ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Assasino Café : Assasin คาเฟ่ฆาตกร

    ลำดับตอนที่ #7 : คดีที่ 1 : BLUE BEARD (II)

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 64


    Assasino Café

    คดีที่ 1  

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 

    BLUE BEARD

    (II) 

     



     

               อลัน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเพิ่งต้อนรับแขกที่เข้ามา


              เขาเผยรอยยิ้มชวนหลงใหลให้กับเหล่าลูกค้าผู้หญิง "ผมขอตัวก่อนนะครับคุณผู้หญิง"


              อลัน ค้อมร่างอันสูงใหญ่ของตนก่อนจะหันหลังกลับไปยังหลังร้าน แล้วชะโงกหน้าเข้าไปในครัว " เฮ่ เรเวนอยู่ไหนน่ะ" ร่างสูงใหญ่ถาม คาเรส หัวหน้าพ่อครัวผู้กำลังทำออมเล็ตให้ลูกค้า


              "แอบอู้อยู่ห้องพักด้านหลังนู่น" ชายผมแดงพูดโดยไม่มองหน้าคนถาม ทั้งยังพลิกออมเล็ตกลางอากาศอย่างชำนาญ


               "อีกแล้วเหรอ แต๊งกิ้วที่บอกนะ"


              หลังจากได้คำตอบเขาก็ไม่รอช้า เร่งรุดหน้าไปยังห้องพักที่เป็นเสมือนห้องแต่งตัวรวมกันไปด้วย ทางไปห้องนั้นเป็นโถงทางเดินแคบๆก่อนจะมีบันไดลงไปชั้นใต้ดินซึ่งประตูนั้นทำจากเหล็กเป็นทรงโค้ง ดูราวกับห้องขังมากกว่าจะเป็นห้องพักผ่อนเสียอีก ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปเขาก็ได้กลิ่นเหม็นของคลอรีนและกาวฟุ้งออกมา


              เมื่อเดินเข้าไปสิ่งที่ท้าวเหยียบโดนก็คือพื้นที่ทำจากหิน ด้านซ้ายขวาประกอบด้วยตู้ล็อคเกอร์สีดำเรียงรายอยู่ ผนังห้องเป็นสีปูนเปล่าที่ไม่ได้แต่งแต้มใดๆ โดยสุดทางมีโต๊ะยาวสีขาวตั้งอยู่ โดยที่ตรงนั้นมีร่างของเด็กสาวตัวเล็กนั่งอยู่บนเก้าอี้ บนโต๊ะมีกระดูกของสิ่งมีชีวิตบางอย่างประกอบอยู่ โดยมีเสียงก๊อกแก๊กของการใช้เครื่องมือจัดแต่งกระดูก เด็กสาวผมสีขาวขุ่นกำลังประกอบกระดูกโดยใช้ลวดกับกาวเป็นตัวช่วยในการยึดรูปทรงของมัน


             ร่างสูงเดินจ้ำเข้ามาหาเธอช้าๆอย่างไม่รีบเร่ง ก่อนที่จะก้มลงกอดคอเธออย่าถือวิสาสะพร้อมกับยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหู


              "นี่...อยากให้ฉันลักพาตัวเธอไปรึเปล่า"เขาพูดเสียงหวานออกมาราวกับกำลังหว่านเสน่ห์


              "เอาเวลาไปพูดคำพวกนั้นกับลูกค้าไป เกะกะ" ว่าแล้วเด็กสาวก็ยกศอกขึ้นกระแทกคออีกฝ่ายดัง ปัก จนเจ้าตัวต้องถอยออกมากุมคอตัวเอง


              "เจ็บนะ" เรเวนไม่ยอมตอบอะไรพร้อมกับยังต่อส่วนประกอบของกระดูกช่วงหางอยู่ "กำลังประกอบตัวอะไรอยู่น่ะ"


              "กิ้งก่า"


