NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [REST] Jet On The Floor | กำราบรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : Episode 3 { 100% }

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 63








    Episode 3


    อยากให้ค้างไหมผมถามออกไปพร้อมเอื้อมมือไปปลดสายคาดเบลท์ให้ลูกหว้าที่ยังคงนั่งนิ่ง

    อยาก...ในจังหวะที่ผมโน้มตัวเข้าไปใกล้ เธอก็กระซิบตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา พอเหลือบสายตามองใบหน้าสวยนั้น ใจผมก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เธอช้อนสายตาขึ้นมองผมอย่างออดอ้อน แก้มของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ

    เวรแล้วไอ้เจ็ท มึงจะตื่นเพียงเพราะโดนผู้หญิงช้อนตามองไม่ได้!

    ผมรีบผละตัวออกมา เพราะรู้สึกว่าถูกจู่โจม บางทีคงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างกายของเธอ ปกติเธอแทบไม่อยากเห็นหน้าผมด้วยซ้ำไป

    เธอ...น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยเรียกผมเบาๆ ในตอนที่ผมกำลังจะก้าวลงจากรถ คิดว่าวันหนึ่ง...เราจะไปจากกันได้ไหม

    ...คำถามนั้นทำให้ผมกลับเข้ามานั่งในรถอีกครั้ง จะให้ตอบว่ายังไงดี ผมไม่ได้คิดเรื่องที่ว่า วันหนึ่งเราจะไปจากกันด้วยซ้ำ ผมแค่ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไป ปล่อยให้ความสัมพันธ์ของเราดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ ไม่ได้คิดถึงเรื่องละเอียดอ่อน เช่นวันหนึ่งเราจะเดินแยกกันไปคนละทาง

    ชีวิตผมเคยชินกับการมีลูกหว้า ถ้าวันหนึ่งเธอจากไป ก็คงรู้สึกเหงามากๆ

    เธออยากไปหรือเปล่าผมเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะตอบคำถามนั้นด้วยคำถาม

    ฮึ...มันเหงา ผมยิ้มออกมานิดๆ ในตอนที่ลูกหว้าเอาแต่ส่ายหน้าไปมา เธอเองก็คงมีความรู้สึกเดียวกับผม เราไม่ใช่คนที่เป็นอีกครึ่งของกันและกัน แต่เราทั้งคู่เหมือนกับเงาสะท้อนในกระจกของกันและกันเสียมากกว่า

    ความจริงถึงเราไปจากกันจริงๆ ก็คงหาคนอื่นมาทดแทนได้ไม่ยาก

    แต่ไม่รู้สิ ผมไม่อยากหาใครมาแทน

    เราก็อยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ เถอะลูกหว้าเลื่อนสายตาขึ้นมามองสบกับผม ไม่รู้ว่าแววตาคู่นั้นมีความหมายอะไรแฝงอยู่หรือเปล่า ผมมองไม่ออกจริงๆ

    ผมก้าวลงจากรถด้วยหัวใจที่เกิดความหวั่นไว โดยมีลูกหว้าเดินตามหลังมาอย่างเงียบเชียบ เธอเดินเซไปมาเล็กน้อย และผมก็ไม่ได้ยื่นมือไปช่วยอะไร เพราะรู้ว่าเธอเมาแบบมีลิมิตของตัวเอง คือเมา แต่ยังมีสติ และไม่ทำตัวเป็นภาระใคร

    เธอค้างห้องเราไหมเป็นอีกครั้งที่ลูกหว้าเอ่ยถามขึ้น ในตอนที่เราทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าห้องของเธอ มีใครเคยบอกเธอไหมว่าไม่ควรถามผู้ชายแบบนี้ มันน่านัก... ช่างมันเถอะ

    ...แม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น แต่หลังจากไขประตูห้องได้สำเร็จ กลับเอื้อมมือมาคว้าแขนผมแล้วลากเข้ามาในห้อง ผมไม่ได้คิดจะขัดขืนเลยเดินตามเข้ามาแต่โดยดี อารมณ์ตอนเมาของเธอนี่สร้างความประหลาดใจให้ผมได้มากจริงๆ

    เธอร้อนไหมผมเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าที่ทำท่าราวกับว่าอากาศมันช่างอบอ้าว ทั้งที่เครื่องปรับอากาศกำลังทำงาน เราร้อน เธออาบน้ำเป็นเพื่อนเราหน่อย

