ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fortune | ทำนายทายรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue [Loading...50%]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 65










    Prologue

     

    เฮ้ย ปิดเทอมนี้ไปเที่ยวไหนกันดีเสียงของเพื่อนในกลุ่มพูดคุยกันด้วยเสียงที่ดังพอประมาณ หลังจากที่สอบวิชาสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ฉันกำลังนั่งฟุ่บหน้าลงกับโต๊ะหินอ่อนเพื่อจะแอบงีบ ไหนจะต้องอ่านหนังสือสอบ ไหนจะต้องทำงานหาเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน ฉันจะตายอยู่แล้ว ชีวิตเด็กมหาลัยมันไม่สนุกเลย!

    นังเปรี้ยว หล่อนตื่นมาตอบเดี๋ยวนี้! ” เสียงของแตงกวาดังขึ้น พร้อมกับแรงขุมหนึ่งที่ฉุดฉันให้เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนๆ

    ฉันต้องเปิดร้านอะ พวกแกไปกันเถอะฉันไล่สายตามองหน้าเพื่อนแบบเรียงคน ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงง่วงงุน กลุ่มเรามีทั้งหมดสี่คน รวมฉันเข้าไปด้วย

    ร้านที่ว่านั่นก็คือ ร้านไพ่ยิปซีของฉันเอง ฉันมีความสามารถพิเศษในการทำนายไพ่ยิปซีมาตั้งแต่เด็ก และนี่ก็เป็นท่อน้ำเลี้ยงเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้ชีวิตของฉัน ที่บ้านของฉันเป็นตำหนักทรงเจ้าอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งมีคุณปู่เป็นร่างทรง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำเป็นอาชีพหลัก ปู่จะเข้าทรงแค่ตอนที่มีคนมาขอความช่วยเหลือ อาชีพหลักๆ ของที่บ้านก็คือเป็นเกษตรกรทำไร่ทำนาตามประสา

    ปิดสักวัน ลูกค้าคงไม่หายหรอกมั้งไผ่บอก วันปกติฉันจะเปิดร้านแค่ช่วงห้าโมงเย็นถึงสองทุ่มแต่ถ้าเป็นวันหยุดก็เปิดตั้งแต่แปดโมงเช้า จะว่าไปฉันเองก็มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย เพราะงั้นเลยมีคิวดูดวงให้ลูกดวงยาวเป็นหางว่าว แต่รายได้ทั้งหมดที่ได้มา ฉันก็ไม่ได้เก็บเอาไว้ใช้เองทั้งหมด เงินครึ่งหนึ่ง ฉันเอาไปทำบุญตามที่ปู่สอน

    ฉันนัดคิวลูกดวงไว้แล้ว ขอโทษนะพวกแกฉันบอกพร้อมกับทำหน้ารู้สึกผิดใส่เพื่อน หวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตา

    แกนี่เบี้ยวทุกรอบเลยนะ แม่หมอดูคนดังเจนที่นั่งอยู่ข้างๆ ยื่นมือมาหยิกต้นแขนฉันหนึ่งที

    เฮ้อ ฉันก็ไม่อยากเบี้ยวนัดกับเพื่อนๆ หรอกนะ ฉันเองก็อยากที่จะใช้ชีวิตสนุกสนาน แต่ว่าตอนนี้ฉันมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ และฐานะทางบ้านของฉันก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ฉันพยายามจะไม่รบกวนการเงินของที่บ้าน แค่ค่าเทอมแต่ละเทอมของฉันมันก็ต้องใช้จ่ายมากพออยู่แล้ว

    เอาเหอะ พวกฉันเข้าใจ แต่แกก็หัดเคลียร์คิวว่างให้ตัวเองได้พักผ่อนบ้างล่ะเจนสรุปให้ในตอนสุดท้าย อย่างน้อยนี่ก็เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งในชีวิตมหาวิทยาลัย เพราะฉันมีเพื่อนๆ ที่เข้าใจ ให้ความช่วยเหลือและคอยซัพพอร์ตกันอยู่เสมอ

    แกๆ นั่นองศา เดือนคณะพวกเรา! ” แตงกวาที่มองค้อนฉันอยู่พักใหญ่ จู่ๆ ก็เลื่อนสายตาไปทางด้านหลังของฉัน พร้อมกับตากลมโตที่เบิกกว้าง พร้อมกับส่งเสียงออกมาอย่างลืมตัว

    แกจะแหกปากทำไมไอ้กวาเจนรีบยกมือไปตะครุบปากเพื่อนเอาไว้ ส่วนไผ่ทำแค่ส่ายหน้าช้าๆ ตัดภาพมาที่ฉันก็...องศาเหรอ เหมือนจะคุ้นหูแต่นึกหน้าไม่ออกเลย

    ...ฉันหันไปมองตามเพื่อน ก็เจอกับแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านไป พร้อมกับสัมผัสเย็นยะเยือกที่กระทบผิวของฉันจนขนลุกซู่

    เอ๊ะ...

