษแจ้งมาว่า...."

    "ว่าอะไร"  เสียงเข้มของชายหนุ่มฟังดูร้อนรนนัก

    "คุณหญิงวิจิตรากับคุณหนูทรรศศิการณ์จะกลับมาเมืองไทยอาทิตย์หน้าครับ"

    "ว่าไงนะ!!!! ผู้หญิงคนนั้นจะกลับมาอยู่ที่นี่หรอ...หึหึ งั้นก็ดีแล้ว"  ชายหนุ่มหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ก่อนที่จะกดตัดสายโทรศัพท์ไปเสียดื้อๆ  

    "พ่อครับ..ผู้หญิงคนนั้นจะกลับมาแล้วนะครับ...ผมจะทำให้เค้ารู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง แต่ผมจะไม่ทำให้เค้าเจ็บปวดโดยตรงหรอกนะครับ เพราะยังไงเค้าก็คือคนที่อุ้มท้องผมมาตั้งเก้าเดือน แต่ผมจะทำให้ผู้หญิงที่มากับเขานี่สิครับเจ็บปวดมากยิ่งกว่าผม"  ชายหนุ่มหยิบรูปของหญิงสาววัยเพียง 23 ออกมาจากลิ้นชักในโต๊ะทำงาน  ดวงหน้าหวานใส และดวงตากลมโต ที่ชายใดเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์  เธอคือ ทรรศศิการณ์  ลูกสาวของแม่เขาและผู้ชายคนใหม่  ผู้หญิงที่มาแย่งชิงความรักและทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตเขา  เขาต้องทนเห็นพ่อของตัวเองเจ็บปวดเพราะแม่ทิ้งไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่เมืองนอก  พ่อของเขากลายเป็นคนละคนก็เพราะแม่ และเขาต้องใช้ชีวิตต่อสู้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง ความเจ็บปวดทุกสิ่งทุกอย่างที่แน่นิ่งอยู่ใจใจบัดนี้ได้ถูกสะกิดจนกลายเป็นเป็นความทรงจำที่ยากจะลบเลือน

    "ฉันเจ็บปวดมามาก แต่เธอต้องเจ็บมากยิ่งกว่าฉันทรรศศิการณ์"

    .................................................



    โฮะๆๆๆๆ  สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน เรื่องนี้ก็อเป็นเรื่องที่ 2 แล้วนะคะ
    รับรองว่าสนุกกว่าเรื่องแรกแน่นอน
    พระเอกจะร้ายกว่าเรื่องแรงกมากมาย
    เรียกว่าร้ายยิ่งกว่าร้ายเสียอีก
    แต่ร้ายๆก็มีส่วนใจดีกับเขาเหมือนกันนะคะ^^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×