ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Assasino Café : Assasin คาเฟ่ฆาตกร

    ลำดับตอนที่ #6 : คดีที่ 0 : BACK STORY [RAVEN] บทที่ 4 : NICKNAME

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 64


    Assasino Café

    คดีที่ 0  

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 

    BACK STORY

    [RAVEN]


    บทที่ 4

    NICKNAME

    (ฉายา)


     





              “คุณคือนักล่ากระดูกรึเปล่า”


     


     


               เสียงของเด็กสาวที่ถามออกมานั้นไม่รู้ทำไมถึงทำให้เขารู้สึกถึงอันตราย


     


     


                “ม---ไม่ใช่!!!” ชายบนพื้นตะเกียดตะกายตอบออกมาเสียงสั่น


     


     


                 “เหรอ....แต่คุณคือคนร้ายที่ลักพาตัวเด็กสาวไปหลายคนในช่วงนี้ใช่ไหมล่ะ”


     


     


                 “ร---เรื่องนั้น”


     


     


                “พวกเธอตายหมดแล้วสินะ” ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำหน้าตาอย่างไรอยู่  แต่เสียงสุดท้ายนั้นของเธอทำให้ผมรู้สึกกลัวขึ้นมา


     


     


    “อภัยให้ไม่ได้”


     


     


     


                  “ด-เดี๋ยว!!! ปล่อยฉันไปเถอะ!!!!”


     


                ชายคนนั้นร้องลั่นก่อนที่เธอจะยกเข็มฉีดยาขึ้นแล้วเดินตรงเข้าไปหา


     


     


                “เดี๋ยว คุณหนู!!!!”


     


                ร่างสูงกอดเธอเอาไว้พร้อมคว้ามือที่ถือเข็มฉีดยาเพื่อหยุดยั้งเธอ ในตอนนั้นเองที่คนบนพื้นคว้ามีดออกมาจากด้านหลังแล้วพุ่งเข้าใส่เราสองคน


     


     


                 “แก ตายซะเถอะ!!!!!!”


     


     


                 ผัวะ!!!!!!


     


     


                กัมปั้นหนักๆสวนกลับไปซัดเข้าที่หน้าคนที่พุ่งเข้าใส่อย่างจังก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะยืนบังตรงหน้าเด็กสาวเอาไว้


     


                “แกกล้าดียังไง ถึงมาแตะต้องผู้หญิงของฉัน”


     


     


                 เขาย่างสามขุมเข้าหามันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “อย่ามองล่ะ...คุณหนู”


     


     


               จากนั้นเสียงหมัดหนักๆที่กระทบหน้าของอีกฝ่ายซ้ำๆก็ดังไม่ยั้ง จนได้ยินเสียงดังกร๊อบของกระดูกที่แตก เลือดสีแดงสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นหิมะสีขาวที่เลือดค่อยๆไหลซึมผ่านลงไป


              เกือบสิบนาทีที่การกระทำอันรุนแรงเกิดซ้ำเรื่อยๆจนกระทั่งชายผู้ถูกต่อยนั้นหมดสติลง มือของเขาชุ่มไปด้วยเลือด บนหน้าและเสื้อผ้ามีเลือดกระเซ็นติดอยู่ เขาค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆ ก่อนจะหันมองไปหาร่างเล็กเบื้องหลัง


     


     


               “บอกว่าอย่าดูไง คุณหนู”


     


     


                เด็กสาวมองมาที่เขานิ่งๆ และเมื่อเขาเริ่มเดินเข้าไปหา เธอก็ไม่ถอยหนี เขาสาวเท้าเข้าหาเธอเรื่อยๆจนกระทั่งยืนประจันหน้ากัน ร่างสูงทำท่าจะยกมือขึ้นจะลูบหัวเธอแต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อรู้ตัวว่ามือเต็มไปด้วยเลือด


     



               “ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจจัดการดีกว่า”


     


     


    “กลับกันเถอะ”


     


     


    .


    .


    .


     


     


    ….


