ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark secret pathway

    ลำดับตอนที่ #1 : Fuyuki part - intro...

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 53




    ....มีคำกล่าวที่ว่า ความซวยนั้น มักไม่เข้าใครออกใคร แถมจู่ๆก็มาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเสียด้วย...

                   เหมือนชีวิตของผมในวันนี้ ที่อยู่ดีไม่ว่าดีก็ดันเจอพายุแห่งความซวยโหมกระหน่ำเข้าใส่แบบไม่บรรยะบรรยัง ซ้ำยังเป็นความซวย

    ที่มาพร้อมกับความเหลือเชื่อ น่าประหลาด ยุ่งยาก และวุ่นวายที่สุดที่เคยประสบพบเจอในชีวิต
                   
                   ตอนนั้นเป็นเวลาราวๆ ห้าทุ่มเศษ ถึงจะล่วงเลยเวลานอนของคุณน้องๆหนูๆมานานแล้ว แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่สำหรับเด็กอายุสิบหก

    อย่างผมแน่ แถมด้วยความที่ผมนอนดึกบ่อยจนเรียกได้ว่าติดเป็นสันดานไปแล้ว ทำให้แม้เวลาจะล่วงเลยมาจนจวบจะขึ้นเช้าวันใหม่แล้ว แต่

    ตัวผมที่ยังนั่งเมามันส์กับการรัวจอยวีดีโอเกมส์ยิกๆ ไม่เห็นรู้สึกง่วงเลยสักนิด และคาดว่าหากผมจะยังคงฝ่าด่านภารกิจพิชิตบอสตัวเบ้งที่อึด

    โคตรๆ อย่างนี้ไม่ได้ คาดว่าคงได้มีการเล่นเกมส์โต้รุ่งกันเป็นแน่แท้

                  กิี็อก ก็อก...

                  ใครมาเคาะประตูเอาป่านนี้กันฟะ!

                  ผมเริ่มหงุดหงิดทันทีที่ได้ิยินเสียงเคาะประตูห้องเบาๆ  หงุดหงิดที่ว่าไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ๆ ไอ้บอสมหาอึดนี่ก็ไม่ยอมไป

    ตายเสียที แล้วก็หงุดหงิดกับคนไร้มารยาทที่บังอาจมารบกวนเวลาทำกิจกรรมสุดโปรดของเขาทั้งที่ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว แต่ถึง

    จะอารมณ์เสียแค่ไหน ผมก็คงไม่สามารถปล่อยแขกให้ยืนรากงอกรออยู่เป็นชั่วโมงๆได้ ดังนั้นถึงต้องยอมเดินกระฟัดกระเฟียดไปเปิดประ

    ตูรับแขกทั้งที่ใบหน้าไม่ได้รับแขกเอาซะเลย

                "มีธุระอะไรครั.. อะ! เธอ"

                 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมคือเด็กสาวเพื่อนร่วมชั้นเรียนในชุดนอนปาจามาสีชมพูลายคิตตี้สุดน่ารัก  เธอคนนี้ชื่อว่า นางิ ... เซริซาว่า

    นางิ เพื่อนผู้หญิงเพียงไม่กี่คนของผม และยังเป็นคนที่อาศัยอยู่ห้องข้างๆ อีกด้วย ตามปกติเธอก็จัดว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก

    ใช้ได้  เสียแต่วันนี้ผมสีดำขลับของเธอยาวสยายเกลี่ยหลังยุ่งเหยิงอย่างกับยัยเพิ้ง แถมยังใบหน้าโทรมสุดๆเหมือนพึ่งถูกใครไปขุดมา

    จากหลุม มองดูแล้วคลับคล้ายคลับคลาเหมือนสาวน้อยจูออนสุดสยองไม่มีผิด

                "อะไร? เธอมาทำไมเนี่ย? แล้วยังสภาพแบบนี้อีก... กะเข้ามาข่มขืนฉันกลางดึกหรือไง"

                 "ตาบ้า!"