    ความรู้สึกแบบนี้มันคุ้นๆ นะ

    ฉันมองตามแผ่นหลังกว้างนั่นไปเงียบๆ พร้อมกับค่อยๆ ดันกรอบแว่นลงต่ำ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกใหญ่กับสิ่งที่ได้เห็น

    ชัดเจน ชัดแจ๋ว

    เจ้าของแผ่นหลังกว้างนั่นโดนคนทำเสน่ห์เข้าแล้วล่ะ จากสภาพแล้วน่าจะโดนมานานมากแล้วด้วย สัมผัสได้ว่าพลังชีวิตเขาเหลือน้อยเต็มที อีกไม่นานอาจจะนอนไหลตายไปแบบไม่รู้ตัว

    ฉันรีบขยับแว่นกลับเข้าที่ตามเดิม ความจริงแล้วสายตาของฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก แต่ฉันใส่แว่นนี่เพื่อไม่ให้ตัวเองได้เห็นสิ่งที่ชาวบ้านเขาไม่เห็นจนเกินความจำเป็น แว่นนี่เป็นแว่นที่ปู่ปลุกเสกให้ ดูผ่านๆ ก็เหมือนแว่นสายตาทั่วไป ปกติตั้งแต่จำความได้ ฉันก็มองเห็นสิ่งเหนือธรรมชาติมาโดยตลอด บอกตามตรงว่ามันไม่มีความสุขเลยสักนิด

    ตอนเด็กฉันเผลอทักวิญญาณไปตั้งหลายครั้ง เพราะตอนนั้นยังแยกแยะไม่ค่อยได้ ทำให้ชีวิตวัยเด็กของฉันไม่ค่อยมีเพื่อนเลย ทุกคนมองว่าฉันมีปัญหาทางสมอง เกิดภาพหลอนไปเองและขี้โกหก

    หล่อจัง แต่น่าเสียดายที่มีเจ้าของ เฮ้อแตงกวาพึมพำพลางมองไปทางผู้ชายคนนั้นตาละห้อย

    ฉันว่าหมอนั่นดูแปลกๆ ไผ่เอ่ยขึ้น ส่วนฉันก็พยักหน้าเห็นด้วยน้อยๆ

    ฉันก็คิดงั้น รู้สึกช่วงนี้หน้าเขาดูหมองๆ แล้วก็ดูเขาไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลยเจนเอ่ยเสริมทัพ

    แม่หมอคนดังมีอะไรจะพูดไหมคะสายตาทั้งสามคู่จับจ้องมาที่ฉันหลังจากที่จบประโยคของแตงกวา

    ฉันง่วงฉันบอกพร้อมกับรีบฟุบหน้าลงบนโต๊ะทันที พูดได้ด้วยเหรอ...เรื่องคุณไสยในยุคนี้ พูดไปใครเขาจะเชื่อละว่ามันยังมีอยู่ เดี๋ยวก็หาว่าฉันเป็นนังบ้าขี้โกหกอีกน่ะสิ

    ฉันเคยเห็นปู่ช่วยเหลือคนที่โดนของมาตั้งแต่เด็ก เคยเห็นพวกวิญญาณพวกนี้มาหลายรอบ ไม่แปลกเลยที่ฉันจะรู้ได้ทันทีว่าผู้ชายคนนั้นโดนของและท่าทางของเขาก็เหมือนคนใกล้จะตายแล้วด้วย

    ยัยนี่! ” เสียงของแตงกวาดังมาแค่นั้น ก่อนที่ทุกคนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและไม่มีใครรบกวนการนอนของฉันอีก แต่คราวนี้มันเป็นเพราะตัวฉันเองที่หลับไม่ลง ภาพของวิญญาณผู้หญิงตัวดำๆ กำลังเกาะหลังผู้ชายคนนั้นอยู่ และหันมามองฉันด้วยแววตาชวนขนลุก