               "ต่อผิดหลายจุดเลยนะ เดี๋ยว คาเรส ก็ว่าเอาหรอก"


               "คนที่ไม่ได้เรียนแพทย์อย่างคุณดันมารู้เรื่องแบบนี้มันน่าขนลุกชะมัด"


               "ขอบคุณที่ชมนะ"ร่างสูงยกยิ้มก่อนจะก้มลงมองใกล้ๆ แล้วพูดว่า "เป็นการบ้านที่ คาเรส ให้มาเหรอ"


               "ไปให้พ้นน่า"


              "ขอปฎิเสธ" เขาหัวเราะออกมาเบาๆนั่นสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่ได้ยินเป็นอย่างมาก แม้ว่าเด็กสาวจะยังทำหน้านิ่งอยู่ก็ตาม อลันเป็นคนฝากให้ คาเรส ซึ่งเป็นอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยแพทย์เป็นคนให้ความรู้กับเรเวน ที่เป็นหน้าใหม่ของร้าน แม้เธอจะต่อต้านอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าเรียนรู้ได้เร็วทีเดียว เขามองเธอที่ค่อยๆทำงานในมือด้วยความปราณีตและใจเย็นแม้ปากจะเอาแต่บ่นเขาก็ตาม "ถึงจะทำการบ้านก็เถอะแต่แอบออกมาจากหน้าร้านแบบนี้ไม่ดีเลยนะ"


              "..."เขาถูกเธอเมินในทันทีแต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะพูดต่อ


              "นี่สนใจกันหน่อยสิ"


              เรเวน หันมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจนักพร้อมทำสายตาค้อนกลับไป


              "คุณมีธุระอะไร"


              "อยากมาคุยเรื่องคดี เคราน้ำเงินน่ะ"


              "นั่นมันหน้าที่ของตำรวจไม่ใช่รึไง แถมถ้าให้เทียบควรจะให้ คาเรส กับ ราล์ฟ ที่มีความสามารถด้านนี้ไปจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ" คาเรสนั้นถนัดการตรวจสอบศพที่ยังใหม่หรือเพิ่งตายได้ไม่นาน ส่วนราล์ฟนั้นถนัดดูศพที่เริ่มมีการเน่าเปื่อยแล้วหรือเสียชีวิตมาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนเรเวนนั้นไม่ได้ถนัดด้านไหนเป็นพิเศษเพราะเธอยังเป็นแค่เด็กใหม่ซึ่งเข้ามาที่นี่ได้ไม่ถึงปี


              "สองคนนั้นยุ่งนี่นา"


              "คุณอยากจะมาก่อกวนผมมากกว่า" เด็กผมขาวบ่นอุบ "แถมข้อมูลเรื่องนักล่ากระดูกที่คุณให้มาก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้สักอย่าง"


              "เอาน่า ฉันมีเหตุผลนะ เธอรู้ใช่ไหมว่าทำไมเธอถึงถูกยอมรับให้เข้ามาอยู่กับพวกเรา"


                "..."เธอไม่ได้สนใจจนสุดท้ายเขาจึงต้องพูดต่อ


              "เพราะเธอเป็นเหยื่อล่อฆาตกรชั้นดียังไงล่ะ"


              เรเวน ได้ยินดังนั้นจึงวางมือจากสิ่งที่กำลังทำพร้อมหันมามอง แล้วพูดว่า "ตามหาคนร้ายไม่เจองั้นเหรอ?"