    แน่ใจ? ปากผมก็ถามแบบนั้น แต่ใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ตอนที่ได้เห็นร่างเล็กทำท่าจะถอดเสื้อผ้าออกจากตัว

    เอาจริงดิ? เอาแบบนี้จริงเหรอ

    ...ลูกหว้าไม่ยอมตอบ ผมมองร่างเปลือยที่กำลังเดินผ่านหน้าไปยังห้องน้ำอย่างไม่อาจละสายตาได้ นี่มันเรื่องธรรมชาติ ผมปลอบใจตัวเองแบบนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ก่นด่าตัวเองในใจว่าเป็นชายหนุ่มโรคจิต หัวใจของผมกำลังเต้นรัว เลือดในกายมันสูบฉีด ลูกหว้าดีมาก ดีมากจนอดใจไม่ค่อยได้

    ร้อนจริงผมพูดแค่นั้น แล้วก็เดินตามเธอต้อยๆ เหมือนลูกหมาหิวนม

    อาบไหม? เธอหันกลับมาหาเอาดื้อๆ ทำเอาใจผมที่ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย เต้นโครมครามอีกครั้ง ลูกหว้าดูเป็นผู้หญิงตัวเล็ก แต่เธอซ่อนรูปมากทีเดียว

    อาบ...ผมเดินเข้าไปหาคนที่เดินไปยืนใต้ฝักบัว และกำลังทำหน้ายุ่งเพราะเปิดฝักบัวไม่ได้

    ทำไมน้ำไม่ไหลน้ำเสียงของลูกหว้ายังคงฟังดูอ้อแอ้แบบน่ารัก และเธอกำลังทำท่าจะทุบฝักบัวเพราะขัดใจ

    เธอยังไม่ได้เปิดผมรีบคว้ามือเธอไว้ แล้วเป็นฝ่ายยื่นมือไปเปิดน้ำจากฝักบัวให้เธอแทน สายน้ำจากฝักบัวหล่นลงกระทบพื้น คนตรงหน้าดูดีอกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ผมบอกว่าเธอเมาแบบมีสติ อาจจะไม่จริงทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็น

    เฮ้อ...

    ...ลุกหว้าเงยหน้าขึ้นเราสายน้ำเย็นฉ่ำ ดูเธอจะชื่นชอบมาก และผมก็มองภาพตรงหน้าอย่างเพลินตา ไม่รู้เลยว่าคนที่ถูกมองอยู่เป็นฝ่ายหันกลับมามองตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอ เสื้อผ้าเปียกหมดแล้ว

    ใจเย็นผมผงะถอยหลังไปเล็กน้อยเมื่อถูกคนตัวเล็กกว่าจู่โจม เธอพยายามใช้สองมือเล็กๆ นั่นแกะกระดุมเสื้อให้ผม แต่เหมือนจะไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่ เพราะผ่านไปสิบนาทีเธอก็ยังแกะกระดุมเม็ดแรกไม่ได้

    เอากรรไกรมา รำคาญ! ” น้ำเสียงฉุนๆ ของลูกหว้าดังขึ้น พร้อมกับแรงกระชากที่ไม่ได้มากมายนัก

    ...อยากให้หว้าใจเย็นๆ แล้วฟังเจ็ทสักหน่อย...

    ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเป็นฝ่ายถอดเสื้อผ้าออกด้วยตัวเอง สีหน้าของลูกหว้าตอนนี้พออกพอใจเป็นอย่างมาก เธอไล่สายตามองร่างกายของผมไปทุกส่วน จนผู้ชายอย่างผมนึกกระดากอาย

    เธอก็ถอดเป็นนี่เธอพูดขึ้นก่อนจะหันกลับไปเงยหน้ารับสายน้ำจากฝักบัวต่อ ส่วนผมก็ได้แต่ตอบเธอในใจว่า ก็เป็นน่ะสิวะ! พูดออกเสียงไม่ได้หรอก อันตรายเกินไป

    รีบอาบ เดี๋ยวไม่สบายผมบอกพร้อมกับเอื้อมไปหยิบฟองน้ำกับครีมอาบน้ำมาส่งให้เธอ แต่ลูกหว้ากลับส่ายหน้า แล้วพยักเพยิดหน้ามาทางผม

    เธอทำแล้วเธอก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าออดอ้อน

    ห๊ะ? ทำอะไร ทำท่าไหน อ่า...หัวสมองผมเอนเอียงไปทางอกุศลแล้ว

    เธอทำให้เราหน่อยลูกหว้าบอกพร้อมกับชี้มายังสิ่งของสองชิ้นที่อยู่ในมือของผม จากนั้นเธอก็มองหน้าผมแล้วทำตาปริบๆ นี่มันชักจะพีคขึ้นทุกนาทีแล้ว ผมไม่เคยใช้เวลาอยู่กับลูกหว้าสองต่อสองในตอนที่เธอเมามาก่อน สารภาพว่ารับมือยากมากจริงๆ  คำพูดและการกระทำมันทำให้ผมคิดดีไม่ได้เลย

    จะอาบเสร็จไหมวะ...

