หนุ่มเฮฮา กับชายหน้ามึน EP.1
เรื่องราวตอนแรกของหนุ่มอารมณ์ขัน ที่ต้องย้ายออฟฟิศมาประจำที่สำนักงานใหม่ ที่นี่เขาจะพบกับใคร อะไร ยังไงบ้างนะ...
ผู้เข้าชมรวม
51
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“อ้าว มาแล้วเหรอ มา ๆ ๆ เนี่ย!! รอมาเกือบปี เตรียมที่นั่งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว...” เสียงชายวัยห้าสิบกลาง ๆ ใส่แว่นหน้าตาใจดีแอบเหมือนโนบิตะนิดหน่อยกล่าวตอนรับผม ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดนึง...อย่างน้อย ก็น่าจะมีคนเป็นมิตรกะกูบ้าง แถมเรียกกูไปนั่งอีก ดีเลย ๆ กูจะได้ไปนั่งถูกที่ถูกทาง ว่าแล้วผมก็เดินผ่านผู้คนที่จ้องมองอยู่ไปหาชายคนนั้นที่อยู่ในล๊อคกลางของห้อง
“พี่ธนิตนะ เรียกพี่นิดก็ได้”
“ครับ” ผมรับคำแล้วก็เหลือบไปมองป้ายชื่อหน้าโต๊ะ อ่านชื่อ นามสกุล และตำแหน่ง อ้าวว เชี่ย... นี่เขาเป็นหัวหน้ากูนี่หว่า เมื่อกี้เสือกนินทาว่าเขาหน้าเหมือนโนบิตะไปแล้วด้วย โทดทีนะลุง... อิอิ แม่งไม่สำนึก
“เนี่ย... นั่งตรงนี้แหละ โต๊ะข้าง ๆ ผมเลย” เขาชี้ไปที่โต๊ะว่างตัวข้าง ๆ ห่างกันประมาณเมตรครึ่ง ผมขยับไปใกล้แล้วก็จัดแจงวางข้าวของที่หอบมาลงบนโต๊ะซึ่งส่วนมากเป็นช่อดอกไม้ประมาณสิบช่อของเพื่อนที่ออฟฟิศเก่าให้มา จริงๆ อยากไม่อยากได้หรอก ดอกไม้ ทำอะไรก็ไม่ได้ ให้เป็นขนม หรือเงินมายังจะดีกว่า ฮึ ๆ นิสัยตะกละ ขี้งก ของผมยังติดตัวมาจนวันย้ายที่ทำงานเลย แก้ไม่หาย...
“แล้วนี่ พี่โก้ พี่ตุ้ม พี่นัท แล้วก็น้องไอซ์...” ผมยกมือไหว้สวัสดีทั้งหมดก่อนโดยไม่สนว่าใครจะอายุมากหรือน้อยกว่าผม เท่าที่กะด้วยสายตาก็น่าจะมีน้องไอซ์คนเดียวที่เป็นน้อง แต่... ช่างแม่ง แสดงความเป็นเด็กใหม่ไปก่อน ไหว้ ๆ ไปเหอะ เรื่องอายุอานามค่อยมาว่ากันทีหลัง ทุกคนหันมารับไหว้ผมแบบ เก้ ๆ กัง ๆ เดาว่าพวกเขาก็คงคิดเหมือนผมอ่ะแหละ ว่าใครพี่ ใครน้อง ???
