คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : คดีที่ 0 : BACK STORY [RAVEN] บทที่ 4 : NICKNAME
Assasino Café
NICKNAME
(ฉายา)
“คุณคือนักล่ากระดูกรึเปล่า”
เสียงของเด็กสาวที่ถามออกมานั้นไม่รู้ทำไมถึงทำให้เขารู้สึกถึงอันตราย
“ม---ไม่ใช่!!!” ชายบนพื้นตะเกียดตะกายตอบออกมาเสียงสั่น
“เหรอ....แต่คุณคือคนร้ายที่ลักพาตัวเด็กสาวไปหลายคนในช่วงนี้ใช่ไหมล่ะ”
“ร---เรื่องนั้น”
“พวกเธอตายหมดแล้วสินะ” ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำหน้าตาอย่างไรอยู่ แต่เสียงสุดท้ายนั้นของเธอทำให้ผมรู้สึกกลัวขึ้นมา
“อภัยให้ไม่ได้”
“ด-เดี๋ยว!!! ปล่อยฉันไปเถอะ!!!!”
ชายคนนั้นร้องลั่นก่อนที่เธอจะยกเข็มฉีดยาขึ้นแล้วเดินตรงเข้าไปหา
“เดี๋ยว คุณหนู!!!!”
ร่างสูงกอดเธอเอาไว้พร้อมคว้ามือที่ถือเข็มฉีดยาเพื่อหยุดยั้งเธอ ในตอนนั้นเองที่คนบนพื้นคว้ามีดออกมาจากด้านหลังแล้วพุ่งเข้าใส่เราสองคน
“แก ตายซะเถอะ!!!!!!”
ผัวะ!!!!!!
กัมปั้นหนักๆสวนกลับไปซัดเข้าที่หน้าคนที่พุ่งเข้าใส่อย่างจังก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะยืนบังตรงหน้าเด็กสาวเอาไว้
“แกกล้าดียังไง ถึงมาแตะต้องผู้หญิงของฉัน”
เขาย่างสามขุมเข้าหามันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “อย่ามองล่ะ...คุณหนู”
จากนั้นเสียงหมัดหนักๆที่กระทบหน้าของอีกฝ่ายซ้ำๆก็ดังไม่ยั้ง จนได้ยินเสียงดังกร๊อบของกระดูกที่แตก เลือดสีแดงสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นหิมะสีขาวที่เลือดค่อยๆไหลซึมผ่านลงไป
เกือบสิบนาทีที่การกระทำอันรุนแรงเกิดซ้ำเรื่อยๆจนกระทั่งชายผู้ถูกต่อยนั้นหมดสติลง มือของเขาชุ่มไปด้วยเลือด บนหน้าและเสื้อผ้ามีเลือดกระเซ็นติดอยู่ เขาค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆ ก่อนจะหันมองไปหาร่างเล็กเบื้องหลัง
“บอกว่าอย่าดูไง คุณหนู”
เด็กสาวมองมาที่เขานิ่งๆ และเมื่อเขาเริ่มเดินเข้าไปหา เธอก็ไม่ถอยหนี เขาสาวเท้าเข้าหาเธอเรื่อยๆจนกระทั่งยืนประจันหน้ากัน ร่างสูงทำท่าจะยกมือขึ้นจะลูบหัวเธอแต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อรู้ตัวว่ามือเต็มไปด้วยเลือด
“ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจจัดการดีกว่า”
“กลับกันเถอะ”
.
.
.
….