    หืม? ผมพึมพำกับตัวเอง แต่ดูเหมือนมันจะไปกระทบหูร่างเล็กเข้าพอดี เธอเลยทำสีหน้าสงสัยเหมือนมีคำถามใส่ผม

    อาบน้ำกันดีกว่าผมบอกพร้อมกับรีบบีบเนื้อครีมอาบน้ำลงบนฟองน้ำถูตัว วางแมะลงบนไหล่มนแล้วไม่กล้าจะขยับเคลื่อนไหวต่อ แอบกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่พร้อมทั้งพยายามข่มใจตัวเองว่าไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าร่างตรงหน้าจะดูยั่วยวนมากแค่ไหนก็ตาม

    เธอต้องถูทั้งตัว อาบน้ำไม่เป็นเหรอ เราสอนให้ลูกหว้าแย่งฟองน้ำไปจากผม ก่อนจะกลายเป็นผมถูกจับอาบน้ำแทน ฟองน้ำนุ่มนิ่มนั่นถูกคนตรงหน้าลากถูไปมา บางครั้งเธอก็เข้ามาใกล้จนถึงเส้นอันตราย มือเล็กลากไล้ฟองน้ำต่ำลงเรื่อยๆ จนผมชักจะหายใจไม่ทั่วท้อง

    เธอ อย่าถูตรงนั้น...ฮึ่ม

    [ Special part : End ]

     

    เธอ อย่าถูตรงนั้น...ฮึ่มมือของฉันที่กำลังลากถูฟองน้ำต่ำลงเรื่อยๆ เป็นอันต้องหยุดชะงัก ฉันเหลือบสายตาขึ้นมองใบหน้าแดงก่ำของเจ็ท ตอนนี้เขาขบกรามแน่นมาก แต่ในเมื่อเขาบอกว่าอย่า ฉันก็จะหยุด ฉันน่ะไม่ดื้อ เลี้ยงง่ายจะตาย

    ...ฉันเขวี้ยงฟองน้ำลงพื้น รู้สึกหงุดหงิดใจ อาการมึนๆ ชวนนอนนี่ก็สร้างความรำคาญใจให้ไม่น้อย แต่เพราะอากาศมันร้อนมาก ฉันนอนไม่ได้แน่ถ้าไม่อาบน้ำซะก่อน ฟองน้ำไปไหนแล้ว...

    เฮ้อ...เสียงถอนหายใจของเจ็ท ทำให้ฉันเลื่อนสายตาไปมองเขาอีกครั้ง สีหน้าดูดีขึ้นกว่าเมื่อกี้ ฉันเห็นฟองน้ำอยู่ในมือของเขา

    เธอขโมยฟองน้ำเราทำไม เลวมากฉันบอกพร้อมแย่งกลับมาแล้วกอดไว้อย่างหวงแหน อย่าหวังเลยว่าจะแย่งไปได้อีก

    เธอรีบๆ อาบ เราไปรอข้างนอกแล้วกันเจ็ทบอกพร้อมกับหันหลัง ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องน้ำในสภาพชีเปลือยทันที

    จะกลับแล้วเหรอฉันรีบเอ่ยท้วง ยังไม่อยากให้กลับเลย ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว

    จะไปนอนรอ โอเคไหม? ขาของเจ็ทก้าวผ่านประตูไปแล้วหนึ่งข้าง แต่เขาก็ยังหันกลับมาตอบฉัน พอได้ยินแบบนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจ

    ไปนอนรอบนเตียงเลยนะ! ” ฉันตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม เรียกว่าเป็นรอยยิ้มที่กว้างกว่าครั้งไหนๆ แต่แปลก...แทนที่เจ็ทจะยิ้มตอบกลับมา เขากลับทำเสียงฮึมฮัมแล้วรีบเดินออกไปทันที โกรธเหรอ...พี่เจ็ทโกรธลูกหว้าเหรอ เสียใจจังเลย