“เดี๊ยวไปกินข้าวกัน เลี้ยงต้อนรับน้องใหม่” พี่นิดบอกพวกเราทุกคน ฮั่นแน่!! ทำตัวเนียนใช้คำว่าพวกเรา แต่เอาจริง ๆ นะ วันนี้ผมยังไม่พร้อม เขิน ๆ อยู่ กลัวโดนรุม ขอกลับไปตั้งตัวสักวันเหอะ
“เอ่อ... พอดีวันนี้ผมต้องกลับไปที่สำนักงานเก่าก่อนอ่ะครับ มีงานค้างอยู่ ยังสะสางไม่หมด เดี๊ยวคนมารับงานต่อจะลำบากนะครับ ยังไงขอบพระคุณมาก ขอเป็นวันพรุ่งนี้จะสะดวกกว่านะครับ” น้านน กูพูดเพราะเป็นทางการขึ้นมาทันที ก็อย่างว่า คนมีปากเป็นอาวุธอย่างผมจะพูดให้มันสวยหรูยังไงก็ได้เพื่อเอาตัวให้รอด อิอิ แต่พูดงี้จะน่าเกลียดเปล่าวะ หัวหน้าชวนไปเลี้ยงข้าวแต่เราเสือกปฏิเสธตั้งแต่งานแรกเลย เห้ออ ช่างแม่งเหอะ พูดไปแล้วนี่หว่า ไม่เป็นไรหรอก ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ยังไงได้เลี้ยงแน่ ไม่ต้องกลัวครับหัวหน้า
พี่นิดหน้าเจื่อนไปนิดนึง “งั้น... โอเค ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้ก็ได้ ส่วนวันนี้ก็ตามสะดวกนะ แต่เข้าไปรายงานตัวกับ ผอ.เขาหน่อยล่ะ” พี่นิดพูดเสร็จ ยิ้ม แล้วก็ตบไหล่ผมเบา ๆ เอ่อ... ตบไหล่!! หมายความว่าไงครับพี่ บ้า! ผมก็คิดเยอะไป ไม่มีไรหรอก จากนั้นผมก็ลุกเดินเข้าไปในห้อง ผอ.
“ผอ. สวัสดีครับ มารายงานตัวครับ”
“ค่ะ สวัสดี เชิญนั่งก่อนค่ะ” ผอ.รับไหว้ผมแล้วก็เรียกผมนั่ง โหวว กะคุยยาวเลยเหรอเจ้ เหอ ๆ ก็นึกขำ ๆ ตามนิสัยคนปากหมาอ่ะครับ แล้วก็รีบนั่งลงไปที่เก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะ ผอ.
“ยินดีต้อนรับนะคะ ก็ยินดีมากคะที่ย้ายมาร่วมงานกับเราที่นี่ ขอให้มีความสุขกับงานที่นี่นะคะ ที่นี่อยู่กับแบบพี่ ๆ น้อง ๆ มีอะไรก็บอกกัน เตือนกันแบบพี่น้องค่ะ”
“ครับ”...
........
“??????” แค่เนี้ย!! เชิญกูนั่งเพื่อ!! แต่... ก็ไม่เป็นไร ดีแล้ว ผมก็ไม่ชอบคุยกับผู้ใหญ่นานนักหรอกคับ ยิ่งเป็นคนปากหมาอยู่ด้วย พูดมากอาจจะมีสัตว์เลื้อยคลานมาวิ่งผ่านห้อง ผอ.ก็ได้ ว่าแล้วผมก็รีบลุกขึ้น เก็บเก้าอี้เข้าที่เดิมให้เรียบร้อย เก็บทำไมวะ? เมื่อกี้กูนั่งลงไปเฉยๆ ไม่ได้เลื่อนออกมาเลยนะเนี่ย เออๆ ช่างแม่ง รีบเก็บรีบไปดีกว่า ผมโค้งตัวหนึ่งทีแล้วรีบหันหลังก้าวเท้าออกไปจากห้องทันที โห... อยู่ในห้องแค่แป๊บเดียวทำไมรู้สึกว่ามันเย็นยะเยือกอย่างงี้วะ น่ากลัววว แต่ทันทีที่เปิดประตูและโผล่หน้าออกมา ผมสังเกตได้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านนอกมันมีเยอะขึ้นกว่าเดิม และรู้สึกได้ทันทีว่าทุกคนมารอ “ดูหน้า” เด็กใหม่อย่างผม
ผมสตั้นท์ไป 2 วิ...
ก็... ตามสไตล์ครับ ผมก็แอ๊บแบ้ว ๆ ทำหน้างง ๆ นิดนึง ยิ้มเล็ก ๆ มุมปาก ทำเหมือนไม่รู้ว่าพวกเขามากันรออะไร แล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะนั่งของผม ระหว่างทางสายตาของคนพวกนั้นก็จ้องตามผมมาอีก มองไรกันนักหนาวะ ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีไง แต่เพื่อให้เกิดความประทับใจเมื่อแรกพบ ระหว่างทางผมก็ยกมือไหว้สวัสดี ๆ ๆ มาตลอดทาง ส่วนมากคนที่นี่ก็จะเป็นป้า กะ ลุง แก่ ๆ เอ๊ย!! พี่ ๆ วัยกลางคนอ่ะครับ กะด้วยสายตาผมคงอายุน้อยสุดอ่ะ แต่ทว่า...