     


     


     


     


               พวกเขาตัดสินใจเดินกลับไปบ้าน ทั้งสภาพบนตัวมีแต่เลือด ทันทีที่มาถึงบ้านเขาก็ตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะกลับออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่


     


               “เอาไปสิ อาบน้ำอุ่นซะก่อนที่จะเป็นหวัด”


     


              “แง้ว”


     


     


               เสียงร้องบางอย่างดังมาจากในห้องนอนของเขาที่เปิดประตูทิ้งไว้ก่อนที่จะเผยร่างของแมวพันธุ์ แร็กดอลล์ สีขาวมีลอยแต้มสีน้ำตาลที่หูกับหน้า เดินกะเผลกออกมาจากห้อง


     


               “ครอบครัวของฉันเองชื่อ เซบาสเตียน เรียกสั้นๆว่าเซเลบ มันข้อต่อหลุดตอนที่วิ่งออกไปเล่นนอกบ้าน เพราะกลัวมันจะบาดเจ็บอีกก็เลยให้อยู่ในห้องไปก่อน เสียงแปลกๆที่ได้ยินบ่อยๆก็คือเจ้านี่นั่นล่ะ แต่เดาว่าเธอคงจะรู้แล้ว”


     


             ถ้าเธอเข้าห้องทำงานเขาได้แค่ห้องนอนมันจะไปยากอะไรล่ะ แกล้งทำเป็นไม่รู้ได้เก่งจริงๆ


     


              เขาใช้มือข้างที่ไม่เปื้อนเลือดลูบหัวเธอเบาๆ


              “ไปอาบน้ำเถอะแล้วค่อยคุยกัน จริงๆเธอใช้ฝักบัวเป็นใช่ไหมล่ะ”


     


     


     


     


     


     


     


              ซ่า


     


              เขากำลังล้างมือในอ่างล้างจานของห้องครัว โดยมีเจ้าเซเลบเอาตัวไถขาเขาไปมาอย่างออดอ้อน แต่สมองของเขาพลันว่างเปล่า แม้เขาจะพอปะติดปะต่อเรื่องราวได้แต่เขาอยากได้ยินจากปากเธอมากกว่า


     


     


     


                จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ว่าเด็กตัวเล็กๆคนนึงจะทำอะไรได้ขนาดนั้น


     


     


              แปะๆ


     


     


               เสียงน้ำหยดลงบนพื้นทำให้เขารู้ตัวว่าเธอออกมาจากห้องน้ำแล้วจึงหันหลังกลับไปมอง ก็พบกับเธอที่สวมชุดเดรสสีขาวที่เขาเตรียมไว้ให้ พร้อมกับเอามือเช็ดผมด้วยผ้าขนหนู


     


     


    “เอาล่ะ....เรามาคุยกันเถอะ”


     


     


     


     


     


                 พวกเรามานั่งกันที่เก้าอี้ห้องอาหารประจันหน้ากันอีกครั้งราวกับการสอบสวน โดยที่เธอนั่งอยู่ตรงฝั่งที่มีรูปอีกาอยู่เบื้องหลัง พวกเราไร้บทสนทนากันมาได้พักใหญ่ ไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็นก่อน มีแต่เจ้าเซเลบที่ดูสบายใจเฉิบมากเกินไปจนขึ้นไปนั่งอยู่บนตักให้เด็กสาวลูบเล่นตามใจ


     


     


                “ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ”


     


     


                 เขาตัดสินใจเริ่มบทสนทนาก่อน แต่ดวงตาสีฟ้านั้นไม่ได้มองมาที่เขาเลย เธอมองไปที่แมวตัวน้อยบนตักพร้อมกับลูบมันเบาๆ เขาจนปัญญาจะพูดแต่ถ้าเธอไม่พูดอะไรเขาก็คงคาดคั้นจากเธอไม่ได้อยู่ดี


     


                 หรือถึงเวลาที่เขาควรยอมแพ้ได้แล้ว ไม่สิ เขาแพ้มาตั้งนานแล้วต่างหาก


     


                “...เรื่องอะไร”


     


     


                  “หือ?”


