ตอนที่ 17
คู่แข่ง
-เมฆ-
“พี่มึงชอบไอ้หญ้าจริงเหรอวะ!” เพราะคนถามตกใจเสียงที่ได้ยินจึงดังกว่าปกติ ผมเงยหน้าขึ้นมอง เห็นน็อตนั่งอยู่กับเวแค่สองคนแต่ไม่เห็นหญ้าอยู่ด้วย
“มึงจะแหกปากทำไมวะ” เมื่อน็อตพูดขึ้นผมถึงรู้ว่าพี่ที่พูดถึงเป็นพี่ของใคร ผมรู้จักพี่นพพี่ชายของน็อต เคยเจอกันหลายครั้งที่บ้านพี่สิทธิ์
“มึงพูดจริงพูดเล่น”
“เรื่องแบบนี้ใครจะพูดเล่น แต่อย่าไปบอกไอ้หญ้าล่ะ”
“แล้วมึงไม่ช่วยพี่มึงเหรอ”
“กูยังไม่รู้ว่าพี่กูจะจีบไหม เหมือนแค่ชอบๆ เอาไว้ถ้าจะจีบไอ้หญ้าจริงๆ ค่อยว่ากัน”
ผมยังจำการสนทนาที่ได้ยินวันนั้นได้ดี มันเป็นต้นเทอมสุดท้ายของปีสี่ ผมไม่เคยรู้ว่าพี่นพจีบหญ้าจริงไหมจนกระทั่งได้เจอกันอีกครั้ง
เมื่อวานผมตั้งใจไปรอหญ้าก่อนเวลา เหตุผลแรกเพราะไม่อยากให้หญ้ารอผมนาน แต่เหตุผลที่สองก็คือผมอยากให้พี่นพรู้ว่าผมมารับหญ้า รับในฐานะคนที่กำลังตามจีบ จากสายตาที่เราสบกันเมื่อคืนผมคิดว่าพี่น็อตรับรู้
“เมฆ”
ผมขยับตัวขึ้นยืนตัวตรงจากที่ยืนพิงรถอยู่ ส่งยิ้มให้กับหญ้าก่อนที่ดวงตาจะเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเมื่อเห็นว่าใครเดินตามหญ้าออกมา
“เพื่อนที่ว่าคือเมฆเองเหรอ” ดวงตาของอีกฝ่ายดูลุ่มลึก ผมไม่สามารถคาดเดาความคิดของพี่นพได้
“สวัสดีครับพี่นพ” ผมค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการทักทาย
“สวัสดี พักนี้เจอกันบ่อยนะ”
“ครับ ผมขอจองที่จอดรถเลยได้ไหมครับ น่าจะต้องมาขอใช้ทุกวัน”
ดวงตาของหญ้าเบิกกว้าง แต่สายตาของผมประสานอยู่กับสายตาของพี่นพ
“หึๆ” อีกฝ่ายไม่ตอบคำถามผมเพียงแค่หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนสายตาจะเปลี่ยนไปมองหญ้าแทน
“พี่ไม่เข้าออฟฟิศสามวันจะบินไปคุยกับลูกค้าที่ฮ่องกง อย่าลืมนัดวันเสาร์”
“ไม่ลืมครับพี่นพ”
“ไว้เจอกัน”
“ครับผม”
พี่นพหันมายิ้มให้ผมก่อนเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ใกล้กับประตูทางออก
“รอนานไหม”
ผมส่ายศีรษะช้าๆ ดวงตาติดรอยยิ้ม
“คิดหรือยังว่าอยากให้ผมเลี้ยงอะไร”
เพราะเมื่อวานหญ้าต้องไปกินข้าวกับพี่นพและพี่ที่แผนกจึงเลื่อนนัดเลี้ยงข้าวผมมาเป็นวันนี้แทน
“คิดแล้ว”
“อะไร”
“อะไรก็ได้ที่หญ้าอยากทาน”
“แบบนั้นเขาเรียกว่าคิดแล้วที่ไหน” หญ้ายิ้มขำ มันทำให้ผมพลอยยิ้มตามไปด้วย
“ขึ้นรถเถอะ” ผมกดรีโมท เปิดประตูด้านข้างคนขับ แตะมือที่หลังของหญ้า รอให้อีกฝ่ายขึ้นรถแล้วจึงปิดประตูตามหลังให้ ก่อนเดินอ้อมรถไปขึ้นฝั่งคนขับ
“ไปที่ไหนดี” ผมถามเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากหน้าบริษัทแล้ว
“เอาอย่างนี้จริงเหรอ”
“ผมเลือกแล้ว”
“งั้นไปกินข้าวต้มสามบาทกัน” สายตาของหญ้าบอกว่าอีกฝ่ายกำลังแกล้งผม ผมจึงส่ายศีรษะไปมา
“เห็นไหม ผมก็บอกแล้วว่าให้เมฆเลือก”