                 เด็กสาวอายจนหน้าแดง แต่ก็ไม่ได้สำเหนียกเลยสักนิดว่ากำลังเคาะประตูห้องผู้ชายกลางดึกทั้งๆที่อยู่ในชุดนอน แถมยังผลัก

    ผมซะกระเด็นแล้วสาวเท้าสวบๆเข้ามาในห้องผมเฉยเลย

                 "อะไรเนี่ย.. ดึกป่านนี้แล้วแทนที่จะเข้านอน ยังมัวมาติดเกมส์เป็นเด็กๆไปได้"

                  " อ้าวเฮ๊ย!~ ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันนี่ เธอเองเถอะ อยู่ๆก็เดินเข้าห้องคนอื่นแล้วยังจะบ่นอีกนะ ก่อนจะว่าใครดูตัวเองซะก่อนไหมครับ"
               
                  "หนวกหู! ฉันมีเหตผลของฉันย่ะ"

                  ไม่ไหวเลย... ยัยนี่ชอบทำนิสัยเอาแต่ใจตัวเองไม่เข้าเรื่องอยู่เรื่อย 

                   "เหตุผลที่ว่ามันอะไรกันล่ะครับ ? "

                    ลางสังหรณ์บอกผมว่า เห็นทีวันนี้ท่านเทพเจ้าที่อยู่บนฟากฟ้าคงไม่ปล่อยให้ผมได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายอกสบายใจ

    เป็นแน่แท้ถึงได้ส่งเทพเจ้าแห่งการสรรหาเรืื่องปวดหัวลงมาจุติถึงในห้องของผมแบบนี้

                   "ฉันลืมคิตตี้จังไว้ที่โรงเรียน..."
                 
                    หา? คิตตี้จัง? ตัวอะไรกันล่ะนั่นน่ะ... ผมเริ่มไม่สนใจปัญหาคิตตี้จงคิตตี้จังอะไรของเธอ แล้วหันกลับมาให้ความสนใจกับเครื่อง

    เพลย์สเตชั่นสุดเลิฟแทนอีกครั้ง คิดเอาเสียว่าพอเบื่อๆไม่มีอะไรจะทำแล้วเธอก็คงระเห็ดกลับไปเองนั่นแหละ

                    "ถ้าไม่ได้กอดคิตตี้จังล่ะก็.. ให้ตายยังไงฉันก็นอนไม่หลับหรอกนะ"
                          
                     "อ๋อ... ฮ่าๆๆๆ ที่เธอพูดถึงก็คือไอ้ตุ๊กตาตัวเบ้งๆตัวนั้นเองหรอกเหรอ ว่าฉันเป็นเด็ก เธอนั่นแหละที่เด็กยิ่งกว่า มีสาวอายุสิบหก

    คนไหนเขากอดตุ๊กตานอนกันบ้างเล่า เออ! เอางี้ถ้านอนไม่หลับนะฉันให้ยืมหมอนข้างเอาป่ะ?"

                      "ทุเรศน่า! หมอนข้างสั่วๆที่ไหนจะไปสู้คิตตี้จังได้เล่า ไม่รู้ล่ะ วันนี้นายต้องไปเอาคิตตี้จังคืนมาให้ฉันให้ได้"

                      อะไรกันวะ คำก็คิตตี้สองคำก็คิตตี้แถมยังใส่เสื้อนอนลายคิตตี้อีก ยัยคิตตี้เอ๊ย! นอกจากจะว่าหมอนข้างเปื้อนน้ำลายศักดิ์สิทธิ์

    ของผมว่าเป็นของสั่วๆ แล้วยังทำมาสั่งโน่นสั่งนี้อีก ผมไม่ใช่ทาสใช้แรงงานสักหน่อย

                       "แล้วทำไมฉันต้องดั้นด้นไปเอามาให้เธอฟะ"

                       "พูดอย่างนี้ป๊อดใช่ไหมล่ะ!"
                       
                       เอาอีกแล้ว... มุกเดิมๆอีกแล้ว คิดว่าแผนยั่วตื้นๆแบบนี้จะใช้ได้ผลกับคนอย่างผมหรือยังไงกัน

                        "ใช่สิ! ฉันมันเป็นผู้ชายที่ปอดแหกที่สุดในโลก คงไม่มีปัญญาไปเอาคิตตี้จังกลับคืนมาให้เธอได้หรอก"

                        "แต่นายต้องไปเอามา! ไม่งั้น... ไม่งั้นฉันจะนอนมันที่นี่แหละ!"
                          