ผมเหลือบไปเห็น ไอ้พี่ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่ามันอายุเท่าไรแต่ก็เรียกพี่ไว้ก่อน ตัวโต ๆ หน้าตามันมึน ๆ เบลอ ๆ ใส่แว่น มองมาที่ผม ฮึ!! ก็คงจะมารอดูหน้ากูอีกคนซินะ เป็นไงละมึง กูหล่อกว่าเห็น ๆ เงิบไปเลยดิ คริคริ ผมไม่สนใจไรมากรีบเดินกลับมาให้ถึงโต๊ะแล้วก็นั่งลงเอาฤกษ์เอาชัย พร้อมทั้งเอามือทั้งสองวางบนโต๊ะเบา ๆ ภาวนาในใจฝากเนื้อฝากตัวกับแม่ย่านางประจำโต๊ะให้ช่วยปกปักรักษา ช่วยให้ทำงานได้ลื่นไหล ไม่มีอุปสรรค บลา ๆ ๆ ...
“ชื่ออะไรล่ะ เราอ่ะ”
ผมชะงักกึกเลย... แหม หัวหน้า... ยังสวดคาถาไม่ทันจบเลยขัดจังหวะมาได้
“ชื่อเขตครับ”
“อ่อ เขต เขตต์ ฐานทัพเปล่าวะ.. 555”
มุขเสี่ยวมาก ลุง มุขนี้กูโดนมาแต่อ้อนแต่ออดแระ
“มา ๆ เดี๊ยวจะแนะนำคนในห้องรู้จักนะ” พี่นิดดึงแขนผมลุกขึ้นแล้วผายมือไปทางล๊อคด้านขวา “ฝั่งนั้นฝ่ายวิจัยนะ เอ้าพี่ ๆ นี่น้องเขต ลูกน้องใหม่ผมเอง”
โห ตะโกนแนะนำกันอย่างงี้ คิดว่ากูอายไหม???
“สวัสดีครับ” ผมยิ้มแหย ๆ แล้วก็ยกมือไหว้พวกพี่เขา จริง ๆ เขานั่งกันอยู่ 5 คนนะ แต่ผมก็ไหว้ครั้งเดียวแหละ ไหว้รวม ๆ เอา ไปแบ่งกันเองแล้วกัน จากนั้นพี่นิดก็ชี้มาที่ล๊อคด้านซ้าย
“ตรงนั้นฝ่ายธุรการ เอ้าพี่ ๆ นี่น้องเขตนะครับ น้องใหม่”
“สวัสดีครับ” ผมหันไปด้านซ้ายแล้วก็ก้มหัวไหว้ลงไปอีกที ทุกคนรับไหว้ผมแล้วก็ยิ้มให้ มีแต่... ไอ้พี่ผู้ชายคนนั้น แม่งยังทำหน้ามึนจ้องหน้ากูอยู่นั่นแหละ เป็นเชี่ยไรเนี่ยย.. หน้ากูเหมือนญาติมึงเหรอ ผมไหว้เสร็จก็รีบนั่งลงไปที่เดิม
ผมว่าจะนั่งเล่นสักพักนึงรอให้คนในห้องได้มองหน้าผมให้สาแก่ใจก่อน แล้วค่อยขอกลับ แต่หัวหน้าดันพูดขึ้นมาก่อนว่า
“เห็นบอกว่ายังมีงานค้างอยู่ที่เก่า... วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว ถ้ามีธุระก็ตามสบายนะ” อ้าว... ไล่กูแระไง ฮึ ๆ แต่ผมก็แปลกนะ พอเขาชวนกินข้าวก็บอกว่าจะกลับ พอเขาให้กลับก็ว่าเขาไล่... เงี้ยแหละครับ สันดานคนมันไม่ดี ใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจ...