              "อืม แต่รู้ชื่อของคนร้ายแล้ว ชื่อ โรบิ้น อายุ 46 ปี ทำอาชีพเป็นพนักงานบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์แห่งหนึ่งน่ะ"


              "ชื่ออย่างกับพระเอกในนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กเลยนะ"


              "เขาหายตัวไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนหลังจากคดีการเสียชีวิตของชายที่ชื่อ เบญจามิน เขาไม่โผล่ไปทั้งที่บ้านและที่ทำงาน หลักฐานการมีตัวตนอยู่ของเขาก็หายไปหมด"


              "...หายไปอย่างเป็นปริศนางั้นเหรอ"


               "แล้วก็มีจดหมายขู่ส่งไปหาคนสองคน หนึ่งในนั้นคืออดีตแฟนเก่าของภรรยาของผู้ร้ายคนที่ 5 ชื่อ เอ็ดมัน กับภรรยาคนล่าสุดของ  โรบิน...ชื่อว่าเอเลน"


              "แล้ว?"


              "ตำรวจเลยทำการคุ้มครองสองคนนี้อยู่โดยอยากให้เราช่วยด้วยพร้อมกับช่วยหาตัวคนร้ายที่กำลังปองร้ายสองคนนี้"


              "นี่คุณบ้ารึไง" .. ถึงจะโดนด่าแผดเสียงใส่ตรงๆแสกหน้า แต่เขาก็ยังยิ้มให้ "ผมต่อสู้กับใครไม่ได้เหมือนกับคุณหรอกนะ จะให้ผมไปช่วยคุ้มกันยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ "


                "ฉันรู้ ฉันถึงจะเป็นคนคุ้มครองเธอไง ส่วนเธอก็เป็นเหยื่อล่อ" เขาคว้ามือเล็กมาก่อนจะจุมพิตลงบนหลังมือนั้นอย่างอ่อนโยน"ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดี"


              "ไม่อยากได้ยินคำนั้นจากปากคนอย่างคุณ ที่เคยลักพาตัวผมหรอกนะ" เธอสะบัดมือออกทันที "จะให้ผมทำอะไร"


              "อยากให้ไปลองคุยกับพยานสองคนนี้หน่อยน่ะเผื่อจะได้ข้อมูลอะไรบ้าง"


               "ข้อแลกเปลี่ยนล่ะ"


              อลันยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหยิบกุญแจรถออกมาจากกระเป๋ากางเกงราวกับมั่นใจว่าเธอจะต้องตอบตกลง


              "ฉันจะพาไปเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหารสุดแพงร้านโปรดของเธอที่ ซอย 12 พร้อมกับวันหยุด 2 วัน"


               "..."เธอจ้องเขานิ่งๆสักพักก่อนตอบ หลังจากเงียบไปได้สิบวินาที"..ก็ได้"




    "เยี่ยม งั้นไปกันเลยเถอะ"




    .

    .


    .


    ...




       



              ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง อลัน ก็ขับรถพาเธอมาส่งถึงที่หมาย


              เริ่มแรกเขาพาเธอให้ไปพบกับ เอ็ดมัน ที่บ้านก่อน โดยที่มีตำรวจหนึ่งนายยืนจดพร้อมเปิดเครื่องอัดเสียงระหว่างการสนทนาเอาไว้ ส่วนอีกสองคนก็คอยเฝ้าอยู่นอกบ้าน


              บ้านของ เอ็ดมัน ไม่ได้ใหญ่โตอลังการอะไร เป็นบ้านทำด้วยปูนที่สามารถหาได้ทั่วไป พวกเขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกที่มีโซฟาสีน้ำเงินตัวยาวสองตัวตั้งอยู่ โดยที่ เรเวน สวมเสื้อกาวนั่งไขว่ห้างอยู่ข้างๆ อลัน ซึ่งนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ทำตัวตามสบายราวกับเป็นเจ้าของบ้าน โดยที่ เอ็ดมัน นั่งอยูเพียงลำพังตรงกลางโซฟาตัวยาว เขานั่งถ่างขาพร้อมกับกุมมือตนเองห้อยอยู่ตรงหว่างขา


              "คุณเคยเจอกับ คุณโรบิ้น มาก่อนสินะครับ" เรเวนเริ่มสอบสวน ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งราวกับหุ่นยนต์