                       "เชิญเลยครับ คุณผู้หญิง"
       
                        "นาย.. นายมัน!"

                       ด่าไป.. ด่าเข้าไป ผมไม่ใช่พระเอกการ์ตูนที่ต้องยอมๆให้กับนางเอกปากร้ายนิสัยเสียซะหน่อย จะว่าผมว่าหน้าตัวเมียไม่ยอม

    ช่วยเหลือผู้หญิงก็เอาเถอะครับ โรงเรียน A ที่ผมเรียนอยู่ในยามกลางคืนไม่ใช่สถานที่ๆควรเข้าใกล้เลยสักนิด จะให้ผมเข้าไปเสี่ยงตาย

    เพื่อตุ๊กตาคิตตี้ตัวเดียว รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

                      นางิโมโหจนควันออกหู ใบหน้าแดงก่ำ เธอเดินกระแทกเท้าปึงๆ ทีแรกผมนึกว่าเธอจะถอดใจยอมออกจากห้องไปแล้ว

    ที่ไหนได้ เธอdลับ\นวยนาดเ้ข้าไปหาเพลย์ทูของผมอย่างมุ่งร้าย แล้วกระทำการอุกอาจดึงแผ่นเกมส์ที่ผมกำลังเล่นค้างอยู่ออกทันที!  

                      นะ... นั่นผมยังไม่ได้เซฟเลยนะ

                      รอยยิ้มนางมารปรากฎร์ชัดบนใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนตุ๊กตาของเธอ ยะ ยัย ทุเรศ บังอาจมาก! บังอาจ!

                     "อ๊ะ... อย่าคิดอะไรโง่ๆเชียวนะ ถ้านายกล้าหืออืออีกล่ะก็ฉันจะหักไอ้แผ่นเกมส์บ้าๆนี่เป็นสองส่วนหรือไม่ก็โยนมันทิ้งหน้าต่างไปซะเลย"

                      ขอโทษนะครับ.. นั่นแผ่นแท้ราคาเป็นพันเชียวนะ แถมยังเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่หาไม่ได้ในโลกแล้วด้วย

                     "ยัยบ้า! เอาคืนมานะ"
                        
                     "ถ้านายอยากได้คืนก็ไปเอาคิตตี้ของฉันคืนมาสิยะ!"

                      ฮือๆๆๆ ผมอยากจะร้องไห้เป็นภาษาจีนกวางตุ้งจริงๆ ทำไมคนอย่างผมต้องมายืนหงอน้ำตาซึมเพราะยัยบ้าจอมเอาแต่ใจนี่

    ด้วย คิดว่าแผ่นเกมส์ลิมมิเต็ดของผมมันเทียบได้กับตุีกตาคิตตี้ที่ทำประโยชน์อะไรไม่ได้ของเธอหรือยังไงกัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ.. นี่พวก

    เรานั่งเถียงกันยังเี่ที่ยงคืนแล้วไม่ใช่หรือไง โถๆๆ ไอ้โรงเรียนบ้านี่ก็ดันมีตำนานเฮี้ยนๆที่ว่าไอ้เจ้า XXX  มักจะมาปรากฎร์กายทุกวันหลัง

    เที่ยงคืนอีก   ถึงผมจะไม่ได้เป็นประเภทกลัวสิ่งที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้จนลนลาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากจะเดินไปจ๊ะเอ๋

    กับมันนี่ครับ

                    "ไม่ไปเว้ย! ยังไงฉันก็ไม่ ฮะ เฮ้ย!"

                   ยัยคิตตี้ทำท่าจะหักแผ่นเกมส์ของผมเป้นสองส่วนแล้ว!

                  "ตอบมาอีกทีซิ! จะไปหรือไม่ไป"


    โถ่เว้ย........ ไปก็ได้วะ!

                    
                  

                  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×