    ฉันไม่ควรจะยื่นมือเข้าไปแส่สินะ น่าเสียดายจริงๆ ที่ผู้ชายคนนั้นจะต้องมาตายตั้งแต่อายุน้อยๆ

     

     

    หลังจากที่นั่งคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ พวกเราก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ด้วยที่พักของฉันอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก ฉันเลยเลือกจะเดินกลับมาพร้อมกับครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เย็นนี้กลับไปก็ต้องเตรียมตัวเปิดร้านรับลูกดวงตามาคิวที่นัดเอาไว้ เหมือนวันนี้จะนัดเอาไว้สี่คิว

    ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในบริเวณตึก สัมผัสหนาวยะเยือกก็ไล่ลามจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงบริเวณท้ายทอย ขนอ่อนในกายของฉันลุกชูชันอย่างห้ามปรามไม่ได้ ฉันตัดสินใจถอดแว่นออกอย่างช้าๆ เพื่อจะได้มองไปทางด้านหลังได้ถนัดและชัดเจน

    เล่นอะไรเนี่ยพี่พิกุล! ” ฉันหันไปทำเสียงดุใส่อะไรบางอย่างที่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง เนื้อตัวที่ดำเกรียมเพราะถูกไฟไหม้จนแทบดูไม่ออกมาก่อนว่า ตามจริงแล้วเธอมีผิวพรรณที่ดี และมีใบหน้าที่งดงามอย่างมาก

    อ่า...ขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก นี่เป็นวิญญาณหรือผีที่อยู่ในที่ดินผืนนี้ เป็นผีติดที่ เธอตายที่นี่และไม่สามารถไปจากตรงนี้ได้ และเราก็คุ้นเคยกันพอสมควรแล้ว แหงล่ะ ก็ฉันเข้ามาเช่าตึกนี้อยู่ตั้งสามปีแล้วนี่

    เปรี้ยวไปเล่นกับผีตนอื่นมาเหรอคำถามนั้นทำเอาฉันนิ่งอึ้งไปเลย

    อะไรนะ? เหตุการณ์นี้มันแปลกๆ หรือเปล่า

    พี่ได้กลิ่นผีตัวอื่นจากเปรี้ยว ผีไม่ดีด้วยเธอว่าพลางกอดอกแล้วทำท่าขึงขัง ตอนนี้เธอกลับมาในสภาพดีแล้ว เป็นหญิงสาววัยสามสิบต้นๆ และที่สำคัญคือสวยมาก

    ผีนะพี่ ไม่ใช่หมาแมว ใครจะไปเล่นด้วยกันฉันเอ่ยพลางขมวดคิ้ว และตั้งใจว่าจะขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อเตรียมเปิดร้านในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า

    แต่มันตามเปรี้ยวมานะ ไม่รู้สึกตัวเลยเหรอพี่พิกุลบอกพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างแปลกใจ ก็จริง ฉันมีสัมผัสที่ไวมากต่อสิ่งลี้ลับ จะว่าไม่รู้สึกเลยก็...ตอนเดินกลับมามีเสียวสันหลังวูบวาบอยู่เหมือนกัน แต่เพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นจนไม่ได้ใส่ใจมัน มันอยู่หน้าตึกอะ ไปคุยสิ

    ไหนพี่บอกว่าเขาเป็นผีไม่ดีไง เขาจะคุยดีๆ กับเปรี้ยวเหรอฉันเหลือบตาไปทางประตู แล้วลากสายตากลับมาที่พี่พิกุลอีกครั้ง สัมผัสถึงวิญญาณดวงนั้นได้อย่างรุนแรงเลยในตอนนี้ ไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน

    ไม่ดีพี่พิกุลตอบกลับมาแทบจะทันที

    เอ้าความสัมพันธ์สามปีของเรามันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม!

    พี่รู้ว่ามันอันตราย แต่ถ้าเปรี้ยวไม่ออกไปคุยให้รู้เรื่อง ลูกค้าที่มาวันนี้ ใครดวงตก ซวยแน่คำเตือนของพี่พิกุลทำเอาฉันคิดหนัก เลือกทางไหนก็ดูจะไม่ส่งผลดีเลย ไม่ว่าจะเป็นต่อตัวฉันเองหรือต่อคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่

    ก็ได้ แต่พี่ต้องไปกับฉันด้วยนะฉันว่าพลางหันไปกำชับกับพี่พิกุล เธอพยักหน้าให้สองสามทีเป็นการตกลง อย่างน้อยเธอก็นับเป็นผีเจ้าถิ่น อำนาจต้องมากกว่าผู้บุกรุกสิ ฉันเดินไปยังหน้าตึก พลางพึมพำถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เหล่าครูบาอาจารย์ที่ตัวเองนับถือ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์ผีไม่ดีตามรังควาน แต่ใครมันจะชินกันเล่า!