     


     


                  “อยากรู้เรื่องอะไรล่ะ” เธอตอบกลับมาทั้งที่ยังไม่มองหน้าเขา


     


     


                 “ทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องที่สวนสาธารณะ”เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างที่ไม่เคยให้เห็นมาก่อน”เธอไปทำอะไรที่นั่น”


     


     


                  เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ราวกับจะบอกว่าไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว


     


                “รู้เรื่องตำนานประจำเมืองเรื่องที่หากเข้าไปคุยกับเด็กสาวที่นั่งอยู่ที่สวนสาธารณะ A เก้าอี้ตัวที่ 4 ตอน 6 โมงเย็นทุกวันศุกร์ จะถูกลักพาตัวไปใช่ไหม”


     


     


                 “อืม”


     


     


                “ก็มีเด็กผู้หญิงที่ไปลองของนั่งที่นั่นในเวลานั้น ก็เลยมีพวกคนร้ายจิตใจเลวทรามใช้โอกาสนั้นลักพาตัวเด็กสาวไปทีละคนสองคน เพราะงั้นเราก็เลยทำตัวเป็นเด็กลองของพวกนั้นเพื่อล่อให้คนร้ายออกมา”


     


     


                   ก่อนที่จะโดนสายตาเย็นเฉียบจ้องเขม็ง


     


     


                     “แต่แล้วคุณก็ลักพาตัวเรามาซะก่อน และพอตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าคุณไม่ใช่คนร้ายแต่เป็นนักสืบที่มีเป้าหมายเดียวกันในการตามหาตัวเจ้าฆาตกรลักพาตัวนั่น ที่คุณพาตัวเรามาเพราะคิดว่าเราเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเด็กสาวในช่วงนี้ใช่ไหมล่ะ”


     


     


                 “อืม...”


     


     


                “แต่ว่าคุณไม่ยอมปล่อยเราไป เราเลยวางแผนแอบออกมาในวันนี้เพื่อล่อผู้ร้ายออกมา แล้วเราก็พบมันพจริงๆ”


     


              “ฉันมีคำถาม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ทำไมเธอต้องทำแบบนั้นด้วย มันอันตรายเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอนะ”


     


     


               เธอสบตาเขาพักนึงก่อนจะก้มลงปล่อยเจ้าเหมียวลงพื้นไป


     


                “เรากำลังตามหาคนอยู่”ก่อนจะสบตากันอีกครั้ง “นักล่ากระดูก”


     


     


                “นักล่ากระดูก?”


     


     


               “เรามีเรื่องต้องชำระแค้นกับมันก็เลยตามหา มัน...ก็แค่นั้น” เธอไม่คิดจะตอบเพิ่มเติมไปกว่านั้น แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบ”แล้วก็เราไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง


     


     


                 “ขอโทษด้วยแล้วกันนะ”เขาหัวเราะแห้งๆ “งั้น เธอจะบอกมาได้รึยังว่าตกลงเธอชื่อออะไร”


     


     


                  “เราไม่มีชื่อ เพราะงั้นจะเรียกอะไรก็เรียกเถอะ”


     


                  ไม่มีชื่อ? เขาเอียงคอมองเธอก่อนจะเหลือบไปมองรูปอีกาเหนือหัวเธอ


     


                 “งั้นก็เป็น ’เรเวน’ แล้วกัน”


     


                   เธอไม่ตอบ เขาจะถือว่าเธอตกลงแล้วกัน แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว... "นี่ วันนี้นอนห้องฉันไหม"


     


                 “ไม่”


     


                 “ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกฉันสัญญา”


     


                 “โกหก” ...รู้ทันอีก “แล้วชื่อของนายล่ะ”


     


               “อยากรู้เหรอ อลัน น่ะ”


     


                “โกหก”


     


               “ไม่ได้โกหกสักหน่อย”เขามองบนนิดหน่อยก่อนจะกลับมายิ้มร่าอีกครั้ง “เป็นชื่อที่ใช้ที่ร้านแค่นั้นเอง”


     


               “คุณชื่ออะไร” เมื่อถูกคาดคั้นเขาก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก บางทีเธอคงจะรู้อยู่แล้วแต่คงจะอยากได้ยินจากปากเขามากกว่า เขาจึงจำใจยอมบอกออกไปแบบเสียไม่ได้


     


    “คลาวเดียร์ นั่นล่ะชื่อของฉัน”


     


              เธอพยักหน้าตอบรับเขาเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเองที่เขาได้ตัดสินใจพูดอะไรออกไป


     


             “อยู่ที่นี่เถอะ เรเวน”


     


             “…”


     


             “มาเข้าเป็นสมาชิก Assasino Café เถอะ”


     


     


    “ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง”


              


     


     -----------------------------------------------------------------------------


    ไรท์ไม่สบายนะครับแต่จะทะยอยลงเรื่อยๆ

    ถ้าหายไปคือป่วยกับเปิดเรียนครับ


     


     


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×