              "ครับ พวกเราเจอกันตอนที่ผมชวนแฟนเก่าไปทานข้าว เธอชื่อ อลิส...หรือที่พวกคุณเรียกว่าอดีตภรรยาของคุณโรบิ้น"


              "ครับ ภรรยาคนที่ 5"


              "คือ...มันออกจะน่าอาย พอดีผมแอบนัดเธอเพราะอยากปรับความเข้าใจกันแต่ก็ถูกเขาจับได้ พูดตามตรงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขู่จะฆ่าผม ตอนแรกผมก็นึกว่าจะแค่ขู่เล่นๆ แต่ตำรวจได้บอกผมว่าเขาได้ก่อคดีฆ่าคนจริงๆ"



             "จดหมายขู่ที่เขาส่งมาเป็นแบบไหนครับ"


              "เขาตัดตัวอักษรมาจากสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับลงในจดหมาย เขียนว่า 'แกจะต้องตาย' น่ะครับ"


              "ขอดูได้ไหมครับ?"


              "ได้ครับ"ว่าแล้วเขาก็หันไปคุยกับตำรวจ ก่อนที่จะนำจดหมายซึ่งเป็นหลักฐานทางคดีใส่ในซองพลาสติกที่ซีนอย่างดียื่นไปให้กับเด็กสาว เรเวนหยิบมันขึ้นมาดูพร้อมกับพลิกมันไปมา แต่ไม่มีท่าทีว่าจะหยิบออกมาแต่อย่างใด ทางด้านเจ้าของบ้านก็หยิบแก้วน้ำเปล่ายกขึ้นดื่มด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย


              "เข้าใจล่ะ...ขอบคุณมาก" พอเธอส่งหลักฐานคืนตำรวจ เธอก็ยื่นมือไปหาพยานอีกครั้ง "ผมขอยืมมือถือของคุณได้ไหมครับ"


              "เอ๋? ทำไมเหรอครับ"


               "คุณจะปฎิเสธก็ได้นะหากคุณลำบากใจ เพราะผมไม่ได้บังคับอะไร"


               "ก็ไม่ได้ติดขัดอะไรหรอกครับ เชิญเลยครับ"


              ชายหนุ่มที่มีท่าทีดูไม่มั่นใจหยิบโทรศัพท์ไปให้เธอพร้อมปลดล็อครหัสให้ ก่อนที่เรเวนจะเริ่มเช็คดูอะไรบางอย่าง


              "นี่ พวกนายไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของพยานนะ" ตำรวจคนที่คอยจดบันทึกอยู่เริ่มบ่น ก่อนที่ อลัน จะเอานิ้วชี้แตะปากตัวเองราวกับจะบอกให้เขาเงียบพร้อมขยิบตาให้


              เรเวน ไสลด์หน้าจออยู่ไม่นานก็คืนโทรศัพท์ให้กับเจ้าของ


              "ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะรุดหน้าไปยังประตูทางออกเพื่อไปหาพยานคนถัดไปอย่างไม่รีรอทักทายใคร ทำเอาคนโดยรอบทำหน้าฉงนกันไปหมด โดยเฉพาะตำรวจที่แสดงท่าทีไม่พอใจอย่างรุนแรง


              "อ้อ แล้วก็"ก่อนที่เธอจะออกจากห้องไปเธอก็หันมาบอกเจ้าของบ้านด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า


    "ช่วยระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆนะครับ"














              มาที่บ้านอีกหลังหนึ่ง เป็นบ้านของ โรบิ้น ชายที่ก่อคดีฆาตกรรมภรรยา 7 ราย และฆ่าบุรุษด้วยน้ำกรด 4 ราย และป้ายความผิดด้วยการอำพรางคดีให้เป็นการฆ่าตัวตาย 1 ราย