    ฉันจำได้ว่าอาบน้ำ แล้วก็สระผมด้วย แต่จำไม่ได้ว่าใช้เวลาไปนานแค่ไหน อาจจะนานมากละมั้ง เจ็ทถึงได้เดินเข้ามาตามด้วยสีหน้าที่ยุ่งยาก ตอนนี้เขาไม่เป็นชีเปลือยแล้ว สวมกางเกงนอนแล้ว แต่ไม่ยอมใส่เสื้อ

    นานแล้ว เดี๋ยวไม่สบายน้ำเสียงและสีหน้าดุๆ นั่นทำเอาฉันแอบน้ำตาคลอ ดุจังเลย พี่ขาดุจังเลย

    เธออย่าดุสิ เราหัวใจอ่อนแอฉันบอกพร้อมกับทำท่ากุมหัวใจเอาไว้ ความมึนงงยังคงมีอาการอยู่ คืนนี้ฉันดื่มไปเยอะพอตัว แต่ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ไม่อยากจะทำตัวเป็นภาระของใคร แต่แปลกที่ครั้งนี้ฉันรู้สึกเหงาและอยากให้เจ็ทอยู่ด้วย ความจริงคิดว่าจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ แต่พอเป็นเจ็ทแล้วรู้สึกปลอดภัยที่สุด

    คืนนี้เขาช่วยฉันจากไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่ร้านเหล้านั่น เข้ามาจีบเจ๊าะแจ๊ะ พอไม่เล่นด้วยก็เริ่มเปลี่ยนมือเป็นหนวดปลาหมึก พยายามจะลากฉันให้ไปด้วยให้ได้

    พวกเฮงซวย หล่อสู้เจ็ทไม่ได้ก็อย่ามาวอแวได้ป่ะ!

    ออกมาได้แล้ว เดี๋ยวเป็นหวัดนะรู้สึกว่าน้ำเสียงของเจ็ทอ่อนโยนขึ้นคูณสิบ

    น่ารักจังเลย พี่เจ็ทน่ารักจังเลย...

    เชื่อฟังก็ได้ เราไม่ดื้อกับเธอฉันบอกพร้อมกับสาวเท้าเข้าไปหาเจ็ทที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องน้ำ แต่แล้วก็ชะงักขาข้างไว้ เอ๊ะ ลืมปิดฝักบัว

    ... ในขณะที่เจ็ทยังคงยืนเงียบ ฉันหันกลับไปปิดฝักบัวอีกครั้ง แล้วเดินกลับไปหาเขา

    มันเปลืองน้ำนะเธอ ต้องปิดฉันบอกเขาด้วยท่าทีที่คิดเอาเองว่าเหมือนคุณครูจอมเนี๊ยบ

    ครับๆ เจ็ทตอบรับสั้นๆ พร้อมกับใช้ผ้าขนหนูในมือ ซึ่งไม่รู้เขาไปหยิบมาตอนไหน ห่อพันร่างของฉันจนรู้สึกอึดอัด

    แน่นไป เราหายใจไม่ออกอะฉันอยากจะใช้มือแกะผ้าออกจากตัว แต่ช่างโชคร้ายที่ผ้าเช็ดตัวผืนนี้ฉลาด ไม่ได้พันแค่รอบตัว แต่พันแขนรวบไว้กับลำตัวด้วย ร้ายกาจจังเลยนะคะ

    เมาแล้วเป็นคนอย่างนี้ อย่ากินเหล้าอีกนะเจ็ทถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะย่อตัวลงแล้วช้อนตัวฉันขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าของฉันซบลงอกข้างซ้ายของเขาแบบพอดิบพอดี ได้ยินเสียงหัวใจของเจ็ทด้วย

    ใจเต้นแรงจังฉันบอกพร้อมพยยายามแนบหูกับอกแกร่งที่ให้ความรู้สึกแสนอบอุ่น อกของพ่อจะอบอุ่นแบบนี้ไหมนะ...

    วูบหนึ่ง ความคิดที่จางหายไปนานแสนนาน ปรากฏชัดในหัวของฉัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร น้ำตาของฉันหลั่งไหลออกมาอย่างไม่สามารถกลั้นไว้ได้ ฮึก...