“เปล่า ผมหมายถึงผมไม่รู้จัก ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน หญ้าบอกทางมาสิ”
“ได้ ขับตรงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวผมบอกอีกที”
“ท่าทางหญ้าจะรู้จักร้านอาหารอร่อยเยอะ” ผมชวนอีกฝ่ายคุย
“ก็เยอะ”
“ช่วยพาไปวันละร้านได้ไหม”
“กะจะมาหาผมทุกวันเลยเหรอ” หญ้าหัวเราะออกมา
“หญ้าลืมอะไรไปหรือเปล่า”
“อะไร” หญ้าเลิกคิ้วขึ้นเมื่อผมหันไปมอง
“ผมจีบหญ้าอยู่นะ”
สีหน้าของหญ้าน่ารักจนผมอดเอ็นดูไม่ได้ ถ้าไม่กลัวว่ารถจะชนเสียก่อนผมคงจ้องอยู่แบบนั้น
“ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้” เสียงพูดพึมพำอยู่ในลำคอ ผมชอบเวลาที่หญ้าพูดกับตัวเองที่สุด
“ผมกลัวว่าตัวเองจะช้าไป”
“เมฆพูดเหมือนมีคนจีบผมเลย”
“มีสิ”
“มีที่ไหน” หญ้าหัวเราะเบาๆ แน่นอนว่าผมเลือกที่จะปิดหญ้าว่าพี่นพก็ลงสนามกับผมเช่นกัน ปล่อยให้หญ้าเห็นพี่นพเป็นพี่ของเพื่อน เป็นเจ้านายอยู่แบบนี้ดีแล้ว
“เดี๋ยวเลี้ยวซ้ายแยกหน้า”
“ครับผม”
• • • • •
ข้าวต้มร้อนๆ ทำให้เหงื่อซึมที่ไรผม ผมหยิบทิชชู่ขึ้นมาซับเหงื่อให้อีกฝ่าย หญ้าสะดุ้งเล็กน้อยใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ
“ผมทำเองก็ได้” หญ้ารีบหยิบทิชชู่จากในกล่องไปซับที่หน้าผาก
“แต่ถ้าหญ้าทำให้ผม ผมจะนั่งนิ่งๆ เลย”
“หึ” หญ้าหลุดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนทำเป็นเหมือนไม่ได้หัวเราะ ผมชอบหญ้าเวลาที่เผลอยิ้มแบบนี้ จะว่าไปแล้วผมก็ชอบทุกอย่างที่เป็นหญ้านั่นแหละ
“วันเสาร์หญ้าว่างหรือเปล่า” ผมถามด้วยน้ำเสียงเหมือนชวนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป
“วันเสาร์ผมไม่ว่าง พี่นพจะเลี้ยงวันเกิดคุณลุงที่บ้านเลยชวนผมไปด้วย”
“อืม”
“เมฆมีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มี” ผมส่ายหน้าช้าๆ ยกยิ้มบางที่ริมฝีปาก ดวงตาที่มองอีกฝ่ายอ่อนแสง
“ไม่มี?” หญ้าขมวดคิ้วเข้าหากัน “ไม่มีแล้วเมฆถามผมทำไมเหรอ”
“ผมแค่อยากเจอหญ้า แต่ไม่มีธุระอะไร”
หญ้าเม้มปากเข้าหากันก่อนจะเบือนสายตาไปทางอื่น ผมเห็นอมยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าของอีกฝ่าย
“เมฆจะสั่งอะไรอีกไหม” หญ้าเฉหยิบเมนูขึ้นมา
“ผมอิ่มแล้ว”
“งั้นผมเรียกคิดเงินเลยนะ อิ่มแล้วเหมือนกัน”
“อืม”
ผมปล่อยให้หญ้าเป็นคนจ่ายเงินโดยไม่แย่งออก เพราะคราวหน้าผมจะได้เลี้ยงคืนหญ้าบ้าง
• • • • •
“ขอบคุณนะ” หญ้าส่งยิ้มให้ผมก่อนปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว เมื่อผมจอดรถด้านหน้าคอนโดที่อีกฝ่ายพักอาศัย
“เดี๋ยวหญ้า”
“หือ?” หญ้าหันมามอง คิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย
“ผมอยากถามว่าผมจะมาเจอหญ้าได้อีกวันไหนที่ไม่ทำให้หญ้าอึดอัดเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นผมอาจจะมาหาหญ้าทุกวัน”
“....”