              ทั้งที่เป็นบ้านของผู้ต้องหา .. แต่ เอเลน ภรรยาของคนร้ายซึ่งกำลังถูกหมายหัว กลับพาพวกเขาเข้ามาในบ้านหลังนั้นและพวกเขาทั้งคู่ก็เดินไปยังห้องอาหาร โดยที่ เอเลน นั่งอยู่หัวโต๊ะ เรเวน นั่งท้ายโต๊ะ มี อลัน และนายตำรวจยืนเฝ้าอยู่ขนาบข้างเธอผู้มีผมสีขาว

              หญิงสาวที่ชื่อ เอเลน มีท่าทีหวาดกลัวเป็นอย่างมากจนเห็นได้ชัด เธอตัวสั่นเทาพร้อมกับกอดตัวเองไว้แน่น ดวงตาของเธอเบิกโต นัยน์ตาขาวเป็นสีเหลืองจากการที่น่าจะเป็นโรคโลหิตจาง และมีรอยคล้ำดำใต้ตา บ่งบอกถึงการไม่ได้นอนหรือหลับไม่สนิท และแล้วเรเวนก็ได้สืบสวนอีกครั้ง

              "ผมขอเริ่มถามคุณเลยแล้วกันนะครับ"


              "ค - ค่ะ..."


              "อย่างแรก ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ครับ?"


              "เอ๊ะ?"


              "คุณน่าจะรู้แล้วว่าสามีของคุณเป็นฆาตกรต่อเนื่องแถมยังปองร้ายคุณอยู่ แล้วทำไมคุณถึงยังอาศัยอยู่ที่นี่ครับ ที่นี่ควรถูกปิดกั้นเพื่อการสืบสวนไม่ใช่เหรอครับ"

              " นี่!!! " ตำรวจตวาดออกมาด้วยความไม่พอใจที่เธอพูดจาแบบนั้นกับคนที่กำลังขวัญเสีย แต่ เรเวน ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร


               "ฉ--ฉันไม่มีที่ไปค่ะ พ่อแม่ฉันเสียชีวิตแล้วค่ะ บ้านที่เคยอาศัยอยู่ก็ขายไปแล้ว เหลือแต่ที่นี่ ที่ฉันจะยังสามารถอยู่อาศัยได้ค่ะ"


              "แล้วทำไมคุณถึงไม่เลือกจะไปอยู่กับตำรวจล่ะครับ"


                "ฉันได้คุยกับทางตำรวจแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ตำรวจยังหาที่อยู่ชั่วคราวให้ฉันไม่ได้เพราะติดคดีอื่นอยู่น่ะค่ะ"


                "เหรอครับ...คุณรู้จักคุณโรบิ้นได้ยังไงครับ"


                "ฉันทำอาชีพเป็นพนักงานขายประกันค่ะ ตอนที่ไปยื่นข้อเสนอให้กับเขาเราก็ได้แลกเบอร์ติดต่อกัน ก่อนที่เราจะตัดสินใจคบหากันต่อมาค่ะ"


                "เหรอครับ...คุณรู้จักคุณเอ็ดมัน ไหมครับ?"


                "เอ็ดมัน...ใครเหรอคะ?"


                 "เขาเป็นแฟนเก่าของหนึ่งในภรรยาเก่าของคุณโรบิ้นซึ่งถูกฆาตกรรม ตอนนี้เขาก็ถูกขู่ฆ่าเช่นกัน"



                 "จ..จริงเหรอคะ"


                 "ครับ ถ้าไม่รังเกียจขอผมดูจดหมายขู่ของคุณด้วยได้ไหมครับ"


                "ได้ค่ะ" แล้วก็เหมือนเดิม ตำรวจได้นำจดหมายที่ถูกห่อไว้เป็นอย่างดีส่งให้เด็กสาว เธอดูไม่นานนักก็ส่งคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ


                 "เอาล่ะผมมีข้อเสนอ"เรเวนเริ่มทำสีหน้าจริงจัง "ผมอยากให้คุณย้ายออกจากที่นี่ เพื่อความสะดวกต่อการสืบสวน"


                 "ก็ได้อยู่หรอกค่ะ แต่ว่าฉัน..."