    เธอเป็นอะไรไปน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นตกใจของเจ็ท ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งน้ำตา เจ็ทบรรจงวางฉันให้นั่งลงที่ปลายเตียง

    อกของพ่อเรา จะอุ่นๆ แบบเธอไหมฉันถามเขาอย่างตรงไปตรงมา ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูกระท่อนกระแท่น ฉันไม่เคยได้สัมผัสอ้อมอกของพ่อเลยสักครั้ง ไม่มีโอกาสได้รับรู้ด้วยซ้ำว่าท่านเป็นใคร ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมท่านถึงไม่อยู่กับฉัน เหมือนพ่อของคนอื่น

    ลูกหว้า...ฝ่ามือหนาดึงรั้งฉันเข้าสู่อ้อมกอดของเขา มันเป็นสัมผัสที่ช่วยปลอบประโลมความเศร้าและความเหงาในจิตใจของฉันได้เป็นอย่างดี อ้อมกอดของเจ็ททำให้ฉันอบอุ่น ทำให้ฉันรู้สึกว่าตราบใดที่เขากอดฉันเอาไว้แบบนี้ ฉันจะปลอดภัย

    เธอกอดเราไปตลอดเลยได้ไหมน้ำตาของฉันหยุดไหลแล้ว แค่โดนเจ็ทกอดฉันก็หายงอแง เจ็ทเก่งมาก

    ตราบเท่าที่เธออยากให้เรากอดคำตอบของเขาทำให้ฉันรู้สึกว่าความอบอุ่นมันแผ่ลามไปทั่วทั้งตัว ไดร์ผมให้แห้งก่อนดีกว่า

    ฉันพยักหน้าหงึกหงัก ในจังหวะเดียวกันกับที่เจ็ทค่อยๆ ดันฉันออกห่าง ร่างสูงเดินไปหยิบไดร์เป่าผมที่โต๊ะเครื่องแป้ง ในขณะที่ฉันยังนั่งอยู่ปลายเตียงในสภาพเดิม เหมือนคนแขนด้วนเลย ถ้าเจ็ทจะใจดีอีกสักหน่อย ก็ช่วยแกะผ้าเช็ดตัวผืนนี้ออกไปจากตัวฉันที

    เธอเอาผ้าออกไปที เราอึดอัดฉันบอกพร้อมกับนั่งขยุกขยิก

    พันไว้แบบนั้นแหละ ยั่วเก่งคำตอบของเจ็ท ทำเอาฉันงงหนักมาก ฉันยังไม่ทันได้ยั่วยวนอะไรเขาเลยนะ ใส่ร้ายป้ายสีกันชัดๆ

    ถ้าเรายั่วจริง ป่านนี้เธอจะได้ยืนอยู่ตรงนั้นไหมอะอ่า...ฉันรู้สึกว่าปากฉันขยับช้ากว่าเสียงที่เปล่งออกไปนิดหน่อย แอลกอฮอล์นี่ลดสมรรถภาพของร่างกายดีจริงๆ เลยนะ

    ร้ายกาจใหญ่แล้วน้ำเสียงของเจ็ทฟังดูเหมือนว่าเขากำลังมันเขี้ยวฉัน หิวน้ำไหม รู้สึกว่าคืนนี้พูดเยอะเป็นพิเศษ

    อื้อ...เจ็ทผละจากโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเดินไปยังตู้เย็นขนาดเล็กที่อยู่ข้างๆ ประตูห้องแทน ที่นั่นมีขวดน้ำเปล่าแช่อยู่ ฉันรู้...ฉันรู้

    รอแปบฉันลากสายตามองร่างสูงที่กำลังขยับเคลื่อนไหวไปมา ท้ายที่สุด เขาก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งขวด และแก้วหนึ่งใบ

    อยากได้น้ำ...ฉันมองตรงไปยังเจ็ท พร้อมกับสายตาที่แฝงความหมายบางอย่างเอาไว้

    ...ร่างสูงที่กำลังก้าวเข้ามาหาหยุดชะงัก ฉันเห็นว่ามือของเขากำขวดน้ำแน่นมาก ทำไมฉันรู้สึกใจเต้นแรงจังนะ แค่ผู้ชายไม่สวมเสื้อ โชว์กล้ามเนื้อที่ไม่มากและไม่น้อยเกินไปนั่น 

    เจ็ทเนี่ย...เซ็กซี่จังเลย

    เร็วสิฉันเร่งเร้า ร่างสูงยังคงหยุดยืนนิ่งอยู่หลายวินาที สุดท้ายเขาก็ยอมก้าวเข้ามาหาฉันอย่างไม่รีบร้อน ทุกการเคลื่อนไหวของเจ็ท อยู่ในสายตาของฉันทั้งหมด