“วันศุกร์ได้ไหม ผมนัดกับเพื่อนๆ ไว้อยากพาหญ้าไปด้วย”
“เพื่อนที่มหา’ลัยเหรอ”
“ใช่กลุ่มผม หญ้าจำได้ใช่ไหม”
“อืม”
“ไปด้วยกันนะ”
“...”
“อื้อ”
ผมยกยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า แม้ไม่เสียงตอบตกลงแต่แค่เสียงเบาๆ ในลำคอก็พอแล้ว
“ฝันดีครับ”
“ผมยังไม่นอน”
“หึๆ”
“ขับรถกลับดีๆ”
“ครับ”
หญ้าเปิดประตูรถแต่ก่อนที่จะก้าวลงไปหญ้าหันกลับมามองผม
“ถึงแล้วส่งข้อความมาบอกผมด้วยก็ดีนะ” เสียงพูดประโยคหลังเบาอยู่ในลำคอ “ผม..เป็นห่วง”
แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับผมในวันนี้
“ครับ ถึงแล้วผมจะบอกหญ้าทันที”
“อืม”
หญ้าก้าวลงจากรถก่อนปิดประตูตามหลัง ผมมองตามจนหญ้าเข้าไปด้านในแล้วจึงขับรถออกมา
ผมเคาะนิ้วกับพวงมาลัยรถ สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังเมื่อคิดถึงพี่ชายของน็อต แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายได้เปรียบผมมากแค่ไหน แต่อย่างหนึ่งที่ผมมั่นใจก็คือความรู้สึกดีๆ ที่หญ้ามีให้ผม แม้ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นแบบไหนก็ตาม
ผมเอื้อมมือไปกดเปิดบลูทูธในรถก่อนโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง รอเพียงครู่เดียวปลายสายก็ตอบรับ
“ว่าไงวะ กูนึกว่าผีหลอก”
“หึๆ มึงสบายดีไหม”
“สบายดี มึงมีอะไรถึงโทรหากูได้”
“กูชอบหญ้า”
“หะ!”
“กูชอบเพื่อนมึง”
“ไอ้เหี้ยย เดี๋ยวกูช็อคตาย” น็อตสรรเสริญผมทันที
“หึๆ”
“เออเอาเป็นว่ากูรับรู้ กูต้องเซ็นอนุมัติให้มึงจีบไหม”
“ไม่ต้อง ถึงมึงไม่เซ็นกูก็จีบอยู่แล้ว”
“ชะชะ แล้วมึงโทรบอกกูทำไมวะ”
“พี่มึงชอบหญ้าหรือเปล่ากูอยากรู้ให้แน่ใจ”
“พี่กู?” เสียงปลายสายแปลกใจ
“ใช่ กูเคยได้ยินมึงพูดกับเวที่ใต้ตึกนานแล้ว”
“อ๋อ”
“ตกลงว่าไงวะ”
“ใช่ พี่กูชอบไอ้หญ้า”
ผมเผลอถอนหายใจออกมา ตอนนี้ก็ได้คำตอบที่แน่ชัดแล้ว
“แต่ตอนนี้เป็นแฟนไอ้เวไปแล้ว”
!!!
“เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ”
“
ฟังกูให้ชัดๆ นะครับไอ้คุณเมฆ พี่ชายกูกับไอ้เวคบกันอยู่ จบไหม”
“แต่กู..” ผมสะดุดความคิดตัวเองก่อนจะหัวเราะออกมา
“อะไร”
“ไม่มีอะไร ขอบใจมาก”
“เออโชคดี จีบมันให้ติดแล้วกัน”
ผมวางสายจากน็อต หัวเราะออกมาเมื่อคิดได้ว่าเพราะสิ่งที่ได้ยินมาแท้ๆ ทำให้ผมเข้าใจไปเองว่าสายตาของพี่นพมีความหมาย มิน่าหญ้าถึงบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้
แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าความหึง
ผมหึงปลายหญ้าเข้าให้แล้ว
คู่แข่งโดนกำจัดโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยจร้า
ฮู้..หึงแรง
หึงแล้ว 55555