    ... สิ่งที่ประจักษ์แก่สายตาอยู่ในขณะนี้ ทำเอาฉันอยากจะโกยกลับเข้าไปด้านใน ถ้าไม่ติดว่าพี่พิกุลจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้ให้เผชิญหน้ากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

    ผีผู้หญิงที่อยู่ในสภาพไม่น่าดูชม มีกลุ่มก้อนควันดำๆ ลอยอยู่รอบตัว ดวงตาของเธอแดงก่ำ เธอกำลังแสยะยิ้มใส่ฉัน รอบคอของเธอถูกพันล่ามด้วยเชือกอาคม บ่งบอกสถานการณ์เป็นผีเลี้ยง เธอเป็นผีตัวเดียวกันกับที่เกาะหลังเดือนคณะคนนั้นไม่ผิดแน่

    มึงเห็นกูจริงๆ ด้วย...น้ำเสียงเย็นยะเยือกนั่นเอ่ยขึ้น รูป รส กลิ่น เสียง ของเธอมันช่างไม่น่าอภิรมย์ซะเลย

    เธอตามฉันมาทำไมฉันตัดสินใจถามออกไป และเว้นระยะห่างจากผีตนนั้น

    มึงอย่าสอดมือมายุ่ง! ” เธอตวาดใส่ฉันเสียงดัง แถมพยายามแปรสภาพตัวเองให้ดูน่ากลัวขึ้น เพื่อที่จะข่มขวัญฉัน และถ้าหากจิตฉันอ่อนลง แม้แต่พี่พิกุลก็คงช่วยปกป้องไม่ได้

    ปู่สอนเสมอว่า เราต้องฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง อย่าแสดงความกลัวออกมาเด็ดขาด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรากลัว เหล่าภูตผีวิญญาณทั้งหลายจะมีอำนาจมากกว่าเราทันที

    ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย! ” ฉันตะโกนกลับไป พยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง แม้ว่าจะมีบางวูบที่อยากวิ่งหนีก็ตาม สภาพเละเทะที่เธอกำลังแสดงให้เห็นตอนนี้ เชื่อว่าจะติดตาฉันไปอีกหลายคืน พี่พิกุล ทำอะไรบ้างสิ

    ฉันหันไปกระซิบกับพี่พิกุลที่ยังคงยืนนิ่ง เธอยังจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้ดังเดิม แต่ไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ แม้แต่จะเอ่ยไล่ผีตนนี้ไป เธอก็ไม่ทำ ความสัมพันธ์ของเรามันแค่ชื่อเรียกหรือไง ฉี่ฉันจะราดแล้วเนี่ย!

    พี่มีความรู้สึกว่าเปรี้ยวต้องได้ยุ่งกับเรื่องนี้แน่นั่นเป็นประโยคเดียวที่พี่พิกุลเอ่ยออกมา

    ถ้ามึงยื่นมือมายุ่ง กูเล่นงานมึงแน่! ” คราวนี้น้ำเสียงของผีสาวตนนั้นแปรเปลี่ยน เป็นเสียงของชายสูงวัยผู้หนึ่ง คาดเดาว่าคงเป็นหมอผีที่ส่งผีตัวนี้มาแน่ๆ หน็อย ทำบาปทำกรรมกับคนตายไม่พอ ยังคิดจะทำบาปกับคนเป็นอีกด้วย ฉันกลัวผีก็จริง แต่ฉันไม่กลัวคนหรอกนะเว้ย

    คนบาปอย่างแก ฉันนี่แหละจะเล่นงานเอง! ” ฉันพูดออกไปด้วยอารมณ์โกรธล้วนๆ

    มึงจะลองดีกับกูเหรอ...ผีสาวตนนั้นเอ่ยด้วยเสียงแข็งกร้าว พลางทำท่าจะพุ่งเข้ามาใส่ฉัน

    ออกไป!!! ” แต่ไวเท่าความคิด พี่พิกุลตวาดลั่น พร้อมพุ่งเข้าใส่ผีตนนั้น จนมันส่งเสียงร้องโหยหวนแล้วอันตรธานหายไปในพริบตา