พวกเขาตัดสินใจเดินกลับไปบ้าน ทั้งสภาพบนตัวมีแต่เลือด ทันทีที่มาถึงบ้านเขาก็ตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะกลับออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่
“เอาไปสิ อาบน้ำอุ่นซะก่อนที่จะเป็นหวัด”
“แง้ว”
เสียงร้องบางอย่างดังมาจากในห้องนอนของเขาที่เปิดประตูทิ้งไว้ก่อนที่จะเผยร่างของแมวพันธุ์ แร็กดอลล์ สีขาวมีลอยแต้มสีน้ำตาลที่หูกับหน้า เดินกะเผลกออกมาจากห้อง
“ครอบครัวของฉันเองชื่อ เซบาสเตียน เรียกสั้นๆว่าเซเลบ มันข้อต่อหลุดตอนที่วิ่งออกไปเล่นนอกบ้าน เพราะกลัวมันจะบาดเจ็บอีกก็เลยให้อยู่ในห้องไปก่อน เสียงแปลกๆที่ได้ยินบ่อยๆก็คือเจ้านี่นั่นล่ะ แต่เดาว่าเธอคงจะรู้แล้ว”
ถ้าเธอเข้าห้องทำงานเขาได้แค่ห้องนอนมันจะไปยากอะไรล่ะ แกล้งทำเป็นไม่รู้ได้เก่งจริงๆ
เขาใช้มือข้างที่ไม่เปื้อนเลือดลูบหัวเธอเบาๆ
“ไปอาบน้ำเถอะแล้วค่อยคุยกัน จริงๆเธอใช้ฝักบัวเป็นใช่ไหมล่ะ”
ซ่า
เขากำลังล้างมือในอ่างล้างจานของห้องครัว โดยมีเจ้าเซเลบเอาตัวไถขาเขาไปมาอย่างออดอ้อน แต่สมองของเขาพลันว่างเปล่า แม้เขาจะพอปะติดปะต่อเรื่องราวได้แต่เขาอยากได้ยินจากปากเธอมากกว่า
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ว่าเด็กตัวเล็กๆคนนึงจะทำอะไรได้ขนาดนั้น
แปะๆ
เสียงน้ำหยดลงบนพื้นทำให้เขารู้ตัวว่าเธอออกมาจากห้องน้ำแล้วจึงหันหลังกลับไปมอง ก็พบกับเธอที่สวมชุดเดรสสีขาวที่เขาเตรียมไว้ให้ พร้อมกับเอามือเช็ดผมด้วยผ้าขนหนู
“เอาล่ะ....เรามาคุยกันเถอะ”
พวกเรามานั่งกันที่เก้าอี้ห้องอาหารประจันหน้ากันอีกครั้งราวกับการสอบสวน โดยที่เธอนั่งอยู่ตรงฝั่งที่มีรูปอีกาอยู่เบื้องหลัง พวกเราไร้บทสนทนากันมาได้พักใหญ่ ไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็นก่อน มีแต่เจ้าเซเลบที่ดูสบายใจเฉิบมากเกินไปจนขึ้นไปนั่งอยู่บนตักให้เด็กสาวลูบเล่นตามใจ
“ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ”
เขาตัดสินใจเริ่มบทสนทนาก่อน แต่ดวงตาสีฟ้านั้นไม่ได้มองมาที่เขาเลย เธอมองไปที่แมวตัวน้อยบนตักพร้อมกับลูบมันเบาๆ เขาจนปัญญาจะพูดแต่ถ้าเธอไม่พูดอะไรเขาก็คงคาดคั้นจากเธอไม่ได้อยู่ดี
หรือถึงเวลาที่เขาควรยอมแพ้ได้แล้ว ไม่สิ เขาแพ้มาตั้งนานแล้วต่างหาก
“...เรื่องอะไร”
“หือ?”