    ...เจ็ทยื่นขวดน้ำเปล่าและแก้วน้ำมาให้ โดยไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสวยนั่น ฉันที่นั่งอยู่บนเตียงจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมองเขาที่สาวเท้าเข้ามาประชิด และพบว่าแววตาคมดุคู่นั้นจับจ้องอยู่ก่อนแล้ว

    แกะผ้าเช็ดตัวให้ทีสิฉันเอ่ยปาก พันเป็นดักแด้แบบนี้ จะกินน้ำได้ยังไง

    มันน่านัก...เสียงของเจ็ทฟังดูจะมันเขี้ยวฉันไม่ใช่น้อย ฉันหัวเราะคิกคักออกมาอย่างชอบใจ อ่า...ไม่น่าเลย

    ทำเหมือนไม่เคยเห็นไปได้ฉันเอ่ยตอบพลางจับข้อมือเจ็ทที่ทำท่าจะผละห่างไปไว้ทันท่วงที เขาทำหน้าเหมือนไม่เคยเห็นฉันโป๊มาก่อน หน้าแดงลามไปถึงใบหูแล้ว ผู้ชายเจนสนามอย่างเขา ทำตัวเป็นหนุ่มน้อยอ่อนหัด ขัดกันพิลึก

    เธอเมาแล้ว...ฉันออกแรงกระตุกแขนเขานิดๆ กลับกลายเป็นว่าร่างสูงโถมลงมาทั้งตัว กลายเป็นตอนนี้เขากำลังคร่อมอยู่เหนือร่างของฉัน

    กระตุกนิดเดียว กระโจนใส่เลยเหรอฉันเอ่ยปากแซว พลางใช้สองแขนของตัวเองคล้องคอเขาไว้แบบหลวมๆ

    เธออย่าให้เราหมดความอดทน...ฉันเห็นว่าเจ็ทกำลังขบกรามของตัวเอง

    ทำไมต้องทนด้วยสองมือของฉันเลื่อนลงมาที่อกแกร่งนั่น ออกแรงผลักให้เจ็ทนอนลง แล้วเป็นฝ่ายขึ้นไปคร่อมอยู่เหนือร่างของเขาแทน ฉันยอมรับว่าตัวเองเมา แต่ก็ยังพอมีสติบ้าง ฉันรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่

    เธอ...เดี๋ยวเราอดไม่ไหวเจ็ทพยายามจะไล่คว้ามือของฉันที่กำลังซุกซนไปทั่วร่างกายของเขา ฉันหัวเราะออกมาอย่างนึกสนุก ท่าทางที่เหมือนถูกของร้อนนั่นช่างหาดูได้ยากจริงๆ จะไม่หยุด?

    คิกๆ ฉันหัวเราะออกมาอย่างชอบใจหลังจากถูกคนใต้ร่างคว้ามือไว้ได้ ใบหน้าของเจ็ทตอนนี้บอกชัดเจนมากว่าอยากจะจัดการฉันให้สาสม

    ตื่นเช้ามาอย่าโวยวาย...เจ็ทเอ่ยออกมาเพียงเท่านั้น เขารวบข้อมือทั้งสองข้างของฉันไว้ เพียงเสี้ยววินาทีฉันก็ตกอยู่ใต้อาณัติของเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ขี้โกงจังเลย

    ไม่โวยวาย เราเป็นเด็กดีฉันบอกพร้อมกับหลับตาพริ้มเมื่อเจ็ทเลื่อนใบหน้าของเขามาใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนปัดเป่าใบหน้าของฉันจนขนอ่อนลุกซูซ่า

    เธอมันเด็กดื้อเสียงกระซิบของเจ็ท ทำให้ฉันเผลอใช้เล็บจิกมือตัวเอง รู้สึกว่ามันเจ็บแปลบ รับรู้ว่าเจ็ททิ้งน้ำหนักตัวลงมา หลังจากนั้น...ฉันก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย

     

     

    ฉันตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยอาการปวดหัว แถมเนื้อตัวยังถูกพันม้วนเป็นดักแด้อยู่ในผ้านวมอีกด้วย นี่มันบ้าอะไร? ฉันใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะแกะตัวเองออกมาได้ บนร่างกายของฉันมีชุดนอนผ้าซาตินสีดำสวมทับอยู่