    โห...พี่พิกุลโคตรเจ๋งฉันที่ยังไม่หายตกใจดีนัก ยกนิ้วโป้งให้เธอเป็นการเชยชม

    พี่ไม่ได้ห่วงเปรี้ยวหรอกนะ พี่ก็แค่ไม่ชอบให้ใครมาบุกรุกที่ของพี่เธอว่าแค่นั้น ก่อนจะหายวับเข้าไปด้านในตัวตึก แหม ชอบจังเลยคนซึนเนี่ย

    ในจังหวะที่ฉันกำลังจะหันหลังกลับเข้าไปในตึก ลมหอบหนึ่งก็พัดวูบผ่านหลังไป ขนอ่อนในกายลุกชูชันโดยอัตโนมัติ ถึงแม้จะไม่ได้ให้ความรู้สึกน่ากลัว แต่ก็รับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ลมธรรมดาแน่นอน

    ฉันหันกลับไปเพ่งมองอีกครั้ง ก่อนจะเจอเงาร่างของผู้ชายคนหนึ่ง เขาอยู่ในชุดของทหารโบราณ หน้าตาคมเข้ม ร่างกายกำยำ จัดว่าเป็นผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาดีมากคนหนึ่งเชียวละ เขายืนอยู่ไม่ไกลนัก ไม่มีแรงอาฆาตใดๆ ถูกส่งมา มีเพียงกลิ่นคาวเลือดและน้ำเสียงแผ่วเบาที่ลอยมาตามลมเท่านั้น

    ได้โปรดช่วยกระผมด้วย

     

     

    เวลาเคลื่อนผ่านมาจนถึงบ่ายสองโมงครึ่ง ลูกค้าคิวสุดท้ายที่นัดไว้ก็ยังมาไม่ถึงเสียที ฉันจำได้ว่าให้คิวนัดไว้ตอนบ่ายสองนะ แต่คิดอีกแง่ บางทีเธออาจจะรถติดก็เป็นได้

    จู่ๆ ท้องฟ้าที่เคยสดใสมาตลอดทั้งวันก็มืดครึ้มลง มีลมหอบใหญ่พัดผ่านหน้าร้านไป ฉันรู้สึกได้ถึงวิญญาณของผู้ชายคนนั้น เขามาขอความช่วยเหลือ แต่ฉันก็ไม่รู้แน่ชัดว่าให้ช่วยอะไร

    ออกไปดูหน้าร้านสิจู่ๆ พี่พิกุลก็โผล่พรวดมา แล้วชักชวนฉันให้เดินไปหน้าร้าน คราวนี้จะให้ฉันไปคุยกับผีที่ไหนอีกล่ะ

    ผีที่ไหนมาอีกล่ะฉันบอกด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย รับมือกับคนก็พออยู่แล้ว นี่ฉันต้องมารับมือกับผีอีกเหรอ

    คนเธอเอ่ยแค่นั้น ก่อนจะหายตัวไปอีกครั้ง

    ได้ยินพี่พิกุลบอกดังนั้น ฉันก็เลยเดินเตร็ดเตร่ออกไปที่หน้าร้าน ก่อนจะพบกับหญิงสาวสองคน ที่ทำท่าทางเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าร้าน เหมือนจะเป็นคุณลูกดวงคิวสุดท้ายของฉันสินะ

    เข้ามาด้านในก่อนดีกว่านะคะฉันว่าพลางสบตากับหญิงสาวคนที่ดูสวยเด่นสะดุดตา ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปยังเงาร่างของวิญญาณผู้ชายโบราณคนนั้นที่ยืนอยู่ไม่ไกล

    เขาพยักหน้าให้กับฉันทันที

    อ่า...พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้วว่าต้องช่วยเหลือยังไง

    รักกันข้ามภพข้ามชาติ...






    ป.ล. เรื่องนี้ผีเยอะค่ะ คนก็ผี! แต่ยังเป็นรักใสๆวัยรุ่นอยู่นะ 55555555
    ปกติก็สมองตันอยู่แล้ว เจอเหตุการณ์ทุกวันนี้เข้าไปยิ่งตันไปใหญ่เลย เครียด
    แต่ไรท์ก็อยากเขียนนิยายให้ทุกคนได้อ่านเหมือนกัน จะพยายามต่อไปค่ะ!
    ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยเน้อ
    |||


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×