“อยากรู้เรื่องอะไรล่ะ” เธอตอบกลับมาทั้งที่ยังไม่มองหน้าเขา
“ทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องที่สวนสาธารณะ”เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างที่ไม่เคยให้เห็นมาก่อน”เธอไปทำอะไรที่นั่น”
เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ราวกับจะบอกว่าไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว
“รู้เรื่องตำนานประจำเมืองเรื่องที่หากเข้าไปคุยกับเด็กสาวที่นั่งอยู่ที่สวนสาธารณะ A เก้าอี้ตัวที่ 4 ตอน 6 โมงเย็นทุกวันศุกร์ จะถูกลักพาตัวไปใช่ไหม”
“อืม”
“ก็มีเด็กผู้หญิงที่ไปลองของนั่งที่นั่นในเวลานั้น ก็เลยมีพวกคนร้ายจิตใจเลวทรามใช้โอกาสนั้นลักพาตัวเด็กสาวไปทีละคนสองคน เพราะงั้นเราก็เลยทำตัวเป็นเด็กลองของพวกนั้นเพื่อล่อให้คนร้ายออกมา”
ก่อนที่จะโดนสายตาเย็นเฉียบจ้องเขม็ง
“แต่แล้วคุณก็ลักพาตัวเรามาซะก่อน และพอตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าคุณไม่ใช่คนร้ายแต่เป็นนักสืบที่มีเป้าหมายเดียวกันในการตามหาตัวเจ้าฆาตกรลักพาตัวนั่น ที่คุณพาตัวเรามาเพราะคิดว่าเราเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเด็กสาวในช่วงนี้ใช่ไหมล่ะ”
“อืม...”
“แต่ว่าคุณไม่ยอมปล่อยเราไป เราเลยวางแผนแอบออกมาในวันนี้เพื่อล่อผู้ร้ายออกมา แล้วเราก็พบมันพจริงๆ”
“ฉันมีคำถาม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ทำไมเธอต้องทำแบบนั้นด้วย มันอันตรายเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอนะ”
เธอสบตาเขาพักนึงก่อนจะก้มลงปล่อยเจ้าเหมียวลงพื้นไป
“เรากำลังตามหาคนอยู่”ก่อนจะสบตากันอีกครั้ง “นักล่ากระดูก”
“นักล่ากระดูก?”
“เรามีเรื่องต้องชำระแค้นกับมันก็เลยตามหา มัน...ก็แค่นั้น” เธอไม่คิดจะตอบเพิ่มเติมไปกว่านั้น แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบ”แล้วก็เราไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“ขอโทษด้วยแล้วกันนะ”เขาหัวเราะแห้งๆ “งั้น เธอจะบอกมาได้รึยังว่าตกลงเธอชื่อออะไร”
“เราไม่มีชื่อ เพราะงั้นจะเรียกอะไรก็เรียกเถอะ”
ไม่มีชื่อ? เขาเอียงคอมองเธอก่อนจะเหลือบไปมองรูปอีกาเหนือหัวเธอ
“งั้นก็เป็น ’เรเวน’ แล้วกัน”
เธอไม่ตอบ เขาจะถือว่าเธอตกลงแล้วกัน แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว... "นี่ วันนี้นอนห้องฉันไหม"
“ไม่”
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกฉันสัญญา”
“โกหก” ...รู้ทันอีก “แล้วชื่อของนายล่ะ”
“อยากรู้เหรอ อลัน น่ะ”
“โกหก”
“ไม่ได้โกหกสักหน่อย”เขามองบนนิดหน่อยก่อนจะกลับมายิ้มร่าอีกครั้ง “เป็นชื่อที่ใช้ที่ร้านแค่นั้นเอง”
“คุณชื่ออะไร” เมื่อถูกคาดคั้นเขาก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก บางทีเธอคงจะรู้อยู่แล้วแต่คงจะอยากได้ยินจากปากเขามากกว่า เขาจึงจำใจยอมบอกออกไปแบบเสียไม่ได้
“คลาวเดียร์ นั่นล่ะชื่อของฉัน”
เธอพยักหน้าตอบรับเขาเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเองที่เขาได้ตัดสินใจพูดอะไรออกไป
“อยู่ที่นี่เถอะ เรเวน”
“…”
“มาเข้าเป็นสมาชิก Assasino Café เถอะ”
“ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง”
-----------------------------------------------------------------------------
ไรท์ไม่สบายนะครับแต่จะทะยอยลงเรื่อยๆ
ถ้าหายไปคือป่วยกับเปิดเรียนครับ
ความคิดเห็น