“งั้น... ผมขออนุญาตเลยแล้วกันนะครับ” ผมลุกขึ้น หยิบกระเป๋าคู่ใจขึ้นมาสะพาย เรียบร้อยแล้วก็ลาหัวหน้า พี่ ๆ ในฝ่าย แล้วก็เดินไปลาที่ฝ่ายวิจัย ต่อด้วยฝ่ายธุรการ ปิดท้ายด้วยผอ.กอง ก่อนเดินออกจากสำนักงานผมฉุกคิดขึ้นมานิดนึงว่า ไอ้พี่ที่มันจ้องกูมันยังมองอยู่เปล่าวะ ก็เลยหันหลังกลับไปมอง เฮ้ย!!! แม่ง นั่งมองอยู่ได้ หรือว่าเราหน้าเหมือนญาติมันจริง ๆ วะ บรึ้ยย.. น่ากลัวว่ะ รีบไปดีกว่า ผมรีบเผ่นแหนบออกไปทันที ปล่อยให้คนในห้องได้จับกลุ่มนินทาน้องใหม่อย่างผมที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกด้วยความเมามัน ฮึ ฮึ ฮึ ห้ามคนไม่ให้นินทานี่ ยากยิ่งกว่าห้ามหมาไม่ให้หอนอีกนะ ...???... สำนวนเชี่ยไรของกูวะ
ผมก้าวเท้าอย่างไวมาที่ป้ายรถเมล์อ่ะ แล้วกระโดดขึ้นรถที่ผ่านมาทันที ห้า ๆ ๆ ใช่แล้วครับ มันไม่ใช่รถเมล์สายที่ผ่านสำนักงานเก่าของผมหรอก แต่มันกำลังจะไปส่งผมที่ “บ้าน” ตะหาก เรื่องอะไรจะไปนั่งทำงานให้ที่เก่า เสียเวลานอนของผมหมด อิอิ ยิ่งกลับเร็วแบบนี้รถว่างโคตร ๆ นั่งหลับไปเลยดีกว่า อิอิ...
ผมนั่งรถเมล์ชมวิวของเมืองหลวงฝั่งธนไปตลอดระยะทางกลับบ้าน ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกนะที่ผมได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ ปกติสำนักงานเก่าอยู่ใกล้บ้านก็ไม่ค่อยได้เห็นไรมากเท่าไร ก็ดีเหมือนกันนะ นั่งชมวิวไปเพลิน ๆ ในใจก็หวนนึกถึงบรรยากาศที่ทำงานใหม่วันแรก
หัวหน้า... ก็ท่าทางใจดีนะ เป็นกันเอง ปล่อยเรากลับบ้าน (ที่จริงเขาคิดว่าเรากลับมาทำงานนะ) ก่อนเวลาแบบนี้ ก็คงจะเป็นคนชิว ๆ ไม่ซีเรียสไรมาก ถือว่าโอเคอยู่นะ
เพื่อนร่วมงานทั้งฝ่ายเราและฝ่ายอื่น... ก็ดูเรียบร้อย อัธยาศัยดี ยิ้ม ๆ ยังไม่ได้คุยไรมาก คงต้องมาปรับตัวกันสักพัก
ผอ. ก็ดูเป็นผู้ใหญ่ แลดูน่าจะดุเล็กน้อย เห้ออ ไม่รู้ว่าที่คิดอย่างงี้เพราะตอนเข้าห้องไปแอร์มันเย็นจัดหรือเรารู้สึกถึงความเยือกเย็นได้เองจริง ๆ สา..ธุ.. คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองลูกช้างด้วยเถอออออะ
โดยรวม ทั้งหมดก็โอเคนะ แต่!!! ที่ยังติดใจอยู่นิดนึงก็คือ ไอ้พี่คนนั้น ไอ้พี่หน้ามึนคนนั้น ที่มันจ้องหน้ากู กูไปทำไรให้เมิงง กูเพิ่งมาวันแรก มึงมาโกรธไรกู ถึงมานั่งจ้องหน้าจะเอาเรื่องกูเนี่ย เชี่ยยย... นึกถึงแล้ว แหม อยากจะกลับไปเคลียร์ให้รู้เรื่อง... ห้า ๆ ๆ กลับบ้านไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้เจอกัน!!!
ผลงานอื่นๆ ของ I-meng ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ I-meng
ความคิดเห็น