                 "ไม่ต้องห่วงครับผมจะหาที่อยู่ให้คุณเอง"


                หญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความฉงนใจ ก่อนจะยิ้มออกมา


                 "จ-จริงเหรอคะ!!"



                 "ครับ..."



    "มาอยู่กับผม"


    คำตอบที่เรเวนให้เธอ ทำให้หญิงสาวนิ่งอึ้งไป


    "อ...อะไรนะคะ"


    "แน่นอนว่าคุณจะไม่ได้อยู่กับผมสองคนหรอก ไม่ต้องห่วง ผมตั้งใจจะยื่นข้อเสนอนี้ให้คุณเอ็ดมันด้วย"



    "ท...ทำไมล่ะคะ"


    "ก็นะครับ ความจริงหน้าที่ในการดูแลเหยื่ออย่างพวกคุณไม่ใช่หน้าที่ของผมหรอก แต่ผมรู้สึกได้ถึงอะไรแปลกๆ

    เพราะงั้นเพื่อความปลอดภัย ผมจะคุ้มครองพวกคุณเอง"







            คำพูดนั้นต่างทำให้ทุกคนตกใจ มีแต่ อลัน ที่ยังคงยิ้มมีความสุขอยู่คนเดียว


               "ขอบคุณสำหรับความกรุณาของคุณนะคะ แต่มันจะเป็นการรบกวนคุณเกินไปรึเปล่า...คุณอาจเป็นอันตรายนะคะ"



               "จริงอยู่ที่ผมก็ไม่ชอบยุ่งกับคนอื่นสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วผมก็คงต้องช่วยคุณจนถึงที่สุด" เรเวน ผายมือไปทาง อลัน ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ


              "ชายคนนี้ชื่อ อลัน เป็นเจ้านายของผมเอง เขาจะเป็นผู้คุ้มกันให้กับคุณด้วย"


              เมื่อถูกเรียก อลัน ก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวเจ้าของบ้านทันที ความสูงของเขาทำให้ศรีษะเกือบชนกับโคมไฟที่ห้อยอยู่  ก่อนที่เขาจะเอามือแนบอกแล้วค้อมร่างให้เธออย่างสุภาพ

              "ผม อลัน ยินดีรับใช้ครับ"


              "ย- ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"


             เมื่อ อลัน เงยหน้าขึ้นก็สบตากับหญิงสาวพอดี ก่อนที่เขาจะยกยิ้มจางๆ จนทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมา



    "พวกเราหมดธุระแล้ว ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"



    ทันทีที่ เรเวน ลุกขึ้น อลัน ก็ผละตัวออกจาก เอเลน แล้วรีบวิ่งไปหา เรเวน ในทันที จนเขาดูเหมือนเป็นผู้ติดตามมากกว่าจะเป็นเจ้านาย

    ทันทีที่ทั้งสองคนออกมาจากห้อง นายตำรวจก็เข้าไปคุยกับพยานด้วยความเป็นห่วง โดยที่คนสองคนนอกบ้านเริ่มคุยกันต่อ



    "ไม่คิดว่าเธอจะพาสองคนนั้นไปที่บ้านนะ เป็นห่วงพยานขนาดนั้นเลยงั้น เหรอ?"


    "เปล่าหรอก" เรเวน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็น "ช่วยบอกตำรวจให้ช่วยส่งแฟ้มคดีกับหลักฐานทั้งหมดให้ผมดูด้วยนะ"



    "คิดจะทำอะไรน่ะ"


    อลันถามเธอ แต่ร่างเล็กกลับเดินหนีไปพร้อมกับพูดทิ้งท้ายไว้


    "ได้เวลาเริ่มเกมกันแล้ว"




    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×