    อ่า...เมื่อคืนฉันกรอกเหล้าเข้าปากไปในปริมาณที่ไม่น้อยเลย เรียกว่าเมา แต่ก็ยังมีสติหลงเหลืออยู่ ฉันกลับมาที่ห้องกับเจ็ท และไม่มีทางที่ฉันจะหยิบชุดนอนแบบนี้มาใส่แน่ สรุปได้เลยว่าเจ็ทเป็นคนจัดการสวมมันให้ฉัน

    เอ๊ะ...ฉันยกมือกุมขมับทั้งสองข้างเมื่อเหตุการณ์เมื่อคืนไหลย้อนมาเป็นฉากๆ นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไป เมาทีไรไม่เคยเป็นตัวของตัวเองสักที ปวดหัวเพราะอาการแฮงค์ไม่พอ ยังมาปวดหัวกับความเมาไม่รู้เรื่องของตัวเองอีกเหรอ

    จากสภาพเช้านี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่าเจ็ทไม่ได้บ้าจี้ตามฉัน ผิดวิสัยเขานิดหน่อย แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี

    ฉันพยายามลุกจากเตียงเพื่อไปชงกาแฟเข้มๆ มาแก้อาการเมาค้างของตัวเอง วันนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะนอนเป็นผักเปื่อยๆ จะไม่ขอออกไปไหน และจะไม่กรอกเหล้าเข้าปากมากเกินความจำเป็นแบบนี้อีก

    เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้น ในจังหวะเดียวกันกับที่ฉันเดินถือแก้วกาแฟมานั่งลงบนพื้นข้างเตียง

    Jet_TatToo : กินอะไรไหม

    ฉันขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อเห็นข้อความจากเจ็ท ถามแบบนี้ แปลว่าเขายังวนเวียนอยู่แถวหอพักของฉันเหรอ? คิดว่าเขากลับไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ฉันวูบไปซะอีก

    Me : อยู่ไหน

    Jet_TatToo : ข้างล่าง

    Jet_TatToo : มาซื้อข้าวกับเครื่องดื่มแก้แฮงค์

    น่าแปลกที่พอเห็นข้อความของเขาแล้ว มันกลับมีกระแสความอบอุ่นแปลกๆ ก่อขึ้นภายในใจของฉัน อาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีใครมาใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของฉันละมั้ง ฉันต้องดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก พอมีคนคอยดูแลแบบนี้ เลยทำให้เกิดความรู้สึกแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมา

    ต้องเป็นแบบที่ฉันคิดแน่ๆ ฉันจะสรุปแบบนี้แหละ

    Me : รีบขึ้นมานะ ปวดหัวมาก

    ก็ไม่ได้ปวดมากมายซะจนทนไม่ได้ แต่พอรู้ว่าเจ็ทยังอยู่ ก็เกิดอยากทำตัวสำออยซะอย่างนั้น

    สงสัยพักนี้ฉันจะเจอเจ็ทบ่อยเกินไป เลยติดความแปลกมาจากเขา

    Jet_TatToo : ไม่เกินสิบนาที

    ฉันตัดสินใจทิ้งกาแฟที่เพิ่งชงมาได้ไม่ถึงห้านาที ก่อนจะพาตัวเองขึ้นมานอนบนเตียงอย่างรอคอย ลองนอนเปื่อยๆ ดูบ้างคงสนุกดี อยากได้อะไรก็ชี้นิ้วบอกเจ็ท แค่คิดก็รู้สึกแฮปปี้

    และแน่นอนว่าไม่นานเกินรอ เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่หิ้วถุงพะรุงพะรัง นั่นมันอะไรน่ะ เขาเหมาร้านข้าวมาหรือไงกัน

    ทำไมเยอะแบบนั้นด้วยความตกใจทำให้ฉันลุกขึ้นนั่งโดยอัตโนมัติ ลืมเป้าหมายที่ตั้งไปเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง รู้หรอกนะว่าบ้านเขามีเงิน แต่ก็ไม่ต้องเอามาหว่านสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ก็ได้ เมื่อคราวที่พาฉันไปคอนโดนั่นก็ทีหนึ่งแล้ว รวยแล้วไม่รู้ค่าของเงินหรือไงกันนะ

    มันน่ากินดีเจ็ทตอบพลางหอบหิ้วของกินเหล่านั้นไปวางไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่ตั้งอยู่ข้างตู้เย็น

    น่ากินแล้วกินหมดหรือไง เสียดายของฉันขมวดคิ้วแน่น อาการปวดหัวตุบๆ ยังคงมาทักทาย แต่รู้สึกหงุดหงิดผู้ชายตรงหน้ามากกว่า

    แทนที่เขาจะสำนึก เจ็ทกลับอวดเบ่งบุญบารมีของตัวเองให้ฉันฟังด้วยข้อความสั้นๆ แต่ชัดเจน รวย 

    เงินใช้แล้ว มันก็หมดไป งอกขึ้นมาแทนกันได้เหรอมันจะมีสักวันที่ฉันไม่ต้องเหนื่อยใจกับผู้ชายคนนี้ไหมนะ แล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองเลย ว่าทำไมจะต้องมานั่งใส่ใจด้วยว่าเจ็ทจะเป็นยังไง

    คุณผู้หญิงครับ...เจ็ทยืดตัวขึ้น พร้อมกับหันหน้ามามองฉัน หลังจากที่เขาสาละวนอยู่กับสารพัดของกินที่หอบหิ้วมา ผมขยันใช้เงิน แต่ก็ขยันทำงานเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวอดตายหรอก

    ...ฉันนิ่งเงียบลง ระลึกได้แล้วว่าตัวเองชักจะจุ้นจ้านมากเกินไป ฉันชักจะเริ่มแปลกขึ้นทุกวันแล้วนะ

    ไม่ต้องกลัวว่าเราจะใช้เงินหมด แล้วอนาคตจะไม่มีเงินไว้เลี้ยงลูกหรอก...เก็บไว้ให้แล้วเจ็ทยิ้มออกมาน้อยๆ แต่ประโยคหลังของเขามันฟังดูทะแม่งๆ ชอบกล

    อะ...อะไร เรื่องของเธอสิ ลูกเธอไม่ใช่ลูกเราฉันตอบพร้อมกับรีบทิ้งตัวลงนอน แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง สายตาของเจ็ทที่ใช้มองมาเมื่อกี้ ทำเอาใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย

    ไม่มีแม่แล้วลูกจะเกิดมายังไงสาบานสิว่าเขาใสซื่อ! เจ็ทกำลังแกล้งฉันอย่างเห็นได้ชัด

    ไม่ฟังแล้ว! ” ฉันว่าพลางใช้มือทั้งสองข้างปิดหูไว้ เพื่อยืนยันว่าฉันไม่ต้องการฟังหรือพูดคุยกับเจ็ทเรื่องนี้อีก

    แต่เราอยากคุยเรื่องอนาคตกับเธอนะที่ว่างข้างหลังฉันอ่อนยวบลง ไม่รู้เลยว่าเจ็ทเข้ามาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมน้ำเสียงของเขาในตอนนี้ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากทุกครั้งอีกด้วย เมื่อกี้ลงไปข้างล่าง เห็นพ่อแม่คู่หนึ่งจูงมือลูกมากินโจ๊กด้วย น่ารักมาก

    ...ฉันนิ่งเงียบ ไม่ได้หันกลับไปมองเขา แต่ก็ไม่ได้เมินเฉยกับคำพูดของเขาซะทีเดียว เรียกว่ากำลังตั้งใจฟังอยู่นั่นแหละ

    เธอว่า...ถ้าพวกเราจูงมือลูกๆ ไปกินข้าวแบบนั้นบ้าง จะน่ารักมากไหม? 

     

     







    P.S. ขอโทษเจ้าค่ะ หายหัวไปเพราะติดซีรี่ย์
    แต่!!!!! เพราะจะไปหาแรงบันดาลใจในฉากอิโรติกหรอกนะ 
    สรุปหาไม่ได้แถมติดซีรี่ย์อีก ฮืออ ข้านี่แหละองค์หญิงสาม สนุกมากๆ ไปดูกันนะ
    แล้วก็ขออนุญาตยกยอดฉาก HOT ไปไว้ในครั้งหน้า กราบค่ะ
    #อยากกินมาม่ากันไหมคะ? #ยิ้มอ่อน

    ขอสปอยล์นิดๆ บางคนอาจคิดว่า ก็ดูรักกันนี่ ทำไมถึงบอกว่าไม่รักกัน
    คำตอบคือ เพราะพวกนางเป็นคนที่ไม่ค่อยได้รับความรักมาตั้งแต่เด็กทั้งคู่ค่ะ
    พอนึกอออกไหมเอ่ย อารมณ์แบบ เพราะไม่ได้รับ เลยไม่รู้ว่ามันเป็นแบบไหน 
    ไม่รู้ว่าที่รู้สึกอยู่คืออะไร ประมาณนั้นค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×